EP.803 รีวิว คอนโด เดอะ คาบาน่า The Cabana คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ใกล้ BTS สำโรง เริ่ม 1.35 ล้านบาท

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The Cabana BTS สำโรง จาก Origin Property เป็นคอนโดสไตล์ Modern Resort บนทำเลด้านหลังของห้างอิมพีเรียล สำโรง บนถนนทางรถไฟสายเก่า และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีสำโรง

The Cabana BTS สำโรง เป็นโครงการคอนโดLow Rise 8 ชั้น 3 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 3 ไร่ 3 งาน 54 ตร.ว. ห้องพักอาศัยรวม 719 ยูนิต ห้องพักอาศัยเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 22.8 – 35.5 ตรม. ขายแบบ Fully Furnished ตอนนี้ก็สร้างเสร็จพร้อมอยู่ เรียบร้อยแล้วค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ Lobby, Swimming pool & Jacuzzi, พื้นที่สีเขียวและลานพักผ่อนข้างสระ, ห้องฟิตเนส, Library Lounge, Co-Working Space, พื้นที่สีเขียวบนชั้นดาดฟ้าทุกอาคาร พร้อมสวนหย่อมรอบโครงการ ที่จอดรถ 252 คันคิดเป็น 35% ของจำนวนยูนิตโครงการ พร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม ราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนทางรถไฟสายเก่า ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พิกัด google map : 13.652996, 100.593006

The Cabana BTS สำโรง จัดเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ราคาจับต้องได้ที่อยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง และเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวก โครงการมีที่ตั้งอยู่ติดถนนทางรถไฟสายเก่า ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรง และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานครและวงแหวนรอบนอก ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถค่ะ และยังรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมายทั้ง Bangkok Mall, Gateway Ekamai, Major เอกมัย, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะนั่ง BTS ไปไม่กี่สถานีเท่านั้น

โครงการ The Cabana BTS สำโรง อยู่ติดถนนรางรถไฟสายเก่า ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรง ประมาณ 1 กิโลเมตร สำหรับคนไม่ใช้รถ เป็นระยะที่เดินไปมาได้ หรือนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์มาขึ้นได้สบายๆ ส่วนทางเลือกในการเดินทางอื่นๆ คือจากโครงการเดินผ่านห้องแอร์ของห้างอิมพีเรียล สำโรง ออกมาฝั่งติดถนนใหญ่สุขุมวิทแล้ว หน้าอิมพีเรียลสำโรงรถเมล์, รถแท็กซี่และรถสองแถวผ่านไปมาตลอด ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางเยอะทั้งกลางวันกลางคืนค่ะ

พอขึ้นรถไฟฟ้าแล้วจะไปไหนก็ไว ใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้งหรือหาอะไรกิน ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปลงเอกมัย ทองหล่อได้เพียง 8-9 สถานีเท่านั้น หรือจะนั่งต่อไปอีกสถานีก็เป็น พร้อมพงษ์ อโศก ใกล้ๆ ก็มีทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ที่สยาม ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก

ในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ เพิ่ม ซึ่งตอนนี้ฝั่งสมุทรปราการก็กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดย สถานี สำโรง จะเป็นสถานีส่วนต่อขยายถัดจาก BTS แบริ่ง ซึ่งจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการเดินทางสู่โซนชานเมืองกับกรุงเทพฯมากขึ้นอีก

โครงการ The Cabana BTS สำโรง มีที่ตั้งอยู่บนถนนรางรถไฟสายเก่า ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิท ฝั่งขาเข้าเมืองไปทางสี่แยกบางนา ห่างจากจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครเพียง 4 กม.

สำหรับคนใช้รถ ถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง ไปไหนมาไหนง่าย ขับรถช่วงสั้นๆ 20 นาทีก็ถึง เอกมัย ทองหล่อ หรือจากแยกบางนาวิ่งไปถนนบางนา – ตราด ไปออกถนนศรีนครินทร์และกาญจนาภิเษกได้ หรือจะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น และรอบๆมีถนนและซอยย่อยลัดเลาะเลี่ยงถนนใหญ่เยอะ ทำให้เวลาการจราจรหนาแน่น สามารถลัดเลาะเข้าไปในตัวเมืองชั้นในได้ในเวลาอันสั้น รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะ

ข้อดีที่เด่นๆเลยนอกจากอยู่ไม่ไกล CBD คือเป็นทำเลที่ขึ้นลงทางด่วนได้สะดวก และแถวนี้เป็นทางเข้าออกไปนิคมอุตสาหกรรม รถบรรทุกโซนนี้ก็เลยจะเยอะไปด้วย ยิ่งในอนาคตจะมีห้าง Bangkok Mall ซึ่งเป็นห้างใหญ่มาเปิดที่แยกบางนาอีก ก็จะเพิ่มความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีกขั้น

ข้อดีของโครงการสำหรับคนใช้รถเลยคืออยู่ใกล้จุดขึ้น – ลง ทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยมีระยะทางจากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร เป็นระยะประมาณ 4 กม. หรือระยะขับรถประมาณ 9 นาทีเท่านั้น ซึ่งจากทางด่วนเฉลิมมหานครนี้จะไปวิ่งไปเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ วิ่งไปพระราม 9, ลาดพร้าว หรือโซนรังสิตได้อย่างสะดวกสบาย

แยกและถนนใกล้เคียงโครงการ

• สี่แยกบางนา 3.2 กม.
• แยกศรีนครินทร์ 7.2กม.
• แยกหนองบอน ประเวศ 8.8 กม.
• แยกพระโขนง 8 กม.

• ถนนซอยแบริ่ง (สุขุมวิท 107) 1.6 กม.
• ถนนซอยลาซาล (สุขุมวิท 105) 2.1 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ 5.8 กม.
• ถนนบางนา – ตราด 3.2 กม.
• ถนนซอยอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) 7.3 กม.
• เอกมัย (สุขุมวิท 63) 8 กม.
• ทองหล่อ (สุขุมวิท 55) 8.8 กม.

ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการ The Cabana BTS สำโรง ไม่ได้มีร้านอาหารอะไรเท่าไหร่ค่ะ แทบจะติดที่ดินโครงการมีปั๊ม ปตท. อยู่ แต่พอเดินออกมา 600 เมตร ถึง Imperial World สำโรง และ Big C ซึ่งจัดเป็นห้างใหญ่ของคนย่านนี้ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด สามารถเดินมาซื้อของที่ Big C, กินข้าว, ดูหนัง, มาธนาคาร หรืออื่นๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการได้สบายๆ แถมที่นี่ยังเป็นท่ารถเมล์ รถสองแถว และรถตู้ ที่คนย่านนี้มาต่อรถกันคับคั่งอีกด้วย ฝั่งตรงข้ามก็มีตลาดเอี่ยมเจริญให้มาซื้อของสดกันได้

ใกล้ๆโครงการในรัศมี 1 – 3 กม. มีซอยอุดมสุข, ลาซาลและซอยแบริ่งที่มีโรงเรียนและโรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งโซนใกล้โรงเรียนใกล้โรงพยาบาลต่างๆเหล่านี้จะมีอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกคอยบริการอยู่เยอะนั่นเอง

นอกจากนี้บนถนนสุขุมวิทจะมีซอยทองหล่อ เอกมัย ซึ่งเป็นทำเลที่ใกล้โครงการ ภายในซอยมีร้านอาหารนับร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน ใช้เป็นแหล่งแฮงก์เอาต์กับเพื่อนๆ ที่จัดว่าอยู่ใกล้ เดินทางไปมาได้สะดวกสบาย

ส่วนแหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมาย ทั้ง Gateway Ekamai, Major เอกมัย, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะนั่ง BTS ไปไม่กี่นาทีเท่านั้น

แหล่งช้อปปิ้งและห้างใหญ่ๆอีกส่วนจะกระจุกตัวกันอยู่บนเส้นบางนา – ตราดซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Central บางนา, Big C, ร.พ.ไทยนครินทร์, SB Design Square, Index Livingmall, Chic republic, Mega Bangna, Ikea หรือห้างใหญ่ในอนาคตอย่าง The Bangkok Mall ที่มีกำหนดสร้างเสร็จภายในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว และอยู่ห่างจากตัวโครงการเพียง 3 กม.เท่านั้น ถือว่าเป็นห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการที่สุดห้างนึงเลย

สิ่งอำนวยความความสะดวกใกล้โครงการ

• Imperial World สำโรง + Big C 600 ม.
• ตลาดเอี่ยมเจริญ 800 ม.
• ตลาดบางนา 3.3 กม.
• Bangkok Mall 3.6 กม.
• ตลาดอุดมสุข 4.1 กม.
• ไบเทคบางนา 5.8 กม.
• ตลาดสดลาซาล 6 กม.
• The Jas Urban 7.1 กม.
• Makro สมุทรปราการ 7.6 กม.
• Big C อ่อนนุช 8.1 กม.
• Central Plaza บางนา 8.4 กม.
• Big C บางนา 7.2 กม.
• SB Design Square 17.4 กม.
• เมกะบางนา 12.3 กม.
• Gateway เอกมัย 9.5 กม.
• เมเจอร์เอกมัย 8 กม.
• Big C เอกมัย 8.6 กม.

• วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ 7.1 กม.
• มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 7.2 กม.
• วิทยาลัยเซาท์อีสต์บางกอก 3.7 กม.
• โรงเรียนลาซาล 5.8 กม.
• โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา 4.5 กม.
• โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา 4.7 กม.

• ร.พ.สำโรงการแพทย์ 450 ม.
• ร.พ.ไทยนครินทร์ 6.9 กม.
• ร.พ.ศิครินทร์ 7.6 กม.

การเดินทาง

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก สุขุมวิท → ตรงผ่าน BTS แบริ่ง มา พอเห็น Imperial World สำโรง ทางฝั่งขวามือ ให้ตรงไปกลับรถใต้สะพาน → กลับรถออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยติด Imperial World สำโรง → เจอถนนรางรถไฟสายเก่า เลี้ยวขวา ตรงมาประมาณ 350 ม. จะเจอโครงการ The Cabana BTS สำโรง อยู่ทางซ้ายมือแล้วค่ะ

ตรงมาบนถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ ผ่าน BTS บางนา

ตรงผ่าน BTS แบริ่ง ไป

ตรงไป จะเห็น Imperial World สำโรง และ Big C อยู่ทางขวามือ จัดเป็นห้างใหญ่ของคนย่านนี้ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ประมาณ 600 เมตรจากโครงการ เดินมาซื้อของที่ Big C, กินข้าว, ดูหนัง, มาธนาคาร หรืออื่นๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการได้สบายๆ แถมที่นี่ยังเป็นท่ารถเมล์ รถสองแถว และรถตู้ ที่คนย่านนี้มาต่อรถกันคับคั่งอีกด้วย

ตรงไปกลับรถใต้สะพาน

เราชิดซ้าย ตรงไป ไม่ขึ้นสะพานนะคะ

เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ ซ้ายมือเราจะเห็นตลาดสดเอี่ยมเจริญ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสดและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกแห่งที่อยู่ใกล้โครงการค่ะ

พอกลับรถมาแล้วเราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยติดห้าง Imperial World ได้เลย

พอเข้าซอยติด Imperial World สำโรง ตรงมา จะเจอถนนรางรถไฟสายเก่า เลี้ยวขวา ตรงมาประมาณ 350 ม. จะเจอโครงการ The Cabana BTS สำโรง อยู่ทางซ้ายมือแล้วค่ะ

เข้าซอยติด Imperial world สำโรง เราก็ตรงไปเรื่อยๆค่ะ ซอยนี้ฝั่งนึงเป็นห้างอิมพีเรียล สำโรง อีกฝั่งเป็นอาคารพาณิชย์ มีทางเดินเท้ามาให้ทั้ง 2 ฝั่ง เป็นซอยที่เชื่อมอยู่ระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนรางรถไฟสายเก่า

ตรงมาหน่อย ติดกับอิมพีเรียลสำโรง จะเป็นโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์

เราตรงต่อไปจะเป็นถนนรางรถไฟสายเก่าแล้วค่ะ เราเลี้ยวขวาไปทางถนนสรรพาวุธ

เลี้ยวขวามาแล้วตรงไปประมาณ 350 เมตร ก็จะเจอคอนโดมิเนียม The Cabana BTS สำโรง อยู่ทางซ้ายมือแล้วค่ะ โครงการอยู่ติดปั๊มปตท. เลย โดยจะอยู่ก่อนถึงปั๊มปตท.ค่ะ เลยหาง่าย รอบๆโครงการจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย

รอบโครงการ

คอนโด The Cabana BTS สำโรง ทางเข้าออกหลักของโครงการอยู่ฝั่งทิศตะวันออก ติดถนนรางรถไฟสายเก่า ซึ่งรถจะเข้าออกที่ทางนี้เท่านั้น ซึ่งเชื่อมไปออกถนนสุขุมวิทได้ในระยะสั้นๆ และมีทางลัดสำหรับคนเดิน โดยผ่านอิมพีเรียลสำโรงไปออกถนนใหญ่สุขุมวิทได้ ทำให้คนไม่ใช้รถสามารถเดินตัดไป BTS สำโรงได้ในระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

รอบๆโครงการฝั่งทิศใต้และทิศตะวันออก(ฝั่งตรงข้ามถนน) เป็นอาคารพาณิช 2 ชั้นและ 4 – 5 ชั้น, ทิศเหนือติดปั๊ม ปตท. ส่วนทิศตะวันตกติดที่ดินบุคคลอื่น ซึ่งตอนนี้ยังเป็นที่โล่งอยู่ค่ะ มองไปทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่อนาคตจะมีโครงการอะไรขึ้นมารึเปล่าอันนี้ต้องมารอดูกัน วันนี้เรามีภาพรอบๆโครงการมาให้ดูกันค่ะ

เริ่มกันจากด้านหน้าทางเข้าออกหลักของโครงการ The Cabana BTS สำโรง อยู่ติดถนนรางรถไฟสายเก่า ซึ่งรถจะเข้าออกที่ทางนี้เท่านั้น

ติดที่ดินโครงการฝั่งขวามือหรือทาง ทิศเหนือ ติดปั๊ม ปตท. ถัดจากปั๊มปตทไป เป็นปั๊มบางจาก จะเห็นว่าถนนรางรถไฟสายเก่าเป็นถนน 2 เลน รถสวนกันเข้าออกได้ สองฝั่งถนนไม่มียกพื้นมาเป็นทางเท้ามาให้ มีรถเข็นขายอาหาร เครื่องดื่ม แวะเวียนมาจอดแถวหน้าปั๊มติดหน้าโครงการเป็นระยะๆ

ติดที่ดินโครงการฝั่งซ้ายมือ หรือทางทิศใต้ เป็นอาคารสูง 4 – 5 ชั้น ประเภทตึกแถว

และทิศตะวันออก ฝั่งตรงข้ามถนนรางรถไฟสายเก่า หน้าโครงการเป็นอาคารพาณิชย์และร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ประเภทสีทาบ้าน อิฐบล็อก อิฐมอญ ถุงปูน เป็นต้น ก็จะมีรถบรรทุกมาจอดรับของอยู่เรื่อยๆ

ขวามือของร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง (ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโครงการ) เป็นตึกแถวสูง 5 ชั้น

ซ้ายมือของร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโครงการ) เป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น

ภายในโครงการ The Cabana BTS สำโรง จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราพาเข้าไปชมกันเลยค่ะ

ตัวโครงการ

จากทางเข้าด้านหน้ามองเข้ามาจะเป็นแบบนี้ค่ะ คอนโด The Cabana BTS สำโรง เป็นคอนโดLow Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 719 ยูนิต อาคาร A อยู่ใกล้ซุ้มทางเข้าด้านหน้าทางซ้ายมือ อาคาร B อยู่ใกล้ซุ้มทางเข้าทางขวา อาคาร C อยู่ถัดเข้าไปด้านใน พื้นอาคารทาสีเทาอ่อน ตัดสีด้วยสีเทาเข้ม จากด้านหน้าทางเข้าอาคารจะเป็นซุ้มรปภ. และป้ายโครงการ The Cabana ที่หน้าโครงการ

เข้ามาพื้นด้านหน้าทางเข้าออกโครงการเป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์สีเทาดำ มีสระว่ายน้ำและศาลาพักผ่อน พร้อมสวนและทางเดินตรงกลาง ระหว่างอาคารคอนโดทั้งสองฝั่ง

ที่จอดรถอยู่ใต้อาคารค่ะ ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 252 คันคิดเป็น 35% ของจำนวนยูนิตโครงการมากกว่า ฝั่งซ้ายมือของทางเข้าออกโครงการจะมีป้อมรปภ. อยู่ โดยโครงการจะมีรปภ. 24 ชั่วโมง ทางเข้าลานจอดรถเป็นแบบ Access Card และไม้กระดก

ภายในลานจอดรถค่ะ

จากที่จอดรถ จะเห็นรั้วโครงการสูง 2.5 m. ข้างรั้วจะล้อมด้วยรั้วพุ่มไม้และสวนหย่อมเพิ่มความร่มรื่นให้โครงการ

จากลานจอดรถจะมีประตูทางเดินเปิดเข้าโครงการได้

ออกมาดูพื้นที่ส่วนกลางกลางโครงการกันต่อ จะมีศาลากันแดดกันฝนใกล้สระว่ายน้ำอยู่

ภายในศาลามีชุดเก้าอี้มาให้นั่งพักผ่อนริมสระได้

โดยสระว่ายน้ำของโครงการ อยู่ตรงกลาง ขนาบด้วยอาคารทั้ง 2 ฝั่ง เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 26 x 7.25 m. ลึก 1.2 เมตร

ภายในสระว่ายน้ำมี Jacuzzi พร้อมที่นั่งมาให้ ส่วนนี้จะใช้กระเบื้องโมเสกสีดำ ต่างกับกระเบื้องสระที่เป็นสีฟ้า

ข้างสระจะมีทางเดินมาให้พร้อมสวนมาให้รอบสระ ติดไฟริมทางเดินสำหรับตอนกลางคืนมาให้เรียบร้อย

จัดมาแนวสวนเขตร้อนหรือ Tropical Garden มีดอกชบาสีสันสดใส และพืชตระกูลเฟิร์นบังลานจอดรถอยู่ สร้างความร่มรื่นให้มากขึ้น

มองไปทางศาลาริมสระจะมีบันไดทางลงสระอยู่

มองไปฝั่งตรงข้ามมีที่นั่งพักผ่อนข้างสระมาให้

มีที่นั่งมาให้หลายแบบค่ะ ทั้งแบบชิงช้า และแบบทรงกลมนั่งริมสระ

มีที่นั่งริมสระ เป็นหวายเทียมสีเทาแบบ Out Door

ที่นั่งกลมริมสระก็มีมาให้หลายจุด

ข้างสระมีทางลงไปห้องน้ำชายหญิงอยู่

ด้านหลังฉากกั้นจะเป็นจุดล้างตัวก่อนลงสระ มี Rain Shower มาให้จุดนึง

เข้าไปดูในห้องน้ำหญิงกันค่ะ

ภายในห้องน้ำหญิงมีห้องโถสุขภัณฑ์มาให้ 1 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

ถ่ายภายในห้องโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำให้ดูค่ะ

มีอ่างล้างมือมาให้ 1 จุด

ออกจากห้องน้ำมาจะเป็นสระว่ายน้ำ

ถัดจากสระว่ายน้ำเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่สีเขียวโล่งแบบนี้ เป็นลานอเนกประสงค์ของโครงการ โดยพื้นที่สีเขียวรวมทั้งโครงการจะมีขนาดประมาณ 2 ไร่

ที่อาคาร A ส่วนกลางจะมี Lobby, Library และสำนักงานนิติบุคคลอยู่

เข้ามาจะเป็นส่วน Lobby ของโครงการ The Cabana BTS สำโรง ซึ่งตกแต่งในสไตล์ modern resort ที่ดูเรียบ ทันสมัย และสบายตา

ที่ล็อบบี้จะมีเก้าอี้ให้นั่งพักอยู่ ขวามือเป็นประตูทางเข้าโถงลิฟต์ขึ้นไปส่วนที่พักอาศัย ตรงกลางเป็นบันไดขึ้นไปส่วนห้องสมุดและสำนักงานนิติบุคคล

ขึ้นมาด้านบนจะเป็นชั้นลอยพร้อมราวกันตกกระจกเทมเปอร์ และจะมีประตูเปิดเข้าไปส่วน Library และ นิติบุคคล

เปิดประตูเข้ามา ฝั่งซ้ายมือจะเจอส่วน Library

ส่วนฝั่งขวามือจะมีช่องติดต่อสำนักงานนิติบุคคล และมีเก้าอี้นั่งแบบชิงช้ามาให้ 2 ตัว

Library จัดมาในรูปแบบ Co working space ให้ขึ้นมานั่งคุยงาน ทำการบ้าน หรืออ่านหนังสือได้หลายจุด

ในที่นั่งแต่ละชุด มีโซฟาหุ้มเบาะรูปตัว U พร้อมเก้าอี้อาร์มแชร์ 2 ตัว โต๊ะกลมตรงกลาง พร้อมมีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ใช้เสียบคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตได้ ชอบที่ใช้วัสดุพื้นผิวลายไม้ดูสบายตา และมีกระถางต้นไม้สีเขียวๆมาให้พักผ่อนสายตาได้

จะมีฉากกั้นห้องแบบหมุนอยู่อีกชั้น

เปิดเข้าไปดูจะเป็นโต๊ะคุยงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น คือโต๊ะละ 6 ที่นั่ง สามารถให้เด็กๆขึ้นมาทำการบ้าน หรือทำรายงานร่วมกัน หรือนั่งคุยงานกันได้สบายๆ

ฝั่งขวามือจะมีห้องประชุมพร้อมฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อนมาให้อีกห้อง

ภายในห้องประชุม จัดโต๊ะประชุมแบบ 12 ที่นั่งมาให้ พร้อมจอทีวีสำหรับ Presentation

ห้องนี้ใช้ประชุมคุยงานกันได้สบายๆค่ะ จะเห็นว่าที่ผนังมีไวท์บอร์ดมาให้ใช้เขียนงานได้ด้วย

ติดห้องประชุมก็มีประตูห้องน้ำอยู่

เป็นห้องน้ำแบบใช้ได้ทั้งชายหญิงค่ะ ข้อดีคือคนที่มาใช้งานห้องสมุดหรือห้องประชุมไม่ต้องเดินลงไปเข้าห้องน้ำที่อื่นนั่นเอง

ลงมาที่ชั้น 1 กันต่อค่ะ เข้าไปดูส่วนโถงลิฟต์ก่อนเพื่อขึ้นไปส่วนที่พักอาศัยกันค่ะ ส่วนนี้เข้าไปด้วยระบบ Access Card หรือแตะบัตรเข้าไปนะคะ

เข้าไปที่หน้าโถงลิฟต์จะเป็นส่วนห้องจดหมาย

มีซ่อนไฟด้านล่างมาด้วย แบบนี้ก็ดีค่ะ ระหว่างรอลิฟต์ก็เช็คตู้จดหมายดูได้เลย ไม่เสียเวลาดี

โถงลิฟต์มีมาให้อาคารละ 2 ตัว

เป็นลิฟต์ล็อกชั้น หรือ Proxy lift แผงลิฟต์หน้าตาดีของ Schneider ภายในลิฟต์ติดกระจกเงามาให้ พร้อมกล้อง CCTV

ขึ้นลิฟต์มาดูโถงลิฟต์ชั้น 8 กันต่อค่ะ

ออกมาฝั่งซ้ายมือจะมีบันไดหนีไฟอยู่ติดโถงลิฟต์เลย

ขวามือจะเป็นทางเข้ายูนิตที่พักอาศัย ต้องสแกนการ์ดของคนที่อยู่เฉพาะชั้น 8 เท่านั้น ถึงจะเปิดเข้าไปได้ค่ะ

โถงทางเดินทาสีขาว แจกเข้าห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่งแบบ Double corridor เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ มีช่องแสงธรรมชาติที่สุดปลายทางเดินเป็นหน้าต่าบานเลื่อนคู่

ทุกอาคารจะมีสวนชั้นดาดฟ้ากันหมดค่ะ เราพาขึ้นมาดูชั้นดาดฟ้าของอาคาร A กันนะคะ ด้านบนพอขึ้นมาจะเจอสนามหญ้าสีเขียว ทางเดินเท้า และปลูกต้นไม้มาร่มรื่น

ทำทางเดินเท้ามาให้เดินเล่นกันได้ และมีเสาไฟสำหรับเวลากลางคืนติดมาเป็นแนว

มีกรอบตกแต่งพร้อมจัดสวนมาให้ และมีสเต็ปบันไดให้ใช้นั่งเล่นกันได้

มีศาลาพร้อมระแนงบังแดดมาให้ตรงกลาง

อีกฝั่งมีศาลพระภูมิอยู่ ถัดไปเป็นถังเก็บน้ำ

ลงมาดูที่อาคาร B กันต่อค่ะ ข้างทางเข้าที่จอกรถใต้อาคารจะเป็นสำนักงานขายของโครงการ

สำนักงานขายโครงการ The Cabana BTS สำโรง ภายในมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการให้ข้อมูลและพาชมสำนักงานขายโครงการอยู่ค่ะ สำนักงานขายเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ในอนาคตเมื่อขายหมดแล้ว ส่วนนี้จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการเช่นกันค่ะ

ที่อาคาร B ชั้น 2 ด้านบนสำนักงานขายจะมีห้องฟิตเนสอยู่

ภายในห้องฟิตเนสกว้างขวาง มีเครื่องเล่นมาให้ประมาณ 16 เครื่อง ผนังสองด้านเป็นกระจกใส มองออกไปเป็นวิวสระว่ายน้ำและด้านหน้าของโครงการ

มีลู่วิ่งไฟฟ้ามาให้ 4 เครื่อง หันไปทางวิวสระว่ายน้ำ

มีเครื่องวิ่งมาให้ 2 เครื่อง

เครื่องปั่นจักรยาน 3 เครื่อง

เครื่องเพาะกาย 3 เครื่อง

เครื่องซิทอัพ 3 เครื่อง พร้อมบาร์ดัมเบลชุดใหญ่และบอลพิลลาทีส

ในห้องฟิตเนสมีทางแจกเข้าไปห้องน้ำหญิงชายอยู่ เราพาเข้าไปดูห้องน้ำหญิงฝั่งขวามือกันนะคะ

เข้ามาจะมีล็อกเกอร์เก็บของพร้อมกุญแจมาให้

มีอ่างล้างมือมาให้ 2 ชุด พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ มีแต่งไฟซ่อนด้านบน

มีห้องโถสุขภัณฑ์ 1 ห้อง ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

ถ่ายให้ดูภายในห้องโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ

มาดูผังอาคารกันต่อค่ะ ส่วนยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มที่ ชั้น 2 พื้นที่ส่วนกลางที่ตึก A มีส่วน Library, ห้องประชุม และ นิติบุคคล ที่เราพาไปดูกันมา อยู่ส่วนด้านหน้าโครงการ ส่วนกลางที่ตึก C จะมี ห้อง Fitness ที่เราไปดูกันมาแล้วเช่นกัน

สำหรับการเลือกห้อง อาคาร A, C มีการจัดผังเป็นอาคารตรงๆรูปตัว I หันด้านกว้างไปทางทิศเหนือใต้ โดยระเบียงห้องจะหันไปทางวิวสระ และวิวนอกโครงการค่ะ ซึ่งอันนี้แล้วแต่คนชอบเลย แต่วิวสระก็จะอยู่แค่ส่วนด้านหน้าโครงการเท่านั้น ส่วนตัวเราเองชอบความสงบก็คงเลือกระเบียงอาคาร C ที่หันไปวิวนอก ทางฝั่งทิศเหนือที่แดดอ่อนกว่าทิศใต้ เนื่องจากดวงอาทิตย์ในไทยวิ่งอ้อมใต้นั่นเอง

ส่วนอาคาร B เป็นอาคารด้านหลังสุด ที่จะมีความสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าอาคารอื่น เนื่องจากอยู่ห่างจากทางเข้าออกโครงการที่ติดถนนมากกว่าอาคารอื่น อาคาร B เราแนะนำวิวนอกเช่นกันค่ะ มีวิวนอกฝั่งที่ระเบียงหันไปทางทิศตะวันตก ที่ยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่ ก็มองวิวออกไปได้ไกลดี ไม่มีอะไรบัง แต่อนาคตจะกลายเป็นอะไร อันนี้ต้องมารอลุ้นกันนะคะ

ผังชั้น 3 – 8 จะเหมือนกันทุกชั้นค่ะ แต่ละอาคารมีรายละเอียดดังนี้

• อาคาร A มีความหนาแน่นยูนิตที่ชั้นละ 37 ห้อง ซึ่งหนาแน่นมากกว่าอาคาร A ชั้น 2 อยู่ 5 ห้อง มีลิฟต์มาให้ 2 ตัวต่ออาคาร และบันไดหนีไฟกระจาย 2 จุด
• อาคาร B มีความหนาแน่นยูนิตที่ชั้นละ 29 ห้อง มีลิฟต์มาให้ 2 ตัวต่ออาคาร และบันไดหนีไฟกระจาย 2 จุด อาคาร B จะมีความหนาแน่นต่ำสุดในบรรอาคารทั้ง 3 อาคารค่ะ
• อาคาร C มีความหนาแน่นยูนิตที่ชั้นละ 38 ห้อง ซึ่งหนาแน่นมากกว่าอาคาร B ชั้น 2 อยู่ 4 ห้อง มีลิฟต์มาให้ 2 ตัวต่ออาคาร และบันไดหนีไฟกระจาย 2 จุด

ผังชั้นดาดฟ้า หรือผังชั้น 8 มีสวนชั้นดาดฟ้ามาให้ทั้ง 3 อาคาร โดยมีทั้ง Sky Yoga Lawn, Sky Jogging Track, Rooftop BBQ Garden, Sunset Terrace, Horizon Lounge

แบบห้อง

ก่อนจะพาไปสำรวจห้องตัวอย่างกัน เราเอาผังห้องยูนิตต่างๆมาให้ดูกันก่อนค่ะ โครงการจะขายเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมดนะคะ แต่จะมียูนิตแบบห้องนอนพร้อมห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถใช้เป็นห้องนอนเล็กได้อยู่ โดยแบบห้องที่ขายแบ่งเป็น 3 แบบดังนี้ค่ะ

ผังห้องแบบ 1 BEDROOM Plus ขนาด B Plus 34.0 – 35.5 Sq.m.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.8 ตารางเมตร ตัวห้องแบ่งโซน Private และ Public มาด้วยฉากกั้นห้องคั่นส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอยู่ ข้อดีคือกลิ่นอาหารและควันจากครัวจะไม่เข้าไปในห้องนอน โดยเข้ามาจะเจอส่วนชุดครัวฝั่งซ้ายมือ ห้องนั่งเล่นขวามือ ถัดมาจะเจอส่วนห้องนอนพร้อมฉากกั้นห้อง ซึ่งมีประตูเปิดไประเบียงได้ และมีห้องน้ำในตัว ภายในห้องสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้

ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ ชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูปิดผิวลายไม้สีอ่อน มีเจาะช่องตาแมวให้เอาไว้ส่องคนที่มาเคาะประตูได้

มือจับประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส ด้านนอกมีช่องเสียบกุญแจ ด้านในมีลูกบิดหมุนล็อก

เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวฝั่งขวามือ ห้องนั่งเล่นฝั่งซ้ายมือ สังเกตว่าระยะใช้งานกว้างขวาง เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ถือว่าได้เพดานมาค่อนข้างสูง ผนังเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม. เราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์แบบกล่องลงมาจากเพดานแบบนี้ และติดเครื่องตรวจจับควันไฟมาให้ที่เพดานเพื่อความปลอดภัย

เริ่มจากส่วนครัวกันก่อนนะคะ ชุดครัวเป็นไซส์กระทัดรัดแบบพออุ่นหรือทำอาหารง่ายๆได้ หน้าบานปิดผิวลายไม้สีอ่อน ทำ Built in มาให้ทั้งบนและล่าง เราเปิดชุดครัวให้ดูช่องเก็บของภายในนะคะ ทำชั้นเก็บของมาให้ด้านบน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี

ลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์มีช่องแบ่งช้อนส้อมและอุปกรณ์ต่างๆมาให้เรียบร้อย

Top ครัวเป็นลามิเนตสีขาว จะเป็นเคาน์เตอร์โล่งๆมีอ่างล้างจานสแตนเลส 1 หลุม ถ้าอยากได้เตาไฟฟ้าอันนี้ซื้อแบบเสียบปลั๊กถอดเก็บได้ง่ายก็สะดวกดีค่ะ ผนังหลังเคาน์เตอร์จะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีใครทำอาหารบ่อยแนะนำให้ติด BackSplash เพิ่ม เพราะเวลาเปื้อนก็เช็ดล้างทำความสะอาดผนังได้ง่าย

มีอ่างล้างจานสแตนเลส 1 หลุม ไม่มีที่พักจานด้านข้าง เทียบฝ่ามือให้เห็นขนาดอ่างค่ะ

ตรงข้ามชุดครัวเป็นส่วนห้องนั่งเล่น มีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 – 50 นิ้ว

มองไปทางฝั่งโซฟาในห้องนั่งเล่น โซฟาให้มาเป็นโซฟาหุ้มผ้าแบบ 2 ที่นั่งมีที่วางแขนและพนักพิงด้านหลังของจริงได้ตามนี้ ไม่รวมหมอนอิงตกแต่งนะคะ รอบๆวางเก้าอี้และโต๊ะกาแฟมาให้เห็นระยะใช้งาน

ด้านข้างโซฟามีระยะพอวางโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งหรือวางชั้นวางของเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องได้

มองไปที่ชั้นวางทีวี จะอยู่ข้างชุดครัวแบบนี้

ส่วนชั้นวางทีวีจะมีชั้นสำหรับวางของมาให้ได้ตามนี้ ส่วนชั้นวางของด้านล่างมีหน้าบานปิดมาให้ส่วนนึง

เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อค่ะ จะมีฉากกั้นห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 บาน เฟรมอลูมิเนียมสีดำ ลูกฟักกระจกใส ข้อดีของประตูเลื่อนแบบ 3 บานคือทำให้มีช่องเปิดประตูที่กว้างขึ้นกว่าแบบ 2 บานนั่นเอง

ตัวรางประตูบานเลื่อนฝังพื้นแบบนี้

ในห้องนอนวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาให้ พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ของจริงได้ฐานเตียงด้วยค่ะ ส่วนฟูก หมอน ผ้าห่ม ต้องซื้อเองตามปกติ

เตียงอยู่ติดผนังทั้งสองด้าน ข้างเตียงฝั่งนึงติดผนังห้องน้ำ ไม่มีระยะเดิน แต่ขึ้นเตียงทางปลายเตียงได้ค่ะ ส่วนอีกฝั่งอยู่ติดฉากกั้นห้องกระจก ซึ่งเวลาเลื่อนเปิดก็จะสามารถขึ้นเตียงจากด้านข้างได้อย่างที่เห็น

ปลายเตียงเหลือระยะหน้าตู้เสื้อผ้าประมาณ 50 cm. ถัดมาประมาณ 1 m. คือเดินไปเดินมาได้สบายๆ ถ้าชอบดูทีวีในห้องนอนก็สามารถวางชั้นวางทีวีเพิ่มได้

โดยผนังในห้องนอนเตรียมเต้าเสียบและช่องเสียบสัญญาณมาให้เรียบร้อย

มองไปทางฝั่งปลายเตียงทำ Built in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งและติดเครื่องปรับอากาศมาให้

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิด ปิดผิวลายไม้ เปิดตู้ให้ดูด้านในจะมีราวแขวนผ้าบนล่าง พร้อมลิ้นชักและช่องเก็บของทั้งด้านบนด้านล่าง ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมชั้นลอยสำหรับวางด้านบน และเต้าเสียบที่ผนังสำหรับไดร์เป่าผมมาให้

เราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 cm.เพื่อกันน้ำและความชื้นจากห้องน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก เและกรุกระเบื้องแบบเดียวกับพื้นห้องน้ำข้อดีคือใช้งานกระเบื้องไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาแบบไม้ลามิเนตซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ประตูห้องน้ำที่ใช้งานไปนานๆส่วนใหญ่เปิดปิดยาก

ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและมีฉากกั้นส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด พื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกผิวด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานห้องน้ำติดไฟดาวน์ไลท์และติดหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้เปิดระบายอากาศได้

อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาได้ขนาดตามที่เห็นค่ะ ใครต้องการทำเคาน์เตอร์ไว้วางของเพิ่มก็สามารถทำได้นะคะ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้งานพอ

อ่างล้างมือมีที่พอวางของอย่างสบู่ล้างมือ แปรงสีฟัน ยาสีฟันได้บ้างนิดหน่อย

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto หรือแบรนด์เทียบเท่า สายฉีดชำระพร้อมที่แขวนทิชชู่เป็นสแตนเลส

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องกระจกเทมเปอร์บานเลื่อนแบบสามตอน ข้อดีของประตูเลื่อนแบบ 3 บานคือทำให้มีช่องเปิดประตูที่กว้างขึ้นกว่าแบบ 2 บานนั่นเอง

ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ เทียบกับฝ่ามือให้ดูขนาดจะเห็นว่ากำลังเหมาะมือดี ผนังข้างชุดฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย มีที่วางสบู่สแตนเลสมาให้ ถ้าไม่พอวางของ แนะนำให้ติดชั้นเข้ามุมหรือข้างผนังเพิ่มที่วางสบู่แชมพูได้

ถัดจากประตูห้องน้ำ จะมีประตูบานเลื่อนแบบสองตอนสามารถเปิดออกไประเบียงได้ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

ธรณีประตูระเบียงสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 10 cm. เพิ่อกันน้ำและความชื้นจากระเบียง ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีครีม

ส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์แขวนมาให้ พร้อมโคมไฟซาลาเปาที่เพดาน ของจริงได้ตามนี้ค่ะ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ใต้แอร์คอมเพรสเซอร์ได้อยู่ ราวกันตกทาสีดำ มีระแนงขึ้นมาบังส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เรียบร้อย

วิวจากระเบียงค่ะ ห้องนี้เป็นระเบียงวิวสระว่ายน้ำค่ะ

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.8 ตร.ม. เข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปเป็นห้องนอน โดยมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นส่วนห้องนอนมาให้ จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมกับส่วนห้องน้ำและห้องครัวติดระเบียง ซึ่งข้อดีคือเวลาทำอาหารในครัวสามารถเปิดระบายอากาศที่ระเบียงได้ง่าย

ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ ชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

เปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วนห้องนั่งเล่น ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 – 50 นิ้ว เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ถือว่าได้เพดานมาค่อนข้างสูง ผนังเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม. ไฟดาวน์ไลท์เป็นกระบอกลงมา สเป็ควัสดุแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกเลยค่ะ เราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

มองไปทางฝั่งโซฟาในห้องนั่งเล่น สังเกตว่าเหลือที่ด้านข้างโซฟาพอวางโต๊ะกินข้าวเพิ่มได้ด้วย โซฟาให้มาเป็นโซฟาหุ้มผ้าแบบ 2 ที่นั่งมีที่วางแขนและพนักพิงด้านหลังของจริงได้ตามนี้ ไม่รวมหมอนอิงตกแต่งนะคะ

ด้านข้างโซฟามีโต๊ะอาหารเข้ามุมพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว มาให้ดูระยะใช้งาน สามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานและโต๊ะกินข้าวไปในตัวได้

มองไปที่ชั้นวางทีวี ได้ Built in ชั้นวางทีวีพร้อมหน้าบานปิดผิวลายไม้และชั้นวางของ ของจริงได้ตามนี้ ด้านบนชั้นวางทีวีติดเครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 BTU มาให้เรียบร้อย

เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อค่ะ จะมีฉากกั้นห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 บาน เฟรมอลูมิเนียมสีดำ ลูกฟักกระจกใส

ในห้องนอนวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาให้ พร้อมตู้เสื้อผ้า ของจริงได้ฐานเตียงตามนี้ ส่วนฟูก หมอน ผ้าห่ม ต้องซื้อเองตามปกติ

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 20 cm. คือพอเดินไปเดินมาได้ ถ้าอยากดูทีวีแนะนำแบบแขวนค่ะ จะได้มีระยะเดินได้อยู่ มีเต้าเสียบปลั๊กไฟและช่องเสียบสัญญาณมาให้ที่ผนังเรียบร้อย

หน้าต่างโครงการให้มาบานใหญ่เต็มผนัง และมีกระจกเข้ามุมมาให้ด้วย ซึ่งเป็นข้อดีทำให้ตัวห้องรับแสงธรรมชาติได้มากและมีช่องเปิดที่กว้างขึ้น กระจกบานที่เข้ามุมเป็นกระจกบานฟิกซ์ ถัดมาเป็นบานเลื่อน สามารถเปิดรับลมและช่วยถ่ายเทบรรยากาศในห้องได้

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะประมาณ 30 เซนติเมตร คือมีระยะเดินพอและเตียงไม่ชนผ้าม่านแบบนี้

เข้าไปดูส่วนห้องครัวกันต่อค่ะ ทางเดินไปครัวจะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน ครัวเป็นแบบครัวปิดกั้นห้องมาให้เรียบร้อย ใครทำอาหารบ่อย ควันจากครัวเข้ามาส่วนอื่นๆในห้องไม่ได้ ประตูเป็นกรอบอลูมิเนียมสีดำ ลูกฟักกระจกใส แบบบานเลื่อนแขวนรางบน

ข้อดีคือครัวอยู่ติดระเบียง เวลาทำอาหารก็เปิดระบายอากาศได้สะดวก ส่วนครัวหลังวางเคาน์เตอร์ครัวไปแล้วมีระยะใช้งานประมาณ 80 เซนติเมตร คือพอมีระยะที่ยืนใช้งานเคาน์เตอร์ครัวและเดินไปเดินมาที่ระเบียงได้อยู่

เริ่มจากส่วนครัวกันก่อนนะคะ ชุดครัวของจริงได้ตามที่เห็นทั้งบนและล่าง เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในมีที่เก็บของมาให้พอสมควร เหมาะสำหรับใช้อุ่นอาหาร ล้างจาน หรือทำอาหารที่ประกอบง่ายๆไม่ซับซ้อน มีลิ้นชักวางช้อนส้อมและที่เก็บของมาให้ หน้าบานตู้บนล่างปิดผิวลายไม้ เปิดปิดแบบเซาะร่อง สามารถวางตู้เย็นด้านข้างได้แบบกำลังดี และมีช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 kg.มาให้

Top ครัวเป็นลามิเนตสีขาว จะเป็นเคาน์เตอร์โล่งๆมีอ่างล้างจานสแตนเลส 1 หลุม ถ้าอยากได้เตาไฟฟ้าอันนี้ซื้อแบบเสียบปลั๊กถอดเก็บได้ง่ายก็สะดวกดีค่ะ ผนังหลังเคาน์เตอร์จะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ใครทำอาหารบ่อยแนะนำให้ติด BackSplash เพิ่ม เพราะเวลาเปื้อนก็เช็ดล้างทำความสะอาดผนังได้ง่าย

เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ โดยทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ในห้องครัว ใกล้กับประตูออกไปส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่น ธรณีประตูห้องน้ำเป็นกระเบื้องแบบเดียวกันกับพื้นห้องน้ำซึ่งมีความทนทานต่อความชื้น ใช้ไปนานๆก็ไม่บวมแบบลามิเนตซึ่งทำให้ประตูเปิดปิดยากนั่นเอง ธรณีประตูห้องน้ำยกระดับสูงขึ้นมาจากพื้นห้องประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้นจากห้องน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก

ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและมีฉากกั้นส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด พื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกผิวด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานห้องน้ำติดไฟดาวน์ไลท์และติดพัดลมดูดอากาศมาให้

อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาได้ขนาดตามที่เห็นค่ะ ใครต้องการทำเคาน์เตอร์ไว้วางของเพิ่มก็สามารถทำได้นะคะ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้งานพอ

อ่างล้างมือมีที่พอวางของอย่างสบู่ล้างมือ แปรงสีฟัน ยาสีฟันได้บ้างนิดหน่อย

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto หรือแบรนด์เทียบเท่า สายฉีดชำระพร้อมที่แขวนทิชชู่เป็นสแตนเลส

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องกระจกเทมเปอร์บานเลื่อนแบบสามตอน

ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ และเตรียมระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ที่ห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนสามารถเปิดออกไประเบียงได้ มือจับประตูเปิดออกไประเบียงเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน ธรณีประตูระเบียงสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 10 cm. เพิ่อกันน้ำและความชื้นจากระเบียง

ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 20 x 30 ซม. ผิวด้านสีครีม ระเบียงมีพื้นที่เป็นรูปตัว L ส่วนติดครัวกว้างพอวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง และโต๊ะข้างไว้วางของได้ ส่วนติดหน้าต่างห้องนอนมีระยะพอวางม้านั่งหรือกระถางต้นไม้ได้ค่ะ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ

ส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์แขวนมาให้ทั้ง 2 เครื่อง ของจริงได้ตามนี้ค่ะ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ใต้แอร์คอมเพรสเซอร์ได้อยู่ ร มีระแนงขึ้นมาบังส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เรียบร้อย

ราคา (พ.ค.60)

• 1 Bedroom (Bs) A325 ขนาด 22.9 ตร.ม. ราคา 1.35 ล้านบาท หรือ 58,951 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom (B) B318 ขนาด 28.29 ตร.ม. ราคา 1.59 ล้านบาท หรือ 56,203 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom+Plus (B-Plus) B419 ขนาด 35.31 ตร.ม. ราคา 2.015 ล้านบาท หรือ 57,065 บาท/ตร.ม.

โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมชุดครัว เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องปรับอากาศ

– เงินจอง 5,000 บาท

– เงินทำสัญญา 25,000 บาท

– ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.

– ค่าส่วนกลาง 38บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)

– เงินกองทุนส่วนกลาง 380 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)

สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Cabana BTS สำโรง จัดเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ราคาจับต้องได้ที่อยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง และเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวก โครงการมีที่ตั้งอยู่ติดถนนทางรถไฟสายเก่า ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรง และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานครและวงแหวนรอบนอก ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถค่ะ และยังรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมายทั้ง Bangkok Mall, Gateway Ekamai, Major เอกมัย, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะนั่ง BTS ไปไม่กี่สถานีเท่านั้น

ความอุดมสมบูรณ์ – รอบๆโครงการไม่ได้มีร้านอาหารอะไรเท่าไหร่ค่ะ แทบจะติดที่ดินโครงการมีปั๊ม ปตท. อยู่ แต่พอเดินออกมา 600 เมตร ถึง Imperial World สำโรง และ Big C ซึ่งจัดเป็นห้างใหญ่ของคนย่านนี้ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด สามารถเดินมาซื้อของที่ Big C, กินข้าว, ดูหนัง, มาธนาคาร หรืออื่นๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการได้สบายๆ แถมที่นี่ยังเป็นท่ารถเมล์ รถสองแถว และรถตู้ ที่คนย่านนี้มาต่อรถกันคับคั่งอีกด้วย ฝั่งตรงข้ามก็มีตลาดเอี่ยมเจริญให้มาซื้อของสดกันได้

ใกล้ๆโครงการในรัศมี 1 – 3 กม. มีซอยอุดมสุข, ลาซาลและซอยแบริ่งที่มีโรงเรียนและโรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งโซนใกล้โรงเรียนใกล้โรงพยาบาลต่างๆเหล่านี้จะมีอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกคอยบริการอยู่เยอะนั่นเอง

นอกจากนี้บนถนนสุขุมวิทจะมีซอยทองหล่อ เอกมัย ซึ่งเป็นทำเลที่ใกล้โครงการ ภายในซอยมีร้านอาหารนับร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน ใช้เป็นแหล่งแฮงก์เอาต์กับเพื่อนๆ ที่จัดว่าอยู่ใกล้ เดินทางไปมาได้สะดวกสบาย

ส่วนแหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมาย ทั้ง Gateway Ekamai, Major เอกมัย, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะนั่ง BTS ไปไม่กี่นาทีเท่านั้น

แหล่งช้อปปิ้งและห้างใหญ่ๆอีกส่วนจะกระจุกตัวกันอยู่บนเส้นบางนา – ตราดซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Central บางนา, Big C, ร.พ.ไทยนครินทร์, SB Design Square, Index Livingmall, Chic republic, Mega Bangna, Ikea หรือห้างใหญ่ในอนาคตอย่าง The Bangkok Mall ที่มีกำหนดสร้างเสร็จภายในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนใช้รถ ถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง ไปไหนมาไหนง่าย ขับรถช่วงสั้นๆ 20 นาทีก็ถึง เอกมัย ทองหล่อ หรือจากแยกบางนาวิ่งไปถนนบางนา – ตราด ไปออกถนนศรีนครินทร์และกาญจนาภิเษกได้ หรือจะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น และรอบๆมีถนนและซอยย่อยลัดเลาะเลี่ยงถนนใหญ่เยอะ ทำให้เวลาการจราจรหนาแน่น สามารถลัดเลาะเข้าไปในตัวเมืองชั้นในได้ในเวลาอันสั้น รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะ

ข้อดีที่เด่นๆเลยนอกจากอยู่ไม่ไกล CBD คือเป็นทำเลที่ขึ้นลงทางด่วนได้สะดวก และแถวนี้เป็นทางเข้าออกไปนิคมอุตสาหกรรม รถบรรทุกโซนนี้ก็เลยจะเยอะไปด้วย ยิ่งในอนาคตจะมีห้าง Bangkok Mall ซึ่งเป็นห้างใหญ่มาเปิดที่แยกบางนาอีก ก็จะเพิ่มความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีกขั้น

ข้อดีของโครงการสำหรับคนใช้รถเลยคืออยู่ใกล้จุดขึ้น – ลง ทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยมีระยะทางจากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร เป็นระยะประมาณ 4 กม. หรือระยะขับรถประมาณ 9 นาทีเท่านั้น ซึ่งจากทางด่วนเฉลิมมหานครนี้จะไปวิ่งไปเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ วิ่งไปพระราม 9, ลาดพร้าว หรือโซนรังสิตได้อย่างสะดวกสบาย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – การเดินทางโดยไม่ใช้รถโครงการอยู่ติดถนนรางรถไฟสายเก่า ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรง ประมาณ 1 กิโลเมตร สำหรับคนไม่ใช้รถ เป็นระยะที่เดินไปมาได้ หรือนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์มาขึ้นได้สบายๆ ส่วนทางเลือกในการเดินทางอื่นๆ คือจากโครงการเดินผ่านห้องแอร์ของห้างอิมพีเรียล สำโรง ออกมาฝั่งติดถนนใหญ่สุขุมวิทแล้ว หน้าอิมพีเรียลสำโรงรถเมล์, รถแท็กซี่และรถสองแถวผ่านไปมาตลอด ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางเยอะทั้งกลางวันกลางคืนค่ะ

พอขึ้นรถไฟฟ้าแล้วจะไปไหนก็ไว ใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้งหรือหาอะไรกิน ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปลงเอกมัย ทองหล่อได้เพียง 8-9 สถานีเท่านั้น หรือจะนั่งต่อไปอีกสถานีก็เป็น พร้อมพงษ์ อโศก ใกล้ๆ ก็มีทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ที่สยาม ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก

ในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ เพิ่ม ซึ่งตอนนี้ฝั่งสมุทรปราการก็กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดย สถานี สำโรง จะเป็นสถานีส่วนต่อขยายถัดจาก BTS แบริ่ง ซึ่งจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการเดินทางสู่โซนชานเมืองกับกรุงเทพฯมากขึ้นอีก

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์แบบ Built in มาให้พร้อมแอร์ครบทุกยูนิต โครงการจะขายเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมดนะคะ แต่จะมียูนิตแบบห้องนอนพร้อมห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถใช้เป็นห้องนอนเล็กได้อยู่

ฝ้าเพดานสูง 2.6 ม. เพดานติดไฟดาวน์ไลท์แบบกระบอก พื้นเป็นลามิเนต และห้องน้ำกับระเบียงจะเป็นกระเบื้องเซรามิกที่มีความทนทาน สุขภัณฑ์ Cotto พร้อมฉากกั้นห้องน้ำ และห้องครัวมาให้ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built in ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี แบบห้องมีการจัดวางระยะใช้สอยที่ใช้งานได้สบายและลงตัว ไม่อึดอัด

สิ่งอำนวยความสะดวก – ถือว่าเป็นโครงการที่เตรียมเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยมาดีเลยค่ะ โดยทางเข้าออกโครงการเป็น Access Card ทั้งหมด มี CCTV รอบโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง มีสวนหย่อม สวนชั้นดาดฟ้าทั้ง 3 อาคาร และ ห้องฟิตเนส พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 26 x 7.25 m. ลึก 1.2 เมตร

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 092-450-1100, 084-902-0009

WEBSITE : thecabanacondo.com

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.804 รีวิว คอนโด Life Ladprao (ไลฟ์ ลาดพร้าว) ติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม Central ลาดพร้าว เริ่มต้น 2.9 ล้าน

สวัสดีค่ะชาว Homenayoo ทุกท่าน สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุนกันอยู่นั้น วันนี้เรามีโครงการใหม่สุด Hot มาฝากกันค่ะ กับโครงการ Life ลาดพร้าว โครงการใหม่จาก AP เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 2 อาคาร โดยอาคาร A สูง 45 ชั้น, อาคาร B สูง 46 ชั้น มีทั้งหมด 1,615 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7-0-71.4 ไร่

ความน่าสนใจของโครงการนี้คือทำเลโครงการซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ตรงข้ามห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว และอยู่ติดโลตัสพหลโยธินเลย ซึ่งนอกจากจะใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธินแล้ว ยังอยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ในปัจจุบันด้วย สร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็เป็นทำเลเพียง 1 ก้าวถึงรถไฟฟ้า แถม BTS สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าวนี้ ยังเป็นสถานี interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธินอีกด้วย

โครงการมีการออกแบบหน้าตามาโดดเด่นพร้อมพื้นที่ส่วนกลางและฟังก์ชั่นในยูนิตต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนปี 2017 ทั้ง Lobby, Facilities และส่วนกลาง ไม่ว่าจะ Digital Co-working space พร้อม จอ Touchscreen เพื่อใช้ในการคุยงาน และ สัญญาณ Wifi ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ 24 ชั่วโมง เป็นต้น และส่วนพื้นที่สีเขียวที่มีความพิเศษคือออกแบบให้มีพื้นที่ที่เป็นน้ำอยู่รอบโครงการเพื่อความสวยงามและลดอุณหภูมิอากาศลง รวมกับ AP Digital Community ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อฟังก์ชั่นการจัดการหลายๆอย่างให้คนในโครงการสามารถจัดการผ่านมือถือได้อีกด้วย

ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 26 ตร.ม. แบบ Fully Fitted บนทำเลติดถนนพหลโยธิน ที่มีความโดดเด่นทั้งใกล้รถไฟฟ้า BTS, MRT ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ใกล้ห้าง ใกล้โรงเรียน และใกล้แหล่งอาคารสำนักงานใหญ่มากมาย มีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูง ในราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท

รายละเอียดทำเลและตัวโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

พิกัด google map : 13.817551, 100.562723

โครงการ Life ลาดพร้าว ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน โดยจะอยู่ฝั่งตรงข้ามห้าง Central ลาดพร้าว กับโรงเรียนหอวังเลยค่ะ โดยที่ถนนพหลโยธินตอนนี้จะมีโครงการสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต กำลังก่อสร้างอยู่ กำหนดสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 โดยสถานีที่อยู่ติดโครงการเลยคือ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ในปัจจุบันด้วย สร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็เป็นทำเลคอนโดแบบก้าวเดียวถึงรถไฟฟ้าเลยนะคะ แถม BTS สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าวนี้ ยังเป็นสถานี interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธินอีกด้วย

โซนนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีห้างใหญ่ๆอยู่ในระยะเดินไม่กี่ก้าวถึง มี Tesco Lotus ลาดพร้าวอยู่แทบจะติดโครงการเลย รวมทั้งการที่มีอาคารสำนักงานใหญ่มากมายรวมถึงองค์กรขนาดใหญ่อย่าง PTT และ SCB Park อยู่ใกล้ๆ ทำให้มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารเยอะ เพื่อตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

เรียกว่าอยู่เองก็หาของกินง่ายทั้งกลางวันกลางคืน ไปไหนมาไหนสะดวกมาก จะลงทุนหรือปล่อยเช่าก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาที่สามารถใช้เดินทางไปแหล่งทำงาน สถานศึกษาได้ง่าย มีทางเลือกในการเดินทางเยอะ และมีความอุดมสมบูรณ์และห้างยอดนิยมของย่านลาดพร้าวอย่าง Central ลาดพร้าวและ Union Mall ใกล้ๆ เป็นแม่เหล็กช่วยดึงผู้เช่าได้ดี

สำหรับคนไม่ใช้รถ นอกจากตัวโครงการจะอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวแบบก้าวเดียวถึงแล้ว ปัจจุบันจากที่ตั้งโครงการเองก็สามารถเดินไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 450 เมตร เท่านั้น แถมโซนนี้มีทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าโครงการตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมงนะคะ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ นั่งเพียงสถานีเดียวถึง BTS หมอชิต สถานี Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สวนจตุจักรปัจจุบัน

ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองของที่มีศักยภาพสูงของโซนลาดพร้าวที่น่าจับตามองค่ะ นอกจากห้างเยอะ เป็นแหล่งสำนักงาน และเป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์มีชื่อเสียงเรื่องร้านอาหารและโรงเรียนดีๆมากมายมานานแล้ว จากผังด้านบนจะเห็นว่าในอนาคตมีสถานีรถไฟฟ้าผุดขึ้นมาใกล้ๆหลายสายเลย ทั้ง BTS สายสีเขียวสถานีห้าแยกลาดพร้าว แบบก้าวเดียวถึง ออกมาเจอบันไดขึ้นสถานีเลย, เดินไป MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 500 เมตร นั่งไปสถานีเดียวถึง MRT ลาดพร้าว ที่เป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีรัชดา – ลาดพร้าวในอนาคตอีกด้วย

สำหรับคนใช้รถ เราทำไฮไลท์เส้นทางสำคัญรอบๆโครงการ Life ลาดพร้าว มาให้ดูค่ะ จะเห็นถนนใหญ่สำคัญอย่างพหลโยธิน, ลาดพร้าว, วิภาวดีรังสิต และ รัชดาภิเษก ล้อมรอบโครงการอยู่ คนใช้รถสามารถเดินทางได้สะดวกมาก มีทางเข้าออกได้หลายทาง ทั้งด้านหลักอย่างถนนพหลโยธิน โดยโครงการจะอยู่ฝั่งมุ่งหน้ามาห้าแยกลาดพร้าวเลย ห่างจากห้าแยกลาดพร้าวเพียง 500 เมตรเท่านั้น พอถึงห้าแยกแล้วจะไปถนนวิภาวดีรังสิต, ลาดพร้าว, รัชดาภิเษก หรือไปขึ้นทางด่วนศรีรัชก็สะดวก, และจากลาดพร้าวยังสามารถตัดผ่าน Tesco Lotus มาออกถนนพหลโยธินลัดมาโครงการโดยสามารถเลี่ยงห้าแยกลาดพร้าวในวันที่การจราจรหนาแน่นได้อีกด้วย

เรามีภาพทางลัดจากถนนลาดพร้าวไปโครงการ Life ลาดพร้าว มาให้ชมกัน การศึกษาทางลัดเลาะต่างๆเป็นเรื่องจำเป็นของโซนในเมืองแบบนี้ค่ะ เพราะใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงห้าแยกลาดพร้าวเวลาการจราจรหนาแน่นได้ยาก โดยเฉพาะช่วงเย็นปริมาณรถบนถนนจะหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดงและทางกลับรถที่มีอยู่เป็นระยะๆ

ดังนั้นแนะนำว่าถ้ามาทางลาดพร้าว ให้กลับรถใต้สะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าว มาเข้าลาดพร้าวซอย 1 วิ่งไปออก Tesco Lotus พหลโยธิน จะเป็นถนนพหลโยธินฝั่งที่ตั้งโครงการแทบจะติดกับโครงการเลย ระยะทางประมาณ 1 กม.เท่านั้น ตอนแรกๆอาจจะรู้สึกงงๆหน่อย แต่พอคุ้นทางเมื่อไหร่นี่ใช้ช่วยเลี่ยงรถติดได้ดีเลยค่ะ แถมระยะวนรถสั้นกว่ากันด้วย

โครงการจะอยู่ห่างจากจุดขึ้น – ลงทางด่วนศรีรัช ในระยะประมาณ 4.9 กม.หรือระยะขับรถเพียง 7 นาทีเท่านั้น การมีทางด่วนอยู่ใกล้ๆแบบนี้คนขับรถได้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเยอะค่ะ เพราะทำให้เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมือง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะไม่ว่าจะไปพระราม 4, สีลม, สาทร หรือออกเมืองไป เมืองทอง, ดอนเมือง, รังสิต ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชไปได้สะดวก

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ห้าแยกลาดพร้าว 500 เมตร
• แยกรัชโยธิน 1.2 กิโลเมตร
• แยกเกษตร 2.8 กิโลเมตร
• แยกรัชดา-ลาดพร้าว 2.3 กิโลเมตร
• แยกวังหิน 4.4 กิโลเมตร
• ถนนลาดพร้าว 500 เมตร
• ถนนรัชดาภิเษก 1.2 กิโลเมตร
• ถนนวิภาวดีรังสิต 600 เมตร
• ถนนประชาชื่น 4.7 กิโลเมตร
• ถนนงามวงศ์วาน 2.9 กิโลเมตร
• ถนนเกษตร-นวมินทร์ 2.9 กิโลเมตร
• ถนนลาดพร้าววังหิน 4.4 กิโลเมตร
• ถนนโชคชัยสี่ 4.8 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก รอบๆโครงการ Life ลาดพร้าว ถือว่าอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่ายเช้าจรดค่ำค่ะ ความดีงามคือแทบจะอยู่ติดกับ Tesco Lotus ลาดพร้าว แบบห่างเพียง 80 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินไม่กี่ก้าวถึง เวลาซื้อของเข้าบ้านทำกับข้าวก็สะดวกมากๆ แถมอยู่ตรงข้าม Central ลาดพร้าวเลย และอยู่ห่างจากยูเนียนมอลล์เพียง 500 เมตรเท่านั้น เรียกว่ามีห้างใหญ่ๆล้อมอยู่แบบเดินถึงสบายๆ และยังอยู่ใกล้ร.ร.หอวังและเซนต์จอห์น

รวมทั้งการที่มีอาคารสำนักงานใหญ่มากมายรวมถึงองค์กรขนาดใหญ่อย่าง PTT และ SCB Park อยู่ใกล้ๆ ทำให้โซนนี้มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารเยอะ เพื่อตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง เรียกว่าอยู่เองก็สะดวกมาก จะปล่อยเช่าก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาที่สามารถใช้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกด้วย

แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่พหลโยธินซะเป็นส่วนใหญ่ โดยเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก ตรงข้ามโครงการเลยจะมี Central ลาดพร้าว และมี Union Mall อยู่ใกล้ๆ ส่วนตัวเราชอบเซ็นทรัลสาขานี้มากที่สุดค่ะ คือแบบมีร้านอาหารเยอะและคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว แถมฝั่งตรงข้ามมี Union Mall แหล่งช้อปปิ้งราคาย่อมเยาว์ถูกใจมนุษย์เงินเดือนอยู่ด้วย เดินช้อปปิ้งข้ามไปข้ามมาสนุกดี ซึ่งจากห้าแยกลาดพร้าวนี่เราสามารถเดินไปสวนรถไฟได้เลยนะคะ ถ้าเป็นคนชอบเดินนะ ภายในร่มรื่น มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นได้ และมีหอสมุดพุทธทาสด้วย ใครอยากชวนที่บ้านมาเดินเล่นพักผ่อนปฎิบัติธรรม ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สวยสงบดีค่ะ

ห่างจากโครงการไปประมาณ 1.3 กม. จะมี Major รัชโยธินอยู่ นอกจากฟังก์ชั่นหลักอย่างดูหนังโยนโบวลิ่งแล้ว เมเจอร์รัชโยธินมีร้านอาหารเยอะมากค่ะ ด้านในมี Community Mall อยู่ด้วย ร้านอาหารเต็ม แถมยังมีตลาดนัดขนาดใหญ่ด้านข้างซึ่งขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายซะเยอะ ใครชอบแต่งตัวน่าจะชอบค่ะ ของเยอะ เดินสนุก ราคาไม่แพงด้วย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงโครงการ

• เทสโก้ โลตัส 70 ม.
• Central ลาดพร้าว 250 ม.
• Union Mall 500 ม.
• สวนรถไฟ 1.6 กม.
• ตลาดนัดจตุจักร 2.4 กม.
• SCB Park 1.7 กม.
• เมเจอร์รัชโยธิน 1.3 กม.
• บอง มาร์เช่ 4.5 กม.
• ตลาดบางเขน 2.4 กม.
• ตลาดประชานิเวศน์ 6.3 กม.
• ตลาดโชคชัยสี่ 4.9 กม.
• เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น 6 กม.
• ตลาดเตาปูน 6 กม.

• โรงเรียนหอวัง 170 ม.
• โรงเรียนเซนต์จอห์น 1.2 กม.
• มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 2.7 กม.
• มหาวิทยาลัยศรีปทุม 4.9 กม.
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 4.1 กม.

• รพ.เมโย 2.6 กม.
• รพ.วิภาวดี 3.8 กม.
• รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น 4.6 กม.
• รพ.เปาโล เมมโมเรียล 3.4 กม.

• สถานีตำรวจโชคชัยสี่ 4.6 กม.

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนลาดพร้าว → ห้าแยกลาดพร้าว→ วนรถเข้าถนนพหลโยธิน→ ตรงผ่านเซ็นทรัลลาดพร้าวและโรงเรียนหอวังไป แล้วกลับรถมาอีกฝั่ง (เนื่องจากรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างอยู่ ที่กลับรถจึงเป็นแบบชั่วคราวนะคะ) ตรงมาจะเจอโครงการ Life ลาดพร้าว อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

เริ่มกันจากบนถนนลาดพร้าวฝั่งมุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าวนะคะ ซ้ายมือจะเป็น MRT ลาดพร้าว และจะเห็นป้ายโฆษณาโครงการ Life ลาดพร้าว อยู่ด้วย

ตรงไปหน่อยจะมีจุดสังเกตก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าวคือห้าง Union Mall ค่ะ ห้างนี้ตั้งอยู่ตรงหัวมุมของห้าแยกลาดพร้าวพอดี และจะมีทางเข้าห้างได้ทั้งสองฝั่งจากทางฝั่งลาดพร้าวและพหลโยธิน

เราตรงไปห้าแยกลาดพร้าว โดยไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกนะคะ

แล้วตรงตามทางวนรถเพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน

วนตามป้าย ลาดพร้าว – รัชโยธิน ไป

ก็จะมาถึงห้าแยกลาดพร้าวฝั่งพหลโยธินแล้วค่ะ เราจะเห็นห้าง Central ลาดพร้าวอยู่ทางซ้ายมือ และ Union Mall อยู่ทางขวามือ และตึก M ลาดพร้าว คอนโดเพื่อนบ้านของโครงการ Life ลาดพร้าว

เราขึ้นสะพานลอยที่เชื่อมระหว่างห้าง Central ลาดพร้าว และ ห้าง Union Mall มาถ่ายถนนพหลโยธินหน้าโครงการตอนนี้ให้ดูกันนะคะ จากภาพจะเห็นว่าที่ดินโครงการอยู่ทางขวามือ ถัดจากตึก M ลาดพร้าว ไปหน่อย ก่อนถึง Tesco Lotus และโครงการจะอยู่ตรงข้าม Central ลาดพร้าวเลย

และเราจะเห็นว่ากลางถนนพหลโยธินตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกันอยู่นะคะ โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ในปัจจุบันด้วย สร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็เป็นทำเลคอนโดแบบก้าวเดียวถึงรถไฟฟ้าเลยนะคะ แถมยังเป็นสถานี interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธินอีกด้วย

เราตรงต่อไปบนถนนพหลโยธิน เห็น Central ลาดพร้าวอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

พอเราเลยโรงเรียนหอวังไปให้เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ เป็นที่กลับรถชั่วคราวนะคะ เนื่องจากรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างอยู่

กลับรถมาจะเจอ Tesco Lotus อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ Tesco Lotus นี้เป็นห้างที่เรียกได้ว่าอยู่เกือบติดโครงการเลยค่ะ โดยอยู่ห่างจากโครงการ Life ลาดพร้าว เพียง 70 เมตรเท่านั้น

ถัดจากโลตัสมาจะเป็นโชว์รูม TOYOTA ซึ่งจะอยู่ติดที่ดินโครงการเลย พอเราเห็นโชว์รูม TOYOTA ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ Life ลาดพร้าว ได้เลย

ที่ดินโครงการ Life ลาดพร้าว อยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินและสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานี ห้าแยกลาดพร้าว เลยแบบนี้ ตอนนี้ล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย และสำนักงานขายพร้อมห้องตัวอย่างก็ใกล้เสร็จเปิดให้เข้าชมกันได้เร็วๆนี้ รอบๆโครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

รอบโครงการ

โครงการ Life ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 2 อาคาร โดยอาคาร A สูง 45 ชั้น, อาคาร B สูง 46 ชั้น ยูนิตรวมทั้งโครงการ 1,615 ยูนิต โครงการใหม่จาก AP ที่ดินโครงการมีลักษณะหลายเหลี่ยมหลายมุมอย่างที่เห็น เพราะจะมีส่วนบ้านสูง 3 ชั้น ที่เจ้าของที่รักบ้านและที่ดินผืนนี้และตัดสินใจไม่ขาย ทำให้ลักษณะที่ดินมีลักษณะเว้นเข้ามา ซึ่งอันนี้ สำหรับผู้ซื้อถือเป็นข้อดีค่ะ คือมีระยะห่างระหว่างอาคารทั้งสองอาคาร A และ B มากขึ้น และได้พื้นที่เปิดโล่งมากขึ้นอีกด้วย ทิศใต้จะเห็นว่าเป็นพื้นที่โล่งกว้างเลย เพราะเป็นระยะถอยร่นจากสายไฟฟ้าที่พาดผ่านที่ดินตามกฏหมาย ทำให้เป็นโครงการที่ลูกบ้านได้พื้นที่เปิดโล่งเยอะเลยค่ะ จากเงื่อนไขของบริบทรอบๆ

ตัวโครงการมีทางเข้าออกอยู่ทางทิศตะวันตกติดถนนใหญ่พหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นโรงเรียนหอวังและ Central ลาดพร้าว

ทิศเหนือติดโชว์รูม TOYOTA และ Tesco Lotus ลาดพร้าว

ทิศตะวันออกติดลานจอดรถของ Tesco Lotus ตึกสูงที่อยู่ถัดออกไปคือคอนโด Abstract สูง 34 ชั้น

ทิศใต้เป็นอาคารแนวราบและอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น ตึกสูงรอบๆนี่จะมี M ลาดพร้าวทางทิศใต้สูง 44 ชั้น เรียกว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์สูง ล้อมด้วยห้าง โรงเรียน วิวดี ไม่มีตึกสูงขึ้นบังวิวในระยะประชิด

เริ่มกันจากด้านหน้าที่ดินโครงการ Life ลาดพร้าว กันก่อนนะคะ นี่เราข้ามฝั่งมาถ่ายที่ไซต์ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวหน้าโครงการ ให้เห็นภาพรั้วล้อมที่ดินโครงการชัดๆ ที่ดินโครงการอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินและออกมาเจอ สถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานี ห้าแยกลาดพร้าว เลยแบบนี้ ตอนนี้ล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย และสำนักงานขายพร้อมห้องตัวอย่างก็ใกล้เสร็จเปิดให้เข้าชมกันได้เร็วๆนี้ เราพาไปเดินดูรอบๆที่ดินโครงการกันค่ะ

เริ่มจาก Tesco Lotus ลาดพร้าว ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 70 เมตรกันก่อนนะคะ เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีมากๆ จัดเป็นความพีคอย่างนึกของโครงการเลย คือเดินมาซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ต วัตสัน มาธนาคาร มากินกาแฟ เอ็มเค ฟูจิ หรือเดินตากแอร์เล่นได้สบายๆ ที่หน้า Tesco Lotus ลาดพร้าว จะมีสะพานลอยอยู่ เราใช้ข้ามฝั่งไปโรงเรียนหอวังและ Central ลาดพร้าวได้

ขึ้นสะพานลอยมาถ่ายภาพรวมถนนหน้าโครงการ Life ลาดพร้าว ให้ดูกันค่ะ เกาะกลางถนนกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้ากันอยู่แบบนี้ ช่วงเวลาสร้างเสร็จคือ 2 ปี พอๆกับเวลาที่โครงการสร้างเสร็จนะคะ (ปี2563) จะเห็นว่ารอบๆไม่มีตึกสูงๆซักเท่าไหร่เลย มีแค่คอนโด M ลาดพร้าว เพื่อนบ้านโครงการเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นห้าง อาคารพาณิชย์ โชว์รูมรถ ที่สูงแค่ 3 – 4 ชั้น ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนหอวังก็มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ Central ลาดพร้าวเองก็มีระยะห่างมากพอ แบบเรียกว่าเป็นวิวแลนด์มาร์กของย่านนี้อีกวิวค่ะ

ลงจากสะพานลอยมา หน้า Tesco Lotus ลาดพร้าว มีป้ายรถเมล์อยู่ด้วย มีรถเมล์ผ่านหลายสาย ทั้งสาย 24, 26, 28, 34, 39, 59, 63, 90, 104, 107, 108, 112, 136, ปอ.พ. 34, ปอ.3, 9, 12, 13, 126 เรียกว่าไปได้หลายที่ ในราคาไม่แพง ถึงขั้นฟรีในบางสายเลย

ถัดจาก Tesco Lotus ลาดพร้าว มา จะเป็นโชว์รูม TOYOTA

ถัดจากโชว์รูม TOYOTA ก็จะเป็นที่ดินโครงการ Life ลาดพร้าว แล้วค่ะ

ตอนนี้สำนักงานขายและห้องตัวอย่างจะตั้งอยู่บนที่ดินโครงการเลย ซึ่งตอนนี้เปิดให้เข้าชมกันได้แล้วค่ะ หน้าที่ดินโครงการมีทางเดินเท้าเรียบร้อยดี มีทำทางเดินผิวขรุขระสำหรับผู้พิการทางสายตามาให้เรียบร้อย

ภายในที่ดินโครงการเตรียมที่จอดรถไว้เรียบร้อย

มองไปฝั่งตรงข้ามโครงการเป็น Central ลาดพร้าว ห้างใหญ่ยอดนิยมของคนย่านนี้ (รวมถึงเราด้วย มาเดินตั้งแต่เด็กจนโตเลย)

มองกลับไปที่ภาพรวมที่ดินโครงการอีกครั้งค่ะ

ฝั่งขวามือหรือทางทิศใต้ของโครงการเป็นอาคารสูง 2 – 3 ชั้น

ถัดมาติดถนนใหญ่พหลโยธินจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น

ตัวโครงการ

โครงการ Life ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 2 อาคาร โดยอาคาร A สูง 45 ชั้น, อาคาร B สูง 46 ชั้น ยูนิตรวมทั้งโครงการ 1,615 ยูนิต และยูนิตร้านค้าอีกหนึ่งยูนิต ห้องมีให้เลือก 4 แบบค่ะ คือ Studio 26 – 29 sq.m., 1 Bedroom 35 sq.m., 2 Bed + 2 Bath 48-74 sq.m., Duplex 342 sq.m. ขายแบบ Fully Fitted

ข้อดีของโครงการนี้คือ เพราะเป็นโครงการใหม่ ฟังก์ชั่นภายในยูนิตที่พักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้ถูกพัฒนาและปรับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนปี 2017 มากขึ้นเยอะค่ะ มีส่วนที่เป็น Digital Co-working space ที่ให้ความสำคัญกับWifi 24 ชั่วโมงทุกพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ มีการเตรียมที่สำหรับชาร์จมือถือและแท็บเล็ตมาให้แบบ Wireless phone charger รวมถึงการนำแอพพลิเคชั่นมือถือมาใช้เพิ่มความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่เรื่องการติดต่อเรื่องกับนิติ ไปจนถึงการเข้าออกห้อง ควบคุมระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศในห้องจากมือถือได้

ทั้งยังมีฟังก์ชั่นที่ใช้ช่วยการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รับทำงานฟรีแลนซ์หรือเปิดธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ให้มีพื้นที่คุยงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีทั้งจอ Touchscreen ให้ใช้พรีเซ้นส์งานได้แบบล้ำๆ, มีฉากกั้นสำหรับคุยงานได้อย่างเป็นส่วนตัว และพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบมาสวยงาม ใช้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือคุยงานได้สบายๆ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่อัพเดตและถูกปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ได้ดีค่ะ ประมาณว่าซื้อคอนโดแล้วได้ที่คุยงานหรือทำงานไปในตัวด้วยเลย เข้ากับสังคมออนไลน์ในปัจจุบันที่คนทำธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้นนั่นเอง

มาดูสำนักงานขายโครงการกันต่อค่ะ จะตั้งอยู่บนที่ดินโครงการติดถนนใหญ่พหลโยธินเลย

เป็นอาคารสไตล์มินิมอลดูเรียบง่าย เป็นอาคารสีขาวด้านบนติดป้ายโครงการ Life ลาดพร้าว มีลายวงกลมที่มีลักษณะเหมือนวาดด้วยพู่กันจีนอยู่ด้านหลัง ซึ่งลายวงกลมหรือสัญลักษณ์ มารุ (Infinity) นี้เป็นสัญลักษณ์ของโครงการที่ AP ร่วมทุนกับ Mitsubishi Estate Group บริษัทพัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งการออกแบบและก่อสร้าง รวมถึงเทคนิค.เทคโนโลยีในโครงการก็จะได้รับการแชร์ความรู้ในเชิงลึกจากทีมดีไซเนอร์ญี่ปุ่น พร้อมดึงเสน่ห์ในการออกแบบเข้ามาผสมผสานเพื่อให้งานสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในโครงการโดดเด่นยิ่งขึ้น สังเกตว่าคอนเซ็ปในการออกแบบมีการใช้พื้นผิวน้ำมาผสมด้วยทั้งสองฝั่งทางเดิน เพื่อให้อาคารมีอุณหภูมิที่เย็นขึ้น

สำนักงานขายโครงการเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า – 6 โมงเย็นค่ะ

ภายในสำนักงานขายมีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการข้อมูลโครงการและพาชมห้องตัวอย่าง

เพดานสูงแบบระเบิด Space แบบเข้ามาแล้วโอ้โหเลยค่ะ ด้านบนเพดานมีตกแต่งลายฉลุเอาไว้เป็นแพทเทิร์นเหมือนกระดาษพับไปมา

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์มีหน้าจอ Presentation โครงการอยู่ พร้อมเก้าแบบมีฉากกั้นพร้อมที่วางคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและใช้นั่งทำงานได้สบายๆ ในล็อบบี้โครงการจะมีเก้าอี้แบบนี้จัดมาให้ด้วยนะคะ

แล้วก็จะมีทางเดินไปส่วนที่นั่งรับรองและห้องตัวอย่าง

ทางเดินแต่งเส้นแสงโทนสีส้ม และกรุผนังด้วยสีดำเงา ช่วยนำสายตาและให้ประสบการณ์เหมือนกำลังเดินผ่านอุโมงอวกาศนิดๆ

เข้ามาด้านในจะเป็นส่วนที่นั่งรับรองลูกค้า ตกแต่งมาด้วยโทนสีอ่อน ขาว เทา ครีม ทอง และเส้นแสงสีเหลืองอมทองที่ผนังและไฟซ่อนที่ยกพื้น

มองไปอีกฝั่งก็จะมีที่รับรองอีกหลายชุด โมเดลโครงการ หน้าจอ Presentation โครงการ ซ้ายมือเป็นทางเข้าไปชมห้องตัวอย่างของโครงการซึ่งมี 2 ห้อง

ผนังกระจกกว้างๆในส่วนที่นั่งรับรองลูกค้า จะโชว์วิวสวนที่มีบ่อน้ำ Vertical Garden และประติมากรรมขนาดใหญ่ตรงกลาง

คนออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ออกแบบโดย Tectonix โดยประติมากรรมชื่อ “The tree” หรือ ต้นไม้ ที่ให้ประสบการณ์ในการมองเห็นที่น่าสนใจ และดูต่างกันไปในแต่ละมุมมอง

ส่วนภาพจำลองโครงการและพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆของโครงการจะมีหน้าตาอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

ภาพจำลองโครงการ Life ลาดพร้าว ตัวอาคารถูกออกแบบมาสไตล์โมเดิร์น พร้อมการแต่ง Facade เป็นลายฉลุคล้ายๆลูกไม้ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Luxury Shop หรือหน้าร้านค้าไฮเอนด์จากต่างประเทศ พื้นสีอาคารทั้งสองตึกเป็นสีน้ำเงินเข้ม รวมกับความสูงของอาคาร ที่ถือว่าสูงเด่นเป็นสง่า ทั้งตึก A (45 ชั้น) และ B(46 ชั้น) นั้นสูงกว่าคอนโดหรืออาคารรอบๆแบบโดดเด่นมาเลย อาคารคู่ของ Life ลาดพร้าว จึงสามารถเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของย่านลาดพร้าว หรือเป็นแลนด์มาร์คที่ใครๆก็จดจำได้

ภาพจำลองทางเข้าโครงการ Life ลาดพร้าว ค่ะ ก็จะเป็นอลูมิเนียมฉลุลายเดียวกันกับส่วนที่ใช้ตกแต่ง Facade อาคาร

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ จะเห็นว่ามีการออกแบบที่เปิดกว้างไว้ละเอียดดีค่ะ มีบ่อน้ำ ทางเดิน ม้านั่งที่ถูกออกแบบไว้โฉบเฉี่ยว ขณะเดียวกันก็ดูสบายๆ น่าเดินเล่นหรือนั่งพักผ่อนดี

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Lobby ของโครงการ ตกแต่งด้วยโทนสีขาว เทา ดำ สไตล์โมเดิร์น

ภาพจำลองบรรยากาศ Social Lounge & Co Working Space ของโครงการ ออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ใช้ช่วยการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รับทำงานฟรีแลนซ์หรือเปิดธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ให้มีพื้นที่คุยงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีฉากกั้นสำหรับคุยงานได้อย่างเป็นส่วนตัว

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Co-Working Space วางโต๊ะประชุมพร้อมเก้าอี้ และชั้นหนังสือมาให้ฝั่งนึง

ภาพจำลองบรรยากาศส่วนสระว่ายน้ำของโครงการ ก็เป็นสระแบบวิวเปิด ใช้ว่ายน้ำไป ชมวิวเมืองชั้นบนสุดของอาคาร(45 – 46)ไปด้วยกันได้

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Sky Bar ของโครงการ มีบันไดเวียนขึ้นไปชั้นบนได้

ภาพจำลองด้านข้างส่วน Sky Bar ทั้งสองชั้นของโครงการ มีบันไดเวียนขึ้นไปชั้นบน คนในโครงการสามารถขึ้นมาพักผ่อนชมวิวกันได้

ภาพจำลองส่วนยอดตึกของโครงการ

โมเดลจำลองโครงการ Life ลาดพร้าว ตัวอาคารถูกออกแบบมาสไตล์โมเดิร์น พร้อมการแต่ง Facade เป็นลายฉลุคล้ายๆลูกไม้ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Luxury Shop หรือหน้าร้านค้าไฮเอนด์จากต่างประเทศ พื้นสีอาคารทั้งสองตึกเป็นสีน้ำเงินเข้ม รวมกับความสูงของอาคาร ที่ถือว่าสูงเด่นเป็นสง่า ทั้งตึก A (45 ชั้น) และ B(46 ชั้น)

ทางเข้าเป็นไม้กระดกและ Access Card ผ่านเข้าโครงการ เข้าฝั่งซ้าย ออกฝั่งขวา

ถนนในโครงการกว้าง 6 เมตร มีสองเลน รถสวนกันเข้าออกได้ สังเกตจากในโมเดล จะเห็นว่าข้างถนนในโครงการปลูกต้นไม้มาเป็นแนว และทางทิศใต้มีที่จอดรถกลางแจ้งชั้นล่างอยู่

พื้นที่สีเขียวของโครงการมีการปลูกไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ปูสนามหญ้าและเตรียมทางเดินเอาไว้อย่างน่าสนใจ จะเห็นว่ามีการใช้บ่อน้ำกว้างๆเข้ามาร่วมหลายจุดทีเดียว

ซูมให้ดูสวนหน้าทางเข้า Tower B ค่ะ จากขนาดประตูในโมเดล จะเห็นว่าได้สวนส่วนกลางมาใหญ่ทีเดียว ในสวนมีที่นั่งมาให้หลายจุด

สรุปพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ

สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำาลังกาย, ห้อง Sauna, ห้อง Stream, Intelligent Facility อาทิ ห้องประชุม Private Meeting Room ที่ติดตั้งระบบ Digital เต็มรูปแบบ, Sky Working Space

อาคาร A ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว และอาคาร B ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว

สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด, ห้องจดหมาย, ร้านค้า

ส่วน Podium หรือส่วนฐานของอาคารจะเป็นลานจอดรถชั้น 2 – 10 นะคะ โดยยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 11 ขึ้นไป โดยที่ชั้น 11 ของทั้ง Tower A และ B จะมีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้วย ด้านบนเป็นพื้นที่สีเขียวของ Tower A

ภาพสีเขียวชั้น 11 ของ Tower B

สวนด้านหลังโครงการค่ะ จะอยู่ติด Tower B และมีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนมาให้ด้วย

ถ่ายให้ดูยอดตึกของอาคาร A และ B ค่ะ จะเห็นว่าทั้งสองอาคารมีที่จอดเฮลิคอปเตอร์มาด้วย

ส่วนดาดฟ้าของ Tower A ค่ะ จะมีสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง พร้อมลานที่นั่งข้างสระ และศาลาหลบแดด มีสวนชั้นดาดฟ้าให้ใช้เดินพักผ่อนได้

ส่วนดาดฟ้าของ Tower B จะคล้ายๆกัน คือจะมีสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง พร้อมลานที่นั่งข้างสระ และศาลาหลบแดด มีสวนชั้นดาดฟ้าให้ใช้เดินพักผ่อนได้

นอกจากนี้ที่ทางเดินแจกไปยูนิตที่พักอาศัยทุกชั้นของโครงการ จะมีนวัตกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างคือ หน้าต่างหายใจได้ ซึ่งพอมองด้านบนก็จะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งคู่ธรรมดา

แต่ด้านล่างมีตะแกรงเหล็กกันแมลงและช่วยระบายอากาศอยู่

พอเปิดตะแกรงเหล็กมาจะเห็นด้านในเป็นหน้าต่างกระจกใสบานฟิกซ์พร้อมกริลระบายอากาศด้านบน ซึ่งลมสามารถผ่านเข้าออกเพื่อเพิ่มการถ่ายเทและระบายอากาศให้โถงทางเดินของโครงการนั่นเอง

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35.7 ตารางเมตร ตัวห้องแบ่งโซน Private และ Public มาเป็นสัดส่วนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิดในส่วนห้องนอน และมีฉากกั้นห้องในส่วนห้องนั่งเล่น ข้อดีนอกจากกลิ่นอาหารและควันจากครัวจะไม่เข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้ว ใครที่อยากปรับห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็สามารถทำได้ แล้วเปลี่ยนส่วนห้องรับประทานอาหารเป็นห้องนั่งเล่นแทน โดยมีการเดินงานระบบสำหรับสัญญาณทีวีที่ผนังข้างประตูห้องน้ำมาให้เรียบร้อย เป็นผังห้องที่มีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์วิถีชีวิตคนปัจจุบันได้ดี

เข้ามาจะเจอส่วนชุดครัวก่อน ซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำ ถัดมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นพร้อมฉากกั้นห้อง ซึ่งมีประตูเปิดไประเบียงได้ ห้องนอนซึ่งภายในห้องสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ ห้องจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูปิดผิวลายไม้ มีเจาะช่องตาแมวให้เอาไว้ส่องคนที่มาเคาะประตูได้

มือจับประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส และมีช่องเสียบกุญแจหน้าตาธรรมดา แต่ความพิเศษคือ จะเห็นว่าด้านใน(ภาพขวา)มีตัวรับสัญญาณมือถืออยู่ คือสามารถใช้มือถือที่ลงแอพพลิเคชั่นเปิดล็อกห้องได้ ด้วยฟังก์ชั่น Entry / Unit Smart Lock / Air condition control ช่วยเสริมความปลอดภัยและสะดวกสบายดี และยังใช้มือถือควบคุมการเปิดปิดไฟและเครื่องปรับอากาศได้ด้วย

เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนค่ะ โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ฝั่งซ้ายมือ ทำ Built in โต๊ะรับประทานอาหารมาให้ทางฝั่งขวามือ สังเกตว่าระยะใช้งานกว้างขวาง ใช้งานชุดครัวพร้อมโต๊ะอาหารและเดินไปเดินมาพร้อมๆกันได้โดยไม่อึดอัด เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม. เราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

เริ่มจากส่วนครัวกันก่อนนะคะ หน้าบานเป็นเมลามีนสีครีม ทำ Built in มาให้ทั้งบนและล่าง เราเปิดชุดครัวให้ดูช่องเก็บของภายในนะคะ ทำชั้นเก็บของมาให้เยอะดี หน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้ เปิดปิดไม่มีเสียงดังปึ้งปั้ง มีเว้นช่องมาให้สำหรับตู้เย็น และเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 กก.มาให้

Top ครัวหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนต่อน้ำ-ทนความร้อนได้ดี ผนังครัวมี Backsplash กระจกนิรภัยกันเปื้อนไว้ให้ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ FRANKE ด้านข้างเตาไฟฟ้ามีพื้นที่ว่างมาให้ เวลาประกอบอาหารสะดวกดีค่ะ เพราะมีที่พักหม้อพักกะทะ หรือวางวัตถุดิบด้านข้างมาให้แบบนี้

ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้ ช่วยให้ล้างจาน, ล้างผัก, ผลไม้ได้สะดวก เทียบกับฝ่ามือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ

ด้านข้างชุดครัวมีพื้นที่ว่างมากพอวางชั้นวางของได้อย่างที่เห็นในห้องตัวอย่างทำ Built in มาให้ดูเป็นไอเดีย ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ดี

ตรงข้ามชุดครัววางชุดโต๊ะอาหารแบบ 2 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน ระยะเดินและเลื่อนเก้าอี้เข้าออกสบายๆค่ะ ใครไม่ค่อยใช้ห้องครัวหรือโต๊ะรับประทานอาหารจะเปลี่ยนพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่นก็พอได้ค่ะ พอวางอาร์มแชร์หรือโซฟา 2 ที่นั่งเล็กๆได้

ผนังข้างประตูห้องน้ำ หรือผนังฝั่งขวามือของภาพ ห้องเปล่าที่ได้จะเตรียมระบบไฟและช่องเสียบสัญญาณทีวีไว้ให้เรียบร้อย กรณีอยากเปลี่ยนมุมนี้เป็นห้องนั่ง หรือเวลาทานอาหารชอบดูทีวีไปด้วย ก็สามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังได้ง่าย

เราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้น ข้อดีคือใช้งานไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ประตูห้องน้ำที่ใช้งานไปนานๆส่วนใหญ่เปิดปิดยาก

ความพิเศษคือห้องน้ำของโครงการนี้เป็นแบบสำเร็จรูปนะคะ คือในตอนก่อสร้างเป็นแบบยกห้องน้ำมาใส่เลย เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่ดีไซน์มาเนี้ยบดีค่ะ พื้นปูกระเบื้องผิวด้านสีครีม สุขภัณฑ์สีขาว มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มด้วย

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์กับติดพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย

ตัวอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและชั้นวางของใต้อ่างพร้อมราวสแตนเลสแขวนผ้าเช็ดมือของจริงได้ตามนี้ ผนังด้านข้างอ่างล้างมือมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้

เทียบฝ่ามือกับขนาดอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ

ข้างโถสุขภัณฑ์ มีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย โดยส่วนแห้งจะอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งที่แขวนทิชชู่มาให้ สายฉีดชำระเป็นสแตนเลส

ผนังฝั่งซ้ายมือเจาะช่องวางของมาให้ 2 ชั้น อันนี้ดีค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี ใช้วางเครื่องหอม ผ้าเช็ดตัว หรือของช้กระจุกกระจิกอย่างครีมหรืออื่นๆได้อีกหลายอย่างเลย

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ และเตรียมระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ ผนังหลังชุดฝักบัวเจาะช่องด้านข้างมาให้ 2 ช่อง สามารถใช้วางครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดได้

ถัดจากส่วนครัวมาจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ส่วนห้องนั่งเล่นมีฉากกั้นห้องเป็นอลูมิเนียมพ่นสีลูกฟักกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีคือจะมีช่องเปิดที่กว้างขึ้นนั่นเอง

ส่วนห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร วางทีวีขนาด 50 นิ้วได้ และมีระยะพอวางโต๊ะกาแฟแล้วเหลือระยะเดินรอบๆได้อยู่

โซฟาให้มาเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟได้ ใครอยากเปลี่ยนเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงเดี่ยวและตู้เสื้อผ้าได้เช่นกัน

มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี ห้องตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงจะเป็นผนังโล่งต่อเติมกันเองตามสไตล์การใช้งานนะคะ

ส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ติดประตูเลื่อนกระจกเปิดออกไประเบียงได้ ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องได้ดี แถมวันไหนลมดีๆก็เปิดรับลมธรรมชาติเข้าสู่ห้องนั่งเล่นได้เต็มที่ ประตูบานเลื่อนเป็นอลูมิเนียมพ่นสีลูกฟักกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีคือจะมีช่องเปิดที่กว้างขึ้นนั่นเอง

ธรณีประตูสูงขึ้นจากระเบียงประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้นจากระเบียง ส่วนราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กเส้นสีดำ (ทาสีน้ำมัน + กันสนิม)

ระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 ซม. ติดตั้งก๊อกน้ำมาให้และเดินท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย

แอร์คอมเพรสเซอร์ 2 เครื่องแขวนมาให้แบบนี้ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงด้านใต้ได้อยู่ และราวกันตกส่วนนี้จะสูงจรดเพดานเพื่อเป็นกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์

เข้าไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ ของจริงจะมีประตูบานเปิดเป็นสัดส่วน

ในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะทำงาน โต๊ะข้าง ตู้เสื้อผ้า มาให้ดูระยะใช้งาน

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 40 cm. คือพอเดินไปเดินมาได้ ถ้าชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแบบในห้องตัวอย่าง

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะใช้งานประมาณ 50 cm. วางโต๊ะข้างมาให้ดูระยะใช้งาน

หน้าต่างในห้องนอนเป็นหน้าต่างบานใหญ่เป็นชุดมีกระจกบานกระทุ้ง 1 บานไว้ให้เปิดระบายอากาศ และบานฟิกซ์อีกสองบานเพิ่มช่องแสงธรรมชาติเข้ามามากขึ้น

ผนังฝั่งติดประตู วางตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมโต๊ะทำงาน

ข้างเตียงฝั่งตู้เสื้อผ้าวางโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ได้กำลังเหมาะ บางคนอาจใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปด้วยในตัว

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน หน้าบานเป็นกระจกทำสีดำ

ห้องตัวอย่างห้องที่สองที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร ตัวห้องแบ่งโซน Private และ Public มาเป็นสัดส่วนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิดในส่วนห้องนอน เข้ามาจะเจอส่วนชุดครัวก่อน ซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำ ถัดมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นพร้อมฉากกั้นห้อง ซึ่งมีประตูเปิดไประเบียงได้ ห้องนอนซึ่งภายในห้องสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ ห้องจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

ประตูทางเข้าห้องจะเป็นแบบเดียวกันกับแบบ 1 ห้องนอนที่เราไปดูกันมาเลยค่ะ

เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนค่ะ โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ฝั่งขวามือ และวางโต๊ะรับประทานอาหารมาให้ทางฝั่งซ้ายมือ สังเกตว่าระยะใช้งานกว้างขวาง ใช้งานชุดครัวพร้อมโต๊ะอาหารและเดินไปเดินมาพร้อมๆกันได้โดยไม่อึดอัด เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังที่ได้จริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม. เราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

เริ่มจากส่วนครัวกันก่อนนะคะ หน้าบานเป็นเมลามีนสีครีม ทำ Built in มาให้ทั้งบนและล่าง เราเปิดชุดครัวให้ดูช่องเก็บของภายใน ทำชั้นเก็บของมาให้เยอะดี หน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้ เปิดปิดไม่มีเสียงดังปึ้งปั้ง มีเว้นช่องมาให้สำหรับตู้เย็น และเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 กก.มาให้

Top ครัวหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนต่อน้ำ-ทนความร้อนได้ดี ผนังครัวมี Backsplash กระจกนิรภัยกันเปื้อนไว้ให้ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้ ช่วยให้ล้างจาน, ล้างผัก, ผลไม้ได้สะดวก เทียบกับฝ่ามือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ

ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ FRANKE ด้านข้างเตาไฟฟ้ามีพื้นที่ว่างมาให้ เวลาประกอบอาหารสะดวกดีค่ะ เพราะมีที่พักหม้อพักกะทะ หรือวางวัตถุดิบด้านข้างมาให้แบบนี้

ลิ้กชักใต้เตาไฟฟ้ามีช่องแบ่งสำหรับวางช้อนส้อมมาให้

ด้านล่างเตาฝังเตาอบไฟฟ้ามาให้ของแบรนด์ FRANKE เช่นกัน และมีลิ้นชักใต้เตาไฟฟ้ามาให้อีกชั้นด้วย

ตรงข้ามชุดครัววางชุดโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน ระยะเดินและเลื่อนเก้าอี้เข้าออกสบายๆ

ถ่ายให้ดูระยะใช้งานหน้าประตูทางเข้าห้องค่ะ จะเห็นว่าระยะเดินไปมาและระยะใช้งานเก้าอี้มีระยะสบายๆ

ผนังด้านข้างโต๊ะอาหารทำ Built in ชั้นวางของ เพดานแขวนโคมไฟมาให้ดูเป็นไอเดีย

ถัดจากส่วนครัวไปจะเป็นห้องนั่งเล่นติดระเบียง ห้องตัวอย่างแต่งเพดานกับผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงได้เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบ ไฟดาวน์ไลท์ และผนังซ่อนไฟ

ส่วนห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร วางทีวีขนาด 50 นิ้วได้ และมีระยะพอวางโต๊ะกาแฟแล้วเหลือระยะเดินรอบๆได้อยู่

โซฟาให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่ง วางอาร์มแชร์ พร้อมโต๊ะกาแฟได้อยู่

มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี ห้องตัววางชั้นวางทีวีมาให้ดูระยะใช้งาน ของจริงจะเป็นผนังโล่งให้ต่อเติมกันเองตามสไตล์การใช้งานนะคะ

ส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ติดประตูเลื่อนกระจกเปิดออกไประเบียงได้ ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องได้ดี แถมวันไหนลมดีๆก็เปิดรับลมธรรมชาติเข้าสู่ห้องนั่งเล่นได้เต็มที่ ประตูบานเลื่อนเป็นอลูมิเนียมพ่นสีลูกฟักกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีคือจะมีช่องเปิดที่กว้างขึ้นนั่นเอง มือจับเซาะร่องมาตรฐาน

ธรณีประตูสูงขึ้นจากระเบียงประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้นจากระเบียง ส่วนราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กเส้นสีดำ (ทาสีน้ำมัน + กันสนิม)

ระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 ซม. ติดตั้งก๊อกน้ำมาให้และเดินท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย แอร์คอมเพรสเซอร์ 2 เครื่องแขวนมาให้และอีกเครื่องวางด้านล่างแบบนี้ และราวกันตกส่วนนี้จะสูงจรดเพดานเพื่อเป็นกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์

จากระเบียงมองเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นซึงเชื่อมต่อกับส่วนครัว

และจากห้องนั่งเล่นจะมีทางเดินแจกไปส่วนห้องน้ำ และห้องนอนทั้ง 2 ห้องอยู่

เราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้น ข้อดีคือใช้งานไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ประตูห้องน้ำที่ใช้งานไปนานๆส่วนใหญ่เปิดปิดยาก

ความพิเศษคือห้องน้ำของโครงการนี้เป็นแบบสำเร็จรูป คือในตอนก่อสร้างเป็นแบบยกห้องน้ำมาใส่เลย เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่ดีไซน์มาเนี้ยบดีค่ะ พื้นปูกระเบื้องผิวด้านสีครีม สุขภัณฑ์สีขาว มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มด้วย

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์กับติดพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย

ห้องน้ำห้องนี้มีความพิเศษอีกอย่างคือมีประตู 2 ประตู บานนึงเปิดไปโถงทางเดิน อีกบานเปิดไปห้องนอนเล็ก

อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและชั้นวางของใต้อ่างพร้อมราวสแตนเลสแขวนผ้าเช็ดมือของจริงได้ตามนี้ ผนังด้านข้างอ่างล้างมือมีที่แขวนผ้าเช็ดตัวมาให้

เทียบฝ่ามือกับขนาดอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ

ข้างโถสุขภัณฑ์ มีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย โดยส่วนแห้งจะอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งที่แขวนทิชชู่มาให้ สายฉีดชำระเป็นสแตนเลส

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ เทียบกับฝ่ามือให้ดูขนาดจะเห็นว่ากำลังเหมาะมือดี

ไปดูห้องนอนเล็กที่อยู่ติดห้องน้ำกันต่อค่ะ

อย่างนึงที่เราชอบเกี่ยวกับการจัดผังห้องนอนแบบ 2 ห้องนอนนี้ คือจัดห้องนอนทั้ง 2 ห้องมาให้มีขนาดพอๆกันค่ะ ห้องนอนเล็กนี่วางเตียงคู่ 5 ฟุตมาให้ดูระยะใช้งาน จะเห็นระยะเดินรอบๆกำลังสวย วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ และมีประตูเปิดไปห้องน้ำจากในห้องได้

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะใช้งานประมาณ 50 cm. วางโต๊ะข้างมาให้ดูระยะใช้งาน

หน้าต่างในห้องนอนเป็นหน้าต่างบานใหญ่เป็นชุดมีกระจกบานกระทุ้ง 1 บานไว้ให้เปิดระบายอากาศ และบานฟิกซ์อีกสองบานเพิ่มช่องแสงธรรมชาติเข้ามามากขึ้น

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 40 cm. คือพอเดินไปเดินมาได้อยู่

ถ้าชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแบบในห้องตัวอย่าง

ผนังฝั่งติดประตู วางตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมโต๊ะข้าง

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน หน้าบานเป็นกระจกทำสีดำแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างแรกที่ไปดูกันมาค่ะ

เข้าไปดูส่วนห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อนะคะ ประตูห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับประตูห้องนอนเล็กเลย

ห้องนอนใหญ่นี่จะมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

ในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตมาพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้งสองฝั่ง

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะใช้งานประมาณ 70 cm. วางโต๊ะข้างและอาร์มแชร์มาให้ดูระยะใช้งาน

หน้าต่างฝั่งนี้จะมีกระจกบานฟิกซ์เข้ามุมมาให้ด้วย

ข้างเตียงอีกฝั่งก็จะมีมุมสำหรับตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อม วางโต๊ะข้างเตียง และมีหน้าต่างแบบบานกระทุ้งมาให้

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน หน้าบานเป็นกระจกทำสีดำ แบบเดียวกันกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนห้องอื่นๆ

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 80 cm. คือพอเดินไปเดินมาและวางชั้นวางทีวีแบบในห้องตัวอย่างได้

มองไปทางฝั่งปลายเตียงจะมีประตูทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนอยู่ เข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันต่อเลยค่ะ

ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่นี้เป็นแบบสำเร็จรูปเหมือนกันกับห้องน้ำห้องอื่นค่ะ พื้นปูกระเบื้องผิวด้านสีครีม สุขภัณฑ์สีขาว มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มด้วย

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์ กับติดพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย

ตัวอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและชั้นวางของใต้อ่างพร้อมราวสแตนเลสแขวนผ้าเช็ดมือของจริงได้ตามนี้ ผนังด้านข้างอ่างล้างมือมีที่แขวนผ้าเช็ดตัวมาให้

เทียบฝ่ามือกับขนาดอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ

ข้างโถสุขภัณฑ์ มีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย โดยส่วนแห้งจะอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งที่แขวนทิชชู่มาให้ สายฉีดชำระเป็นสแตนเลส

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ และเตรียมระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ราคา (เม.ย.59)

• ราคาโปรโมชั่น เริ่มต้น 26 ตร.ม.ราคา 2.9 ล้านบาท | เริ่มต้น ประมาณ 111,539 บาท/ตร.ม.
• สอบถามราคาและโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขาย

**ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ Built in พร้อมเครื่องปรับอากาศ

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่นี่

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

บทสรุปโครงการ

ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Life ลาดพร้าว จัดเป็นอีกโครงการที่ทำมาเพื่อขายลูกค้ากลุ่มคนในพื้นที่ ที่โตมาในย่านลาดพร้าว แล้วออกมามีครอบครัวของตัวเอง หรือคนที่ชอบอยู่ย่านลาดพร้าว และกลุ่มคนที่มองหาทำเลใจกลางเมืองโซนลาดพร้าว, พหลโยธิน เป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่านักศึกษาหรือกลุ่มพนักงานจากตึก SCB, ปตท, เชฟล่อน, อีซูสุ, SCG และบรรดาอาคารสำนักงานรอบๆที่มีเยอะมาก

เนื่องจากทำเลมีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะ มีห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเปิดทั้งกลางวันกลางคืนในระยะที่เดินถึงได้ ใกล้รถไฟฟ้า BTS ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ใกล้ห้าง สามารถไปทำงาน ไปเรียน ได้อย่างสะดวกสบาย จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใจกลางเมืองโซนนี้อยู่ และมีกำลังผ่อนประมาณเดือนละ 21,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป

ความอุดมสมบูรณ์ : รอบๆโครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก หาของกินง่ายเช้าจรดค่ำค่ะ ความดีงามคือแทบจะอยู่ติดกับ Tesco Lotus ลาดพร้าว แบบห่างเพียง 80 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินไม่กี่ก้าวถึง เวลาซื้อของเข้าบ้านทำกับข้าวก็สะดวกมากๆ แถมอยู่ตรงข้าม Central ลาดพร้าวเลย และอยู่ห่างจากยูเนียนมอลล์เพียง 500 เมตรเท่านั้น เรียกว่ามีห้างใหญ่ๆล้อมอยู่แบบเดินถึงสบายๆ และยังอยู่ใกล้ร.ร.หอวังและเซนต์จอห์นอีกด้วย

รวมทั้งการที่มีอาคารสำนักงานใหญ่มากมายรวมถึงองค์กรขนาดใหญ่อย่าง PTT และ SCB Park อยู่ใกล้ๆ ทำให้โซนนี้มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารเยอะ เพื่อตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง เรียกว่าอยู่เองก็สะดวกมาก จะปล่อยเช่าก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาที่สามารถใช้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับคนขับรถ โครงการมีถนนใหญ่สำคัญอย่างพหลโยธิน, ลาดพร้าว, วิภาวดีรังสิต และ รัชดาภิเษก ล้อมรอบโครงการอยู่ คนใช้รถสามารถเดินทางได้สะดวกมาก มีทางเข้าออกได้หลายทาง ทั้งด้านหลักอย่างถนนพหลโยธิน โดยโครงการจะอยู่ฝั่งมุ่งหน้ามาห้าแยกลาดพร้าวเลย ห่างจากห้าแยกลาดพร้าวเพียง 500 เมตรเท่านั้น พอถึงห้าแยกแล้วจะไปถนนวิภาวดีรังสิต, ลาดพร้าว, รัชดาภิเษก หรือไปขึ้นทางด่วนศรีรัชก็สะดวก, และจากลาดพร้าวยังสามารถตัดผ่าน Tesco Lotus มาออกถนนพหลโยธินลัดมาโครงการโดยสามารถเลี่ยงห้าแยกลาดพร้าวในวันที่การจราจรหนาแน่นได้อีกด้วย

โครงการจะอยู่ห่างจากจุดขึ้น – ลงทางด่วนศรีรัช ในระยะประมาณ 4.9 กม.หรือระยะขับรถเพียง 7 นาทีเท่านั้น การมีทางด่วนอยู่ใกล้ๆแบบนี้คนขับรถได้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเยอะค่ะ เพราะทำให้เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมือง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะไม่ว่าจะไปพระราม 4, สีลม, สาทร หรือออกเมืองไป เมืองทอง, ดอนเมือง, รังสิต ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชไปได้สะดวก

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : แถวนี้คนไม่ขับรถไปไหนมาไหนง่ายมากค่ะ ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากตัวโครงการจะอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวแบบก้าวเดียวถึงแล้ว ปัจจุบันจากที่ตั้งโครงการเองก็สามารถเดินไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 500 เมตร เท่านั้น แถมโซนนี้มีทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าโครงการตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมงนะคะ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ นั่งเพียงสถานีเดียวถึง BTS หมอชิต สถานี Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สวนจตุจักรปัจจุบัน

ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองของที่มีศักยภาพสูงของโซนลาดพร้าวที่น่าจับตามองค่ะ นอกจากห้างเยอะ เป็นแหล่งสำนักงาน และเป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์มีชื่อเสียงเรื่องร้านอาหารและโรงเรียนดีๆมากมายมานานแล้ว จากผังด้านบนจะเห็นว่าในอนาคตมีสถานีรถไฟฟ้าผุดขึ้นมาใกล้ๆหลายสายเลย ทั้ง BTS สายสีเขียวสถานีห้าแยกลาดพร้าว แบบก้าวเดียวถึง ออกมาเจอบันไดขึ้นสถานีเลย, เดินไป MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 500 เมตร นั่งไปสถานีเดียวถึง MRT ลาดพร้าว ที่เป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีรัชดา – ลาดพร้าวในอนาคตอีกด้วย

การออกแบบโครงการและวัสดุ : ข้อดีของโครงการนี้คือ เพราะเป็นโครงการใหม่ ฟังก์ชั่นภายในยูนิตที่พักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้ถูกพัฒนาและปรับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้นเยอะ มีส่วนที่เป็น Digital Co-working space ที่ให้ความสำคัญกับWifi 24 ชั่วโมงทุกพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ มีการเตรียมที่สำหรับชาร์จมือถือและแท็บเล็ตมาให้แบบ Wireless phone charger รวมถึงการนำแอพพลิเคชั่นมือถือมาใช้เพิ่มความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่เรื่องการติดต่อเรื่องกับนิติ ไปจนถึงการเข้าออกห้อง ควบคุมระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศในห้องจากมือถือได้

ทั้งยังมีฟังก์ชั่นที่ใช้ช่วยการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รับทำงานฟรีแลนซ์หรือเปิดธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ให้มีพื้นที่คุยงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีทั้งจอ Touchscreen ให้ใช้พรีเซ้นส์งานได้แบบล้ำๆ, มีฉากกั้นสำหรับคุยงานได้อย่างเป็นส่วนตัว และพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบมาสวยงาม ใช้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือคุยงานได้สบายๆ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่อัพเดตและถูกปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ได้ดีค่ะ ประมาณว่าซื้อคอนโดแล้วได้ที่คุยงานหรือทำงานไปในตัวด้วยเลย เข้ากับสังคมออนไลน์ในปัจจุบันที่คนทำธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้นนั่นเอง

แบบห้อง มีมาให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ห้องแบบ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedrooms และ Duplex ซึ่งปรับแบบมาให้ลงตัวและมีห้องน้ำสำเร็จที่มีขนาดสบายๆ ใช้งานได้ไม่อึดอัด ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัว และชุดเฟอร์นิเจอร์ Built in มาให้ ซึ่งสเป็คมาสวย เพิ่มที่เก็บของได้เยอะดี โดยชุดครัวเป็นหน้าบานปิดผิวสีครีม ท๊อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว เตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันพร้อมอ่างล้างจานสแตนเลสจาก FRANKE

ชุดสุขภัณฑ์ได้ของ Kohler ดูดี มีฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์พร้อมฝักบัว ฝ้าเพดานห้องสูง 2.6 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนต 8 มม.กับพื้นห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค 60 x 60 ซม. ประตูทางเข้าออกห้องใช้มือถือที่ลงแอพพลิเคชั่นของโครงการสแกนผ่านเข้าห้องแทนกุญแจได้

สิ่งอำนวยความสะดวก – ส่วนกลางบนอาคารของทั้งสองอาคารแยกส่วนกันนะคะ แต่จะได้ส่วนกลางที่เหมือนๆกัน โดยมีฟังก์ชั่นเดียวกัน และขนาดไม่แตกต่างกันมาก พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 คือสวนและล็อบบี้ แบบ Lounge / Co-working space / Social lounge ที่จอดรถชั้น 1 – 10 คิดเป็นจำนวน 723 ช่องจอด หรือ 44.76% ของจำนวนยูนิตโครงการ

ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 11 ขึ้นไป โดยที่ชั้น 11 แต่ละอาคารจะมีพื้นที่สีเขียวอยู่ ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้นบนสุดของแต่ละอาคาร โดยมี สระว่ายน้ำ, ห้อง Fitness, Social lounge, Changing room, Sky theatre lounge และสวนพักผ่อน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง รปภ.24 ชั่วโมง, CCTV รอบโครงการ

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1623 / 0-2261-2518

Website : www.apthai.com

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คอนโด แซฟวี่ พหล 2 SAVVI Phahol 2

The Urban Property เตรียมเปิดตัวโครงการ “SAVVI พหล 2“ คอนโดใหม่ใกล้รถไฟฟ้า และ ทางด่วน

เปิดให้ผู้ที่สนใจลงทะเบียนแล้ววันนี้ คลิกที่นี่ >> http://www.savvicondo.com/#

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-278-5644

Website : http://www.savvicondo.com/

คอนโด ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน-อินเตอร์เชนจ์ Knightsbridge Phaolyothin Interchange

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการ “Knightsbridge Phaolyothin Interchange” คอนโดใหม่ เชื่อมจุดตัดรถไฟฟ้า โอกาสที่เพิ่มทางเลือกในการใช้ชีวิต มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ราคา Presale เริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท*

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับข้อมูลและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่นี่

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel :  020-300-000

Website : www.origin.co.th/knbphaholyothin/interchange‎

คอนโด ซี ดรีม ศรีราชา Sea Dream Sriracha

Sea Dream ศรีราชา จาก Utility Real Estate ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ใกล้ตลาดบางพระ, ตลาดหนองมน, อ่างเก็บน้ำบางพระ, รร.อัสสัมชัน ศรีราชา, รพ.สมิติเวช, หาดบางแสน, เกาะลอย และ เกาะสีชัง

ซี ดรีม ศรีราชา เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ 232 ตร.วา. ห้องพักอาศัยรวม 62 ยูนิต มีห้องพักให้เลือก แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 34.7-40.00 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2560

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการมาตรฐาน อาทิ Lobby, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ลิฟท์โดยสาร, อาคารจอดรถ, ประตูคีย์การ์ด และ รปภ. 24 ชม. เริ่มต้น 1.95 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

:: FLOOR PLAN ::

Master Plan

1st Floor Plan

2nd-7th Floor Plan

8th Floor Plan

:: UNIT TYPE ::

TYPE A105 : 1 Bedroom 35.00 ตร.ม.

TYPE A103 : 1 Bedroom 36.00 ตร.ม.

TYPE A104 : 2 Bedroom 40.00 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 093-123-2000

Facebook : https://www.facebook.com/seadreamcondo/

Website : http://www.seadreamcondo.com/

คอนโด ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 Ideo Q Sukhumvit 36

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดตัวโครงการ “Ideo Q สุขุมวิท 36“ Ultimate Peaceful Premises คอนโด High Rise ใหม่ ติดรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ( 450 เมตร) ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท* แล้วพบกันเร็วๆนี้

ลงทะเบียนรับข้อมูลและสิทธิพิเศษได้ที่นี่

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th

คอนโด เอลลิโอ เดล เนสต์ Elio Del Nest จาก Ananda เริ่ม 2.29 ลบ.

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดตัวโครงการ “Elio Del Nest“ คอนโดใหม่ภายใต้แนวคิด “The Urban Lif & Nature is Blending Soon” ใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่ผสานกับธรรมชาติได้ง่ายๆ ใกล้ BTS อุดมสุข เริ่ม 2.29 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่นี่

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th

Ideo New Rama 9 คอนโดใหม่จาก Ananda

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ “Ideo New Rama 9“ คอนโดใหม่ ติดถนนใหญ่ ใกล้ MRT พระราม 9

ผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับข้อมูลและสิทธิพิเศษได้ที่นี่

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th

EP.809 รีวิว คอนโด เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ Kensington Sukhumvit-Theparak

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ จาก Origin Property ตั้งอยู่ติดถนนเทพารักษ์ ใกล้ถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีทิพวัล เพียง 1 สถานีถึงจุดเชื่อมต่อ BTS สำโรง รายล้อมไปด้วยร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และสถานศึกษา

เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร แบ่ง 2 ทาวเวอร์ ทาวเวอร์ A สูง 35 ชั้น และทาวเวอร์ B สูง 38 ชั้น บนที่ดิน 4-2-24 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 1,318 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 20.5 – 31.5 ตร.ม. คาดว่าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2563

สิ่งอำนวยความสะดวก ในโครงการมีให้ครบครัน ทั้งที่จอดรถ, โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Another Home & Co-working space, สวนหย่อม, สวนชั้นดาดฟ้า, ลิฟท์โดยสารล็อคชั้น, Access Card Control, กล้องวงจรปิดภายในโครงการ ที่จอดรถ ประมาณ 32% ไม่รวมซ้อนคัน และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมงในราคาเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ

*สำหรับคนที่สนใจก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานขายได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เพื่อลงทะเบียนรับ Tag ที่จะสามารถใช้เป็นส่วนลดได้สูงสุด 80,000 บาท ในวัน Pre-sale ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17 มิ.ย. 2560 ที่สำนักงานขาย

ที่ตั้งโครงการ

ถนนเทพารักษ์ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.638396, 100.609237

ที่ตั้งโครงการ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ ตั้งอยู่ติดถนนเทพารักษ์ฝั่งที่มุ่งหน้าไปตัดถนนศรีนครินทร์ ถนนเทพารักษ์เป็นถนนที่ตัดจากถนนสุขุมวิท ตัดผ่านถนนศรีนครินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกิ่งแก้ว ถนนตำหรุ-บางพลี ถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ทางหลวงหมายเลข 1006 และไปสิ้นสุดที่ถนนบางบ่อ-คลองด่าน โครงการอยู่ห่างจากแยกที่ตัดถนนสุขุมวิทมาประมาณ 1.7 ม. และห่างจากถนนศรีนครินทร์ประมาณ 2.2 กม.

การเดินทางเข้าเมือง ตัวโครงการอยู่ติดเส้นเทพารักษ์ สามารถไปใช้ได้ทั้งเส้นศรีนครินทร์ และเส้นสุขุมวิท ถ้าใช้เส้นสุขุมวิทออกจากโครงการมาต้องไปกลับรถประมาณ 350 ม. จะเจอจุดกลับรถ จากนั้นก็ตรงไปจนเจอถนนสุขุมวิทจากนั้นก็มุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยาม หรือเข้าถนนพระรามสี่ตรงแถวแยกพระโขนง ไปเข้าลุมพินี วิทยุ สาทร สีลม สามย่านได้เลย ส่วนถ้าใครจะใช้ทางด่วนมีทางขึ้นแถวๆแยกบางนา ถ้าใช้เส้นศรีนครินทร์วิ่งไปเข้าถนนพระรามเก้าได้

การเดินทางออกนออกเมือง เส้นสุขุมวิทวิ่งมาปากน้ำ แพรกษา บางปู ยาวออกชลบุรี พัทยาได้เลยครับ เส้นศรีนครินทร์วิ่งไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทตรงแยกการไฟฟ้า อีกฝั่งวิ่งไปเชื่อมอ่อนนุช รามคำแหง และลาดพร้าวได้ครับ หรือจะใช้เส้นบางนา-ตราดก็ไปฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยาได้เลย และที่สำคัญเส้นนี้มีทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งไปจนถึงชลบุรีเลยสะดวกดี ส่วนถนนกาญจนาภิเษกวิ่งไปออกรังสิต ปทุมธานี อยุธายาได้ อีกฝั่งวิ่งไปโซนบางขุนเทียน บางแค ยาวไปทางนนทบุรีได้เลย

การเดินทางโดยสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ติดแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง สถานีปลายทางสำโรงเป็นจุดเชื่อมต่อกับ BTS สำโรง ตรงเส้นสุขุมวิทครับ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองตอนนี้อยู่ในช่วงดำเนินการ ตามแผนจะเปิดใช้บริการในปี 2563 โดยมีสถานีที่ติดโครงการคือสถานีทิพวัล ส่วนตำแหน่งที่ตั้งต้องรอดูอีกทีครับ ถ้าเสร็จตรงตามแผนก็จะใกล้เคียงกับโครงการแล้วเสร็จพอดี กระเดินทางก็จะสะดวกครับ ใกล้ๆโครงการมีป้ายรถเมล์ ทั้ง 2 ฝั่งถนน มีสะพานลอยเดินข้ามได้สะดวก รถเมล์เส้นนี้มีไม่มากครับ ไปขึ้นตรงเส้นสุขุมวิทจะมีเยอะกว่าทั้งขาเข้าและออกเมือง วิ่งเกือบทั้งคืน เส้นเทพารักษ์จะเน้นไปทางรถสองแถวมากกว่า โบกเรียกขึ้นได้เลย วินมอเตอร์ไซค์ก็มีวิ่งผ่านไปมาเรียกได้เลยเช่นกัน

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย ย่านนี้ออกแนวชุมชนมีทั้งบ้านพักอาศัย หอพัก อาคารพาณิชย์ โรงเรียน และบริษัทผลิตน้ำมันพืช พื้นที่ว่างเปล่าก็ยังพอมีบ้าง ตัวพื้นที่โครงการจะตั้งอยู่ติดแนวคลองสำโรง ส่วนด้านหน้าจะติดกับพื้นที่โครงการในอนาคตของออริจิ้นเอง

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าบางนา ขับตามแนวรถไฟฟ้า BTS มาจนถึง BTS สำโรง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ และตรงไปอีกประมาณ 1.7 กม. โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนนเทพารักษ์

สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ถนนเทพารักษ์ > Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์

เริ่มจากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าไปทางบางนา ข้างหน้าเป็น BTS พร้อมพงษ์

ซ้ายมือเป็น Emquartier ขวามือเป็น Emporium

จากนั้นจะเจอมิราเคิลมอลล์ซ้ายมือ

เลยมาอีกจะเป็น Rain Hill

จากนั้นขวามือจะเจอโครงการ Noble Remix

และจะเจอ BTS ทองหล่อ

ผ่านมาจะเจอแยกทองหล่อ ซ้ายมือเป็นซอยสุขุมวิท 55

เลยมาจะเจอโรงแรม Marriott ซ้ายมือ

จากนั้นจะเจอ Major เอกมัย

และจะเจอแยกเอกมัย ตรงหน้าเป็น BTS เอกมัย

จากนั้นซ้ายมือเป็นโรงพยาบาลสุขุมวิท

เลยมาอีกจะเจอ BTS พระโขนง

ติดกับ BTS พระโขนง ขวามือจะเป็น Summer Hill อยู่ในช่วงก่อสร้างครับ เป็นเจ้าของเดียวกับ Rain Hill

หน้าตาโครงการ Summer Hill จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ กำหนดการจะเสร็จช่วง Q2 2017 อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 ม.

เลยมาเป็นแยกพระโขนง ขวามือเป็น W-District ขับตรงไปครับ

จากนั้นจะเจอ BTS อ่อนนุช ขวามือเป็น Tesco Lotus

ถัดมาซ้ายมือเป็น Century อ่อนนุช อยู่ในช่วงก่อสร้างอยู่ครับ

จากนั้นซ้ายมือเป็นโรงเรียนนานาชาติ Wells

เลยมาเป็น BTS บางจาก

ถัดมาเป็น BTS ปุณณวิถี

เลยมาอีกเป็น BTS อุดมสุข

จากนั้นจะเจอแยกบางนา ก็ตรงไปอีก

ข้ามแยกมาจะเจอ BTS บางนา

ถัดมาเป็น BTS แบริ่ง ซ้ายมือเป็นซอยลาซาล

จากนั้นจะเจอตลาดธรรมโรจน์พินิจขวามือ

และจะเจออิมพิเรียล สำโรง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม.

จากนั้นก็ขับตรงขึ้นสะพานไปครับ ซ้ายมือเป็นตลาดเอี่ยมเจริญ มีของสดขายในนี้ครับ

ขึ้นสะพานข้ามคลองสำโรงมา ด้านบนจะเห็น Skywalk ที่เชื่อมมาจากตัวสถานี BTS สำโรง

ลงสะพานข้ามคลองมาจะเห็น BTS สำโรงตรงหน้า ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งเป็นเส้นที่ตัดผ่านด้านหน้าโครงการ

ลงสะพานมาซ้ายมือเป็นสถานีตำรวจสำโรงเหนือ เตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ

จากนั้นจะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ต่อครับ จากแยกนี้ไปถึงโครงการอีกประมาณ 1.7 กม.

เลี้ยวซ้ายมาเป็นถนนเทพารักษ์ เป็นถนนขนาด 6 เลน มีเกาะกลางแบ่งฝั่งจราจร เส้นนี้มีรถสองแถววิ่งด้วยนะครับ รถเมล์ก็มี

จากนั้นก็วิ่งตรงตามทางไป ซ้ายมือจะมีป้ายโครงการติดเป็นระยะๆ

และจะเจอศูนย์ ISUZU ซ้ายมือ

และจะเจอปั๊ม Caltex

ถัดมาเป็นปั๊ม Shell

เลยมาหน่อยขวามือเป็น HINO ก็เข้าเลนซ้ายได้เลย จะถึงพื้นที่โครงการแล้วครับ

จากนั้นจะเจอป้ายรถเมล์ห่างจากโครงการประมาณ 70 ม.

และจะเจอสะพานลอย

ถัดจากสะพานลอยมาก็จะเห็นพื้นที่โครงการทางซ้ายมือครับ สำนักงานขายตั้งอยู่ด้านหน้าเลย

ผมขึ้นมาบนสะพานลอยถ่ายรูปให้ดูจากมุมบนสะพาน ฝั่งนี้มองไปทางถนนสุขุมวิท ซ้ายมือเป็น HINO

มองไปฝั่งถนนศรีนครินทร์ ซ้ายมือเป็นพื้นที่โครงการ เส้นเทพารักษ์จะมีโครงการแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ตัดผ่านหน้าโครงการเลย โดยสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีทิพวัล ส่วนต่ำแหน่งที่ตั้งต้องรอดูตอนสร้างอีกทีครับ ตามแผนจะเริ่มสร้างปี 2561 แล้วเสร็จประมาณ 2563 จะเสร็จพร้อมๆกับโครงการเลย

พื้นที่โครงการทางทิศเหนือด้านหลังโครงการติดกับแนวคลองสำโรง ฝั่งตรงข้ามจะเป็นบ้านพักอาศัย ทิศใต้เป็นฝั่งหน้าโครงการจะติดกับโครงการในอนาคต ทิศตะวันออกติดกับบริษัท สยามร่วมกิจสหมิตร เป็นบริษัทผลิตน้ำมันพืช มีระบบการดูแลจัดการมาตราฐานเป็นอย่างดี และทิศตะวันตกติดกับพื้นที่ว่างเปล่าครับ

จากภาพถ่ายพื้นที่จริง พื้นที่โครงการคือส่วนที่เป็นไฮไลท์สีชมพู ด้านหลังจะติดแนวคลองสำโรง ฝั่งด้านหน้าจะติดกับโครงการในอนาคตของออริจิ้นเอง ด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกจะติดกับพื้นที่ว่างเปล่ายาวตลอดแนว ด้านข้างอีกฝั่งติดกับบริษัท สยามร่วมกิจสหมิตร เป็นบริษัทผลิตน้ำมันพืช มีระบบการดูแลจัดการมาตราฐานเป็นอย่างดี

ผมลองวางตัวโมเดลบนที่ดินให้ดูคร่าวๆ พื้นที่โครงการจะตั้งอยู่ด้านหลังนะครับ ส่วนด้านหน้าจะเป็นพื้นที่โครงการในอนาคต ทางเข้าออกจะใช้ทางเดียวกัน

ลงจากสะพานลอยมาดูขอบเขตด้านหน้าโครงการทางเข้าโครงการ ทางเข้าโครงการจะอยู่ฝั่งซ้ายนะครับ สำนักงานขายโครงการตั้งอยู่ในที่ดินของโครงการในอนาคตครับ

ด้านหน้าสำนักงานขาย

มองไปฝั่งซ้าย

มองไปฝั่งขวา

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าเป็นหมู่บ้านทิพวัล 1 เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ย่านนี้เลย ในซอยมีร้านค้า ร้านอาหารหลายร้านให้เลือก ในซอยนี้มีโรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ เซนต์โยเซฟ ทิพวัล

มองไปทางขวา

มองไปทางซ้าย ฝั่งนี้เดินเลยไปอีกประมาณ 100 ม. จะมีคอมมูนิตี้มอลล์

เดินผ่านมา ติดกับแนวรั้วโครงการจะเป็นบริษัท สยามร่วมกิจสหมิตร เป็นบริษัทผลิตน้ำมันพืช มีระบบการดูแลจัดการมาตราฐานเป็นอย่างดี

จากนั้นจะเจอสะพานข้ามคลอง

ข้ามสะพานมาก็ถึงแล้วครับ ชื่อว่า Plam Island

เดินเข้ามาจะเจอลานจอดรถกว้างๆเลย ตัวมอลล์ทำมาสองชั้น

ฝั่งนี้มีเป็นร้านอาคาร ร้านขายน้ำ ในสุดมีร้านล้างรถ

ผมพาเข้ามาเดินชั้น 1 ว่ามีอะไรบ้าง ขวามือเป็น Kerry Express

ถัดเข้ามาอีกเป็นร้าน Amazon

ฝั่งนี้เป็นร้านเจ้จงหมูทอด เป็นร้านข้าวแกง

ถัดมาเป็นร้านชาละวันเย็นตาโฟ

อีกร้านคือ Begin Cafe

ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น

มีร้านเสริมสวย

ตรงเข้าไปในสุดเป็น Big C Market

กลับมาด้านหน้าสำนักงานขายครับ ติดป้าย Kensington ชัดเจน

ใครที่ผ่านไปมาแถวนี้ก็แวะเข้ามาชมห้องตัวอย่างกันได้ครับ

ประตูทางเข้าอยู่ด้านข้าง

เดินเข้ามาด้านในจะแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนจะเป็นส่วนของพนักงานครับ ชั้นล่างเป็นโมเดล และห้องตัวอย่าง

เคาน์เตอร์ต้อนรับ ผนังด้านหลังสีออกทองกึ่งด้าน สีโทน Copper ตัดกับเคาน์เตอร์สีน้ำตาล ส่วนนี้จำลองมาจากโถง Lobby ในโครงการครับ

ด้านในจัดที่นั่งไว้ให้ ซ้ายมือผนังเป็นกระจกยาวเข้าไปด้านใน

มองกลับออกไปจะเห็นแบบนี้ครับ

ความอุดมสมบูรณ์ ย่านนี้มีทั้งสถานศึกษาชื่อดังอย่าง รร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ รร.เซนต์โยเซฟทิพวัล รร.เทพศิรินทร์สมุทรปราการ รร.อนุบาลบุษยมาส รร.วัดด่านสำโรง รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา รร.นานาชาติเซนต์แอนดรู ส่วนเรื่องอาหารการกินรอบๆโครงการในระยะเดินประมาณ 100 ม. จะเจอคอมมูนิตี้มอลล์ Plam Island มีร้านค้าร้านอาหารหลายร้าน มี Big C Market ฝั่งตรงข้ามพื้นที่โครงการจะเป็นซอยหมู่บ้านทิพวัล เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ย่านนี้ ภายในซอยจะมีร้านค้า มีร้านสะดวกซื้อ มีร้านอาหารขายหลายร้านของกินเพียบครับ ตลาดใกล้ๆอยู่ตรงหน้าอิมพิเรียลสำโรงซึ่งเป็นบริเวณที่มีความคึกคัก และเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยของคนย่านนี้เลย มีตลาดธรรมโรจน์พินิจ สำโรงเซ็นเตอร์ ตลาดเอี่ยมเจริญและตามริมถนนส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดร้านค้าร้านอาหารทุกรูปแบบที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยของชุมชนในย่านนี้ครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าก็มีอยู่รอบโครงการใกล้ๆมีตรงเส้นสุขุมวิท Big C jumbo, อิมพิเรียลสำโรง ตรงเส้นศรีนครินทร์มี Tesco Lotus, Jas Urban, Food Land, Makro, Big C เส้นบางนาตราดใกล้ๆมี Central, Big C, Mega, Ikea และในอนาคตจะมี Bangkok Mall ตอนนี้อยู่ในช่วงดำเนินการ ตั้งอยู่ใกล้ๆแยกบางนาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการเราเท่าไหร่ ตัว Bangkok Mall สร้างบนที่ดินกว่า 100 ไร่ ด้วยงบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของเดอะมอลล์กรุ๊ป ภายในโครงการจะประกอบไปด้วยอาคารศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม อาคารที่อยู่อาศัยให้เช่าหรือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ อาคารสำนักงานให้เช่า โดยรูปแบบโครงการในเบื้องต้นเป็นโครงการแบบ City within the City หรือเมืองในเมืองที่สมบูรณ์แบบ หากโครงการเสร็จสมบูรณ์จะเป็นศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• Plam Island : 100 ม.
• สำโรงเซ็นเตอร์ : 2.9 กม.
• อิมพิเรียลสำโรง : 2.9 กม.
• ตลาดธรรมโรจน์พินิจ : 3.1 กม.
• Big C Jumbo : 3.2 กม.
• Jas Urban : 3.5 กม.
• Tesco Lotus ศรีนครินทร์ : 3.6 กม.
• ตลาดเอี่ยมเจริญ : 4.4 กม.
• APT แบริ่งมอลล์ : 4.4 กม.
• The Coast Village : 5.5 กม.
• Food Land : 5.6 กม.
• Bangkok Mall : 6 กม.
• Makro ศรีนครินทร์ : 6.2 กม.
• Big C ศรีนครินทร์ : 6.4 กม.
• Central บางนา : 8.7 กม.
• Big C บางนา : 8.8 กม.
• ไบเทคบางนา : 10.3 กม.

• โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ : 1.4 กม.
• โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล : 1.8 กม.
• โรงเรียนอนุบาลบุษยมาส : 1.8 กม.
• โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ : 2 กม.
• โรงเรียนบางกอกพัฒนา : 7.9 กม.

• สถานีตำรวจสำโรงเหนือ : 2.9 กม.
• วัดไตรสามัคคี : 3.1 กม.
• พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 4.4 กม.

• โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ : 3.2 กม.
• โรงพยาบาลมนารมย์ : 4.8 กม.
• โรงพยาบาลศิครินทร์ : 6.2 กม.
• โรงพยาบาลไทยนครินทร์ : 9.2 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนสุขุมวิท : 1.7 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ : 2.2 กม.
• ถนนปู่เจ้าสมิงพราย : 2.7 กม.
• ถนนบางนาตราด : 5.7 กม.
• ถนนสรรพาวุธ : 5.7 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก : 4.2 กม.
• แยกเทพารักษ์ – ศรีนครินทร์ : 2.2 กม.
• แยกบางนา : 5.7 กม.

Model

ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินทั้งหมดกว่า 6 ไร่ของออริจิ้น ตัวพื้นที่โครงการ Kensington จะตั้งอยู่ด้านหลังแบ่งที่ดิน 4-2-24 ไร่ ที่ดินที่เหลือด้านหน้าจะเป็นโครงการในอนาคตครับ ทางเข้าออกที่ติดถนนเทพารักษ์จะใช้งานร่วมกันครับ

ภาพจำลองโครงการ จะเห็นว่าตัวโครงการอยู่ถัดเข้าไปด้านในจากถนนเทพารักษ์อีกหน่อย จะเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองด้านหน้าตัดผ่าน

ด้านหน้าทางเข้าติดถนนเทพารักษ์ ที่เป็นที่ตั้งของแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

ซูมทางเข้าออกโครงการให้ดู

เข้าไปจะเจอทางเข้าโครงการในอนาคตขวามือ ตัวโครงการจะตรงเข้าไปอีกหน่อย

มองจากด้านข้าง พื้นที่ 2 โครงการจะมีแนวรั้วกั้นแยกส่วนกัน

ตัวอาคารออกแบบมา 1 อาคาร แบ่งเป็น 2 ทาวเวอร์ โซนหน้าทาวเวอร์ A มี 38 ชั้น ส่วนทาวเวอร์ B มี 35 ชั้น รูปทรงอาคารสีเหลี่ยม เหมือนตัว U ตรงกลางจะเป็น Facility สีภายนอกจะใช้สีน้ำตาลเข้มตัดด้วยสีเทา เฟรมกระจกสีดำ

จากทางเข้ามาทางจะบังคับเลี้ยวขวา จะเห็นแนวรั้วกั้นระหว่าง 2 โครงการ มีสวนหย่อมติดแนวรั้วให้ด้วย

ซูมใกล้ๆให้ดู

เข้าไปจะเจอจุด Drop Off และทางเข้า Lobby A

ภาพจำลองส่วน Lobby ลักษณะจะคล้ายในสำนักงานขายครับ

พื้นที่ด้านข้างโครงการฝั่งทิศตะวันออกติดกับบริษัท สยามร่วมกิจสหมิตร เป็นบริษัทผลิตน้ำมันพืช มีระบบการดูแลจัดการมาตราฐานเป็นอย่างดี

ด้านซ้ายมือฝั่งด้านหน้าโครงการจะเป็นทางเข้าที่จอดรถในอาคารจอดได้ชั้น 2-5 ฝั่งด้านข้างจะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 32% ไม่รวมซ้อนคัน

ที่ชั้นดาดฟ้าทั้ง 2 ทาวเวอร์จะเป็นสวนหย่อม และสนามพัตกอล์ฟ

สวนดาดฟ้าทาวเวอร์ A

สวนดาดฟ้าทาวเวอร์ B

ภาพจำลองโครงการมองจากมุมด้านบนจะเป็นสวนบนชั้นดาดฟ้าครับ

ด้านหลังโครงการติดกับแนวคลองสำโรง แนวรั้วโครงการทำเป็นพื้นที่พักผ่อนริมน้ำ ฝั่งนี้เป็นทาวเวอร์ B มี Lobby แยกให้อีกส่วน

ซูมใกล้ๆให้ดูครับ

ฝั่งด้านข้างอีกฝั่งเป็นทิศตะวันตก ติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ชั้น G เป็น Another Home & Co-working space ชั้น 6 มี สระว่ายน้ำ ความยาวกว่า 30 เมตร และ The Gym Club ห้องฟิตเนตขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน

วิวฝั่งนี้จะเห็นเพื่อนบ้านด้วยกันเองตามรูปทรงอาคาร

มองลงมาจะเห็นแบบนี้

ซูมส่วน Co-working space ผนังกระจกสูงมองเห็นวิวด้านนอก มุมมองกว้าง 180 องศา ด้วยทัศนียภาพแห่งความร่มรื่นจากทิวแถวต้นไม้ใหญ่ และลานน้ำล้น ไม่ว่าจะเดินเล่นในสวน หรือนั่งผ่อนคลายใน Another Home ก็มีความสุขแบบใกล้ชิดติดธรรมชาติ

ภาพจำลอง Another Home & Co-working space มองจากด้านนอกเข้าไป

สระว่ายน้ำ ชั้น 6 ดีไซน์ทันสมัย ขนาดยาวกว่า 30 เมตร ระบบเกลือ พร้อมสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ และศาลานั่งเล่น พื้นที่รวม 628 ตร.ม.

ภาพจำลองสระว่ายน้ำที่ชั้น 6 สระเป็นแบบน้ำล้น ฝั่งด้านในมองเห็นห้องฟิตเนส

ภาพจำลองห้องฟิตเนส ผนังฝั่งขวาเป็นกระจกสูงถึงฝ้า มองวิววสระว่ายน้ำได้

อีกมุมเป็นสวนหย่อม พื้นที่เดินเชื่อมต่อมาจากสระว่ายน้ำ

Floor Plan

Master Plan โครงการจากทางเข้าที่ใช้งานร่วมกัน 2 โครงการ เข้ามาผ่านพื้นที่โครงการด้านหน้า และจะถึงโครงการด้านในที่แบ่งที่ดินไว้ 4-2-24 ไร่ จากนั้นถนนจะเป็น One way บังคับเลี้ยวขวาผ่านส่วนหย่อม และจุด Drop Off หน้า Lobby ทาวเวอร์ A และจะเจอทางเข้าที่จอดรถในอาคาร จอดได้ชั้น 2-5 หรือวนรถมาด้านข้างโครงการจะมีที่จอดรถใต้อาคาร วนไปด้านหลังโครงการจะเจอสวนพักผ่อนริมคลองสำโรง มีจุด Drop Off หน้า Lobby ทาวเวอร์ B วนมาด้านข้างโครงการอีกฝั่งตรงไปจะเป็นทางเข้าออก ตัวโครงการออกแบบมา 1 อาคาร แบ่ง 2 ทาวเวอร์มี Lobby แยกให้ ลิฟท์โดยสารมีฝั่งละ 3 ตัว รวมเป็น 6 ตัว ลิฟท์ขนของมี 1 ตัว ฝั่งทิศตะวันตกจะมี Another Home & Co-working space อยู่ตรงกลางที่เชื่อมระหว่าง 2 Lobby ครับ

แปลนชั้น 6 ทาวเวอร์ A และ B จะเริ่มเป็นส่วนพักอาศัย แบ่งส่วนตรงกลางด้วยบันไดหนีไฟและลิฟท์ขนของ 1 ตัว ลูกบ้านทาวเวอร์ A จะเข้ามาฝั่งทาวเวอร์ B ไม่ได้ และ ทาวเวอร์ B ก็ไปฝั่ง A ไม่ได้ครับ เข้าได้แค่ตรงลิฟท์ขนของ ฝั่ง A มี 21 ยูนิต และที่ฝั่ง B มี 16 ยูนิต มีลิฟท์โดยสารให้ฝั่งละ 3 ตัว ตรงกลางของสองทาวเวอร์เป็นส่วนกลางมีสระว่ายน้ำ สวนหย่อม และห้องฟิตเนส พร้อมห้องน้ำแยกชายหญิง

แปลนชั้น 7-35 เหมือนกันทุกชั้นครับ ทาวเวอร์ A มี 21 ยูนิต และทาวเวอร์ B 21 ยูนิต สีฟ้าเป็นห้องขนาด 20.5 – 21.00 ตร.ม. สีส้มเป็นห้องขนาด 23.5 ตร.ม. และสีน้ำตาลเป็นห้องขนาด 30.5 – 31.5 ตร.ม.

แปลนชั้น 36-38 จะเหลือเฉพาะทาวเวอร์ A ครับ มี 21 ยูนิต ส่วนทาวเวอร์ B จะมีแค่ 35 ชั้น และมีสวนบนดาดฟ้า

แปลนชั้นดาดฟ้า ฝั่งทาวเวอร์ A จะอยู่บนชั้น 38 ฝั่งทาวเวอร์ B จะอยู่บนชั้น 35 สวนจะแบ่งเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิว และมีสนามพัตกอล์ฟ

Units Type

โครงการมีห้องให้เลือกดังนี้

• 1 Bedroom ขนาด 20.5 – 21.0 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาด 23.5 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 30.5-31.5 ตร.ม.

1 Bedroom : 20.5-21.00 ตร.ม.

1 Bedroom : 23.5 ตร.ม.

1 Bedroom Plus : 30.5-31.5 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ

• 1 Bedroom : 20.5 – 21.5 ตร.ม.
• 1 Bedroom : 23.5 ตร.ม.

แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 20.5 – 21.5 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับพื้นที่ครัว และส่วนรับประทานอาหาร ใช้พื้นที่ร่วมกัน ในสุดเป็นระเบียงหลังห้อง ซ้ายมือเป็นห้องนอนประตูเป็นบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ในห้องนอนวางเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าได้ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ห้องนี้จะเหมาะอยู่คนเดียวมากกว่าครับ โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมีตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้าชุดเคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และแอร์ 2 ตัว

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อนเลย ติดกันเป็นส่วนครัว และพื้นที่รับประทานอาหาร ในสุดเป็นประตูออกระเบียง ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน ส่วนห้องน้ำอยู่ในห้องนอนครับ พื้นห้องได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.58 ม. ผนังห้องจะได้แบบฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง เฟอร์นิเจอร์ในห้องเป็นสั่งทำพิเศษสำหรับโครงการ Origin โดยเฉพาะ

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ

วางโซฟาให้ดู 1 ตัว โต๊ะกลางต้องใช้แบบตัวเล็กวางไว้มุมซ้ายครับ

ฝั่งตรงข้าม ระยะดูทีวีประมาณ 2.53 ม. ได้ชั้นวางทีวี และตู้เก็บของ ฝั่งซ้ายเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัวได้ตามนี้เลย แอร์ติดผนัง 1 ตัว

ตู้เก็บของที่ได้เป็นบานเปิด 3 บาน ด้านในแบ่งช่องไว้เก็บของ และวางรองเท้า

จากส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนครัว เคาน์เตอร์ครัวอยู่ติดกับชั้นวางทีวีเลย ซ้ายมือเป็นห้องนอน

ตู้ครัวด้านบนเป็นบานเปิดขึ้น 2 บาน

อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวของ Hafele

เตาไฟ้ฟ้าหน้าเซรามิก 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนของ Hafele ส่วนท็อป Pantry เป็นลามิเนต Postform เกรด A ซึ่งกันน้ำและความร้อนได้ดี

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร ใช้เป็นแบบโต๊ะพับได้จะได้ประหยัดพื้นที่มากขึ้นครับ

ถัดไปเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน

เปิดออกมาเจอระเบียงขนาด 2.42 x 0.61 ม.

ด้านบนจะเป็นพื้นที่แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัวเป่าลมออกด้านนอก

มองกลับเข้ามาด้านในจะเห็นแบบนี้ ขวามือเป็นห้องนอน

ห้องนอนจะได้ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน

ภายในห้องนอนวางเตียง และตู้เสื้อผ้าได้ ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ

วางเตียง 5 ฟุตชิดผนังด้านในให้ดูระยะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.03 ม.

ใช้งานทีวีร่วมกับด้านนอกได้ หรือจะติดในห้องนอนผนังฝั่งซ้ายระยะดูประมาณ 2.2 ม. แอร์ติดปลายเตียง 1 ตัว

หน้าต่างในห้องนอนเป็นแบบบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

บานกระทุ้งเปิดได้มากกว่า 40 องศา

ฝั่งด้านในเป็นห้องน้ำ ข้างเตียงวางตู้เสื้อผ้าได้

ตู้เสื้อผ้าโครงการ Built in มาให้ขนาด 2 บาน

ภายในห้องน้ำ มีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ฉากกั้นอาบน้ำไม่ได้แถมให้นะครับต้องติดเพิ่มเอง

อ่างล้างหน้าได้ของ Cotto

ติดกันวางโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระของ Cotto

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก

ฝักบัวติดไว้ผนังฝั่งนี้ มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เลย

หน้าตาฝักบัวที่ได้ของ Prema ขนาดพอดีมือ

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.98 x 0.77 ม.

ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ กันน้ำเลอะเทอะด้านนอกได้

อีกแบบจะเป็น 1 Bedroom ขนาด 23.5 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อนได้เป็นครัวเปิด เชื่อมกับห้องนั่งเล่น ด้านในสุดเป็นระเบียง ฝั่งขวาเป็นห้องนอน ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนเลย เชื่อมกับห้องนั่งเล่น ในสุดเป็นระเบียง ขวามือเป็นห้องนอน พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.58 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสีทั้งหมด

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ

ชุดเคาน์เตอร์ครัวติดหน้าประตูห้อง ได้แบบบานเปิด 5 บาน และลิ้นชัก 2 ชั้น

Pantry จะได้มากกว่าห้องแรกนิดหน่อย อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนของ Hafele ท็อปเป็นลามิเนต Postform เกรด A ซึ่งกันน้ำและความร้อนได้ดี

ฝั่งตรงข้ามซ้ายมือเป็นตู้เก็บของ พื้นที่วางตู้เย็น พื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร และพื้นที่วางโซฟา

ตู้เก็บของที่ได้เป็นบานเปิด 3 บาน

พื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร ใช้โต๊ะแบบพับได้จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้

ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ขวามือเป็นห้องนอน

วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดู

ระยะดูทีวีประมาณ 2.3 ม. ได้ชั้นวางทีวี และแอร์ติดผนัง 1 ตัว

ระเบียงมีประตูบานเลื่อน 2 บาน

เปิดออกมาเจอระเบียงขนาด 2.34 x 0.59 ม.

วางเครื่องซักผ้าได้ แต่วัดระยะดีๆนะครับ

กลับเข้ามาด้านในกันต่อครับ

ประตูห้องนอนเป็นประตูปกติ ต่างจากแบบแรกที่เป็นกระจกบานเลื่อน

เดินในห้องนอนเข้ามากันต่อ วางเตียง 5 ฟุตให้ดูพื้นที่ปลายเตียงเหลือนิดหน่อยครับ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 90 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 23 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.2 ม. แอร์ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

ฝั่งด้านในได้ตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน ขวามือเป็นห้องน้ำ

ข้างตู้เสื้อผ้าสามารถทำเพิ่มเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ครับ

ภายในห้องน้ำมีส่วนเปียกส่วนแห้ง

สุขภัณฑ์ที่ได้ของ Cotto

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ไม่ได้แถมฉากกั้นมาให้ต้องติดเพิ่มเองครับ

ด้านในติดฝักบัว มีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.99 x 0.77 ม.

ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ

ราคา (พ.ค.60)

• 1 Bedroom 20.5 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.09 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม

เงินจอง และ ทำสัญญา โปรดสอบถามทางโครงการ

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ ตั้งอยู่ในย่านชุมชนรายล้อมไปด้วยบ้านพักอาศัย หอพัก อาคารพาณิชย์ และบริษัทผลิตน้ำมันพืช มีความอุดมสมบูรณ์ในตัว ห่างจากโครงการ 100 ม. มีคอมมูนิตี้มอลล์ มีร้านอาหาร มี Big C Market หรือเดินข้ามสะพานลอยหน้าโครงการไปในซอยหมู่บ้านทิพวัล ซอยนี้ค่อนข้างคึกคักมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อหลายร้านเลย มีโรงเรียนชื่อดังอยู่ในซอยนี้อย่าง อัสสัม และเซนต์โยเซฟ ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ตรงเส้นสุขุมวิทมี Big C Jumbo, อิมพิเรียลสำโรง ตรงเส้นศรีนครินทร์มี Tesco Lotus, Food Land, Jas Urban, Big C, Makro, ซีคอนสแควร์, พาราไดซ์พาร์ค

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนเทพารักษ์ เดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง เข้าเมืองหลักๆใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยาม หรือเข้าถนนพระรามสี่ตรงแถวแยกพระโขนงวิ่งเข้าลุมพินี วิทยุ สาทร สีลม สามย่านได้เลย มีทางด่วนให้ขึ้นแถวๆแยกบางนา หรือจะใช้เส้นศรีนครินทร์ก็ได้วิ่งไปเชื่อมพัฒนาการ และถนนพระรามเก้าได้ ส่วนถ้าจะออกนอกเมือง เส้นสุขุมวิทมาออกปากน้ำ บางปู ยาวออกชลบุรีได้ เส้นศรีนครินทร์วิ่งมาเชื่อมกับเส้นสุขุมวิทได้ อีกฝั่งวิ่งไปเชื่อมอ่อนนุช ลาดกระบัง รามคำแหง และลาดพร้าว เส้นบางนาตราดวิ่งออกฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยาได้เลยมีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้น

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ด้านหน้าโครงการเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง กำหนดการแล้วเสร็จจะใกล้เคียงกับโครงการแต่ก็ต้องดูกันต่อไปครับว่างจะเริ่มสร้างเมื่อไหร่ สถานีที่อยู่ใกล้โครงการคือสถานีทิพวัล นั่งไปเปลี่ยนสายเป็น BTS สำโรงได้เพียง 1 สถานี หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ แต่ไปขึ้นตรงเส้นสุขุมวิทจะมีเยอะกว่าทั้งเข้าและออกเมือง วิ่งเกือบทั้งคืน เส้นเทพารักษ์จะมีรถสองแถววิ่งเยอะครับ วินมอเตอร์ไซค์โบกเรียกหน้าโครงการได้เลย

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร แบ่งเป็น 2 ทาวเวอร์ A สูง 38 ชั้น ส่วนทาวเวอร์ B สูง 35 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาด 4-2-24 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นตัว U ตรงกลางเป็นส่วนกลาง ออกแบบมาเต็มพื้นที่ ชั้นจอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-5 ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6 – 38 ส่วนกลางหลักๆอยู่ที่ชั้น 1 , 6 และดาดฟ้าครับ

การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่จะเป็นแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด แบ่งเป็น 3 ขนาดหลัก คือ 20.5-21 ตร.ม., 23.5 ตร.ม., 30.5-31.5 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดู โปร่งโล่งสบาย เพดานสูง 2.58 ม. รับแสงสว่างทั้งห้องนอน และห้องนั่งเล่น ฟังก์ชั่นครบลงตัวทุกมุม โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี ชุดครัว อ่างล้างจาน และ Hob & Hood ของ Hefele สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cotto ไม่มีฉากกั้นส่วนเปียกให้ต้องติดเพิ่มเอง ได้ชั้นวางทีวี ตู้เก็บของ และตู้เสื้อผ้า แอร์ได้แบบติดผนังตรงห้องนั่งเล่นและในห้องนอน พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังได้แบบฉาบเรียบทาสี

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 , 6 และดาดฟ้า ที่ชั้น 1 มี สวนหย่อมด้านหน้า Lobby ทาวเวอร์ A และมีสวนพักผ่อนริมน้ำติดรั้วด้านหลังโครงการ มี Lobby 2 จุด ตรงกลางระหว่าง Lobby เป็น Co-working space ที่ชั้น 6 มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ ดีไซน์ทันสมัย ขนาดยาวกว่า 30 เมตร ระบบเกลือ พร้อมสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ และศาลานั่งเล่น พื้นที่รวม 628 ตร.ม. ที่ชั้นดาดฟ้าทั้ง 2 ทาวเวอร์จะเป็นสวน มีสนามพัตกอล์ฟให้ด้วย ลิฟต์โดยสารมีให้ 6 ตัว ฝั่งละ 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-5 คิดเป็น 32% ไม่รวมซ้อนคัน มี Wi-fi บริเวณส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 020-300-000

Website : http://kensington.origin.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

EP.811 รีวิว คอนโด เดอะ เลค กัลปพฤกษ์ – วุฒากาศ The Lake Kallapraphruk – Wutthakat

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ The Lake กัลปพฤกษ์ – วุฒากาศ จาก Property Perfect ตั้งอยู่ติดถนนกัลปพฤกษ์ ใกล้ถนนราชพฤกษ์ และใกล้ BTS วุฒากาศ เชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ที่ BTS บางหว้า และเชื่อมต่อไปรถด่วน BRT ที่ BTS ตลาดพลู รายล้อมไปด้วยร้านค้ารอบๆโครงการ

เดอะ เลค กัลปพฤกษ์ – วุฒากาศ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 15 อาคาร บนพื้นที่โครงการ 25 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 1,500 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 31.00-44.00 ตร.ม. ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวก ในโครงการมีให้ครบครัน ทั้งที่จอดรถ, โถงต้อนรับ, Club House 3 ชั้น, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ทะเลสาบและสวนหย่อม, ลิฟท์โดยสาร, Access Card Control, กล้องวงจรปิดภายในโครงการ ที่จอดรถ ประมาณ 40% ไม่รวมซ้อนคัน และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมงในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.

พิกัด Google : 13.711231, 100.451149

ที่ตั้งโครงการ The Lake กัลปพฤกษ์ – วุฒากาศ ตั้งอยู่ติดกับถนนกัลปพฤกษ์ การเดินทางเข้าเมืองทำได้สะดวกออกจากโครงการมาก็วิ่งมุ่งหน้าเข้าถนนราชพฤกษ์ จากนั้นวิ่งผ่านแยกตากสิน ข้ามสะพานตากสินเข้าสาทร สีลม สามย่าน สยามได้เลย หรือตรงตามถนนสาทรไปออกสวนลุมพินีเข้าพระรามสี่ได้ มีทางด่วนให้ขึ้นแถวนี้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการจราจรติดขัด ยิ่งตรงบริเวณคอขวดก่อนขึ้นสะพานตากสิน คนอยู่แถวนี้น่าจะทราบกันดี แต่ถ้าเป็นช่วงโล่งๆก็เข้าเมืองได้สบายเลยครับ

ถ้าจะออกนอกเมือง เส้นกัลปพฤกษ์มาเชื่อมถนนกาญจนาภิเษกเชื่อมาออกเส้นเพชรเกษม พุทธมณฑล วิ่งออกต่างจังหวัดลงไปทางใต้ได้เลย หรือเลยไปอีกเป็นโซน บางใหญ่ ปทุมธานี หรืออีกฝั่งมาเชื่อมกับถนนพะราม 2 บางขุนเทียน สุขสวัสดิ์ หรือข้ามฝั่งมาโซนสมุทรปราการ บางนาตราด ถ้าไปใช้เส้นราชพฤกษ์จะไปเชื่อมเพชรเกษม พระราม 5 นครอินทร์ รัตนาธิเบศร์

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ออกมาหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์อยู่ติดด้านหน้าทางเข้าโครงการ มีรถสองแถว วิ่งผ่านไปมา ตัวโครงการมีบริการรถตู้รับ-ส่งที่ BTS วุฒากาศ เวลา 6.00 – 11.30 น. และ 15.30 – 22.00 น.

โดยตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS วุฒากาศประมาณ 2.5 กม. ห่างจาก BTS บางหว้าประมาณ 4.3 กม. ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างน่าจะเปิดใช้ได้อีกไม่นานครับ ถ้านั่ง BTS ไปก็สถานีเดียวเท่านั้น หรือจะมาใช้บริการ BRT ถ้าจะไปโซนพระราม 3 ใกล้สุดเป็น BRT ราชพฤกษ์ ห่างจากโครงการประมาณ 3.4 กม.

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่ารอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย และพื้นที่ว่างเปล่า ตัวพื้นที่โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ของ Property Perfect ด้านหน้าอยู่ติดกับถนนกัลปพฤกษ์ มี Metro West Town เป็นคอมมูนิตี้มอลล์มีร้านค้า ร้านอาคาร ธนาคาร สถาบันสอนพิเศษ ถัดเข้าไปเป็น Metro Park สาทร เฟส 1 และ 2 และมีโครงการทาวน์โฮม และด้านในสุดเป็นพื้นที่โครงการ The Lake กัลปพฤกษ์ – วุฒากาศ

การเดินทางวันนี้เริ่มจากบนถนนสาทรใต้มุ่งหน้าไปสะพานตากสิน จากนั้นข้ามสะพานตากสินเข้าถนนกรุงธนบุรี ผ่านแยกตากสินเข้าถนนราชพฤกษ์ จากนั้นขับตรงไปตามป้ายถนนกัลปพฤกษ์ พอเข้าถนนกัลปพฤกษ์ขับตรงไปกลับรถตรงแยกกำนันแม้น จากนั้นก็ตรงไปจนถึงทางเข้าโครงการ จากนั้นเข้าซอยทางเข้าโครงการไปอีกประมาณ 400 ม.ก็จะเจอทางเข้าโครงการครับ

สรุปการเดินทาง ถนนสาทรใต้ > ถนนกรุงธนบุรี > ถนนราชพฤกษ์ > ถนนกัลปพฤกษ์ > กลับรถใต้สะพาน (แยกกำนันแม้น) > The Lake กัลปพฤกษ์ – วุฒากาศ

เริ่มจากถนนสาทรใต้มุ่งหน้าไปสะพานตากสิน ซ้ายมือเป็นอาคาร Q.House

จากนั้นจะเจอ Smooth Life Tower ขวามือ ส่วนซ้ายมือเป็น Thai Wah Tower ขับตรงไปครับ

จากนันเราจะมองเห็นโครงการมหานครตรง BTS ช่องนนทรี เป็นอาคาร(สร้างเสร็จ)ที่สูงที่สุดในไทยตอนนี้ เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

จากนั้นก็จะเจอแยกสาทร-นราธิวาส ขับตรงไป ถ้าเลี้ยวขวาจะไปสีลม ถ้าเลี้ยวซ้ายไปพระราม 3

ตรงข้ามแยกมาก็จะเป็นถนนสาทรใต้ครับ

จากนั้นจะเจอ BTS ศุรศักดิ์ ซ้ายมือเป็นโครงการ The Bangkok ของ Land & House

เลยมาหน่อยจะเห็นโครงการ Rhythm สาทร ใกล้กันเป็นตึกร้างที่คนชอบขึ้นไปถ่ายรูปกัน แต่ตอนนี้น่าจะปิดไม่ให้ขึ้นแล้วครับ

จากนั้นเราก็ขึ้นสะพานตากสินกันต่อครับ

ขึ้นมาจะเจอ BTS สะพานตากสิน ขวามือมองเห็นโครงการ The River

แล้วก็ลงสะพานขับตรงไปอีก

ลงมาจะเจอ BTS กรุงธนบุรี ซ้ายมือเป็นโครงการ Ideo Mobi และ Ideo สาทร-ตากสิน ติดกันเป็นอาคารไทยศรี ตอนนี้เราอยู่บนถนนกรุงธนบุรีครับ

เลยมาอีกเป็น BTS วงเวียนใหญ่ ซ้ายมือมีโครงการ The Room อยู่ติดสถานีเลย

จากนั้นก็จะเป็น BTS โพธนิมิตร ตอนนี้เราอยู่บนถนนราชพฤกษ์

จากนั้นขับตรงขึ้นสะพานไปครับ

ขึ้นมาซ้ายมือจะเห็น BTS ตลาดพลู

เลยมาอีกเป็น BTS วุฒากาศ ขับตรงตามป้ายถนนกัลปพฤกษ์ไปอีก

การจราจรตอนนี้หนาแน่นหน่อย ขับตรงตามป้ายไปครับ

ตรงมาสักพักจะเข้าสู่ถนนกัลปพฤกษ์ จากนี้เราจะขับตรงไปกลับรถแถวซอยกำนันแม้น โครงการจะอยู่ฝั่งขวาครับ

ตามสองฝั่งทางจะเป็นอาคารพาณิชย์ และร้านค้าต่างๆ

จากนั้นจะเจอโครงการ Nirvana ซ้ายมือ

เลยมาอีกก็จะเห็น Metro West Town เป็นคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการครับ

ติดกับปากทางเข้าโครงการขวามือจะเป็นปั๊ม PTT

จากนั้นจะเจอร้านส้มตำเจ้าคุณซ้ายมือ

เลยมาอีกเป็น Tesco Lotus มีร้าน B-Quik ด้านใน

จากนั้นจะเป็น Makro ใกล้ๆกับ Lotus

เลยมาอีกเป็นศูนย์ Toyota

จากนั้นจะเจอป้ายกลับรถให้เตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ

ป้ายกลับรถบอกทางให้กลับรถใต้สะพานข้างหน้า

ซ้ายมือจะเห็นป้ายโครงการตั้งไว้แบบนี้

จากนั้นเราก็กลับรถได้เลยครับ ข้างหน้าจะเป็นแยกกำนันแม้น ซ้ายมือมีร้านค้า ร้านอาหาร

กลับรถมาก็จะมุ่งหน้าไปทางถนนราชพฤกษ์

เส้นนี้รถก็หนาแน่นเกือบทั้งวันครับ

ตามทางจะมีร้านกระจก ร้านอาหาร

จากนั้นจะเจอ City Connect เป็นคอมมูนิตี้มอลล์มีร้านอาหารด้านใน

ติดกันเป็นปั๊ม PTT ข้างหน้าก็เป็นทางเข้าโครงการครับ

และจะเจอป้ายโครงการเตรียมเลี้ยวซ้ายได้เลย

ถึงแล้วครับทางเข้าโครงการ อยู่ห่างจากจุดกลับรถมาประมาณ 2 กม.

จากภาพมุมสูงมองไปที่หน้าทางเข้าโครงการจะอยู่ระหว่างปั๊ม PTT และ Metro west town ด้านหน้าจะติดกับถนนกัลปพฤกษ์

ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับ Metro west town ซึ่งเป็นคอมมูลนิตี้มอลล์

ภายในมีร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สถาบันสอนพิเศษ ธนาคาร ฟิตเนส

มุมนี้เป็น Starbucks

กลับออกมาตรงทางเข้าโครงการ มองเข้าไปจะเห็นแบ่งเป็นสองฝั่ง

เลยเข้ามาจะเจอป้อมยามตรงหน้า ขวามือจะเป็นทางออกจาก Metro west town

มองไปทางขวาจะเห็นแบบนี้

กลับเข้ามาตรงทางเข้า ตรงทางเข้าจะแยกทางเข้า-ออกซ้ายขวา ตรงกลางเป็นป้อมยาม

แยกทางสำหรับลูกบ้านและผู้ที่มาติดต่อ ลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะเข้าออกทุกครั้ง ส่วนผู้ที่มาติดต่อต้องแลกบัตรก่อนครับ

ผ่านป้อมยามเข้ามาจะเจอสะพานข้ามคลองเล็กๆ ตรงเข้าไปครับ

ข้ามสะพานมาจะเจอที่จอดรถซ้ายมือ

เลยมาอีกจะมีป้ายรถตู้ที่ให้บริการไปรับ-ส่งที่ BTS วุฒากาศ เวลา 6.00 น. – 11.30 น. และ 15.30 น. – 22.00 น.

ผ่านป้ายรอรถตู้ก็ตรงตามทางเข้าไปอีกครับ

จากนั้นจะเจอทางเข้าโครงการ Metro Park สาทร เฟส 2 และ โครงการบ้านทาวน์โฮมด้านใน ถ้าเลี้ยวเข้าไปจะเจอ 7-11 ซ้ายมือก่อนครับ แต่เราจะตรงไปครับ

หันกับมาทางเดิมต่อตรงเข้าไปอีกครับ สองฝั่งทางจะเห็นรถจอดแบบนี้ครับ

เลยมาอีกหน่อยจะเห็นโครงการ Metro Park สาทร เฟส 1

เลยเข้ามาอีกจนเจอสะพานข้ามคลอง

ข้ามสะพานเข้ามาก็จะเจอประตูทางเข้าออกโครงการ The Lake กัลปพฤกษ์-วุฒากาศ จากปากทางเข้ามาประมาณ 400 ม. ครับ

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะเดิน ภายในตัวโครงการตรง Club House มีร้าน 7-11 , True Coffee หรือออกมาหน้าทางเข้ามีคอมมูนิตี้มอลล์ Metro West Town มีร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหารต่างๆ มีธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ฟิตเนส และสถาบันสอนพิเศษ เรียกได้ว่าค่อนข้างครบครันไม่ต้องออกไปไหนไกลก็ได้ ซึ่งระยะเดินมาประมาณ 400 ม. ตามสองฝั่งทางถนนกัลปพฤกษ์จะมีร้านค้า ร้านอาหารริมทางอยู่หลายร้านเลยครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมีโลตัส แมคโค บิ๊กซี ตรงเส้นรัชดาภิเษกมี The mall เส้นพระราม 2 มี Central พระราม 2 ตรงเส้นเพชรเกษมมีซีคอนบางแค The mall บางแค

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• Metro West Town : 400 ม.
• The mall ท่าพระ : 3.6 กม.
• Seacon บางแค : 6.2 กม.
• Big C กัลปพฤกษ์ : 7 กม.
• Makro Food Center : 7 กม.
• ตลาดเจริญทรัพย์ : 7.2 กม.
• Asiatique River Front : 7.3 กม.
• ตลาดบางแค : 7.3 กม.
• Tesco Lotus บางแค : 8.6 กม.
• The Mall บางแค : 10 กม.
• สำเพ็ง 2 : 10 กม.
• Makro บางบอน : 12 กม.
• Central พระราม 2 : 13 กม.

• รพ.พญาไท 3 : 3.6 กม.
• รพ.เพชรเกษม 2 : 6.3 กม.
• รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า : 6.5 กม.
• รพ.บางปะกอก 6 : 9 กม.
• รพ.บางมด : 11.2 กม.
• รพ.นครธน : 12 กม.
• รพ.พระราม 2 : 16.5 กม.

• รร.วัดราชโอรส : 5.0 กม.
• รร.ประทุมอนุสรณ์ : 6 กม.
• รร.นานาชาติบริติชโคลัมเบีย : 7.7 กม.
• รร.พิชญ์ชนก : 7.4 กม.
• รร.วัดนิมมานรดี : 8.3 กม.
• รร.มัธยมวัดสิงห์ : 8.6 กม.
• รร.รัตนโกสินทร์สมโภชน์บางขุนเทียน : 16 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• แยกจอมทอง : 4 กม.
• แยกตากสิน : 4.8 กม.
• แยกท่าพระ : 4.9 กม.
• แยกกำนันแม้น : 6.9 กม.
• แยกบางแค : 7 กม.
• แยกสาทร : 9 กม.
• แยกสีลม : 9.6 กม.
• แยกวิทยุ : 10.5 กม.
• ถนนราชพฤกษ์ : 1.3 กม.
• ถนนวุฒากาศ : 2.4 กม.
• ถนนเอกชัย : 4 กม.
• ถนนรัชดาภิเษก : 4 กม.
• ถนนเพชรเกษม : 4 กม.
• ถนนสุขสวัสดิ์ : 4.8 กม.
• ถนนสาทร : 7 กม.
• ถนนบางแค : 8.3 กม.
• ถนนสีลม : 9.6 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก : 10.5 กม.
• ถนนพระรามสี่ : 10.5 กม.

โครงการ

พื้นที่โครงการทางทิศเหนือติดกับ บ้านพักอาศัย ทิศใต้ติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ทิศตะวันออกติดกับโครงการ Metro Park เฟส 1 , 2 ส่วนทิศตะวันตกติดกับพื้นที่ว่างเปล่า และบ้านพักอาศัย

มาดูที่ตัวโครงการกันต่อ จากป้อมยามเข้ามาจะเจอทางแยกซ้าย ขวา อาคารพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ส่วนหน้าเลยแบ่งเป็น 15 อาคาร A , B , C , D , E , F , G , H , I , J , K , L , M , N , O ตัวอาคารทั้งหมดจะล้อมรอบ Facility มี Club House 3 ชั้น , สระว่ายน้ำ , ทะเลสาบ ทั้งหมดอยู่บนพื้นที่โครงการ 25 ไร่

ซูมให้ดูพื้นที่โครงการครับ

เริ่มกันตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้าโครงการ ทำเป็นซุ้มระแนงแยกทางเข้าออก ตรงกลางเป็นป้อมยาม

เลนนอกสำหรับลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะเข้าออก ส่วนเลนด้านในสำหรับผู้ที่มาติดต่อต้องแลกบัตรก่อน

ผ่านเข้ามาจะเจอถนนหลักภายในโครงการ มีต้นไม้ปลูกสองฝั่งทาง

มองกลับไปที่ทางเข้าโครงการจะเห็นแบบนี้

หันกลับมาทางเดิม เดินเข้ามาจะเจอทางแยกซ้ายขวา ถนนรถวิ่งสวนกันได้รอบโครงการ ตรงหน้าจะเห็นศาลพระพรหม

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา ผมจะพาวนไปทางขวาก่อนนะครับ

เลี้ยวขวามา เดินตรงไปครับ สองฝั่งทางสามารถจอดรถได้

เดินตรงเข้ามาต่อฝั่งซ้ายจะเป็นที่จอดรถ ขวามือจะเป็นอาคาร B และ A ด้านหน้าอาคารจะเป็นที่จอดรถ

มองไปฝั่งซ้ายจะเห็นที่จอดรถ ด้านหลังเป็นทะเลสาบ

รอบๆทะเลสาบจะเป็นทางเดินรอบๆ มีแนวพุ่มไม้และต้นไม้พร้อมไฟส่องทาง มอง เข้าไปจะเห็นอาคาร Club house

เดินเลยเข้ามาอีกจะมีทางเดินเข้าไปยังศาลาริมทะเลสาบ และมีทางเดินเชื่อมไปยัง Club House

ทางเดินเชื่อมรอบๆทะเลสาบ

เดินเข้ามาด้านในจะเจอทางเข้าไปยังท่าน้ำ

ขึ้นมาจะเห็นแบบนี้ครับ

มองออกไปจะเป็นทะเลสาบ และ Club House

มองไปฝั่ง Club House จะเห็น Pavilion ขวามือ

ออกมาตรงทางเดิน เข้ามาอีกจะเป็นทางเชื่อมเข้าไปยัง Pavilion ริมน้ำ ฝั่งขวาจะเป็นอาคารพักอาศัย จะมีทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารไปด้านหน้าอาคารได้

มองไปทางซ้ายจะเห็นแบบนี้ครับ

เข้ามาด้านใน Pavilion มีโต๊ะให้นั่ง และมีทางเดินเชื่อมไปยัง Club House

ทางเดินเชื่อมไปยัง Club house

มองไปฝั่งด้านหน้า

กลับออกมาตรงถนนด้านนอกกันต่อ

ตรงเข้ามาจะเจอทางเข้าที่จอดรถกลางแจ้ง

มองเข้าไปด้านใน ที่จอดรถตรงนี้อยู่ใกล้อาคาร O มากที่สุดครับ

กลับออกมาด้านนอกจะเจอทางเลี้ยววนไปทางซ้าย

เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นด้านหน้าอาคาร O (ซ้ายมือ) ทางเข้าอาคารจะอยู่ฝั่งนี้ครับ

อาคาร O เป็นอาคารที่มีทำเลดีที่สุดในโครงการครับ ทั้งใกล้ที่จอดรถที่ไม่ใช่หน้าอาคาร ใกล้ Club House และวิวของอาคารนี้จะมีให้เลือก 2 ฝั่ง คือวิวสวนนอกรั้วโครงการ และอีกฝั่งเป็นวิวทะเลสาบส่วนกลางครับ

ด้านหน้าอาคาร O

ช่องว่างระหว่างอาคารแต่ละอาคารจะทำเป็นสวนหย่อม มีทางเดินเชื่อมเข้าไปยังทะเลสาบตรงกลาง

เดินเข้ามาด้านใน ตรงนี้อยู่ระหว่างอาคาร O และ N ครับ ต้นไม้มีทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่มดูร่มรื่นดี

เดินเข้ามาด้านในก็จะเชื่อมกับทางเดินรอบทะเลสาบ ตรงหน้าเป็น Pavilion ที่ผมพาเดินมาเมื่อข้างต้น

มองไปทางซ้ายเป็นทางเดินเชื่อมไปที่จอดรถได้

มองไปทางขวาเป็นทางเดินเชื่อมไปทางด้านหน้า Club House ได้

กลับออกมาตรงถนนด้านนอก เดินเข้าไปต่อครับ สองฝั่งทางก็จะเป็นที่จอดรถไปตลอดริมทาง ซ้ายมือเป็นอาคาร N มีทางเข้าอาคารเช่นกัน

มองเข้าไปยังทางเดินเข้าอาคาร จะมีบันได และทางลาดสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็น

เดินเลยเข้ามาอีกข้างหน้าจะเจอป้ายบอกสำนักงานขายซึ่งอยู่ใน Club House

เดินเข้ามาซ้ายมือจะเป็นทางเข้า Club House

มองเข้าไปด้านในทางเข้า Club House เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปชม เราไปเดินรอบๆกันต่อ

หันกลับมาทางเดิม เดินตรงไปอีกครับ

เลยมาจะเจอทางแยกเลี้ยวซ้าย และตรงไปเป็นอาคาร M และ L ด้านใน

เลี้ยวซ้ายตามทางมาจะเป็นอาคาร K (ซ้ายมือ)

ถัดมาซ้ายมือก็จะเป็นอาคาร J และ I

อีกฝั่งเป็นรั้วโครงการสูง 2.5 ม.

เดินเลยมาอีกซ้ายมือเป็นอาคาร H

เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นอาคาร F ขวามือ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นอาคาร H

ผ่านอาคาร E มา จะเจอทางแยก ตรงหน้าเป็นอาคาร C เลี้ยวขวาไปเป็นอาคาร D

เลี้ยวขวาไปดูอาคาร D หน่อย ทางเข้าอาคาร D จะมีสะพานข้ามคลองเข้าไปอีก

มองจากบนสะพานจะเห็นอาคาร D แบบนี้ครับ โซนนี้น่าจะมีความเป็นส่วนตัวสุดเพราะมีอาคารเดียว รถจะไม่ค่อยวิ่งผ่านเหมือนโซนอื่น

ลงสะพานกลับลงมาฝั่งหน้าอาคาร C มองไปก็เป็นทางไปเชื่อมกับทางเข้า-ออกที่เราผ่านเข้ามา

เดินเข้ามาดูศาลาริมน้ำฝั่งนี้หน่อย

สระว่ายน้ำระดับจะสูงกว่าทะเลสาบแบบนี้

ภาพมุมสูงมองจากฝั่งด้านหน้าทางเข้าไปที่ส่วนกลาง จะเห็นทะเลสาบ สะว่ายน้ำ และ Club House

กลับมาตรงทางเข้าไปยัง Club House

เข้ามาจะเจอวงเวียนด้านหน้า Club House มองเข้าไปจะเจออาคารสูง 3 ชั้น ลูกบ้านจะได้ใช้สิทธิ์ละสองท่านต่อห้องระบุชื่อผู้ใช้ ฟิตเนสสมัครรายปี 9,800 บาท รายครั้ง 150 บาท

เดินเข้ามาจะเจอ 7-11

อีกจุดจะเป็นทางเดินเข้าไปยัง Club House

เดินขึ้นมาจะเห็นน้ำพุสองฝั่ง ตรงหน้าเป็นประตูทางเข้า

มองไปทางซ้ายมีทางเดินเชื่อมไปยัง 7-11

เดินเข้ามาด้านใน Cub House ส่วนแรกจะเป็นโซนนั่งเล่น ตรงหน้ามีร้าน True Coffee และบันไดขึ้นชั้นสอง

มีชุดโต๊ะนั่งไว้ให้ซ้ายมือ

ตรงหน้าจะเป็นร้าน True Coffee ซ้ายมือเป็นทางเดินเชื่อมออกไปชานริมทะเลสาบได้

เดินเข้ามาด้านในจะเจอชุดโต๊ะนั่งไว้รองรับ

มองไปอีกฝั่งเป็นส่วนของร้าน True มีประตูเดินออกไปยังชานริมน้ำ

เดินออกมาด้านนอกจะเจอชานริมน้ำแบบนี้

มองไปทางซ้ายจะเจอ 7-11 มีประตูอีกฝั่ง ตรงไปเป็นทางเดินเชื่อมมาจากศาลา ขวามือจะมีที่ให้นั่งเล่นได้

เดินมาจะเห็นทางเดินเชื่อมแบบนี้ครับ

มองกลับเข้ามาด้านใน

กลับเข้ามาด้านใน Club House มองไปอีกฝั่งเป็น สำนักงานขาย ห้องน้ำ และทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ

เดินมาซ้ายมือจะเป็นสำนักงานขาย ขวามือเป็นห้องน้ำแยกชาย หญิง ตรงหน้าเป็นประตูออกไปยังสระว่ายน้ำ

ห้องน้ำจะแยกชาย หญิง

ภายในห้องน้ำชาย

ส่วนแรกเป็นชุดอ่างล้างหน้า 2 ชุด

ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้ Locker

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ซ้ายมือเป็นโถปัสสาวะ

ภายในห้องอาบน้ำ

ภายในห้องน้ำ

ด้านในสุดมีห้องสตรีมและซาวน่า

ภายในห้องซาวน่า

ภายในห้องสตรีม

กลับออกมาหน้าห้องน้ำ เดินออกไปดูสระว่ายน้ำต่อ ประตูออกไปยังสระว่ายน้ำจะต้องใช้ Key card เข้าออก

เดินออกมาจะเจอสระว่ายน้ำ และทางเดินรอบๆ

มองไปทางซ้ายจะเจอสระเด็กทรงวงกลม

เดินเข้ามาด้านในจะมีพื้นที่นั่งริมสระ

มุมนี้เป็นที่ล้างตัว

ถัดเข้ามาจะเจอโต๊ะแล้วเก้าอี้นั่งใต้ต้นไม้

มีทางเดินเข้าไปยังสนามเด็กเล่น

อีกจุดเป็นพื้นที่โล่งสามารถทำกิจกรรมได้

เดินออกมาริมสระ

มองไปปลายสระอีกฝั่ง

เดินเข้ามาจะเจอเตียงนอนริมสระ

จากปลายสระว่ายน้ำมองออกไปด้านนอก สระว่ายน้ำพื้นจะสโลปลงไปเรื่อยๆ

สระว่ายน้ำอีกมุม

มองกลับไปที่ Club House

กลับเข้ามาด้านใน เดินขึ้นไปดูชั้นสองกันต่อ เดินข้ึนบันไดไปครับ

ขึ้นมาจะเจอโถงโล่งๆแบ่งฝั่งซ้าย ขวา

ฝั่งซ้ายเดินเข้ามาจะเจอโต๊ะพลู ขวามือเป็นห้องแอโรบิค ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ

ฝั่งนี้ห้องแอโรบิค

ภายในห้องจะเป็นโล่งๆแบบนี้

มีเครื่องเล่นวางไว้ด้านใน

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า

กลับออกมาด้านนอกอีกฝั่ง จะเจอโต๊ะปิงปองวางอยู่ 2 โต๊ะ

ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องฟิตเนส

ภายในห้องฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายมาครบครัน

ลู่วิ่ง 6 เครื่อง

เครื่องปั่นจักรยาน 3 เครื่อง

เครื่องปั่นจักรยานแบบเอนปั่น 3 เครื่อง

เครื่องเดินล้อหน้า 3 เครื่อง

ชุดยกน้ำหนัก 1 ชุด

เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ 1 เครื่อง

ดับเบลชุดใหญ่

เครื่องบริหารไหล่

ม้านั่งยกน้ำหนัก

เครื่องบริหาร 1 เครื่อง

เครื่องบริหารออกกำลังกาย

เครื่องบริหารไหล่

เชือกออกกำลังกายอเนกประสงค์

วิวจากห้องฟิตเนสมองออกไปจะเห็นทะเลสาบ

ขึ้นมาที่ชั้นสามชั้นบนสุดของ Club House จะเป็นสนามพัตกอล์ฟทั้งหมด

รอบๆมีต้นไม้แบบนี้

มองกลับไปอีกฝั่ง

วิวจากสนามพัตกอล์ฟมองลงมาจะเจอทะเลสาบ สระว่ายน้ำแบบนี้

มาดูส่วนของทางเข้าอาคารกันต่อ พามาดูอาคาร I ครับ ด้านหน้าทุกอาคารสามารถจอดรถได้

ด้านหน้าประตูทางเขา

ประตูเป็นกระจกบานเปิด 2 บาน เข้าไปจะเจอโถงโล่งๆ

Mail Box อยู่ผนังด้านนี้

ถัดเข้ามาจะเป็นซ้ายมือเป็นประตูเข้าโถงลิฟท์ ขวามือเป็นทางเดินไปเข้าห้องน้ำ

ประตูทางเข้าโถงลิฟท์ ส่วนนี้ต้องใช้ Key Card

เดินเข้ามาจะเจอโถงลิฟท์ มีลิฟท์ 2 ตัว ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 ครับ

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า

ตัวกดลิฟท์เป็นระบบสัมผัส

ตัวกดลิฟท์ด้านในแบบสัมผัสเช่นกัน

โถงทางเดินแต่ละชั้นพื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.

โถงทางเดินหน้าห้อง

ถ่ายภาพด้านหลังตัวอาคารให้ดูครับ

Unit Layout

โครงการมีห้องให้เลือกดังนี้

• 1 Bed ขนาด 31 ตร.ม.
• 1 Bed ขนาด 41 ตร.ม.
• 1 Bed ขนาด 44 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 41 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 44 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่พามาชมวันนี้มี 3 แบบ

• 1 Bed ขนาด 31 ตร.ม.
• 1 Bed ขนาด 41 ตร.ม.
• 1 Bed ขนาด 44 ตร.ม.

เปิดเข้าห้องมาเจอส่วนห้องครัวก่อน ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น และพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ด้านในสุดเป็นห้องนอนมีฉากกั้นบานเลื่อนให้ 2 บาน จากห้องนอนมีประตูเดินออกระเบียงอีกที เป็นระเบียงเล็กๆครับ ห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้

เริ่มจากประตูหน้าห้องบานสีขาว

มือจับประตูแบบคันโยกพร้อมระบบ Digital door lock แบบ 2 ระบบ

เปิดเข้ามาจะเจอส่วนครัวก่อน ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่นด้านใน ในสุดเป็นห้องนอน ขวามือเป็นห้องน้ำ พื้นห้องเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังได้วอลเปเปอร์ทั้งห้อง ฝ้าสูง 2.4 ม.

เดินเข้าห้องมาแล้วมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง ขวามือเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือเป็นชุดครัว

ด้านหน้าประตูห้องน้ำ

ภายในห้องนำ้แบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง

ชุดอ่างล้างหน้าของ Cotto มีพื้นที่วางของ

ถัดเข้ามาเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ไม่ได้แถมฉากกั้นมาให้ต้องติดเพิ่มเอง

ฝักบัวติดไว้ฝั่งนี้ครับ ปรับระดับสูงต่ำได้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.5 x 0.90 ม.

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้อง

ออกมาหน้าห้องน้ำเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว ได้เป็นบานเปิด 7 บานและลิ้นชัก 3 ชั้น ทุกบานมี Soft close

ได้เตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนของ Fagor อ่างล้างจานทรงวงกลมไม่มีที่พักจาน

ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่ว่างโต๊ะรับประทานอาหาร ได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น ด้านในเป็นห้องนอน

ได้โซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง

ระยะดูทีวีประมาณ 3.45 ม.

ได้โต๊ะวางทีวี เป็นลิ้นชัก 2 ช่อง

ด้านในเป็นห้องนอนมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน

ภายในห้องนอนจะได้โต๊ะ ตู้ เตียง ขวามือเป็นระเบียงมีประตูบานเปิด 1 บาน

ได้เตียงและที่นอนขนาด 5 ฟุต

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 88 ซม. ได้โต๊ะข้างเตียง 2 ฝั่ง

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.13 ม.

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 1.29 ม.

ปลายเตียงเป็นพื้นที่วาง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ทางโครงการแถมมาให้ด้วยครับ ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3 ม.

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อน 2 บาน

โต๊ะเครื่องแป้งเป็นลิ้นชัก 1 ช่อง

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed แอร์ติดผนังด้านบน 1 ตัว ขวามือเป็นประตูระเบียง

วิวจากห้องนี้มองออกมาจะเห็นทะเลสาบ และสระว่ายน้ำครับ

ประตูระเบียงเป็นแบบบานเปิด 1 บาน

เปิดออกมาเจอระเบียงขนาด 1 x 0.90 ม. พื้นที่ไว้วางราวตากผ้าเล็กๆได้ มีระแนงบังทั้งหมด

ด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 1 ตัว

มองกลับเข้ามาด้านในจะเห็นแบบนี้ครับ

แบบที่สองเป็น 1 Bedroom ขนาด 41 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนโถงทางเดินก่อนสามารถวางตู้โชว์ ตู้วางรองเท้าได้ ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารในสุดเป็นระเบียงหลังห้อง ติดกันเป็นห้องครัวเป็นมุมเข้าไป เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว L มีหน้าต่างด้านในเปิดระบายอากาศได้ ส่วนห้องนอนจะอยู่อีกส่วน หน้าห้องนอนมีพื้นที่ไว้วางโต๊ะทำงาน หรือจะทำตู้ก็ได้ครับ

เดินเข้าห้องมาจะเจอโถงหน้าห้องน้ำก่อน ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ตรงเข้าไปด้านในเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารอยู่ติดกับระเบียงและห้องครัว ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน

เดินเข้าห้องมาและมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า ขวามือเป็นห้องนอน

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง สุขภัณฑ์ของ Cotto

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ไม่มีฉากกั้นให้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.66 x 0.90 ม.

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้องครับ

ออกมาหน้าห้องน้ำ ฝั่งนี้สามารถทำตู้หรือชั้นเก็บของได้ครับ

ถัดเข้าไปเป็นส่วนรับปนะทานอาหาร และห้องนั่งเล่น

ได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นห้องนอนครับ

วางโซฟาไว้มุมนี้ครับ

ระยะดูทีวีประมาณ 2.4 ม. ขวามือเป็นห้องครัว

ตู้วางทีวีเป็นบานเปิด 2 บาน และลิ้นชัก 2 ชั้น

ถัดไปเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน ซ้ายมือเป็นห้องครัว แอร์ติดเหนือประตู 1 ตัว

เปิดออกมาเจอระเบียงขนาด 2.41 x 0.89 ม.

ตรงระเบียงแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัว เป่าลมออกด้านนอก มีระแนงบังสายตา

วิวจากระเบียงห้องนี้จะได้วิวสวนด้านนอกรั้วโครงการแบบนี้ครับ

กลับเข้ามาด้านในกันต่อ

ส่วนครัวได้เป็นครัวเปิด ไม่มีประตูกั้น

ภายในห้องครัวได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวตามนี้เลย

Pantry เป็นตัว L

ได้เตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนของ Fagor

อ่างล้างจานทรงวงกลมไม่มีที่พักจาน

ติดกับเคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้าได้ครับ เดินระบบน้ำและไฟไว้ให้

หน้าต่างในห้องครัวเป็นบานเลื่อน 2 บาน เปิดระบายอากาศได้ และมีบาน Fixed เข้ามุมด้านใน

มองกลับออกไปจะเห็นแบบนี้ครับ

ออกมาตรงหน้าห้องนอน จะมีพื้นที่ไว้วางโต๊ะทำงานได้ครับ

ประตูทางเข้าห้องนอน

ภายในห้องนอนได้เตียง และตู้เสื้อผ้า พื้นห้องนอนเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

ได้เตียงขนาด 5 ฟุต

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 40 ซม.

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 95 ซม.

ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 48 ซม.

มุมหัวเตียงด้านในติดหน้าต่างมีพื้นที่เป็นช่องขนาด 1.28 x 1.28 ม.

ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าขนาด 3 บาน

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานเลื่อน 2 บาน และบาน Fixed ด้านล่าง แอร์ติดผนังฝั่งขวา 1 ตัว

แบบสุดท้ายเป็น 1 Bedroom ขนาด 44 ตร.ม. เข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อนเลย ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปมีพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น ส่วนนี้ใครจะกั้นทำเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ครับ ด้านในเป็นมุมรับประทานอาหารอยู่ติดระเบียง มุมฝั่งขวาเป็นห้องนอน

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนเลย ขวามือเป็นห้องน้ำ เข้าไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ในสุดเป็นส่วนรับประทานอาหารและระเบียงหลังห้อง ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน

เดินเข้าห้องมาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า ขวามือเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

ในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ไม่ได้แถมฉากกั้นให้

ฝักบัวติดไว้ฝั่งนี้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.49 x 0.90 ม.

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้อง

ออกมาหน้าห้องน้ำเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 4 บาน

ด้านล่างเป็นบานเปิด 4 บาน และลิ้นชัก 3 ชั้น

ได้เตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนของ Fagor

อ่างล้างจานทรงวงกลมไม่มีที่พักจาน

ถัดเข้ามาฝั่งขวามีพื้นที่เหลือไว้วางตู้โชว์ ตู้เก็บของได้ครับ ซ้ายมือเป็นส่วนห้องนั่งเล่น

มุมห้องนั่งเล่นตรงนี้สามารถกั้นฉากทำเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ครับ

ได้โซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 ม.

ชั้นวางทีวีเป็นลิ้นชัก 2

มองออกไปอีกฝั่ง จะติดทีวีไว้มุมฝั่งนี้ก็ได้ครับใครที่ชอบดูจอใหญ่ๆ หรือย้ายโต๊ะรับประทานอาหารมาไว้มุมนี้ก็ได้

ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร จัดไว้มุมหน้าห้องนอน ในสุดเป็นระเบียงหลังห้อง

ห้องนี้ได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน แอร์ติดเหนือประตู 1 ตัว

เปิดออกมาจะเจอระเบียงขนาด 2.41 x 0.89 ม.

ตรงระเบียงแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัว เป่าลมออกด้านนอก

วิวจากระเบียงห้องนี้ได้วิวสวนด้านนอกรั้วโครงการครับ

กลับเข้ามาด้านในกันต่อ ขวามือเป็นห้องนอนครับ

ภายในห้องนอนได้โต๊ะ ตู้ เตียง พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.75 ม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 62 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าเตียงเหลือประมาณ 77 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.6 ม. แอร์ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

ฝั่งด้านในวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

ได้ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน 2 บาน และโต๊ะเครื่องแป้ง

ราคา

• 1 Bedroom 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

จองพร้อมทำสัญญา 10,000 บาท

***โปรโมชั่นฟรีเฟอร์นิเจอร์

ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Lake กัลปพฤกษ์ – วุฒากาศ ตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัย และมีพื้นที่ว่างเปล่าพอสมควร ตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ของ Property Perfect ที่รวมโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านทาวน์โฮม และมีคอมมูนิตี้มอลล์ด้านหน้า รวมพื้นที่ทั้งหมด 86 ไร่ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินมีร้าน 7-11 และ True Coffee ในโครงการเลยสะดวกดี หรือเดินมาคอมมูนิตี้มอลล์ หรือ Metro West Town ห่างจากโครงการ 400 ม.มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ธนาคาร ฟิตเนส สถาบันสอนพิเศษ ตามสองฝั่งทางถนนกัลปพฤกษ์ก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกพอประมาณ หรือจะไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมีโลตัส แมคโค บิ๊กซี ซีคอนบางแค เดอะมอลล์บางแค เดอะมอลล์ท่าพระ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – การเดินทางค่อนข้างสะดวกเนื่องจากหน้าโครงการติดถนนหลักอย่างถนนกัลปพฤกษ์ เชื่อมไปออกเส้นราชพฤกษ์ และกาญจนาภิเษกได้ ถ้าจะเข้าเมืองไปสาทร หรือสีลมก็ใช้เส้นราชพฤกษ์ ไปเชื่อมกรุงธนบุรี ข้ามสะพานตากสินก็เข้าสาทรแล้วครับ จากนั้นจะต่อไปสีลม ราชดำหริ สยามก็สบายเลย หรือมาออกสวนลุมพระรามสี่ก็ได้ เส้นราชพฤกษ์อีกฝั่งไปเพชรเกษม บางแวก ถนนบรมราชชนนี ยาวไปพระราม 5 นครอินทร์ รัตนาธิเบศร์ ถ้าใช้เส้นกาญจนาภิเษกก็วิ่งไปออกเพชรเกษมได้ตรงเดอะมอลล์บางแคจากนั้นก็ไปพุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี ถ้าไม่เข้าเพชรเกษมก็เลยไปโซนบางใหญ่ บางบัวทอง แต่ถ้ากลับมาอีกฝั่งจะเป็นโซนบางขุนเทียน สุขสวัสดิ์ หรือข้ามฝั่งไปสมุทรปราการ ออกบางนาตราดได้

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ตัวโครงการมีบริการรถตู้รับ-ส่งที่ BTS วุฒากาศ แต่เสียค่าบริการครับโดยแบ่งเป็นช่วงเช้าและเย็น ตรงปากทางเข้าถนนกัลปพฤกษ์มีป้ายรถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์เรียกใช้บริการได้เลย Taxi ก็เรียกได้สะดวก ส่วนตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS วุฒากาศประมาณ 2.5 ม. ห่างจาก BTS บางหว้าประมาณ 4.3 ม. ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง – บางแค ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างตอนนี้ก็เห็นตัวสถานีแล้ว คงจะเปิดให้ใช้ได้อีกไม่นานคัรบ หรือถ้าจะใช้ BRT ห่างจาก BRT ราชพฤกษ์ประมาณ 3.4 กม.

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวอาคารออกแบบบนพื้นที่ 25 ไร่ รูปทรงสี่เหลี่ยมปกติ แบ่งอาคารมา 15 อาคาร ล้อมรอบ Facility แต่ละอาคารสูง 8 ชั้นเป็นยูนิตพักอาศัยทุกชั้นทั้งโครงการมี 1,500 ยูนิต ห้องพักอาศัยมีให้เลือกแบบ 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. , 41 ตร.ม. , 44 ตร.ม. แต่ละ Type ก็มีรูปแบบพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ห้องออกแบบมาโล่งดูไม่อึดอัด ฝ้าสูง 2.4 ม. วัสดุพื้นห้องได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นห้องนอน Type 41 และ 44 เป็นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังได้วอลเปเปอร์ ได้โซฟาพร้อมโต๊ะกลาง ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะรับประทานอาหาร ห้องครัวได้ชุดเคาน์เตอร์ บานตู้มี Soft close ให้ทุกบาน มี Hob & Hood ส่วน Sink ล้างจานได้แบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจาน ห้องน้ำสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto ไม่มีฉากกั้นส่วนเปียก

สิ่งอำนวยความสะดวก – ให้มาเยอะ และขนาดใหญ่พื้นที่ส่วนกลางขนาด 3 ไร่ นั่นก็เป็นผลจากจำนวนยูนิตที่เยอะ ตัว Club House มี 3 ชั้น ที่ชั้นล่างมีทะเลสาบและสวนล้อมรอบ มีทางเดินริมทะเลสาบ ศาลาริมน้ำไว้นั่งพักผ่อน หรือให้อาหารปลาได้ครับ ด้านใน Club House ชั้นล่างมี 7-11 และ True Coffee มีห้องน้ำแยกชายหญิง มีทางเดินเชื่อมไปริมทะเลสาบ และสระว่ายน้ำทรงฟรีฟอร์มระบบเกลือแบ่งสระเด็ก ริมสระมีพื้นที่นั่งเล่นใต้ต้นไม้ และมีพื้นที่โล่งไว้ทำกิจกรรมต่างๆได้ ที่ชั้นสองมีห้องแอโรบิค มีโต๊ะพลู โต๊ะปิงปอง และห้องฟิตเนสที่วางเครื่องออกกำลังกายมาอย่างครบครับ และที่ชั้นสามจะเปิดโล่งไม่มีหลังคา จะเป็นสนามพัตกอล์ฟ ลิฟต์โดยสารมีอาคารละ 2 ตัว ส่วนที่จอดรถจะจอดได้ที่หน้าอาคารทุกอาคาร และมีที่จอดแยกอีกจุด ทั้งโครงการจอดได้ 40% ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1375

Website : http://www.pf.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

คอนโด เดอะ ซีเล็คเต็ด เกษตร-งามวงศ์วาน บาย แอล.พี.เอ็น The Selected Kaset-Ngamwongwan By L.P.N

The Selected เกษตร-งามวงศ์วาน By แอล.พี.เอ็น จาก L.P.N. Development ตั้งอยู่บนถนนงามวงศ์วาน ระหว่างแยกเกษตรนวมินทร์ (มุ่งสู่ถนนวิภาวดี-รังสิต) และแยกบางเขน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์, รร.สารวิทยา, รพ.เมโย, รพ.เปาโล เกษตร และ ทางยกระดับอุตราภิมุข

เดอะ ซีเล็คเต็ด เกษตร-งามวงศ์วาน บาย แอล.พี.เอ็น เป็นคอนโด High Rise 20 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ ประมาณ 2 ไร่เศษ ห้องพักอาศัยรวม 310 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 24.00-40.50 ตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จ ก.ย. 2561

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องเรียนรู้, ลานอเนกประสงค์, ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม, สนามสตรีทบาส, สวนอินฟินิตี้, ที่จอดรถ, ลิฟท์โดยสาร, ประตูคีย์การ์ด, กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 100,000 บาท/ตร.ม.

ที่ตั้งโครงการ

ถนนงามวงศ์วาน ระหว่างแยกเกษตรนวมินทร์ (มุ่งสู่ถนนวิภาวดี-รังสิต) และแยกบางเขน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สำนักงานขายโทร : 02-561-1700

Call Center : 02-698-6888

Website : http://www.lpn.co.th/

ไอดีโอ คิว วิคตอรี Ideo Q Victory คอนโดใหม่ ติด BTS ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการ “Ideo Q Victory“ คอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ฯ แล้วพบกันเร็วๆนี้

ผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับข้อมูลและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่นี่

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th/

บลอสซั่ม คอนโด แอท แฟชั่น บียอนด์ Blossom Condo @ Fashion Beyond

Blossom Condo @ Fashion Beyond จาก Siamese Asset ตั้งอยู่ติดถนนรัชดา-รามอินทรา (ซอยรามอินทรา 64) แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ และ เดอะ พรอมานาด เดินทางสะดวกติดถนนตัดใหม่ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก และ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (โครงการในอนาคต)

บลอสซั่ม คอนโด แอท แฟชั่น บียอนด์ เป็นคอนโด High Rise 19 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ 2-1-13.4 ไร่ ห้องพักอาศัยจำนวน 450 ยูนิต + ร้านค้า 3 ยูนิต มีห้องห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 24.77-51.84 ตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จ มิ.ย. 2562

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำระบบเกลือ 2 สระ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ประตูคีย์การ์ด, ลฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ 35%, กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนรัชดา-รามอินทรา (ซอยรามอินทรา 64) แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม.

:: FLOOR PLAN ::

แปลนอาคารชั้น 1

แปลนอาคารชั้น 2

แปลนอาคารชั้น 3

แปลนอาคารชั้น 4

แปลนอาคารชั้น 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17, 19

แปลนอาคารชั้น 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18

แปลนอาคารชั้นดาดฟ้า

:: UNIT TYPE ::

TYPE 1A-1A : 25.40-25.52 sq.m.

TYPE 1A-7A : 33.94 sq.m.

TYPE 1A-3 : 25.51-25.66 sq.m.

TYPE 2A : 47.57 sq.m.

TYPE 2B : 51.65-51.84 sq.m.

TYPE 2C-1 : 41.75-42.00 sq.m.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 090-880-3955 (Thai & English)

E-mail : blossomcondo_fashion@siameseasset.co.th

Website : http://www.siameseasset.co.th

EP.816 รีวิวทำเล คอนโด โนเบิล อราวน์ อารีย์ Noble Around Ari ติดรถไฟฟ้า BTS อารีย์

สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราจะขอพาไปชมทำเลโครงการที่กำลังเป็นที่พูดถึงและกำลังจะเปิดตัวล่าสุดโครงการ “Noble Around อารีย์” กับการกลับมาอารีย์ ย่านคนชิคๆ ถิ่นเดิมของ Noble หลังจากห่างหายไปนาน เป็นโครงการคอนโด High Rise ซึ่งจะกลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในย่านนี้ ด้วยความสูง 52 ชั้น หรือสูงประมาณ 230 เมตร 1 อาคาร (+ 1 อาคารจอดรถ) มีทั้งหมด 552 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ 3 ไร่ พร้อม Facilities ครบครัน

เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อารีย์ ในระยะเพียง 90 เมตร และความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามอ่านต่อกันด้านล่างได้เลยค่ะ

โครงการใกล้เคียง

– คอนโด โนเบิล รีฟอร์ม อารีย์
– คอนโด โนเบิล รีดี อารีย
– คอนโด โนเบิล อราวน์ อารีย์
– คอนโด โนเบิล ไลท์ อารีย์
– คอนโด โนเบิล รีเฟลกซ์ อารีย์
– คอนโด เดอะ เวอร์ติเคิล อารีย์
– คอนโด ไซมิส ราชครู
– คอนโด เซ็นทริค อารีย์ สเตชั่น
– คอนโด เดอะ เทมโป้ พหล 2
– คอนโด เดอรูฟ พหลโยธิน
– คอนโด พรอม พหลโยธิน 2
– คอนโด ดี เมโมเรีย พหลโยธิน 8
– คอนโด อารีย์ เพลส
– คอนโด เดอะ ฟ้า อารีย์
– คอนโด เดอะ ซิกเนเจอร์ เรสซิเดนซ์
– คอนโด รอยัล ปาร์ค 3 อารีย์ – พหลโยธิน
– คอนโด เซ็นทริค ซีน อารีย์ 2
– คอนโด เดอะ ซิลค์ พหลโยธิน – อารีย์ 2
– คอนโด เลอริช แอท อารีย์ สเตชั่น
– คอนโด ดิ อารีย์
– คอนโด เดอะฟายน์ บาย ฟายน์โฮม อารีย์ 4 – พหลโยธิน
– คอนโด ชวนา เพลส
– คอนโด อดามาส พหลโยธิน – อารีย์ 4
– คอนโด ฟินน์ อารีย์
– คอนโด สวนบัว เรสซิเดนซ์ อารีย์ 1- ราชครู

ที่ตั้งโครงการ

534 ถนน ดินแดง 1 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400

พิกัด Google : 13.778109, 100.544206

โครงการ Noble Around อารีย์ ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระหว่างซอยพหลโยธิน 6 และ 8 ติดกับปั๊ม Caltex หรือตรงที่ของร้าน Kaffe by Library อารีย์ ในปัจจุบัน

อย่างที่รู้กันดีว่าทำเลโซนอารีย์นี้ จะมีความอุดมสมบูรณ์สูงและมีการเจริญเติบโตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆมาตลอด เพราะมีอาคารสำนักงานใหญ่ๆ และสถานที่ราชการหลายแห่ง ทำให้มีผู้คนเข้าออกย่านนี้กันให้พรึ่บ และยังมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์ใหญ่ๆอย่าง La Villa อารีย์ เป็นหลัก มีร้านเล็กร้านน้อยที่มีมากมายเพื่อรองรับประชากรโซนนี้ นอกจากนั้นความเด่นอีกอย่างคือมีร้านชิคๆ สวยๆ บรรยากาศดีๆ มากมายตามซอยย่อยมาเปิด ช่วยดึงดูดผู้คนจากย่านอื่นมาแถวนี้ด้วย จึงไม่แปลกที่โซนนี้จะเป็นที่หมายตาของใครหลายๆคน ถ้าให้เปรียบเป็นคาแรคเตอร์ก็คงจะประมาณหนุ่มสาววัยทำงานที่มีความมั่นคงในชีวิตระดับนึง มีไลฟ์สไตล์ที่สบายๆ เสพงานศิลป์เป็นครั้งคราวนั่นล่ะค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกแน่นอน ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินเส้นหลัก ที่สามารถออกจากโครงการวิ่งตรงยาวเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้เลย หรือกลับรถที่จุดกลับรถห่างจากหน้าโครงการไปประมาณ 160 เมตร แล้ววิ่งขึ้นเหนือไปจตุจักร ลาดพร้าวได้ แต่โดยรวมๆก็ยังต้องเผื่อเวลาการเดินทางกันบ้างเพราะแถวนี้บางเวลาก็รถติดพอสมควรเหมือนกันนะคะ

นอกจากนั้นถนนเส้นนี้ยังถูกขนาบข้างด้วยถนนพระราม 6 ที่มีทางด่วนศรีรัชและ ถนนวิภาวดีรังสิตที่มีทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ โดยทั้ง 2 เส้นนี้ก็มีซอยลัดให้ใช้เลี่ยงรถติดไปขึ้นทางด่วนด้วยค่ะ

เส้นทางลัดไปทางฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต และจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งขาออกเมือง สามารถออกจากโครงการแล้วเข้าซอยพหลโยธิน 2 จะช่วยเลี่ยงรถติดแถวลาดพร้าวและแยกสุทธิสารได้

ทางลัดฝั่งถนนพระราม 6 จะมี 3 เส้นทาง

1. สามารถใช้ซอยพหลโยธิน 5 เชื่อมไปออกปากซอยอารีย์สัมพันธ์ฝั่งถนนพระราม 6
2. ซอยเสนาร่วม เชื่อมกับซอยประดิพัทธ์ 4
3. ถนนประดิพัทธ์ ฝั่งวิ่งไปออกพระราม 6 รถจะไม่ค่อยติดเท่าฝั่งวิ่งเข้าสะพานควาย

จากซอยพหลโยธิน 5 ออกปากซอยอารีย์สัมพันธ์จะมีเส้นทางที่สามารถใช้วิ่งขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งขาเข้าเมืองได้ โดยจะสามารถใช้เส้นทางนี้วิ่งยาวไปได้ถึงอโศก, พระราม 9 หรือออกมอเตอร์เวย์ วิ่งออกเมืองยาวไปชลบุรีได้เช่นกันค่ะ

ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สะดวกไม่แพ้กัน โดยจุดเด่นเลยจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ออกทางออกที่ 2 ระยะห่างจากทางเข้าโครงการประมาณ 90 เมตร เรียกว่าเดินกันได้สบายๆ

ระหว่างทางตอนกลางคืนช่วงก่อน สาม ทุ่มยังเดินได้สบายๆ แต่ถ้าดึกกว่านั้นอาจจะเงียบๆหน่อย เพราะฝั่งนี้จะไม่คึกคักเหมือนฝั่งซอยอารีย์ค่ะ

รถสาธารณะอื่นๆจะมี ป้ายรถเมล์ใต้สถานีรถไฟฟ้า ระยะจากโครงการประมาณ 160 เมตร มีรถเมล์สาย 8, 26, 27ร, 28ร, 29, 34, 38ร, 39, 54, 59, 74ร, 77

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการสูงและส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะเดินถึงทั้งนั้น โดยความอุดมสมบูรณ์ที่เป็น Highlight ของโซนนี้คือ La Villa อารีย์ เป็น Avenue ที่ภายในมี Villa Market และร้านอาหารมากมายหลายประเภท ทั้ง ญี่ปุ่น, เกาหลี, อาหารไทย, ของหวาน ร้านดังๆก็มีบอนชอน, After You, กับข้าวกับปลา, Kyo Roll En เป็นต้น นอกจากนั้น ในช่วงเย็นยังมีซุ้มร้านขายของที่ผลัดเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆให้เลือกเดินดูของกันได้ไม่เบื่อเลยค่ะ

จุดเด่นอีกที่นึงคือในซอยอารีย์ (ซอยพหลโยธิน 7) ที่จะต้องเดินข้ามสะพานไปหน่อย ระยะจากหน้าโครงการก็ประมาณ 650 เมตร จะถึงหน้าปากซอยอารีย์ ฝั่งนี้จะเน้นอาหารแนว Street Food ราคาจะย่อมเยาว์กว่าใน La Villa และมีให้เลือกหลากหลาย เปิดกันตั้งแต่กลางวัน ถึงประมาณสองทุ่มก็เริ่มปิดร้านกันแล้ว แต่ใครนอนดึกก็ยังพอมีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารบางร้านที่เปิดดึกอยู่บ้างค่ะ จริงๆแล้วนอกจาก La Villa และซอยอารีย์ก็ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ อีกมากมายหลายร้านที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำร้านออกมาได้สวย บรรยากาศดีน่านั่งทั้งนั้นเลยค่ะ

ถึงแม้ย่านนี้จะเป็นย่านของคนชิค หลายคนอาจจะคิดว่าค่าครองชีพต้องสูงกว่าในโซนใกล้เคียง แต่แหล่งซื้อข้าวของเครื่องใช้ในราคาที่ย่อมเยาว์ก็มีเหมือนกันนะ คือร้านสหกรณ์พระนคร ด้านในจะมีร้านขายของอุปโภคบริโภคทั่วไปในราคาที่ถูกกว่าในวิลล่า และร้านขายของอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า หลายร้านค่ะ

สำหรับโรงพยาบาลที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงจะมีโรงพยาบาลพญาไท 2 ซึ่งจะอยู่ค่อนมาทางสนามเป้า, โรงพยาบาลประสานมิตร, โรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล สะพานควาย,โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ปากซอยพหลโยธิน 2 ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต

การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนประดิพัทธ์บริเวณแยกสะพานควาย เลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงบริเวณสถานี BTS อารีย์ ผ่านสถานีมาประมาณ 90 เมตร จะเห็นโครงการ Noble Around อารีย์ ทางซ้ายมือค่ะ

สรุปการเดินทาง ถนนประดิพัทธ์ > แยกสะพานควาย > ถนนพหลโยธิน > BTS อารีย์ > Noble Around อารีย์

เราเริ่มการเดินทางกันบนถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าแยกสะพานควาย

เมื่อถึงแยกสะพานควายให้เราเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางฝั่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เลี้ยวขวามาแล้วเราจะเข้าสู่ถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านสถานีตำรวจบางซื่อ

เมื่อใกล้จะเข้าสู่โซนอารีย์เราจะเริ่มเห็นอาคารสำนักงานทางซ้ายมือ

ขับตรงมาเรื่อยๆผ่านสะพานสามเหลี่ยมสีขาว ข้ามแยกซอยอารีย์

ถึงบริเวณ BTS อารีย์ จะเห็น La Villa อารีย์ ทางซ้ายมือ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักของย่านนี้ค่ะ

เมื่อเราขับมาถึงบันไดสุดท้ายของตัวสถานี BTS ให้เราเตรียมชิดเลนซ้าย

ขับต่อมาประมาณ 90 เมตร เราจะถึงโครงการ Noble Around อารีย์ จะอยู่ก่อนถึงปั๊มคาลเท็กซ์

สำหรับพื้นที่โครงการปัจจุบันจะเป็นร้านกาแฟ Kaffe by Library อารีย์ ซึ่งในอนาคตพื้นที่ตรงส่วนนี้จะถูกรื้อออกทั้งหมดและเปลี่ยนเป็นทางเข้าไปสู่โครงการด้านในค่ะ

เข้ามาด้านในเพื่อเข้าไปดูสำนักงานขายจะมีป้อม รปภ. ทางขวามือ

ทางเข้าสำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือ เวลาเปิดทำการ 9.30 – 18.30 น.

บรรยากาศภายในสำนักงานขายตกแต่งด้วยในสไตล์ Modern Luxury ฝ้าเพดานสูงโปร่ง

ถัดเข้าไปพื้นที่ด้านในจะเป็นที่ดินของโครงการทั้งหมด

ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ

• ถนนประดิพัทธ์ : 1.7 กม.
• ถนนวิภาวดีรังสิต : 1.5 กม.
• ถนนสุทธิสาร : 1.8 กม.
• ถนนพญาไท : 4 กม.
• ถนนราชวิถี : 1.7 กม.
• ถนนดินแดง : 2.3 กม.
• ถนนศรีอยุธยา : 2.6 กม.
• อนุสาวรีย์ชัยฯ : 1.6 กม.
• แยกพญาไท : 4.2 กม.
• แยกดินแดง : 5 กม.

สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ

• BTS อารีย์ : 90 ม.
• La Villa อารีย์ : 160 ม.
• Pear Tower : 260 ม.
• ตลาดซอยอารีย์ : 650 ม.
• Aqua : 1.8 ม.
• The Seasons : 2.2 กม.
• ตลาดนัดจตุจักร : 2.9 กม.
• Big C สะพานควาย : 3.3 กม.
• Siam Center : 4.1 กม.
• Siam Paragon : 4.2 กม.
• ตลาด อตก. : 4.3 กม.
• Central ลาดพร้าว : 4.9 กม.
• ยูเนี่ยนมอลล์ : 6.2 กม.

• โรงพยาบาลพญาไท 2 : 1 กม.
• โรงพยาบาลประสานมิตร : 1.1 กม.
• โรงพยาบาลราชวิถี : 2.1 กม.
• โรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล : 3.2 กม.

รอบๆโครงการ

พื้นที่ติดโครงการโดยรอบจะมีฝั่งด้านหน้าโครงการกรือทิศตะวันตกที่จะมีอาคารสูงเด่นๆให้สังเกตได้ คือ Pearl Tower ที่เป็นจุดเด่นของวิวแถวๆนี้เลย ส่วนพื้นที่ติดโครงการ

• ทิศเหนือ ติดอาคารศูนย์ป้ายจราจรอัจฉริยะและอาคารสูงจะมี SME Bank Tower
• ทิศใต้ ติดกับปั๊ม Caltex และที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันออกติดกับบ้านเดี่ยวสูง 2 – 3 ชั้น
• ทิศตะวันตกติดถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งตรงข้ามถนนมีอาคาร Pearl Tower และอาคารสำนักงาน EXIM

พื้นที่รอบโครงการด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็น Pearl Tower อาคารสำนักงานใหม่ของพฤกษา

ติดกันจะเป็นอาคารสำนักงาน Exim ด้านล่างจะมี Lotus Express ขนาดย่อม

เก็บภาพมุมสูงมาให้ดูภาพรวมของอาคารสำนักงาน Exim และอาคาร Pearl Tower ของพฤกษาที่ถือเป็นวิวที่เป็นไฮไลท์ของโซนนี้ค่ะ

ติดกับพื้นที่โครงการฝั่งซ้ายมือจะเป็นปั๊มคาลเท็กซ์ ด้านในมีร้านกาแฟ Black Canyon และ B – Quick

เรามาเดินดูพื้นที่ทางขวามือกันต่อ

ติดกับที่ดินโครงการทางขวามือจะเป็นศูนย์ป้ายจราจรอัจฉริยะ

ถัดมาเป็นอาคารสำนักงานธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ

ด้านหน้าจะเป็นจุดกลับรถ ถ้าเรามาจากฝั่งอนุสาวรีย์ชัยก็สามารถกลับรถตรงจุดนี้เพื่อเข้าสู่โครงการได้ค่ะ

จากพื้นที่ใกล้ๆโครงการ แล้วเราจะเดินขึ้นไปดูทางเหนือกันต่อ โดยจะเริ่มจากฝั่งโครงการไปจนถึง La Villa อารีย์ และจะข้ามไปดูทางฝั่งซอยอารีย์กันต่อนะคะ และจากภาพมุมสูงนี้จะเห็นได้ว่าพื้นที่ใกล้เคียงทางฝั่งเหนือจะมีอาคารสำนักงานตั้งอยู่เยอะ เป็นผลให้มีพนักงานออฟฟิศในพื้นที่นี้เป็นจำนวนมาก เป็นที่มาของความอุดมสมบูรณ์ที่เราเห็นกันนี่เองค่ะ

เดินต่อมาอีกหน่อยจะเป็นอาคารพาณิชย์มี ชอป Adidas Outlet, คลินิกทันตกรรม

และธนาคารกรุงไทย

เดินเลยมาหน่อยจากหน้าโครงการประมาณ 160 เมตร ก็จะถึง La Villa อารีย์ ภายในจะมี Villa Market และร้านอาหารมากมายหลายร้าน

ด้านในมีเวิ้งที่เปิดให้ร้านค้าต่างๆ สับเปลี่ยนกันมาออกบูทด้วยค่ะ

ด้านหน้า La Villa จะมีป้ายรถเมล์แต่ปกติคนจะไปยืนรอรถเมล์ตรงเลยป้ายไปหน่อยค่ะ เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้จะมีมอเตอร์ไซค์มาจอดและทำให้รถเมล์จอดไม่ค่อยสะดวก

เราข้ามมาดูฝั่งตรงข้ามกันต่อ ถัดมาจากอาคารสำนักงาน Exim และ Mercedes Benz จะเป็นปั๊มคาลเท็กซ์อีกสาขาหนึ่ง

ติดกันจะเป็นอาคารปิยวรรณเป็นสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพ

ถัดมาหน่อยจะมีซอยเล็กๆ สั้นๆ ที่มีร้านอาหารมากมายหลายร้านให้เลือก

โดยซอยนี้จะสามารถเชื่อมเข้าไปด้านในซอยอารีย์ได้ค่ะ

ถัดจากซอยร้านอาหารที่เราเห็นเมื่อสักครู่ก็จะมีร้านค้าร้านอาหารแบบข้างทางเปิดมากมาย ส่วนใหญ่จะขายในราคาที่ย่อมเยา

สำหรับแหล่งซื้อสินค้าราคาถูกของโซนนี้ ก็จะอยู่ที่สหกรณ์พระนคร ทางซ้ายมือจะเป็นร้านขายของใช้อุปโภคบริโภคทั่วไป

เข้ามาด้านในสหกรณ์จะมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นศูนย์อาหาร

ส่วนด้านในชั้นล่างจะมีขายของจิปาถะแทบทุกชนิดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมืออุปกรณ์ช่าง, ของกุ๊กกิ๊ก, ร้านยา

ถัดเข้ามาด้านในอีกหน่อยก็จะมีร้านขายเสื้อผ้าเหมือนที่เหมือนที่สยามสแควร์ ใต้ลิโด้ แต่จะมีร้านน้อยกว่า ภายในจะติดแอร์เดินได้สบายเลยค่ะ

กลับมาที่ถนนหลัก พื้นที่ติดถนนพหลโยธินก่อนถึงซอยอารีย์ก็จะมีร้านอาหารให้เลือกมากมายหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านข้าวมันไก่, ร้านติ่มซำ, ร้านกาแฟ, ร้านขายเสื้อผ้าและ 7 – 11

ต่อมาเราเข้าไปดูในซอยอารีย์กันต่อค่ะ

โดยพื้นที่หน้าปากซอยจะมีสะพานข้ามถนนเป็นสะพานสามเหลี่ยมสีขาวแบบนี้

ภายในซอยอารีย์เป็นถนน 2 เลน ตรงไปจะไปทะลุออกเส้นพระราม 6 ได้ ความคึกคักส่วนใหญ่จะอยู่ช่วงต้นๆซอย และซอยย่อยแรกๆ มีซุ้มร้านอาหารติดถนน และมีรถโดยสารทั้งคิวพี่วินมอเตอร์ไซค์และรถตุ๊กๆ หลายคัน

คอนโดแรกทางขวามือที่เราเห็นต้นซอย คือคอนโด Noble Reform พหลโยธิน – อารีย์ ใต้คอนโดมีร้านอาหาร และร้านขนมดีๆหลายร้านเลยค่ะ

บรรยากาศภายในซอยจะมีร้านทั้งแบบเป็นตึกแถวและซุ้มขายของ

บรรยากาศในซอยย่อยบางส่วน

เราขึ้นมามองจากมุมสูงจะเห็นอาคารสำนักงานใหญ่ๆของย่านนี้ได้ครบ

คอนโด 168 สุขุมวิท 36 168 Sukhumvit 36

168 Sukhumvit 36 โครงการร่วมทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น จาก Advance Living Co. Ltd, Joint Venture : L’attrait Asia (Thailand) ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ, สวนเพลินมาร์เก็ต, Thonglor Town Center, Nihonmura, Rain Hill, K Village, Major เอกมัย และ เทสโก้ โลตัส พระราม 4

168 สุขุมวิท 36 เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ห้องพักอาศัย 105 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต ห้องพักอาศัย 105 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, 1 Bed, 2 Bed และ Penthouse ขนาดเริ่มต้น 27.42-125.00 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2562

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอเนกประสงค์, ร้านค้า, ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว, ประตูคีย์การ์ด, ที่จอดรถ, กล้องวงจรปิด, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 36 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Website : https://lattrait.asia/lp/168sukhumvit#lattrait

EP.820 รีวิว คอนโด ดิ เอดิเตอร์ สะพานควาย THE EDITOR SAPANKWAI

สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราจะขอพาไปอัพเดทโครงการที่เราเคยพากันไปรีวิวกันมาแล้วบ้าง กับโครงการ The Editor สะพานควาย จากค่าย พฤกษา เรียลเอสเตท คอนโดที่สร้างเสร็จมาแล้ว 2 ปี ตั้งอยู่ติด BTS สะพานควาย ในระยะเพียง 60 เมตร

The Editor สะพานควาย เป็นคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการประมาณ 1 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 240 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 27.21 – 52.19 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ (2558)

สิ่งอำนวยความสะดวก ในโครงการมีให้ครบครัน ทั้งที่จอดรถ, โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส + ห้อง Squash, สวน Rooftop, ลิฟท์โดยสารใช้ Key Card, Access Card Control, กล้องวงจรปิดภายในโครงการ ที่จอดรถ ประมาณ 50% รวมซ้อนคัน และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมงใน ราคาเริ่มต้น 4.7 ล้านบาท และราคาปล่อยเช่าต่อเดือนเริ่มต้น 17,000 บาท ค่ะ

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

แผนที่จากทางโครงการแสดงที่ตั้งโครงการติดกับ BTS สะพานควาย และถนนพหลโยธิน

โครงการ The Editor สะพานควาย ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าจตุจักรใกล้ BTS สะพานควายในระยะ 60 เมตร สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคัก มีคนเดินผ่านไปมาหน้าโครงการตลอด เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่และติดกับไปรษณีย์สามเสนในซึ่งเป็นไปรษณีย์สาขาที่มีคนใช้เยอะ และปิดให้ทำการช้ากว่าสาขาทั่วไป (เหมาะมากกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์) นอกจากนั้นยังเป็นถิ่นพระเครื่อง จะมีมาตั้งร้านกันจริงจังริมถนนทุกเสาร์อาทิตย์ และยังอยู่ใกล้กับซอยวัดไผ่ตันซึ่งเป็นซอยที่มีคนอยู่อาศัยดั้งเดิมและมีอพาร์ทเม้นท์หลายแห่งในซอยนี้ค่ะ

ทำเล BTS สะพานควาย จะตั้งอยู่ระหว่าง BTS สถานี อารีย์ และ BTS จตุจักร ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองมาก เนื่องจากเป็นทำเลที่เป็นจุดตัดแยกใหญ่ตัดกับถนนหลัก 3 เส้นคือ 1.ถนนพหลโยธิน 2.ถนนประดิพัทธ์ 3.ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีโครงการใหม่ๆขึ้นมามากมาย แถมขายได้ ขายดีซะด้วย เหตุผลหลักๆที่ทำให้ทำเลนี้เป็นที่น่าสนใจเพราะเป็นทำเลที่ขยับออกมาจากใจกลางเมืองหน่อยแต่ยังมีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งตัวทำเลสะพานควายเอง เรื่อยไปจนถึงทำเลข้างเคียงอย่างอารีย์ และยังเดินทางได้สะดวกเพราะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน คือ สถานีสะพานควาย ถัดไปอีก 1 สถานีก็จะมีสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดินคือสถานีจตุจักรนั่นเองค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกแน่นอนค่ะ เนื่องจากตัวโครงการเกาะอยู่กับถนนเส้นหลักคือถนนพหลโยธิน ที่สามารถใช้ขึ้นไปทางทิศเหนือไป หลักสี่ ดอนเมือง ยาวไปจนถึงรังสิต หรือใช้เส้นพหลลงทางทิศใต้ก็จะสามารถวิ่งตรงไปอนุสาวรีย์ เชื่อมกับพญาไทได้ค่ะ นอกจากเส้นพหลที่วิ่งขึ้นเหนือลงใต้โดยตรงแล้วยังมีถนนอีก 2 เส้นหลักๆที่อยู่ใกล้โครงการและสามารถใช้ได้สะดวกค่ะ คือ ถนนประดิพัทธ์ และถนนสุทธิสารวินิจฉัย

• ถนนประดิพัทธ์ ที่วิ่งยาวไปเชื่อมกับถนนทหารและถนนสามเสน สามารถใช้ลัดไปถนนราชวิถีเพื่อไปฝั่งธนฯได้โดยไม่ต้องรถติดแถวสวนสัตว์ดุสิตหรืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ นอกจากนั้นถนนประดิพัทธ์จะยังใช้ไปถนนพระราม 6 , ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ค่ะ
• ถนนสุทธิสารวินิจฉัย สามารถใช้วิ่งไปเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต, รัชดาภิเษก และลาดพร้าวได้(ลาดพร้าว 64) แต่รถเส้นนี้จะติดหน่อยและการใช้ถนนจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงเช้า – กลางวัน รถจะสามารถวิ่งขาออกไปเส้นวิภาวดีได้ 2 เลน พอเป็นช่วงค่ำๆก็จะสลับเป็นวิ่งเข้าเส้นพหลได้ 2 เลน เป็นต้นค่ะ

ส่วนทางด่วนรอบๆมีให้เลือกใช้ใกล้ๆ 2 เส้น คือทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์และทางด่วนศรีรัช จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งลงทิศใต้ที่ใช้วิ่งเข้าผ่านเมืองช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลงไปถึงเจริญราษฎร์และใช้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครใช้วิ่งไปพระราม 2 , พระโขนงได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 1.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 10 นาทีค่ะ

จุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ สามารถใช้วิ่งไปดอนเมือง, รังสิตได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.7 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 15 นาที

ส่วนจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทล์เวย์ฝั่งลงทิศใต้ที่ใช้วิ่งลงมาเข้าราชเทวีได้ จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 4.7 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 20 นาทีค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ และแน่นอนเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สะพานควาย และสามารถนั่งไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินได้ที่ BTS สถานีหมอชิต 1 สถานีจาก BTS สะพานควาย

นอกจาก BTS แล้วก็สามารถเรียก Taxi ที่หน้าโครงการได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ หรือถ้าจะไปใกล้ๆก็มีคิวพี่วินอยู่บริเวณหน้าไปรษณีย์สามเสนใน (เดินจากโครงการไปประมาณ 50 เมตร) นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ใกล้ๆโครงการ 3 ป้าย โดยที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงบันไดทางขึ้น BTS อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 60 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 8, 8Air, 9ร, 26, 27ร, 28ร, 29, 34, 38ร, 39, 59 ค่ะ

เนื่องจากแต่เดิมพื้นที่แถวนี้นั้นจะเป็นชุมชนดั้งเดิมที่คึกคักมานานแล้ว ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ก็ยังคงเยอะอยู่รอบๆบริเวณเลย โดยคาแร็คเตอร์ที่เด่นๆของย่านนี้ที่เราจะเห็นว่าค่อนข้างแปลกกว่าทำเลในเมืองย่านอื่นๆ คือแถวนี้จะเป็นถิ่นของร้านเก่าๆ ทั้งร้านขายเสื้อผ้า เสื้อสูท ร้านขายนาฬิกาแบบดั้งเดิม ร้านหนังสือเก่า และร้านพระเครื่องนั่นเองค่ะ โดยเฉพาะร้านพระเครื่องจะไม่ได้มีเฉพาะพระเครื่องเท่านั้น แต่พวกของเก่าอย่างเหรียญ นิตยสารเก่าๆ หรือเครื่องประดับเก่าๆ ก็มีมาวางขายเป็นในลักษณะของการตั้งร้านริมฟุตบาท มีทุกวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบที่ใกล้โครงการจะมี 7 – 11 และ ในซอยวัดไผ่ตัน หรือลงไปทางใต้ก็จะมีหลักๆคือ Big C และเป็น Tesco Lotus Express (เปิด 24 ชม.) มีร้านค้า ร้านอาหารย่อยๆอยู่ทั่วไป ทั้งที่เปิดเป็นร้านแบบจริงจังและร้านข้างทางถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นบนถนนประดิพัทธ์ช่วงแยกสะพานควายเป็นอีกหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีชื่อเสียงแบบเงียบๆมานาน จะมีร้านอาหารทั้งคาวหวานที่เปิดตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นโซนใกล้เคียงอย่างอารีย์ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีร้านคาเฟ่น่ารักๆเพียบ และยังมี Villa Aree เป็น Community Mall ที่มีร้านอาหารชื่อดังด้านอยู่เยอะเลยค่ะ เช่น After You, กับข้าวกับปลา, Starbucks เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีซอย Aqua ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานมานี้ เป็นซอยสั้นๆ แต่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารดีๆหลายร้าน และยังมีร้านเช่าชุดราตรี และ Fitness ด้วยค่ะ

การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนประดิพัทธ์ บริเวณแยกสะพานควาย จากแยกสะพานควายเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร เมื่อขับมาจนถึง BTS ให้เตรียมชิดเลนซ้าย ตัวโครงการจะอยู่ติดกับไปรษณีย์สามเสนในค่ะ

สรุปการเดินทาง ถนนประดิพัทธ์ > แยกสะพานควาย > ถนนพหลโยธิน > BTS สะพานควาย > The Editor สะพานควาย

เริ่มการเดินทางกันบนถนนประดิพัทธ์ บริเวณแยกสะพานควาย จากแยกเราสามารถเลี้ยวขวาเพื่อไปทางอนุสาวรีย์ หรือตรงไปสุทธิสารได้ ส่วนการเดินทางวันนี้เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าไปทางจตุจักรกันค่ะ

เลี้ยวซ้ายมาแล้วเราจะเข้าสู่ถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร ผ่าน Big C สะพานควาย ทางขวามือ

ตรงมาอีกหน่อยผ่านซอยโรงหนังเก่า ระหว่างทางเราจะเห็นความคึกคักของผู้คนตลอด โดยเฉพาะช่วงเย็น

ขับตรงมาเรื่อยๆเราจะเห็น BTS สะพานควาย ให้เราเตรียมตัวเข้าเลนซ้าย

ขับมาใต้ตัวสถานี BTS สะพานควาย เราจะเห็นไปรษณีย์สามเสนในทางซ้าย

ติดกับไปรษณีย์สามเสนในก็จะเป็นตัวโครงการ The Editor สะพานควายแล้วค่ะ

ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ

• แยกสะพานควาย 500 ม.
• แยกกำแพงเพชร 700 ม.
• ถนนสุทธิสาร 1.4 กม.
• ถนนประดิพัทธ์ 1.4 กม.
• ถนนพระราม 6 2.2 กม.
• แยกสะพานสุทธิสาร 2.4 กม.
• ถนนรัชดาภิเษก 4.2 กม.

สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ

• BTS สะพานควาย : 60 เมตร
• BTS อารีย์ : 1.6 กม.
• บิ๊กซี สะพานควาย : 250 เมตร
• เซ็นเตอร์วัน : 3.5 กม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 2.5 กม.
• ยูเนี่ยน มอลล์ : 2.5 กม.
• ตลาด อ.ต.ก. : 600 เมตร
• ตลาดนัดจตุจักร : 600 เมตร

• ร.พ.พญาไท 2 อินเตอร์เนชันแนล : 2.8 กม.
• ร.พ.ราชวิถี : 3.5 กม.
• ร.พ.เปาโล เมมโมเรียล : 200 เมตร
• ร.พ.ทหารผ่านศึก : 3.2
• ร.พ.ประสานมิตร : 1.1 กม.
• ร.พ.วิชัยยุทธ : 3.1 กม.

• ร.ร.สามแสนวิทยาลัย : 2.8 กม.

• สถานีขนส่งหมอชิต 2 : 2.2 กม.
• ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ : 700 เมตร

รอบๆโครงการ

รอบๆโครงการจะมีความคึกคักสูง มีทั้งที่อยู่อาศัยแต่ตั้งเดิมจำพวกบ้านเดี่ยวและอพาร์ทเมนท์ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Low Rise หรือไม่เกิน 8 ชั้น จึงไม่มีผลกับวิวของโครงการค่ะ นอกจากนั้นรอบๆยังอุดมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง Tesco Lotus Express, Big C, Boots, รพ.เปาโล, ไปรษณีย์สามเสน

• ทิศเหนือจะติดกับตึกแถว สูง 4 – 5 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับไปรษณีย์สามเสนใน
• ทิศตะวันออก ติดกับถนนพหลโยธิน และ BTS สะพานควาย
• ทิศตะวันตก ติดกับซอยพหลโยธิน 15 ในซอยมีมีทาวเฮ้าส์และบ้านเดี่ยว สูง 2 – 3 ชั้น

เรามาเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันต่อ เริ่มจากด้านหน้าโครงการเลย จะติดกับถนนพหลโยธิน

ติดกับโครงการฝั่งซ้ายมือเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 5 ชั้น ด้านล่งเปิดเป็นสำนักงานบริษัทที่รับพิมพ์งานต่างๆ

ติดกันจะมีซอยย่อย ด้านในเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 – 5 ชั้นทั้งหมด มีทั้งที่เปิดเป็นหอพัก, บริษัท, Hostel และร้านต่างๆ หน้าปากซอยมีร้านปั๊มกุญแจด้วยค่ะ

ถัดมามี 7- 11 เป็นร้านสะดวกซื้อที่ใกล้โครงการที่สุด

ถัดมาเป็นซอยวัดไผ่ตัน ที่ด้านในเป็นชุมชน มีของกินขายเยอะช่วงเช้าและเย็น

ด้านหน้าจะมีสะพานลอยข้ามฝั่ง

เราสามารถข้ามไปฝั่งตรงข้าม จะมีเป็นคอนโด Ideo Mix ด้านล่างมี Max Value ค่ะ

กลับมาที่หน้าโครงการ ฝั่งขวามือติดกับไปรษณีย์สามเสนใน

ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ค่ะ

และคิวพี่วิน พร้อมป้ายบอกราคาเสร็จสรรพ

ถัดจากไปรษณีย์มาจะเป็นตึกแถวที่เปิดเป็นร้านต่างๆ และบันไดทางขึ้นตัวสถานี BTS สะพานควาย เป็นบันไดธรรมดา ถ้าใครอยากใช้บันไดเลื่อนก็ต้องเดินต่อไปอีกหน่อยค่ะ

เดินต่อมาบริเวณใต้สถานีก็จะมีร้านนวดแผนไทยมากมายหลายร้าน

ติดกับเป็นร้านอาหารข้าวราดแกง และมีเมนูอื่นๆเช่น ขนมจีน วนๆมาเปลี่ยนค่ะ

หน้าร้านข้าวก็จะเป็นบันไดเลื่อนขึ้นตัวสถานี BTS

ฝั่งตรงข้ามจะมีร้าน Boots และ ด้านหลังมี Office Mate ขายอุปกรณ์สำนักงาน

ถัดมาอีกหน่อยมีบิ๊กซี สะพานควาย แต่ต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งนะคะ เป็นสาขาค่อนข้างใหญ่ มีเครื่องอุปโภคบริโภคครบครัน

ผ่านคอนโด Onyx จากแสนสิริ เป็นโครงการแรกๆในย่านนี้

ร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บผ้าก็มีนะ

เดินมาแปปๆก็ถึงสี่แยกสะพานควายแล้วค่ะ เราก็ยังเดินตรงต่อไปตามทาง

ผ่านซอยประดิพัทธ์ 25

ซึ่งภายในซอยจะมีตลาดสดเจ้าใหญ่อยู่ สามารถมาซื้อของทำอาหารได้ และถ้าเดินเข้าไปลึกๆจะมีหอพัก และอพาร์ทเมนท์มากมายหลายตึกเลยค่ะ

เดินผ่านซอยประดิพัทธ์ 25 มาหน่อย จะมีสะพานข้ามฝั่ง เราเดินขึ้นมาถ่ายรูปให้ดูสภาพแวดล้อมโดยรวมของพื้นที่แถวนี้ โดยถนนสายนี้ตอนเย็นๆค่ำๆหน่อยจะมีร้านอาหารข้างทางมาเปิดให้พรึ่บบ ทั้งคาวหวาน เลือกทานกันได้เพลินนเลยค่ะ

ตัวโครงการ

โครงการ The Editor สะพานควาย เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น ยูนิตพักอาศัย 240 ยูนิต บนที่ดิน 1 – 1 – 73 ไร่ ออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury การออกแบบตัวอาคารสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทาเข้ม ดูทันสมัยรูปทรงอาคารเป็นแท่งตรงๆมาตรฐาน มีห้องตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 27.21 – 45.91 ตร.ม. , 2 ห้องนอน 52.19 ตร.ม. และห้องชุดร้านค้า (2 ยูนิต)

ตัวผังโครงการชั้น 1 จะเห็นว่ามีทางเข้าออกโครงการ ทางเดียว คือ จากทางเข้าหลักหน้าโครงการ ติดกับถนนพหลโยธิน โดยบริเวณทางเข้าหลักของโครงการจะมีป้อมรปภ. พร้อมรั้วไม้กระดกสำหรับสแกนคนเข้าออก ที่จะมีรปภ. ประจำตลอด 24 ชม. เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอถนนหลักของโครงการ โดยถนนในโครงการนี้จะเป็น One Way นะคะ โดยจะต้องขับแบบวนขวารอบอาคาร ส่วนที่จอดรถจะทีช่องจอดเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 บริเวณด้านหลังอาคาร ส่วนที่จอดหลักจะอยู่ที่ชั้น 2 – 6 รวมจอดได้ประมาณ 50% (รวมซ้อนคัน) ถือว่าให้ที่จอดรถมากลางๆ

ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆในตัวอาคาร ด้านหน้าอาคารจะมียูนิตร้านค้า ด้านในอาคารจะมี Lobby ขนาดไม่ใหญ่ จากโถง Lobby จะสามารถเชื่อมต่อไปส่วนหลังอาคาร ซึ่งจะมี Mail Box, ห้องน้ำ, ห้องซักรีด

ส่วนโถงลิฟท์จะอยู่ต่อจาก Lobby โดยจะต้องใช้ Key Card เพื่อเข้าไปในโถงลิฟท์ และตัวลิฟท์ก็จะเป็นลิฟท์แบบล็อคชั้น ภายในมีลิฟท์ทั้งหมด 3 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัวและ Service Lift 1 ตัว

เรามาดูภายในโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากทางเข้าโครงการติดกับถนนพหลโยธิน มีรั้วกั้นไม้กระดกแยกทางเข้าและออกใช้ระบบ Key Card Access

ฝั่งขวามือจะมีป้อมรปภ.ที่จะมีรปภ.ประจำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วน Visitors จะต้องแลกบัตรเพื่อเข้าโครงการค่ะ

เข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนภายในโครงการซึ่งจะเป็นถนนวันเวย์ โดยจะต้องขับวนทางขวาของอาคารค่ะ

เข้ามาในถนนหลักทางขวามือจะเห็นพื้นที่ Drop Off ผู้โดยสารทางซ้าย ส่วนทางขวาจะเป็นส่วนของสวนหน้าโครงการ

ในตัวโครงการจะมียูนิตที่เป็นยูนิตร้านค้า 2 ยูนิตปัจจุบันเปิดเป็น Pyp คลินิกเวชกรรม และ Zense Clinic

พื้นที่โถงนอกอาคารจะมีเก้าอี้นั่งรับรอง 2 ชุด

สวนหน้าโครงการจะใช้ต้นสนสูงใหญ่เพื่อช่วยบังสายตาจาก BTS ตัวสวนยังคงร่มรื่นดีพอๆกับตอนที่ตึกพึ่งเสร็จเลยค่ะ

ทางเดินที่ใช้เดินออกไปยังประตูทางเข้ารองนอกโครงการ

ในสวนจะมีทางเดินสั้นๆ

ชั้น 2 ของอาคารจัดเป็นยูนิตร้านค้า ปัจจุบันเปิดเป็นร้าน zense คลินิก

เราไปเดินดูรอบโครงการและที่จอดรถกันต่อ

เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอทางขึ้นเข้าที่จอดรถที่ชั้น 2 ทางขวามือ ส่วนทางเข้าทางซ้ายมือที่เราเห็นจะเป็นทางเข้าไปยังส่วนห้องน้ำด้านในอาคาร

ที่จอดรถด้านบนจะถูกแบ่งทีละครึ่งชั้น

ทุกชั้นจะมีทางเข้าสู่โถงลิฟท์

พื้นที่โดยรวมบนชั้นจะจอดรถส่วนที่เป็นที่จอดรถเต็มชั้น

ช่องจอดรถมีลูกระนาดกันรถไหล ส่วนผนังชั้นจอดรถก็จะเป็นแบบโปร่งให้อากาศถ่ายเทได้

ออกมาด้านนอกเดินไปดูรอบโครงการกันต่อ โดยถนนในโครงการจะปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ตลอดทาง พื้นที่ติดรั้วก็จะปลูกต้นไม้สีเขียวร่มรื่น

ด้านหลังโครงการจะมีที่จอดรถรับรองแต่จอดได้ไม่กี่คันค่ะ

พื้นที่ด้านข้างโครงการอีกฝั่ง

ต่อมาเราเข้ามาดูในตัวอาคารกันต่อ เริ่มจากส่วน
Lobby ตัวโถง Lobby ของโครงการนี้จะไม่ค่อยใหญ่มากนะคะ แต่ว่าจัดออกมาได้น่านั่ง มีพื้นที่แยกส่วนเคาน์เตอร์นิติบุคคลและพื้นที่นั่งรับรองแขก

ติดกับโถงรับรองทางฝั่งขวามือจะเป็นโถงลิฟท์

ต้องใช้ Key Card แตะเพื่อเข้าไปด้านในค่ะ