คอนโด เคนซิงตัน พหล-เกษตร Kensington Pahol-Kaset เริ่ม 1.75 ล้านบาท

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “Kensington พหล-เกษตร” คอนโดใหม่ ใกล้ที่ทำงาน ใกล้รถไฟฟ้า เร็วๆนี้ ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษที่นี่ คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 062-602-9000

WEBSITE : http://kensington.origin.co.th/pahol/

EP.218 รีวิว คอนโด คิว ชิดลม-เพชรบุรี Q Chidlom-Phetchaburi

สวัสดดีครับวันนี้ผมจะพามาชมโครงการ Q ชิดลม – เพชรบุรี คอนโด High-Rise สูง 42 ชั้น พร้อมชั้นลอยบนชั้น 42 จำนวน 354 ยูนิต โดยการออกแบบตกแต่งทั้งภายในและภายนอกที่ล้ำสมัย บนทำเลย่านพณิชยกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ใกล้แยกประตูน้ำ และถนนชิดลม ห่างจาก BTS สถานีชิดลมประมาณ 800 เมตร ซึ่งเป็นโครงการแรกของอนันดาที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าเกิน 300 เมตร รายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ระดับไฮเอ็นด์ อาทิ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ศูนย์การค้าเกษร พลาซ่า, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 5.5 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. 10400 (ตัวสำนักงานขายจะอยู่ตรงสี่แยกราชเทวี ติดกับ BTS ราชเทวี)

การเดินทาง

โครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรีฝั่งไปราชเทวี เส้นทางการเดินทางวันนี้เริ่มกันตรงที่ BTS ชิดลมออกทางออกหมายเลข 5 เข้าเซ็นทรัลชิดลม ลงมาออกประตูด้านข้างฝั่งถนนชิดลมแล้วเดินย้อนขึ้นไปถนนเพชรบุรี เลี้ยวซ้ายผ่านอาคารกิจศิริ และตึก KPI ก็จะถึงพื้นที่โครงการครับ ระยะทางจาก BTS ถึงโครงการประมาณ 800 ม.(ตามลูกศรสีเหลือง-แดง)

จากนั้นผมจะเดินจากพื้นที่โครงการไปทางแยกประตูน้ำเลี้ยวซ้ายผ่านเซ็นทรัลเวิลด์ และ Big C ราชดำริ ถึงแยกราชประสงค์เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าเกษรพลาซ่า ผ่าน TOT และการไฟฟ้านครหลวง ไปสิ้นสุดที่ BTS ชิดลมครับ(ตามลูกศรสีน้ำเงิน-ชมพู)

การเดินทางโดยรถส่วนตัวถือว่าสะดวกอยู่ติดถนนเพชรบุรี ถ้าเลี้ยวซ้ายออกจากโครงการจะผ่านสี่แยกประตูน้ำ ไปออกราชเทวี อุรุพงษ์ พญาไท อนุสาวรีย์ชัย์ฯ ดินแดงทะลุออกวิภาวดีรังสิต หรือถ้าจะมาฝั่งสยาม ก็มาออกราชดำริ เจอแยกราชประสงค์ไปสีลม สยาม สามย่าน หรือไปอโศกได้ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาจากโครงการสามารถเลี้ยวเข้าถนนชิดลมได้ตรงมาทะลุหลังสวน เข้าซอยสารสินออกเส้นพระรามสี่ได้ หรือจะไปเพลินจิต อโศก ยิงยาวไปบางนาซึ่งใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิทและเพชรบุรี มีทางด่วนให้ขึ้นใกล้ๆกับแยกวิทยุ-เพชรบุรี ถือว่าสะดวกดีครับแต่อยู่แถวนี้ก็ต้องเผื่อเวลารถติดกันด้วยนะครับ เดี๋ยวขออธิบายการใช้ถนนหน่อยครับ ถนนชิดลมเป็น One Way มาจากเพชรบุรีไปแยกชิดลม ถนนวิทยุเป็น One Way วิ่งจากแยกเพลินจิตไปเพชรบุรี ดังนั้นถ้าเราวิ่งอยู่บนถนนเพลินจิตแล้วจะกลับโครงการต้องไปเข้าถนนวิทยุวิ่งออกเพชรบุรีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการครับ นอกนั้นก็เป็นเลนวิ่งสวนกันปกติ

การเดินทางโดยรถสาธารณะถ้าจะพึ่ง BTS ระยะเดินจากโครงการถึงสถานีชิดลม ประมาณ 800 ม. ไม่ถึงกับใกล้ครับระยะนี้มีเหงื่อยตกกันบ้าง แต่ถ้าเดินชิวๆไม่รีบก็พอได้ครับ อาจต้องพึ่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ครับ 20 บาทถึงสถานีชิดลมเลยเรียกได้หน้าโครงการ หรือด้านข้างแมนฮัตตันตรงซอยเพชรบุรี 32 ส่วนป้ายรถเมล์ฝั่งเดียวกับโครงการอยู่ห่างประมาณ 150 ม. หรือเดินขึ้นสะพานลอยหน้าโครงการข้ามฝั่งไปป้ายรถเมล์จะอยู่ใต้สะพานลอย มีรถหลายสายวิ่งผ่าน นอกจากนี้ยังมีแอร์พอร์ตลิ้งค์ โดยสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีราชปรารภครับระยะทางประมาณ 900 ม. ซึ่งระยะก็ใกล้เคียงกับ BTS ชิดลม นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปขึ้นจะสะดวกกว่า และยังใกล้กับระบบขนส่งทางน้ำ คือคลองแสนแสบต้นสายเริ่มตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า ไปสิ้นสุดที่วัดศรีบุญเรือง ซึ่งด้านหลังโครงการอยู่ติดกับคลองแสนแสบ โดยท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือชิดลมประมาณ 200 ม. และท่าเรือประตูน้ำประมาณ 350 ม. ส่วน Taxi ก็โบกเรียกได้ที่หน้าโครงการเลย จะเห็นได้ว่ามีตัวเลือกในการเดินทางหลายแบบเลยครับ

นอกจากนี้ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มมีแนวเส้นทางที่รองรับการเดินทางภายในเขตเมืองตามแนวตะวันออก-ตะวันตก โดยเริ่มจากตลิ่งชันปลายทางมีนบุรี ทำให้ช่วยเพิ่มตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีก 1 ทาง โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งผ่านบริเวณแยกประตูน้ำ ซึ่งมีสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีประตูน้ำ และสถานีปรารภ ผมคิดว่าถ้าก่อสร้างเสร็จพร้อมใช้งานอาจจะได้เห็นอะไรใหม่ๆเกินขึ้นอีก แต่ก็คงต้องรอกันอีกสักพักใหญ่ครับ

วันนี้เริ่มกันที่ BTS สถานีชิดลม

จากบนสถานีมองไปยังฝั่งถนนเพชรบุรีจะเห็น ตึกแมนฮัสตัน และตึก KPI ซึ่งในอนาคตถ้าโครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี สร้างเสร็จก็จะมองเห็นเช่นกันครับ ผมลองวางตัวโมเดลลงในภาพให้ดู ขนาดของตึกและความสูงอาจจะไม่ตรงเป๊ะนะครับ

เดินลงมาจะมีป้ายแยกย่อยบอกทางออกไปยังสถานที่ต่างๆ วันนี้ผมจะพาเดินไปทางถนนชิดลมครับโดยออกทางออกหมายเลข 5

เดินออกมาจะเจอทางเดินเชื่อมไปยังเซ็นทรัลชิดลม และ Mercury Ville

ผมยืนอยู่ตรงกับบริเวณแยกชิดลม มองออกไปทางขวาจะเห็น Mercury Ville ซ้ายมือ ขวามือคือโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ส่วนถนนที่เห็นคือถนนหลังสวนเป็นถนนวันเวย์ สามารถไปทะลุออกซอยสารสินซึ่งเป็นซอยเชื่อมระหว่างถนนวิทยุและถนนราชดำริ ในซอยนี้ก็มีร้านอาหารอร่อยๆอยู่หลายร้านเลยครับ

หันมาดูอีกฝั่งคือถนนชิดลมเป็นถนนวันเวย์เช่นกันครับ ซ้ายมือเป็นสำนักงานการไฟฟ้านครหลวง ขวามือเป็นเซ็นทรัลชิดลม เดี๋ยวผมจะพาเดินไปโครงการโดยผ่านถนนเส้นนี้แหละครับ

เดี๋ยวเราเดินเข้าไปในเซ็นทรัลชิดลมแล้วลงไปเดินข้างล่างกันครับ ปลายสุดทางเชื่อม BTS จะเป็นทางแยกซ้ายออกไปยังเซ็นทรัลชิดลม และทางขวาไป Mercury Ville

บริเวณทางเดินเชื่อมไปยัง Mercury Ville

ถ่ายถนนสุขุมวิทให้ดูครับ ซ้ายเซ็นทรัลชิดลม และขวา Mercury Ville

เราจะเดินผ่านเข้าไปในเซ็นทรัลชิดลมก่อนนะครับ ใครจะแวะซื้อของก่อนก็ตามสบายเลย เราสามารถเดินไปออกเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ได้อีกด้วย

จากนั้นลงมาที่ชั้นล่าง และเดินออกไปยังประตูฝั่งถนนชิดลมครับ

เดินออกมาจะเจอแบบนี้ ฝั่งซ้ายเป็นการไฟฟ้านครหลวง เราจะเดินสวนกับทางรถวิ่งย้อนขึ้นไปยังถนนเพชรบุรี

ผ่านเซ็นทรัลชิดลมมาจะเจอ อัลม่า ลิงค์ ขวามือ มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านหนัา นั่งไปถึงโครงการ 20 บาทครับ

จากนั้นจะเจอ อาคารวานนิสสาขวามือมี Maxvalu อยู่ในนี้

เลยมาหน่อยขวามือจะเจอปราณณาราเป็นคลินิกและสปา

ถัดมาเป็น Starbucks ครับ ห่างจากโครงการประมาณ 430 ม.

ฝั่งตรงข้ามมีร้านก๋วยเตี๋ยว ตอนเที่ยงๆพนักงานแถวนี้มาใช้บริการกันเยอะเลยครับ

กลับมาทางเดิมต่อ เลยมาจะเจอ Mcdonalds และมี Drive Thru เปิดตลอด 24 ชั่วโมงครับ ห่างจากโครงการประมาณ 400 ม.

จากนั้นจะเจอ โรงพยาบาลเจตนิน ขวามือ ฝั่งซ้ายมือมี 7-11 ครับ ห่างจากโครงการประมาณ 200 ม.

ถัดมาจะเจอ The Park Chidlom

เดินเลยมาหน่อยซ้ายมือตึกแดงๆคือ ชิดลม เพลส ขวามือที่รถเลี้ยวออกมาคือซอยสมคิด

ถัดมาจะเจอสะพานชิดลมข้ามคลองแสนแสบ มีวินมอเตอร์ไซค์ตรงนี้ด้วย

ผมพาเดินขึ้นสะพานเลยนะครับระวังรถกันด้วย ซ้ายมือคือตึก KPI ที่เรามองเห็นจาก BTS ใกล้จะถึงโครงการแล้วครับ

ยืนบนสะพานชิดลมแล้วมองไปทางขวา ซ้ายมือจะเห็นสำนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ขวามือเป็น The Address ชิดลม

อีกฝั่งซ้ายมือริมคลองมีทางเดิน ขวามือหลังคาสีน้ำเงินคือท่าเรื่อชิดลมครับ ตึกแรกขวามือสีครีมคืออาคารกิจศิริ ติดกันที่ผนังเป็นกระจกคือตึก KPI ส่วนตรงที่มีต้นไม้เขียวรกๆนั่นคือพื้นที่โครงการครับ ถัดไปสีส้มๆคือแมนฮัตตัน ชิดลม

เดินลงไปดูกันครับ

ท่าเรือชิดลม ห่างจากโครงการประมาณ 130 ม.

มองไปข้างหน้าจะเห็นตึกแมนฮัสตัน และ KPI

ทางเดินตรงผนังกำแพงมีลวดลายเนื่องจากมีโครงการปรับภูมิทัศน์ครับ

เดินมาถึงด้านหลังพื้นที่โครงการครับ ติดกับคลองแสนแสบเลย

ถ่ายอีกมุมให้ดู ซ้ายมือเป็นตึกแมนฮัตตัน ขวามือคือตึก KPI

กลับมาบนสะพานชิดลมต่อครับ ปลายสะพานมีบันได เดินลงไปได้เลยครับ

เดินออกมาทะลุตรงลานจอดรถตึกกิจศิริ ข้างหน้าจะเป็นถนนเพชรบุรีครับ

เดินผ่านออกมาก็จะเจอถนนเพชรบุรี ซ้ายมือคือตึก KPI ถัดไปก็เป็นพื้นที่โครงการครับอยู่ตรงช่วงสะพานลอยพอดี

ฝั่งตรงข้ามอาคารกิจศิริ คือ สิรินดาไนท์ มีขายอาหาร และเสื้อผ้าของใช้ในนี้ ฝั่งซ้ายคือป้ายรถเมล์มีรถวิ่งผ่านหลายสายครับ

กลับมาทางเดิมซ้ายมือคือตึก KPI หลังกำแพงสีขาวคือพื้นที่โครงการครับ

ขอบเขตที่ดินโครงการเริ่มจากหลังกำแพงสีขาวครับ

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนเพชรบุรี และสะพานลอย

เงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นแบบนี้ครับ ต่อไปตรงกลางก็จะมีโครงการ Q ชิดลมอีกตึกครับ

พื้นที่ภายในโครงการมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม

ทิศใต้ติดกับคลองแสนแสบ ที่ผมพาเดินไปดูมาข้างต้น วิวมองไปยังถนนสุขุมวิท ระยะประชิดไม่มีตึกสูงบังครับ

ทิศตะวันตกติดกับตึกแมนฮัตตันสูง 34 ชั้น อยู่ชั้น 35 ขึ้นไปวิวฝั่งนี้อาจจะโล่งครับ

ทิศตะวันออกติดกับตึก KPI สูง 24 ชั้น อยู่ชั้น 26 ขึ้นไปกำลังดีครับ

ส่วนทิศเหนือติดกับถนนเพชรบุรี อีกฝั่งเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นไม่มีผมกับวิวชั้นพักอาศัยด้านนี้ครับ แต่จะได้ยินเสียงรถวิ่งผ่านไปมาเกือบทั้งวัน

ภาพมุมสูงมองลงมายังพื้นที่โครงการ ด้านหน้าติดถนนเพชรบุรี ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น

ด้านหลังโครงการติดกับคลองแสนแสบ อีกฝั่งยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่

เดี๋ยวผมพาเดินจากโครงการ โดยผ่านถนนราชดำริ เข้าถนนเพลินจิต และสิ้นสุดที่แยกชิดลมครับ

ออกมาหน้าโครงการ ผมจะพาเดินไป BTS ชิดลม โดยไปทางถนนราชดำริ ซ้ายมือคือพื้นที่โครงการ

หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ครับ

ติดกับรั้วโครงการคือแมนฮัตตัน ขวามือคือ เดอะพาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง

ซอยข้างแมนฮัตตันคือเพชรบุรี 32 เป็นวันเวย์ครับ

ปากซอยเพชรบุรี 32 มีวินมอเตอร์ไซค์ สามารถเดินทะลุออกไป Big C ราชดำริได้ครับ

กลับมาเดินต่อครับ มีร้านขายรองเท้า และอุปกรณ์ต่างๆ

จากนั้นจะเจอ 7-11 มีป้ายรถเมล์ด้านหน้า

ถัดมาจะเจอร้านข้าวมันไก่ประตูน้ำ เสื้อชมพู เป็นร้านดังของย่านนี้เลยครับ คนยืนรอคิวกันแล้ว

ติดกับร้านข้าวมันไก่เป็นซอยเพชรบุรี 30 หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่

ภายในซอยเพชรบุรี 30 เป็นวันเวย์ครับ

เดินเลยมาหน่อยจะเจอร้านข้าวมันไก่ชื่อดังอีกร้าน แต่เป็นร้านเสื้อเขียวครับ

ผ่านมาก็จะเจอสี่แยกประตูน้ำ มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่

จากหน้าโครงการถึงแยกประตูน้ำประมาณ 270 ม. ตรงไปเป็นห้าง platinum ประตูน้ำซ้ายมือเป็นแหล่งรวมร้านค้าขายส่งสินค้านานาชนิด เลยไปหน่อยมีห้างพันธ์ุทิพย์ พลาซ่า ถ้าเลี้ยวขวาไปถนนราชปรารภ มีตลาดประตูน้ำเป็นตลาดสินค้าขายส่งราคาถูก

กลับมาที่ทางเดิน เลี้ยวซ้ายไปเดินต่อครับ

มีของขายสองฝั่งทางตลาดทางเดิน

เลยมาจะเจอสะพานข้ามคลองแสนแสบ เดินข้ามสะพานไปครับ

ซ้ายมือเป็นทางเดินลงไปยังท่าเรือประตูน้ำ ที่เห็นคนยืนอยู่คือรอเดินข้ามไปอีกฝั่งครับ

มองไปยังโครงการจะเห็นตึกแมนฮัตตัน

เดินข้ามสะพานกันต่อ

มองไปยังฝั่งตรงข้ามจะเห็นเซ็นทรัลเวิลด์

เดินตามทางต่อไปอีก

สังเกตว่าตามทางที่เดินมามีร้านขายของเกือบตลอด

จากนั้นจะเจอซอยราชดำริ 1

ซอยนี้ไปออกเพชรบุรี 30 ได้ (ตรงร้านข้าวมันไก่เสื้อชมพู)

ฝั่งตรงข้ามกับซอยราชดารำ 1 ก่อนถึงเซ็นทรัลเวิลด์ ข้าง Isetan จะมีสวนสาธารณะแห่งใหม่ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตอนนี้กำลังก่อสร้างกันอยู่ ห่างจากโครงการประมาณ 450 ม.

ผ่านราชดำริซอย 1 มาซ้ายมือจะเจอธนาคารกรุงเทพ เดินต่อไปครับ

และจะเจอราชดำริซอย 2 ซอยนี้ก็ไปออกเพชรบุรี 30 ได้เช่นกันครับ

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ เดินขึ้นสะพานลอยข้ามไปได้ ห่างจากโครงการประมาณ 500 ม.

เดินตรงตามทางไปอีกครับแถวนี้คนคึกคักทั้งวัน

จากนั้นจะเจอ Big C ราชดำริ มีของขายเต็มไปหมด

หน้า Big C มีป้ายรถเมล์

ผ่าน Big C มาจะเจอโรงแรมอโนมา

จากนั้นก็ะเจอล้อมรั้วก่อสร้าง คือ Gaysorn Office Tower

จากนั้นก็จะเจอห้างเกษรพลาซ่าซ้ายมือ อยู่ตรงแยกราชประสงค์พอดี มีสะพานลอยข้ามไปยังเซ็นทรัลเวิลด์ได้

ข้างหน้าก็ถึงแยกราชประสงค์ครับ จะมองเห็นแนวรถไฟฟ้า

แยกราชประสงค์ ถ้าตรงไปราชดำริ สีลม เลี้ยวขวาไปสยาม ส่วนเราจะเลี้ยวซ้ายไปนะครับ

ซ้ายมือคือเกษรพลาซ่า

ใครจะแวะเข้าไปซื้อของในเกษรพลาซ่า และไปเดินออกทางเชื่อม BTS ก็ได้ครับ

ผ่านเกษรมาจะเจอ President Tower

ซ้ายมือจะเป็น โรงแรม Intercontinental มีร้านอาหารอร่อยๆในนี้ครับ ขวามือมีบันไดเลื่อนขึ้นไป Sky Walk ทางเดินเชื่อมจากสยามไปจนถึง Bts ชิดลมครับ

จากนั้นจะเจอโรงแรม Holiday inn

เลยมาหน่อยจะเจอ TOT อยู่ติดกับทางขึ้นลง BTS ชิดลม

มีป้ายรถเมล์ด้านหน้า และวินมอเตอร์ไซค์

นั่งไปโครงการ 20 บาทครับ

ติดกันเป็นการไฟฟ้านครหลวง ติดกับ BTS ชิดลม

เลยมาหน่อยเจอธนาคารกรุงไทย

และสิ้นสุดที่แยกชิดลมครับ

Q ชิดลม-เพชรบุรี ตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี อยู่ใกล้กับแยกประตูน้ำห่างจากโครงการประมาณ 300 ม. ห่างจากแยกราชประสงค์ประมาณ 900 ม. และแยกชิดลมประมาณ 800 ม. โดยศักยภาพทำเลย่านนี้เป็นแหล่งพาณิชยกรรมค่อนข้างสูง เรียกได้ว่าเป็นย่านที่สำคัญของกรุงเทพฯแห่งหนึ่งก็ว่าได้ครับ เห็นได้จากความอุดมสมบูรณ์และเพียบพร้อมไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งแหล่งงานที่มีอาคารสำนักงานให้เห็นตามแนวถนนพระราม 1, เพลินจิต, ชิดลม, และเพชรบุรี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานออฟฟิศ โดยเฉพาะแถวสยามและชิดลมมีทั้งพนักงานออฟฟิศ พนักงานในห้างสรรพสินค้า พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือแม้กระทั่งแรงงานก่อสร้างก็มีให้ได้พบเห็นบ่อยๆ รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ทำการค้าขายแถวๆนี้อีกด้วย บริเวณใกล้เคียงโครงการส่วนใหญ่รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าสำคัญๆ ตามแนวถนนราชดำริ ถนนเพลินจิต ถนนพระราม 1 และถนนชิดลม เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ แพลตตินั่ม ประตูน้ำ สยาม พารากอน มาบุญคลอง เกษร พลาซ่า เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เมอคิวรี่ วิลล์ ซึ่งแต่ละที่ที่กล่าวมีผู้มาใช้บริการในแต่ละวันค่อนข้างสูงทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ยิ่งถ้าเป็นในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ยิ่งคึกคักครับ นอกจากนี้ในอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ชื่อว่า สไมล์ สแควร์ อยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 350 ม. ใกล้ๆกับ ธ.ไทยพาณิชย์ อยู่โครงการนี้มีห้างสรรพสินค้าล้อมรอบทั้งสี่มุมเลยครับ ใครเป็นนักช็อปคงจะชอบ นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมืองที่ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ตั้งอยู่ติดกับเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่ง Isetan ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ห่างจากโครงการประมาณ 400 ม. สามารถเดินมาออกกำลังกายได้สบายๆ นอกจากจะมีแหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆแล้วยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมดีๆหลายแห่งที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาพักในแต่ละวันและเทศกาลต่างๆ มีร้านอาหารอร่อยหลายร้าน มีคอนโดมิเนียมราคาสูง และสถานศึกษาชื่อดังอย่าง มาแตร์เดอี, สาธิตปทุมวัน, ช่างกลปทุมวัน, จุฬาฯ

ที่ตั้ง Q ชิดลม-เพชรบุรี ทิศเหนือติดกับถนนเพชรบุรีฝั่งตรงข้านโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น วิวฝั่งนี้ค่อนข้างโล่ง ทิศใต้ติดกับคลองแสนแสบ มีเรือวิ่งผ่านช่วงเช้าถึงคำ่ๆ อีกฝั่งคลองเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่รอการพัฒนา วิวโล่งไปถึงฝั่งถนนสุขุมวิทในชั้นสูงๆ ทิศตะวันออกติดกับตึก KPI สูง 24 ชั้น อยู่ชั้น 26 ขึ้นไปกำลังดีครับ ส่วนทิศตะวันตกติดกับคอนโดแมนฮัตตันสูง 34 ชั้น คงต้องเลือกชั้น 36 ขึ้นไปถึงจะดีครับ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

• ห้างประตูน้ำ เซ็นเตอร์ : 400 ม.
• ห้างแพลตตินั่ม ประตูน้ํา : 400 ม.
• เซ็นทรัลเวิลด์ : 500 ม.
• บิ๊กซี ราชดำริ : 500 ม.
• เซ็นทรัล ชิดลม : 750 ม.
• เกษรพลาซ่า : 800 ม.
• BTS ชิดลม : 800 ม.
• โรงพยาบาลตำรวจ : 850 ม.
• InterContinental Bangkok : 1 กม.
• เซ็นทรัลแอมบาสซี่ : 900 ม.
• สยามพารากอน : 1.4 กม.
• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : 1.9 กม.

Model

ตัวสำนักงานขายจะตั้งอยู่หัวมุมบริเวณแยกราชเทวี ใกล้กับ BTS ราชเทวีเลย

มาดูโมเดลโครงการกันก่อน ภายนอกอาคารใช้โทนสีเทาเข้ม เล่นลวดลายที่เปลือกอาคาร ตัวตึกจะตั้งอยู่โซนด้านหลังพื้นที่ดิน ด้านหน้าจัดสวนตรงทางเข้า มีถนนรอบตัวตึกจอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-9 ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 10-39 Facility จะอยู่ตั้งแต่ชั้น 40-42 บริเวณที่เฉียงๆขึ้นไปบนอาคาร

ด้านข้างอีกฝั่งที่ติดกับตึกแมนฮัตตัน

ด้านหลังโครงการติดกับคลองแสนแสบ ชั้น 30 ขึ้นไปมองเห็นได้จาก BTS ชิดลม

ภาพจำลอง Q ชิดลม-เพชรบุรี

ภาพจำลอง Q ชิดลม-เพชรบุรี

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนเพชรบุรี มีสวนหน้าโครงการ ป้อมยามอยู่ขวามือตรงทางเข้า-ออก ลูกบ้านใช้ Key Card ในการเข้าออกโครงการ ซ้ายมือติดกับ KPI 24 ชั้น ขวามือติดกับแมนฮัตตัน 34 ชั้น

บริเวณ Lobby ที่ชั้น 1 ภายในดูเรียบหรู ต้องรอดูของจริงว่าจะออกมาสวยแค่ไหน

ภาพจำลองบริเวณโถงลิฟท์ มีลิฟท์ทั้งหมด 3 ตัว และ Service Lift 1 ตัว อัตราส่วน 117 ต่อลิฟท์ 1 ตัว เกินมาตรฐานไปนิดหน่อย

ด้านหลังโครงการมีสวนหย่อม ปลูกต้มไม้ใหญ่มาให้

สวนยอดของอาคารมีสวนที่ชั้น 32 และมีส่วนพักอาศัยด้วย ชั้น 40 เป็น Library, Social Club และชั้น 41 มี Turkish Hot Tub ซึ่งก็คือบ่อออนเซ็นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Turkish Baht ชั้น 42 มีสระว่ายน้ำแบบ 360 องศา และชั้น 42m มีฟิตเนส และสวนครับ

ภาพจำลองส่วนยอดของอาคาร รอดูของจริงว่าจะสวยแค่ไหนครับ

พื้นที่ในส่วน Social Club ในชั้น 40 ดูน่าใช้งานดี

ภาพจำลองส่วน Co-working space และ Library ชั้น 40

ภาพจำลองส่วนของ Turkish Hot Tub ชั้น 41 เห็นรูปแล้วน่าลงไปนั่งแช่ดีครับ

บริเวณส่วน Turkish hot tub จะมี Rain Shower ด้านบน

ชั้น 42 จะเป็นสระว่ายน้ำแบบ 360 องศา ตรงกลางมีเตียงริมสระ และชั้น 42m มีบันไดเดินขึ้นไปเป็นฟิตเนสมองวิวได้รอบทิศครับ

ภาพจำลองชั้น 42 ส่วนสระว่ายน้ำ 360 องศา อยากเห็นของจริงจังเลยครับ

ภาพจำลองบริเวณหน้าลิฟท์ของแต่ละชั้น จะเห็นราวกันตกหน้าลิฟท์เป็นกระจกใส Void ตรงหน้าลิฟท์มองลงไปชั้นล่างและชั้นบนได้

ภาพจำลองโถงลิฟท์ชั้น Facility ผนังเป็นกระจกมองออกไปด้านนอกชมวิวได้

Floor Plan

Master Plan โครงการ พื้นที่ดินโครงการมีลักษณะเหมือนสี่เหลี่ยมค้างหมู ตัวตึกเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส มีถนนล้อมรอบตึกรถวิ่งตามลูกศรสีเหลืองโดยเข้าโครงการไปบังคับเลี้ยวซ้ายผ่านจุด Drop Off เลี้ยวขวา จากนั้นจะเจอทางขึ้น-ลงชั้นจอดรถ 2-9 ถ้าจะจอดชั้น 1 ต้องวนไปหลังโครงการนับช่องจอดรถได้ 7 คัน วนมาด้านข้างอีกฝั่งจอดได้ 4 คัน ทั้งโครงการจอดได้ 224 คัน คิดเป็น 60% ไม่รวมจอดซ้อนคัน เดินเข้าอาคารเจอส่วน Lobby มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง และโถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วน 117 ต่อลิฟท์ 1 ตัว และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว

แปลนชั้น 10 – 31 เริ่มส่วนพักอาศัยที่ชั้นนี้ นับได้ 14 ยูนิต ห้องจะล้อมรอบลิฟท์โดยสารทั้งหมดทำให้เดินมาใช้งานได้ไม่ไกล ทางเดินจะขนานกันสองฝั่ง บริเวณหน้าลิฟท์มี Void เจาะขึ้นไปถึงชั้นบนสุด บันไดหนีไฟจะอยู่สองฝั่งทางเดิน ส่วนห้อง 2 Bedroom จะอยู่มุมทั้ง 4 มุมจะได้วิวทั้งส่วนที่มีตึกบัง และวิวเปิดโล่ง ที่เหลือจะเป็นห้อง 1 Bedroom ตั้งแต่ขนาด 35 – 47 ตร.ม.

แปลนชั้น 32 ฝั่งด้านหน้า ห้องพักหายไป 4 ห้อง เปลี่ยนเป็นสวนส่วนกลางครับ เนื่องจากเป็นการร่นระยะของตัวอาคารเข้าไปนั่นเอง ห้องพักชั้นนี้จะเหลือ 10 ห้อง

แปลนชั้น 33 ถูกร่นระยะเข้าไปอีกทำเป็นสวนมาเพิ่มให้ครับ ห้องพักเหลือ 9 ห้อง

แปลนชั้น 34 และ ชั้น 36 เหมือนกันครับ จะเป็นห้อง Duplex แบบ 1 และ 2 ห้องนอนทั้งหมด ชั้นนี้นับได้ 9 ห้องครับ ในแปลนที่โชว์จะเป็นชั้นล่างของห้อง ส่วนชั้นบน อยู่ในแปลนชั้น 35 และ 37

แปลนชั้น 35 และ 37 เป็นส่วนของชั้นบนของห้อง Duplex ชั้น 34 และ 36

แปลนชั้น 38 ร่นระยะอาคารเข้ามาอีก มีสวนส่วนกลางอยู่ 2 ฝั่ง เหลือห้องพักอาศัย 7 ห้อง ซึ่งเป็นห้องแบบ Duplex ในแปลนเป็นชั้นล่างครับ

แปลนชั้น 39 เป็นชั้นบนของห้อง Duplex ชั้น 38 ส่วนที่เป็นสวนจะหายไป

แปลนชั้น 40 เริ่มชั้น Facility ที่ชั้นนี้มี Social Club สามารถเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้น 41 ได้, Libary, Co-Working Space

แปลนชั้น 41 เป็นชั้น Facility เช่นกัน ชั้นนี้มี Turkish hot tub, Sauna – Steam , Social Club, ห้องสำหรับอาบน้ำแยกชาย-หญิง, มีสวนฝั่งด้านหน้าโครงการ

ชั้น 42 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ 360 องศา ตรงกลางมี Deck วางเตียงนอน มี Shallow Pool และ Jacuzzi แช่น้ำชมวิวคงชิวน่าดูครับ และมีบันไดเดินขึ้นไปชั้น 42m

ชั้น 42m จะเป็นส่วนของ ฟิตเนสผนังห้องเป็นกระจกจะได้วิวสระว่ายน้ำชั้น 42 และมองเห็นวิวด้านนอกอาคารด้วย ฝั่งขวาจัดสวนมาให้อีกครับ

ชั้นดาดฟ้าจัดเป็นพื้นที่สวนอีกชั้นครับ

TYPE ROOM

โครงการนี้มีห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom (มีทั้งหมด 234 ยูนิต), 2 Bedroom (มีทั้งหมด 93 ยูนิต), Duplex 1 Bedroom (มีทั้งหมด 19 ยูนิต), Duplex 2 Bedroom (มีทั้งหมด 6 ยูนิต) ซึ่งขนาด และรูปแบบก็แตกต่างกันออกไปครับ

1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. เป็นขนาดเล็กสุดของโครงการ เดินเข้าห้องมาเจอครัวได้เป็นครัวเปิด แนะนำให้กั้นเพิ่มนะครับ เชื่อมกับส่วนรบประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ตรงส่วนห้องนั่งเล่นมีกระจกโค้งมาให้ด้วย ห้องนอนได้เป็นฉากกั้นบานเลื่อน ห้องน้ำอยู่ด้านในห้องนอน

1 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อน ได้เป็นครัวเปิดเช่นกัน เชื่อมกับห้องนั่งเล่น ห้องน้ำอยู่ตรงส่วนครัวพิเศษกว่าแบบแรกคือมีทางเข้าห้องน้ำสองทางคือจากห้องครัว และห้องนอน มีอ่างอาบน้ำพร้อมระบบน้ำร้อนมาให้ และตรงส่วนอ่างอาบน้ำเป็นแบบ Sexy Bathroom เป็นผนังกระจก ส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะเชื่อมกันมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนแถมมาให้ ในห้องนอนมีพื้นที่สามารถทำ Walk in Closet ได้

2 Bedroom ขนาด 63 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาจะเจอห้องน้ำซ้ายมือติดกับประตูทางเข้าเลยติดกับห้องน้ำเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนครัวจะอยู่ถัดออกมา ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ส่วน Master Bedroom อยู่อีกฝั่ง มีส่วนที่เป็นกระจกโค้งชั้นสูงๆวิวคงดีครับ มีพื้นที่ Walk in colset และห้องน้ำในตัวและเป็นแบบ Sexy Bathroom

Duplex 1 Bedroom ขนาด 62-81.5 เดินเข้ามาเจอส่วนห้องครัว ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนของห้องนั่งเล่นได้กระจกโค้งและเป็น Double Volume มีห้องน้ำแบบ Powder Room ที่ชั้น 1 เดินขึ้นบันไดมาชั้น 2 เจอห้องนอนเลยมีห้องน้ำแบบ Sexy Bathroom พร้อมอ่างอาบน้ำ ผนังส่วนห้องนอนเป็นกระจกมองลงไปที่ชั้นล่าง และด้านนอกได้

Duplex 2 Bedroom ขนาด 109.5 ตร.ม. ขนาดใหญ่สุดของโครงการ เดินเข้าห้องมาจะเจอห้องครัว ส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ระเบียงสองชั้น ระเบียงชั้นนอกได้กระจกโค้ง และเป็น Double Volume ส่วนห้องนอนเล็กอยู่ชั้นล่างติดกับห้องนั่งเล่นมีห้องน้ำในตัวแต่ไม่มีอ่างอาบน้ำครับ ส่วนห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่ใต้บันไดขึ้นชั้น 2 เดินขึ้นชั้น 2 มาจะเจอโถงบันไดก่อนแยกออกเป็น 2 ห้องคือห้องทำงาน และ Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวเป็นแบบ Sexy Bathroom

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่พามาชมวันนี้เป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม.

เริ่มตั้งแต่หน้าประตูเป็นบานไม้ มีลูกเล่นที่หน้าบานเส้นสีทอง

มือจับเป็นคันโยก มี Digital Door Lock ให้ของ Yale

มือจับและตัวล็อคด้านใน

เดินเข้าห้องไปจะเจอส่วนครัวก่อน เชื่อมกับห้องนั่งเล่น และระเบียง ตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำถัดไปเป็นห้องนอน พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้อง ผนังจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง ฝ้าส่วนครัวสูง 2.4. ม. ฝ้าส่วนอื่นสูง 2.6 ม.

ติดกับประตูทางเข้ามีตู้เก็บรองเท้ามาให้เป็นบานเปิด 2 บาน

ตู้มี Soft Close ให้ ชั้นบนแบ่งเป็นชั้นๆไว้วางของได้

ส่วนด้านล่างแบ่งย่อยไว้เก็บกล่องรองเท้า และกระเป๋าเดินทางได้ครับ

ติดกันได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว (เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้แถมนะครับ)

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิดทั้งหมด มี Soft Close ให้ทุกบาน ระบบไฟซ่อนไว้ตู้กลาง

ชุดตู้ด้านล่างเป็นบานเปิดสองบาน มีถังขยะติดมาให้ด้วย มีลิ้นชักแบ่งช่องเก็บอุปกรณ์มาให้

ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกสองหัววางแบบแนวตั้ง พร้อมเครื่องดูดควันของ Mex ผนังด้านในปูกระเบื้อง ส่วนขวามือแนะนำให้ติดเพิ่ม

Pantry เตรียมอาหาร Top หินสังเคราะห์ มีปลั๊กไฟให้

Sink ล้างจากแบบฝังมีฝาปิดมาให้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการทำครัว

เปิดออกมาก็ไว้ล้างจานปกติครับ Sink ล้างจานของ Mex แบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานมาให้

ถัดไปมีพื้นที่ให้วางตู้เย็นได้ โครงการวางตู้เย็นแบบสองบานให้ดู

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวมีประตูเข้าห้องน้ำ เดินเข้ามาจะเจอแบบนี้ ที่เห็นตรงหน้าเป็นทางเข้าจากในห้องนอนครับ (ห้องน้ำมีทางเข้าออกสองทาง) พื้นห้องน้ำปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด

ชุดอ่างล้างหน้า เคาน์เตอร์เป็นหินอ่อน

บนอ่างล้างหน้าวางของได้พอสมควร

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Kohler

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้

ประตูเปิดเข้าด้านใน พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.78 x 1.57 ม. ในสุดมีอ่างอาบน้ำให้

ชุดฝักบัวได้ทั้งแบบ Rain Shower และแบบมือจับปรับระดับสูงตำ่ได้

ชุดฝักบัวของ Kohler ขนาดกำลังดี มีระบบน้ำร้อนให้

อ่างอาบน้ำของ Kohler มีระบบน้ำร้อนให้

ห้องน้ำเป็นแบบ Sexy Bathroom ผนังตรงมุมอ่างอาบน้ำมีกระจกบานฟิกมาให้

พื้นห้องน้ำจะตำ่กว่าพื้นห้องปกติ

ถัดจากครัวจะเป็นห้องนั่งเล่น ครัวได้เป็นครัวเปิดแนะนำให้กั้นเพิ่มครับจะได้ไม่ส่งกินรบกวนด้านใน

พื้นห้องครัวปูกระเบื้อง ส่วนพื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็น Engineering wood มีตัวจบเป็นสแตนเลส

ส่วนห้องนั่งเล่น มีแอร์ Daikin ให้ 1 ตัว ขวามือวางโต๊ะรับประทานอาหารให้ดูขนาด 2 ที่นั่ง

โต๊ะรับประทานอาหารวางแบบหันหน้าเข้าผนัง วางกับข้าวได้ 2-3 อย่าง

ถัดไปส่วนห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นห้องนอน ตรงออกไปเป็นระเบียง

วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดูระยะ พร้อมโต๊ะกลาง (ไม่ได้แถมให้ครับ)

ระยะดูทีวีประมาณ 2.1 ม. ผนังของจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสีปกติ

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ด้านนอกมีประตูอีกชั้นตามแบบฉบับของอนันดาครับ ผ้าม่านของจริงที่ได้จะเป็นสีเทาครับซ่อนรางมาให้เลย

เลื่อนประตูออกมาเจอระเบียงขนาด 2.5 x 1 ม. วางโต๊ะชุดเล็กไว้นั่งจิบกาแฟยามเช้าได้

วางโต๊ะพร้อมเก้าอี้ให้ดูระยะ

ประตูระเบียงอีกชั้นเป็นกระจกบานเลื่อนเช่นกันเปิดได้สองบาน

เปิดออกมาจะเจอแบบนี้ครับเราสามารถใช้ประโยชน์ของระเบียงได้เต็มที่หน่อย

ตรงระเบียงมีห้องเก็บคอมเพลสเซอร์แอร์เรียบร้อย

เปิดออกมาจะเห็นคอมเพลสเซอร์แอร์แขวน 1 ตัว และตั้งพื้นอีก 1 ตัว

มองย้อนกลับเข้าไปด้านในจะเห้นแบบนี้ครับ ขวามือเป็นห้องนอน

ห้องนอนมีฉากกั้นมาให้เป็นบานไม้ 4 ตอน

เลื่อนออกมาจะเจอห้องนอนครับ รางประตูจะอยู่บนเพดาน จะได้ไม่เกะกะที่พื้น

เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง วางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดู มีพื้นที่เหลือพอวางแบบ King Size

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 50 ซม. แต่ถ้าเลื่อนประตูมาปิดพื้นที่จะเหลือไม่มากครับ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 70 ซม.

ข้างเตียงมีหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน มีพื้นที่ให้วางโซฟานั่งเล่น หรือวางโต๊ะทำงานได้ ในห้องนอนได้แอร์ Daikin 1 ตัว เนื่องจากปลายเตียงไม่มีผนังทางโครงการเลยติดทีวีไว้ด้านนี้แต่ใช้ขายึดทีวีแบบดึงออกมาได้

เวลาจะนอนดูทีวีก็สามารถดึงทีวีออกมาได้แบบนี้ครับ

ฝั่งตรงข้ามกั้นทำเป็น Walk in closet ได้ มีตู้เสื้อผ้าให้ และทางเดินเข้าห้องน้ำ มองเห็นส่วน Sexy Bathroom ซ้ายมือ

ถ่ายมุมฝั่งห้องน้ำให้ดูครับประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ในสุด

อีกฝั่งได้ตู้เสื้อผ้าขนาด 6 บาน ด้านในสุดที่เห็นเป็นบานกระจกของจริงที่ได้จะเป็นบานไม้ปกตินะครับ

ภายในตู้แบ่งช่องให้เก็ยของ และแขวนเสื้อผ้าได้

ด้านล่างมีลิ้นชักให้ 2 ชั้น

ตู้อีกชุดแบ่งช่องมาใหญ่หน่อยสำหรับแขวนเสื้อและกางเกง

และตู้ด้านในสุดเปิดออกมาจะเห็นแบบนี้ คนที่มีเสื้อผ้าเยอะน่าจะชอบนะครับ ตู้ทุกบานมี Soft Close ทั้งหมด

ชุดปลั๊กและสวิตซ์ไฟของ Schneider ทั้งหมด

ราคา

• 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 35-47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท : จอง 5,000 บาท
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 63 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท : จอง 100,000 บาท
• Duplex 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 63-81.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 11.7 ล้านบาท : จอง 200,000 บาท
• Duplex 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 109.5 ตร.ม. ราคา n/a บาท : จอง 200,000 บาท

***โปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท

ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Q ชิดลม-เพชรบุรี อยู่ติดกับถนนเพชรบุรีเลย ห่างจากแยกประตูน้ำประมาณ 300 ม. และซอยชิดลมประมาณ 100 ม. ซึ่งย่านนี้เป็นแหล่งพาณิชยกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯก็ว่าได้ อยู่ใกล้สถานที่สำคัญๆทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อาคารสำนักงานต่างๆ โรงแรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งเมื่อใกล้สถานที่สำคัญแบบนี้แล้วเรื่องความอุดมสมบูรณ์คงไม่ต้องพูดถึง ย่านนี้ของกินเพียบครับตั้งแต่ร้านเล็กๆริมทาง ไปจนถึงร้านหรูๆในห้างสรรพสินค้า สามารถเลือกทานได้สบายๆ ร้านสะดวกซื้ออยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการเลย หรือจะเดินย้อนไปทางแยกประตูน้ำก็มีครับ ส่วนบริเวณรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น มีอาคารสูงบางส่วนเช่นตึก KPI และแมนฮัตตันที่ขนาบข้างโครงการเลย จึงทำให้โครงการถูกบดบังวิวทางทิศตะวันออก และตะวันตกในชั้นที่เท่ากัน และมีวิวที่เปิดโล่งทางทิศเหนือ และใต้ ทำเลโครงการไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงการแรกของอนันดาที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าเกิน 300 เมตร

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – เนื่องจากติดถนนหลักอย่างเพชรบุรีซึ่งเป็นเส้นที่เชื่อมกับเส้นอื่นๆได้หลายเส้นทาง จะไปชิดลม ก็สะดวกมาเชื่อมถนนสุขุมวิทได้ เข้าเพลินจิต อโศก ได้สบายๆ หรือจะใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งขนาดกับเส้นสุขขุมวิทแล้วไปเข้าซอยย่อยของสุขุมวิทอีกทีก็ทำได้ครับ หรือตรงไปออกพัฒนาการ บางนาก็ทำได้สะดวกและมีทางด่วนให้ขึ้นตรงเส้นนี้อีกด้วย ส่วนถ้ามาทางแยกประตูน้ำก็ไปได้ทั้งสยาม สีลม พระรามสี่ หรือไปราชเทวี พญาไท อนุสาวรีย์ชัยฯ หรือเข้าเส้นราชปรารภทะลุออกวิภาดีได้ แต่ถนนแถวนี้ต้องศึกษาดีๆครับเพราะบางเส้นจะเป็น One Way ต้องใช้เทคนิคนิดหน่อยเข้าซอยนั้นทะลุซอยนี้ อยู่ไปสักพักก็จะง่ายขึ้นเยอะครับ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ โบก Taxi ได้สะดวกเพราะติดถนนเพชรบุรี มีป้ายรถเมล์รถวิ่งผ่านหลายสาย ห่างจากท่าเรือชิดลมประมาณ 200 ม. หรือจะนั่ง BTS ห่างจากสถานีชิดลมประมาณ 800 ม. ใครชอบเดินก็เดินได้ครับตามทางก็มีร้านค้าเป็นระยะๆ ไม่ก็นั่งวินก็ได้ครับสะดวกดี นอกจากนี้ยังมี แอร์พอร์ตลิงค์ โดยสถานีที่ใกล้คือราชปรารภ ห่างจากโครงการประมาณ 900 ม. อนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งสถานีที่ใกล้ห่างจากโครงการประมาณ 900 ม. เช่นกัน ตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างเยอะพอสมควรครับ ใครไม่มีรถส่วนตัวอยู่โครงการนี้ได้สบายๆเลย

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวอาคารออกแบบมาได้ล้ำสมัยดีครับมีลูกเล่นที่เปลือกอาคาร และบนส่วนยอดตึกที่ถูกร่นระยะเข้าไปแต่ทำทรงแบบเฉียงขึ้นไปไม่ได้ทำแบบเป็นเหลี่ยมๆขั้นๆเหมือนตึกทั่วไป ถ้าโครงการเสร็จตึกคงจะเด่นดีครับ แต่ก็ต้องรอดูของจริงอีกที โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ดิน 1-2-80.9 ไร่ ซึ่งมาการจัดวางผังมีได้เต็มพื้นที่มีสวนด้านหน้า และด้านหลัง ทำถนนในโครงการวนรอบตัวตึก ชั้น 2-9 เป็นชั้นจอดรถ ชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 10-39 แบ่งห้องมาในแต่ละชั้นได้ไม่หนาแน่นทำให้แต่ละชั้นมีความเป็นส่วนตัว และจัดพื้นที่ส่วนกลางหลักๆไว้ที่ชั้น 40-42

การออกแบบในห้องพักอาศัยมีให้เลือก 4 แบบหลักๆคือตั้งแต่ 1 Bedroom ขนาด 35-47 ตร.ม. , 2 Bedroom ขนาด 63 ตร.ม. , ไปจนถึงห้อง Duplex 1 Bedroom ขนาด 62-81.5 ตร.ม. และ Duplex 2 Bedroom ขนาด 109.5 ตร.ม. แต่ละ Type ก็มีรูปแบบพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยทางโครงการขายแบบ Fully Fitted พื้นส่วนครัวได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ และพื้นส่วนอื่นได้เป็น Engineer wood ฝ้าส่วนครัวสูง 2.4 ส่วนห้องพักสูง 2.6 ผนังได้เป็นฉาบเรียบทาสี ห้องครัวได้ชุดเคาน์เตอร์พร้อม Hob & Hood ของ Mex บานตู้ทุกบานมี Soft Close ให้ ส่วนห้องนั่งเล่นได้แอร์ Daikin 1 ตัว และผ้าม่านพร้อมซ่อนรางม่านให้ด้วย ห้องนอนได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ห้องน้ำสามารถเข้าออกได้สองทาง พื้นเป็นหินอ่อน สุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler ทั้งหมด มีระบบน้ำร้อนมาตรงอ่างอาบน้ำ พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก

สิ่งอำนวยความสะดวก – มีมาให้เยอะพอสมควรตั้งแต่สวนหย่อมหน้าโครงการ Lobby ที่ชั้น 1 มีสวนที่ชั้น 32 และในส่วนที่มีการร่นระยะของตึกส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สีเขียวครับ ส่วน Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 40-42 ซึ่งเป็นส่วนยอดของอาคารมีการเล่นระดับให้สอดคล้องกับภายนอกของอาคาร มีห้องสุมด และ Co-Working Space, Social Clud , สระว่ายน้ำแบบ 360 องศา พร้อมจากุซซี่ , Turkish Hot Tub , Sauna-Steam, Fintness, สวนดาดฟ้า สำหรับลิฟต์มีให้ 3 ตัวและลิฟต์ขนของอีก 1 ตัว ที่จอดรถ 224 คันหรือประมาณ 60% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-315-2222

Website : http://www.ananda.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

คอนโด ดีคอน ไพร์ม รัตนาธิเบศร์ Dcon Prime @ Rattanathibet

ดีคอน ไพร์ม @รัตนาธิเบศร์ (Dcon Prime) ทำเลบนถนนรัตนาธิเบศร์ 100 เมตรจากรถไฟฟ้าสถานีไทรม้า สำหรับผู้ที่ต้องการชีวิตเหนือระดับรับโค้งวิวเจ้าพระยา ชีวิตที่ตอบสนองทุกความต้องการใกล้ธรรมชาติ บนความสะดวกสบายในสังคมเมือง 4 สถานีถึง Central Westgate, 4 สถานีถึง Interchange ศูนย์ราชการนนทบุรี Smart Living Style เติมเต็มทุกความต้องการให้ครบมากกว่าใคร แลนด์มารค์แห่งใหม่ ที่ความสูง 38 ชั้น ใช้ชีวิตเป็นส่วนตัวท่ามกลางสังคมเมือง พลิกชีวิตสู่อิสระไร้ขอบเขตกับ Sky Infinity Edge Pool สระสูงระฟ้า สะดวก…ทุกการใช้ชีวิต ใกล้ชิด…ทุกการเดินทาง ราคาเริ่มต้น 1.xx ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

FLOOR PLAN

Ground Floor Plan

2 nd Floor Plan

3 re Floor Plan

4-5 th Floor Plan

6 th Floor Plan

7-30 th Floor Plan

31-35 th Floor Plan

36 th Floor Plan

37 th Floor Plan

38 th Floor Plan

UNIT PLAN

:: 1 Bedroom ::

TYPE A 1 ขนาด 26.58 ตร.ม.

TYPE A 2 ขนาด 28.20-28.41 ตร.ม.

TYPE A 3 ขนาด 28.64 – 28.94 ตร.ม.

TYPE A 3M  ขนาด 29.00 ตร.ม.

TYPE A 4  ขนาด 30.07-30.10 ตร.ม.

TYPE A 4 M ขนาด 30.10 ตร.ม.

TYPE AS4  ขนาด 29.54 ตร.ม.

TYPE B1 ขนาด 31.76 ตร.ม.

.

TYPE B2 ขนาด 32.41 ตร.ม.

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-195-8291-3

WEBSITE : http://dconprime.com/

คอนโด อาทีมิส สุขุมวิท 77 Artemis Sukhumvit 77

Artemis สุขุมวิท 77 Living Unlimited ใกล้รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร

คลิก เพือลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 092-792-5577, 092-792-5588

WEBSITE : http://artemis-condo.com/

คอนโด คราฟท์ เพลินจิต Craft Ploenchit Luxury Condo ใกล้ BTS เพลินจิต

Craft Ploenchit คอนโด Low-Rise ระดับ Luxury ตั้งอยู่ภายในซอยนายเลิศ ใกล้รถไฟฟ้า BTS เพลินจิต เพียง 100 เมตร ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยนายเลิศ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. 10330

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

FLOOR PLAN

Basement Floor Plan

Ground Floor Plan

2 nd-7 th Floor Plan

8 th Floor Plan

Roof Top Floor Plan

UNIT TYPE

:: 1 ห้องนอน ::

:: 2 ห้องนอน ::

:: 3 ห้องนอน ::

:: DUPLEX ::

GALLERY

 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-631-1155

WEBSITE : http://www.panjapolproperty.com/

EP.219 รีวิว คอนโด แอชตัน จุฬา-สีลม Ashton Chula-Silom

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Ashton จุฬา-สีลม คอนโดสไตล์ Modern Luxury & Eclectic ที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองย่าน CBD ห่างจาก MRT สามย่านเพียง 180 เมตร ฝั่งตรงข้ามจามจุรีสแควร์ ห่างจาก MRT สีลม ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ BTS ศาลาแดง และสวนสาธารณะลุมพินี เพียง 550 เมตร กับราคาเริ่มต้นที่ 7.9 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.

การเดินทาง

ขอแนะนำเส้นทางสำหรับคนใช้รถกันก่อนนะคะ โครงการ Ashton จุฬา – สีลม มีทางเข้าออกทางเดียวคือติดถนนใหญ่พระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพญาไท ไปหัวลำโพง ใครที่ขับรถมาจากสาทรแล้วขึ้นสะพานยกระดับมามาทางลงจะอยู่เลยโครงการมาแล้ว ต้องวนรถโดยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสี่พระยามาออกสุรวงศ์มาที่พระราม 4 เพื่อเข้าโครงการอีกทีค่ะ

แต่ทั่วไปถ้าไม่อยากอ้อม ถ้าวิ่งมาจากสาทรก็ไม่ต้องขึ้นสะพาน แต่วิ่งมาพระราม 4 ตรงๆเลยได้ แต่อาจจะต้องรอรถติดตามแยกบ้าง ตามธรรมดาของทำเลใจกลางเมืองแบบนี้นะคะ แต่ข้อดีคือจะไปไหนก็ง่าย จะสีลม สาทร สยาม หัวลำโพง พญาไท เจริญกรุง ก็ขับรถไประยะสั้นๆก็ถึง เพราะโซน CBD ด้วยกันอยู่ละ จะไปไหนไกลๆก็มีทางด่วนศรีรัชและทางด่วนเฉลิมมหานครที่ขับจากโครงการไปสิบนาทีก็ถึง เพราะจุดขึ้นลงทางด่วนทั้งคู่อยู่ห่างไปไม่ถึง 3 กม.

การเดินทางวันนี้เราลง MRT สามย่าน ประตู 1 ออกมาแถวหน้าวัดหัวลำโพงแล้วเลี้ยวขวา เดินมาตรงๆแค่ประมาณ 180 เมตรก็ถึงที่ตั้งโครงการ Ashton จุฬา – สีลม แล้วค่ะ บรรยากาศจะเป็นอย่างไรเราไปดูภาพกันเลย

เริ่มเดินทางกันจากหน้าทางลง MRT สามย่านประตู 1

ออกมาจากสถานี ด้านหน้าเราจะเป็นถนนพระราม 4 ฝั่งตรงข้ามคือจามจุรีสแควร์ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดละค่ะ แบบว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลย

จามจุรีสแควร์เป็นอาคาร 3 หลัง แบ่งเป็นส่วนอาคารสำนักงาน 40 ชั้น โดย 4 ชั้นล่างเป็นศูนย์การค้า และอาคารที่พักอาศัย 23 ชั้น และอาคารเชื่อมต่อ Atrium ส่วนที่เราว่าช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้โครงการได้ดีคือส่วน 4 ชั้นล่างที่เป็นศูนย์การค้านี่ล่ะค่ะ ทั่วไปเปิด 11 โมง ปิด 2 ทุ่ม มีทั้งส่วนของร้านค้าปลีก (Retail) ศูนย์อาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร มีจำนวน 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ซึ่งเป็นชั้นที่เชื่อมกับ MRT สามย่าน ซึ่งนับเป็นการเชื่อมต่อ MRT กับอาคารแห่งแรกของไทยด้วยด้วยค่ะ

กลับมาเริ่มเดินทางกันต่อ จากหน้า MRT สามย่านประตู 1 เราเลี้ยวขวา เดินตรงไปประมาณ 180 เมตรก็จะถึงโครงการ Ashton จุฬา – สีลม แล้วค่ะ ไปดูกันนะคะ ว่าระหว่างทางมีอะไรบ้าง

ติดๆกันกับ MRT สถานีสามย่าน จะมีวัดหัวลำโพงอยู่ ถือเป็นไฮไลท์อย่างนึงของสถานีนี้นะคะ เพราะเป็นวัดที่เปิดตอนกลางคืนด้วย เป็นที่นิยมของหนุ่มสาววัยทำงานทั้งหลายที่อยากทำบุญกัน เพราะมาได้ง่าย และเปิดจนดึก

ภายในวัดหัวลำโพงก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างค่ะ นี่เราไปถ่ายมาแต่จุดฮิตๆแล้วรวมภาพมาให้ดูนะคะ เพราะเวลาส่วนตัวเราไป ก็จะไล่ๆตามรูปเลยค่ะ 555+ คือ โอเค เข้าไปซื้อผักเลี้ยงวัวกับควาย ที่นี่จะมีบริจาคเงินไถ่ชีวิตวัวกับควายแล้วเลี้ยงเอาไว้ด้วยค่ะ ต่อด้วยทำบุญบริจาคโลงศพนะคะ พอทำบุญที่นี่จะมีแผ่นกระดาษสีชมพูๆมาให้เอาไปทากาวติดกับโลงไม้ไว้ด้วย เสร็จแล้วก็ไปไหว้พระด้านใน เป็นศาลเจ้าแบบจีนๆหน่อย ด้านในจะมีศาลเจ้าพ่อเสือให้เสี่ยงเซียมซีด้วย

จากวัดหัวลำโพง ถัดมาจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ชื่อวินวัดหัวลำโพงค่ะ ตรงนี้ห่างจากที่ตั้งโครงการแอชตันแค่ประมาณ 130 เมตรนะคะ เวลารีบไปไหนในเวลาเร่งด่วนเดินมาใช้พี่วินตรงนี้ได้เลย

ราคาวินค่ะ เริ่มต้นที่ 20 บาท ไปช้อปปิ้งสยามหรือมาบุญครอง 40 บาท ไปหาอาหารญี่ปุ่นๆกินที่ซอยธนิยะ 20 บาท

ถัดมาเป็นท่ารถเมล์สาย 45 สำโรง – ท่าน้ำสี่พระยา จากตรงนี้จะเห็นป้ายบิลบอร์ดโครงการ Ashton จุฬา – สีลม และร้าน Too Fast To Sleep ที่อยู่ติดกับที่ดินโครงการแล้วค่ะ

เดินตรงมา ผ่านที่จอดรถของ MRT ไป

ก็จะเป็นร้าน Too Fast To Sleep แล้วค่ะ ก็ถือเป็นร้านสุดฮิตของคนนอนดึก และถือเป็นไฮไลท์ของ MRT สามย่านอีกจุดนะคะ เพราะเป็นร้านกาแฟที่เปิดทั้งคืน จึงกลายเป็นจุดนัดพบของแก๊งอ่านหนังสือ ปั่นงานส่ง หรือติวสอบโต้รุ่งต่างๆ ร้านนี้อยู่ติดโครงการ Ashton จุฬา – สีลม เลยค่ะ เราพาเข้าไปดูกันหน่อยดีกว่า

ชั้นล่างของร้าน Too Fast To Sleep นี่ก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้านนะคะ เข้ามานี่จะเจอร้านส้มตำแม่นิดก่อนเลย ใครชอบกินส้มตำมาอยู่ตรงนี้ก็เดินมากินได้สบายๆ

ติดๆกับร้านส้มตำแม่นิดจะเป็นร้านข้าวมันไก่ ราคาก็จานละ 40 – 70 บาทนะคะ มีทั้งไก่ต้มไก่ทอด

แล้วก็ยังมีร้านก๋วยเตี๋ยว รส ดี เด็ด จากสามย่าน ก๋วยเตี๋ยวราคาเริ่มที่ถ้วยละ 40 บาท มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อเซอร์ลอยด์ถ้วยละ 100 บาทด้วย ก็น่าลองดีเหมือนกันนะคะ

เข้ามาในร้าน Too Fast To Sleep ชั้นล่างก็จะมีขายทั้งกาแฟ ไอศครีม และขนม แต่ทั่วไปแล้วคนจะไปนั่งกันชั้นบนมากกว่าค่ะ

ชั้นบนเป็นแบบนี้ค่ะ นี่เราไปถ่ายวันธรรมดา ตอนกลางวันนะคะ เป็นร้านที่เข้ามาทีไรก็เจอคนเยอะอยู่ตลอด บรรยากาศก็แบบนี้ล่ะค่ะ ทำงานไปหิวก็สั่งน้ำสั่งขนมกินไป

ติดถนนใหญ่พระราม 4 ระหว่างที่ตั้งโครงการ Ashton จุฬา – สีลม กับร้าน Too Fast Too Sleep จะมีป้ายรถเมล์อยู่ค่ะ

สายรถเมล์ที่ผ่านป้ายหน้าโครงการ

ตรงนี้ด้านหลังป้ายรถเมล์มาจะเป็นส่วนของโครงการ Ashton จุฬา – สีลมแล้วค่ะ

ตอนนี้ที่ดินโครงการ Ashton จุฬา – สีลม กำลังถูกเคลียร์ฐานอยู่นะคะ แต่เราถ่ายจากด้านนอกมาให้ดู จะเห็นว่าด้านหลังที่ดินโครงการเป็นวิวของโรงแรมมณเฑียร ซึ่งจะมีส่วนที่สูง 20 ชั้น และส่วนที่สูง 8 ชั้นอยู่นะคะ ไกลออกไปหน่อยจะเห็นโรงแรมเลอ เมอริเดียน สูง 24 ชั้น อันนี้รอบที่ดินโครงการติดอะไรบ้างนั้นเดี๋ยวเราอธิบายในผังอีกทีค่ะ

ติดๆกับรั้วล้อมที่ดินโครงการจะเป็นส่วนของสำนักงานขายค่ะ

สำนักงานขายเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นค่ะ เข้าไปดูข้างในกันต่อ

เข้ามาจะเจอส่วนเคาเตอร์ต้อนรับ ของ Ashton จุฬา – สีลมอยู่ พร้อมที่นั่งรับรองหลายชุด สำนักงานขายตกแต่งมาในโทนสี ทอง ขาว น้ำตาล เทา ตามสไตล์ Modern Luxury & Eclectic ซึ่งเป็นแนวที่เน้นการผสมผสาน ใช้วัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะสีทองเงาวาว หนังสีน้ำตาลด้าน หรือพื้นหินอ่อนลายเส้นสีขาวเบจ ทำให้ลุคที่ออกมาดูหรูหราและทันสมัย

สำนักงานขายของอนันดาส่วนใหญ่จะจำลองอินทีเรียส่วนล็อบบี้ของโครงการมานะคะ ซึ่งที่นี่ก็เช่นกันค่ะ

มองไปอีกด้านจะเป็นส่วนของ Model โครงการ และหน้าจอ Presentation เดี๋ยวส่วนโมเดลนี่เราพาไปอธิบายเจาะกันอีกทีนะคะ ตอนนี้พาชมสำนักงานขายกันก่อน

ส่วนจอ Presentation เป็นแบบสกรีนทัชค่ะ กดดูเองได้นะ แต่แนะนำว่าให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายแนะนำก็ดีค่ะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่นี่ข้อมูลแน่นและมี Service mind ดี

ตรงข้ามโมเดลจะมีที่นั่งสำหรับ 2 คนมาให้

สุดฝั่งสำนักงานขายมียกพื้นจัดที่นั่งไว้ให้อีกชุดแบบนี้

สถานที่สำคัญรอบโครงการ

• ร้าน Too Fast To Sleep 20 เมตร
• วัดหัวลำโพง 180 เมตร
• จามจุรี สแควร์ 350 เมตร
• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 800 เมตร
• โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ 1.5 กิโลเมตร
• เซ็นทรัลเวิลด์ 2.3 กิโลเมตร
• สยามพารากอน 2.4 กิโลเมตร
• สยามเซ็นเตอร์ 2.5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลจุฬาฯ 2.5 กิโลเมตร
• มาบุญครอง 2.6 กิโลเมตร
• สวนลุมพินี 3.3 กิโลเมตร

ตัวโครงการ

Model ที่นี่จะมีให้ดู 2 ตัวนะคะ ตัวแรกเป็น Model จำลองทั้งตึก อีกตัวจำลองตั้งแต่ชั้น 48-56 หรือช่วงบนของตึกซึ่งเป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางชั้นบน ตอนนี้เรามาดูตัวแรกที่จำลองทั้งตึกกันก่อนนะคะ

โครงการมีทางเข้าออกอยู่ที่ถนนพระราม 4 ค่ะ ถนนรอบโครงการกว้าง 6 เมตร เข้าออกด้วยระบบ Access Card แบบระยะใกล้ มี Drop Off ให้วนรถส่งคนลงที่หน้า Lobby และวนไปจอดรถที่ด้านหลังโครงการ จอดรถได้ชั้น 1 – 6

ด้านหน้า Lobby ชั้นล่าง จะเป็นส่วนของพื้นที่สีเขียวที่คั่นอยู่ระหว่าง Lobby อาคารและใหญ่พระราม 4 มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ความรู้สึกเขียว ร่มรื่น และ ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับตัว Lobby ด้วยค่ะ สนามหญ้าออกแบบมาเป็นแบบขั้นบันได ล้อไปกับสวนขั้นบันไดด้านบนโครงการในชั้น 7

เอาภาพจำลองทางเข้าโครงการมาให้ดูค่ะ จะเห็นว่ากำแพงด้านหน้าโครงการเป็นกำแพงทรงโค้งนำสายตาลาดขึ้นไปที่ประตูทางเข้า กำแพงกรุด้วยแผ่นหินสีขาวลายเดียวกันกับพื้น จะเห็นจากภาพว่าเน้นความเขียวชอุ่ม ร่มรื่นของต้นไม้ ทั้งที่สวนชั้นล่างและสวนขั้นบันไดชั้น 2 – 6 ด้วย

ภาพจำลองสวนด้านหน้าโครงการ มีต้นไม่ใหญ่หลายต้นและไม้พุ่ม พร้อมทั้งปูสนามหญ้าแบบขั้นบันไดบนทางลาดขึ้นเขา และมีที่นั่งเอาไว้ให้นั่งเป็นจุดๆ เหมาะเป็นที่เดินเล่นหรือนั่งเล่นของคนในโครงการ โดยมีบันไดหินเป็นทางขึ้นอยู่ด้านข้าง และปลูกต้นไม้ไล่ระดับตาม

ที่จอดรถ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 1 – 6 ค่ะ คิดเป็นประมาณ 47% ไม่ Fix ที่จอดนะคะ โดยห้องแบบ Studio กับ 1 Bedroom จอดได้ 1 คัน, 2 Bedrooms จอดได้ 2 คัน

ด้านหลังอาคารค่ะ สังเกตว่ากำแพงชั้น 1 – 6 ที่เป็นส่วนที่จอดรถจะมีแนว Vertical Garden หรือสวนแนวตั้งอยู่

โครงการ Ashton จุฬา – สีลม มีพื้นที่สีเขียวโดยรวมประมาณ 10,000 ตร.ม. ที่นอกจากพื้นที่สีเขียวชั้น 1 หน้า Lobby และสวนชั้นดาดฟ้าแล้ว ที่ชั้น 7 ก็จะมีพื้นที่สีเขียว ปลูกไม้ยืนต้น ปูสนามหญ้า และมี Sunken court มาเป็นขั้นบันได เอาไว้ให้นั่งด้วยค่ะ จะเห็นดีไซน์ได้จากในโมเดลนะคะ นอกจากนี้ตั้งแต่ชั้น 2 – ชั้น 7 ก็เป็นสวนขั้นบันไดสีเขียวขนาดใหญ่ไล่ลงมา ทำให้ดูร่มรื่นไปด้วยต้นไม้เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แบบมองเห็นจากภายนอกโครงการเลยค่ะ

นอกจากนี้โครงการขอใช้หลอดประหยัดไฟทั้งอาคาร และใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยค่ะ ก็เป็นแนวคิดแบบ Eco ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ส่วนนึง

ไฮไลท์อีกอย่างของตัวอาคาร Ashton จุฬา – สีลม คือที่ส่วนมุมของอาคารที่นี่จะใช้กระจกโค้งที่ทำให้วิวที่มองผ่านกระจกไร้รอยต่อ เป็นวิวมุมกว้างแบบพาโนราม่า และส่วนระนาบอาคารปกติก็เป็นกระจกเนื่องจากที่ระเบียงอาคารจะมีกระจก 2 ชั้นด้วยค่ะ ซึ่งนับเป็นการออกแบบเพื่อฟังก์ชั่นภายในที่มีผลทำให้เปลือกภายนอกอาคารดูหรูหราไปด้วย

สังเกตมุมตรงกลางอาคารจะมี Atrium ที่เป็นเหมือนระเบียงออกมาจากโถงทางเดิน มีที่นั่งเล่นและต้นไม้มาให้ทุกๆ 5 ชั้นด้วยค่ะ ชั้นที่มี Atrium จะเป็นชั้นที่ลงท้ายด้วยเลข 2 และเลข 7 นะคะ

ส่วนยอดอาคารตั้งแต่ชั้น 48-56 หรือส่วนพื้นที่ส่วนกลางกับโซนไฮจะมีโมเดลขยายให้ดูอีกทีนะคะ ไปดูกันเลยค่ะ

เรามาดูที่ Model พื้นที่ส่วนกลางชั้นบนกันต่อ ซึ่งส่วนกลางของอาคารจะอยู่ในชั้น 48-49 เต็มๆ 2 ชั้นเลยค่ะ เพราะเป็นโครงการใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัยถึง 1,180 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางที่ได้จึงมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปเป็นส่วนๆนะคะ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 6 x 50 เมตร ลึก 1.2 เมตร เราซูมให้เห็นดีไซน์ของตัวสระใกล้ๆนะคะ สังเกตว่าขอบของสระก็จะเป็นแบบโค้งมน เข้ากับดีไซน์ของตัวอาคารนะคะ ธีมสระเป็นสีขาวเรียบหรู มีทางเดินรอบๆ บนสระก็มีที่นั่งให้เป็นจุดๆ ส่วนสระด้านหน้าที่อยู่ฝั่งถนนพระราม 4 จะเป็นอ่าง Jacuzzi มีที่นั่งในสระให้ด้วย

สระเป็นแบบเล่นระดับดูแปลกตาดีค่ะ อย่างส่วนสระด้านบนสองสระจะเป็นสระ Onsen ซะด้วย ใครชอบแช่น้ำอุ่นน่าจะถูกใจกันนะคะ ก็เป็นฟังก์ชั่นหายากที่ทั่วไปไม่ค่อยเห็นนะคะ

ด้านหลังจะมีส่วนของสระเด็กลึก 0.5 เมตร

ส่วน Business Lounge จะเป็นกระจกสูงจรดเพดานและส่วนมุมโค้งได้วิวแบบพาโนรามาและได้มุมมองที่เห็นสระว่ายน้ำรอบด้านแบบนี้เลยค่ะ

ภาพจำลองส่วน Business Lounge ค่ะ ดูเป็นบรรยากาศแบบจิบไวน์ชมวิวเมืองอะไรแบบนี้

ภาพจำลองส่วน Social Club ที่จะมี Piano วางไว้ให้เล่นและบาร์มาให้สำหรับผสมค็อกเทลเองด้วยค่ะ คือไม่มีบาร์เทนเดอร์มาให้นะคะ ต้องผสมเอง แต่ก็เตรียมพื้นที่สำหรับกิจกรรมได้น่ามาใช้งานดี

ส่วนห้อง Fitness ให้มา 2 ชั้น แต่ละชั้นมีขนาด 5 x 15 เมตร หันไปด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังโครงการ

ส่วนห้อง Fitness 2 ชั้น จึงมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 20 เครื่อง ผนังของอาคารเป็นกระจกเต็มบานทั้งหมด จึงออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวเมืองฝั่งสีลม สาทรไปด้วยได้ค่ะ

ภาพจำลองห้อง Fitnessชั้น 48 เพราะจะเห็นว่ามีบันไดให้เดินขึ้นไปชั้น 49 นะคะ ผนังห้องเป็นกระจกเต็มบานจึงสามารถออกกำลังกายไปชมวิวเมืองไปได้

เอาวิวพาโนราม่าจากโครงการแต่ละด้านมาให้ชมกันค่ะ เป็นวิวจากมุมสูงนะคะ เทียบได้กับตึกชั้น 26 ขึ้นไป

ด้าน NW หรือวิวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโครงการ จะเป็นวิวเมืองฝั่งถนนพระราม 4 ค่ะ ที่มุมซ้ายล่างของภาพจะเห็นวัดหัวลำโพง ตึกใหญ่ๆขวาสุดของภาพคือ จามจุรีสแคว์ (40 ชั้น) และตึกสีขาวตรงกลางภาพคือ จามจุรีเรสซิเดนซ์ (24 ชั้น)

ด้าน NE หรือ วิวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโครงการ ขวาบนของภาพจะเห็นสวนสาธารณะลุมพินีและวิวเมืองฝั่งรัชดาภิเษก, สุขุมวิท

ด้าน SE หรือ วิวทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโครงการ จะเป็นวิวเมืองฝั่งสีลมค่ะ

ด้าน SW หรือ วิวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโครงการ จะเห็นวิวเมืองฝั่งธนบุรี

ผังโครงการ

มาดูผังโครงการกันต่อค่ะ จากถนนพระราม 4 ผ่านซุ้มประตูทางเข้าโครงการมา จะมีสวนอยู่ทางขวามือ เข้ามาจะมี Drop off หน้า Lobby ตรงฝั่งติดสวนเป็น Retails 2 ห้องนั้น เท่าที่ถามมามีแผนจะเป็นร้านกาแฟสตาร์บั๊คทั้งคู่นะคะ เพราะสตาร์บั๊คนี่จะต้องมีความกว้างมากพอให้ได้มาตรฐานของสตาร์บั๊คด้วย Ratailsเลยอาจเป็นสตาร์บั๊คทั้งสองห้องเลย ซึ่งก็จะเป็นอารมณ์แบบร้านกาแฟวิวสวน คนในโครงการก่อนไปทำงานก็ลงมาสั่งกาแฟสตาบั๊คกินได้สบายๆ ไฮโซวทีเดียว แต่มันก็ยังเป็นแค่แผนที่เราได้ยินมานะ ยังไงต้องรอดูสรุปกันอีกทีค่ะ

ที่จอดรถด้านข้างอาคารที่มีทั้งที่จอดรถขนาดปกติและขนาดใหญ่หน่อยสำหรับรถ Super Car และมีจุดชาร์จแบตรถไฟฟ้าด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ จำนวนยูนิตเยอะ โครงการมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 7 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัวติดกับส่วนห้องทิ้งขยะ (G) และส่วนห้องงานระบบ (M&E) ทำให้แม่บ้านขนย้ายขยะลงมาทางนี้ได้ง่าย ไม่กวนส่วนลิฟต์โดยสาร

ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ค่ะ ความหนาแน่นค่อนข้างต่ำเพราะมียูนิตเพียง 15 ยูนิต และเป็นชั้นที่มีทางเดินออกมาสวนด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีส่วนงานระบบค่อนข้างใหญ่ แยกส่วนออกมาให้ช่างเข้ามาบำรุงรักษาได้โดยไม่ต้องผ่านส่วนพักอาศัย ห้องฝั่งที่อยู่ติดสวนมีข้อดีคือได้วิวสวน ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากสวนค่ะ เวลามีคนมาใช้งานเยอะๆ แต่โครงการปลูกต้นไม้ทำ Buffer ไว้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและช่วยกันเสียงรบกวนไปได้ส่วนนึงค่ะ

ชั้น 8 ผังของส่วนห้องพักอาศัยจะไม่ต่างกับชั้น 7 ค่ะ โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 16 ยูนิต แต่ห้องงานระบบจะเปลี่ยนเป็นที่ว่าง เพราะชั้น 7 เป็นแบบ Double ceiling หรือแบบเพดานสูง ถือเป็นชั้นที่เงียบสงบและความหนาแน่นต่ำนะคะ เพราะไม่มีส่วน งานระบบและพื้นที่ส่วนกลาง จึงไม่มีคนนอกมาวุ่นวายให้ได้ยินเสียงใกล้ๆ

ชั้น 9 – 21 จะเป็นส่วนที่พักอาศัยทั้งหมด มีชั้นละ 27 ยูนิต ที่ชั้น 12, 17, จะมีส่วน Atrium อยู่ตรงส่วนใกล้โถงลิฟต์อย่างในภาพผังค่ะ ก็คือทุกห้าชั้นจะมีระเบียงใกล้โถงลิฟต์มาให้

ชั้น 22 – 47 เป็นชั้นที่มียูนิตของห้องพักสูงสุดคือ 28 ยูนิตค่ะ การวางผังห้องพักเหมือนชั้น 12, 17 ที่มี Atrium เพิ่มขึ้นมาทุก 5 ชั้น หรือชั้นที่ลงท้ายด้วยเลข 2 และเลข 7 และมีห้องแบบ 2 ห้องนอนหรือห้อง Type B1 ขนาด 55 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นมา

ชั้น 48 เป็นพื้นที่ส่วนกลางชั้น โดยออกจากลิฟต์มาจะสามารถเดินออกไปยังสระว่ายน้ำระบบเกลือ ในสระมีส่วนสระ Onsen เล่นระดับกัน 2 สระ สระเด็กด้านหลัง และสระ Jacuzzi ด้านหน้า

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็น Outdoor deck หรือที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้ง แบ่งโซนกันด้วยไม้พุ่มสีเขียว ด้านหลังเป็นส่วนของห้องฟิตเนส 2 ชั้น แต่ละชั้นมีขนาด 5 x 15 เมตร รวมเครื่องออกกำลังกายประมาณ 20 เครื่อง ริมสุดมาเป็น Social Club & Wine Bar เป็นห้อง Double space โอ่โถงที่สามารถมานั่งดื่มเบาๆ นั่งคุยกันพร้อมมองวิวเมืองแบบมุมกว้างได้ หน้าห้องมีโถงลิฟต์ซึ่งเป็นทางขึ้นลงอาคารได้อีกทาง

ชั้น 49 ออกจากลิฟต์มาจะเจอห้อง Business Center ค่ะ ใช้เป็นห้องนั่งจิบไวน์ คุยงาน ชมวิวเมืองได้ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสระน้ำเล่นระดับ ถือว่าเป็นมุมที่บรรยากาศดีทีเดียว ถัดจากลิฟต์มาอีกด้านจะเป็นห้องสมุด ที่เชื่อมต่อกับห้องฟิตเนสชั้น 2

ถัดมาเป็นส่วนยอดของอาคารแล้วค่ะ ก็คือชั้น 50 – 56 ซึ่งจะเป็นส่วนที่พักอาศัยนะคะ ความหนาแน่นยูนิตคือ 10 ยูนิตต่อชั้นค่ะ จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom 34.5 ตร.ม.ไปแล้ว 9 ห้อง อีกห้องเป็น 2 Bedroom 66 ตร.ม. ค่ะ เรื่องวิวของชั้นที่สูงแบบนี้จะเป็นวิวที่มองออกไปได้ไกลเลยค่ะ ไม่มีอะไรบังน่าจะสวย และเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง

ห้องตัวอย่าง

จะมีห้องตัวอย่างอยู่ 3 แบบ ซึ่งเราจะพาไปสำรวจกันทุกห้องนะคะ โดยเริ่มจากห้อง Type D 1 ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 30.5 ตร.ม. กันก่อน เป็นห้องหน้ากว้าง 4.8 เมตร ลึก 6.1 เมตร ตัวห้องแบ่งโซน Public กับ Private ชัดเจนนะคะ คือเข้ามาจะเป็นส่วนครัว ต่อไปที่ห้องนั่งเล่น ฝั่งนึงเป็น Public ไปเลย

อีกฝั่งเป็นส่วนห้องนอน ระเบียง และห้องน้ำ จะมีฉากกั้นห้องมาให้ ถ้าต้องการความเป็น Private ก็เลื่อนฉากมากั้นปิดระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้ ส่วนระเบียงมีฉากกั้น 2 ชั้น เพื่อให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ได้เต็มที่ แม้เวลาเปิดแอร์ และกั้นห้องสำหรับเก็บแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เป็นสัดส่วน ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

เข้ามาจะเป็นส่วนครัว มองไปเห็นห้องนั่งเล่นแบบนี้

พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30 x 60 cm. ส่วนพื้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเป็น Engineering Wood จบพื้นด้วยอลูมิเนียมลบมุมมาให้เรียบร้อยดี

ชุดครัว Built-in นี่จะได้มากับห้องด้วยนะคะ เป็นชุดครัวขนาดเล็ก มีชั้นลอยให้เก็บของ มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน พร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า และลิ้นชักเก็บของ เดี๋ยวเรามาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ แต่หลังเคาเตอร์ครัวที่เห็นปูกระเบื้องนั้นของจริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีเฉยๆนะคะ ไม่มี Back Splash กันเปื้อนมาให้ อันนี้ถ้าทำกับข้าวบ่อยแนะนำให้ติดเพิ่มค่ะ แต่ที่ผนังจะเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้

ชั้นลอยด้านบนทำเป็นหน้าบานไม้วีเนียร์สีน้ำตาลอมเทามา เปิดปิดมี Soft closed ไม่มีเสียงดัง ตัวชั้นสามารถใช้วางเตาไมโครเวฟ จาน ขวด แก้วน้ำได้ มีความลึกมากพอค่ะ ส่วนบานใหญ่ด้านบนจะเป็นตู้ซ่อนแผงงานระบบไฟ

วัสดุท้อปเคาเตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีเทา เตาเป็นเตาไฟฟ้าแบบสองหัว

อ่างล้างจานทำฝามาให้ปิดเปิดได้ค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีนะคะ ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มเวลาไม่ล้างจาน

พอเวลาจะล้างจานก็เปิดออกมาแบบนี้ เป็นอ่างสแตนเลสหลุมเดียวค่ะ

เปิดส่วนที่เก็บของล่างเคาเตอร์ให้ดูนะคะ มีส่วนลิ้นชักเก็บช้อนส้อมพร้อม Slot มาให้ และส่วนตู้เก็บขวดเครื่องปรุงต่างๆ ใต้อ่างล้างจานมีที่เก็บของพร้อมถังขยะใบเล็กมาให้อีกอัน

ส่วนตู้เย็นและตู้ใส่ของไม่ได้ให้มานะคะ แต่วางมาให้ดูระยะใช้งานเฉยๆ

ซึ่งพอวางชุดครัวและวางตู้เย็นแล้ว จะเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 1 เมตรค่ะ ถัดจากส่วนครัว ห้องตัวอย่างวางโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน ถ้าอยู่จริง แนะนำให้เลือกเก้าอี้ที่ดันเข้าไปเก็บใต้โต๊ะเวลาไม่ใช้งานได้นะคะ จะได้ไม่เกะกะทางเดิน แต่จะเห็นว่าต่อให้เป็นเก้าอี้ที่เก็บใต้โต๊ะไม่ได้อย่างในห้องตัวอย่างก็ยังมีระยะเดินไปมาพออยู่ดีค่ะ

เพดานห้องสูง 2.7 เมตรนะคะ แต่ส่วนครัวจะสูง 2.6 เมตร คอนซีลแอร์มาให้ ของจริงได้ตามที่เห็นค่ะ ผนังห้องของจริงจะได้เป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาวอมเทานะคะ ส่วนประตูทางเข้าห้องตัวอย่างไม่มีมาให้ แต่ของจริงเป็นประตูกรุไม้วีเนียร์ มี Digital Door Lock มาให้

ส่วนห้องนั่งเล่นจัดเป็นโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวีมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ จะเห็นว่าเหลือระยะเดินรอบๆได้ ถัดจากโซฟายังมีพื้นที่พอให้วางอาร์มแชร์กับโต๊ะข้างได้อีกชุด ตรงอาร์มแชร์ริมหน้าต่างนั้นถ้าใครชอบออกกำลังกายก็มีระยะพอวางลู่วิ่งไฟฟ้า หรือ เครื่องออกกำลังกายอื่นๆได้นะคะ แบบว่าออกกำลังกายไป ดูทีวีไป อะไรยังงี้

สุดผนังห้องนั่งเล่นเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง กระจกลามิเนต กรอบอลูมิเนียมโทนสีเทาเข้ม (ไม่ใช่ดำธรรมดาๆนะ) ไฟดาวน์ไลท์ ฝ้าดรอปซ่อนรางม่านของจริงได้ตามนี้นะคะ

ห้องตัวอย่างติดม่านสองชั้นมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่ของจริงจะได้รางม่านพร้อมผ้าม่านชั้นนอกชั้นเดียวค่ะ

ข้างส่วนห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ ที่ราวกันตกจะมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกกั้นอีกชั้นนะคะ ถ้าเปิดแอร์ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้ ถ้าจะตากผ้าหรืออยากรับลมก็เปิดหน้าต่างออกได้ พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1.2 x 0.8 m.พอวางโต๊ะหรือเก้าอี้เล็กๆได้อย่างละตัว จากระเบียงนี่ของจริงจะมีประตูเปิดไปห้องเก็บแอร์คอมเพรสเซอร์นะคะ ในห้องตัวอย่างไม่มีค่ะ แต่จะเห็นได้จากในผังห้อง

ด้านหลังส่วนห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนค่ะ ห้องตัวอย่างวางเตียงแบบ 5 ฟุตมา แต่ของจริงวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้นะคะ ยังมีที่พอเดินรอบๆได้อยู่ แต่อาจจะไม่มีที่วางโต๊ะข้างอย่างในห้องตัวอย่างนะคะ อันนี้บอกไว้เป็นข้อมูลสำหรับคู่ที่ชอบนอนสบายๆเตียงใหญ่ๆหน่อย ก็สามารถนะคะ

พอเลื่อนฉากกั้นห้องมาปิดจะเป็นแบบนี้ค่ะ ฉากกั้นห้องเป็นไม้วีเนียร์สามตอน

ฉากกั้นห้องเป็นแบบแขวนรางบนนะคะ ข้อดีคือไม่มีรางที่พื้นให้สะดุดและทำความสะอาดพื้นได้ง่าย มือจับเป็นสแตนเลสแบบนี้

จากเตียงมองไปที่ชั้นวางทีวีเป็นแบบนี้ค่ะ ก็คือสามารถนอนดูทีวีจากบนเตียงได้เลย ทีวีอยู่ตำแหน่ง center กับเตียงและโซฟาพอดี

จากเตียงมองไปที่ทางเข้าห้องน้ำค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงกว้างประมาณ 1.2 เมตร วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน พร้อมตู้เสื้อผ้าได้ เราเปิดบานตู้เสื้อผ้าให้ดูจะเห็นว่าขวางทางเข้าห้องน้ำอยู่นะคะ ก็ต้องทำทีละอย่างไป หรือไม่ก็หาตู้ที่เปิดแบบบานเลื่อนแทน

ตู้เสื้อผ้าไม่มีมาให้นะคะ ต้องหาเอง แต่ขนาดที่วางตู้เสื้อผ้า ถ้าอยู่กันสองคนก็มีที่เก็บเสื้อผ้าน้อยไปหน่อยค่ะ อาจต้องเอาโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานออก แล้วเพิ่มราวแขวนเสื้อผ้าเข้าไปแทน

สังเกตว่าที่ผนังใต้โต๊ะเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟไว้ให้นะคะ

เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 cm. ปูแกรนิตโต้ผิวด้านสีเทาเข้มขนาด 30 x 60 cm. สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ผนังปูแกรนิตโต้สีเทาขนาด 30 x 60 cm. จรดเพดาน ที่เพดานเหนือโถสุขภัณฑ์จะมีพัดลมดูดอากาศอยู่

ท้อปอ่างล้างมือเป็นหินสังเคราะห์ลายเทาขาวดำสวยดีค่ะ กระจกเงาติดมาให้เต็มความกว้างท้อปอ่างล้างมือ และสูงจรดเพดาน

อ่างล้างมือเป็นทรงสี่เหลี่ยมขอบโค้ง ขนาดค่อนข้างใหญ่นะคะ เราเทียบขนาดกับฝ่ามือให้ดู

ฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงประมาณ 5 cm.

ฝักบัวมีทั้งแบบ Rain Shower ติดกับเพดาน และฝักบัวแบบถืออาบ

เทียบขนาดฝักบัวกับมือให้ดูค่ะ จะเห็นว่าใหญ่ใช้ได้ ที่ผนังข้างๆก็อกฝักบัว มีที่วางสบู่อาบน้ำมาให้ วางได้ 1 ขวด ใครอุปกรณ์เยอะ อาจต้องติดชั้นเพิ่มหรือวางพื้นเอานะคะ

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูกันถัดมาคือห้อง Type C1 ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 34.5 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้างประมาณ 5.5 เมตร ลึก 6.8 เมตร ซึ่งจริงๆการจัดโซนนิ่งนี่เหมือนๆกันกับห้องแรกที่พาไปชมเลยค่ะ แต่พื้นที่ที่มากขึ้นทำให้มีระเบียงที่ใหญ่ขึ้น ที่ข้างเตียงเยอะขึ้น และทางเดินส่วนครัวและห้องนั่งเล่นกว้างขึ้นนิดหน่อยค่ะ ส่วนที่ต่างกันจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

ทางเข้าเปิดมาเป็นส่วนครัวมองไปเห็นห้องนั่งเล่นเหมือนกัน

ชุดครัวนี่ได้แบบเดียวกัน

วัสดุห้องและความสูงเพดานเป็นแบบเดียวกับห้องแรกที่พาไปชมกันทุกอย่างค่ะ

ส่วนห้องนั่งเล่นจัดเหมือนๆกัน แต่ห้องนี้จะลึกกว่าหน่อยค่ะ จะเห็นว่าผนังฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะกินข้าวมีระยะพอวางชั้นหรือตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้

มีประตูเปิดออกไประเบียง ขนาดกว้างขึ้น เป็นประตูบานเลื่อนแบบสามตอน

ที่ระเบียงมีระยะพอวางเก้าอี้อาร์มแชร์ขนาดกระทัดรัดได้คู่นึง และโต๊ะข้างอีกตัวได้ หลังราวกันตกมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกกั้นอีกชั้นเหมือนกันกับห้องแรก

ส่วนห้องนอนค่ะ มีกั้นห้องแบบเดียวกันกับห้องแรกที่พาไปดูเลยค่ะส่วนที่ต่างกันคือพอมีความลึกมากกว่า ก็มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างของจริงจะเป็นมุมว่างๆยุบเข้าไปนะคะ ในห้องตัวอย่างใช้พื้นที่นี่เป็นอาร์มแชร์ บางคนอาจทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือแทนได้

ผนังข้างๆติดทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่ของจริงจะทำ Built in เป็นชั้นวางของเพิ่มก็ได้

ข้างเตียงอีกฝั่งทางไปห้องน้ำ ห้องน้ำได้เหมือนกันกับห้องแรกที่พาไปชมทุกอย่างนะคะ

ที่โต๊ะหน้าห้องน้ำส่วนนี้ก็เตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เหมือนกันค่ะ

ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายที่จะพาไปสำรวจกันคือห้อง Type A1 ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 63 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.9 ลึก 9.3 เมตร ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร เป็นห้องที่เหมาะมากสำหรับคู่แต่งงานใหม่ หรือพี่น้องอยู่ด้วยกันนะคะ เพราะขนาดห้องนอนที่ได้ทั้งสองห้องจะพอๆกันเลย แต่ Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวให้ ส่วนห้องนอนเล็กจะติดกับห้องน้ำที่ใช้ร่วมกับห้องนั่งเล่น ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีระเบียงอยู่ ส่วนห้องนั่งเล่นและครัว นั้นมีพื้นที่ที่สามารถกั้นเป็นสัดส่วนได้ หรือจะปล่อยโล่งก็ดูกว้างขวางดี ระยะกำลังน่าสบายค่ะ ผนังกระจกโค้งก็ทำให้เห็นวิวแบบพาโนราม่าดูหรูหราไม่เหมือนใคร ตัวห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

เข้ามาจะเป็นโถงทางเดินยาวๆแบบนี้ค่ะ ห้องแรกด้านซ้ายมือเป็นห้องนอน Master Bedroom ช่องถัดไปฝั่งซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องนอนเล็กและห้องน้ำ ขวามือเป็นประตูเปิดออกไประเบียง และตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ เดี๋ยวจะพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ

เข้ามาดู Master Bedroom กันก่อน ห้องนอนห้องนี้จะมีห้องน้ำอยู่ในตัวนะคะ

ห้องน้ำมีอ่างอาบนำ้ด้วยค่ะ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเป็นแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างอื่นๆนะคะ ต่างกันที่ห้องนี้มีอ่างอาบน้ำ กับขนาดพื้นที่

อ่างอาบน้ำที่อยู่ติดกระจก แบบ Sexy Bath มี Rain Shower และฝักบัวมาให้ ฝักบัวได้ขนาดเท่ากันกับห้องอื่นๆนะคะ ส่วน Rain Shower ห้องนี้จะเป็นแบบติดผนัง ไม่ได้ห้อยเพดานเหมือนห้องอื่น

เพราะเป็นอ่างแบบ Sexy Bath ที่ฝ้าเพดานจะดรอปฝ้าไว้ให้ซ่อนรางม่านได้นะคะ เผื่อบางเวลาไม่อยาก sexy ก็ปิดม่านเอาไว้ได้

อ่างล้างมือท้อปเป็นหินสังเคราะห์สีเดียวกันกับห้องอื่นๆ โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ Kohler แบบเดียวกันค่ะ

แต่กระจกเงาในห้องน้ำได้มากว้างกว่า ก็คือเต็มความลึกผนังและสูงจรดเพดาน เพดานด้านบนโถสุขภัณฑ์มีพัดลมดูดอากาศมาให้ ไฟเป็นดาวน์ไลท์

ออกจากห้องน้ำจะมีมุมที่เหมาะจะวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ห้องตัวอย่างวางมาให้ดูระยะใช้งาน แต่ของจริงเป็นผนังเปล่านะคะ

เปิดบานตู้เสื้อผ้ากับประตูให้ดูนะคะ ก็คือพอมีระยะถอย พอมีระยะเดินอยู่ แต่ถ้าใครไม่เอาโต๊ะเครื่องแป้งแต่ำ Builtin ตู้เสื้อผ้าเต็มความกว้างผนังไปเลยแนะนำใช้ตู้แบบบานเลื่อนดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เกะกะทางเดิน

สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ค่ะ มีระยะพอเดินรอบเตียงได้อยู่

หน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้งแบบนี้

มองไปที่ประตู จะเห็นว่าที่เพดานคอนซีลแอร์มาให้เรียบร้อยนะคะ ของจริงได้ตามนี้ ระยะปลายเตียงมีแค่ประมาณ 45 cm. แนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังเหมือนในห้องตัวอย่างนะคะ จะได้ยังมีที่เดินไปเดินมาได้อยู่

ออกมาจากห้องนอนใหญ่ฝั่งตรงข้ามจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกมาที่ระเบียงค่ะ ระเบียงมีกระจกสองชั้นเหมือนระเบียงห้องอื่นๆนะคะ ระยะพอวางเก้าอี้และโต๊ะข้างได้อย่างละตัว

ถัดมาก่อนถึงห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องน้ำและทางเข้าไปห้องนอนเล็กค่ะ

เดี๋ยวพาเข้าไปดูห้องน้ำกันหน่อย

ห้องน้ำส่วนนี้จะมีอ่างล้างมือแบบเข้ามุมอยู่นะคะ

บนเคาเตอร์อ่างยังวางของรอบๆได้อยู่ แต่เคาเตอร์ค่อนข้างตื้น เลยวางได้เฉพาะด้านข้างค่ะ

ถัดเข้าไปจากโถสุขภัณฑ์จะเป็นส่วนฉากกั้นห้องอาบน้ำค่ะ วางบนธรณีก่อขึ้นมาประมาณ 5 cm. ตัวฉากกั้นเป็นกระจกเทมเปอร์

เหนือโถสุขภัณฑ์มีพัดลมดูดอากาศให้ และ Rain Shower แบบแขวนฝ้าเพดาน

ไปดูส่วนห้องนั่งเล่นและผนังกระจกโค้งไฮไลท์ของห้องกันต่อเลยค่ะ

เนื่องจากผนังเป็นกระจกโค้ง ขอบของพื้นห้อง รวมถึงฝ้าเพดานที่ดรอปมาบังราวม่านและตัวราวม่านเอง จึงเป็นทรงโค้งตามผนังกระจกไปด้วย รวมทั้งแอร์ที่ฝังฝ้ามาเป็นแนวยาว ก็ถือว่าเป็นการออกแบบที่ผ่านกระบวนการคิดหลายอย่างนะคะ เพื่อให้ได้มุมมองแบบพาโนราม่าแบบนี้

มีเต้ารับสำหรับเสียบปลั๊กไฟแบบฝังพื้นของ Schneider ลักษณะแบบนี้มาให้หลายจุดอยู่เหมือนกัน

จากห้องนั่งเล่นมองกลับไปที่โถงทางเดิน จะเห็นผนังหลังโซฟาเป็นผนังโค้ง อันนี้ของจริงจะไม่เป็นแบบนี้นะคะ จะเป็นผนังตัวป้านตามผังห้องค่ะ อันนี้คือทางอินทีเรียเบิ้ลผนังออกมาทำผิวดัดโค้ง และทำเป็นชั้นเก็บของ Built in มาให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อใครอยาก Built in ตามนะคะ

ถ่ายให้ดูส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ จะเห็นว่าวางโซฟารูปตัว L นั่งได้ 3 – 4 คนสบายๆ วางโต๊ะกาแฟ วางโต๊ะข้างได้ จะเห็นว่าผนัง Built in ด้านหลังโซฟามีประโยชน์มากนะคะ ในแง่ชีวิตประจำวันและการเก็บของ ถ้าเป็นเราซื้อห้องราคาขนาดนี้ได้เรา Built เพิ่มแน่นอน ใช้วางหนังสือ ขวดไวน์ หรือเก็บของกระจุกกระจิกได้ดี

บรรยากาศห้องนั่งเล่นและผนังกระจกโค้งค่ะ จากโซฟาวางชั้นวางทีวีด้านหน้าได้นะคะ ระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร

ที่พื้นมีฝังเต้าเสียบสำหรับทีวีมาให้แล้ว

ถัดจากส่วนห้องนั่งเล่นเป็นส่วนห้องรับประทานอาหาร จัดมาเป็นโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่ง ระยะเดินรอบๆถอยเข้าถอยออกเก้าอี้ไม่อึดอัดค่ะ

ชุดครัวได้วัสดุแบบเดียวกันกับแบบ 1 ห้องนอนนะคะ แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีที่เก็บของมากกว่าอย่างที่เห็น

เตาไฟฟ้าได้มาแบบสี่หัว พร้อมเครื่องดูดควันด้านบน

อ่างล้างจานสแตนเลส 2 หลุมมีฝาผิดด้านบนเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหาร

ลิ้นชักมี slot สำหรับใส่ช้อนส้อมมาให้ ส่วนที่จับเป็นช่องหุ้มสแตนเลสขอบมนแบบนี้

เปิดบานตู้ชุดครัวให้ดูระยะเดินค่ะ

ราคา

ราคาเริ่มที่ 7.9 ล้านบาท/ 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.5 ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 259,000บาท/ ตร.ม.

ค่าส่วนกลาง : 65 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน : 650 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

*ราคานี้เป็นราคาล่าสุด ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2558 สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ Ashton จุฬา – สีลม ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปหัวลำโพง ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน อยู่ตรงข้ามจามจุรีสแควร์เลย เป็นทำเลใจกลางเมืองที่จัดได้ว่าเป็นที่ดินผืนหายาก การคมนาคมที่สะดวกและหลากหลายและมีความอุดมสมบูรณ์ ไปไหนมาไหนก็สะดวกมาก เพราะอยู่ใจกลางเมืองอยู่แล้ว ใกล้จุฬา ใกล้ห้าง ใกล้สยาม ใกล้สีลม สาทร ใกล้สวนลุมพินี ก็อยู่ในระยะที่พอเดินไปได้แทบทั้งหมด หรือนั่งรถไฟฟ้าก็ไม่กี่สถานีเท่านั้น

ความอุดมสมบูรณ์ – ติดๆโครงการจะมีร้านกาแฟ Too Fast To Sleep ที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและคนทำงานที่นอนดึกอยู่ เปิด 24 ชั่วโมง ด้านในสั่งขนมเค้ก ไอศครีมและเครื่องดื่มต่างๆได้ ด้านล่างของร้านมีทั้งร้านส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ที่เปิดตั้งแต่กลางวันจนดึกดื่น ใกล้ๆ เดินไปประมาณ 300 เมตรถึงก็มีจามจุรีสแควร์ เปิดตั้งแต่ 11 โมง ถึง 2 ทุ่ม ด้านในมีร้านอาหารเยอะเหมือนกัน นอกจากนี้แถวหน้าวัดหัวลำโพงก็มีร้านอาหารและแผงขายของกินอยู่หลายร้าน

ถ้าเดินได้ในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร ก็มีทั้งร้านอาหารเก่าๆแถวสุรวงศ์ ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติย่านสีลม อย่างอาหารญี่ปุ่นในซอยธนิยะ หรือพัฒพงษ์ก็อยู่ในระยะที่เดินไปถึงทั้งนั้นค่ะ อย่างสยามนี่ไม่ไกลนะ แต่อาจเดินเหนื่อยหน่อยเพราะห่างเป็นกิโล ก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป 40 บาท หรือเดินไปขึ้น BTS ศาลาแดงที่ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร ก็ไม่ยากนัก พูดได้ว่าเป็นย่านที่สมบูรณ์ หาของกินค่อนข้างง่าย และเหมาะสำหรับคนนอนดึกด้วยค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ เส้นพระราม 4 ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองอยู่แล้ว ขับไปไหนในตัวเมืองก็เป็นระยะสั้นๆค่ะ แต่ถ้าจะช้าก็เพราะรถติดในเวลาเร่งด่วน เพราะย่านนี้เป็นโซนใจกลางเมือง ใกล้ห้าง ใกล้ Office Building มากมาย แถมยังใกล้จุฬาฯอีก จริงๆมันก็เป็นทำเลที่ถ้าจะไปไหนใกล้ๆก็เดินไปหรือนั่งรถไฟฟ้าไปดีกว่า เพราะคนเยอะ รถก็เยอะตาม แต่สำหรับคนที่ต้องขับออกนอกเมือง หรือไปไหนไกลๆ ก็มีทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร ให้ใช้บริการได้ และจุดขึ้นลงทางด่วนทั้งคู่ก็อยู่ในระยะราวๆ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้นจากโครงการ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – พูดได้ว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับคนไม่ขับรถนะ เพราะหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย เดินไปอีกนิดก็มีวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งย่านนี้ในชั่วโมงเร่งด่วน พี่วินช่วยได้มากจริงๆ ตุ้กๆแท้กซี่ก็มีผ่านไปผ่านมาหน้าโครงการตลอด และจุดขายหลักเลยคืออยู่ใกล้ MRT สามย่านเดินไปแค่ 180 เมตร ซึ่งถือว่าสะดวกมาก แต่สำหรับคนที่ใช้ BTS เป็นหลัก ก็ต้องไปเปลี่ยนสายสถานีหรือไม่ก็เดินไป BTS ศาลาแดงที่ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร ซึ่งสำหรับคนใช้ BTS เป็นหลักแบบใช้ทุกวันมันก็ไม่ได้สะดวกนัก แต่โดยภาพรวมแล้วก็ถือว่าเป็นทำเลที่ดีมากอยู่ดีสำหรับคนไม่ใช้รถค่ะ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการ Ashton จุฬา – สีลม มีจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์เลยคือเป็นตึกสูงที่ส่วนมุมเป็นกระจกโค้งมน ซึ่งนอกจากจะมาจากฟังก์ชั่นที่ได้คือห้องแบบ 2 ห้องนอนจะเห็นวิวมุมกว้างแบบพาโนราม่าแล้ว ยังได้ลุคดูหรูหราและทันสมัยอีกด้วย โครงการที่อยู่ในที่ดินแพงๆแบบนี้ การออกแบบต้องคิดทุกเม็ดค่ะ ว่าคุ้มค่ารึเปล่า ซึ่งผลที่ได้ถือว่าออกมาดีค่ะ คือไม่เสียพื้นที่ใช้สอยให้กับดีไซน์มากไปด้วย คือไม่ได้โค้งเฟี้ยวฟ้าว แต่โค้งแบบมีเหตุผล 555+

ส่วนห้องพักแบบ 1 Bedroom จะมีฉากกั้นสามตอนฝังในผนัง ทำให้ห้องนี้สามารถใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทั้งสองฟังก์ชั่นได้ในเวลาเดียวกันและแยกส่วนกันได้เวลามีแขกมาหา รวมถึงคอนเซ็ป Eco Urban living ก็เหมาะสำหรับโครงการในเมืองแบบนี้ค่ะ เน้นปลูกต้นไม้เยอะๆ มีสวนขั้นบันได สวนแนวตั้ง ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน และพลังงานแสงอาทิตย์

ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted อุปกรณ์ที่มีให้ได้แก่ ชุดเคาน์เตอร์ครัวบนล่างท๊อปหินสังเคราะห์บานปิดซอฟท์โคลสพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานแบบมีฝาปิดเป็นหินสังเคราะห์เข้ากันกับเคาเตอร์ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำครัว พื้นครัว, ระเบียง และห้องน้ำปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 30 x 60 cm. พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineering wood, กระจกภายนอกอาคารใช้กระจกลามิเนตตัดแสงบานใหญ่ แอร์เป็นแบบคอนซีลมาในฝ้าเพดานให้เรียบร้อย, ส่วนในห้องน้ำ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นท็อปหินสังเคราะห์, อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Kohlor, สายชำระ ของ Englefeld, ชุดฝักบัวอาบน้ำและก็อกน้ำของ Grohe, ฉากกั้นส่วนเปียกเป็นกระจกเทมเปอร์ มีการ Drop ฝ้าเพดานเพื่อติดรางผ้าม่านให้และแถมผ้าม่านชั้นนอกแบบทึบแสงให้ด้วยค่ะ

วัสดุให้มาโอเคสำหรับราคาระดับนี้ค่ะ คือไม่ได้ให้เยอะ ตู้เสื้อผ้าไม่ได้ ชั้นเก็บของไม่มี แต่มีความใส่ใจและใช้ของดีในส่วนที่ให้ แต่จริงๆแล้วคอนโดราคาแบบนี้ ความคุ้มค่าหรือสเป็คของวัสดุไม่ได้เป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายมากนัก เพราะจริงๆราคานั้นถูกกำหนดด้วยราคาทำเลที่ตั้งและปริมาณพื้นที่รวมของตึกที่สามารถขายได้เป็นหลักมากกว่า หรือพูดง่ายๆว่าแพงเพราะทำเลที่เป็นที่ดินผืนหายากแล้วนั่นเอง ราคาไม่ได้แพงเพราะสเป็ควัสดุ

สิ่งอำนวยความสะดวก – นอกจากที่จอดรถชั้น 1 – 6 และสวนด้านหน้า Lobby โครงการและ สวนชั้น 7 แล้ว พื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ในชั้น 48-49 ซึ่งค่อนข้างจะเน้นพื้นที่ที่ให้เห็นวิวดีมมกว้าง มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ เล่นระดับ ขนาด 6 x 50 เมตร โดยมีพื้นที่จากุซซี่ให้ด้านหน้า 1 จุดและออนเซ็นให้ 2 จุด เป็นพื้นที่แบบต่างระดับ บรรยากาศดูหรูหราและใหญ่ดีค่ะ มีสระเด็กอยู่ด้านหลัง ห้องออกกำลังกายมีให้ 2 ชั้น รวม 2 ชั้นก็มีเครื่องออกกำลังกาย 20 เครื่อง ห้องออกกำลังกายมีผนังห้องเป็นกระจกสามารถออกกำลังกายไปมองวิวของตึกสูงไปได้ นอกจากนี้ก็มีห้องโซเชียลคลับ/ไวน์บาร์, ห้องสมุด, ห้องอเนกประสงค์ ,ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องซักรีด, ห้องซาวน่า, ห้องอบไอน้ำ ครบครัน

นอกจากนี้ Retails ชั้นล่าง 2 ห้องยังมีแผนเปิดเป็นร้านสตาร์บั๊คด้วยค่ะ มีที่จอดรถจักรยาน, ที่จอดรถ Super Car และที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าในชั้น 1 แต่สำหรับที่จอดรถยนต์ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 560 คันคิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน สำหรับโครงการที่มียูนิตเยอะแบบนี้ถือที่จอดรถค่อนข้างน้อยนะคะ แต่คิดว่าน่าจะมาจากการวิเคราะห์ทำเลว่าเหมาะกับคนไม่ใช้รถมากกว่าก็เป็นได้ค่ะ

ส่วนลิฟต์โดยสารมีให้ทั้งหมด 7 ตัว กับลิฟต์บริการอีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 169 : 1 แต่โดยรวมแล้วให้ส่วนกลางเยอะ ครบครัน เพื่อให้สอดคล้องกับยูนิตพักอาศัยที่เยอะเช่นกัน (1,180 ยูนิต) ค่าส่วนกลาง ตร.ม. ละ 65 บาท ก็ถือว่าสูง สมมติห้อง 30.5 ตร.ม. ต้องจ่ายเดือนละเกือบสองพันบาท ส่วนนึงก็เพราะได้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ด้วย แต่สำหรับโครงการราคาระดับนี้ ค่าส่วนกลางเท่านี้กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เพราะเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมในราคานี้ เรื่องความคุ้มค่าด้านราคากับวัสดุคงไม่ใช่เหตุผลหลัก แต่เป็นเรื่องของความพอใจ ไม่ว่าจะพอใจในทำเล ดีไซน์ หรือ ไลฟ์สไตล์จากการอยู่อาศัยที่นี่ มีความคุ้มค่ากับจิตใจและตอบโจทย์ความต้องการได้ซะมากกว่า

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02 316 2222

Website : http://www.ananda.co.th/condo/projects/ashton-chula-silom/sem.php

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.220 รีวิว คอนโด แชมเบอร์ส รามอินทรา CHAMBERS RAMINTRA

สวัสดีท่านผู้อ่านชาว Homenayoo ครับ วันนี้ผมมีคอนโด Chambers รามอินทรา มานำเสนอให้ทุกท่านได้รู้จักกัน โครงการดังกล่าวเป็นของ SC ASSET คอนโด Low-Rise สูง 7 ชั้น 3 อาคารออกแบบมาในคอนเซปต์ที่ให้การอยู่อาศัยคอนโดได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านด้วยขนาดห้องที่กว้างกว่า ทำเลที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนบนถนนตัดใหม่ รัชดา-รามอินทรา ใกล้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางด่วนรามอินทรา ใกล้ห้างใหญ่แฟชั่นไอส์แลนด์ ห้างเดอะ พรอมานาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งสระว่ายน้ำ ห้องสมุดและฟิตเนส รายละเอียดจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามได้ด้านล่างนี้เลยครับ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนตัดใหม่ รัชดา-รามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร

การเดินทาง

Chambers รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ รัชดา-รามอินทรา ซึ่งเป็นถนนเส้นที่ถูกตัดขึ้นใหม่เมื่อไม่นานมานี้ โดยตัดจากถนนเกษตร-นวมินทร์ไปยังถนนรามอินทราและถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ใกล้ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ โดยมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้

การเดินทาง : ทางด่วนศรีรัช > ทางด่วนรามอินทรา > เลียบด่วนรามอินทรา > เกษตร-นวมินทร์ > ตัดใหม่ รัชดา-รามอินทรา > Chambers รามอินทรา

เริ่มต้นบนทางด่วนศรีรัชฝั่งที่มุ่งหน้าไป พระราม9 – รามอินทรา – ศรีนครินทร์

ขับมาตามทางด่วนศรีรัชจนถึงทางออก ตอ.2-04 เพื่อไปถนนรามอินทรา

ให้เราออกที่ทางออก ตอ.2-04 นี้ไปยังรามอินทรา

พอออกมาแล้วจะมีทางแยกย่อยอีก ให้ออกซ้ายอีกทีเพื่อไปใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

วิ่งต่อไปบนถนนทางด่วนรามอินทรา

จากนั้นให้ลงทางด่วนที่ทางออก 14 เกษตร-นวมินทร์

พอเราลงทางด่วนมาแล้วให้วิ่งเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยให้ขึ้นสะพานลอยข้ามแยก

ลงจากสะพานข้ามแยกมาแล้วให้ชิดขวาไว้เพื่อกลับรถ

หลังจากกลับรถแล้วให้เราชิดซ้ายไว้เพื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนเกษตร-นวมินทร์

ขับไปตามเส้นเกษตร-นวมินทร์

ถึงแยกตัดใหม่ ให้เลี้ยวซ้ายไปใช้ถนนตัดใหม่ รัชดา-รามอินทรา

ขึ้นสะพานข้ามแยกถนนนวมินทร์ มุ่งหน้าไปทางถนนกาญจนาภิเษก

พอลงจากสะพานข้ามแยกมา ประมาณสัก 1 กม. มองเห็นโครงการ Chambers รามอินทรา อยู่ฝั่งตรงข้ามทางขวามือ เราจึงต้องไปกลับรถด้านหน้า

มุ่งหน้าไปจุดกลับรถ ผ่าน The Junction คอมมูนิตี้มอลล์ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด

จุดกลับรถอยู่บริเวณถนนกาญจนาภิเษก

ถึงแล้วโครงการ Chembers รามอินทรา ซึ่งประตูแรกจะเป็นทางออกให้เราไปเข้าที่ประตูถัดไปครับ

บริเวณโครงการ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

– เดอะ พรอมานาด ช้อปปิ้งมอลล์ : 5.9 กม.
– ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ : 5.8 กม.
– ร้านอาหารช็อคโกแลตวิลล์ : 3.7 กม.
– โรงพยาบาลสินแพทย์ : 3.9 กม.
– โรงพยาบาลพญาไท : 2.1 กม.
– โรงเรียนบดินทรเดชา 2 : 1.5 กม.
– The Junction : 650 เมตร
– Tesco Lotus สุขาภิบาล 1 : 2.3 กม.
– Max Valu : 1.0 กม.
– Big C สุขาภิบาล 1 : 2.0 กม.
– บุญถาวร : 3.4 กม.
– Index Livingmall : 4.3 กม.
– The Crystal รามอินทรา : 5.7 กม.

เรามาดูบรรยากาศหน้าโครงการกันครับ ตัวโครงการติดกับถนนตัดใหม่ รัชดา-รามอินทราหน้าโครงการ ถนนกว้างฝั่งละ 4 เลนมีเกาะกลางถนน

ตรงข้ามเป็นโฮมออฟฟิศ Work Place

มองย้อนไปทางฝั่งถนนกาญจนาภิเษก

ด้านข้างโครงการมีซอยเล็กๆ สามารถใช้ทะลุไปได้ถึงถนนเกษตร-นวมินทร์แถวๆร้านอาหาร Chocolate Ville แต่หากเราออกจากโครงการจะไม่สามารถใช้ซอยนี้ได้ครับเพราะต้องย้อนกลับมา ใช้ในกรณีขากลับได้เท่านั้นครับ

ถัดมาจากซอยมี Work Place อีกโครงการหนึ่ง

เป็นโฮมออฟฟิศสูง 4 ชั้น

กลับมาที่หน้าโครงการเพื่อเดินไปอีกด้านกันครับ

ประตูฝั่งทางเข้าโครงการ

ป้ายรถประจำทางอยู่หน้าโครงการเลย

ติดกับโครงการมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น หมูตุ๋น และกล้วยอบน้ำผึ้งทอด

ถัดมามีไก่ย่างส้มตำ

ร้านเบียร์วุ้นอยู่บริเวณตีนสะพานลอย

ตีนสะพานลอยอีกด้านเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา

จากนั้นจะเป็นแนวของอาคารพาณิชย์ มีร้านโก๊ะ ข้าวมันไก่ และร้านข้าวแกงปักษ์ใต้

ขึ้นมาถ่ายภาพบนสะพานลอยเพื่อให้มองเห็นระยะเดินจากโครงการไปยังร้านค้าต่างๆ

เลยสะพานลอยไปเห็นร้านโก๊ะข้าวมันไก่

ฝั่งตรงข้ามโครงการแชมเบอรส์มีป้ายรถประจำทาง

ลงสะพานลอยอีกฝั่งก็มีร้านอาหารอยู่อีกหลายร้านครับซึ่งเป็นประเภท ก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวแกง และส้มตำไก่ย่าง

กลับเข้ามาด้านในโครงการ

ภาพรวมๆ หน้าโครงการและลานจอดรถ

มีสระน้ำเล็กๆเพิ่มความเป็นสดชื่นธรรมชาติ

ซุ้มทางเข้าและออกโครงการ มีไม้กระดกกั้น

รูปแบบอาคารออกแบบคล้ายๆบ้านพักอาศัยที่สูง 7 ชั้น

ลานจอดรถหน้าโครงการ

มีที่จอดรถแบบ Fix ให้สำหรับขนาด 2 และ 3 ห้องนอน

สิ่งอำนวยความสะดวก

สวนหย่อมและทางเดินระหว่างอาคาร

ทางเดินนี้มีหลังคากันฝนให้

มีมุมนั่งพักผ่อนกระจายอยู่หลายๆจุดรอบอาคาร

ทางเดินหลังอาคาร

หน้าทางเข้าล็อบบี้ ซึ่งจุดนี้เป็นทางเข้าไปอาคาร B ซึ่งเป็นทางเข้าไปยังส่วนกลางหลัก สระว่ายน้ำและฟิตเนส

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ส่วนยาวที่สุดยาว 30 เมตร มีพื้นที่ตื้นสำหรับเด็ก

จุดนั่งพักผ่อนริมสระน้ำ

สำหรับอาคาร B จะมียูนิตพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้นล่าง ทำให้มีบางยูนิตที่อยู่ติดสระว่ายน้ำ

ห้องฟิตเนสอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

อุปกรณ์ที่มีให้ได้แก่ ลูวิ่ง 2 ตัว เทรนเนอร์ 1 ตัว และจักรยาน 1 ตัว

อีกด้านของห้องฟิตเนสเป็นมุมสร้างกล้ามเนื้อ มีเครื่องสร้างกล้ามเนื้อครบส่วน เตียงยกดรัมเบลล์และดรัมเบลล์หลายขนาด

แปลนอาคาร

Master Plan

อาคาร A ชั้น 2 – 7

อาคาร B ชั้น 1

อาคาร B ชั้น 2 – 7

อาคาร C ชั้น 2 – 7

ห้องตัวอย่าง

ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ชมเพียงแบบเดียวคือแบบ 3 ห้องนอนขนาด 94.75 ตร.ม. อยู่ที่อาคาร C ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนห้องแบบ 1 Bed นั้นขายหมดไปแล้ว และสำหรับห้องแบบ 2 Bed นั้นอยู่ในช่วงของการเก็บรายละเอียดและยังมีบางส่วนที่ไม่เรียบร้อยในวันที่ผมเข้าไปเก็บภาพครับ

แปลนห้อง 3 Bedroom Type D แบบแปลนนี้จะสลับด้านซ้ายขวาจากห้องตัวอย่างที่จะได้รับชมต่อจากนี้ เริ่มจากหน้าห้องมีพื้นที่ Foyer หรือโถงทางเข้าห้องให้ เปิดประตูเข้าไปเป็นพื้นที่ของ Dining และ Living มีระเบียงติดกับห้องนั่งเล่น ห้องครัวเป็นแบบครัวปิดด้วยบานเลื่อน ห้องนอนรอง 2 ห้องอยู่ฝั่งด้านนอกตรงข้ามกับห้องน้ำส่วนกลางและสุดทางเดินเป็น Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว

Foyer หน้าห้องมีรั้วเหล็กสีดำแบ่งพื้นที่เสมือนมีหน้าบ้าน ตามคอนเซปต์โครงการที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

สำหรับห้องตัวอย่าง 3 Bedroom นี้ทางโครงการยังเปิดขายอยู่ด้วยในราคา 6.29 ล้านบาทซึ่งจะแถมอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและพร็อพตกแต่งทุกชิ้นที่กำลังจะได้รับชมต่อจากนี้ รวมถึงจักรยาน Fix Gear คันนี้ด้วยนะครับ

ประตูทางเข้าห้อง

มือจับประตูแบบก้านโยก

มองเข้าด้านในจากประตูห้อง เพดานห้องสูง 2.7 เมตร พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.

มองไปทางซ้ายเป็นโซน Dining และ Living ระบบไฟส่องสว่างให้เป็นโคมดาวน์ไลท์

มองไปทางขวาเห็นเป็นห้องครัวและทางเดินกลางห้อง

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง ใกล้ๆกับประตูมีตู้รองเท้าให้

ตู้รองเท้า

โต๊ะทานข้าวสำหรับ 4 ที่นั่ง ใช้เก้าอี้เสริมหัวโต๊ะเป็น 6 คนได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่ใหญ่กว่านี้ก็ยังได้เพราะมีพื้นที่เหลือเฟือ

ห้องนั่งเล่นมีโซฟาและชั้นวางทีวีให้ สำหรับห้องตัวอย่างนี้แถมทีวีให้ด้วย ซึ่งจริงๆจะไม่มีให้ครับ

โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลางเป็นแบบมีล้อเลื่อนย้ายที่สะดวก

ชั้นวางทีวีเล็กไปหน่อย เมื่อเทียบกับผนัง

ระเบียงห้องขนาด 180 x 100 ซม. ประตูระเบียงวัสดุอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

ไปดูที่ห้องครัวกันต่อ ซึ่งห้องครัวนั้นเป็นแบบกึ่งเปิดปิดด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม

ห้องครัวเป็นแบบตัว L เข้ามุม ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุดทั้ง ตู้เย็น ไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า

ช่องวางตู้เย็นมีพื้นที่เหลือรอบๆ พอให้มีที่คลายร้อน

เครื่องซักผ้าแบบเปิดฝาหน้าวางเข้าช่องขนาดพอดีเป๊ะ

ช่องไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง แม่บ้านที่ตัวไม่สูงนักสามารถใช้งานได้สะดวก

เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex ท๊อปครัวหินสังเคราะห์

ฮูดดูดควัน MEX

ซิงค์ล้างจานหลุมเดียว น่าเสียดายนิดนึงที่กำแพงด้านหลังไม่มีปูกระเบื้องหรือกระจกกันเปื้อนให้

ทางเดินกลางมีห้องนอนรอง 2 ห้องทางซ้าย

ห้องนอนรอง 1 มีเตียงขนาด 3.5 ฟุต ซึ่งห้องตัวอย่างนี้แถมฟูกและเครื่องนอนให้ด้วย

ตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน บานปิดมีกระจกแต่งตัวให้เรียบร้อย

ห้องนอนรอง 2 ห้องนี้วางเตียง 5 ฟุต

มีตู้เสื้อผ้าให้เช่นกัน

ตรงข้ามกับห้องนอนสักครู่นี้ เป็นห้องน้ำส่วนกลาง โดยจะเป็นแบบไม่มีประตูห้องน้ำด้านหน้า เนื่องจากด้านในจะแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานห้องอาบน้ำกับห้องน้ำให้ใช้งานแยกกัน

ก่อธรณีสูงเล็กน้อยด้วยหินแกรนิตกันน้ำสาด

พื้นที่ห้องน้ำรวมๆ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

อ่างล้างหน้า

ชุดอ่างล้างหน้าเป็นวัสดุเซรามิค หลุมไม่กว้างเท่าไร ด้านล่างมีราวแขวนผ้าผืนเล็ก

ห้องน้ำส่วนที่วางสุขภัณฑ์ด้านใน เป็นแบบประตูบานเลื่อน

โถสุขภัณฑ์ Cotto

ประตูใช้แบบแขวนรางด้านบน

ห้องอาบน้ำแยกมาอยู่อีกส่วนนึง

ห้องอาบน้ำ

ฝักบัว Cotto

กลับออกมาด้านนอกเพื่อไปชม Master Bedroom ที่อยู่ด้านในสุด

Master Bedroom

ห้องนี้ให้เตียง 6 ฟุตมีโต๊ะหัวเตียง 2 ตัวซ้ายขวา

ปลายเตียงแถมตู้วางทีวีและทีวีให้สำหรับห้องตัวอย่างนี้

มองย้อนกลับไปยังทางเข้า เห็นทางเข้าห้องน้ำใกล้ๆกับประตูห้อง

หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ของ Walk-in Closet เปิดปิดด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม

พื้นที่ของ walk-in closet กว้างพอสมควรให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้าให้มา 2 ตู้

ลองเปิดตู้ดูจะเห็นว่า บานประตูกินพื้นที่ออกมาไม่เยอะ ไม่ต้องกลัวอึดอัดครับ

การแบ่งช่องด้านในตู้

เข้ามาดูด้านในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าแบบเดียวกับด้านนอก สุขภัณฑ์ Cotto

ขอบกำแพงสองด้านปูโมเสค และมีกระจกเงาให้บานใหญ่

พื้นที่ส่วนเปียกอาบน้ำ ไม่มีฉากให้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีดำ

ฝักบัว Cotto

เป็นอันเสร็จสิ้นการพาชมห้องตัวอย่างครับ ต่อไปผมจะพาไปดูห้องแบบ 3 ห้องนอนอีกห้องนึงซึ่งเป็นห้องมาตรฐานส่งมอบ

ภาพรวมๆ บริเวณหน้าห้อง พร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะได้รับ

หน้าต่างบริเวณห้องทานข้าวมี 4 บาน เปิดปิดแบบบานกระทุ้งได้ 2 บาน

ห้องนั่งเล่นให้ โซฟาและบิลท์อินชั้นวางทีวี

ทางเดินกลางห้องและห้องครัว

มีเคาน์เตอร์ครบชุดพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า

ห้องนอนรอง 1 เตียง 3.5 ฟุต

ตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน

หน้าต่างห้องนอนรองเป็นแบบบานกระทุ้ง

ห้องนอนรอง 2 ให้เตียง 5 ฟุต

ตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน

ห้องน้ำเหมือนกับห้องตัวอย่างเมื่อสักครู่

ห้องน้ำส่วนที่วางสุขภัณฑ์

ตกแต่งผนังให้ตามนี้

ห้องอาบน้ำ

Master Bedroom

เตียง 6 ฟุต มีช่องเก็บของด้านใต้เตียง

ประตูบานเลื่อน Walk-in closet

Walk-in closet

ห้องน้ำ

หน้าต่างในห้องน้ำบานสวิง

ส่วนเปียกอาบน้ำ

ราคา

3 ห้องนอน ขนาด 94.75 ตร.ม. : ราคา 5.99 ล้านบาท
*พร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 9 รายการ

ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
คากองทุน 500 บาท/ตร.ม.

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Chambers รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ รัชดา-รามอินทรา ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก (วงแหวนรอบนอก) สำหรับถนนตัดใหม่นั้นเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อราวๆปี 2551 ใช้สำหรับเชื่อมต่อคนในย่านมีนบุรี-รามอินทราให้มีทางเลือกในการเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่ายขึ้น โครงสร้างถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่เป็นแหล่งพักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศและคอนโด

– ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะที่เดินได้ มีร้านขายอาหารติดกับโครงการเรียงกันเป็นแนวยาวหลายร้านทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง ส้มตำไก่ย่างและร้านข้าวมันไก่ของคุณโก๊ะตี๋ หรือถ้ามีรถส่วนต่อด้วยก็ยิ่งมีทางเลือกมากขึ้น มี The Junction คอมมูนิตี้มอลล์ห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตร หรือว่าเป็นห้างสรรพสินค้าหรือไฮเปอร์มาร์เก็ตก้มีทั้งห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ พรอมานาด โลตัส บิ๊กซี และ The Crystal รามอินทรา อยู่ในระยะขับรถประมาณ 2-5 กิโลเมตร

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – โครงการอยู่ใกล้กับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ทางด่วนรามอินทราก็มีจุดขึ้นลงอยู่ไม่ไกลประมาณ 4-5 กิโลเมตร ส่วนถนนปกติมีให้เลือกใช้ได้หลายเส้นในการเข้าเมืองทั้งถนนนวมินทร์ใช้ไปยังรามคำแหง-บางกะปิแถวๆแยกลำสาลี ถนนเลียบด่วนรามอินทราใช้เข้าไปโซนสุขุมวิท-เอกมัย ถนนรามอินทราใช้เข้าพหลโยธิน-วิภาวดีช่วงหลักสี่ก็ทำได้สะดวกเช่นกัน

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ด้วยสภาพแวดล้อมนั้นต้องยอมรับว่าการเดินทางย่านนี้โดยไม่มีรถส่วนตัวค่อนข้างลำบากเพราะระบบคมนาคมสาธารณะยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาออกมาจากใจกลางเมือง สำหรับรถไฟฟ้านั้นต้องรอสายสีชมพูที่มีข่าวว่าจะเริ่มสร้างช่วงปี 2560 นู้นเลยโดยสถานีที่ใกล้ที่สุดน่าจะอยู่แถวๆห้างแฟชั่น ทำให้ตัวเลือกในตอนนี้ดูจะมีแท๊กซี่เป็นที่พึ่งหลักเท่านั้นครับ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ลักษณะโครงการ Chambers รามอินทรา เป็นคอนโด Low-Rise 3 อาคาร สูง 7 ชั้นเท่ากันทั้ง 3 อาคาร จำนวน 152 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่

– โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายการ สำหรับเฟอร์นิเจอร์มีให้ทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า โซฟาและชั้นวางทีวี เคาน์เตอร์ครัวท๊อปหินสังเคราะห์ มีซิงค์ ฮอบ ฮูดให้ครบชุดพร้อมใช้งาน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟและแอร์ครบทุกห้อง ส่วนวัสดุพื้นฐานพื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม. ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาวไม่มีวอลล์เปเปอร์ พื้นห้องน้ำและระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค พื้นห้องครัวปูแกรนิตโต้ โคมไฟใช้ดาวน์ไลท์ หน้าต่างและบานเลื่อนต่างๆเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

– แบบห้องพักอาศัยออกแบบมาในคอนเซปต์ให้ผู้อยู่อาศัยได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านด้วยห้องขนาดใหญ่ที่แบบเล็กสุดเริ่มต้นที่ 45 ตร.ม.ขึ้นไป เพดานห้องสูง 2.7 เมตร มีหน้าต่างอยู่หลายจุดเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้หลายด้านเพื่อความโปร่งสบายไม่อึดอัดเหมือนคอนโดทั่วไป ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานผมขอพูดถึงในส่วนของ 3 ห้องนอนที่ได้รับชม โถงห้องส่วนแรกที่ทำเป็นห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่นกว้าง ห้องครัวแบบปิด ห้องน้ำส่วนกลางแยกฟังก์ชั่นห้องอาบน้ำและห้องน้ำเพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน ในส่วนของหน้าห้องมีพื้นที่ Foyer ที่ร้อมด้วยรั้วเหล็กอีกชั้นนึง โดยรวมแล้วถือว่าออกแบบมาได้ตรงกับคอนเซปต์ดีมาก

สิ่งอำนวยความสะดวก – มีให้ทั้งสระว่ายน้ำยาว 30 เมตรที่ใช้ออกกำลังกายได้จริงพร้อมด้วยส่วนที่ตื้นสำหรับเด็ก ห้องฟิตเนสและห้องสมุด ทั้งหมดอยู่ที่อาคาร B ทำให้ผู้พักอาศัยอาคาร A และ C ต้องเดินมาใช้งานไกลหน่อย ที่จอดรถให้มา 100% ยังไม่รวมซ้อนคันแถมยังเป็นแบบ Fix ให้ด้วยสำหรับห้องขนาด 2-3 ห้องนอน ลิฟต์อาคาร A และ C ให้ 1 ตัว ส่วนอาคาร B ที่ยูนิตมากหน่อยให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1:38 ถือว่าใช้งานได้สบาย ระบบความปลอดภัยตามมาตรฐาน CCTV และ รปภ. 24 ชม. มีไม้กระดกกั้นบริเวณทางเข้าออกที่ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อผ่านหน้าโครงการและล็อบบี้

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1749

Website : http://www.scasset.com/Project/Detail.aspx?id=23

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

EP.221 รีวิว คอนโด Ideo O2 ไอดีโอ โอทู ใกล้ BTS บางนา และ Bangkok Mall พร้อมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 10 ไร่ เริ่ม 2.3 ล้านบาท*

Update 6 ต.ค. 58 สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เพียวจะพาไปชมโครงการ “IDEO O2″ Project ใหญ่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เริ่มด้วยรายละเอียดพรีวิวโครงการ, เส้นทางการเดินทางโดยรถส่วนตัว และโดยรถสาธารณะ รวมถึงพาชมทำเลโดยรอบ ว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง สถานะปัจจุบันทางทีมงานได้เข้าไปรีวิวห้องตัวอย่างกันเรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจโครงการนี้ สามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่าง ติดต่อสอบถามโปรโมชั่นได้ที่สำนักงานขายได้เลยค่ะ

ไอดีโอ โอทู คอนโดฯ High-Rise 3 อาคาร จำนวนรวม 1,569 ยูนิต ใกล้ BTS สถานีบางนา ใกล้ Bangkok Mall* ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯตะวันออก สะดวกสบายด้วยจุดขึ้นลงทางด่วนบางนา   พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 10 ไร่ ที่จะออกแบบมาให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วมีความสดชื่น เต็มไปด้วยออกซิเจน และการใช้ชีวิต 365 วัน ได้ครบทุกรูปแบบ

อาทิ ท่ามกลางสวนธรรมชาติกว่า 5,000 ตร.ม. Certified by Peppermint Bike Park**, จ๊อกกิ้งพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์แบบ Private Nature Jogging Track, สนุกกับสนามฟุตซอลมาตรฐาน Airy Space Futsal Field ในบรรยากาศไม่เหมือนใคร  และยังได้ผ่อนคลายกับ The Ultimate Connecting Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 สระ 3 โซน  ยาวตลอดต่อเนื่องทั้งโครงการ กว่า 200 เมตร  เสมือนแหวกว่ายอยู่ในทะเลสาบ ด้วยคอนเซปต์  Aerial lagoon, Ozone creek  และ Oxy cascade   อีกทั้งยังมี Co-Working Space พื้นที่พิเศษพร้อม Internet Wi-Fi ที่จะให้คุณสามารถทำงานได้ง่ายๆ สะดวกสบายเสมือนมีออฟฟิศส่วนตัวในคอนโด

ทั้งหมดนี้ ที่คุณจะสัมผัสได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.3 ล้านบาท เปิดขายเฉพาะตึก C และ ตึก A บางชั้น

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กทม.

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง เริ่มจาก ทางพิเศษเฉลิมมหานคร บางนา – สมุทรปราการ > ถนนสุขุมวิท > กลับรถ > แยกบางนา > ถนนสรรพาวุธ > Ideo O2 *ติดซอยสรรพาวุธ 1

การเดินทางเราเริ่มจาก ทางพิเศษเฉลิมมหานคร มุ่งตรงไป บางนา – สมุทรปราการ ทางออก 17 B

ตรงไปทางออกที่ 17 B สมุทรปราการค่ะ

จะผ่าน ตัวโครงการ ทางขวามือค่ะ ( คาดการณ์ว่าน่าจะเห็นประมาณนี้ )

เข้าสู่ ถนนสุขุมวิท อีกประมาณ 350 เมตรถึงที่กลับรถค่ะ

กลับรถค่ะ

พอกลับรถมาแล้วให้ตรงมา จะผ่าน เส้นทางลัด ซ.วัดบางนาใน ไปโพล่ ซ.สรรพาวุธ 1 ได้ ติดกับตัวโครงการ Ideo O2 เลยค่ะ แต่เราไปเส้นทางหลักกันคือ ตรงไปแยกบางนา จากนั้นเลี้ยว ซ้ายไป ถ.สรรพาวุธ

ขับตรงมา อยู่เลนทางขวาไว้ค่ะ เพราะสองเลนซ้ายสุด จะเป็นทางขึ้นทางด่วน ค่ะ

ถึงแยกบางนา จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปประมาณ 180 เมตร ถึงโครงการแล้วค่ะ

ถึงโครงการ Ideo O2 อยู่ติด ซ.สรรพาวุธ 1 ค่ะ

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลบริเวณรอบโครงการ – บางนา

สถานที่สำคัญและสิ่งที่น่าสนใจ

Ideo O2 เป็นโครงการโซนบางนา – สมุทรปราการ ปัจจุบันทำเลโซนนี้ เริ่มได้รับความนิยมในด้านที่อยู่อาศัยมากขึ้น ด้วยราคาที่ดินที่ยังขยับขึ้นไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับทำเลโซนสุขุมวิทต้น ๆ แล้ว ราคาที่ดินโซนนี้ ผู้อยู่อาศัย ที่ต้องการจะมีบ้านหลังแรก จับต้องได้ง่าย รวมไปถึง นักลงทุน ที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ เก็งกำไร ก็ต้องตบเท้าเข้ามาลงทุนอสังหาฯโซนนี้กันมากขึ้น ปัจจุบันราคาที่ดินโซนนี้ อยู่ที่ 140,000 – 180,000 บาท/ตร.วา และในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย และ Bangkok Mall สร้างเสร็จ คาดว่าราคาที่ดินโซนนี้จะปรับสูงขึ้นได้อีก*

ด้วยทำเลที่ใกล้ Green Line หรือ แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว อ่อนนุช-แบริ่ง ที่ปัจจุบันเปิดให้ใช้บริการแล้ว ใกล้กับโครงการเพียง 300-700 เมตร คือ BTS สถานีบางนา และในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ปัจจุบันมีการก่อสร้างไปเยอะแล้วค่ะ คาดว่าจะเปิดบริการในเร็ววันนี้ การเดินทางของคนโซนสมุทรปราการ ก็จะสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเข้าเมือง หรือ ออกเมืองไปฝั่งใต้ ก็สะดวกค่ะ

ว่าแล้วก็ลองมาดูรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายกันหน่อย !

รายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ลักษณะโครงการช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ : มีโครงสร้างรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 13 กม. เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ แนวเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่อง จากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกทม. BTS ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง บริเวณซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) ไปตามแนวเกาะกลางของถนนสุขุมวิท ผ่านคลองสำโรง – ผ่านแยกเทพารักษ์ – แยกปู่เจ้าสมิงพราย

เมืองถึงบริเวณจุดตัดกับโครงการถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ แนวจะเบี่ยงจากเกาะกลางไปทางทิศตะวันตกของถนนสุขุมวิท เพื่อข้ามทางต่างระดับสุขุมวิท จากนั้นจึงเบี่ยงกลับมาอยู่ในแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท ผ่านแยกศาลากลาง – แยกการไฟฟ้า – แยกแพรกษา – แยกสายลวด จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการ บริเวณสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง โดยแนวเส้นทางจะเบี่ยงออกทางทิศตะวันตก และลดระดับเพื่อเข้าศูนย์ซ่อมบำรุง

CR : mrta

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

สถานที่สำคัญ
– BTS บางนา 300-700 ม.
– ทางพิเศษเฉลิมมหานคร 950 ม.
– ทางพิเศษบูรพาวิถี 2 กม.
– ไบเทค บางนา 500 ม.
– ฮาร์บิน ไอซ์ วันเดอร์แลนด์ 2.3 กม.
– อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง 4.6 กม.
– บิ๊กซี สำโรง 4.6 กม.
– เซ็นทรัล บางนา 4 กม.
– บิ๊กซี บางนา 4.5 กม.
– บิ๊กซี ศรีนครินทร์ 8.8 กม.
– แม็คโคร ศรีนครินทร์ 8.7 กม.
– ซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ 9 กม.
– เมกา บางนา 10 กม.
– อิเกีย บางนา 10 กม.
– ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ 9 กม.
– สวนหลวง ร. 9  9 กม.
– โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2  1.6 กม.
– โรงพยาบาลมนารมย์ 2.6 กม.
– โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ 4.5 กม.
– โรงพยาบาลไทยนครินทร์ 4.8 กม.
– โรงเรียนนานาชาติ แองโกลสิงคโปร์ 2.9 กม.
– โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดดรูว์ส 2.5 กม.
– โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา 4.9 กม.
– โรงเรียนลาซาล 6.3 กม.
– โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา 5.8 กม.
– โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว 11.5 กม.

บริเวณโดยรอบโครงการ เพียวทำเป็นภาพมุมสูงให้ดู จะเห็นว่าโครงการอยู่ติดถนนสรรพาวุธ ใกล้รร.รุ่งเรื่องวิทยา รวมถึงเดินทางสะดวก ทุกขนส่ง สำหรับผู้ที่มีรถเข้าเมืองได้สะดวก ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนบางนา-ตราด และ ถนนหลักอย่าง ถนนสุขุมวิท , การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางนา ระยะเดินได้ประมาณ 300-700 เมตร รวมไปถึง The Cost ที่เป็นคอนโด และ มี Communitymall ที่มีทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร สามารถมาฝากท้องที่นี่กันก่อนเข้า-ออกบ้านได้เลย และที่ขาดไม่ได้คือ ไบเทค บางนา อยู่ตรงข้ามกับซอยวัดบางนาในนี่เองค่ะ

การเดินทาง

– ระยะทางเดินไปยังรถไฟฟ้า BTS > จากประตูหลังโครงการ ริมคลองบางนา > ผ่านวัดบางนาใน > ถนนสุขุมวิท > BTS บางนา ระยะทาง 300 เมตร

– ระยะทางเดินไปยังรถไฟฟ้า BTS > ด้านหน้าโครงการ ถนนสรรพาวุธ  > ถนนสุขุมวิท > BTS บางนา ระยะทาง 700 เมตร

และอีกหนึ่งโครงการ ที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ คือ “Bangkok Mall” โครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ภายใต้คอนเซ็ปต์ City With In The City ซึ่งจะเป็นศูนย์การค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สุด แห่งแรกในโซนบางนา ที่ตั้งโครงการอยู่บริเวณจุดตัดบางนา-ตราด กับ สุขุมวิท บนพื้นที่โครงกว่า 100 ไร่ หน้าโครงการกว้าง 1 กม.  สะดวกสบาย ด้วย Sky Walk ที่เชื่อมต่อกับ BTS อุดมสุข และ บางนา งบลงทุนโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท โดยโครงการนี้จะเปิดให้บริการไม่เกินต้นปี 2560 และที่สำคัญที่สุด คือ Bangkok Mall ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการอีกด้วยค่ะ

ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา : ปัจจุบันมีการขยายเฟส 2 สำหรับอาคารสำนักงานภิรัชบุรี @ ไบเทค บางนา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ ไม่เกินปีหน้า ก็ยิ่งทำให้ทำเลโซนนี้ กลายเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญขนาดใหญ่ ของโซนสมุทรปราการอีกแห่งเลยค่ะ

สำรวจที่ดินและรอบโครงการ

Ideo O2 ตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กทม. สำหรับโครงการนี้เป็น Project ใหญ่ของทางอนันดา มีพื้นที่โครงการ 14-3-18.69 ไร่ เป็นโครงการขนาดใหญ่มาก หน้าโครงการติดถนนสรรพาวุธ ส่วนด้านหลังโครงการลึกลงไปจนสุดที่คลองบางนาเลยค่ะ

Update 6 ต.ค. 58 

เอาให้เห็นภาพกันชัด ๆ ทางเข้า-ออกโครงการติดถนนสรรพาวุธแบบนี้เลย เดินทางสะดวกแน่นอน ขับออกจากโครงการไปเพียงไม่กี่เมตร แล้วกลับรถ ก็สามารถขึ้นทางด่วนบางนา-ตราด ยิงยาวเข้าเมืองกันได้สะดวกเลยค่ะ

ตรงข้ามกับโครงการ ส่วนมากเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่ สูง 3-4 ชั้น ไม่เกินนี้ เปิดเป็นร้านอาหารตามสั่ง และ ร้านค้าทั่วๆไป

มีธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ตรงข้ามโครงการเลย สะดวกเรื่องธุรกรรมการเงิน ติดกันจะเป็น Brighton Suites Hotel

จากหน้าโครงการ เดินมาทางซ้ายมือ เป็นโรงเรียนรุ่งเรื่องวิทยา รับนักเรียนตั้งแต่ อ.1-ป.6 เป็นโรงเรียนขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องเสียงรบกวน

กลับมาดูที่ดินโครงการ ปัจจุบันทางโครงการ ตกแต่งเป็นสวนธรรมชาติ สวยงาม ร่มรื่น ตามคอนเซ็ปต์โครงการเลยค่ะ

Sale Gallery และ ห้องตัวอย่าง เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ

บรรยากาศภายใน Sale Gallery

บรรยากาศภายใน Sale Gallery

หน้าปากซอยสรรพวุธ 1 ซอยนี้เราสามารถเดินลัดไปยัง BTS ได้ โดยเดินเท้าผ่านวัดบางนาใน ระยะทางประมาณ 500 เมตร

อีกฝั่งมองเห็นทางด่วนเลยค่ะ

ตรงนี้มี 7-11, ร้านค้า, ร้านอาหาร ขายตลอดทั้งวัน อุดมสมบูรณ์ดีทีเดียว รวมถึงหากใครไม่ต้องการเดินไปยัง BTS ก็สามารถขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ได้จากหน้าซอยสรรพาวุธ 1 นี้เลย อัตราค่าโดยสาร 10 บาทเท่านั้น

บรรยากาศภายในซอยสรรพวุธ 1 >> ซอยนี้จะเป็นซอยลัดของรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ มีรถสัญจรผ่านเยอะพอสมควร ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ครึกครื้นดีค่ะ

ซ้ายมือ เดินเข้าไปก็จะเป็นตลาด ทอดยาวด้วยอาคารพาณิชย์ ที่เปิดเป็นร้านค้า, ร้านขายอาหาร ซะเกือบทั้งหมด

ให้ดูซักนิดนึง ตลาดเริ่มวายละค่ะ

เดินเข้ามาเรื่อย ๆ ขวามือเป็นคริสจักร บางนา

ซอยนี้เดินเชื่อมสู่ตลาดบางนาได้เลย ด้านในมีร้านขายอาหารสด, ผัก ผลไม้ และของกินเยอะแยะไปหมด รวมถึงตลาดนัดที่มีทุกวันอังคารด้วยค่ะ สังเกตดีๆ ด้านหลังตึกสูง ๆ เป็นโครงการ The Cost ค่ะ

ถัดเข้ามาเกือบสุดซอยสรรพวุธ 1 มีโรงเรียนวัดบางนาใน วันธรรมดา นี่นร. ครึกครื้นแน่นอน แต่ถ้าถึงช่วงปิดเทอมเมื่อไหร่ ซอยนี้คงสงบลงไปนิดนึง

ส่วนซ้ายมือ ตรงข้ามกับโรงเรียนวัดบางนาใน เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมพระราชปริยัติยาลงกรณ์รังสรรค์

ตรงเข้ามาจนสุดซอย ก็จะเป็นวัดบางนาใน บริเวณตรงนี้แหละค่ะ ฝั่งขวามือเรา จะมีประตูเข้า-ออก อีกทางของโครงการ ที่จะช่วยร่นระยะทางในการเดินไปยัง BTS ให้เหลือน้อยลง วัดระยะทางให้แล้วก็เหลือเพียง 300 เมตร เท่านั้นเอง

บรรยากาศภายในวัด เป็นวัดในเมืองที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ เค้ามีติดป้ายเส้นทางลัดด้วย มั่นใจเลยว่าปลอดภัย เพราะเปิดตลอด และมีรถเข้า-ออกตลอดเกือบทั้งวัน

ระยะทางจากทางเข้าฝั่งที่ติดกับโครงการ จนถึงทางออกของวัดฝั่งนี้ เดินนิดเดียวก็ถึงค่ะ เพียวถ่ายให้เห็นภาพทางเข้า-ออกอีกฝั่ง เพื่อนๆจะได้นึกภาพกันออกนะคะ

หลุดจากประตูวัด ก็จะมีซอยอีกทอดนึง เราต้องเดินไปอีกหน่อย ก็จะถึงถนนสุขุมวิทแล้วค่ะ

ถึงแล้วค่ะ ตรงนี้มีพี่วินคอยให้บริการด้วยนะ หากมาจากรถไฟฟ้า จะไม่เดินก็ได้ นั่งเข้าโครงการ ก็ 10 บาทเท่าเดิมค่ะ

ตรงข้ามเป็น ไบเทค บางนา ตอนนี้มีการก่อสร้างอาคารสำนักงาน ภิรัชบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นปีหน้า บอกเลยว่าถ้าเปิดเมื่อไหร่ โซนนี้จะยิ่งคึกคักเข้าไปอีก

เห็นสถานีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ ๆ เดินผ่านทางเท้า ข้ามสะพานคลองบางนาไปอีกนิด ก็ถึงแล้วค่ะ

รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ระยะเดินเท้าจากหน้าปากซอยสรรพวุธ 1 > ถนนสุขวิท ประมาณ 700 เมตร หากเริ่มจากทางเดินริมคลองบางนา ก็จะร่นระยะทางเหลืองเพียง 300 เมตร เท่านั้น

จากสถานีรถไฟฟ้ามองลงมา ช่วงที่ไปรีวิวประมาณ 10.30 น. รถก็เริ่มโล่งแล้วค่ะ เดินทางสะดวกดี ยิ่งใกล้ทางด่วนอีก หมดห่วงเรื่องรถติดเลยค่ะ

ลืมบอกไปค่ะ ว่าทางขึ้น-ลง BTS บางนา มีพี่วินคอยให้บริการ อัตราค่าโดยสารตามนี้นะ

กลับมาที่หน้าวัดบางนาใน เดินเลี้ยวซ้ายไป จะเป็นโครงการ The Cost ที่มี Community Mall ให้ใช้บริการ มีทั้งร้านอาหารชื่อดัง รวมถึง Shop สินค้า ให้เลือกซื้อของเข้าบ้านกันค่ะ

MASTER PLAN

ภาพมุมสูง Ideo O2 บรรยากาศร่มรื่น ตามคอนเซ็ปต์ ที่เต็มไปด้วย “ออกซิเจน” คำนึงถึงผู้อยู่อาศัย ที่ต้องการพักผ่อน โดยโครงการนี้ ทางอนันดาจัดพื้นที่สวนขนาดใหญ่ กว่า 10 ไร่ ทำให้บรรยากาศภายในโครงการ สดชื่น ร่มรื่น เหนื่อยจากงานกับมาบ้าน ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จริง ๆ

Master Plan : Ideo O2 ตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ บนที่ดินผืนใหญ่ ขนาด 14 ไร่ 3 งาน 18.69 ตร.วา หน้าโครงการ (ทางเข้า-ออก) ติดถนนสรรพาวุธ ส่วนด้านหลังโครงการ ติดคลองบางนา มีประตูทางลัด (ทางเดินเลียบคลอง) เพื่อลัดไปยัง BTS ได้สะดวก ระยะทางเดินละประมาณ 300 เมตรค่ะ

แปลนอาคาร B, C : อาคารที่เชื่อมต่อกัน มีสระว่ายน้ำล้อมรอบอาคาร แบ่งฟังค์ชั่นแยกกัน แบ่ง Lobby และ ลิฟท์โดยสาร เป็นสัดส่วน โดยชั้นล่างของสองอาคารนี้ มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจมากค่ะ โดยลูกบ้านจะได้ทั้ง ร้านค้า, สวนพักผ่อน, Co-Working space พร้อม Internet Wifi ให้ใช้บริการ, ห้องสมุด, ฟิตเนส + ซาวน่า, Meeting Room, Social Club รวมถึงที่จอดรถค่ะ

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ จัดมาให้ถึง 3 โซน แบ่งเป็นโซน lagoon, Ozone creek และ Oxy cascade ทั้ง 3 สระ เรียงยาวต่อเนื่องทั้งโครงการ ประมาณ 200 เมตร เรียกได้ว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ยังไม่มีใครเคยจัดเต็มในเรื่องของ Facilities ขนาดนี้เลยค่ะ

โดยรอบสระว่ายน้ำแต่ละโซน มีการปลูกต้นไม้ล้อมรอบ ร่มรื่นดี รวมถึงจัด Wood Deck พร้อมชุดเก้าอี้พักผ่อน ออกมานั่งเล่นริมสระ พักผ่อนกันได้เต็มที่ ><

Certified by Peppermint Bike Park

ทางเข้า-ออกโครงการ หลักติดถนนสรรพาวุธ โดยชั้นล่างของอาคาร A มีร้านค้าครบครัน อาทิ Coffe Shop, MaxValu ที่เปิดบริการตลิด 24 ชม. รวมถึง Shop ยิบย่อย ที่ยังไม่สรุปว่าจะเป็นร้านอะไรบ้าง โดยรวมแล้ว คุณจะได้ Community Mall ขนาดย่อม ๆ ในโครงการ สะดวกครบครัน จนไม่ต้องออกไปข้างนอกเลยค่ะ

สนามฟุตซอลมาตรฐาน Airy Space Futsal Field

ห้องออกกำลังกาย ขนาดใหญ่ จัดเครื่องเล่นให้ครบครัน กั้นกระจกสูงถึงผนังเปิดรับวิวธรรมชาติ และ สวนน้ำ

Co-Working Space พร้อม Internet Wi-Fi ให้คุณสามารถนั่งทำงาน รวมถึงประชุมงานเล็ก ๆ ได้เลย

โมเดลอาคาร ไอดีโอ โอทู

ไอดีโอ โอทู ตั้งอยู่บนเนื้อที่ดิน 14-3-18.69 ไร่ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 10 ไร่ มีทั้งหมด 3 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A อาคาร (ติดถนนสรรพาวุธ), B และ อาคาร C ปัจจุบันโครงการเปิดขายอาคาร C และ อาคาร A บางชั้นค่ะ

โมเดลอาคาร A : ติดถนนสรรพาวุธ ลองดูการออกแบบอาคารกันหน่อย ตัวอาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์น เน้นเส้นสายในแนวตั้ง เลือกใช้โทนสีเทาอ่อน ตัดเส้นขอบด้วยสีเทาเข้ม มี Pocket Garden เพิ่มพื้นที่สีเขียวกับอาคารบางชั้น ด้านล่างบริเวณ Lobby และ อาคารร้านค้า จะมีลวดลายของ Vertical Garden (สวนแนวตั้ง) ตกแต่งสวยงาม เข้ากับคอนเซ็ปต์ของโครงการ O2 ที่เน้นธรรมชาติอย่างเต็มที่

ทางเข้า-ออกโครงการ ติดถนนสรรพาวุธ มีจุด Drop-Off ด้านใน รับส่งลูกบ้านเข้าสู่ Lobby ด้านใน

ภาพรวมด้านหน้าโครงการ ตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่ สวนสีเขียว รวมถึงบ่อน้ำพุ ร่มรื่น สวยงาม

อาคาร A ชั้น 1 จะเปิดเป็น Supermarket ภายใต้แบรนด์ MaxValu

อาคารร้านค้าอีกส่วน จะเปิดเป็น ร้านกาแฟ True Coffee ค่ะ

ภาพรวมด้านหน้าโครงการ

ด้านหลังอาคาร A เป็นสระว่ายน้ำ ที่สามารถเชื่อมต่อกับอีก 2 สระ ระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ข้างสระว่ายน้ำมี Terrace พร้อมชุดเก้าอี้สำหรับพักผ่อน ลงต้นไม้ใหญ่ ล้อมรอบสระว่ายน้ำ ร่มรื่นค่ะ

The aerial lagoon สระว่ายน้ำด้านหลังอาคาร A

โมเดลอาคาร B และ อาคาร C ตัวอาคารชั้นล่างจะสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้

โมเดลอาคาร B

โมเดลอาคาร C

ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ใต้อาคาร B และ อาคาร C

สวนพักผ่อนชั้น 6 เชื่อมต่อระหว่างอาคาร B และ อาคาร C

สระว่ายน้ำ Ozone creek และ Oxy cascade

พื้นที่สวนและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านในโครงการ

Bike Lane ระยะทางถึง 700 เมตร ท่ามกลางสวนธรรมชาติของโครงการ

สนามฟุตซอลมาตรฐานกลางแจ้ง

โมเดลด้านหลังอาคาร B และ อาคาร C

ภาพรวมโมเดล ไอดีโอ โอทู

FLOOR PLAN

แปลนอาคาร A : ชั้น 1 มีสวน, ร้านค้า, Lobby, Mail Room โถงลิฟท์ โดยอาคาร A จะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว

แปลนอาคาร A : ชั้น 2 มีห้องนิติบุคคล, ห้องประชุม, ฟิตเนส พร้อมห้องน้ำ-ล็อกเกอร์ แยกชาย-หญิง

แปลนอาคาร A : ชั้น 3-5 เป็นที่จอดรถ

แปลนอาคาร A : ชั้น  6- 10, 12- 15, 17 – 20, 22- 25, 27 – 30 ห้องพักหันทางทิศเหนือ-ทิศใต้ อัตราห้องพักอยู่ที่ 15 ห้อง โดยแบบ 2 ห้องนอน จะอยู่ตำแหน่งหัวมุมของอาคาร มีทั้งหมด 4 ห้อง TYPE A มีทั้งหมด 5 ห้อง และ TYPE B มีทั้งหมด 6 ห้องค่ะ

แปลนอาคาร A : ชั้น 11, 16, 21, 26, 31 อัตราส่วนห้องพัก อยู่ที่ 15 ห้อง เท่ากัน ตำแหน่งห้องพักเหมือนกัน แต่จะเพิ่มในส่วนของ Pocket Garden มาบริเวณกลางอาคาร

แปลนอาคาร A : ชั้น 32 ห้องพักด้านหน้าถูกร่นหายไป 1 ห้อง อัตราห้องพักอยู่ที่ 14 ห้อง

แปลนอาคาร A : ชั้น 33 มีห้องพักน้อยที่สุด อัตราห้องพักอยู่ที่ 9 ห้อง เท่านั้นค่ะ

แปลนอาคาร B,C : ชั้น 2-5 ฝั่งอาคาร C เป็นที่จอดรถ > ส่วนอาคาร B จะเริ่มมีห้องพักแล้วค่ะ เป็นห้องพักแบบ 1 ห้องนอน มีทั้งหมด 11 ห้อง

แปลนอาคาร B,C : ชั้น 6 เป็นส่วนของห้องพัก และ สวนพักผ่อน

แปลนอาคาร C ชั้น 8-10,12-16,18-20,22-27,29-30 : โครงการเปิดขายอาคาร C ก่อนนะคะ มาดูรายละเอียดคร่าวๆกัน โดยห้องพักชั้นที่บอกไป หันห้องทางทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตก อัตรส่วนห้องพัก : 21 ห้อง | ชั้น โดยแบ่งเป็นห้องพัก TYPE A 14 ห้อง, TYPE B (W) 4 ห้อง ส่วน TYPE C 1 ห้อง จะอยู่หัวมุมอาคาร ได้เป็นสองวิว คือทางฝั่งทิศตะวันตก และ ทิศใต้ และ TYPE D 2 ห้อง ตำแหน่งอยู่มุมอาคารเช่นเดียวกัน

แปลนอาคาร C ชั้น 11,17,21,28 : อัตราส่วนห้องพัก อยู่ที่ 21 ห้อง เท่ากัน ตำแหน่งห้องพักเหมือนกัน แต่จะเพิ่มในส่วนของ Pocket Garden มาบริเวณกลางอาคาร ตรงข้ามกับโถงลิฟท์โดยสาร

แปลนอาคาร C ชั้น 31 : อัตราส่วนห้องพัก อยู่ที่ 18 ห้อง | ชั้น ร่นระยะห้องพักลงมาตามกฏหมายค่ะ โดยห้องพัก TYPE C จะถูกตัดออกไป แต่ฝั่ง TYPE D ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม

แปลนอาคาร C ชั้น 32 : อัตราส่วนห้องพัก อยู่ที่ 9 ห้อง | ชั้น เป็นชั้นที่มีห้องพักน้อยที่สุด ส่วนตัวที่สุด เดินออกจากลิฟท์มา เลี้ยวซ้ายเป็นส่วนของห้องพักเลยค่ะ โดยจะเป็นห้องพักแบบ TYPE A : 7 ห้อง และ แบบ TYPE D ตำแหน่งหัวมุมเช่นเคย อีก 2 ห้องค่ะ

UNIT TYPE

TYPE A1 : 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำขนาด 26.2 ตร.ม.

TYPE B1 : 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ ขนาด 32.4 ตร.ม.

TYPE B1 : 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ ขนาด 32.4 ตร.ม. (แปลนจะสลับด้าน ซ้าย-ขวา กับ B1 ค่ะ)

TYPE C1 : 2 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ ขนาด 46.2 ตร.ม.

TYPE D1 : 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ ขนาด 53.00 ตร.ม.

—————————————————————————-

ห้องตัวอย่าง

แปลนห้อง Studio : ขนาด 26.2 ตร.ม. | เพดานสูง 2.5 เมตร เข้ามาส่วนแรกเป็นส่วนนั่งเล่น ที่สามารถเชื่อมต่อกับส่วนห้องนอน เพิ่มสเปซในการใช้สอยได้มากขึ้น ฝั่งซ้ายของห้อง ถูกแยกส่วนด้วยประตูกระจกบานสไลด์ โดยจะแบ่งเป็นห้องน้ำ แบบแยกส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำ, ห้องครัวแบบปิด พร้อมเคาน์เตอร์ครัว สามารถเปิดประตูระเบียง เพื่อระบายอากาศสู่ด้านนอกได้เต็มที่ พื้นที่ระเบียงแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ผนัง มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับวางราวตากผ้าขนหนู หรือ จะจัดเป็นพื้นที่สวนเพิ่ม O2 ให้แก่ห้องพักก็ได้ค่ะ

ประตูห้องพักทั้งหมดของโครงการ เป็นประตู HDF ลายไม้บานเรียบ มือจับสเตนเลสก้านโยก

เข้ามาภายในห้อง สำหรับโครงการขายห้องพักให้แบบ Fully Furnished (ไม่รวมของตกแต่ง) โดยลูกค้าจะได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน และ ลอยตัว แบบที่เพียวจะพาไปชม ครบชุด พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ตัวพื้นห้องปูด้วยไม้ลามเนตสีอ่อน ผนังห้องฉาบเรียบทาสีพื้น ส่วนไฟภายในห้องเป็นแบบดาวน์ไลท์ค่ะ

พื้นที่ส่วนแรกของห้อง จัดเป็นมุมนั่งเล่น ได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินครบเซ็ท

วางโซฟา Love Seat ขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางของได้เล็ก ๆ น้อย ๆ

ตรงข้ามโครงการบิวท์อิน Sideboard กว้าง 1.3 เมตร พอดีกับผนัง สามารถวางทีวีขนาดใหญ่สุดได้ถึง 50 นิ้ว เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านล่างด้วยชั้นวางของ และ ตู้เก็บของเป็นระเบียบ ที่ผนังติดตั้งปลั๊กไฟ และ สายเคเบิลทีวี พร้อมใช้งาน ส่วนชั้นวางของได้บนเป็นเพียงการตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

มองย้อนกลับออกมาดูภาพรวมส่วนนั่งเล่น การจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ ทำให้มีช่องว่างทางเดินกว้างประมาณ 1.3 เมตร แม้จะถูกวางด้วยโต๊ะกลางไปแล้ว ก็ยังสามารถเดินเข้า-ออกได้สะดวกอยู่ แถมระดับสายตาของการนั่งดูทีวี ก็อยู่ในระดับที่ดีด้วยค่ะ เพิ่มเติมส่วนนี้* โครงการติดตั้งแอร์ Wall Type ของ Samsung ขนาด 18,000 BTU ส่วนกล่องควบคุมไฟฟ้า ติดอยู่ใกล้กับแอร์ค่ะ

สำหรับห้อง Studio จะไม่มีฉากกั้นห้อง หรือ ประตูบานสไลด์ให้ ตรงกลางถูกขั้นด้วยโต๊ะทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่ง ให้พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว

ด้านในสุด วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต เปิดรับวิวด้านนอกด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่

ระยะห่างทางเดินปลายเตียง และ ข้างเตียง กว้างประมาณ 60 เมตร เดินเข้า-ออกได้กำลังดี

ผนังปลายเตียง ถูกบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้า และ โต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัด

ตู้เสื้อผ้าไม้พาร์ทิเคิลบอร์ดสีอ่อน Floor to Ceiling แบ่งตู้เป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นแบบบานเลื่อน ติดหน้าบานกระจกเงา ด้านในมีราวแขวนผ้า และ ชั้นวางของ อีกส่วนเป็นตู้บานเปิด ด้านในแบ่งชั้นสำหรับวางของ – เก็บของได้เต็มพื้นที่

ติดกันเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ขนาดกะทัดรัด วางของใช้พวกแป้ง เครื่องสำอางได้กำลังพอดี เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ด้วยลิ้นชักเก็บของ ที่ผนังติดกระจกเงาบานสูงให้ มีเก้าอี้ Stool ให้ไปด้วยอีก 1 ตัว

หน้าต่างภายในห้องเป็นแบบกระจกเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีเทา กว้างถึง 2.2 เมตร เปิดได้ทั้งสองฝั่ง ห้องไหนได้วิวสวน – Facilities แล้วหละก็ คงจะฟินกับวิวและอากาศภายนอกน่าดู

มองย้อนกลับออกมาให้เห็นภาพรวมของห้อง | ส่วนแรกผ่านไปแล้ว เพียวจะพาไปต่อกันที่ส่วนด้านในกัน

โครงการแบ่งส่วนพักผ่อน กับ ส่วนครัว และ ห้องน้ำ ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อความเป็นสัดส่วน

เปิดประตูบานเลื่อนเข้ามา ซ้ายมือเป็นส่วนครัว บิวท์อินชุดครัวให้ ครบชุด ขวามือเป็นห้องน้ำ เพียวขอพาดูรายละเอียดส่วนครัวกันก่อนนะคะ

เคาน์เตอร์ครัวขนาด 1.5 x 0.6 เมตร หน้า TOP ลามิเนตสีเทา ผนังครัวติดปลั๊กไฟ พร้อมกรุกระเบื้องให้เรียบร้อย เวลาทำอาหารจะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

อุปกรณ์ครัวที่จะได้รับ คือ เตาเซรามิค 2 หัว และ เครื่องดูดควัน ของ MEX

ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก็อกน้ำทรงสูง เลื่อนซ้าย-ขวา ใช้งานได้ง่าย

ตู้เก็บของด้านล่าง หน้าบานไม้พาร์ทิเคิลบอร์ดสีอ่อน แบ่งเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า (7 กก.) ลิ้นชัก พร้อมถาดเก็บช้อน-ส้อม ตู้เก็บของแบ่งชั้นขนาดกลาง ใต้ซิงค์มีตู้เก็บของขนาดใหญ่ สามารถวางถังขยะ หรือ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในบ้านไว้ด้านใน ปิดตู้ไว้ให้ดูมิดชิด เป็นระเบียบเรียบร้อย

ส่วนด้านบน บิวท์อินตู้เก็บของให้เรียบร้อย ครบชุด แบ่งเป็นตู้เก็บของ บานเปิด และ ชั้นวางของ รวมถึงช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ตำแหน่งเอื้อมถึงได้พอดี

ติดกับเคาน์เตอร์ จะเว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็น ติดตั้งปลั๊กไฟในตำแหน่งนี้ให้เรียบร้อย

พาไปดูรายละเอียดในส่วนห้องน้ำ ก่อนออกไปสู่พื้นที่ระเบียง

ภายในห้องน้ำปูพื้นและผนังกระเบื้องสีโทนเข้ม แยกส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำ ให้เป็นสัดส่วน ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเลือกใช้ของ American Standard ค่ะ

โถสุขภัณฑ์วางเข้ามุมไว้ทางซ้ายมือ ติดสายชำระ + ที่ใส่กระดาษทิชชู่ครบชุด

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ตั้งอยู่ระหว่างกลางของห้อง ติดตั้งกระจกส่องหน้า Floor to Ceiling ที่ผนังซ้ายมือ มีการแบ่งเป็นชั้นสำหรับวางอุปกรณ์ให้ห้องน้ำ ประหยัดพื้นที่ ไม่ต้องติดชั้นวางของเพิ่มเติม

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมสีขาว ก็อกน้ำโครเมียมก้านโยก ใช้งานได้ง่าย

ด้านล่างมีตู้เก็บของ บานเปิด เอาไว้เก็บพวกอุปกรณ์ในห้องน้ำ กระดาษทิชชู่, ยาสีฟัน, แปรงสีฟันที่ยังไม่ได้ใช้

ขวามือกั้น Shower Box กระจก Tempered กว้างสุดผนัง แยกส่วนอาบน้ำให้เป็นสัดส่วน

ติดตั้งฝักบัวฝังกำแพง แบบ Hand Shower สายโครเมียม ก็อกน้ำก้านโยก + ที่วางสบู่ครบชุด

พื้นที่อาบน้ำ ขนาด 0.8 x 1.4 เมตร กว้างขวาง อาบน้ำได้สบาย ๆ

มองจากหน้าห้องน้ำ ไปยังส่วนระเบียงห้อง

ประตูระเบียงกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กว้าง 1.4 เมตร ยกพื้นสูงประมาณ 10 ซม.

ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา | พื้นที่ระเบียงขนาด 1.4 x 1.1 เมตร เป็นห้อง Studio ที่ได้ระเบียงกว้างพอสมควรเลยหละ

คอมเพรสเซอร์ถูกแขวนผนังไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ใช้งานด้านล่างมากขึ้น โครงการติดก็อกสนาม และ ท่อน้ำทิ้งให้เรียบร้อย กั้นราวระเบียงเหล็กสีเทา ความสูง 1.10 เมตร + กริลระแนงซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์เพื่อความสวยงาม

แปลนห้อง 1 Bedroom : ขนาด 32.4 ตร.ม. (แปลนสลับฝั่งกับห้องตัวอย่าง) | เพดานสูง 2.5 เมตร ฟังก์ชั่นของห้อง B2 นี้ จะแยกการใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้นจากห้อง Studio มีการกั้นห้องแยกเป็น 4 ส่วน โดยส่วนแรกเมื่อเปิดประตูเข้ามา จะเป็นส่วนนั่งเล่น รับแขก ส่วนที่ 2 เป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปฝั่งด้านใน แยกเป็นส่วนที่ 3 คือ ห้องนอน มีประตูห้องปิดเป็นกั้นแบบส่วนตัว และ ส่วนที่ 4 คือ ห้องครัวแบบปิด กั้นด้วยกระจกบานสไลด์หน้ากว้าง ภายในห้องครัวกั้นด้วยประตูบานสไลด์อีกชั้น ก่อนถึงพื้นที่ระเบียงค่ะ

เปิดประตูห้องเข้า เห็นภาพโดยรวมตามที่เพียวอธิบายในส่วนของแปลนห้องข้างต้น วัสดุภายในห้องจะเหมือนกันกับห้อง Studio ที่พาไปชมก่อนหน้านี้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ครบชุดเช่นเดิม อาจมีเพิ่มเติมมาเล็กน้อย ตามขนาดของห้องที่ใหญ่ขึ้นค่ะ

ส่วนแรกของห้องคือ ส่วนนั่งเล่น รับแขก ทางซ้ายมือวางโซฟา Love Seat ขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

ติดกับโซฟา โครงการบิวท์ฯตู้เก็บของ Floor to Ceiling เพิ่มมาให้ เป็นตู้เก็บของบานเปิดไม้พาร์ทิเคิลบอร์ดสีอ่อน แบ่งเป็น 2 ตู้ ด้านในแบ่งชั้นสำหรับวางของ เหมาะสำหรับเก็บพวกรองเท้า, อุปกรณ์ของใช้ภายในบ้าน, อุปกรณ์เครื่องมือช่าง, ร่ม, หนังสือ ฯ แล้วแต่การใช้งานของเจ้าของห้องแล้วกันค่ะ

ตรงข้ามบริเวณผนังเปล่า ถูกบิวท์อิน Sideboard กว้าง 1.3 เมตร เก็บของด้านล่างได้เช่นเดียวกัน จะวางทีวี หรือ แขวนทีวีติดผนังก็ได้ แล้วแต่สะดวก โครงการต่อปลั๊กไฟ และ ช่องเสียบสายเคเบิลให้พร้อมใช้งาน

มองย้อนออกมาให้เห็นภาพรวมของส่วนนั่งเล่น สำหรับแบบ 1 ห้องนอน ออกแบบมาให้มีระยะทางเดินที่กว้าง จาก Sideboard – โซฟา กว้างถึง 2 เมตร เดินเข้า-ออกสะดวก ดูทีวีอยู่ในระดับสายตาที่ดีเยี่ยม นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มขนาดโต๊ะกลางจากเดิม เป็นขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ โดยบริเวณส่วนนั่งเล่น โครงการติดตั้งแอร์ Wall Type ของ Samsung ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่องด่วยค่ะ

เพียวจะพาดูเป็นส่วน ๆ ไปนะคะ ภายในพื้นที่ของส่วนนั่งเล่น ก็จะมีห้องน้ำรวมอยู่ด้วย ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ติดกับ Sideboard วางทีวีค่ะ

ภายในห้องน้ำ ขนาดกำลังดี พื้นห้องน้ำและผนังปูด้วยกระเบื้องโทนสีเทา-ดำ สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard พร้อมแบ่งส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำเป็นสัดส่วน

ส่วนอาบน้ำกั้น Shower Box กระจก Tempered บานสวิง

ด้านในติดตั้งฝักบัว Hand Shower สายโครเมียม มีการเว้นช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำให้เรียบร้อย สะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องติดชั้นเพิ่มเติม

พื้นที่ส่วนอาบน้ำ ขนาด 0.9 x 1.0 เมตร กว้างพอสมควร ยืนอาบน้ำ ทำธุระได้สะดวก สบาย

มองย้อนออกมา ผนังส่วนแห่ง ติดตั้งราวแขวนผ้าขนหนูให้ครบเลยค่ะ

ออกจากห้องน้ำ มาต่อกันที่ห้องนอน ตำแหน่งห้อง จะอยู่ระหว่างห้องครัว – ห้องนั่งเล่น และ ห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ ถูกกั้นประตูปิดมิดชิด แยกกันเป็นสัดส่วน เพื่อความส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย

ภายในห้องวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต เปิดรับแสงธรรมชาติด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ช่วยให้ห้องที่ถูกปิดอย่างมิชิด โปร่ง โล่ง ไม่รู้สึกว่าอึดอัด

ข้างเตียงนอนฝั่งนี้ บิวท์อินโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมลิ้นชักเก็บของ ติดตั้งกระจกส่องหน้าบานสูง ให้พร้อม Stool 1 ตัว

ตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่บริเวณมุมห้องนอน ได้เป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน กว้าง 1.2 เมตร หน้าบานติดกระจกเงาให้เรียบร้อย ภายในมีชั้นวางของให้ครบครัน

ส่วนระยะห่างฝั่งปลายเตียง และ ข้างเตียงที่ติดหน้าต่าง เหลือทางเดินประมาณ 50-60 ซม. ปลายเตียงยังพอเดินได้

หากต้องการติดตั้งทีวี แนะนำแบบแขวนผนังแบบห้องตัวอย่าง ด้านล่างต่อปลั๊กไฟ และ สายเคเบิลพร้อมใช้งาน ภายในห้องได้แอร์ Wall Type ของ Samsung ขนาด 9,000 1 เครื่อง

หน้าต่างภายในห้องกระจกบานใหญ่ กว้างประมาณ 2.1 เมตร เป็นหน้าต่างแบบบานปิด และบานเลื่อนเปิดได้สองฝั่ง เปิดรับลมธรรมชาติ หรือ แสงสว่างจากภายนอกได้เต็มที่

ไปต่อกันที่ส่วนสุดท้ายคือห้องครัว ห้องนี้ได้เป็นครัวแบบปิดเช่นเดียวกัน กั้นประตูกระจกบานเลื่อน กว้าง 2.2 เมตร แยกเป็นสัดส่วน

ห้องครัวขนาดกำลังดี ปูพื้นกระเบื้องเซรามิค กันน้ำ เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ซ้ายมือบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัว กว้าง 1.5 เมตร TOP ครัวลามิเนตสีเทา ผนังกรุกระเบื้อง พร้อมต่อปลั๊กไฟให้เรียบร้อย ติดกับเคาน์เตอร์ครัว เว้นช่องให้วางตู้เย็น ขนาดประมาณ 8 คิวค่ะ

หน้า TOP ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว + ก็อกน้ำล้างจานทรงสูง โยกซ้ายขวา ล้างจาน ล้างผัก ผลไม้ ใช้งานสะดวก

อีกฝั่งฝังเตาเซรามิค 2 หัว + เครื่องดูดควัน ของ MEX

โดยตรงกลางของ TOP ครัว จะเหลือพื้นที่ให้พอดี สำหรับการเตรียมอาหาร หรือ วางอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นได้

ตู้ด้านล่างการใช้งานเหมือนห้อง Studio เก็บของได้ มีลิ้นชักเก็บของ พร้อม ลิ้นชัก + ถามใส่ช้อม-ส้อมครบครัน รวมถึงเว้นช่องว่างสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก. ให้ด้วยค่ะ

ตู้ด้านบนฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกัน มีตู้เก็บของ, ชั้นวางของ และ ช่องสำหรับวางไมโครเวฟ พร้อมปลั๊กไฟ

ภายในห้องครัว สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง ได้พอดี เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้ไม่ติดขัดส่วนอื่น

ประตูระเบียงบานกระจกเลื่อน เปิดได้ 1 ฝั่ง ยกพื้นต่างระดับประมาณ 10 ซม.

ระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิคสีเทา : พื้นที่ระเบียงขนาด 2.3 x 1.1 เมตร ขนาดใหญ่พอสมควร วางราวตากผ้าได้ แถมยังมีพื้นที่เหลือให้ตกแต่งสวนเล็ก ๆ ได้อีกหน่อย

ติดตั้งก็อกสนาม + ท่อระบายน้ำ คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนผนัง 2 เครื่อง กั้นกริลระแนงเหล็กทาสีเทา ปิดกั้นเพื่อความสวยงาม

ส่วนราวระเบียงกันตกวัสดุเหล็กสีดำ ความสูงประมาณ 1.1 เมตร ค่ะ

:: บทสรุปโครงการ ::

♦ ไอดีโอ โอทู โครงการใหม่จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนสรรพาวุธ ใกล้ถนนสุขุมวิทเส้นหลัก และทางด่วนบางนา-ตราด ด้วยทำเลศักยภาพ ติดถนนสรรพาวุธ ใกล้ทางด่วนบางนา-ตราด รวมถึง ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางนา ในระยะทาง 300-700 เมตร ในอนาคตจะมีโครงการเปิดใหม่ อาทิ Bangkok Mall โครงการ มิกซ์ยูส ขนาดใหญ่จาก เดอะมอลล์ กรุ๊ป ,อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ภิรัชบุรี ที่จะเปิดใช้งานไม่เกินปีหน้า รวมถึงโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินปี 2561 ทำให้โครงการนี้ เป็นที่จับตามอง ของลูกค้า พนง.ออฟฟิศ ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย เดินทางสะดวก เข้าเมืองได้ง่าย รวมถึง นักลงทุน ที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ ต่อยอดในอนาคต

♦ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : เดินทางได้สะดวก ใกล้ทางด่วนบางนา-ตราด ขับรถใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที วิ่งตรงสู่ใจกลางเมืองธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงใกล้กับถนนสุขุมวิท ถนนเส้นหลักเพียง 500 เมตร นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิท วิ่งไปทางขาเข้า ตามแนวรถไฟฟ้า ก็สามารถเข้าสู่พระราม 4, กล้วยน้ำไท, สุขุมวิทตอนต้นได้สะดวก หรือ จะใช้เส้นทางสุขุมวิทขาออก มุ่งหน้าสู่แบริ่ง, สมุทรปราการ ก็สะดวกเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นแล้ว จากถนนสุขุมวิท ยังสามารถเชื่อมต่อไปยัง ถนนบางนา-ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และ ถนนอ่อนนุช ก็เดินทางได้สะดวก รวดเร็ว ในเรื่องของการจราจร เนื่องจากเส้นสุขุมวิท เป็นเส้นทางการเดินทางหลัก ของคนในโซนนี้ การจราจรมีทั้งรถเข้าเมือง และ รถออกเมืองเป็นจำนวนมาก อาจมีรถติดบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน อย่างเช้า-เย็น หากต้องการเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ใช้ทางด่วนค่ะ ส่วนการจราจรในช่วงเวลากลางวัน การจราจรคล่องตัวพอใช้ได้ โดยรวมแล้วอยู่ในระดับที่ดีค่ะ

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : จุดเด่นคือใกล้รถไฟฟ้า BTS บางนา จากโครงการถึงสถานีประมาณ 700 เมตร (วัดระยะทางจากหน้าโครงการ > ถนนสุขุมวิท > สถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา) ฟังดูแล้วอาจจะดูไกลไปหน่อย แต่คนในโครงการไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เรามีเส้นทางลัด โดยใช้การเดินเท้าเข้าซอยสรรพาวุธ 1 หรือ ซอยที่ติดกับโครงการ เดินผ่านวัดบางนาใน เพียง 300 เมตร ถึงตัวสถานี โดยโครงการ ไอดีโอ โอทู จะมีการทำประตูด้านหลัง เพื่อเชื่อมต่อสู่เส้นทางลัดให้สะดวกยิ่งขึ้น หากใครไม่ต้องการเดิน ในช่วงเวลาเร่งด่วน สามารถขึ้นพี่วินได้จากหน้าโครงการ หรือ หลังโครงการได้เลย มีรถบริการตลอดทั้งวัน อัตราค่าโดยสาร 15 บาท ถึงสถานีบางนาค่ะ ในส่วนของรถเมล์ มีผ่านทั้งด้านหน้าโครงการ และ เส้นถนนสุขุมวิท Taxi ก็เรียกใช้ได้สะดวกจากหน้าโครงการ สะดวกแบบไหนก็เลือกเอานะคะ

♦ การออกแบบโครงการ-ห้องพัก และ วัสดุ : สำหรับโครงการนี้ถือว่าเป็น Project ขนาดใหญ่ของทางอนันดา ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 14-3-18.69 ไร่ ที่ดินเป็นแบบลึกลงไป ขนาบกับซอยสรรพาวุธ 1 อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ที่ดินโครงการเริ่มจากหน้าปากซอย ติดถนนสรรพาวุธ สิ้นสุดที่ดินคือ สุดซอยสรรพาวุธ 1 บริเวณทางเข้า-ออกวัดบางนาใน โดยด้านหลังจะเป็นคลองเล็ก ๆ พื้นที่อีกฝั่งเป็นโรงเรียนสูงไม่เกิน 5 ชั้น ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการ ไม่มีตึกสูงบดบัง ลูกค้าทุกห้องจะได้รับวิวทุกทิศแบบเต็มตา ส่วนใครที่ซื้อห้องพักทางทิศตะวันตก ประมาณชั้น 23 ขึ้นไป ก็จะได้วิวบางกระเจ้า โอเอซิสใกล้เมือง

ในส่วนของอาคารพักอาศัย มีทั้งหมด 3 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A, อาคาร B สูง 34 ชั้น และ อาคาร C สูง 33 ชั้น โดยตำแหน่งของอาคาร A จะอยู่ติดกับถนนสรรพาวุธ ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการ มีความเป็นส่วนตัวสูง มีจำนวนห้องพักเพียง 419 ยูนิต โดยอาคารนี้จะพิเศษกว่าอาคารอื่นคือ ที่ชั้น 1 จะมีร้านค้า 2 ยูนิต เคาะมาแล้วก็คือ MaxValu เปิด 24 ชม. และอีกร้านคือ ร้านกาแฟ True Coffee ค่ะ ปัจจุบันอาคาร A เปิดขายแล้ว แต่ยังไม่เป็นทางการ คือเปิดเป็นบางชั้น และ บางยูนิตเท่านั้น ส่วนอาคาร B และ อาคาร C ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างจากอาคาร A คือ 2 อาคารนี้ ชั้นล่างจะสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ ได้เป็นวิวสวนน้ำที่ยาวกว่า 200 เมตร และ พื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ ห้องพักของสองอาคารนี้ จะอยู่ที่ 1,141 ยูนิต หรือเฉลี่ยอาคารละ 570 ยูนิตค่ะ

♦ ห้องพัก โครงการขายให้แบบ Fully Furnished + แอร์ Samsung โดยลูกค้าจะได้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว อย่างเช่นโซฟา, โต๊ะทานข้าว+เก้าอี้, เตียงนอน และก็จะมีส่วนที่บิวท์อินไว้ให้เลย อย่างเช่น ตู้วางทีวี, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง ในห้องครัวบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า MEX ครบชุด ภายในห้องน้ำ แยกส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำให้ พร้อมกั้นฉากแบบน้ำ Tempered ให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard พื้นห้องลามิเนต ส่วนครัวแกรนิตโต้ ผนังห้องฉาบเรียบทาสี ส่วนไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ทั้งหมดค่ะ

♦ Facilities : เป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลย อธิบายสั้น ๆ คือ จัดให้ตามคอนเซ็ปต์ มีพื้นที่สีเขียว – สวนหย่อมขนาดใหญ่ (มาก) ถึง 5,000 ตร.ม. สูดโอโซนของธรรมชาติได้เต็มปอด แถมโครงการนี้ยังเอาใจคนรักสุขภาพ ด้วยการเพิ่ม Bike Lane ที่ห้อมล้อมด้วยสวนสีเขียว ความยาวกว่า 700 เมตร, ด้านหลังโครงการมีสนามฟุตซอลมาตรฐาน , Jogging Track ให้คุณได้วิ่งออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ รวมถึงฟิตเนส ครบทุกอาคาร อีกทั้งยังมี Co-Working Space พื้นที่พิเศษพร้อม Internet Wi-Fi ที่จะให้คุณสามารถทำงานได้ง่ายๆ สะดวกสบายเสมือนมีออฟฟิศส่วนตัวในคอนโด

พิเศษด้วยสวนน้ำขนาดใหญ่ถึง 3 สระ ความยาวกว่า 200 เมตร ทอดยาวเชื่อมกันตั้งแต่อาคาร A – อาคาร C แต่ละสระ มี Terrace ริมสระว่ายน้ำ พร้อมชุดเก้าอี้ สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย ติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วโครงการ เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control แยกแต่ละอาคาร พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยค่าาาาา

:: คะแนน ::

**การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้**

ราคา

ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท | ประมาณ 88,000 บาท/ ตร.ม.

โปรโมชั่นพิเศษส่วนลดเงินสดหน้าสัญญา เริ่มต้น 50,000 – 250,000 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดห้องพัก และ ตำแหน่งห้องพัก)

♦ เงินจอง

– แบบห้อง Studio ,  Bedroom : 20,000 บาท

– แบบห้อง 2 Bedrooms : 30,000 บาท

♦ เงินทำสัญญา เงิน 3% จากราคาห้องพัก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-316-2222

WEBSITE  : http://www.ananda.co.th/condo/projects/Ideo-O2/index.php

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คอนโด คุรุธานี ไพรเวซี่ Kuruthanee Privacy คอนโดแต่งครบ พร้อมที่จอดรถครบทุกยูนิต เริ่ม 2.2 ล้านบาท

คอนโด คุรุธานี ไพรเวซี่ โครงการเดียวบนถนนสิรินธร ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดกับ 85 ยูนิต ตอบสนองความต้องการ ในทุก ๆ ฟังก์ชั่นไม่ว่าจะเป็น ที่จอดรถทุกยูนิต ตกแต่งแบบ Fully Furnished & Fully fitted (by Modernform) และครบครันด้วย Facilities  ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. และการเดินทางที่หลากหลายในทุกเส้นทาง..ในรูปแบบของคำว่า “Privacy”ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซ.จรัญสนิทวงศ์ 67 บางพลัด (ถนนสิรินธร) เขตบางพลัด กทม.

FLOOR PLAN

Master Plan

Floor 3

Floor 4-7

Floor 8

UNIT TYPE

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-880-2088, 080-500-5533

WEBSITE : http://www.kuruthanee-privacy.com/

EP.222 รีวิว คอนโด พอส สุขุมวิท 103 Pause Sukhumvit 103

สวัสดดีครับวันนี้ผมจะพามาชมโครงการ Pause สุขุมวิท 103 คอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น ในซอยอุดมสุข 7 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนอุดมสุข และถนนวชิรธรรมสาธิต ทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวกในการเข้าออกโครงการ อยู่ห่างจาก BTS อุดมสุขประมาณ 800 เมตร มีบริการ Shuttle Service ให้กับลูกบ้าน พร้อมส่วนกลางที่มีมาให้ครบ ในราคาเริ่มต้นเพียง 5.5 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยอุดมสุข 7 ถนนอุดมสุข เขตบางนา (ตัวสำนักงานขายจะอยู่ติดกับถนนวชิรธรรมสาธิต ระหว่างซอยวชิรธรรม 12 และ 14 ครับ)

แผนที่จากโครงการ

การเดินทาง

โครงการ Pause สุขุมวิท 103 ตั้งอยู่ใยซอยอุดมสุข 7 โดยการเดินทางสามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจากถนนอุดมสุขเลี้ยวเข้าซอยอุดมสุข 7 หรือจากฝั่งถนนวชิรธรรมสาธิต แล้วเข้าซอยวชิรธรรม 6 ซึ่งไปเชื่อมออกถนนสุขุมวิทได้ทั้ง 2 เส้นครับ การเดินทางเข้าเมืองออกไปทั้งอุดมสุข และวชิรธรรมสาธิต เข้าสุขุมวิทและวิ่งตรงอย่างเดียว ผ่านเอกมัย ทองหล่อ อโศก ยาวไปจนถึงสยามได้เลย หรือจะขึ้นทางด่วนตรงซอยสุขุมวิท 62 ก็ยังได้ครับ ไปได้ทั้งพระรามเก้า ดินแดง วิภาวดี ดาวคะนอง สีลม ค่อนข้างสะดวกนะครับ ส่วนถ้าจะออกนอกเมืองจะใช้เส้นสุขุมวิทก็ได้ไปออกตรงสี่แยกบางนา ไปสำโรง สมุทรปราการ ได้ หรือออกต่างจังหวัดโดยใช้เส้นบางนาตราดไปชลบุรี พัทยาก็สะดวกดี มีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้นเช่นกัน หรือถ้าจะมาออกเส้นศรีนครินทร์ก็ได้ครับ โดยออกมาทางอุดมสุขแล้ววิ่งตรงไปทางศรีนครินทร์ ไปลาดกระบัง ประเวศ สุวรรณภูมิได้

การเดินทางโดยรถสาธารณะก็มีทั้งรถเมล์ รถสองแถว หลายสายวิ่งผ่านเกือบทั้งคืน รวมทั้งวินมอเตอร์ไซค์ด้วย ส่วนการเดินทางโดย BTS ระยะประมาณ 800 ม.ถึงโครงการ ระยะนี้ถ้าเดินเหงื่อตกได้นะแต่ยังดีที่โครงการมี Shuttle bus ให้

ส่วนการเดินทางวันนี้ผมนั่ง BTS มาลงที่สถานีอุดมสุข แล้วเดินเข้าถนนอดมสุขไปเข้าซอยอุดมสุข 7 ระยะเดินประมาณ 800 ม.ครับ และผมจะพาเดินไปทะลุออกปากซอยวชิรธรรมสาธิต 6 อีกทีครับ

วันนี้เริ่มกันตรงที่ BTS อุดมสุขครับ

จากนั้นออกทางออกหมายเลข 3 ครับ

จากบนทางเดิน BTS มองลงมาจะเห็นแยกอุดมสุข ถ้าตรงไปบางนา สวนทางกันไปอโศก เราจะเดินเข้าถนนอุดมสุขซ้ายมือ

เดินลงบันไดมาจะเจอร้านค้าขวามือ

ลงบันไดมาแล้วเดินย้อนขึ้นไปทางถนนอุดมสุข หรือสุขุมวิท 103 ครับ

เดินมาจะเจอร้านคลินิกทัตกรรม ซ้ายมือ

จากนั้นก็จะเจอแยกอุดมสุข ขวามือเป็นบันไดเลื่อนขึ้นตัวสถานี BTS

จากนั้นเลี้ยวซ้าย เดินตามทางเท้าเข้าถนนอุดมสุขครับ

บริเวณนี้ช่วงเย็นๆจะมีร้านรถเข็นขายอาหาร ทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ และอีกหลายอย่างครับ ยาวไปจนถึงข้างใน แวะซื้อหรือนั่งกินก่อนเข้าโครงการได้หลังกลับจากเลิกงาน

เดินเลยมาจะเจอธนาคารไทยพาณิชย์ซ้ายมือ ฝั่งขวาก็มีตลาดให้เดินครับ ที่เห็นเป็นเต็นท์เยอะๆ

ตามทางเดินก็จะมีร้านค้าขายอุปกรณ์ต่างๆ ร้านอาหารยาวเข้าไปจนถึงปากซอยโครงการเลย

จากนั้นจะเจอซอยอุดมสุข 1 และเป็นที่ตั้งของ One Udomsuk

One Udomsuk มีทั้งร้านอาหาร ร้านสปา สถาบันสอนภาษา จอดรถในนี้ฟรี 5 นาทีแรกครับจากนั้นจะคิดเป็นรายชั่วโมง ถ้าไม่ได้มาใช้บริร้านอาหารในนี้ก็ต้องเสียเงินครับ

เลยซอยอุดมสุข 1 มาจะเจอร้านขายยา และก็ยังมีร้านค้าตามทางเดินอีก

และก็จะเจอตลาดอุดมสุขครับ

ภายในตลาดของสดขายเพียบ สามารถเดินทะลุไปออกถนนสุขุมวิท หรือตรง BTS อุดมสุขได้ครับ

กลับมาเดินทางเท้าต่อ ของขายเต็มไปหมด

ซ้ายมือจะเจอร้านวัตสัน เดินต่อไปอีกครับ

จากนั้นจะเจอร้านขายผลไม้ มีหลากหลายชนิดเลย

ตรงนี้มีของทอดขาย น่ากินเชียวครับ

เลยมาหน่อยจะเจอ Big C Mini

และก็จะเจอ Ideo mix ตรงซอยอุดมสุข 3

ปากซอยอุดมสุข 3 มีท่ารถสองแถว และรถตู้อยู่ สามารถไปศรีนครินทร์ ประเวศได้ครับ

จากนั้นก็จะเจอร้าน Pizza Company

จากนั้นจะเจอตลาดอุบลศรี ตรงซอยอุดมสุข 5

จากนั้นก็จะเป็นซอยอุดมสุข 7 ครับ ซึ่งเป็นซอยโครงการ ปากซอยมีร้านถ่ายเอกสาร

ภายในซอยอุดมสุข 7 เป็นถนนขนาด 2 เลน รถวิ่งสวนกันได้ และเป็นซอยที่สามารถไปทะลุออกซอยวชิรธรรมสาธิต 6 ได้ครับ จากปากซอยเข้าไปอีกประมาณ 290 ม.

ในซอยส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ และหอพักเป็นส่วนใหญ่ และมีบ้านเดี่ยวในซอยนี้ด้วย เดินในซอยนี้ก็ระวังรถกันด้วยเพราะไม่มีทางเท้าครับ

เดินเข้ามาจะเห็นร้านซัก อบ รีด ขวามือ

ช่วงนี้เป็นบ้านพักอาศัย และอพาร์ทเม้นท์

จากนั้นจะเจอหอพัก อพาร์ทเม้นท์

เลยมาหน่อยจะเจอ Romance เป็นอพาร์ทเม้นท์ขวามือ ส่วนซ้ายมือเป็น 7-11 ห่างจากโครงการประมาณ 80 ม.

เลยมาหน่อยเป็นหอพัก มีร้านมินิมาร์ทใต้ตึก ซ้ายมือ

ถัดจากหอพักก็จะเป็นบ้านพักอาศัย

จากนั้นก็จะถึงพื้นที่โครงการครับอยู่ขวามือ

ขอบเขตพื้นที่โครงการ ซ้ายมือเป็นหอพัก 5 ชั้น ฝั่งขวาเป็นบ้านพักอาศัย

ถ่ายจากฝั่งหอพักให้ดูครับ รั้วติดกันเลย

ด้านหน้าโครงการ หรือทิศตะวันตก ติดกับถนนซอยสุขุมวิท 7 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้าน 3-4 ชั้น วิวถัดออกไปจะเห็น Ideo Mix และศุภาลัย ซิตี้โฮม

ส่วนด้านหลังโครงการ หรือทิศตะวันออกจะติดกับถนนซอยวชิรธรรมสาธิต 8

ฝั่งทิศใต้ส่วนของตึก A ติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้น วิวไกลๆ จะโดน Block วิวด้วยอพาร์พเม้นท์ครับ

ส่วนทิศใต้ของตึก B จะติดกับทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น

ทิศเหนือส่วนของตึก A ติดกับหอพัก 5 ชั้น ครับ

ส่วนทิศเหนือตึก B จะติดกับบ้าน 2 ชั้น

เดี๋ยวผมพาเดินไปออกซอยวชิรธรรมสาธิต 6 ครับ

เริ่มกันตรงหน้าโครงการผ่านหอพัก 5 ชั้น ประมาณ 350 ม. จะถึงปากซอยวชิรธรรม 6

ไม่มีทางเท้าให้เดินเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย

เลยมาอีกหน่อย มีหอพัก

ใกล้ถึงปากซอยก็จะเป็นอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่

จากนั้นก็จะถึงปากซอยวชิรธรรมสาธิต 6 ครับ

ความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินย่านนี้ มีตลาดอุดมสุขติดกับตัวสถานีเลยมีของกินของใช้ขายเพียบ และในซอยอุดมสุขช่วงต้นซอย และช่วงกลางซอยก็มีของขายทั้งสองฝั่งทางตั้งแต่เช้าถึงดึก ร้านอร่อยๆมีอยู่หลายร้านเลยเลือกกินได้สบายๆ แต่ถ้าอยากเดินห้างเย็นๆถ้าใช้ BTS ก็คงต้องพึ่งแถวอ่อนนุชมี Lotus, Big C หรือไม่ก็ยาวเข้าเมืองไปเลย แต่ถ้าไม่ใช้ BTS ก็มาแถวบางนามี เซ็นทรัลบางนา, Big C บางนา อนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ใกล้ๆกับสี่แยกบางนา คือ Bangkok Mall หรือนั่งรถไปแถวศรีนครินทร์มีซีคอนสแควร์, พาราไดซ์พาร์ค, ตลาดนัดรถไฟ

บริเวณรอบๆโครงการ ทิศเหนือของตึก A ติดกับ หอพัก 5 ชั้น และทิศเหนือของตึก B ตึดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ส่วนทิศใต้ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ทิศตะวันออกติดกับซอยวชิรธรรมสาธิต 8 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย และทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอาศัย 3-4 ชั้น

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

• โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท : 2 กม.
• ตลาดอุดมสุข : 650 ม.
• BITEC บางนา : 2.1 กม.
• สนามกีฬาและสนามกอล์ฟราชนาวี บางนา : 2.8 กม.
• วัดด่านสำโรง : 4.8 กม.
• โรงพยาบาลไทยนครินทร์ : 4.9 กม.
• BigC สำโรง : 5 กม.
• สวนหลวงร.9 : 6.2 กม.
• โรงเรียน St.Joseph บางนา : 6.3 กม.
• 7-11 : 80 ม.
• ซีคอนสแควร์ : 9.9 กม.
• ตลาดนัดรถไฟ : 9.9 กม.

Model

ภายนอกอาคารใช้โทนสีเทาเข้มเทาอ่อน ด้านหน้าโครงการอยู่ติดซอยอุดมสุข 7 ตึก A อยู่หน้า ตึก B อยู่ด้านหลัง

ภาพจำลองโครงการ ถ้าโครงการเสร็จ ตึกนี้คงจะเด่นสุดในซอย

ด้านหน้าโครงการหรือทิศตะวันตก ติดกับซอยอุดมสุข 7 ชั้น 7 มีสระว่ายน้ำ มีระแนงบังสายตาย และสวนชั้นดาดฟ้า

สระว่ายน้ำตึก A มีจากกุซซี่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนฟิตเนสจะอยู่ด้านในครับ

ภาพจำลองสระว่ายน้ำที่ตึก A มีจากุซซี่มุมซ้าย ด้านในเป็นห้องฟิตเนส ชั้นบนเป็นสวน

ชั้นดาดฝาเดินขึ้นมาจะเห็นพื้นที่สีเขียวแบบนี้

ภาพจำลองสวนบนดาดฟ้าตึก A ขึ้นมารับลมชมวิวกันได้

ภาพจำลองห้องฟิตเนสผนังเป็นกระจกมองผ่านสระว่ายน้ำและวิวด้านนอก

ฝั่งทิศใต้ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น จะเห็นว่าทั้งสองตึกจะมี Facility เป็นของตัวเองไม่ต้องแย่งกันใข้

ถ่าย Facility ของตึก B ให้ดูใกล้ๆครับ

สวนดาดฟ้าของตึก B ก็มีเช่นกัน

ภาพจำลองสวนดาดฟ้าที่ตึก B

ฝั่งทิศตะวันออกติดกับซอยวชิรธรรมสาธิต 8

ทิศเหนือติดกับหอพัก 5 ชั้น และบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

Floor Plan

แปลนชั้น 1 ไม่มีให้ดูนะครับ มาที่แปลนชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนพักอาศัยครับ มี 2 อาคารแยกเป็นตึก A และตึก B ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ฝั่งตึก A ครับ จอดรถได้ทั้งใต้ตึกและ กลางแจ้งคิดเป็น 35 % (ไม่รวมซ้อนคัน) ตึก A จะมี Lobby เป็นแบบ Double Ceiling สูงจากชั้น 1-2 ส่วนตึก B ไม่มี Lobby ลิฟท์จะมีตึกละ 2 ตัว บันไดหนีไฟมี 2 จุด

แปลนชั้น 3 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด ห้อง 2 Bedroom จะอยู่ที่มุมตึก ทีเหลือจะเป็น Studio และ 1 Bedroom วิวแต่ละห้องจะหันออกด้านนอกตึกครับ

แปลนชั้น 7 จะเริ่มมีห้องบางส่วนหายไป เนื่องจากจะเป็นส่วนของระบบสระว่ายน้ำครับ ที่เหลือก็ยังมีห้องพักอาศัยอยู่

แปลนชั้น 8 มีห้องพักอาศัยหายไปอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากส่วนใหญ่ Facility หลักๆจะอยู่ที่ชั้นนี้ครับ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนชั้นดาดฟ้า

ห้องตัวอย่าง

แบบห้องโครงการนี้มีให้เลือก 5 แบบ แบ่งเป็น Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom ส่วนห้องที่พามาชมวันนี้ตามไปดูกันได้เลยครับ

Studio ขนาด 20.74-24.30 ตร.ม. เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนครัวก่อน ได้ครัวเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอนได้ฉากกั้นบานเลื่อนเป็นกระจก 3 ตอน ในสุดมีระเบียง ส่วนห้องน้ำ จะอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว

เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อน ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ในสุดเป็นห้องนอน ขวามือเป็นห้องน้ำ พื้นได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.4 ม. ผนังของจริงจะได้ฉาบเรียบทาสีทั้งหมดครับ ไฟได้เป็นดาวน์ไลท์ และมีลำโพงให้ตรงส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอน

มีตู้ Built-in มาให้

ตู้เป็นบานเปิด และมีลิ้นชักมาสองอันแบบนี้

จากนั้นจะมีที่ว่างให้วางตู้เย็น และเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้แถมให้นะครับ

ชุดตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 3 บาน

ด้านล่างมีลิ้นชักมาให้

Sink ล้างจานแบบหลุมเดียวพร้อมที่พักจานของ Teka ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามมิกแบบ 2 หัวของ Teka เช่นกัน พร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน

ตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำ ได้เป็นประตูกระจกฝ้าบานเลื่อน 2 บาน เปิดได้ 2 ฝั่ง

เปิดเข้ามาจะเจอส่วนแห้ง ได้กระจกบานใหญ่ดี

อ่างล้างหน้าของ American Standard

อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ American Standard เพียงสัมผัสแค่ปลายนิ้ว พร้อมสายชำระเผื่อใครไม่ถนัดใช้แบบนี้

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีฉากกั้นบานเลื่อนมาให้

ด้านในมีฝักบัว

หน้าตาฝักบัวของ American Standard

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.80 x 0.96 ม.

ธรณีประตูไม่ได้สูงมาก ระวังน้ำจะเลอะเทอะด้านนอกเวลาใช้งาน

ไปดูส่วนของห้องนั่งเล่นต่อ

ได้โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งมาให้แบบนี้ แต่โต๊ะกลางไม่ได้ให้นะครับ วางให้ดูเป็นไปเดีย

ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 ม. ได้ชั้นวางทีวีแบบนี้เลย

ตู้เป็นบานเปิดขึ้นวางของด้านบนได้

ถัดไปเป็นส่วนห้องนอน ได้ฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนมาให้แบบนี้

ได้เตียงขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูก

พื้นที่ปลายเตียยงเหลือประมาณ 60 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงชิดกับฉากกั้นเลยไม่มีพื้นที่เดิน

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 90 ซม.

ใต้เตียงมีลิ้นชักเก็บของได้

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.5 ม. ได้ชั้นวางทีวี แอร์ติดปลายเตียงของ Daikin

ตู้วางทีวีปลายเตียงเป็นบานเปิด 2 บาน

ในสุดวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานมุมซ้าย ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

โต๊ะทำงานมีลิ้นชักแบบนี้ โต๊ะวางเข้ามุทพอดี ผนังจะเป็นกระจกมองวิวออกไปด้านนอกได้

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 2 บาน มีลิ้นชักด้านใน เก็บของได้พอประมาณ

เปิดประตูระเบียงออกมาจะเจอพื้นระเบียงขนาด 1.5 x 0.6 ม.

วางเครื่องซักผ้าให้ดูไม่ได้แถมให้ เดินระบบน้ำไว้ให้พร้อมปลั๊กไฟ

ด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 1 ตัวครับ

มองกลับเข้าไปด้านในจะเห็นแบบนี้

1 Bedroom ขนาด 25.60-32.78 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ถัดไปจะเป็นครัวเป็นครัวปิดได้ฉากกั้น ครัวยาวไปทะลุระเบียง อีกฝั่งจะเป็นห้องนอน และห้องน้ำ ประตูตรงส่วนนี้จะเป็นบานสวิง จะปิดประตูตรงส่วนห้องนอน หรือจะปิดแยกส่วนห้องนั่งเล่นได้เช่นเวลานอน จะได้มีห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ห้อง Type ขนาด 25 ตร.ม. ในห้องน้ำจะได้อ่างอาบน้ำทุกห้องครับ

ห้องนี้มีประตูหน้าห้องให้ดู

ได้ Digital Doorlock จาก Samsung มือจับเป็นคันโยก

เดินเข้ามาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ในสุดเป็นห้องครัว และห้องนอน

ได้โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง

ติดกับโซฟาเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร

ระยะดูทีวีประมาณ 2.25 ม.

ตู้ชั้นทีวีเป็นบานเปิด 2 บาน เก็บของได้พอสมควร

ซ้ายมือเป็นห้องครัว ได้ฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 2 บาน ขวามือเป็นห้องนอน และมีทางเดินเข้าห้องน้ำ

เข้ามาดูในห้องครัวก่อน ชุดครัวหน้าตาคล้ายๆกับห้องแรก ในสุดเป็นประตูออกไปตรงระเบียง

ชุดตู้ด้านบนเป็บานเปิด

ตู้ใต้ Sink ล้างจาน ติดกันมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า

มีลิ้นชักมาให้ 2 ชั้น

ระเบียงด้านนอกขนาด 0.85 x 1.38 ม.

ด้านข้างผนังเป็นกระจกส่วนของห้องนอนครับ

อีกฝั่งแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์มา 2 ตัว

กลับมาด้านใน ถัดจากห้องครัวจะมีทางเดินเข้าห้องนอนซ้ายมือ และห้องน้ำขวามือ ตรงกลางมีโต๊ะ และตู้

ตู้เป็นบานเปิด 2 บาน จะเก็บของหรือแขวนเสื้อผ้าได้

ภายในห้องน้ำ พิเศษกว่าเดิมคือได้อ่างอาบน้ำ

บานกระจกได้เหมือนห้องแรก

ชุดสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard

ด้านในสุดเป็นอ่างอาบน้ำ มีฉากกั้นส่วนซ้ายมือ

อ่างอาบน้ำของ American Standard

ฝักบัวติดอยู่ฝั่งด้านใน

หน้าตาฝักบัวของ American Standard

ธรณีประตูสูงพอประมาณ

ตรงข้ามกับห้องน้ำจะเป็นห้องนอนครับ

ได้เตียงขนาด 5 ฟต

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.25 ม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 45 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 40 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.25 ม.

หน้าต่างในห้องนอนได้แบบกระจกบานเลื่อน 2 บาน ที่เหลือเป็นบานติดตาย

มองกลับไปตู้เสื้อผ้าจะอยู่ซ้ายมือ ห้องนอนของจริงจะมีประตูเป็นบานสวิงคือจะปิดตรงห้องนอน และสามารถปิดตรงส่วนห้องนั่งเล่นได้

ได้ตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นถึงฝ้าขนาด 2 บานประตู

เปิดออกมาจะเห็นแบบนี้ เก็บของได้พอสมควร

ด้านบนแบ่งเป็นชั้นไว้เก็บของได้

ชุดปลั๊ก และสวิสซ์ไฟของ Siemens ทั้งหมด และทุกห้องจะได้ระบบ Sound System ยี่ห้อ Razr พร้อมลำโพงฝังฝ้าตรงส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนครับ

แปลนห้องอีก 3 แบบ

2 Bedroom ขนาด 33.52-39.46 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาด 40.97-43.42 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาด 44.73 ตร.ม.

ราคา

• Studio ชั้น 2 ขนาด 21.51 ตร.ม. ราคา 1.72 ล้านบาท
• Studio ชั้น 5 ขนาด 21.75 ตร.ม. ราคา 1.83 ล้านบาท
• 1Bedroom ชั้น 3 ขนาด 27.25 ตร.ม. ราคา 2.06 ล้านบาท
• 2Bedroom ชั้น 4 ขนาด 34.11 ตร.ม. ราคา 2.65 ล้านบาท

จอง 10,000 ทำสัญญา 40,000 บาท

***โปรโมชั่นจองและทำสัญญารับ Samsung Galaxy S6 Edge พร้อมส่วนลดเงินสด 60,000 บาท

ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 380 บาท/ตร.ม

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – ทำเลของ Pause สุขุมวิท 103 อยู่ในย่านที่อยู่อาศัย เห็นได้จากพื้นที่รอบๆโครงการที่เต็มไปด้วยบ้านพักอาศัย 2-4 ชั้น มีอาคารพาณิชย์ช่วงต้นๆซอย และมีทั้งอพาร์ทเม้นท์ หอพัก กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีพื้นที่ว่างเปล่าให้เห็นพอสมควร ภายในซอยอุดมสุข 7 จึงไม่ได้คึกคักมาก ต้องออกมาแถวถนนอุดมสุขซึ่งมีร้านอาหาร ร้านค้ามากมาย บางร้านขายตั้งแต่เช้าจนถึงดึก บางร้านก็เปิดช่วงเย็นๆไปจนดึกๆ ของกินมีให้เลือกเยอะมากครับ เดินออกมาปากซอยประมาณ 290 ม. ก็เจอร้านอาหารแล้ว จะไปแถวช่วงปากทางถนนอุดมสุขก็มีหลายร้าน มีตลาดสดตรงนี้ด้วย หรือจะไปช่วงซอยอุดมสุขยี่สิบปลายๆก็มีร้านอาหารอร่อยหลายร้านครับ ช่วงเย็นถึงดึกคนยิ่งเยอะครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 7 ซึ่งเชื่อมระหว่างถนนอุดมสุข และถนนวชิรธรรมสาธิต ถ้าจะใช้เส้นทางสุขุมวิทสามารถเลือกใช้ได้ทั้งสองเส้นทางครับ นอกจากนี้ถนนอุดมสุขยังเป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท และศรีนครินทร์ ดังนั้นจึงทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองค่อนข้างสะดวกครับเลือกได้หลายเส้นทาง และที่สำคัญยังอยู่ใกล้ทางด่วนอีกด้วยมีตรงซอยสุขุมวิท 42 และตรงเส้นบางนาตราด

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ภายในซอยโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ติดกับ 7-11 ห่างจากโครงการประมาณ 80 ม. หรือจะรอโบกขึ้นหน้าโครงการก็ได้ครับจะมีรถวิ่งผ่านตลอด ออกมาปากซอยอุดมสุขมีรถสองแถว รถตู้ วิ่งผ่านสามารถไปศรีนครินทร์ ประเวศได้ ส่วนถ้าจะใช้ BTS ระยะเดินประมาณ 800 เมตรถึงสถานีใครชอบเดินก้ไม่ว่ากัน แต่โครงการมีบริการ Shuttle Service ส่งถึงสถานีเลย ก็สะดวกในระดับหนึ่งครับ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวอาคารออกแบบมาให้เต็มพื้นที่ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-2-49 ไร่ รอบๆโครงการมีสวน สลับกับพื้นที่จอดรถ รูปทรงอาคารเป็นเหลี่ยมๆ ใช้โทนสีเทาและเทาอ่อน ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ถึงชั้น 8 ส่วน Facility หลักๆก็จะอยู่ที่ชั้น 8 ครับ ห้องพักส่วนใหญ่เป็น Type Studio ออกแบบมาครบทุกฟังก์ชั้นการใช้งานในทุกพื้นที่ในห้องแบ่งส่วนมาให้เรียบร้อยดี

รูปแบบห้องโครงการนี้เริ่มตั้งแต่ Studio , 1Bedroom , 2Bedroom แต่ละแบบก็มีขนาดแตกต่างกันออกไป โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ตั้งแต่ประตูห้องได้ Digital Doorlock ของ Samsung ได้ระบบ Sound Touch System พร้อมลำโพงฝังฝ้าทุกห้อง พื้นได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.4 ม. ห้องน้ำสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติ ได้ฉากกั้นส่วนเปียก สำหรับห้องขนาด 25 ตร.ม. ขึ้นไปจะได้อ่างอาบน้ำด้วย ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว Sink ล้างจานแบบหลุมเดียวของ Teka และ Hob&Hood ของ Teka เช่นกัน ได้แอร์ Daikin โซฟา ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงาน

สิ่งอำนวยความสะดวก – มีให้มาตรฐานตามคอนโด Low Rise ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้น 1 และ 8 โดยชั้น 1 มี Lobby ที่ตึก A มีพื้นที่จอดรถใต้อาคาร และกลางแจ้งคิดเป็น 30% ไม่รวมซอนคัน ชั้น 8 ของทั้งสองตึก มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool, Fintness, สวนดาดฟ้า สำหรับลิฟต์มีให้ตึกละ 2 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 092-716-3300

Website : http://www.origin.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

EP.223 รีวิว คอนโด โนเบิล รีดี Noble RE:D  คอนโดตกแต่งครบพร้อมอยู่ ติดรถไฟฟ้า BTS อารีย์ 80 เมตร

สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ “โนเบิล รีดี Noble RE:D” คอนโดตกแต่งครบสร้างเสร็จพร้อมอยู่ เป็นโครงการติดแนวรถไฟฟ้า เพียง 80 เมตร ถึง BTS อารีย์ คอนโด High Rise 23 ชั้น 1 อาคาร ภายนอกอาคารสีแดง สวยโดดเด่น ไม่เหมือนใคร ให้ความเป็นส่วนตัว ด้วยห้องพักเพียง 272 ยูนิต บรรยากาศภายในโครงการ เงียบสงบ Facilities ครบครัน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สำหรับรายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เชิญติดตามต่อด้านล่างค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.

การเดินทาง



คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง เริ่มจาก > สถานี BTS สนามเป้า > ถนนพหลโยธิน > ซอยพหลโยธิน 7 > ซอยอารีย์ 1 > คอนโด โนเบิล รีดี *

เราเริ่มจาก สถานี BTS สนามเป้า

ผ่านสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ตอนนี้ให้เราเตรียมชิดซ้ายได้เลยค่ะ

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 7

หลังจากเข้าซอยพหลโยธิน 7 มาแล้ว ขับมานิดเดียว เราจะเจอซอยอารีย์ 1 อยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอารีย์ 1 เลยค่ะ

บรรยากาศ ภายในซอยอารีย์ 1 ค่ะ ขับตรงไป

คอนโด โนเบิล รีดี จะอยู่ทางขวามือเรานะคะ

ทางเข้า-ออกโครงการ โนเบิล รีดี

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

สถานที่สำคัญ

– BTS อารีย์
– บิ๊กซี สะพานควาย
– เซ็นเตอร์วัน
– เซ็นทรัลลาดพร้าว
– ยูเนี่ยน มอลล์
– ตลาด อ.ต.ก.
– โรงพยาบาลพญาไท 2 อินเตอร์เนชันแนล
– โรงพยาบาลราชวิถี
– โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล
– โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
– โรงพยาบาลประสานมิตร
– โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
– โรงเรียนสามแสนวิทยาลัย
– สถานีขนส่งหมอชิต 2

สำรวจรอบโครงการ

พาเดินสำรวจเส้นทางรอบโครงการกันหน่อย เริ่มจากบนสถานี BTS อารีย์ กันเลย

อย่างที่รู้ ๆ กันว่า ทำเลโซนอารีย์ มีสำนักงาน, ออฟฟิศขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ อยู่มากพอสมควร บนสถานีรถไฟฟ้า มีทั้งร้านค้า, และผู้คนสัญจรตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้า เข้ามาทำงาน – เย็น เลิกงานกับบ้าน

บนสถานีรถไฟฟ้า ก็จะมีร้านค้า, ร้านขนม รวมถึงร้านที่อำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เปิดตลอดเส้นทางขึ้น-ลง เอาใจหนุ่มสาวออฟฟิศกันมาก ๆ

ทางขึ้น-ลง BTS ฝั่งเลขคู่ค่ะ นี่เป็นช่วงเวลาเที่ยงพอดี ดูได้เลยว่าผู้คนสัญจร เยอะพอสมควร ด้านล่างมีป้ายรถเมล์ + วินมอเตอร์ไซค์ครบค่าาา

มี Community Mall ให้ช็อปปิ้งอย่าง La Villa ที่ด้านใน เค้ามีทั้งร้านค้า, ร้านอาหารชื่อดัง รวมถึง Villa Market เปิดให้บริการ ตลอด 24 ชม. เอาใจคนไทย และ เทศ เพราะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีอาหารนำเข้า, ผลไม้นอก รวมถึงเครื่องปรุงตปท. ให้เลือกซื้อครบครัน ไม่ต้องนั่งรถไปถึงห้องสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เพราะ ที่นี่มีให้ครบค่ะ

มองไปอีกฝั่ง มีศูนย์ TOYOTA ด้านล่างทางเท้า ก็จะมีร้านรถเข็นแผงลอย เปิดขายตลอดเกือบทั้งวัน

ภาพมุมสูง มองลงมาจากบนสถานี BTS ซ้ายมือเป็นทางลงของเรา พร้อมแล้วเริ่มเลย

ตอนนี้เราลงมาอยู่บริเวณทางขึ้น-ลงสถานี อารีย์แล้วนะ

ติดกับทางขึ้น-ลง รถไฟฟ้า มีร้านค้า, ร้านอาหารเปิดเรียงรายเยอะมาก มีตั้งแต่ร้านถาวรที่ตั้งอยู่ในซอย (ซอยนี้ทะลุอารีย์ 1 ได้ค่ะ) หรือ จะเป็นร้านค้ารถเข็น แผงลอย เลือกซื้อเลือกทานกันแทบไม่ถูก เยอะจริง!

มีอาคารปิยวรรณ เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ในอาคารก็จะมีออฟฟิศใหญ่ เล็ก ผสมปนเปกันอยู่ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสำนักงานสรรพากรพื้นที่กทม. 4 อีกด้วยค่ะ

เราเริ่มเดินทางเท้ากันแล้วนะคะ อย่างที่บอกว่าร้านค้าข้างทางเยอะมาก

ใต้บันไดสถานีรถไฟฟ้า มีป้ายรถเมล์ให้ใช้บริการ มีรถเมล์ผ่านหลายสาย เรียกพี่วิน หรือ Taxi ก็ง่ายมาก มีผ่านตลอดเกือบทั้งวัน

ร้านค้าสหกรณ์พระนคร เป็น Supermarket ขนาดกลาง ๆ ของทางสหกรณ์ฯ เปิดตั้งแต่ 10.00-20.00 น.

ตึกสหกรณ์พระนคร ชั้น 2 มีศูนย์อาหารปรับปรุงใหม่ ภายในจะเปิดเป็นร้านขายของ มีทั้งกิ๊ฟช็อป, ร้านเสื้อผ้า, ร้านขายเครื่องสำอาง, ร้านขายยา, ร้านค้าจิปาถะ, ร้านขายขนม, ร้านอาหาร เอาใจหนุ่มสาวออฟฟิศกันสุด ๆ ลืมบอกไปว่าอาคารนี้ สามารถเดินลัดไปโผล่ยังซอยอารีย์ 1 ได้เลยนะคะ

เดินต่อมาตึกสีเขียวๆ ยาวๆ เนี่ย คืออาคารสนั่นประภาแล้วนะ  มีร้านอาหาร ขายทั้งข้าวมันไก่, ก๋วยเตี๋ยว, เกาเหลา, กระเพาะปลา ดูแล้วคนทานเยอะอยู่ น่าจะรสชาติเลิศค่ะ

นี่ยังเดินไม่พ้นสถานีนะเนี่ย :>

7-11 ก็มีน้าาา มีร้านขายผลไม้ น้ำผลไม้สด ๆ ด้านหน้าด้วย รวมถึงมีตู้ ATM ของไทยพาณิชย์ ให้ใช้บริการด้วยนะจ๊ะ

ร้านอาหาร Chef In The Box Express ร้านอาหารฝรั่งจานด่วน สะอาด สะดวก และที่สำคัญรวดเร็วทันใจ ติดกันเป็นร้านโชคดี ติ่มซำ

อารีย์ เบเกอร์ เซ็นเตอร์ ร้านขายอุปกรณ์ทำขนม ทำอาหาร พวกแป้ง, ยีส, ผงเยลลี่, แก้ว, กล่องใส่ขนม ฯ

ทางขึ้น-ลงอีกฝั่ง หากเราเดินมาจากโครงการ ขึ้นทางนี้ก็ได้ค่า ใกล้กว่าเล็กน้อย ><

เอกชัย เบเกอรี่ พลัส ร้านขายขนมปัง ทำสดใหม่

ติดกับทางขึ้น-ลง รถไฟฟ้า ก็จะมีสะพานลอย เป็นสะพานลอยแบบ 3 ทิศทาง เดี๋ยวพาไปดู

ต่อด้วยร้านขายยา, ร้าน Rain love ขายเสื้อผ้า และ ก็พวก Accessories ของผู้หญิง

นี่ค่าาาา สะพานลอยที่บอก เค้าทำเชื่อมต่อระหว่างถนนทั้งสองฝั่ง รวมถึงข้ามแยกให้เราอีกด้วย สะดวกในการใช้งานเอามาก ๆ

Sun Beauty ร้านขายเครื่องสำอาง อาหารเสริม

ด้านหน้าซอยอารีย์ 1 ซึ่งก็ยังมีร้านค้าเปิดตลอดทางเดิน

หัวมุมเปิดเป็นร้านแว่นท็อปเจริญ

ติดกันเป็นทางเข้าโครงการ สนั่นนภา อารีย์ ภายในก็จะแบ่งเป็นร้านค้า, ร้านเสื้อผ้า, ร้านขนม-อาหาร > ส่วนติดกับทางเข้า มีร้าน Naver Say Cutz ร้านตัดผมของ เวย์-นานา

ภายในโครงการ สนั่นนภา อารีย์

ถัดมาก็ยังมีร้านค้า ร้านขายผักสด และร้านอื่น ๆ มันเยอะมากจริงๆ

เจอพี่ทางฝั่งขวาค่ะ เป็นโครงการ โนเบิล รีฟอร์ม สร้างเสร็จก่อน โนเบิล รีดี

เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยโครงการ คราวนี้จากถนนสองเลน ที่ขับรถสวนกันได้ ก็กลายเป็น One Way แล้วนะคะ บอกให้รู้ไว้ก่อน!

มีตลาดเล็ก ๆด้านในเปิดเป็นร้าอาหาร พวกร้านส้มตำ, ร้านก๋วยเตี๋ยว รวมถึงมีร้านเสื้อผ้า, ร้านขายของล่อสาว ๆ เปิดตลอดทาง

ร้านค้าตลอดทางงงงงง ประมาณนี้ค่ะ

ด้านในมีฟิตเนสด้วยค่ะ

ตรงข้ามกับโครงการ จะเยื้องกับอาคารปิยวรรณ – สรรพากรเขต 4 สามารถเดินทะลุไปรถไฟฟ้าได้ค่ะ

ถึงทางเข้า-ออกโครงการแล้วค่ะ สรุประยะทางเดินจากสถานี BTS อารีย์ มายังโครงการ ประมาณ 80 เมตรเท่านั้น แถมตลอดทางก็อุดมสมบูรณ์ด้วยร้านค้า, ร้านอาหารมากมาย

Floor Plan

5th Floor / 6th – 12xth Floor / 14th Floor

15th – 20th Floor / 21th Floor / 22th – 23th Floor

บริเวณอาคาร : Facilities

โนเบิล รีดี : คอนโด High Rise สูง 23 ชั้น ออกแบบอาคารสไตล์โมเดิร์น ที่ดูเรียบหรู ตามแบบฉบับของ โนเบิล แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ตรงที่เลือกใช้สีแดง ทาเป็นสีภายนอกอาคาร ตัดกับเส้นขอบของระเบียง และ กริลระแนงสีดำ เพิ่มมิติ ให้ดูหรูหรา แต่ยังคงความเป็นโมเดิร์นเรียบ ๆ ไว้ในตัว สำหรับโครงการนี้มีห้องพักทั้งหมด 272 ยูนิต ถือว่ามีห้องพักที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับโครงการ High Rise อื่น ๆ อัตราห้องพักอยู่ที่ 12 ยูนิต | ชั้น ยกเว้นชั้น 6-12 อัตราห้องพักจะมากว่า อยู่ที่ 17 ห้อง | ชั้น โดยโครงการนี้จะเน้นเป็นห้องพักขนาดใหญ่ ส่วนมากเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 40-60 ตร.ม. แต่ก็มีห้องแบบ Studio ขนาด 32 และ 34 ตร.ม. แซมอยู่บ้าง ชั้นละ 2-3 ยูนิต ส่วนชั้นบนสุด ชั้น 23 จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน พิเศษกว่าชั้นอื่น ๆ ตรงที่เพดานห้อง รวมถึงโถงทางเดิน และ โถงลิฟท์ จะสูงถึง 3 เมตร ได้ความโปร่ง โล่ง และเป็นส่วนตัว แถมยังได้วิวที่ Exclusive กว่าชั้นอื่นๆอีกด้วยค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการ ติดซอยอารีย์ 1 ด้านหน้าจะมีป้อมรปภ. ดูแลรักษาความปลอดตลอด 24 ชม.

เมื่อเข้ามาในโครงการ การเดินรถเป็นแบบ One Way นะคะ เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าอาคารจอดรถ ส่วน Taxi หรือ ลูกบ้านที่มีเพื่อนมาส่ง ก็มีจุด Drop Off สำหรับรับ-ส่ง ให้ค่ะ

พื้นถนนในโครงการ เป็นพื้น Stamp Concrete สีเทา ตัดเส้นสีดำ ดูหรูหราดี ขวามือเป็น Visit Park สำหรับแขก หรือ ผู้ที่มาติดต่อเยี่ยมชมโครงการ

ด้านหน้าโครงการ มีพื้นที่สวนหย่อม จัดชุดเก้าอี้ม้านั่งยาวเต็มพื้นที่ ตกแต่งด้วยต้นไม้แนวสูง พร้อมลงต้นไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่น ปูหญ้าสนามเขียว เด็ก ๆ สามารถลงมาเดินเล่นได้นะคะ

ส่วนด้านในเป็นพื้นที่จุดรวมพล และ ศาลพระภูมิของโครงการค่ะ

ทางเข้า-ออกอาคารจอดรถ : ที่จอดรถเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 – ชั้น 4 คิดเป็น 55% หรือประมาณ 170 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน

เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control + กั้นไม้กระดกอัตโนมัติ

ลูกบ้านจะต้องแตะการ์ด เพื่อให้ไม้กระดกเปิด ถึงจะเข้าสู่อาคารได้ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย จะติดตั้งกล้อง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว มีรปภ.ยืนดูแลความปลอดตรงนี้ตลอด 24 ชม.

Sales Gallery เปิดให้บริการทุกวันค่ะ | ในอนาคต Sales Gallery จะถูกเปลี่ยนเป็นห้องประชุม ลูกบ้านทุกคนสามารถลงมาใช้งานได้

มีสวนพักผ่อนอีกหนึ่งจุด ตั้งอยู่ติดกับ Sales Gallery

จัดชุดโต๊ะ – เก้าอี้ สนาม สำหรับนั่งพักผ่อน ให้ครบชุด ตั้งไว้ตามตำแหน่งต่าง ๆ

ภาพรวมบริเวณพื้นที่สวนสำหรับพักผ่อนค่ะ

Drop Off สำหรับรับ-ส่งลูกบ้าน | แขกจะไม่สามารถนำรถเข้าอาคารได้นะคะ ต้องจอดรับ-ส่งบริเวณนี้ หรือ จอดรถที่ชั้นล่างได้เพียงอย่างเดียว เพื่อความปลอดภัยค่ะ

ด้านหน้า Lobby กั้นกระจกบานสูง โปร่ง เปิดรับวิวด้านนอกได้เต็มตา

เปิดประตู้เข้ามา จะพบกับเคาน์เตอร์ Reception ตำแหน่งคั่นกลางระหว่าง Lobby และ Mail Room ค่ะ

Mail Room กั้นห้องเป็นสัดส่วน

ด้านในแบ่ง Mailboxes ทางซ้าย และ ขวา ครบทุกยูนิต

Lobby ขนาดกำลังดี เหมาะสมกับจำนวนยูนิตที่มีไม่เยอะ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีเอกลักษณะเฉพาะตัว

จัดชุดโต๊ะ-เก้าอี้ และ โซฟาขนาดใหญ่ สำหรับนั่งรอ หรือ นั่งพักผ่อนก่อนเข้า-ออกอาคาร

เข้า-ออกอาคารพักอาศัยด้วยระบบ Access Card Control

โถงลิฟท์สูง โปร่ง ตกแต่งทันสมัย เรียบ ๆ แต่ดูหรูดี

ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว + ลิฟท์บริการ 1 ตัว ปลอดภัยอีกขั้น ด้วยลิฟท์โดยสารแบบล็อกชั้น ลูกบ้านสามารถขึ้น-ลงชั้นพักอาศัยของตัวเอง และ ชั้น 5 Facilities เท่านั้น

Facilities ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ค่ะ

เมื่อเดินออกมาจากลิฟท์ ด้านหน้าจะเป็นห้องฟิตเนส ส่วนขวามือ กั้นประตู Key Card เพื่อเข้าไปยังส่วนพักอาศัย

ขอพาไปดูส่วนของห้องฟิตเนสกันก่อน

ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่กำลังดี ตกแต่งเพดานสีแดง ตามรูปแบบอาคารของโครงการ

ห้องออกกำลังกาย เปิดรับวิวสวน และ สระว่ายน้ำ จัดเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบ

แบ่งเป็นลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้า 2 เครื่อง, เครื่องเดินปั่นวงรี, เครื่องนั่งปั่นจักรยานไฟฟ้า, เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ

ออกกำลังกายไป รับวิวสวน และ สระว่ายน้ำ พร้อมติดตั้งทีวีแขวนผนังให้ดูกันเพลินๆ

มุมบริหารกล้ามเนื้อ

จัดดัมเบลยกน้ำหนักครบชุดค่ะ

ออกมาอีกฝั่ง เป็นส่วนของสระว่ายน้ำ และ สตรีม

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6 x 20 เมตร | แยกสระเด็ก และ สระผู้ใหญ่

Terrace Wood Deck พร้อมชุดเก้าอี้สนาม สำหรับนอนเล่นพักผ่อน จัดมาให้ทั้งหมด 3 ชุด

อีกฝั่งมีม้าหินยาว สำหรับนั่งพักผ่อน ตกแต่งรอบสระด้วยต้นไม้ ร่มรื่น สวยงาม

สระว่ายน้ำล้อมด้วยอาคารสีแดง ตัดกับต้นไม้สีเขียว ดูอบอุ่นดี

อีกฝั่งมีทั้งตกแต่งด้วยต้นไม้ พร้อมกั้นกระจก Tempered เพื่อความแข็งแรง และ ให้สามารถ Take View ฝั่งแนวรถไฟฟ้าได้ด้วย

ด้านในร่ม แบ่งเป็นสระว่ายน้ำของเด็กค่ะ

สระว่ายน้ำเด็ก

ติดกับสระเด็ก เป็นพื้นที่พักผ่อนในร่ม ปูพื้นทรายล้าง กันลื่น เพื่อความปลอดภัย

มีการตกแต่งสวนโดยรอบ รวมถึงจัดชุดโต๊ะ เก้าอี้สนาม สำหรับนั่งพักผ่อนให้ครบชุด

ห้องน้ำหญิง ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องหินอ่อน สีขาว-แดง แบ่งเคาน์เตอร์ล้างมือ, ห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำแยกกันเป็นสัดส่วน ภายในห้องน้ำมีห้องสตรีมให้ค่ะ เปิดให้ใช้งานตั้งแต่ 6.00-22.00 น.

ห้องน้ำชายก็ตกแต่งในสไตล์เดียวกัน แยกส่วนโถสุขภัณฑ์, ห้องอาบน้ำ และ ห้องสตรีมเป็นสัดส่วน

โถงทางเดินสูงโปร่ง ติดไฟดาวน์ไลท์ให้แสงสว่างตลอดเส้นทาง ทุกห้องพักจะไม่มีห้องไหนหันประตูชนกัน ออกแบบให้ทุกห้องพัก อยู่อาศัยกันอย่างมีความเป็นส่วนตัว

ระบบรักษาความปลอดภัย ติดตั้ง Fire Alarm, ไฟฉุกเฉิน และ บันไดหนีไฟ มีป้ายบอกทางชัดเจน

พื้นที่ชั้นดาดฟ้า ตกแต่งสวนหย่อม + ม้าหินสำหรับนั่งพักผ่อน

วิวจากชั้นดาดฟ้า เห็นเส้นทางแนวรถไฟฟ้า และวิวเมืองสุดสายตา

:: ห้องตกแต่ง 3 สไตล์ ::

Collective Traveller

Posh Monotone

Neoretro Leisure

ห้องตัวอย่าง

ประตูห้องพักไม้เนื้อแข็ง หน้าบานลามิเนตสีอ่อน ความสูงบานประตู – เพดาน 2.4 เมตร มือจับประตูก้านโยก กลอนประตู Double Lock

เปิดประตูเข้ามาในห้อง ความสูงพื้น-เพดาน 2.4 เมตร ไฟภายในห้องดาวน์ไลท์ พื้นห้องวีเนียร์ หน้าไม้จริง ให้การสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับห้องนี้ ตกแต่งภายใต้ Concept “Corrective Traveler” ให้อารมณ์แบบนักเดินทาง เลือกใช้โทนสีเข้ม อย่างสีน้ำตาล ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้า ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ขวามือเป็นมุมครัว บิวท์อินชุดครัว Starmark พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า Smeg + ตู้เย็น Mitsubishi ให้ครบชุดค่ะ

เคาน์เตอร์ครัว L-Shape TOP ครัวหินสังเคราะห์สีขาว ผนังครัวกันเปื้อน ติดตั้งปลั๊กไฟ รองรับการใช้งานอย่างสะดวก

บริเวณใต้ตู้เก็บของ ฝังแผงฝังไฟ LED เพิ่มแสงสว่างเวลาทำอาหาร

หน้า TOP ครัว ฝังซิงค์สเตนเลสหลุมเดี่ยวก้นลึก ก็อกอ่างล้านจานแบบตั้ง ระบบเซรามิควาล์ว เปิด-ปิดง่าย หมุนซ้าย-ขวาได้ ล้างผัก-ผลไม้ รวมถึงล้างจานได้สะดวก

ติดตั้งเตาเซรามิค 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Smeg

ตู้เก็บของใต้ TOP ครัว แยกการใช้งานเป็นสัดส่วน มีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟ ลิ้นชักเก็บของ, ลิ้นชัก พร้อมถาดเก็บช้อน-ส้อม, ลิ้นชักสำหรับวางจาน และ ตู้เก็บของใต้ซิงค์ ติดตั้งถังขยะพร้อมฝาปิดให้เรียบร้อย

ตู้แขวนลอยสำหรับเก็บของด้านใน เป็นแบบบานเปิดทั้งหมด ด้านในแบ่งช่องสำหรับวางของให้ครบครัน เก็บของใช้ได้เยอะพอสมควร

มองย้อนกลับมาดูภาพรวมมุมครัว

มุมนี้วางโต๊ะทานอาหาร หน้าโต๊ะเป็นกระจก Tempered ให้พร้อมเก้าอี้หนังเทียม ดีไซน์เก๋ไม่เหมือนใคร

มองย้อนกลับมาดูภาพรวมโซนด้านหน้าของห้องพัก เพดานส่วนครัวอยู่ที่ 2.4 เมตร ต่ำกว่าเพดานส่วนห้องนั่งเล่น ภายในห้องพักติดตั้งแอร์ York แบบฝังฝ้า เพิ่มความหรูหรากับกับห้องพักมากยิ่งขึ้น

ถัดจากส่วนครัว และ มุมทานอาหารเข้ามา ตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่น เพดานส่วนนี้สูงถึง 2.75 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง บวกกับประตูระเบียงที่กว้างสุดผนัง และ สูงสุดเพดาน ยิ่งช่วยให้รับแสงธรรมชาติได้ดี เปิดถ่ายเทระบายอากาศได้อย่างเต็มที่

มุมนั่งเล่น วางโซฟาหนังเทียมสีน้ำตาลขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะกลางทรงกลมสีดำ ดีไซน์สวย ผนังด้านหลังตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีเข้ม สวยดุ ดูมีสไตล์

ผนังอีกฝั่ง บิวท์อิน Sideboard ไม้สีดำ มีลิ้นชักเก็บของตรงกลาง ได้พร้อม TV LED ของ Samsung นอกจากนั้น พื้นทีของ Sideboard ที่กว้างถึง 2 ม. สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้เต็มพื้นที่ หรือ จะเปลี่ยนเป็นทีวีแบบแขวนผนัง จัดเป็น Mini Theater Room ก็ได้เลย ตกแต่งเปลี่ยนแปลงได้ตาม Life Style ของผู้ใช้งาน

อย่างที่บอกไปค่ะ ว่าพื้นที่มุมนั่งเล่น ขนาดใหญ่ พักผ่อนได้อย่างแท้จริง โดยระยะห่างจากโซฟา – Sideboard อยู่ที่ 2.5 เมตร กว้าง เดินเข้า-ออกได้สะดวก การนั่งเล่นดูทีวี ก็อยู่ในระดับสายตาที่ดี พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ดูหนัง ดูทีวีได้สบายสายตา จะเพิ่มโต๊ะกลางขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการใช้งานเพิ่มขึ้น ก็สามารถทำได้ค่ะ

ประตูระเบียงกว้าง 2.5 เมตร ให้พร้อมผ้าม่านสีเข้ม พื้น-รางม่านสูงถึง 2.95 เมตร

ระเบียงแบบหน้ากว้าง | ความกว้างระเบียงอยู่ที่ 3 เมตร ปูพื้นกระเบื้องสีดำทำความสะอาดได้ง่าย กั้นราวระเบียงกันตกสีชา แข็งแรง ด้านในสุดแขวนคอนเพรสเซอร์แอร์ กั้นกริลระแนงระบายลมร้อนออกด้านนอกอาคาร รวมถึงช่วยปิดกั้นดูสวยงามด้วยค่ะ

สำหรับห้องตัวอย่างที่ทีมงานพามาชม ตั้งอยู่ที่ชั้น 21 | เป็นฝั่ง City View ลูกบ้านสามารถ Take View ได้เต็มสายตา รอบอาคารไม่มีตึกสูงบดบังวิว เปิดรับลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

ห้องนอนกั้นประตูไม้สีอ่อน ลูกบิดมาตรฐาน แยกการใช้งานเป็นสัดส่วน

ฟังก์ชั่นภายในห้องนอน แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนพักผ่อน สำหรับวางเตียงนอน, มุมทำงาน พร้อมระเบียงแบบส่วนตัว

ส่วนฝั่งขวามือ แบ่งเป็นห้องน้ำ และ Walk in Closet

เตียงนอน King Size บุหนังเทียมสีน้ำตาล ให้พร้อมโต๊ะเครื่องเตียง 1 คู่ ผนังด้านหลังตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีน้ำเงิน กลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องได้อย่างดี

ข้างเตียงพื้นที่ว่าง วางโต๊ะไม้สีดำ + เก้าอี้หนังเทียมสีน้ำตาล จัดเป็นมุมสำหรับนั่งทำงาน, นั่งอ่าน – เขียนหนังสือ

ปลายเตียงวางตู้วางทีวีสีไม้ ให้พร้อมทีวี LED ผนังต่อปลั๊กไฟ พร้อมเดินระบบเคเบิลทีวีให้เรียบร้อย

พื้นที่คงเหลือปลายเตียง กว้างพอสมควร เดินเข้า-ออก ได้อย่างสะดวก

ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับระเบียง ก็เช่นเดียวกัน เหลือพื้นที่ให้เดินเข้า-ออกได้สะดวก

ประตูระเบียงกว้าง ให้พร้อมผ้าม่านเช่นเดียวกัน ความสูงพื้น-รางผ้าม่าน 2.95 เมตรเท่ากับด้านนอกค่ะ

ระเบียงห้องแบบหน้ากว้างเหมือนกัน ปูพื้นกระเบื้องลายโมเสกสีดำ กั้นราวระเบียงอลูมิเนียมสีชา สูง 1.10 เมตร เพื่อความปลอดภัย

มองกลับเข้ามาภายในห้อง อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ และ Walk in Closet | ภายในห้องนอนติดแอร์ York แบบฝังฝ้าเช่นเดียวกันนะคะ

ห้องน้ำกั้นประตูไม้ ลูกบิดมาตรฐาน ยกพื้นต่างระดับเล็กน้อย

ห้องน้ำปูพื้นกระเบื้องแผ่นใหญ่สีเทา ผิวกระเบื้องแบบหยาบ กันความลื่นได้ดีกว่าผิวเรียบทั่วไป แยกส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำ ให้เป็นสัดส่วน

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler | แยกส่วนโถสุขภัณฑ์ และ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าตามตำแหน่งในภาพ ติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้าของ Panasonic ให้ครบค่ะ

อ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยม TOP หินสังเคราะห์ ทนน้ำ ทนความชื้นได้ดี สามารถวางอุปกรณ์ในห้องน้ำได้เต็มพื้นที่ ส่วนก็อกน้ำโครเมียม ฝังอ่าง แบบก้านโยก ใช้งานง่าย

ส่วนเคาน์เตอร์อ่างเป็นของ Mogen ด้านล่างเป็นตู้บานเปิด เก็บอุปกรณ์ในห้องน้ำได้ รวมถึงติดตั้งกระจกส่องหน้าบานสูงถึงเพดานให้ครบครัน

โถสุขภัณฑ์ รุ่นประหยัดน้ำ เสียงเงียบ ติดตั้งสายชำระโครเมียม + ที่ใส่กระดาษทิชชู่สแตนเลส

พื้นที่อาบน้ำอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ติดตั้งอ่างอาบน้ำแบบฝังสีขาว + ก็อกน้ำโครเมียมก้านโยก ขนาดของอ่าง สามารถนอนแช่ได้ TOP อ่างปูกระเบื้องผิวเรียบ สามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำได้เต็มพื้นที่

ฝักบัว Hand Shower สายอ่อน ติดราวปรับระดับสูง-ต่ำได้ มีที่วางสบู่ตรงกลาง ติดตั้งให้ครบ

ผนังห้องน้ำ ปลายอ่างอาบน้ำ ติดตั้งราวแขวนผ้าขนหนู

ภาพรวมภายในห้องน้ำค่ะ

:: บทสรุปโครงการ ::

♦ โนเบิล รีดี-อารีย์ คอนโดตกแต่งครบพร้อมเข้าอยู่ จากโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือ ซื้อเพื่อการ ลงทุน เนื่องจากทำเลโครงการติดแนวรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน 7 จากโครงการไปยังรถไฟฟ้า BTS อารีย์ เพียง 80 เมตร ถือว่าเป็นทำเลที่ดีมาก เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก รอบๆโครงการมีทั้งบ้านพักอาศัย ของคนเก่าแก่ รวมถึงยังเป็นย่านของสำนักงาน ชื่อดัง มีตั้งแต่สำนักงานขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ ทำให้ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ อยู่ในระดับที่ดีมาก ภายในซอยอารีย์ 1 จนถึงสถานี รถไฟฟ้า มีร้านค้า, ร้านอาคาร ขนาดเล็ก-ใหญ่ มีทั้งแผงลอย และที่ตั้งอยู่ในอาคารเป็นจำนวนมาก เรื่องอาหารการกินบอกได้เลยว่า หาทานกันได้สะดวกสุด ๆ นอกจากนั้นยังใกล้กับ La Villa Community Mall ที่ด้านในมีร้านค้า, ร้านอาหาร-ร้านขนมชื่อดัง เปิดให้บริการ รวมถึงมี Villa Market ที่เปิดให้บริการ ตลอด 24 ชม. อีกด้วยค่ะ

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถนนหน้าโครงการ ซอยอารีย์ ใช้การเดินรถแบบทางเดียว One Way ใช้ซอยพหลโยธิน 5 เป็นทางลัด เพื่อเชื่อมต่อสู่ถนนใหญ่พหลโยธิน ส่วนเส้นทางลัดอื่น ๆ สามารถใช้ซอยพหลโยธิน 5 เพื่อลัดออกไปยังเส้นพระราม 6 ซอย 30 โดยเส้นทางนี้ จะสามารถหลีกเลี่ยงการจราจรได้ดี รวมถึงเชื่อมต่อสู่ทางด่วนพิเศษศรีรัชได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนเส้นพหลโยธิน เดินทางไปถนนอื่น ๆ ได้หลายเส้นทาง อาทิ พหลโยธิน เชื่อมสู่วิภาวดี, พหลโยธิน เชื่อมสู่ถนนกำแพงเพชร หรือจะขึ้นทางด่วน เชื่อมไปยังรังสิต-ปทุมธานี ก็ได้อย่างรวดเร็ว หรือหากจะเข้าฝั่งสุขุมวิทตอนต้น ก็สามารถใช้เส้นทางปกติ วิ่งตามแรวรถไฟฟ้า โดยเส้นทางนี้ ก็จะสามารถเชื่อมไปยัง อนุสาวรีย์ฯ, สุขุมวิท, อโศก, พระราม 4 วิ่งตรงไปก็จะเชื่อมสู่สุขุมวิทตอนปลาย – สมุทรปราการได้เช่นเดียวกัน

♦ การเดินโดยรถสาธารณะ : เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ เพียง 80 เมตร จากหน้าโครงการ ถึงสถานี อารีย์ มีทางเดินเท้าให้เดินได้สะดวก นอกจากนั้นยังสามารถเดินลัดผ่านอาคารปิยวรรณ หรือ สหกรณ์พระนคร ได้ด้วย จาก BTS อารีย์ นั่งขึ้นไปเพียง 2 สถานีถึงหมอชิต นั่งลงมา 2 สถานี ถึงอนุสาวรีย์ชัย และ นั่งลงมา 3 สถานีถึงพญาไท ซึ่งสถานีนี้ ก็เป็นจุด Interchange เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Airportlink ได้อย่างสะดวก ใครเดินทางบ่อย ๆ ใช้เส้นทางนี้นั่งไปสุดสาย เชื่อมต่อสู่สนามบินสุวรรณภูมิได้แบบสะดวกสุดๆ นอกจากนั้นจาก BTS อารีย์ มา BTS สยาม เพียง 5 ป้าย ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที จะมีจุดเปลี่ยนเส้นทางไปยังเส้นรถไฟฟ้าสายสีลม เชื่อมสู่ราชดำริ, สีลม, ศาลาแดง ออกไปยังฝั่งธนฯ สุดเส้นทางที่สถานีบางหว้า นี่แหละ คือข้อดีของการมีคอนโดติดรถไฟฟ้าค่า

– นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว ยังมีการเดินทางสาธารณะให้เลือกอีกหลากหลาย มีป้ายรถเมล์อยู่ใต้สถานี BTS ระยะเดินก็ 80 เมตรเท่ากัน ส่วน Taxi ยืนเรียกได้ตั้งแต่ในซอยอารีย์ 1 หรือ จะเดินมาถนนใหญ่ก็ได้ รวมถึงมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เรียกได้จากหน้าโครงการเลย มีผ่านตลอดทั้งวัน ทั้งคืนค่ะ

♦ การออกแบบโครงการ-ห้องพัก และ วัสดุ : สำหรับโครงการ โนเบิล รีดี เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ เป็นคอนโด High Rise 23 ชั้น 1 อาคาร ตัวอาคารภายนอกสีแดงโดดเด่น มีห้องพักทั้งหมดเพียง 272 ยูนิต ถือว่าเป็นคอนโดสูงที่มีห้องพักน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียนบกับโครงการ High Rise อื่นๆ ห้องพักต่อชั้นอยู่ที่ 12 – 17 ห้อง บรรยากาศภายในโครงการเลยมีความเป็นส่วนตัวมาก เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยสวนด้านหน้า และ รอบๆอาคาร บรรยากาศโดยรอบโครงการ ไม่มีตึกสูงบดบังวิว เห็นวิวเมืองได้ชัดเจนทุกทิศทาง แม้จะเป็นห้องชั้นล่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน

♦  ห้องพัก โครงการนี้เน้นห้องพักขนาดใหญ่ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน มีห้องแบบ Studio ชั้นละ 2-3 ห้องเท่านั้นเอง โดยทางโครงการขายห้องพักให้แบบ Fully Furnished แบบ Full Option โดยมีการตกแต่งให้เลือกถึง 3 แบบ โดยห้องพักที่เราพาไปชมเป็นแบบ Correvtive Traveler อารมณ์ของห้องเป็นแบบนักเดินทาง ใช้โทนสีน้ำตาล ลูกค้าจะได้เฟอร์นิเจอร์นำเข้า ทั้งแบบบิวท์อิน และ ลอยตัว, เคาน์เตอร์ครัวจาก Modenform พร้อมเตาเซรามิค, เครื่องดูดควัน, ซิงค์ล้างจาน และ ตู้เย็น ภายในห้องนอน และ ห้องนั่งได้ มีทีวี LED ให้ครบ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler ติดตั้งผ้าม่าน และ แอร์ York แบบฝังฝ้า สวยงามค่าาา

♦ Facilities : ให้มาครบค่ะ มี Lobby ,Reception และ Mail Room ที่ชั้น 1 เข้า-ออกอาคารด้วย Key Card มีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว + ลิฟท์บริการ 1 ตัว ส่วน Facilities จะตั้งอยู่ที่ชั้น 5 และ ดาดฟ้า โดยชั้น 5 แบ่งเป็นห้องออกกำลังกาย เครื่องเล่นครบครัน มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ แบ่งสะเด็ก-สระผู้ใหญ่ให้ รอบสระลงต้นไม้ใหญ่ และ ต้นไม้ประดับเพิ่มความร่มรื่น ให้เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เปิดรับวิวแนวรถไฟฟ้า สวยดี นอกจากนั้นยังมีชุดเก้าอี้นอนพักผ่อนริมสระ จัดไว้ให้อีกด้วย

ส่วนชั้นดาดฟ้า เป็นสวนลอยฟ้า บิวท์อินม้าหินยาว สำหรับนั่งพักผ่อน ลงต้นไม้รอบอาคาร สามารถวิ่งออกกำลังกายได้เลยแหละ นอกจากสวนบนดาดฟ้าแล้ว ยังมีสวนที่ชั้น 1 ด้านหน้าโครงการ และ ด้านข้างโครงการ ติดกับสำนักงานขาย ที่จอดรถชั้น 1-4 + ด้านหน้าอาคาร คิดเป็น 55% หรือ ประมาณ 170 คัน ไม่รวมซ้อนคัน ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย แถมติดรถไฟฟ้าแบบนี้ ที่จอดรถจึงเพียงพอกับผู้พักอาศัยอย่างแน่นอน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย จะใช้เป็นระบบ Access Card Control ทั้งทางเข้า-ออกที่จอดรถ, อาคาร และ ลิฟท์โดยสาร มีเจ้าหน้าที่รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ปลอยภัยแน่นอนค่ะ

:: คะแนน ::

**การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้**

ราคาเริ่มต้น 139,000 บาท / ตร.ม.

โปรโมชั่น : เงื่อนไขข้อกำหนด
– คอนโดตกแต่งครบพร้อมอยู่ 3 สไตล์ ราคาเริ่มต้น 139,000 บาท / ตร.ม.*
– ผ่อน 0% นาน 3 เดือน (สำหรับค่าทำสัญญา)
– ส่วนลดพิเศษมูลค่า 50,000 บาท* มอบให้เฉพาะผู้ที่จองคอนโด โนเบิล รีดี และกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.noblehome.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-251-9955

WEBSITE  : http://www.noblehome.com/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.224 รีวิว คอนโด เอ สเปซ มี บางนา a space ME Bangna  ใกล้ IKEA ติดถนนวงแหวน-กาญจนา และ ใกล้ทางด่วนบางนา-ตราด เริ่ม 1.29 ล้านบาท

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมโครงการ a space ME Bangna  โครงการติดถนนใหญ่ บางนา-ตราด ใกล้ Mega บางนา แหล่งรวมไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดใหญ่ เดินทางสะดวกติดจุดขึ้น-ลงทางด่วนกาญจนาภิเษก เข้าเมืองได้ง่าย ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน บางนา-ตราด ลักษณะโครงการ เป็นคอนโด High Rise 26 ชั้น, 1 อาคาร, ห้องพัก 945 ยูนิต + ร้านค้า 15 ยูนิต มีบริการรถ Shuttle Bus รับส่ง – Mega บางนา จุดรวมระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในโครงการครบครัน อาทิ คลับเฮ้าส์ลอยฟ้า ที่มีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ กับพาโนรามาวิว, ฟิตเนส, สวนพักผ่อนกว่า 700 ตร.ม. พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. โปรโมชั่นพิเศษ อยู่ฟรี 1 ปี + ฟรีค่าโอนทุกรายการ + ฟรีเฟอร์นิเจอร์ SB Furniture ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนบางนา-ตราด ตำบลบางพลี อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

การเดินทาง

การเดินทาง เริ่มจาก ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ( ไปชลบุรี – รามอินทรา ) > ทางพิเศษบูรพาวิถี > ทางหลวงหมายเลข 9 ถนนกาญจนาภิเษก ( ไปถนนพระราม 2 ) > a space ME Bangna  *ใกล้ด่านเก็บเงินบางแก้ว และจุดกลับรถไป MEGA

การเดินทางเรามาจาก ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ที่มาจาก บางนา ตรงตามป้าย ไปชลบุรี เข้าสู่ทางพิเศษบูรพา > วนวงแหวนออก ตามป้าย ไปถ.พระราม 2 ค่ะ

ตามป้ายไป ถ.พระราม 2

ผ่าน ด่านเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษ ไป ถ.พระราม 2

พอวนวงแหวนมาแล้ว เราจะเห็นตัวโครงการ a space ME Bangna อยู่ข้างหน้า ให้ชิดซ้าย สังเกตป้าย ด่านจ่ายบัตรค่าผ่านทางฯ 500 ม. รถบรรทุกชิดซ้ายเข้าด่านชั่ง

ทางออกจะอยู่ติดกับ ด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุก เลยค่ะ

พอออกทางพิเศษฯ มาแล้ว ทางจะบังคับให้เลี้ยวขวา ห้ามเลี้ยวซ้าย > พอเราเลี้ยวขวามาแล้ว ตรงไปอีก 400 ม. ถึงโครงการ a space ME Bangna

ใกล้ถึงแล้วค่ะ

ถึงหน้าโครงการ a space ME Bangna แล้วค่ะ ตัวโครงการจะติดกับ จุดกลับรถที่สามารถเข้า IKEA กับ MEGA ได้ด้วย และยังเป็นขาออก ไปบางนา ได้ด้วยค่ะ

บริเวณโดยรอบโครงการ

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

ภาพมุมสูง

สถานที่สำคัญ
– ติดทางหลวงพิเศษหมายเลข 9
– ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี
– MEGA บางนา
– IKEA บางนา
– เทสโก้ โลตัส บางนา
– บุณถาวร
– โรงพยาบาลปิยะมินทร์
– โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน
– โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
– มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 วิทยาเขต บางนา

FLOOR PLAN

Master Plan : โครงการติดถนนใหญ่ (ถนนบางนา-ตราด) ลักษณะที่ดินโครงการ เป็นแบบแนวลึกเข้าไป ตัวอาคารรูปตัว I หันทิศเหนือ – ทิศใต้ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ไม่มีอาคารสูงบดบังวิว พื้นที่ชั้นล่าง แบ่งเป็นร้านค้า 15 ยูนิต ที่เคาะมาแล้วก็จะมี 7-11 (3 ยูนิต) ส่วนร้านอื่น ๆ ก็จะเป็นร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, ร้านซัก อบ รีด ฯ พอเข้ามาในอาคาร มี Lobby ขนาดใหญ่ แบ่งเป็น ห้องนิติบุคคล, ห้องประชุม, ห้องน้ำ โถงลิฟท์โดยสาร จะอยู่ระหว่างกลาง มีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว

ที่จอดรถทั้งหมด อยู่ที่ชั้น 2 – ชั้น 4 คิดเป็น 40% ในช่องจอด ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน

5th Floor Plan : ห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 5 : ชั้นนี้พิเศษ ตรงที่มี Pocket Garden อยู่ด้านหลังอาคาร สามารถออกไปเดินเล่น รับลม ชมวิวได้ค่ะ

6 th – 25 th Floor Plan : หน้าตาแปลนจะเหมือนกันทั้งหมดค่ะ ห้องพักหันเหนือ – ใต้ อัตราห้องพักต่อชั้นอยู่ที่ 45 ห้อง โดยห้องพักส่วนใหญ่ของโครงการ เป็นขนาด 25 ตร.ม. ส่วนห้องขนาด 32 ตร.ม. จะมีชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ตำแหน่งอยู่ติดกับลิฟท์ทางซ้าย และ ขวา (สีน้ำตาลในภาพ) ค่ะ

Facilities อยู่ที่ชั้น 26 : เป็นชั้นบนสุดของโครงการ แบ่งเป็นสระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส + สวนลอยฟ้า บนนี้ได้วิวดีมาก ลมพัดเย็นสบาย ทั้งช่วงเช้า และ ช่วงเย็นค่ะ

:: บริเวณโครงการ – Facilities ::

a space ME Bangna | คอนโดสไตล์รีสอร์ท ติดถนนบางนา-ตราด

ตัวอาคาร a space ME Bangna เป็นคอนโด High Rise สูง 26 ชั้น ห้องพัก 945 ยูนิต

ถนนโครงการกว้าง ขับรถยนต์เข้า-ออกได้สะดวก และเป็นทางเข้า-ออก ที่ใช้ร่วมกันกับหมู่บ้าน The Colors Premium โครงการของ อารียา เหมือนกันค่ะ ตัวหมู่บ้าน The Colors Premium จะตั้งอยู่ด้านในสุดของที่ดินผืนนี้เลย

ชั้น 1 ของอาคาร เป็นร้านค้า มีทั้งหมด 15 ยูนิต

สวนพักผ่อน ตั้งอยู่ติดกับทางเข้า-ออกโครงการ จัดซุ้มสำหรับนั่งเล่น + ม้าหินกระจายเป็นจุด สำหรับนั่งพักผ่อนค่ะ

ทางเข้า-ออก อาคารจอดรถ ระบบ Access Card Control – กั้นไม้กระดกอัตโนมัติ ด้านหน้ามีป้อมรปภ. ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

ร้านค้าที่รู้มาแน่นอนแล้วคือ 7-11 ขนาดใหญ่ ถึง 3 ยูนิต ตั้งอยู่ติดกับ Sales Gallery และ ก็ใกล้กับทางเข้า-ออกอาคารด้วยค่ะ

Sales Gallery ตกแต่งสไตล์ Tropical ตามสไตล์ของอารียา บรรยาดูธรรมชาติดี

สำหรับโครงการนี้ มี Shuttle Bus คอยบริการรับ-ส่ง ลูกบ้านไปยัง Mega บางนา ด้วยค่ะ ซึ่งจุดนั้นจะมีทั้งรถเมล์, รถโดยสารประจำทาง และ รถตู้ให้บริการ

บรรยากาศภายใน Lobby ตกแต่งสไตล์ Tropical ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในรีสอร์ท  เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลายไม้มาประดับ ดูน่าพักผ่อน

มุมนั่งเล่น :  จัดโซฟา – โต๊ะรับแขก สำหรับนั่งพักผ่อนครบชุด

ห้องประชุมขนาดกลาง ๆ รองรับลูกบ้าน ที่ต้องการจัดประชุมเล็ก ๆ เด็กที่นัดเพื่อนมาทำการบ้าน หรือ จะมานั่งอ่านหนังสือชิว ๆ ก็ได้ค่ะ

โครงการนี้ ได้ Lobby ขนาดใหญ่ทีเดียว ด้านหน้าเรายังมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นอีกจุด

ห้องนิติบุคคล

ทางเข้า-ออก อาคารพักอาศัย ต้องใช้ Key Card  เดินเข้ามาเจอกับโถงลิฟท์ ตกแต่งโมเดิร์น มีการซ่อนไฟให้ดูหรูหรา | โครงการนี้มีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว

แบ่งลิฟท์ซ้าย-ขวา ฝั่งละ 3 ตัว

ที่จอดรถยนต์ เริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – ชั้น 4 | สามารถขึ้น-ลง จากลิฟท์ชุดเดียวกันได้เลย โดยพื้นที่จอดรถของโครงการนี้ คิดเป็น 40%

ขึ้นมาชั้นพักอาศัย ทางเข้า-ออกทุกชั้น จะกั้นประตูกระจกอีกขั้น เพื่อความปลอดภัย

โครงการนี้ ไม่ได้มี Mail Box รวมกันที่ชั้นล่างค่ะ แต่ถูกจัดไว้ตรงทางเข้าชั้นพักอาศัย แบ่งซ้าย-ขวา ครบทุกยูนิต

โถงทางเดิน ปูพื้นกระเบื้องสลับสี ดูมีมิติมาหน่อย ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ และ ระบบป้องกันอัคคีภัยยาวตลอดทางเดิน (ตอนนี้อาจดูเลอะหน่อยนะ อยู่ในช่วงเก็บงานค่ะ)

ขึ้นมาดู Facilities ที่ชั้น 26 : แบ่งสิ่งอำนวยความสะดวก แยกซ้าย-ขวา ซึ่งสามารถเดินเชื่อมต่อถึงกันได้สะดวก

เดินขึ้นบันไดมาปุ๊ป | ตรงกลางจะมีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ จัด Stool สำหรับนั่งเล่น นั่งรอ ให้ที่ส่วนนี้ด้วย

ตรงข้ามกับล็อกเกอร์ เป็นห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำ แยกชาย-หญิง เป็นสัดส่วน

พามาดูสวนลอยฟ้า และ ฟิตเนสกันก่อน

พื้นที่สวนตกแต่งธรรมชาติดี มีการจัดมุม วางชุดเก้าอี้ สำหรับนั่งพักผ่อน ตามจุดต่าง ๆ ออกไปยืนดูวิวได้เต็มตา โดยรอบไม่มีอาคารสูงบัง

ห้องฟิตเนส Panoramic View ที่ความสูงถึง 70 เมตร

บรรยากาศในห้องออกกำลังกาย สามารถ Take View เมืองก็ได้ หรือ จะ Take View สวนลอยฟ้าก็ได้เหมือนกัน

ให้เห็นภาพกันชัดๆค่ะ โครงการกั้นกระจกบานสูง ด้านนอกตกแต่ง Pocket Garden เล็ก ๆ กั้นด้วยกระจก Tempered อีกที เพื่อความปลอดภัย เปิดรับวิวสวย ๆ ได้เต็มตา

วิวด้านนอก เห็น IKEA และ ทางด่วน แถมไม่มีตึกสูงบัง เลยได้เห็นธรรมชาติ พื้นที่สีเขียวเต็มตา สวยมากๆ

กลับมาดูที่เครื่องออกกำลังกาย จัดมาให้ครบเช็ท มีทั้งเครื่องนั่งปั่น 2-3 ตัว, เครื่องปั่นวงรี รวมถึงลู่วิ่งออกกำลังกาย 2 เครื่อง

อีกฝั่ง จัดเป็นมุมบริหารกล้ามเนื้อ จัดเครื่องบริหารร่างกายเซ็ทใหญ่ ครบชุด รวมถึงดัมเบลนี่ ก็ให้มาครบทุกขนาด

มีมุมสำหรับนั่งพักด้วยค่ะ

พื้นที่สวนลอยฟ้า ปูหญ้าสนามเขียวสดชื่น มีการลงต้นไม้ใหญ่เป็นจุด ๆ รวมถึงมีศาลา พร้อมเก้าอี้แขวนเก๋ ๆ สำหรับนั่งเล่น ยิ่งช่วงเย็น ๆ – ค่ำ ๆ เนี่ย บรรยากาศและลมเย็นดีมากค่ะ จะพาเด็กๆ ขึ้นมาวิ่งออกกำลังกายก็ได้นะคะ

เดินเชื่อมมาอีกฝั่ง เป็นสระว่ายน้ำ พร้อม Wood Deck + ศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน

สระว่ายน้ำลอยฟ้าขนาดใหญ่แบบ Infinity Edge Pool ระบบเกลือขนาด 38×5.6 เมตร แบ่งสระเด็ก สระผู้ใหญ่ให้ด้วยนะ

แอบมี Jucuzzi ริมสระเบา ๆ นั่งริมสระผ่อนคลายดี

มองจากอีกฝั่งนึงค่ะ  ตรงกลางสระ โครงการลงต้นไม้พุ่ม เพิ่มความร่มรื่น กั้นราวกระจกนิรภัยเพื่อความปลอดภัยอีกชั้น มองออกไปเห็นวิวด้านนอกเต็มตา

จัดซุ้มพร้อมชุดโต๊ะ-เก้าอี้พักผ่อน ไว้เป็นจุดๆ รองรับคนได้เยอะค่ะ

ให้ดูวิวกันหน่อย เนื่องจากไม่มีตึกสูงบัง เราเลยได้วิวด้านนอกแบบเต็มตา ไม่มีอะไรบดบังเลย

พื้นที่แปลงข้าง ๆ คอนโด >> ยังเหลือพื้นที่สีเขียวอยู่เยอะเลย ลูกบ้านแอบโชคดี เหมือนมีธรรมชาติล้อมรอบ

มองไปทางซ้ายบ้าง เห็นเป็นพื้นที่ของโครงการ The Colors Premium ด้วยนะนั่น

MOCK UP UNIT

สำหรับห้องตัวอย่าง ที่จะพาไปชมกันในวันนี้ มีทั้งหมด 1 แบบค่ะ คือ แบบ You Space 1 ห้องนอน ขนาด 25.00 ตร.ม. โดยแบบนี้ จะเป็นห้องพักหลักๆของโครงการ ปัจจุบันโครงการจัดโปรโมชั่นอยู่ฟรี 1 ปี + ฟรีโอนทุกรายการ และ เฟอร์นิเจอร์จาก SB Furniture ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาทค่ะ

แปลนห้อง You Space : 1 ห้องนอน ขนาด 25.00 ตร.ม. | เข้ามาส่วนแรก…เป็น Pantry ครัว และ ห้องน้ำ ถัดเข้ามาด้านใน เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน และด้านในสุด คือ ห้องนอน – ระเบียง ถูกกั้นด้วยกระจกบานสไลด์ แยกเป็นสัดส่วน

ประตูห้อง UPVC สีขาว + Eagle eye มือจับประตูสแตนเลส ก้านโยก ฝังล็อก

เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง : ความสูงพื้น-เพดาน 2.6 เมตร ขวามือเป็นมุมครัว ซ้ายมือ (หลังประตูห้อง) เป็นห้องน้ำ

มุมครัว : โครงการบิวท์อิน Pantry ครบชุด วัสดุ TOP และ บานตู้ Particle Board เคลือบเมลามีน ด้านข้าง Pantry เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น มีปลั๊กติดตั้งให้พร้อมใช้งาน

Pantry ครัวขนาดกำลังดี ผนังครัวกรุกระเบื้องตกแต่ง | หน้า TOP มีพื้นที่ว่าง สำหรับวางเตาไฟฟ้า – เครื่องปรุงได้พอดิบพอดี

ฝังซิงค์ล้างจานหลุมเดี่ยว – ก็อกน้ำทรงสูง ล้างผักผลไม้ – ล้างจานได้สะดวกดี

ตู้เก็บของด้านบน บานเปิด แบ่งช่องสำหรับวางถ้วย, จาน, ชาม ได้เป็นระเบียบ

ส่วนด้านล่าง Pantry แบ่งเป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจาน จะเก็บอุปกรณ์ของใช้ หรือ วางถังขยะซ่อนด้านในก็พอดี | อีกช่องเว้นไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า โครงการเดินระบบท่อน้ำดี และ ท่อน้ำทิ้งให้เรียบร้อย ลูกบ้านซื้อเครื่องซักผ้ามาต่อ ก็สามารถใช้งานได้เลยค่ะ

พื้นส่วนครัว-ห้องน้ำ เป็นพื้นที่ ๆ ถูกใช้งานหนัก โครงการเลือกปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ ทำความสะอาดได้ง่าย และการที่เลือกใช้สีเข้ม ยังช่วยให้ดูไม่สกปรก แถมทนต่อน้ำ กว่าพื้นไม้ลามิเนตอีกด้วย

ตรงข้ามกับมุมครัว เป็นห้องน้ำ สำหรับห้องนี้ตกแต่งด้วยประตู หน้าบานกระจก ให้กลมกลืนกับผนังห้อง แถมยังช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้ดูกว้างขึ้นอีกนิด

เปิดประตูออกให้ดูทั้งสองฝั่ง | ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ส่วนทางขวามือ โครงการบิวท์อินเป็นชั้นเก็บของให้ค่ะ จะเอาไว้วางรองเท้า หรือ ของตกแต่งก็ได้ตามใจชอบ

ภาพรวมภายในห้องน้ำ | เลือกใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ปูพื้น-ผนัง กระเบื้องเซรามิค

แยกส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำให้นะคะ | แม้จะไม่มีฉากกั้น แต่ก็ลดพื้นต่างระดับ กันน้ำออกมาให้ด้วย

ภาพรวมส่วนแห้ง | ตำแหน่งของสุขภัณฑ์วางตามภาพ

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า Parazzo ทรงสี่เหลี่ยม | มีพื้นที่ด้านข้าง และ ด้านล่างเคาน์เตอร์ ให้วางอุปกรณ์ในห้องน้ำ ติดตั้งก็อกทรงสูง ใช้งานได้สะดวก รวมถึงติดกระจกส่องหน้าบานสูง ให้ครบเช็ท

โถสุขภัณฑ์วางเข้ามุมแบบนี้ ใช้เป็นโถแบบ 2 ชิ้น ติดสายชำระ และ ที่ใส่กระดาษทิชชู่แขวนผนังให้ครบ

ส่วนอาบน้ำ ปล่อยโล่งแบบนี้ หากต้องการความมิดชิด หรือ กันน้ำกระเด็นมายังส่วนแห้ง แนะนำให้ติดราว+ผ้าม่านกันน้ำเพิ่มเติมเข้าไปค่ะ

ติดตั้งฝักบัว Hand Shower + ก็อกน้ำก้านโยก พร้อมที่วางสบู่ ที่ผนังด้านบน โครงการต่อระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว

พื้นที่อาบน้ำ ขนาดพอใช้ได้เลย มีการเพิ่มมิติ ด้วยกระเบื้องลายไม้ ปูตั้งแต่พื้น – ผนัง ช่วยให้ห้องน้ำดูไม่เรียบจนเกินไป

มองย้อนกลับมาดูภาพรวมส่วนแรกของห้อง

ถัดเข้ามาเป็นส่วนนั่งเล่น | ปูพื้นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม.

Layer ของห้อง มีมุมลึกลงไป ทำให้วางโซฟา Love Seat ขนาด 2 ที่นั่งได้พอดี

ตรงข้ามบิวท์อิน Sideboard เข้ามุมห้องพอดีเป๊ะ เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ด้วยการแขวนทีวีติดผนัง ส่วนด้านบนเป็นชั้นวางของ จะเก็บพวกหนังสือ หรือ วางของตกแต่งก็เก๋ไปอีกแบบ

ด้วยพื้นที่ทั้ง 2 ด้าน ที่มูฟลงไปสุดผนัง ทำให้มีระยะห่างจากโซฟา – ทีวี กว้างถึง 2.2 เมตร วางโต๊ะรับแขกเสริมแบบในภาพ ได้สบาย ๆ ทั้งยังเดินเข้า-ออกห้องได้สะดวก

มาถึงส่วนห้องนอน ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไตล์ 3 ตอน ปรับฟังก์ชั่นได้หลากหลาย จะปิดเมื่อต้องการพักผ่อน ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือ เปิดเพื่อเชื่อมพื้นที่กับส่วนนั่งเล่นก็ได้ค่ะ

เปิดประตูให้ดู :: นี่คือข้อดีของประตูบานสไลด์ 3 ตอน เปิดได้จนสุด เชื่อมพื้นที่เข้าหากันได้เต็มที่

ภายในห้องนอน ถูกออกแบบมาให้สามารถวางเตียงนอน ขนาด 5 ฟุตได้

ระยะห่างข้างเตียง ยังพอเดินได้สะดวกอยู่

ปลายเตียง > บิวท์อินตู้เสื้อผ้าให้พอดีผนัง ส่วนซ้ายมือ เป็นประตูระเบียงค่ะ

ตู้เสื้อผ้าได้แบบนี้เลยค่ะ กว้าง 1.6 เมตร เป็นตู้เสื้อผ้าแบบหน้าบานกระจกเลื่อน ภายในมีตู้เก็บของให้อีก 2 ชั้น สามารถเก็บเสื้อผ้า – เก็บของได้เยอะพอสมควร ส่วนด้านบนตู้ เว้นพื้นที่ว่าง สามารถวางของไว้ด้านบนได้อีกเล็กน้อยค่ะ

หน้าต่างภายในห้องนอน กว้างประมาณ 1 เมตร เปิดรับแสงธรรมชาติ หรือ ลมธรรมชาติได้ดี รวมถึงยังเปิดถ่ายเทอากาศภายในห้องก็ได้เช่นเดียวกัน ด้านบนหน้าต่างติดแอร์ Wall Type ให้ 1 เครื่อง

ประตูระเบียง UPVC ลูกบิดมาตรฐาน เปิดออกปุ๊ป เป็นพื้นที่ระเบียงขนาดกะทัดรัด ปูพื้นกระเบื้องให้เรียบร้อย กั้นกริลอลูมิเนียมกันตก ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ แขวนอยู่ที่ด้านบน ปล่อยลมร้อนออกนอกอาคาร พื้นที่ส่วนนี้ เหมาะสำหรับวางราวตากผ้า หรือ จะตกแต่งให้ชุ่มชื่น ด้วยต้นไม้กระถางก็ได้ แล้วแต่ชอบ แล้วแต่การใช้งานเลยค่ะ

บทสรุปโครงการ ::

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : เอ สเปซ มี บางนา ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ บางนา-ตราด เชื่อมถนนกาญจาภิเษกได้สะดวก โครงการอยู่ตรงข้ามกับ Mega บางนา แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนชื่อดัง มีครบทุกสิ่งอย่าง ทั้งห้างสรรพสินค้า, IKEA แหล่งซื้อของตกแต่งบ้านเก๋ๆ, โรงหนัง รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังอีกมากมาย ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 3-1-17.1 ไร่ การวางอาคารเป็นูปตัว I ที่ดินลึกลงไป บริเวณโดยรอบโครงการ เงียบสงบ โครงการติดถนนบางนา-ตราด ใกล้จุดกลับรถ ส่วนรอบ ๆ อาคาร เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และ ที่ดินเปล่า ที่มีแต่ต้นไม้ มองจากดาดฟ้าโครงการลงมา บรรยากาศร่มรื่นมาก เหมือนได้อยู่คอนโดกลางสวนประมาณนั้น ด้านหลังโครงการ ก็จะเป็นหมู่บ้าน The Colors Premium By Areeya เรื่องเสียงดังรบกวน จากหมู่บ้าน หรือ บริเวณโดยรอบ ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ

– เรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ที่สะดวกมาก ๆ คือ ภายในโครงการยกร้านค้ามาไว้ที่ชั้น 1 ถึง 15 ยูนิต ที่เห็นแน่ ๆ แล้วก็จะมี 7-11 (3 ยูนิต) ตัวร้านตั้งอยู่ติดกับ Sales Gallery ซึ่งก็ไม่ได้ห่างจากทางเข้า-ออกอาคารเลย ส่วนร้านอื่น ๆ ก็จะเป็นพวก ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, ร้านซัก อบ รีด ฯ ถือว่าโครงการจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ออกมาได้ดีทีเดียว

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถือว่าสะดวกในระดับที่ดีค่ะ ข้อดีของโครงการนี้ คืออยู่ติดกับทางด่วน บางนา ขับรถออกมาด้านหน้าโครงการ ออกไปไม่กี่เมตร ก็ขึ้นทางด่วน เข้าเมืองได้เลย ผ่านทั้งเส้นสุขุมวิท จนถึงเส้นสาทร สีลม ใครทำงานในเมืองก็ถือว่าสะดวก นอกจากนั้น จะใช้เส้นวงแหวนกาญจนาภิเษก หรือ เส้นบางนา-ตราด ก็สะดวกเช่นเดียวกัน ออกจากโครงการมา เลี้ยวซ้ายถึงจุดกลับรถ ข้ามไปฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น Mega บางนา เข้าเมือง หรือ ออกนอกเมือง โดยไม่ใช้ทางด่วน เส้นนี้ก็สะดวกเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเส้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ยังสามารถไปสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ง่ายมาก จากโครงการถึงสนามบินเพียง 15 นาที เองค่ะ ใครที่ต้องเดินทางไปทำงาน – หรือใช้ขนส่งทางนี้บ่อย ใช้เป็นประจำ เรียกได้ว่าสะดวกมาก ๆ เลย

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ทางโครงการมีบริการ Shuttle Bus รับ-ส่ง ไปยังหน้า Mega บางนา ซึ่งลูกบ้านสามารถต่อรถโดยสาร ได้จากจุดนี้ มีรถเมล์ รถโดยสารประจำทาง ให้เลือกหลายสาย นั่งเข้าเมืองกันได้ชิว ๆ รวมถึงมีบริการรถตู้ จะขึ้นจากหน้า Mega เลยก็ได้ หรือจะขึ้นที่คิวรถตู้ด้านหลัง บิ๊กซี Mega บางนา ก็ยิ่งสะดวก เพราะรถตู้จะออกเป็นเวลา เริ่มต้นแต่ 8.00 – 23.00 น. และมีผ่านหลายเส้นทาง อาทิ Mega บางนา-เดอะมอลล์ บางกะปิ, Mega บางนา–หมอชิต, Mega บางนา-ฟิวเจอร์พาร์ค-รังสิต, Mega บางนา สุวรรณภูมิ, Mega บางนา-อนุสาวรีย์ชัย, Mega บางนา-เดอะมอลล์ บางแค และ Mega บางนา ไป ม.หัวเฉียว – Abac บางนา

♦ การออกแบบโครงการและวัสดุ : เอ สเปซ มี บางนา เป็นคอนโด High Rise 26 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 3-1-17.1ไร่ อาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์น ภายนอกใช้โทนสีเทาอ่อน ฟาสาดอาคารใช้สีเทาเข้ม เล่นลายด้วยขอบหน้าต่างสีเขียวเลมอน บริเวณชั้น 2-4 ที่เป็นพื้นที่จอดรถ ภายนอกมีการตกแต่งด้วนหญ้าเทียม ทำให้ดูโมเดิร์น แฝงด้วยอารมณ์รีสอร์ท ตามคอนเซ็ปต์ของโครงการนี้เลยค่ะ ส่วนฟังก์ชั่นของห้องพัก 90% เป็นห้องพักแบบ 1 ห้องนอน 25.00 ตร.ม. ส่วนอีก 10% เป็นห้องพักแบบ 1 ห้องนอน 32.00 ตร.ม. โดยห้องพักแบบ 32.00 ตร.ม. จะมีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ฟังก์ชั่นของห้อง ก็เหมือนกัน ออกแบบมาได้ค่อนข้างดี มีการกั้นประตูกระจกบานสไลด์ แยกส่วนระหว่างมุมนั่งเล่น และ ห้องนอน เพิ่มหน้าต่างบานใหญ่ข้างเตียง ยิ่งช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด

– สำหรับห้องพักที่ทางโครงการขายให้ ณ.วันที่เข้าไปรีวิว (17 ก.ย. 58) มีโปรโมชั่นพิเศษ อยู่ฟรี 1 ปี + ฟรีโอนทุกรายการ + ฟรีเฟอร์จาก SB Furniture
โดยจะมีแบบเฟอร์นิเจอร์ให้เลือกถึง 3 แบบ ง่ายๆคือได้เฟอร์ครบทั้งห้อง มีทั้งชุดครัว, โซฟา, ชั้นวางทีวี, เตียง, ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน, แอร์ Wall Type สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ Amercan Standard ค่ะ *โปรโมชั่นนี้ คงเอาใจใครหลายคน ที่ต้องการห้องแบบ ถือเข้ากระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย*

♦ Facilities : ถือว่าเหนือกว่าโครงการอื่น ๆ มี Lobby แบบ Double Volume + ห้องประชุม นอกจากนั้นมีการยก Facilities ทั้งหมด มาไว้ที่ดาดฟ้า ชั้น 26 แถมยังแบ่งแยกให้เป็น 2 ฝั่ง ซึ่งยังสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้สะดวก แยกเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ขนาด 38×5.6 เมตรลึก 1.2 เมตร พร้อมระบบน้ำเกลือ แบ่งสระเด็กไว้ให้อีกส่วน สระยาวขนาดนี้ ว่ายออกกำลังกายได้สบาย ๆ แถมยังได้วิวบรรยากาศโดยรอบเต็มตาแบบพาโนรามาวิว ไม่มีตึกสูงมาบดบัง รอบสระแบ่งเป็น Wood Deck + ซุ้มไม้ พร้อมชุดเก้าอี้พักผ่อน ลูกบ้านไม่ว่ายน้ำ ก็สามารถขึ้นมานั่งเล่น ชมวิว ที่ส่วนนี้ได้ หรือ หากต้องการพื้นที่สีเขียวเต็ม ๆ หน่อย ก็เดินเชื่อมไปฝั่งสวน ขนาดกำลังดี ลงต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้พุ่ม ปูหญ้าสนาม จัดมุมเก้าอี้พักผ่อนให้เหมือนกัน จะพาเด็ก ๆ ขึ้นมาวิ่งเล่น ออกกำลังกายก็ปลอดภัย รวมถึงห้องฟิตเนส เปิดรับวิวรอบด้าน เครื่องเล่นจัดมาให้ครบ

– ที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 2-4 เข้า-ออกอาคารด้วย Access Card Control ที่จอดรถคิดเป็น 40% ในช่องจอด ไม่รวมซ้อนคัน ลิฟท์โดยสาร 6 ตัว รวมลิฟท์บริการ ระบบรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกอาคารพักอาศัยด้วย Key Card มีระบบป้องกันอัคคีภัยครบทั้งภายในห้องพัก และ ทางเดิน มีเจ้าหน้าที่รปภ. ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ค่ะ

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1797 กด 14

Website : http://www.aspace.co.th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.225 รีวิว คอนโด แชปเตอร์วัน เดอะ แคมปัส เกษตร CHAPTER ONE THE CAMPUS

สวัสดีครับวันนี้ผมมีรีวิวคอนโคสร้างเสร็จพร้อมอยู่มาฝากกับโครงการ Chapter One The Campus เกษตร จากพฤกษา เป็นหมู่ตึก Low Rise 8 ชั้น จำนวน 7 อาคารพร้อมส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชั่น อยู่ติดถนนพหลโยธินห่างจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพียง 150 ม. อนาคตจะใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยาย หมอชิต-คูคต ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

แผนที่จากโครงการ

การเดินทาง

Chapter One The Campus ตั้งอยู่ติดกับถนนพหลโยธินขาออกก่อนถึง ม.เกษตร การเดินทางจึงทำได้สะดวกเพราะอยู่ติดถนนใหญ่ ถ้าจะเข้าเมืองออกมาหน้าโครงการเลี้ยวซ้าย เข้าถนนงามวงศ์วานออกวิภาวดีก็ตรงอยางเดียวครับ มีทางด่วนโทลเวย์ให้ขึ้นด้วย แต่ถ้าจะใช้เส้นพหลโยธินไปจตุจักรต้องไปกลับรถซึ่งค่อนข้างห่างจากโครงการพอสมควรมีสามที่คือ ตรงเส้นงามวงศ์วานบริเวณจุดตัดกับวิภาวดี, ตรงเส้นพหลโยธินบริเวณหน้ากรมป่าไม้, และตรงถนนประเสริฐมนูกิจ ซึ่งระยะทางทั้ง 3 จุดพอๆกันครับ ถ้าจะออกนอกเมืองก็ใช้เส้นพหลโยธินผ่านเกษตรไปสะพานใหม่ รังสิต ลำลูกกาได้ หรือใช้เส้นวิภาดีก็ไปรังสิต เส้นงามวงศ์วานไปปากเกร็ด นนทบุรี เส้นประเสริฐมนูกิจไปรามอินทรา มีนบุรี มีทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์อยู่

การเดินทางมาโครงการถ้ามาจากห้าแยกลาดพร้าวถึงโครงการก็เลี้ยวซ้ายเข้าได้เลย แต่ถ้ามาจากฝั่งเกษตรต้องไปกลับรถหน้ากรมพัฒนาที่ดินครับแล้วก็ชิดซ้ายเข้าโครงการได้ปกติ

การเดินทางวันนี้เริ่มตรงห้าแยกลาดพร้าวมุ่งหน้าไปเกษตร ผ่านแยกรัชโยธิน ผ่านแยกเสนานิคม พอถึงกรมพัฒนาที่ดินก็ชิดซ้ายได้เลย โครงการจะถึงก่อนแยกเกษตรครับ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ หน้าโครงการมีรถเมล์ รถตู้วิ่งผ่านหลายสาย ไปสะพานใหม่ รังสิต งามวงศ์วาน โดยป้ายรถเมล์ห่างจากโครงการประมาณ 20 ม. หรือจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นสะพานลอยหน้าโครงการข้ามไปอีกฝั่งก็มีป้ายรถเมล์ครับ มีวินมอเตอร์ไซค์ และ Taxi วิ่งผ่านไปมาตลอดขึ้นที่หน้าโครงการได้เลย นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต ซึ่งตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ สถานีที่ใกล้โครงการสุดคือสถานีเสนานิคมจะอยู่ใกล้ๆแยกเสนานิคมครับ แต่คงต้องรออีกหลายปีเลย ตอนนี้ถ้าอยากใช้ต้องไปจตุจักรครับมีทั้ง BTS และ MRT ให้เลือก หรือมาขึ้น MRT ตรงห้าแยกลาดพร้าวก็ได้ครับท่ีสถานีพหลโยธิน

เริ่มตรงห้าแยกลาดพร้าว มีห้างสรรพสินค้ายอดฮิตย่านนี้เลย เราจะมุ่งหน้าไปเกษตรกันครับ

จากนั้นจะเจอ Lotus ขวามือ

จากนั้นจะเจอตึกช้าง

ตามป้ายเกษตรไปครับ

ผ่านแยกรัชโยธินมาจะเจอ เมเจอร์รัชโยธินซ้ายมือ

ตอนนี้เส้นพหลโยธินตรงสะพานข้ามแยกเกษตรปิดเพื่อสร้าง BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต-คูคต การจราจรจะค่อนข้างติดขัดเกือบทั้งวันครับ

ถนนสี่เลนเบี่ยงเหลือสองเลนครับ ขวามือคือสะพานข้ามแยกเกษตรที่ปิดให้บริการแล้ว

จากนั้นจะเจอแยกเสนานิคม เลี้ยวขวาไปซอยเสนานิคม 1 แต่เราตรงไปนะครับ

ตรงไปต่อครับ สังเกตซ้ายมือจะมีป้ายโครงการตามทางเป็นระยะ

จากนั้นจะเจอกรมพัฒนาที่ดินซ้ายมือ ซึ่งอยู่ตรงกับจุดกลับรถ ถ้ามาจากฝั่งเกษตรต้องมากลับรถตรงนี้ครับเพื่อไปโครงการ

ป้ายโครงการจะมีลูกศรบอกครับ

จากนั้นจะเจอป้ายโครงการให้เตรียมชิดซ้ายได้เลย

จากนั้นจะเจอป้ายรถเมล์ หน้าร้านขายยา

และจะเจอ 7-11 ห่างจากโครงการเพียง 10 ม.

จากนั้นจะเจอร้านขายอาหารครับ

และก็จะถึงทางเข้าโครงการมีป้ายบอกทางเข้า หรือสังเกตร้านเป็ดพะโล้ซ้ายมือ ตรงหน้ามีสะพานลอยข้ามไปอีกฝั่งครับ

ถึงทางเข้า-ออกโครงการแล้วครับ จากห้าแยกลาดพร้าวถึงโครงการประมาณ 3.2 กม.

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ย่านนี้ของดินเยอะแยะครับ เนื่องจากด้วยทำเลที่ใกล้มหาวิทยาลัย และเป็นแหล่งชุมชน จึงมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ให้เลือกมากมาย หน้าโครงการมีร้านรถเข็น ร้านเป็ดพะโล้ 7-11 ฯลฯ หรือจะเดินไปตลาดอมรพันธ์ก็เยอะครับน้องๆนิสิตก็มาใช้บริการกันเยอะครับ หรือเดินข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่งก็มีของกินบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นร้านขายของ ร้านเสริมสวย มากกว่า ไม่ก็เดินเข้าไปใน ม.เกษตรก็มีโรงอาหารของมหาลัย มีร้านอร่อยๆเยอะเหมือนกันครับ และที่สำคัญอย่าลืมกินน้ำใบเตยนะครับของอร่อยที่นี่เลย ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆก็มีเมเจอร์รัชโยธิน โลตัส เซ็นทรัลลาดพร้าว และยูเนี่ยนมอลล์

สถานที่สำคัญ

• 7-11 : 10 ม.
• ตลาดอมรพันธ์ : 100 ม.
• ม.เกษตรศาสตร์ : 150 ม.
• รพ.เมโย : 300 ม. (ระยะขับรถ 3.9 กม.)
• ตลาดบางเขน : 450 ม. (ระยะขับรถ 4 กม.)
• เมเจอร์รัชโยธิน : 1.4 ม. (ระยะขับรถ 5 กม.)
• รพ.วิภาวดี : 1.7 กม.
• Tesco Lotus : 2.6 กม. (ระยะขับรถ 5.8 กม.)
• โรงเรียนหอวัง : 2.5 กม. (ระยะขับรถ 5 กม.)
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 2.7 กม. (ระยะขับรถ 5.3 กม.)
• รถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธิน : 3.1 กม.
• ยูเนี่ยนมอลล์ : 3.3 กม. (ระยะขับรถ 6.7 กม.)
• สวนจตุจักร : 4.4 กม. (ระยะขับรถ 6.4 กม.)
• รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต : 4.5 กม.

โครงการ

Master Plan โครงการ ทางเข้าจะอยู่ฝั่งขวาครับ เข้ามาจะเจอ Drop Off มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ทั้งโครงการมี 7 ตึกแบ่งเป็น A, B, C, D, E, F, G ถนนจะวนรอบโครงการแบบวันเวย์ใช้ Key Card เพื่อเข้าพื้นที่จอดรถ จอดได้ทั้งกลางแจ้งและใต้ตึกครับ มีทางวนรถผ่านส่วนที่เป็น Shop ใต้ตึก A ได้ต้องใช้ Key Card เช่นกัน Facility โครงการนี้หลักๆอยู่ที่ชั้น 1 ถูกล้อมรอบไปด้วยทั้ง 7 ตึก Lobby แยกตึกกัน ไล่ตั้งแต่ตึก A เข้าไปมีสนามหญ้า, สวนนั่งพักผ่อน, ห้องสมุดที่ตึก C, ห้องฟิตเนสที่ตึก D, ห้องโยคะที่ตึก E, สระว่ายน้ำพร้อมสนามหญ้า, Steam ที่ตึก F, Lounge ที่ตึก G

เริ่มจากหน้าโครงการ ป้อมยามอยู่ซ้ายมือ มี รปภ. 24 ชั่วโมง ซุ้มตรงประตูมีตราของโครงการอยู่

ถ่ายป้อมยามให้ดูครับ

ผ่านเข้ามาจะเจอ Drop Off อยุ่หน้าตึก A มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ผู้ที่มาติดต่อมาส่งเพื่อนเข้าถึงได้ส่วนนี้และวนออกครับ หรือจอดรถซ้ายมือซึ่งเป็นส่วนของผู้ที่มาติดต่อ

ผมจะพาเดินวนรอบโครงการก่อนนะครับ โดยตรงเข้าไปผ่าน Drop Off

ขวามือเป็นทางเข้าสำหรับลูกบ้านต้องใช้ Key Card วนไปด้านข้างได้ เดี๋ยวพาเข้าไปนะครับ

เราจะเดินตรงไปก่อนครับ ไปดูที่จอดรถรอบๆอาคารกัน

ทางเข้ามีไม้กระดกกั้นอยู่ต้องใช้ Key Card

ผ่านเข้ามาทั้งซ้ายและขวาสามารถจอดรถได้เลย ถนนจะเป็นแบบ One Way

แต่ละอาคารก็จะมีทางเดินเข้าแบบนี้ครับ ต้องใช้ Key Card เช่นกัน

ตรงส่วนที่เว้นแต่ละอาคารจะมีต้นไม้ มองเข้าไปเห็นพื้นที่ส่วนกลาง แต่เข้าจากทางนี้ไม่ได้นะครับ

เดินมาจนสุดจะบังคับเลี้ยวขวาไปด้านหลังช่วงตึก F และ G

ถ่ายมุมกลับให้ดูครับ เราเดินมาจากทางขวาครับ ตึกที่เห็นตรงหน้าคือตึก F

เดินมาด้านหลังก็มีที่จอดรถให้เหมือนกัน

เดินมาจนสุดก็เลี้ยวขวาอีกที รั้วโครงการจะเห็นว่ามีทั้งรั้วทึบ และรั้วโปร่งครับ

ถ่ายมุมกลับให้ดูอีกรูป

ด้านข้างอีกฝั่ง ฝั่งนี้จะเป็นตึก G, E, C, และวนไปสิ้นสุดที่ตึก A ด้านหน้า

ช่วงระหว่างตึก C และ A จะมีทางที่วนมาจาก Drop Off ด้านหน้าที่ต้องใช้ Key Card

ถ่ายมุมตรงให้ดูจะมองเห็นตรงไม้กระดก

กลับมาเดินต่อปลายสุดซ้ายมือจะมีศาลตั้งอยู่ครับ

ตอนนี้อยู่ตรงตึก A ถ่ายมุมกลับให้ดู

มีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ซ้ายมือ ใกล้กับทางเข้าออกโครงการเลย

ทางออกก็จะต้องใช้ Key Card เช่นกันครับ

ผ่านออกมาก็จะเจอส่วนจอดรถ Visitor และประตูทางเข้าออกโครงการครับ

กลับมาเริ่มตรง Drop Off จพะมีทางที่จะเข้าไปยังส่วนกลาง และร้านค้าครับครับ

ต้องใช้ Key Card ตรงไปก็ไปทะลุออกตรงอาคาร C และ A ก่อนถึงศาลที่พาไปชมข้างต้น

ชั้น 1 ของตึก A จะเป็นร้านค้า, สำนักงานขาย, นิติบุคล

อีกฝั่งก็จะเป็นสวนหย่อมมีสนามหญ้า พุ่มไม้และที่นั่งพัก และมีทางเดินเข้าไปยังส่วนกลางครับ ที่ชั้น 1 ใต้ตึก B และ C ก็จะมีร้านค้าอีกครับ รวมทั้งหมด 15 ร้าน

ทางตรงกลางเป็นบล็อกปูหญ้า เดินเข้าไปยังส่วนกลางทั้งหมด

ขวามือมีที่จอดจักรยาน

เดินตรงเข้ามาจะเจอซุ้มประตูเหมือนด้านหน้าโครงการครับ อยู่ระหว่างตึก B และ C มีประตูคนเดินซ้ายมือ หลักๆก็จะใช้แค่ประตูคนเดินอย่างเดียวครับรถเข้าไปไม่ได้อาจจะทำเผื่อไว้กรณีฉุกเฉินมากกว่า

ประตูคนเดินต้องใช้ Key Card ในการเข้า และกดปุ่มออกจากด้านใน เพื่อกันไม่ให้คนนอกเข้ามาได้ครับ

ผ่านประตูเข้ามาก็จะเห็นแบบนี้ ไล่ตึกไปจะเป็นคู่ๆ เว้นช่องตรงกลางไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลางครับ ตามลำดับในภาพคือ B กับ C / D กับ E / F กับ G

มองมาทางซ้ายจะเห็นสวนเล็กๆ มีที่นั่งตรงกลาง

กลางพุ่มไม้ทำที่นั่งเอาไว้ครับ

ฝั่งตรงข้ามก็มีเช่นกันครับ ตอนนี้ขวามือคือตึก C มีห้องสมุดอยู่ที่ชั้น 1 ขวามือในรูปครับ

ด้านหน้าทางเข้าห้องสมุด

เปิดเข้ามาจะเจอที่นั่งอ่านหนังสือเป็นจุดๆ ด้านในมีประตูเข้าไปอีกชั้นครับ

เดินเข้ามาด้านในแล้วมองกลับไปยังประตูทางเข้า มีน้องๆนิสิตนั่งจับกลุ่มอ่านหนังสืออยู่

ประตูด้านในเป็นแบบสองบาน

เปิดเข้ามาจะเจอแบบนี้ ผนังเป็นกระจกมองทะลุด้านนอกได้

ห้องนี้จะเป็นแบบ Double Volume ครับ

ด้านในมีชั้นวางหนังสือ พร้อมกับหนังสือที่น่าอ่านเต็มไปหมด

มุม Private เผื่อใครต้องการสมาธินั่งคนเดียว

อีกมุมหันเข้าเสา

ออกมาด้านนอกต่อ ซ้ายมือเป็นตึก D มีห้องฟิตเนสที่ชั้น 1 ขวาคือตึก E มีห้องโยคะที่ชั้น 1

ด้านหน้าทางเข้าห้องโยคะ

เดินเข้ามาเจอชุดโต๊ะแบะเก้าอี้ ตรงไปเป็นห้องโยคะ มีห้องน้ำซ้ายมือ

มุมนั่งพักจัดมาให้แบบนี้

ก่อนเข้าห้องโยคะ ซ้ายมือจะมีทางเดินเข้าไปยังห้องน้ำ

ฝั่งขวาจะมีตู้ Locker ไว้เก็บของได้ ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำแยกชาย – หญิง

ภายในห้องน้ำชายมีอ่างล้างหน้า

มีโถปัสสาวะ ในสุดเป็นห้องน้ำ มีช่องแสงระบายอากาศได้

ภายในห้องน้ำหญิง

กลับมาตรงทางเข้าห้องโยคะ จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บานแบบนี้

เปิดเข้ามาจะเห็นเป็นห้องโล่งๆ ผนังเป็นบานกระจกเลื่อนเปิดปิดได้ มีแอร์ติดให้เรียบร้อย

ถ่ายย้อนกลับให้ดูอีกมุมครับ

มาดูห้องฟิตเนสกันต่ออยู่ชั้น 1 ตึก D จะอยู่หน้าสระว่ายน้ำครับ

เดินเข้ามาเจอที่นั่งพักก่อน ด้านในเป็นตู้ Locker เก็บของได้

เลี้ยวซ้ายมาจะเจออุปกรณ์ออกกำลังกาย มีเครื่องวิ่งออกกำลังกายซ้ายมือ

เครื่องปั่นจักรยาน ผนังส่วนใหญ่เป็นกระจก

เดินเข้ามาอีกจะเห็นเครื่องยกน้ำหนัก และเครื่องบริหารกล้ามเนื้อขาและแขนครับ

ออกมาด้านนอกกั้นต่อ ซ้ายมือเป็นตึก F ขวาเป็น G ครับ สระว่ายน้ำอยู่ซ้ายมือ และมีสวนหย่อมขวามือ ตรงกลางมีเนินหญ้าขึ้นไปครับ

ด้านหน้าสระว่ายน้ำจะมีน้ำพุอยู่ ตรงส่วนนี้จะเป็นสระเด็กครับ

อีกฝั่งเป็นสนามหญ้าโล่งๆแบบนี้มีมุมให้นั่งเล่นได้

เดินขึ้นมา จะเห็นกำแพง

มุมนั่งเล่นบนสนามหญ้า

เดินขึ้นมาบนเนิน ซ้ายเป็นทางเข้าสระว่ายน้ำ ขวาเป็นสนามหญ้า

มองเข้าไปตรงส่วนกำแพง

อีกฝั่งตรงสระว่ายน้ำมีชุดโต๊ะสนามตั้งไว้อยู่

เดินเข้ามาจะเห็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5 x 20 ม. มีทางเดินริมสระซ้ายมือ

เดินมาปลายสระจะแบ่งสระเด็กไว้ มีทางเดินกั้นเอาไว้ครับ

ยืนตรงทางเดินแล้วมองย้อนกลับไป ด้านข้างสระจะมีทางเดินอยู่ สระเป็นแบบน้ำล้น

กลับมาตรงสนามหญ้าต่อ ปลายสุดจะมีบันไดเดินลงไปยังตึก F และ G

ฝั่งตึก F ชั้น 1 มีห้องน้ำหญิงและชาย

ตรงทางขึ้นบันไดมีจุดล้างตัวอยู่

ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำ แยกเป็นสองฝั่งชาย หญิง ตรงกลางเป็นห้องเก็บของ

ภายในห้องน้ำชาย เดินเข้าไปจะเจอตู้ Locker หน้าห้องน้ำ

ทางเข้าห้องน้ำอยู่อีกฝั่ง

เดินเข้ามาจะเป็นแบบนี้ครับ มีห้องน้ำ 2 ห้องขวามือ มีห้อง Steam และห้องอาบน้ำ

ฝั่งนี้มีชุดอ่างล้างหน้า 2 ชุด พร้อมกระจกบานใหญ่

มีโถปัสสาวะ 2 โถ

ห้องอาบน้ำอยู่ซ้ายมือ ประตูกระจกขวามือคือห้อง Steam

ภายในห้องอาบน้ำ

ภายในห้อง Steam

ออกมาดูฝั่งตึก G ที่ชั้น 1 มี Lounge อยู่

ทางเข้า Lounge

เปิดเข้ามาจะเจอที่นั่ง แยกจุดไว้

ด้านในมีที่นั่งแบบโซฟา

ในสุดมีมุม Private ซ้ายมือ ฝั่งขวามีเคาน์เตอร์ไว้วางอาหาร เครื่องดื่มได้

มุม Private มีชั้นหนังสือมาให้แบบนี้

ส่วนเคาน์เตอร์ มีตู้ใต้เคาน์เตอร์

มี Sink ล้างจานมาให้ด้วยครับ

มองกลับไปด้านนอกจะเห็นแบบนี้

กลับมาด้านหน้าตึก A จะพาเข้าไปดู Lobby และสวนบนดาดฟ้าครับ

ด้านหน้าทางเข้าตึก A เป็นกระจก

ต้องใช้ Key Card ในการเข้าออกทุกตึกครับ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอโถง Lobby ในสุดเป็นลิฟท์ ซ้ายมือเป็นที่เก็บรถเข็นของ

ฝั่งซ้ายมีมุมนั่ง และเป็นส่วนของ Mail Box

เดินเข้ามาจะเห็น Mail Box เรียงเป็นแถว

ฝั่งหน้าลิฟท์จะเป็นชุดโซฟาแบบนี้

ลิฟท์แต่ละตึกจะมีให้ 2 ตัว

ปุ่มกดเป็นแบบสัมผัส

ภายในลิฟท์ตกแต่งมาแบบนี้

ปุ่มกดในลิฟท์แบบสัมผัส ต้องใช้ Key Card เพื่อขึ้นไปชั้นของตัวเอง

ขึ้นมาที่ชั้น 8 หน้าลิฟท์จะมีแถบน้ำเงินและตัวเลขบอกทุกชั้น

ทางเดินส่วนพักอาศัยปูกระเบื้องเซรามิกสีเทา บนชั้น 8 ตึก A มีสวนครับทางขึ้นอยู่ตรงบันไดหนีไฟ

เปิดประตูมาจะเห็นบันไดหนีไฟแบบนี้

เดินขึ้นไปจะมีประตูอีกที

เปิดออกมาจะเจอสวนดาดฟ้าขึ้นมาชมวิวได้ แต่จะได้เฉพาะลูกบ้านตึก A ครับ และอาจจะได้เฉพาะชั้น 8 ด้วยเพราะลิฟท์ล็อคชั้นเอาไว้

ตรงประตูจะมีเขียนบอกเวลาเปิด 9.00 น. ปิด 19.00 น.

มองไปฝั่งขวาจะเห็นพุ่มไม้ เสียดายมองวิวด้านนอกไม่ได้ เพราะมีกำแพงกั้นไว้

อีกฝั่งมีที่ให้นั่งด้วยครับ

รอบๆโครงการส่วนใหญ่ล้อมรอบไปด้วยอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีทั้งเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเดียว และเป็นร้านค้าด้วยก็มีครับ โดยทิศเหนือติดกับ ตึกแถว 3-5 ชั้น ฝั่งตลาดอมรพันธ์ ทิศใต้ติดกับกรมพัฒนาที่ดิน มีตึก 8 ชั้นอยู่ติดกับตึก F เลย ฝั่งนี้ก็จะโดน Block วิวหมด และมีตึกแถว 3-5 ชั้นตรงโซนหน้าโครงการ ทิศตะวันตกติดกับพื้นที่ของกรมพัฒนาที่ดินระยะประชิดไม่มีตึกสูงแต่มีอาคารพักอาศัย 5 ชั้นถัดออกไป และทิศตะวันออกติดกับตึกแถว 3-5 ชั้น ฝั่งนี้ติดกับถนนพหลโยธินครับ

ผมเก็บวิวมาฝากครับ ฝั่งนี้เป็นทิศเหนือมองไปฝั่ง ม.เกษตรฯ จะเห็นตึกแถวจำนวนมากสูงตั้งแต่ 3-5 ชั้น ที่เห็นซ้ายมือสูงๆเป็นคอนโด Premio Vetro ครับ รูปนี้ถ่ายจากตึก G

ฝั่งทิศเหนือแต่ผมมองไปยังถนนประเสริฐมนูกิจ จะเห็นว่าตึกแถวอยู่ติดกับร้ัวโครงการเลย

ฝั่งทิศตะวันตกหรือด้านหลังโครงการ วิวฝั่งนี้จะโล่งสุดครับเพราะติดกับกรมพัฒนาที่ดิน มองเห็นต้นไม้เขียวเยอะหน่อย แต่ก็มีอาคารพักอาศัย 5 ชั้นอยู่ในระยะถัดออกไป

ฝั่งทิศใต้ติดกับตึกแถว 3-5 ชั้น และกรมพัฒนาที่ดินซึ่งมีตึกสูง 8 ชั้นอยู่ Block วิวตึก F พอดี

ทิศตะวันออกหน้าโครงการติดกับถนนพหลโยธิน อนาคตก็จะเห็นแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย หมอชิต-คูคต ที่กำลังก่อสร้างอยู่ครับ ฝั่งนู้นก็จะมีตึกแถว 3-5 ชั้น

มองไปทางขวาก็จะมีตึกแถว 5 ชั้น สังเกตดีๆจะเห็นตึกช้างครับ

มองมาทางซ้ายมองเห็นถนนประเสริฐมนูกิจ ติดกับโครงการมีตึกแถว 3-5 ชั้น ครับ

ปิดท้ายด้วยสวนและสระว่ายน้ำส่วนกลางครับ

Unit Type