EP.894 รีวิว คอนโด แอทโมซ ลาดพร้าว 71 Atmoz Ladprao 71 ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่มต้น 1.49 ล้านบาท

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 คอนโดโครงการใหม่ล่าสุดจาก AssetWise ภายใต้ Concept : Urban Refresh สัมผัสบรรยากาศดีๆ ที่นี่…เร็วๆนี้ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนนาคนิวาส ในซอยลาดพร้าว 71 ใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เดินทางสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถ ใกล้โครงการรายล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้าง เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, คริสตัลปาร์ค, CDC, รร.สตรีวิทยา 2, เมเจอร์ รัชโยธิน, เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว วังหิน, เซ็นทรัล ลาดพร้าว รอบโครงการเป็นแหล่งชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์สูง

แอทโมซ ลาดพร้าว 71 เป็นโครงการคอนโด Low Rise 4 อาคาร สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 7-0-93.2 ไร่ ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 740 ยูนิต ยูนิต ห้องพักอาศัยเป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 23.85 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Furnished สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2563

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อาทิ โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอเนกประสงค์, สวนพักผ่อน, พื้นที่สีเขียว, ประตูคีย์การ์ด, Access Card Control, กล้องวงจรปิด พร้อม รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท

ลงทะเบียนวันนี้รับส่วนลดเพิ่ม 100,000 บาท คลิกที่นี่ >> http://atmozcondo.com

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ : )

ที่ตั้งโครงการ

ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.

พิกัด Google : 13.816151, 100.610414

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 มีที่ตั้งอยู่บนถนนนาคนิวาส ห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าวประมาณ 3.5 กม. เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย มีทางลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายทาง และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์, ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานี ฉลองรัช อยู่ใกล้ๆ รอบๆที่ตั้งโครงการมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้าง เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, คริสตัลปาร์ค, CDC, รร.สตรีวิทยา 2, เมเจอร์ รัชโยธิน, เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว วังหิน, เซ็นทรัล ลาดพร้าว

โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 ตั้งอยู่ในทำเลโซนลาดพร้าวที่เดินทางสะดวกสบายทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถนะคะ เริ่มจากคนไม่ใช้รถกันก่อนค่ะ จากหน้าโครงการติดถนนนาคนิวาส ซึ่งมีรถผ่านทั้งกลางวันกลางคืนไม่ว่าจะรถแท็กซี่, รถสองแถวแดง, รถกะป๊อ และจะมีวินมอเตอร์ไซค์บริการ ประมาณ 30 บาทออกมาที่ถนนใหญ่ลาดพร้าวค่ะ หน้าโครงการมีรถแท็กซี่ผ่านตลอด และผ่านเยอะด้วย

สำหรับรถไฟฟ้า ปัจจุบันจะมีสถานีรถไฟใต้ดิน MRT ลาดพร้าว ที่ใกล้โครงการที่สุด โดยห่างจากโครงการไปประมาณ 5.8 กม. ที่แยกรัชดา – ลาดพร้าว นั่งไปเพียง 2 สถานีถึงรถไฟใต้ดิน MRT สวนจตุจักรที่เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว หมอชิตแล้ว ในอนาคตบนเส้นพหลโยธินมีโครงการสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพิ่มเติมต่อจากสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต โดยตัวสถานีจะตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินยาวไปถึงสะพานใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มก่อสร้างไปแล้วค่ะ

นอกจากนี้บนถนนลาดพร้าวเองจะมีโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองอ่อนสายอนาคต รัชดา/ลาดพร้าว – พัฒนาการ ตัดผ่าน โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานี ฉลองรัช สร้างเสร็จเมื่อไหร่โซนนี้ก็จะมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ที่กระจายตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางที่หลากหลายมากขึ้นไปอีก คลิกที่นี่ เพื่อดูแผนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง รัชดา – ลาดพร้าว – พัฒนาการ

สำหรับคนใช้รถ Atmoz ลาดพร้าว 71 เป็นทำเลที่คนใช้รถไปไหนมาไหนได้สะดวก มีความสะดวกสบายสูง เพราะตั้งอยู่ติดถนนนาคนิวาส ห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าวประมาณ 3.5 กม. เป็นโซนที่มีทางลัดเลี่ยงรถติดไปออกถนนใหญ่ได้หลายทางจากซอยใกล้เคียงต่างๆได้เยอะ ไม่ว่าจะลาดพร้าวเอง หรือถนนรัชดาภิเษก, ถนนพหลโยธิน, ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์), เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ พร้อมอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ อีกด้วย

การที่ใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ยาก โดยเฉพาะถนนลาดพร้าวที่เป็นถนนตรงยาวมาตั้งแต่สวนจตุจักรเรื่อยไปจนถึงแถวบางกะปิ ช่วงเช้า-เย็นปกติจะมีปริมาณรถบนถนนหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดงและทางกลับรถที่มีอยู่เป็นระยะๆ

ดังนั้นจะแนะนำให้เลี่ยงมาใช้ถนนรัชดาภิเษกค่ะ เพราะมีทางกลับรถน้อยกว่า และมีทางลัดเข้าซอยมาโครงการได้เช่นกันที่ซอยรัชดา 36, 32 เส้นทางการเดินรถรอบโครงการสามารถไปได้ทั้ง เข้า-ออกนอกเมืองด้วยการใช้โทลล์เวย์ หรือทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์

ที่ตั้งโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 จะอยู่ห่างจากจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ประมาณ 4.3 กม. ทำให้การเดินทางจากโครงการมาทางด่วนนั้นใช้เวลาโดยประมาณเพียง 11 นาทีเท่านั้น ซึ่งทำให้คนใช้รถเข้าออกเมืองได้สะดวกมากค่ะ จากโครงการนี่ขับไปทองหล่อ เอกมัยแค่ประมาณ 10 กม. หรือใช้เวลาขับรถไปแค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• แยกวังหิน 3.8 กม.
• แยกรัชดา – ลาดพร้าว 5.6 กม.
• แยกรัชโยธิน 6.1 กม.
• แยกเกษตร 6.5 กม.
• ห้าแยกลาดพร้าว 7.6 กม.
• แยกสุทธิสาร 7.6 กม.

• ถนนลาดพร้าว – วังหิน 2.6 กม.
• ถนนโชคชัย 4 2 กม.
• ถนนลาดพร้าว 3.5 กม.
• ถนนเสนานิคม 2.9 กม.
• ถนนสังคมสงเคราะห์ 2.4 กม.
• เลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ 2.9 กม.
• ถนนรัชดาภิเษก 4.4 กม.
• ถนนพหลโยธิน 6.1 กม.
• ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) 2.7 กม.

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 ตั้งอยู่บนถนนนาคนิวาสที่มีร้านอาหารและมินิมาร์ทอย่าง 7-11 และ FamilyMart อยู่ใกล้ เดินไปมาได้สบายๆ โดยถนนนาคนิวาสเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าว 71 และถนนโชคชัย 4 ซึ่งเป็นโซนเด่นของย่านลาดพร้าวมาช้านาน จากความอุดมสมบูรณ์ของทำเล มีร้านอร่อยให้เลือกเป็นร้อยร้าน อยากกินอาหารร้านเด็ดๆ ยกตัวอย่างเช่นเย็นตาโฟฟ้าผ่า, เกาเหลาเนื้อตุ๋นสว่างอรุณ, โจ๊กกองปราบ, เฝอ, สามวันสองคืน เป็นต้น

จะไปตลาด หรือจะหาร้านนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆก็ง่าย ออกมาถนนใหญ่ลาดพร้าวก็มีโรงพยาบาลและสถานศึกษาและห้างอีกมาก จัดเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากค่ะ มีร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หาของกินได้ง่ายและหาได้เช้าจรดค่ำ

จากถนนนาคนิวาสเชื่อมต่อออกไปได้หลายทางทั้งเลียบทางด่วนรามอินทรา, ถนนรัชดาภิเษกและถนนลาดพร้าว โดยตัวโครงการห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าว 3.5 กม.และเลียบทางด่วนรามอินทราประมาณ 4.3 กม.เท่านั้น สภาพแวดล้อมเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ออกมาก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งทั้ง เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, CDC, MaxValue, HomePro, Lotus เป็นต้น

สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงโครงการ

• Centralfestival Eastville 2.5 กม.
• Crystal Park 2.6 กม.
• Chic Republic 3.6 กม.
• Big C ลาดพร้าว 7 กม.
• Crystal Design Center (CDC) 2.9 กม.
• Maxvalu 3.1 กม.
• Tesco Lotus เลียบทางด่วนรามอินทรา 2.8 กม.
• HomePro 2.8 กม.
• Foodland 5.4 กม.
• Central ลาดพร้าว 8.3 กม.
• The JAS วังหิน 3 กม.
• Green Plaza 2.9 กม.
• Union Mall 8.9 กม.
• Tesco Lotus ลาดพร้าว 8.3 กม.
• สวนจตุจักร 9.7 กม.
• สวนรถไฟ 12.4 กม.

• ตลาดโชคชัย 4 3.8 กม.
• ตลาดสะพานสอง 5.3 กม.
• ตลาดนัดจตุจักร 9.7 กม.

• สถานีตำรวจโชคชัย 4 5.7 กม.
• ร.พ.เปาโล เมมโมเรียล 2.9 กม.
• ร.พ.ลาดพร้าว 5.5 กม.
• ร.พ.เวชธานี 7.1 กม.

• โรงเรียนเซนต์จอห์น 7.2 กม.
• มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น 7.8 กม.
• มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 4.7 กม.
• โรงเรียนหอวัง 8.8 กม.
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์​ 11.4 กม.
• RBAC 8.2 กม.

สำหรับคนที่อยากเห็นภาพ ว่าบรรยากาศร้านอาหารอร่อยๆต่างๆในลาดพร้าว 71, โชคชัย 4 และ วังหินเป็นยังไง เรามีคลิปวิดีโอรายการเกี่ยวกับอาหารที่ไปตระเวณชิมมาฝากกันค่ะ แต่บอกเลยว่าจริงๆมีร้านอาหารเยอะกว่านั้นมากก สนใจอ่านข้อมูลร้านอาหารเพิ่มเติม คลิกที่นี่

การเดินทาง

วันนี้เรามีภาพการเดินทางจากรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนลาดพร้าว→ เลี้ยวซ้ายเข้าซ.ลาดพร้าว 71 → เลี้ยวซ้ายเข้าถ.สังคมสงเคราะห์ → เลี้ยวขวาเข้าถนนนาคนิวาส ตรงมาจะเจอโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 อยู่ทางขวามือ ไปดูภาพการเดินทางกันต่อเลยค่ะ

เราเริ่มเดินทางกันบนถนนลาดพร้าว ช่วงก่อนถึงเลียบด่วนรามอินทรานะคะ เราจะเห็นสถานีตำรวจโชคชัย 4 ทางฝั่งซ้ายมือ

ถัดจากสถานีตำรวจมา ซ้ายมือเป็นถนนโชคชัย 4 ที่ภายในมีตลาดโชคชัย 4 และมีทางลัดเข้าสู่ถนนนาคนิวาสไปโครงการได้ด้วย แต่วันนี้เราตรงไปนะคะ

ภาพรวมบรรยากาศตลาดโชคชัย 4 ค่ะ คึกคักมาก ของกินเยอะทีเดียว มีโซนอาหารโต้รุ่งอยู่ด้วย ภายในจะมีตลาดสดที่เปิดทั้งวัน ไม่ใช่ตลาดที่เปิดเฉพาะช่วงเช้าอย่างบางที่ ทำให้เวลาเราจะมาซื้อหาของสดก็สะดวกมากกว่านั่นเอง โดยตลาดโชคชัย 4 นี้อยู่ห่างจากโครงการเพียง 3.8 กม.เท่านั้น

เราตรงไปเรื่อยๆ ก่อนถึงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ จะเป็นซอยลาดพร้าว 71

พอเราเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนาคนิวาส, โชคชัย 4 และทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ข้างหน้าแล้ว เลยสะพานลอยไปเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาดพร้าว 71 ได้เลยค่ะ

พอเราเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 71 แล้ว ให้เลี้ยวซ้ายที่ถ.สังคมสงเคราะห์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนนาคนิวาส ตรงมาจะเจอโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 อยู่ทางขวามือ ไปดูภาพการเดินทางกันต่อเลยค่ะ

ซอยลาดพร้าว 71 เป็นถนน 4 เลน ที่จอดรถข้างทางได้ เป็นซอยที่มีชื่อเสียงเรื่องมีร้านอาหารอร่อยๆเยอะมากค่ะ ทั้งคาวทั้งหวาน ทั้งร้านนั่งกินสำหรับดื่มเบียร์หรือสังสรรค์กับเพื่อนๆตอนค่ำ เป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดเส้นเลย และเป็นชุมชนที่อยู่กันมานาน มีความสะดวกต่างๆครบครัน พอเราเข้ามาเจอป้ายบอกทางไปถนนนาคนิวาสอยู่ ให้เราเลี้ยวซ้ายที่ถ.สังคมสงเคราะห์ หรือแยกแรกที่เราเจอ

พอเราเลี้ยวซ้ายมา จะเจอสามแยก ให้เราเลี้ยวขวาเพื่อไปถนนนาคนิวาสค่ะ (ส่วนตรงไปจะเป็นถนนโชคชัย 4 นั่นเอง)

ตรงไปตามทางบนถนนนาคนิวาสมาเรื่อยๆ ขวามือจะเป็นสำนักงานเขตลาดพร้าว ใกล้ๆสำนักงานเขตลาดพร้าวมีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และมีตลาดนัดอยู่ด้วย เป็นอีกโซนที่อุดมสมบูรณ์ของซอยค่ะ

ถัดมาหน่อยจะเป็นปั๊ม Shell ทางซ้ายมือ

ตรงไปอีกจะเจอซอยนาคนิวาส 16 ทางขวามือที่ลัดไปออกเลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ไป Central Eastville และ Crystal Park ได้ และซ้ายมือมีซอยนาคนิวาส 29 ลัดไปออกถนนโชคชัย 4 ที่มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เปิดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

ตรงไปอีกหน่อยจะเจอป้ายโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 อยู่ทางซ้ายมือ

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ โดยถนนนาคนิวาสเป็นถนนที่กว้าง รถขับผ่านไปมาได้ดี และมีบรรยากาศร่มรื่นอย่างที่เห็นนะคะ บรรยากาศรอบๆโครงการจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่า

รอบโครงการ

โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 ตั้งอยู่ติดถนนนาคนิวาส ใกล้ซอยนาคนิวาส 44 ติดที่ดินโครงการทางทิศใต้เป็นคอนโด 8 ชั้น 4 อาคารชื่อ My story, ทิศเหนือเป็นบ้านหลังใหญ่ 2 ชั้นอยู่ติดทางเข้าหมู่บ้านจัดสรรซึ่งภายในเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น และบ้าน 2 ชั้น มีร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านอร่อยหลายร้าน อยู่ในระยะที่จากโครงการเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง

รอบๆที่ดินโครงการส่วนใหญ่จะเป็น ที่พักอาศัยแนวราบ ติดถนนทั้งสองฝั่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายค่ะ จัดว่าอุดมสมบูรณ์และสะดวกมาก ทั้งอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้นฝั่งตรงข้ามโครงการทางด้านทิศตะวันตก มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายร้าน ถัดออกมาทางทิศใต้ ถัดจากคอนโด 8 ชั้นที่อยู่ติดโครงการไปจะเป็นอาคารพาณิชย์ ที่มี 7-11 และ FamilyMart ห่างจากโครงการในระยะเดินเพียง 120 เมตรเท่านั้น ตรงข้าม 7-11 จะมีวินมอเตอร์ไซค์ หน้าคอนโด 8 ชั้นติดโครงการจะมีป้ายรถเมลล์ที่ออกไปไหนมาไหนสะดวก

เริ่มกันจากด้านหน้าที่ดินโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 กันก่อน จะอยู่ติดถนนนาคนิวาส ใกล้ซอย 44 โดยวิ่งขึ้นเหนือไปเสนานิคม, ลาดปลาเค้า, เกษตร-นวมินทร์ ส่วนถ้าจะไปลาดพร้าวก็วิ่งลงใต้หรือทางขวามืองของภาพ โดยตอนนี้สำนักงานและห้องตัวอย่างโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยและเปิดให้เข้าชมกันได้แล้วนะคะ ก่อนเข้าไปดูสำนักงานขายเราไปดูรอบๆโครงการกันก่อน

ทิศเหนือหรือฝั่งซ้ายมือติดที่ดินโครงการเป็นบ้านหลังใหญ่สูง 2 ชั้น และมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ล้อมรอบบ้าน

ถัดจากบ้าน 2 ชั้นติดที่ดินโครงการ เป็นทางเข้าหมู่บ้านจัดสรรซึ่งภายในเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น และบ้าน 2 ชั้น ที่หัวมุมทางเข้าหมู่บ้านมีอู่รถและร้านขายยางรถยนต์อยู่ หัวมุมทางฝั่งขวามีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูอยู่

ร้านก๋วยเตี๋ยวนี้ตั้งอยู่หัวมุมของหมู่บ้านมายาวนาน ก๋วยเตี๋ยวอร่อยค่ะ มีที่นั่งอยู่ 2-3 โต๊ะ และมีร้านน้ำชากาแฟชงขายด้วย จากโครงการเดินมาไม่กี่ก้าวถึง

หน้าที่ดินโครงการอยู่ติดถนนนาคนิวาส ใกล้ซอย 44 ตอนนี้ที่ดินโครงการ สำนักงานขายและห้องตัวอย่างสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ โดยรอบๆสำนักงานขายอยู่ในระหว่างเก็บความเรียบร้อย ด้านหน้าโครงการมีทางเดินเท้าติดถนนนาคนิวาสพร้อมปลูกต้นไม้มาให้เป็นแนว

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นซอยนาคนิวาส 53 มีโรงแรมสูง 6 ชั้นชื่อ บ้านสบาย

ข้างโรงแรมบ้านสบาย เป็นร้านนวดแผนโบราณ ด้านหน้ามีร้านอาหารตามสั่งอยู่

เป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีอาหารอีสานอย่างส้มตำ คอหมูย่าง ลาบ ขายด้วยนะคะ ภายในมีที่นั่งมาให้หลายโต๊ะพร้อมหลังคากันแดดกันฝน

ฝั่งตรงข้ามที่ดินโครงการทางฝั่งทิศตะวันตก เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายร้าน ไม่ว่าจะร้านทำผม ร้านก๋วยเตี๋ยว และอื่นๆอีกมากมาย

ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงข้ามโครงการเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยฮาลาล เป็นร้านที่คนมุสลิมกินได้ และก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่ผงชูรสด้วย

มองไปที่ที่ดินโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 จากอีกฝั่ง

ทิศใต้หรือฝั่งขวามือติดที่ดินโครงการเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 4 อาคาร ชื่อ My Story

ด้านหน้าคอนโด My Story จะมีป้ายรถเมล์อยู่ จากโครงการเดินมารอรถเมล์ได้ในระยะเพียง 60 เมตรเท่านั้น

ถัดจากคอนโด 8 ชั้นมาเป็นอาคารสูง 5 ชั้น เป็นสำนักกฎหมาย

ถัดมาเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ด้านหน้ามีร้านขายยา และ 7-11 อยู่

และถัดมาเป็น FamilyMart จากโครงการเดินมาซื้อของได้สบายๆในระยะ 120 เมตรเท่านั้น

ฝั่งตรงข้ามคอนโด 8 ชั้นเป็นปั๊ม LPG

ด้านหน้าปั๊มมีป้ายรถเมล์อยู่เช่นกัน โดยจะอยู่ฝั่งตรงข้ามป้ายรถเมล์หน้าคอนโด My Story นั่นเอง

ถัดมาหน้าปากซอยนาคนิวาส 47 มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ จากหน้าโครงการเดินมาขึ้นได้ง่ายประมาณ 130 เมตรเท่านั้น

อัตราค่าโดยสารของวินมอเตอร์ไซค์ใกล้โครงการค่ะ นั่งไปปากซอยลาดพร้าว 71 เพื่อออกถนนใหญ่ลาดพร้าวคิด 30 บาท

ตอนนี้โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 สำนักงานขายและห้องตัวอย่างโครงการสร้างเสร็จพร้อมให้เข้าชมกันเรียบร้อยแล้วนะคะ จะเป็นยังไงเข้าไปดูกันเลย

จุดสังเกตคือ สำนักงานขายโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 จะมีป้ายโครงการและเนินหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ

สำนักงานขายโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 ตั้งอยู่ใกล้เนินหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่หน้าโครงการ

ข้างสำนักงานขายเป็นที่จอดรถของเจ้าหน้าที่และผู้มาเยี่ยมชมโครงการค่ะ

สำนักงานขายโครงการเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ..ภายนอกตกแต่งด้วยพื้นผิวไม้ เป็นเปลือกอาคารที่นอกจากจะตกแต่งอาคารแล้วยังช่วยกันแดดให้ภายในอาคารอีกด้วย เนื่องจากอาคารด้านในจะเป็นผนังกระจกใส

ภายในมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการข้อมูลโครงการและพาชมห้องตัวอย่าง สำนักงานขายมีเพดานสูงและตกแต่งด้วยคอนเซ็ปเดียวกันกับ Lobby ในโครงการจริงซึ่งจะใช้พื้นผิวไม้และกระจก ให้บรรยากาศผ่อนคลาย สีสันแบบน้ำทะเลและทราย มีโมเดลโครงการและห้องตัวอย่างมาให้ดูถึง 3 แบบ

ภายในสำนักงานขายมีที่นั่งรับรองลูกค้ามาให้หลายจุด

ทั้งชุดโซฟาและชุดโต๊ะเก้าอี้หลายชุดเลยทีเดียว ส่วนรายละเอียดตัวโครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

ตัวโครงการ

ภาพจำลองโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร รวม 740 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7-0-93.2 ไร่ ติดถนนนาคนิวาส คอนเซ็ปในการออกแบบโครงการคือ Urban Refresh ให้ผู้อยู่อาศัยได้ชาร์จพลังกายและใจด้วยวิวทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 21 ไร่ที่อยู่ติดกับโครงการ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางครบครัน เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ

มาดูผังโครงการชั้นล่างกันก่อนค่ะ ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนนาคนิวาส ที่ซุ้มทางเข้าเป็นระบบไม้กระดกและ Access Card ชั้นล่างจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถค่ะ โดยที่จอดรถมีทั้งกลางแจ้งรอบอาคารและใต้อาคาร จอดได้ทั้งหมด 369 รวมจอดซ้อนคันแล้ว คิดเป็นประมาณ 50% ของจำนวนยูนิตโครงการ และที่จอดรถจักรยานยนต์อีก 52 คัน

อาคาร A ชั้น 1 จะมี Lobby เพดานสูงและสำนักงานนิติบุคคลอยู่ เข้าโครงการมาจะเจอ Lobby ของอาคาร A อยู่ซ้ายมือ อีกฝั่งจะมี Retail Shop หรือยูนิตร้านค้าอยู่ใต้อาคาร D ระหว่างอาคาร B และ C จะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่คือสวนหย่อม สระว่ายน้ำ และอาคาร Clubhouse อยู่ด้านข้าง

ผังอาคารชั้น 2 ส่วนยูนิตที่พักอาศับจะเริ่มที่ชั้นนี้นะคะ และที่อาคาร A และอาคาร Clubhouse ที่ชั้น 2 ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วย โดยที่อาคาร A จะมี Library & Meeting Hub , Karaoke Theater และ Game Room ไว้ใช้ต้อนรับแขกหรือพักผ่อนได้ ส่วนอาคาร Clubhouse ระหว่างอาคาร B และ C จะมี Smart Fitness และ Lakeside Infinite Pool & Pavilion ค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย และได้วิวส่วนกลางสวยๆ พร้อมวิวทะเลสาบจากระเบียงห้อง

ยูนิตที่พักอาศัยในโครงการจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป ระเบียงห้องที่หันเข้าด้านในจะเห็นวิวเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่จัดไว้สวยงาม ใครชอบวิวทะเลสาบเราเชียร์ระเบียงทิศเหนือและทิศตะวันออกของอาคาร B นะ คือรับวิวทะเลสาบได้ชัดเจนสุดแล้ว และโซนนี้ลมพัดดีด้วยค่ะ อาคาร C มีห้องมุมฝั่งทิศเหนือที่เห็นวิวทะเลสาบชัดอยู่ แต่มีชั้นละไม่กี่ห้องนะ

ส่วนระเบียงห้องที่หันออกไปทางทิศใต้อย่างอาคาร D และ C จะมีคอนโด Low Rise 8 4 อาคาร อยู่แต่มีระยะห่างกันพอสมควรไม่ได้ชิดจนอึดอัดนะ แต่แน่นอนว่าวิวก็ไม่ได้โล่งแบบอาคารฝั่งทิศเหนือค่ะ

ผังอาคารชั้น 3-8 เป็น Typical Floor Plan นะคะ คือการจัดผังยูนิตที่พักอาศัยจะเหมือนกันทุกชั้น ซึ่งจริงๆก็จัดผังแบบเดียวกันกับชั้น 2 เลย ลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการเท่ากับ 93 : 1 ถือว่าสบายๆ โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor คือแจกเข้ายูนิตที่พักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง

อาคาร A เป็นอาคารที่อยู่ใกล้ทางเข้าออกโครงการที่สุด มีความหนาแน่นต่ำสุด และมีพื้นที่ส่วนกลางในอาคารเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับอาคารที่พักอาศัยอื่นๆค่ะ โดยจะมีสวนชั้นดาดฟ้าด้วย ซึ่งอาคารที่พักอาศัยอื่นๆจะไม่มีนะ และสวนดาดฟ้าอีกจุดจะอยู่ที่ดาดฟ้าของอาคาร Clubhouse ของโครงการที่สามารถไปเดินรับวิวทะเลสาบกันได้

โมเดลโครงการจากด้านหน้าติดถนนนาคนิวาสเลยแบบนี้ค่ะ เป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น สีเทาเข้มอ่อนสลับกัน โดยมีกรอบอาคารที่ทำหน้าที่เป็น Fin บังแดดให้ระเบียงห้องและเพิ่มมิติให้ตัวอาคารไปในตัว ซุ้มทางเข้าเป็นระบบไม้กระดกและ Access Card เข้าโครงการมาจะเจอ Lobby ของอาคาร A อยู่ซ้ายมือ อีกฝั่งจะมี Retail Shop หรือยูนิตร้านค้าอยู่ใต้อาคาร D

ภาพโมเดลถ่ายให้เห็นภาพรวมอาคารนะคะ ส่วนอาคาร First class facilities จะอยู่ระหว่างอาคาร B และ C จะมี Smart Fitness และ Lakeside Infinite Pool & Pavilion ค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย และได้วิวส่วนกลางสวยๆ พร้อมวิวทะเลสาบจากระเบียงห้องด้วย

โมเดลพื้นที่ส่วนกลางของโครงการส่วนสระว่ายน้ำและ Clubhouse ค่ะ จะอยู่ชั้นล่างระหว่างอาคาร B และ C แบบนี้ เดี๋ยวเราไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ

ภาพจำลองส่วน Arched Garden สวนหย่อมขนาดใหญ่ฟอร์มโค้ง พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มีฟอร์มโค้งเข้ากัน เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักที่อยู่ระหว่างอาคาร B และ C

ภาพจำลองส่วน Natural Form Swimming Pool สระว่ายน้ำทรงโค้งกลางแจ้ง ระบบเกลือ ขนาด 23 x 33 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นสระน้ำล้นที่มีเสียงของน้ำสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวร่มรื่น มีที่นั่งพักผ่อนอยู่รอบๆสระ ติดกับสระว่ายน้ำคืออาคาร Clubhouse ที่ข้างในมีห้องฟิตเนสและ Co-Chilling Space อยู่

ภาพจำลองส่วน Co-chilling Space มองเข้ามาจากสระว่ายน้ำ

ภาพจำลองส่วน Smart Fitness หรือห้องฟิตเนสของโครงการที่อยู่ชั้น 2 ของ Clubhouse ภายในมีลู่วิ่งและเครื่องปั่นจักรยานมาให้หลายชุด พร้อมที่นั่งพักผ่อน และมีเคาน์เตอร์ในตัวอีกด้วย

ภาพจำลองอีกฝั่งของห้องฟิตเนสค่ะ เป็นลานโยคะ พิลลาทีส ซิทอัพ และมีกระสอบทรายพร้อมนวมสำหรับซ้อมมวยมาให้ด้วย

ภาพจำลองส่วน Lakeside Infinite Pool หรือสระว่ายน้ำวิวทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ถัดจากฟิตเนสเลย เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ ขนาด 25 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมตุ๊กตาเป็ดลอยมาให้ใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปเล่นกันได้เก๋ๆ และที่นั่งข้างสระสำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวทะเลสาบได้สบายๆ

ภาพจำลองส่วน Duplex Lobby Lounge หรือ Lobby เพดานสูง ที่ชั้นล่างอาคาร A ผนังเป็นกระจกวิวสวน การตกแต่งจะคล้ายกันกับสำนักงานขายของโครงการเลย ย้อนขึ้นไปดูกันได้นะคะ ชอบที่มีชุดเก้าอี้ที่นั่งพักผ่อนมาให้ทั้งแบบโซฟาที่ใช้ต้อนรับแขกนั่งกันได้หลายคน และแบบโต๊ะประชุมเอาไว้นั่งทำงานกันได้

ภาพจำลอง Duplex Lobby Lounge อีกมุมหนึ่งค่ะ จะเห็นว่าด้านบนมีชั้นลอยอยู่ ไปดูกันต่อเลย

ภาพจำลองส่วน Library & Meeting Hub ซึ่งอยู่ที่ชั้นลอยเหนือ Lobby ที่อาคาร A เราใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานหรือนัดประชุมกับเพื่อนๆได้สบายๆ

ภาพจำลองส่วน Karaoke Theater ซึ่งจะอยู่ที่อาคาร A เช่นกัน ขึ้นมาดูหนังพักผ่อนกันได้ที่ห้องนี้ มีโซฟาขนาดใหญ่รองรับได้หลายคนพร้อมบีนแบ็ก เบาะรองนั่ง พร้อมห้องที่บุผนังกันเสียง

ภาพจำลองส่วน Game Room ซึ่งอยู่ที่อาคาร A ด้วยเหมือนกัน ภายในมีโต๊ะพูลพร้อมโซฟาไว้ให้นั่งพักผ่อน ผนังเป็นกระจกให้ชมวิวสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และสวนส่วนกลางของโครงการได้

ภาพจำลอง Game Room อีกมุมค่ะ จะเห็นว่ามีเครื่องเล่นอื่นนอกจากโต๊ะพูลอยู่ด้วย

แบบห้อง

แบบห้องในโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 จะเป็นห้องพักอาศัยเป็นแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 23.85 – 54.32 ตรม. ขายแบบ Fully Furnished โดยห้องแบ่งเป็น 4 แบบ ดังนี้

• 1 Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) พื้นที่ประมาณ 23.85 – 25.71 sq.m. จำนวน 236 ยูนิต
• 1 Bedroom Exclusive (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ + ห้องครัวแยกส่วน) พื้นที่ประมาณ 28.94 – 41.59 sq.m. จำนวน 214 ยูนิต
• 1 Bedroom Plus (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์) พื้นที่ประมาณ 38.06 – 51.90 sq.m. จำนวน 248 ยูนิต
• 2 Bedroom (2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) พื้นที่ประมาณ 50.48 – 54.32 sq.m. จำนวน 42 ยูนิต

ซึ่งวันนี้เราก็จะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการ 2 แบบคือแบบ 1 Bedroom 23.85 – 25.71 ตร.ม. และแบบ 1 Bedroom plus 38.08 – 51.90 ตร.ม. นะคะ ก่อนไปดูห้องตัวอย่าง เราเอาแบบห้องอีก 2 แบบ มาให้ดูกันก่อน

ผังห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ + ห้องครัวแยกส่วน พื้นที่ประมาณ 29.06 – 49.04 sq.m.

ผังห้องแบบ 2 Bedroom 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ประมาณ 50.26 – 54.32 sq.m.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน (1 Bedroom) ขนาด 23.92 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการค่ะโดยโครงการขายแบบ Fully Furnished โดยจะมาพร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว เครื่องทำน้ำอุ่น และฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย และเฟอร์นิเจอร์ การจัดผังห้องเปิดเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนครัวเปิดฝั่งซ้าย ประตูห้องน้ำฝั่งขวา ต่อไปยังส่วนห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอนติดระเบียงซึ่งมีฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อนมาให้เป็นสัดส่วน ตัวห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

ประตูที่ได้จะเป็นบาน HDF กรุลามิเนตลายไม้ มีเซาะร่องเดินเส้นอลูมิเนียมสีเงินเป็นลายได้แบบที่เห็น

มือจับประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส พร้อม Digital Door Lock ของ Yale ติดมาให้เรียบร้อยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ วิธีการเข้าห้องคือแตะการ์ดเข้าไปหรือกดรหัสผ่านได้ตามปกติ ที่พิเศษกว่าโครงการอื่นๆคือ Atmoz แต่ละห้องจะมี Wristbandให้เอาไว้ใส่ข้อมือเวลาออกไปไหน เช่นว่ายน้ำชั้นล่าง พอกลับมาห้องก็เอาข้อมือที่สวม Wristband นี้ แตะเข้าห้องได้เลย ซึ่งสะดวกดีค่ะ ภาพขวามือคือภาพจากด้านในห้อง เวลาจะออกจากห้องก็กดปลดล็อกออกไป พอเราปิดประตูห้อง Digital Door Lock นี้ก็จะล็อกห้องให้เราอัตโนมัติ

เข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องครัวเปิดและทางเข้าห้องน้ำตรงข้ามชุดครัวค่ะ ระยะใช้งานกำลังดี พื้นห้องเป็นพื้นสมาร์ทไวนิลลายไม้ที่มีความทนทานต่อสูงกว่าลามิเนตทั้งความชื้นและรอยขีดข่วน ดูแลรักษาง่ายและติดตั้งซ่อมแซมได้ง่าย ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ห้องตัวอย่างติดวอลเปเปอร์มาให้ดูเป็นไอเดีย

ความพิเศษอีกอย่างคือยูนิตในโครงการจะแถม Digital Sound System มาให้ทุกยูนิตเลย ใครที่ชอบฟังเพลงน่าจะชอบกันค่ะ เชื่อมต่อด้วยระบบ wifi, bluetooth และสามารถใช้มือถือเชื่อมต่อ, ใช้แฟลชไดรฟ์ หรือ micro sd card ได้ โดยเชื่อมกับลำโพงที่เพดานห้อง หรือใช้รับสัญญาณวิทยุหรือเป็นนาฬิกาจับเวลาก็ได้ อันนี้คอนโดทั่วไปไม่ค่อยมีมาให้นะคะ

มาดูส่วนเคาน์เตอร์ครัวกันต่อค่ะ ชุดครัวด้านบนมีชั้นลอยพร้อมหน้าบานสีขาว ชั้นล่างปิดผิวลายไม้มาให้ ของจริงได้ตามที่เห็นทั้งบนและล่าง เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในมีที่เก็บของมาให้พอสมควร เหมาะสำหรับใช้อุ่นอาหาร ล้างจาน หรืออาหารที่ประกอบง่ายๆไม่ซับซ้อน หน้าบานตู้เป็นเมลามีนลายไม้สีอ่อน เปิดปิดแบบเซาะร่อง

ใต้เตาไฟฟ้ามีลิ้นชักวางช้อนส้อมมาให้

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีนสีขาว ติดตั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันพร้อมอ่างล้างจานมาให้เรียบร้อย มี Backsplash ท่ีผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวของจริงเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 cm. นะคะ ไม่ใช่โมเสกลายแบบห้องตัวอย่างนะ แต่ข้อดีคือติดกระเบื้องมาให้แทนผนังฉาบปูนเรียบทาสี ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่า

อ่างล้างจานสแตนเลสฝังมาให้แบบหลุมเดียว เทียบกับขนาดฝ่ามือให้ดูระยะใช้งาน

มาดูห้องน้ำกันต่อ ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว ธรณีประตูห้องน้ำจะสูงขึ้นมาจากพื้นประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำจากห้องน้ำ ธรณีประตูกรุด้วยกระเบื้อง ทำให้ทนน้ำทนความชื้น ใช้ไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาอย่างพื้นลามิเนต ที่มีผลให้ประตูเปิดปิดยาก

ความพิเศษอีกอย่างคือในห้องมี Thermostat หรือ ระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้อง ทำงานคู่กับพัดลมภายในห้องน้ำ เพื่อให้เกิดการถ่ายเทอากาศเมื่อไม่อยู่ในห้องพัก ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง และสามารถตั้งเวลาในการทำงานได้

ภาพรวมห้องน้ำค่ะ ระยะใช้งานสบายๆ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกแบบผิวด้านสีครีมขนาด 30 x 30 cm. สุขภัณฑ์ของ COTTO หรือแบรนด์เทียบเท่า

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศช่วยระบายอากาศ โดยทำงานคู่กับ Thermostat นั่นเอง

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto พร้อมกระจกเงาด้านบนและชั้นวางของลายไม้ใต้อ่างมาให้ได้ตามนี้

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างให้ดูระยะใช้งาน ขวามือและด้านบนมีที่ให้วางของได้พอสมควร

โถสุขภัณฑ์ใช้ของ COTTO หรือแบรนด์เทียบเท่านะคะ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ผิวสแตนเลสและสายฉีดชำระเข้าชุดกัน

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มมาให้ เป็นแบบบานเลื่อนสามตอน ทำให้ได้ช่องเปิดที่กว้างกว่าแบบสองตอน โดยพื้นที่ส่วนอาบนำ้หรือส่วนเปียกจะมีขอบธรณีขึ้นมาแบ่งระหว่างส่วนเปียกส่วนแห้ง กั้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร และมีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย

ชุดฝักบัวเป็นของ American Standard เราเทียบขนาดฝักบัวกับฝ่ามือให้ดูค่ะ ฝักบัวเป็นสแตนเลสขนาดกำลังเหมาะมือ สามารถเลื่อนปรับขนาดหยดน้ำได้

ผนังฝั่งตรงข้ามชุดฝักบัวมีเจาะช่องเป็นที่วางแชมพู ครีมอาบน้ำมาให้ ใช้วางของได้เยอะพอสมควร

เข้าไปดูส่วนห้องนั่งเล่นและนอนกันต่อค่ะ ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ถัดจากห้องครัวและห้องน้ำเลย พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดลึกยาวอย่างที่เห็นค่ะ วางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งมาให้พร้อมโต๊ะกาแฟ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ

โซฟาเป็นแบบ 2 ที่นั่ง มีที่วางแขน หุ้มผ้าสีครีม ของจริงได้ตามนี้ ชอบที่โซฟานี้ส่วนเบาะรองนั่งมีมาให้ 3 ชั้น ซึ่งสามารถเอามาปูวางเรียงเป็นเตียงเสริมได้ด้วย

มองไปทางชั้นวางทีวี Built in ชั้นวางของใต้ทีวีมาให้ ถัดจากตู้เย็น ระยะใช้งานกำลังดี ด้านบนทีวีทำชั้นลอยมาให้ดูเป็นไอเดียเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี

Built in ชั้นลอยใต้ทีวีแขวนผนัง ของจรงได้ตามนี้นะคะ มีฝาพับได้อย่างที่เห็น

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนห้องนอน มีฉากกั้นห้องเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 3 บาน กั้นส่วนห้องนอนมาให้เป็นสัดส่วน ช่วยกันกลิ่นอาหารจากครัวและห้องนั่งเล่นเข้าไปในส่วนห้องนอน บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัว อาจติดฟิล์มแบบกระจกเงาหรือกระจกฝ้าเพิ่มอีกที ส่วนตัวแนะนำฟิล์มกระจกฝ้าค่ะ เพราะแสงธรรมชาติจะได้ส่องเข้ามาในห้องนั่งเล่นอยู่

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ของจริงได้ฐานเตียงไม่รวมฟูกหมอนผ้าปูที่นอน

เตียงวางมาชิดฉากกั้นห้องฝั่งนึง ด้านที่อยู่ฝั่งหน้าต่าง มีระยะพอเดินไปมาได้แบบกำลังดี มีโต๊ะข้างและมีมุมที่สามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้

มองไปทางฝั่งปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built in มาให้พร้อมวางโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้มาให้ดูระยะใช้งาน ด้านบนประตูติดเครื่องปรับอากาศมาให้ได้ตามนี้

เปิดตู้ให้ดูจะเห็นว่ามีราวแขวนเสื้อผ้าบนล่าง ราวแขวนชุดเดรส และช่องเก็บของมาให้หลายช่อง

เทียบกับระยะเดินปลายเตียงจะเห็นว่าเปิดบานตู้ได้ ถอยเก้าอี้เข้าออกได้ มีระยะเดินไปมาได้สบายๆ

ถัดมาข้างเตียงจะมีประตูเปิดออกไประเบียงได้ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน และเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 2 ตอน หน้าต่างเป็นหน้าต่างบานกว้างแบบเข้ามุมบานฟิกซ์และแบบบานเปิดช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาให้ห้องได้ดี

พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาขนาด 30 x 30 cm. มาให้ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำและที่พื้นระเบียงเดินท่อระบายนำ้มาให้ โดยที่ระเบียงติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟและฝาครอบกันน้ำและก็อกน้ำติดผนังมาให้เรียบร้อย

ที่ระเบียงจะแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้ด้านบน ทำให้ใช้งานพื้นที่ใต้แอร์คอมเพรสเซอร์วางเครื่องซักผ้าได้ โดยเตรียมงานระบบมาให้พร้อมเต้าเสียบปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำและก๊อกน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย และมีกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์สูงจรดเพดาน

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน (One Bedroom Plus) ขนาด 38.35 ตร.ม. ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished โดยจะมาพร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว เครื่องทำน้ำอุ่น และฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย และเฟอร์นิเจอร์

เปิดเข้าห้องมาจะเป็นส่วนครัวและห้องน้ำ ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนใหญ่ติดระเบียงมีประตูบานปิดกั้นห้องเป็นสัดส่วน ติดกับห้องนอนจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นห้องนอนเล็กเพิ่มหรือ Walk in closet เพิ่มก็เหมาะ โดยมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้ ตัวห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

เข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องรับประทานอาหารและครัวเปิด และทางเข้าห้องน้ำด้านข้างชุดครัว ระยะใช้งานกำลังดี วัสดุแบบเดียวกันกับห้อง Type อื่นๆเลย คือประตู Digital Door Lock แบบเดียวกัน พื้นห้องเป็นพื้นสมาร์ทไวนิลลายไม้ ที่มีความทนทานต่อสูงกว่าลามิเนตทั้งความชื้นและรอยขีดข่วน ดูแลรักษาง่ายและติดตั้งซ่อมแซมได้ง่าย ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ

มาดูส่วนเคาน์เตอร์ครัวกันต่อค่ะ ชุดครัวด้านบนมีชั้นลอยพร้อมหน้าบานสีขาว ชั้นล่างหน้าบานตู้เป็นเมลามีนลายไม้สีอ่อน เปิดปิดแบบเซาะร่อง ของจริงได้ตามที่เห็นทั้งบนและล่าง เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในมีที่เก็บของมาให้พอสมควร ขนาดใหญ่กว่าห้องตัวอย่างห้องแรกที่ไปชมกันมานะคะ มีเว้นที่ไว้ให้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 กก.

มีลิ้นชักพร้อมช่องวางช้อนส้อมมาให้

Top เป็นเมลามีนสีขาว ติดตั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันพร้อมอ่างล้างจานมาให้เรียบร้อย มี Backsplash ท่ีผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวติดมาให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ของจริงเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 cm.

อ่างล้างจานสแตนเลสฝังมาให้แบบหลุมเดียว ไม่มีที่พักจานด้านข้าง พร้อมก็อกน้ำโครเมียมหมุนไปมาซ้ายขวาได้ เทียบฝ่ามือให้ดูขนาดอ่าง

เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน

ถ่ายให้ดูระยะใช้งานชุดครัวสบายๆ ผนังฝั่งตรงข้ามชุดครัวมีมุมที่เหมาะจะวางตู้เย็นได้แบบกำลังดี

มาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ประตูห้องน้ำอยู่ข้างชุดครัวเลย ธรณีประตูห้องน้ำจะสูงขึ้นมาจากพื้นประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำจากห้องน้ำ ธรณีประตูกรุด้วยกระเบื้อง ทำให้ทนน้ำทนความชื้น ใช้ไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาอย่างพื้นลามิเนต ที่มีผลให้ประตูเปิดปิดยาก

ภาพรวมห้องน้ำค่ะ ระยะใช้งานสบายๆ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกแบบผิวด้านสีครีมอ่อนขนาด 30 x 30 cm. สุขภัณฑ์ของ Cotto หรือแบรนด์เทียบเท่า

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศช่วยระบายอากาศ ทำงานคู่กับ Thermostat

โถสุขภัณฑ์เป็นของ COTTO พร้อมที่แขวนทิชชู่และสายฉีดชำระสแตนเลส

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto พร้อมกระจกเงาด้านบนและชั้นวางของลายไม้ใต้อ่างมาให้ได้ตามนี้

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มมาให้ เป็นแบบบานเลื่อนสามตอน ทำให้ได้ช่องเปิดที่กว้างกว่าแบบสองตอน โดยพื้นที่ส่วนอาบนำ้หรือส่วนเปียกจะมีขอบธรณีขึ้นมาแบ่งระหว่างส่วนเปียกส่วนแห้ง ก่อขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร และมีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย

ชุดฝักบัวเป็นของ Prema เราเทียบขนาดฝักบัวกับฝ่ามือให้ดูค่ะ ฝักบัวเป็นสแตนเลสขนาดกำลังเหมาะมือ สามารถเลื่อนปรับขนาดหยดน้ำได้ มีเจาะช่องผนังมาให้สูงดี ใช้เป็นที่วางแชมพู ครีมอาบน้ำ หรือทำชั้นเพิ่มที่วางของได้อีกด้วย

ถัดมามาดูส่วนพื้นที่รับประทานอาหารกันต่อค่ะ จัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง มาให้ดูระยะใช้งาน ผนังด้านหลัง Built in เป็นชั้นวางของบนผนังที่ตกแต่งด้วยกระจกเงามาให้ดูเป็นไอเดีย ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย ส่วนห้องของจริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว

จะเห็นว่ามีระยะใช้งานกว้างขวาง เลื่อนเก้าอี้เข้าออกได้สบายๆ

ความพิเศษอีกอย่างคือยูนิตในโครงการจะแถม Digital Sound System มาให้ทุกยูนิตเลย ใครที่ชอบฟังเพลงน่าจะชอบกันค่ะ เชื่อมต่อด้วยระบบ wifi, bluetooth และสามารถใช้มือถือเชื่อมต่อ, ใช้แฟลชไดรฟ์ หรือ micro sd card ได้ โดยเชื่อมกับลำโพงที่เพดานห้อง หรือใช้รับสัญญาณวิทยุหรือเป็นนาฬิกาจับเวลาก็ได้ อันนี้คอนโดทั่วไปไม่ค่อยมีมาให้นะคะ

ถัดมาเป็นส่วนห้องนั่งเล่น มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร วางทีวี 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ วางโต๊ะกาแฟตรงกลางมาให้ดูระยะใช้งาน เหลือระยะเดินกำลังพอดีๆ

โซฟาเป็นแบบ 2 ที่นั่ง มีที่วางแขน หุ้มผ้าสีครีม ของจริงได้ตามนี้ ชอบที่โซฟานี้ส่วนเบาะรองนั่งมีมาให้ 3 ชั้น ซึ่งสามารถเอามาปูวางเรียงเป็นเตียงเสริมได้ด้วย

มองไปที่ชั้นวางทีวี จะมีชั้นลอยสำหรับวางของด้านบนและล่างมาให้ได้ตามนี้ ส่วนชั้นวางทีวีด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้ 2 ช่อง และช่องเก็บของพร้อมบานปิดอีกช่อง ด้านบนมีชั้นลอยช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี และติดเครื่องปรับอากาศมาให้ได้ตามที่เห็นเลย

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนห้องอเนกประสงค์ซึ่งจะใช้เป็นห้องนอนเล็ก, ห้องทำงาน หรือ Walk in closet ก็ได้ค่ะ

มีฉากกั้นห้องเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 3 บาน กั้นส่วนห้องนอนมาให้เป็นสัดส่วน ช่วยกันกลิ่นอาหารจากครัวและห้องนั่งเล่นเข้าไปในส่วนห้องนอน บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัว อาจติดฟิล์มแบบกระจกเงาหรือกระจกฝ้าเพิ่มอีกที ส่วนตัวแนะนำฟิล์มกระจกฝ้าค่ะ เพราะแสงธรรมชาติจะได้ส่องเข้ามาในห้องนั่งเล่นอยู่

ภายในห้องอเนกประสงค์ ห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องนอนเล็กพร้อมตู้เสื้อผ้า ของจริงได้ฐานเตียงขนาด 3.5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้า Built in ตามที่เห็นในห้องค่ะ

หน้าต่างห้องนอนเป็นกระจกทั้งบนทั้งล่าง ด้านบนเปิดออกได้ เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ ทำให้ได้ช่องแสงธรรมชาติที่กว้าง ทำให้ห้องโปร่งและสว่างไม่อับทึบ

ส่วนผนังหัวเตียงห้องตัวอย่างทำ Built in ชั้นลอยสำหรับวางของมาให้ดูเป็นไอเดีย

ส่วนปลายเตียงทำชั้นลอยสำหรับวางของมาให้ดูเป็นไอเดียอีกจุด ด้านบนติดเครื่องปรับอากาศมาให้ของจริงได้ตามนี้

ข้างเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built in มาให้ เปิดตู้ให้ดูจะเห็นว่ามีราวแขวนเสื้อผ้าบนล่างและช่องเก็บของมาให้หลายช่อง

จากห้องนอนเล็กมองออกไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นแบบนี้

เข้าไปดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ จะเห็นว่าส่วนห้องนอนของห้องนี้จะกั้นห้องเป็นผนังทึบพร้อมของจริงจะมีประตูบานปิดเป็นสัดส่วน

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ของจริงได้ฐานเตียงไม่รวมฟูกหมอนผ้าปูตามปกติ และจากห้องนอนจะมีประตูเปิดออกไประเบียงได้

ระยะปลายเตียงประมาณ 60 cm. พอเดินไปมาได้สบายๆ

มองไปทางฝั่งปลายเตียงที่ผนังเตรียมช่องเสียบปลั๊กไฟและที่เสียบสายสัญญาณมาให้เรียบร้อย ห้องตัวอย่างแขวนทีวีมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ และมีช่องที่ทำ Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย

เปิดตู้ให้ดูจะเห็นว่ามีราวแขวนเสื้อผ้าบนล่าง ราวแขวนชุดเดรส และช่องเก็บของมาให้หลายช่อง

ข้างเตียงวางโต๊ะทำงานพร้อมเก้ามาให้ดูระยะใช้งาน

มองไปผนังฝั่งประตูทางเข้าห้อง ติดเครื่องปรับอากาศมาให้ ของจริงได้ตามนี้

ข้างเตียงด้านที่อยู่ฝั่งประตูเปิดออกไประเบียง มีระยะพอเดินไปมาและวางโต๊ะข้างเตียงได้

จากในห้องนอนจะมีประตูเปิดออกไประเบียงได้ เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ เปิดได้ 1 บานคือบานขวาสุดหรือบานตรงกลางค่ะ

ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาขนาด 30 x 30 cm. มาให้ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีเทาและที่พื้นระเบียงเดินท่อระบายนำ้และงานระบบสำหรับเครื่องซักผ้ามาให้ โดยที่ระเบียงติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟและฝาครอบกันน้ำและก็อกน้ำติดผนังมาให้

ที่ระเบียงจะแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้ด้านบน 2 ตัว และวางแอร์คอมเพรสเซอร์ด้านล่างมาให้อีกตัว พร้อมมีกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เรียบร้อย

ราคา (ส.ค.60)

• 1 Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) 23.85 – 25.71 ตร.ม. ราคา 1.49 – 2.12 ล้านบาท
• 1 Bedroom Exclusive (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ + ห้องครัวแยกส่วน) 28.94 – 41.59 ตร.ม. ราคา 1.97 – 3.22 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ + ห้องอเนกปนะสงค์) 38.06 – 51.90 ตร.ม. ราคา 2.57 – 3.87 ล้านบาท
• 2 Bedroom 50.48 – 54.32 ตร.ม. (2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) ราคา 3.51 – 4.17 ล้านบาท

โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมชุดครัว เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องปรับอากาศ

– เงินจอง 10,000-20,000 บาท

– เงินทำสัญญา 20,000-30,000 บาท

– ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.

– ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)

สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

ลงทะเบียนวันนี้รับส่วนลดเพิ่ม 100,000 บาท คลิกที่นี่ >> http://atmozcondo.com

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ –โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 มีที่ตั้งอยู่บนถนนนาคนิวาส ห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าวประมาณ 3.5 กม. เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย มีทางลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายทาง และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์อีกด้วย

ความอุดมสมบูรณ์ –เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนนาคนิวาสที่มีร้านอาหารและมินิมาร์ทอย่าง 7-11 และ FamilyMart อยู่ใกล้ เดินไปมาได้สบายๆ โดยถนนนาคนิวาสเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าว 71 และถนนโชคชัย 4 ซึ่งเป็นโซนเด่นของย่านลาดพร้าวมาช้านาน จากความอุดมสมบูรณ์ของทำเล มีร้านอร่อยให้เลือกเป็นร้อยร้าน อยากกินอาหารร้านเด็ดๆ ยกตัวอย่างเช่นเย็นตาโฟฟ้าผ่า, เกาเหลาเนื้อตุ๋นสว่างอรุณ, โจ๊กกองปราบ, เฝอ, สามวันสองคืน เป็นต้น

จะไปตลาด หรือจะหาร้านนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆก็ง่าย ออกมาถนนใหญ่ลาดพร้าวก็มีโรงพยาบาลและสถานศึกษาและห้างอีกมาก จัดเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากค่ะ มีร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หาของกินได้ง่ายและหาได้เช้าจรดค่ำ

จากถนนนาคนิวาสเชื่อมต่อออกไปได้หลายทางทั้งเลียบทางด่วนรามอินทรา, ถนนรัชดาภิเษกและถนนลาดพร้าว โดยตัวโครงการห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าว 3.5 กม.และเลียบทางด่วนรามอินทราประมาณ 4.3 กม.เท่านั้น สภาพแวดล้อมเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ออกมาก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งทั้ง เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, CDC, MaxValue, HomePro, Lotus เป็นต้น

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนใช้รถ จุดเด่นที่ทำให้คนใช้รถมีความสะดวกสบายสูงเพราะตั้งอยู่ติดถนนนาคนิวาส ห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าวประมาณ 3.5 กม. เป็นโซนที่มีทางลัดเลี่ยงรถติดไปออกถนนใหญ่ได้หลายทางจากซอยใกล้เคียงต่างๆได้เยอะ ไม่ว่าจะลาดพร้าวเอง หรือถนนรัชดาภิเษก, ถนนพหลโยธิน, ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์), เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ พร้อมอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ อีกด้วย

การที่ใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ยาก โดยเฉพาะถนนลาดพร้าวที่เป็นถนนตรงยาวมาตั้งแต่สวนจตุจักรเรื่อยไปจนถึงแถวบางกะปิ ช่วงเช้า-เย็นปกติจะมีปริมาณรถบนถนนหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดงและทางกลับรถที่มีอยู่เป็นระยะๆ

ดังนั้นจะแนะนำให้เลี่ยงมาใช้ถนนรัชดาภิเษกค่ะ เพราะมีทางกลับรถน้อยกว่า และมีทางลัดเข้าซอยมาโครงการได้เช่นกันที่ซอยรัชดา 36, 32 เส้นทางการเดินรถรอบโครงการสามารถไปได้ทั้ง เข้า-ออกนอกเมืองด้วยการใช้โทลล์เวย์ หรือทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – การเดินทางโดยไม่ใช้รถ จากหน้าโครงการติดถนนนาคนิวาส ซึ่งมีรถผ่านทั้งกลางวันกลางคืนไม่ว่าจะรถแท็กซี่, รถสองแถวแดง, รถกะป๊อ และจะมีวินมอเตอร์ไซค์บริการ ประมาณ 30 บาทออกมาที่ถนนใหญ่ลาดพร้าวค่ะ หน้าโครงการมีรถแท็กซี่ผ่านตลอด และผ่านเยอะด้วย

สำหรับรถไฟฟ้า ปัจจุบันจะมีสถานีรถไฟใต้ดิน MRT ลาดพร้าว ที่ใกล้โครงการที่สุด โดยห่างจากโครงการไปประมาณ 5.8 กม. ที่แยกรัชดา – ลาดพร้าว นั่งไปเพียง 2 สถานีถึงรถไฟใต้ดิน MRT สวนจตุจักรที่เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว หมอชิตแล้ว ในอนาคตบนเส้นพหลโยธินมีโครงการสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพิ่มเติมต่อจากสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต โดยตัวสถานีจะตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินยาวไปถึงสะพานใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มก่อสร้างไปแล้วค่ะ

นอกจากนี้บนถนนลาดพร้าวเองจะมีโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองอ่อนสายอนาคต รัชดา/ลาดพร้าว – พัฒนาการ ตัดผ่าน โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานี ฉลองรัช สร้างเสร็จเมื่อไหร่โซนนี้ก็จะมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ที่กระจายตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางที่หลากหลายมากขึ้นไปอีก

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์แบบ Built in มาให้พร้อมแอร์ครบทุกยูนิต สำหรับราคานี้ก็ถือว่าเลือกวัสดุมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว ได้ Digital Door Lock ทุกห้อง ฝ้าเพดานสูง 2.4 ม. เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นเป็นสมาร์ทไวนิลลายไม้ที่มีความทนทานกว่าลามิเนต และห้องน้ำกับระเบียงจะเป็นกระเบื้องเซรามิกที่มีความทนทาน สุขภัณฑ์ของ Cotto มาพร้อมฉากกั้นห้องน้ำ และมีห้องครัวมาให้ พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ Built in ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี แบบห้องมีการจัดวางระยะใช้สอยที่ใช้งานได้สบายและลงตัว ไม่อึดอัด

สิ่งอำนวยความสะดวก – ถือว่าเป็นโครงการที่เตรียมเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยมาดีเลยค่ะ โดยทางเข้าออกโครงการเป็น Access Card ทั้งหมด มี CCTV รอบโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พื้นที่ส่วนกลางจะมี

อาคาร A มี Duplex Lobby Lounge, Library & Meeting Hub, Karaoke Theater, Game Room ระหว่างอาคาร C และ B จะมี Co-chilling space, Smart Fitness, Natural Form Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 23 x 33 เมตร ลึก 1.2 เมตร, Lakeside Infinite Pool & Pavilion ระบบเกลือ ขนาด 25 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร, Arched Garden ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร ที่จอดรถประมาณ 369 คัน คิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน และ ที่จอดรถจักรยานยนต์อีก 52 คัน พร้อมวิวทะเลสาบขนาดใหญ่ถึง 21 ไร่ ข้างที่ดินโครงการ สร้างบรรยากาศและวิวที่แตกต่างไปจากโครงการคอนโดทั่วๆไป

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 087-701-0071

Website : http://atmozcondo.com/

ID LINE : @atmoz71 หรือตามลิงค์นี้ค่ะ https://line.me/R/ti/p/%40atmoz71

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คอนโด ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 The Excel Ratchada 17

The Excel รัชดา 17 คอนโดใหม่จาก All Inspire บนทำเลศักยภาพในซอยรัชดาภิเษก 17 เหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ด้วยรูปแบบทันสมัย คล่องตัว และตื่นตัวจากความรื่นรมย์ของเมืองหลวงตลอดเวลา มีสไตล์ที่โดดเด่นเหนือใคร

ด้านการเดินทางเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ทั้งทางออกปากซอยรัชดาภิเษก 17, ทำงออกแยกสุทธิสาร-รัชดาฯ (มีกำหนดการเดินรถทางเดียวเป็นบางช่วงเวลา) ทางออกซอย ม.หอการค้า สู่ถนนหลักอย่างถนนวิภาวดี-รังสิตอีก

ทั้งยังเดินทางสะดวกสบายใกล้ขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า MRT สถานีสุทธิสารเพียง 1 กม. และรถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง เพียง 1.4 กม. เป็นต้น

โครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 17 แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสๆ ละ 2 อาคาร (รวม 4 อาคาร) เป็นอาคารสูง 5-8 ชั้น จำนวน 239 ยูนิต โดยเฟส A-B จำนวน 167 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-3-29 ไร่ และ เฟส C-D จำนวน 64 ยูนิต และ ร้านค้า 1ยูนิต บนเนื้อที่ 0-3-53 ไร่

แบ่งห้องชุดอาศัยเป็นประเภท 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25, 28, 29, 30.5 และ 33.5 ตร.ม. และประเภท 1 ห้องนอน + (1 Bed Plus) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.9 ตร.ม. เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออยู่อาศัย และลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งคาดเริ่มลงมือก่อสร้างในเดือน ก.พ. 2561 กำหนดแล้วเสร็จเดือน ม.ค. 2562

นอกจากที่ตั้งโครงการจะอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพแล้วทาง บริษัท ออลล์ อินสไปร์ฯ ยังใส่สิ่งอำนวยความสะดวกไว้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Swimming pool, Co-Working Space, Fitness,Garden , Shop รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ

จัดเก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลาง 45 บาท ต่อตร.ม. ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ และค่ากองทุน 500 บาท ต่อตร.ม. ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์

พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการ ในงาน VVIP Day 2 ก.ย. 2560 นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยรัชดา 17 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.

:: FLOOR PLAN ::

Master Plan

1st Floor Plan

2nd Floor Plan

3rd Floor Plan

4th Floor Plan

5th Floor Plan

6th Floor Plan

7th Floor Plan

8th Floor Plan

:: UNIT TYPE ::

1 Bedroom ขนาด 25.00 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 29.20 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 30.05 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 33.00 ตร.ม.

1 Bedroom Plus ขนาด 33.50 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel :  02-029-9999

Website : http://www.allinspire.co.th/

คอนโด เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน-คูคต The Kith Plus Phahonyothin Khukot

เตรียมพบกับ “The Kith Plus พหลโยธิน-คูคต“ จาก SENA คอนโดใหม่ คุ้มที่สุดในเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม พร้อม Solar Roof ส่วนกลาง ช่วยลดโลกร้อน มีบริการ Shuttle Car รับ-ส่ง ถึงสถานีคูคต เปิดจอง 1 ต.ค. นี้ เริ่ม 1.1 ล้านบาท*  ฟรี เฟอร์นิเจอร์ + แอร์

ที่ตั้งโครงการ

ถนนลำลูกกา 11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

พิกัด Google : 13.951705, 100.642344

:: FLOOR PLAN ::

แปลนอาคาร A ชั้น 2-8

:: UNIT TYPE ::

TYPE A : 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม.

TYPE B : 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1775 # 29

Website : http://www.sena.co.th

คอนโด เดอะ พอร์ท สุขสวัสดิ์ The Port Suksawat

The Port สุขสวัสดิ์ คอนโด Low-Rise 5-6 ชั้น 3 อาคาร เน้นการออกแบบให้มีความโปร่ง ห้องชุดพักอาศัยรวม 169 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 22.55-75.9 ตร.ม.

โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ  ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา และ รถไฟฟ้า BTS ศาลากลาง (ส่วนต่อขยาย) ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขสวัสดิ์ ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-425-1365

Website : https://www.facebook.com/theportsuksawat/

คอนโด เดอะ พอร์ท แกรนด์ ริเวอร์ฟรอนท์ The Port Grand Riverfront

The Port Grand Riverfront คอนโดริมน้ำ เป็นส่วนตัวเพียง 44 ยูนิต แห่งเดียวบนถนนสุขสวัสดิ์ หรูหราท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมความสะดวกสบายครบครัน

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขสวัสดิ์ ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

:: การเดินทาง ::

พิกัด Google : 13.598041, 100.584657

การเดินทางเริ่มจาก ทางพิเศษกาญจนาภิเษก ทางออก 13 ถนนสุขสวัสดิ์ (พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์) > ถนนสุขสวัสดิ์ > หอนาฬิกา >—650 ม.—> เดอะพอร์ท สุขสวัสดิ์ คอนโดมิเนียม *ตรงข้ามองค์พระสมุทรเจดีย์

การเดินทางให้เราเริ่มจากทางพิเศษกาญจนาภิเษก ทางออก 13 ถนนสุขสวัสดิ์ (พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์) คะ

วนวงแหวนมาผ่านด่านค่าเก็บทางพิเศษ

จากนั้นให้เบี่ยงซ้ายออก แล้วชิดขวาตามป้ายไปพระสมุทรเจดีย์คะ

ตามป้ายไปพระสมุทรเจดีย์ ตรงขึ้นทางต่างระดับเข้าสู่ถนนสุขสวัสดิ์

จะผ่านวงแหวนรอบนอกฯ ที่เราพึ่งลงมาคะ

จากนั้นให้ขับตรงไปเรื่อย ๆ ขวามือจะผ่านท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต

ผ่าน รพ.กรุงเทพพระประแดง ขวามือ ให้ตรงไปหอนาฬิกา

พอถึงหอนาฬิกาให้ขับตรงไปวัดพระสมุทรเจดีย์ จากแยกนี้อีกประมาณ 650 ม. ถึงโครงการคะ

ถึงโครงการของบริษัท ศรีสมุทร พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด ซึ่งมี 3 โครงการ

• เดอะพอร์ท สุขสวัสดิ์ คอนโด
• เดอะพอร์ท ทาวน์โฮม สุขสวัสดิ์-พระสมุทรเจดีย์
• เดอะ พอร์ท แกรนด์ ริเวอร์ฟรอนท์ (New)

:: FLOOR PLAN ::

1st Floor Plan

2nd Floor Plan

3rd Floor Plan

4th-5th Floor Plan

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-425-1365

Website : https://www.facebook.com/theportsuksawat/

คอนโด เสนา อีโคทาวน์ รามอินทรา-วงแหวน Sena Eco Town Ramindra-Wongwaen

เตรียมพบกับ Sena Eco Town รามอินทรา-วงแหวน โครงการใหม่ล่าสุดจาก SENA กับคอนโดใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความสุข…บนถนนรามอินทรา เพียงไม่กี่ก้าวถึง สถานี รามอินทรา 83 เงียบสงบ ห้องพักเพดานสูง 2.8 เมตร เป็นส่วนตัว เพียง 5 ยูนิต ต่อชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม พื้นที่ส่วนกลาง 70% ที่จอดรถ 100%  เปิดจอง 1 ต.ค. นี้ เริ่ม 1.59 ลบ. ฟรี เฟอร์นิเจอร์ + แอร์*

ที่ตั้งโครงการ

ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว

:: FLOOR PLAN ::

แปลนอาคารชั้น 1

แปลนอาคาชั้น 2

แปลนอาคารชั้น 3-4

แปลนอาคารชั้น 5

:: UNIT TYPE ::

Mono Plex : 26.00 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1775

Website : http://sena.co.th/

EP.895 รีวิว ทำเล คอนโด มารุ ลาดพร้าว 15 MARU Ladprao 15

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน มีใครกำลังสนใจคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้อยู่บ้างหรือเปล่า วันนี้เราจะพามาชมทำเลโครงการ MARU ลาดพร้าว 15 ซึ่งเป็นคอนโด High rise จาก Major Development กันค่ะ ตัวโครงการอยู่ติดกับถนนลาดพร้าวระหว่างซอยลาดพร้าว 15 และ ซอยลาดพร้าว 17 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว เพียง 80 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดี-รังสิต และ ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์

มารุ ลาดพร้าว 15 เป็น High rise Condominium สูง 30 ชั้น มี 1 อาคาร จำนวน 332 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-3-07 ไร่ มีขนาดห้องให้เลือกเป็น Studio, 1 Bedroom, 2 Bedrooms 1 Bath และ 2 Bedrooms 2 Baths ขนาดเริ่มต้นที่ 30.00 ตรม. ซึ่งทางโครงการกำลังจะเปิดพรีเซลล์ครั้งแรกในวันที่ 23-24 กันยายน นี้

สิ่งอำนวยความสะดวก ของทางโครงการจะเน้นเป็นพิเศษ มีพื้นที่ใช้สอยมาก จุดเด่นคือเป็น Pet Friendly & Wellness Living จัดสรรเนื้อที่มาให้อย่างหลากหลาย เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรมส่วนตัว และการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ อาทิ Lobby, Mailbox, Library, Swimming pool, Park, Sky Garden, Fitness, Workshop, ลิฟท์โดยสาร, Access Card Control, กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. โดยในส่วนที่เป็นพื้นที่ Outdoor จะสามารถนำสัตว์เลี้ยวเข้าไปได้ ในราคาเริ่มต้นที่ 3.6 ล้านบาท (เฉลี่ย 150,000 บาท/ตร.ม.)

วันนี้ทางทีมงานจะพาไปชมทำเลกันก่อน ซึ่งเมื่อโครงการเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เราจะมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ชมกันอีกครั้ง

ส่วนวันนี้สภาพแวดล้อมของโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

ลงทะเบียนรับพิเศษส่วนลดพิเศษ 100,000. คลิกที่นี่ www.marubymajor.com

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

พิกัด : 13.807746, 100.571190

ทำเลที่ตั้ง โครงการ MARU ลาดพร้าว 15 เป็น High rise Condominium ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวตอนบน เป็นพื้นที่ของปั๊ม Susco เก่าระหว่างซอยลาดพร้าว 15 กับ ซอยลาดพร้าว 17 ซึ่งอยู่ห่างจาก MRT สถานีลาดพร้าวเพียง 80 เท่านั้นเองค่ะ หลายๆคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าถนนลาดพร้าวเป็นเส้นที่มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะมีทั้งออฟฟิศ, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, อพาร์ทเม้นท์, คอนโดมิเนียมทั้ง High rise และ Low rise และบ้านพักอาศัย เรื่องอาหารการกินนั้นก็ไม่ขาดปาก ตอนนี้ลาดพร้าวก็เรียกได้ว่าเป็นย่าน Vertical Living Area หรือ พื้นที่อยู่อาศัยในแนวตั้งอีกหนึ่งย่าน นั่นก็เพื่อการรองรับความเจริญของศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District) ย่านรัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งเป็น CDB ใหม่ของกรุงเทพมหานครนั่นเอง

การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางถือว่าสะดวกมาก หากมองในมุมมองของคนที่ทำงานอยู่ในช่วง รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว-วิภาวดี เพราะโครงการอยู่ติดถนนลาดพร้าวเลย จากถนนลาดพร้าวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ทั้ง พหลโยธิน ใช้วิ่งออกไปทางอนุสาวรีย์ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้, วิภาวดี-รังสิต วิ่งขนานกับเส้นพหลโยธิน แต่มีการจราจรที่คล่องตัวกว่าค่ะ ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนาและชลบุรี, รัชดาภิเษก ตัดกับถนนลาดพร้าวตรงแยกลาดพร้าว-รัชดา ใช้วิ่งลงไปทางพระราม 9 ได้, ประดิษฐ์มนูธรรม มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้บนเส้นลาดพร้าวก็ยังมีทางลัดไปออกถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ได้จาก ซอยลาดพร้าว 41 และ ถนนโชคชัย 4 เข้าถนนลาดพร้าววังหิน และ ถนนนาคนิวาส เชื่อมต่อกับถนนสุคนธสวัสดิ์ ใช้ออกเกษตร-นวมินทร์ได้สะดวก จากเส้นเกษตร-นวมินทร์ยังมีซอยมัยลาภ ใช้เป็นทางลัดออกถนนรามอินทราได้อีกด้วย บนเส้นรัชดาภิเษกเองก็จะมีซอยโชคชัยร่วมมิตร ที่สามารถใช้เข้าถนนวิภาวดี-รังสิตได้ จากถนนวิภาวดี-รังสิตจะเชื่อมกับซอยพหลโยธิน 18 (ซอยวิภาวดี-รังสิต 3) ออกเส้นพหลโยธินตรงแยกกำแพงเพชรพอดี

แต่ข้อเสียของถนนลาดพร้าวก็คือ เป็นถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณรถที่มากตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีแยกไฟแดงและทางกลับรถอยู่อีกเป็นระยะๆ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ถนนซอยเล็กๆในการลัดเลาะไปออกถนนเส้นอื่นๆประกอบด้วย จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมากค่ะ

ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ในระยะเพียง 4.9 กม.เท่านั้น ซึ่งถ้ารถไม่ติดมากใช้เวลาขับไปไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงค่ะ โดยจากโครงการให้กลับรถไปถนนลาดพร้าวฝั่งมุ่งหน้าไปถนนพหลโยธิน จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายออกถนนพหลโยธินไปกลับรถอีกที เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหอวัง จากนั้นพอวิ่งออกมาที่ทางคู่ขนานวิภาวดี-รังสิต ตรงนั้นจะมีทางแยกฝั่งซ้าย เป็นด่านเก็บเงินลาดพร้าวขาออกขึ้นทางยกระดับค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมบนถนนลาดพร้าวและบริเวณใกล้เคียงมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ เพราะเป็นย่านของแหล่งที่พักอาศัยในแนวดิ่ง ซึ่งคนส่วนมากอาจจะไม่ได้ปรุงอาหารทานกันเองในทุกๆมื้อ ก็ต้องออกมาพึ่งร้านอาหารข้างทางกันนี่แหละ สะดวกและรวดเร็วที่สุดแล้ว ดังนั้นตลอดถนนเส้นนี้ก็จะมีทั้งร้านอาหารทั้งร้านทั่วไปและพวก Chain Restaurant, ร้านสะดวกซื้อก็เห็นมีกระจายอยู่, ร้านขายของชำ, ร้านขายยา, ร้านอินเตอร์เน็ต, คลีนิกเสริมความงาม, คลีนิกทันตกรรม ถ้าเข้าไปตามตรอกซอกซอยก็มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ อย่างเส้นลาดพร้าววังหิน,ถนนโชคชัย 4 และถนนนาคนิวาสนี่ก็อุดมสมบูรณ์มากๆ

ส่วนแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นเซ็นทรัลลาดพร้าวกับแฟชั่นมอลล์อย่าง Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ถ้าจะดูเป็น Hypermarket เพื่อซื้อของเข้าบ้านก็จะมี Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Grean และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดินในวันสบายๆ ออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้สะดวกนะคะ

นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รร.หอวัง, ม.ราชภัฏจันทรเกษม และ ม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเช่นกัน บริเวณหน้าโครงการมีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด ถ้าวันไหนไม่เร่งรีบมาก อยากประหยัดเงินก็สามารถขึ้นรถเมล์ได้ค่ะ ป้ายรถเมล์จะมีอยู่บริเวณหน้าโครงการเลย สายที่ผ่านก็มีสาย 8, 8ปอ, 44ร, 92, 96, 122ร, 145, 145ส, 502, 517 และ 545ร

ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว เพียง 80 เมตรเท่านั้น (ทางออกที่ 3) ซึ่งในอนาคต สถานีลาดพร้าว จะเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ ที่ สถานีรัชดา ส่วน สถานีพหลโยธิน ที่อยู่ถัดไป 1 สถานีจะเป็นสถานี Interchange กับ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ของ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ นอกจากนี้บริเวณนี้ก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบทางด่วนรามอินทราอีก 1 สายค่ะ

จากหน้าโครงการเดินบนฟุตบาทถนนลาดพร้าวไปเพียงนาทีเดียวก็ถึง MRT สถานีลาดพร้าวแล้วค่ะ ฝั่งของโครงการจะเป็นทางออกที่ 3 เดินไปแค่ 80 เมตรเท่านั้น

สถานีพหลโยธินก็อยู่ไม่ไกล ทางออกที่ใกล้ที่สุดคือทางออก 1 เร็วๆเลยก็นั่งวินไปค่ะ ทางออกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Union mall ถ้าเดินลงสถานีพหลโยธินเดินข้ามไปที่ทางออกที่ 3 จะไปโผล่ที่หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าวเลย

หรือถ้าจะไป BTS สถานีหมอชิตเลยก็อยู่ไม่ไกลนะ ถ้านั่งรถไปจากหน้าโครงการให้กลับรถก่อน จากเส้นลาดพร้าวเลี้ยวซ้ายเข้าพหลโยธิน ตรงไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว ที่ใกล้ที่สุดคือทางออกที่ 4 ค่ะ

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ MARU ลาดพร้าว 15 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) > ถนนลาดพร้าว > แยกรัชดา-ลาดพร้าว > ถนนลาดพร้าว > กลับรถใต้สะพาน > ถนนลาดพร้าว > โครงการ MARU ลาดพร้าว 15

วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือที่คุ้นหูกว่าก็คือเลียบด่วนรามอินทรานั่นเองค่ะ บริเวณที่เราอยู่ตอนนี้ก็คือช่วง CDC จากตรงนี้จะใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 20 นาทีถึงโครงการ

วิ่งผ่าน CDC มาแล้วก็ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายประดิษฐ์มนูธรรมให้ชิดไปทางเลนขวาค่ะ

จากนั้นจะเห็นป้ายพระราม 9 ให้เราชิดขวาตรงไปตามทางนั้นเลยเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว 86

ชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกไปเลยค่า

เมื่อลงจากสะพานมาแล้วให้เรารีบชิดเลนขวาเพื่อกลับรถ

เมื่อกลับรถมาอีกฝั่งนึงแล้วให้ดูป้ายโชคชัย 4 เอาไว้ค่ะ

ดูป้ายโชคชัย 4-รัชดาภิเษกเอาไว้ ให้เราชิดซ้ายนะ

ข้างหน้าถ้าชิดขวาจะขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว 86 ไปทางรามอินทราค่ะ แต่เราจะชิดซ้ายเอาไว้

จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ถ้าออกทางขวาจะยูเทิร์นกลับไปอีกฝั่งนะ

เข้ามาที่ถนนลาดพร้าวจะเป็นถนนขนาด 6 เลนมีเกาะกลางแบ่งอย่างชัดเจน ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของถนนจะเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise หลากหลายแบรนด์ ขับไปเรื่อยๆเราจะวิ่งผ่านตลาดสะพาน 2 อยู่ฝั่งขวามือของเราค่ะ

วิ่งตรงไปเรื่อยๆผ่านแยกรัชดา-ลาดพร้าว

เลยแยกไปไม่ไกลเราจะเห็นทางออก MRT สถานี ลาดพร้าว

ขับเลยไปจะเจอ Big C ลาดพร้าว 2 อยู่ทางฝั่งขวามือ

และ Union mall ค่ะ เดี๋ยวเราจะเตรียมกลับรถใต้สะพานข้างหน้า

ชิดขวาและกลับรถไปฝั่งซอยเลขคี่

เมื่อกลับรถมาแล้วสังเกตฝั่งซ้ายมือจะเห็นสำนักงานควบคุมความประพฤติประจำศาลแขวงพระนครเหนือ

ขับมาผ่าน Big C ลาดพร้าว 2 อีกทีซึ่งจะอยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 7 กับซอยลาดพร้าว 9

พอเลยซอยลาดพร้าว 15 ไปนิดหน่อยตัวโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ตรงนี้จะเป็นปั๊ม Susco เก่า คนที่เคยผ่านไป-มาแถวนี้บ่อยๆคงจะจำกันได้นะ

ภาพบริเวณหน้าโครงการแบบชัดๆ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนรัชดาภิเษก : 500 ม.
• แยกลาดพร้าว-รัชดา : 500 ม.
• ถนนพหลโยธิน : 2.4 กม.
• แยกลาดพร้าว : 2.4 กม.
• ถนนวิภาวดี-รังสิต : 2.7 ม.
• แยกรัชโยธิน : 3.1 กม.
• แยกกำแพงเพชร : 4.7 กม.
• ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 4.7 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• Big C ลาดพร้าว 2 : 350 ม.
• ตลาดสะพาน 2 : 2.4 กม.
• สวนลุมไนท์บาซ่าร์ : 2.5 กม.
• บุญถาวร : 2.8 กม.
• ตลาดโชคชัย 4 : 3.1 กม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 3.2 กม.
• Union Mall : 3.3 กม.
• ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ : 3.7 กม.
• Tesco Lotus ลาดพร้าว : 3.9 กม.
• ตลาดนัดสวนจตุจักร : 4.6 กม.
• JJ Green : 4.6 กม.
• Major Cineplex รัชโยธิน : 5.3 กม.
• JJ Mall : 5.5 กม.
• เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์ : 6.5 กม.
• The Crystal : 6.8 กม.
• CDC : 7.5 กม.

สถานศึกษา

• ม.เซนต์จอห์น : 2.7 กม.
• ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 2.7 กม.
• รร.หอวัง : 3.7 กม.
• ม.เกษตรศาสตร์ : 10.2 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.โกลเด้นเยียร์ : 2.6 กม.
• รพ.สุทธิสาร : 4.2 กม.
• รพ.เปาโลเมโมเรียล : 5.2 กม.

ศาสนสถาน

• วัดลาดพร้าว : 2.4 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• ไปรษณีย์ลาดพร้าว : 4.0 กม.
• ไทยรัฐ : 4.1 กม.
• สนง.ขนส่ง ลาดพร้าว : 4.2 กม.
• สวนจตุจักร : 4.6 กม.
• สนง.ใหญ่การบินไทย : 5.1 กม.
• สวนรถไฟ : 5.9 กม.
• สนามกีฬากองทัพบก : 9.4 กม.

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

บนถนนลาดพร้าวที่ดินที่ติดกับถนนจะเป็นออฟฟิศ, คอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise, ธนาคาร และอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างเปิดเป็นกิจการอย่างหลากหลายตั้งแต่ร้านอาหาร, ห้างทอง จนไปถึงคลีนิกเสริมความงามค่ะ ถัดเข้าไปภายในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยสูงตั้งแต่ 1-3 ชั้น มีทั้งอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมกระจายตัวกันอยู่ด้วย

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพิพัฒน์ อพาร์ทเม้นท์ สูง 8 ชั้น และบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลสูง 1-2 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ ถนนลาดพร้าว
• ทิศตะวันออก ติดกับ ตึกแถวสูง 3 ชั้น และโกดังเก็บของสูง 1 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ ตึกแถวสูง 3 ชั้น และ เอกบดินทร์ คอนโดมิเนียม สูง 7 ชั้น

บริเวณที่ตั้งโครงการก็คือปั๊ม Susco เก่าค่ะ ตอนนี้เหลือเป็นที่ดินโล่งๆแล้ว

เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันค่ะ จะได้เห็นว่าแถวนี้อยู่ง่าย สะดวกสบายจริงๆ ที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการก็คืออาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น

เริ่มจากทางฝั่งขวามือกันก่อน

บริเวณหน้าโครงการจะติดกับสะพานลอยตรงหน้าอาคารพาณิชย์ค่ะ

ใต้อาคารพาณิชย์เปิดเป็นกิจการต่างๆ มีร้านอาหารเป็ดอ้วน (วันนี้ปิดให้บริการ เสียดายจัง)

มีคลีนิกเวชกรรม, คลีนิกเสริมความงาม และร้านขายเสื้อผ้าก็มี ใกล้ๆนี้มีสารพัดร้านค้าเลยค่ะ

เดินเลยไปตรงปากซอยลาดพร้าว 15 จะมีทางข้ามม้าลาย ตรงหัวมุมมีร้าน The Fat Cow เป็นร้านเล็กๆ มีบรรยากาศภายในที่เป็นกันเองมาก สามารถนั่งชิลล์จิบ Craft beer ที่เจ้าของร้านได้คัดสรรมาแล้ว แกล้มกับเบอร์เกอร์เนื้อหรือจะเป็น Fish&Chip ก็มีคนแนะนำมาว่าเด็ด

เดินเลยไปหน่อยจะเจอร้านขายยานิอรเภสัช ที่เปิดขายอยู่ในย่านนี้มานานแล้ว

ข้างๆร้านขายยามี 7-Eleven ห่างออกมาจากตัวโครงการแค่ 110 เมตรเท่านั้น เดินมานาทีกว่าๆก็ถึง

เจอร้านอาหารอีกร้าน เป็นร้านอาหารอีสาน จุดขายของร้านคือเมนูจากเป็ดค่ะ

มองไปฝั่งตรงข้ามเจอคอนโด The Issara คอนโดสูง 47 ชั้นจาก ชาญอิสระ

จากตัวโครงการเดินมาเพียง 350 เมตรก็มาถึง Big C Extra แล้วค่ะ บนเส้นลาดพร้าวรถค่อนข้างติด ถ้าเดินมาได้ก็เลือกเดินจะเร็วกว่า ส่วนขากลับค่อยเรียกแท็กซี่กลับก็ได้หากของเยอะ บนเส้นลาดพร้าวก็มีแท็กซี่ผ่านอยู่ตลอดเวลาเลย

ไม่ไกลกันจะเจอ The Zest เป็น คอนโด High rise ค่ะ อยู่ตรงหัวมุมซอยลาดพร้าว 7

ตามด้วยคอนโด Low rise ซีทู

ตรงปากซอยลาดพร้าว 5 จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น Jirafu สุดชิคสไตล์ Sushi & Izakaya สำหรับคอซูชิและเบียร์ ในร้านจะมีเชฟปั้นซูชิกันให้ชมแบบสดๆ อีกทั้งยังมี Craft Beer นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นกว่า 30 ชนิด เดิมตรงนี้เคยเป็นปั๊ม Esso เก่านะ

ฝั่งตรงข้ามจะเห็นธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกสิกรไทยตั้งอยู่คู่กันพอดี

และไปรษณีย์สามแยกลาดพร้าวค่ะ

เดินผ่านซอยลาดพร้าว 5 มาจะเห็นคอนโด IDEO ลาดพร้าว 5 เป็นคอนโด High rise สูง 24 ชั้น

ที่ฝั่งตรงข้ามคือปั๊มน้ำมัน Esso และ คอนโด The Light สูง 20 ชั้น

ถัดไปเป็นสนง.ควบคุมความประพฤติกรุงเทพมหานคร 2, อาคารสำนักงานและอพาร์ทเม้นท์พร้อมพันธุ์

มีร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารักๆอยู่ข้างปากซอยลาดพร้าว 1/1 ด้วยนะ

มาถึงช่วงอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรวงต่างๆ ทั้งสปา, คลีนิกเวชกรรม, ร้านเสริมสวย, คลีนิกทันตกรรม รวมถึงธนาคารออมสิน

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ตั้งของธนาคาร TMB

เดินตรงไปจนใกล้ถึงซอยลาดพร้าว 1 จะมีสะพานลอยให้ข้ามฟากได้

ช่วงตีนสะพานก็มีร้านค้าอยู่อีกหลายร้าน ตรงนี้เป็นร้านขายรองเท้า, ร้านสะดวกซื้อ และร้านขายขนมไทยค่ะ

ตรงนี้ก็จะมีร้านขายดอกไม้ด้วยนะ

ถัดไปมีห้างทองและร้านขายโจ๊กมัลลิกา ขายกันมาร่วม 30 ปีเห็นจะได้ มีการปรับปรุงหน้าร้านให้ดูทันสมัยมากขึ้น ช่วงกลางวันจะมีขายก๋วยจั๊บเพิ่มด้วยนะ ต้องมาลองทานกันดู

เดินตรงไปจนถึงหน้าปากซอยลาดพร้าว 1 ตรงหัวมุมคือ Union mall แล้ว ข้างในซอยลาดพร้าว 1 จะเป็นชุมชนที่ค่อนข้างหนาแน่น เพราะมีตลาดและอพาร์ทเม้นท์อยู่เยอะ

บริเวณหน้าห้าง Union Mall คือ MRT สถานีพหลโยธิน ทางออกที่ 5 ค่ะ

กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งขวามือกันต่อ

ติดกับตัวโครงการคืออาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง ตึกแรกที่ติดกับโครงการคือกิจการเกี่ยวกับยางยนต์

มีร้านอาหารหลากหลายร้านเปิดรอให้บริการอยู่ ตามทางเดินจะมีร้านอาหารแผงลอยขายตั้งแต่ช่วง 10 โมงจนถึงบ่าย 3

เดินมาจากตัวโครงการเพียง 80 เมตร เราก็มาถึง MRT สถานีลาดพร้าวค่ะ ฝั่งนี้คือทางออก 3 นะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ ทำเลของโครงการ MARU ลาดพร้าว 15 ถือว่าสะดวกมากจริงๆสำหรับคนอาศัยอยู่ในละแวกนี้ ยังไงก็ขอฝากติดตามรีวิวฉบับเต็มของตัวโครงการในเร็วๆนี้ด้วยนะคะ

:::: GALLERY ::::

ภาพบรรยากาศจำลองของโครงการ MARU ลาดพร้าว 15 สูง 30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร

ภาพบรรยากาศจำลองของ Lobby สูง 2 ชั้น เชื่อมต่อพื้นที่ของทั้ง 2 ชั้นให้ flow ต่อกันด้วยพื้นที่แบบ Open to below space

ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำ และ Pool Deck

ภาพบรรยากาศจำลองภายในอาคารเชื่อมต่อกับ Pool deck วัสดุที่ใช้ภายในโครงการจะเน้นเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติสไตล์ Zen

ภาพบรรยากาศจำลองของ Roof Top โครงการ

ภาพบรรยากาศจำลอง ห้องนอนใหญ่มาก พร้อมประตูกระจกเต็มบ้านเปิดรับวิวสะใจเลยค่ะ ของห้องตกแต่งของโครงการ การตกแต่งจะออกแนวเรียบๆ ไม่หวือหวา น้อยแต่มากสไตล์ Zen

ลงทะเบียนรับพิเศษส่วนลดพิเศษ 100,000. คลิกที่นี่ www.marubymajor.com

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 084 416 7777

WEBSITE : www.marubymajor.com

‘Life Asoke-Rama 9’ (ไลฟ์ อโศก-พระราม 9) คอนโดบนทำเลแห่งอนาคต กับฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยมากที่สุดในตอนนี้

มาที่หลังแต่ปังที่สุด!…. กับการสร้างปรากฏการณ์เหนือความคาดหมายครั้งใหญ่อีกครั้งของ AP (Thailand)  ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2017 กับโครงการที่คนในแวดวงอสังหาฯ ต่างกำลังพูดถึงกันด้วยความตื่นเต้นอย่างออกรส

‘Life Asoke-Rama 9’ (ไลฟ์ อโศก-พระราม 9) High-Rise คอนโดมิเนียมที่อยู่บนทำเลใจกลางย่านที่มีความเจริญมากที่สุด คนอยู่อาศัยมากที่สุด และทำให้มีการลงทุนมากที่สุด ตั้งอยู่ติดถนนอโศก-ดินแดงฝั่งขาออก

การเดินทางสะดวกสบาย ด้วยทางพิเศษศรีรัช ทางด่วนพระราม 9  อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ระยะทาง 300 เมตร  และใกล้ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน ประมาณ 500 เมตร

คอนโดมิเนียม Brand LIFE ของ AP(Thailand)  เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมที่ได้รับความสนใจและมีชื่อเสียงมายาวนาน ว่าเป็นแบรนด์คอนโดรายแรก  ที่ตอบโจทย์คนที่อยากอยู่คอนโดติดรถไฟฟ้า

และเมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา มีการอัพเกรดด้าน Brand Positioning ให้เป็นคอนโดระดับพรีเมี่ยม ที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ใส่ใจเรื่องพื้นที่ใช้สอย และจัดเต็มเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในตัวอาคาร เหมาะที่สุดที่จะอยู่อาศัยและใช้ชีวิตใจกลางเมือง

กับความสำเร็จคอนโดแบรนด์ Life 2 โครงการแห่งปี 2017 ที่สร้างปรากฏการณ์ สุดปัง! ให้กับวงการอสังหาฯ มาแล้ว ได้แก่ Life ลาดพร้าว กับ Life One Wireless ด้วยทำเล /ฟังก์ชั่น/ พื้นที่ใช้สอยและราคาที่เรียกว่าคุ้มค่ามากๆ เปิดวันแรกคนจองกันถล่มทลาย

Timing ที่ดีที่สุดของย่านนี้ ….คือ อีก 3 ปี! (ปี 63) เพราะ อโศก–พระราม 9 จะอัพเกรดเป็นทำเล CBD อย่างแท้จริง

Project Detail

ที่ตั้งโครงการ

ถนนอโศก-ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

‘Life Asoke-Rama 9’ (ไลฟ์ อโศก-พระราม 9) ตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี จังหวัดกรุงเทพมหานคร นับเป็นโครงการที่ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางได้เป็นอย่างดี กับคนที่ใช้ชีวิตในย่านนี้จริงๆ ไม่ว่าจะด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9  , สถานีเพชรบุรี หรือ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน ก็ล้วนแต่อยู่ในระยะที่เดินได้ ส่วนคนที่ใช้รถก็สามารถ ใช้ทางด่วนพระราม 9 หรือ ทางพิเศษศรีรัชที่อยู่ใกล้ได้เช่นกัน

ไม่เฉพาะเพียงแต่ด้านการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ทำเล ‘อโศก-พระราม 9’ นั้น เรียกได้ว่า มีการพัฒนาในด้านความเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่เจริญเติบโต รายล้อมด้วยอาคารสำนักงานระดับบิ๊กโปรเจ็กต์ ทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว เช่น  AIA Capital Center , Unilever House ,อาคารตลาดหลักทรัพย์ ,G Land Tower และรวมไปถึงอาคารที่กำลังสร้างอยู่อย่างเช่น The Super Tower  อาคารระดับ Landmark แห่งยุคทองอสังหาฯ ด้วยความสูง 125 ชั้น 615 เมตร

อีกทั้งยังมีแหล่งอำนวยความสะดวกด้าน Lifestyle อย่าง Central Rama 9, Esplanade, Fortune Town ทำให้กลายมาเป็นย่านที่เป็นทั้งศูนย์รวมตัวทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับ Lifestyle ของสังคมคนยุคใหม่ เกิด Demand อย่างมหาศาลของผู้อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

‘Life Asoke-Rama 9’ (ไลฟ์ อโศก-พระราม 9) “ก้าวให้ทัน หรือ ก้าวให้นำ” –LIVE A VISIONARY LIFE

เตรียมเปิดขายโครงการ ‘Life Asoke-Rama 9’ (ไลฟ์ อโศก-พระราม 9) คอนโดคุณภาพที่มาพร้อมกับ Rooftop Facility ที่มโหฬารที่สุดในย่านนี้ (1.5 ไร่)  และจัดเต็มพื้นที่บนดาดฟ้า 360 Panoramic View ขนาดใหญ่เชื่อมกัน ที่ความสูงต่างระดับ 3 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำ 3 สระ ทั้งแบบมาตรฐานโอลิมปิก ยาว 50 เมตร , 45 เมตร และสระ 23 เมตร ขอบกระจกระฟ้าแบบ Aquarium Sky Pool พร้อม Fitness สองชั้น ..พื้นที่ด้านล่างส่วนกลาง Grand Lobby กับ Super Co-Working Space  มี Free WIFI บนพื้นที่ส่วนกลางทุกจุด

ให้คุณได้ก้าวนำ ล้ำหน้าก่อนใคร หากคุณเป็นคนยุคใหม่ที่อยากมีชีวิตอยู่บนทำเลหมื่นล้าน อโศก-พระราม 9 แห่งนี้ และมุมมองเพื่อความสำเร็จ จัดไปเลย! ‘Life Asoke-Rama 9’ (ไลฟ์ อโศก-พระราม 9) ราคาดีที่สุด เริ่มต้น 110,000 บาท/ ตร.ม หรือ 2.75 ล้าน* สอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม หรือ ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 300,000 บาท* คลิก >>> https://goo.gl/d4KCzb

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1623 / 0-2261-2518

Website : www.apthai.com/คอนโด/life/life-asoke-rama-9/

นิช โมโน สุขุมวิท 70 – แบริ่ง Niche Mono Sukhumvit 70 – Bearing คอนโดใหม่ สูงสุดในย่านแบริ่ง เริ่ม 2.2 ลบ.

 “Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง” เราพัฒนาโครงการที่พักอาศัยจากแนวคิด “Life Charger” ความลงตัวของพื้นที่ชาร์จชีวิตคนเมืองยุคดิจิตอล ที่นี่ให้คุณชาร์จชีวิตได้ทุกวัน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเพียง 250 เมตร จาก BTS แบริ่ง

/ GEO FIT ช่วยให้ฟังก์ชั่นห้องพักอาศัย ได้ตอบโจทย์ชีวิตสะดวกสบาย / ให้คุณได้ปลดปล่อยและชาร์จพลังกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ / บริการพื้นที่ชาร์จพลัง 24 ชม. จาก 7-11 และ TOM & TOMS COFFEE  Pre-Slae 30 ก.ย. นี้ ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท คลิก :  https://goo.gl/kb1BdH

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 70/1 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.

พิกัด Google : 13.660103, 100.598721

:: FLOOR PLAN ::

Master Plan

:: UNIT TYPE ::

1 Bedroom : 28.00 ตร.ม.

1 Bedroom : 31.00 ตร.ม.

1 Bedroom Plus : 34.90 ตร.ม.

2 Bedrooms : 48.00 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1775 # 70

Website : http://www.sena.co.th

มีสินดี อพาร์ทเมนท์ คอนโด​ Mee Sin Dee Apartment Condo

มีสินดี อพาร์ทเมนท์ คอนโด​ | คอนโดพร้อมเข้าอยู่ ทำเลรถไฟฟ้าสีเหลือง ตกแต่ง Built-in พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน

คุ้มค่า…ทุกการลงทุน!!! “มีสินดี ” เป็นโครงการที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้บริการเป็นอพาร์ทเมนท์ ทำให้คุณมั่นใจในผลตอบแทน ที่จะได้รับค่าเช่าทุกเดือน โดยไม่ต้องรับความเสี่ยง ราคาเริ่มต้นเพียง 1.19 ล้านบาท*

ให้คุณเป็นเจ้าของ คอนโดทำเลรถไฟฟ้าได้ง่ายๆ ราคาเดียว 1.19 ล้านบาท*

พร้อมข้อเสนอสุดสุดเร้าใจ** ผ่อนเพียง 389 ต่อเดือน ตลอด 6 ปี การันตีค่าเช่า 6% ต่อปี นานสูงสุด 6 ปี

ที่ตั้งโครงการ

ซ.สุภาพงษ์ 4 (สุภาพงษ์ 1 แยก 3-1) ถ.ศรีนครินทร์ 42 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. 10250

:: UNIT TYPE ::

Studio Type A ขนาด 20.33 – 20.89 ตร.ม. | ชั้น 2-6

Studio Type B ขนาด 20.14-21.75 ตร.ม. | ชั้น 2-7

Studio Type C ขนาด 23.97-24.86 ตร.ม. | ชั้น 2-7

Studio Type D ขนาด 22.32-24.70 ตร.ม. | ชั้น 2-7

Studio Type E ขนาด 21.75 ตร.ม. | ชั้น 4-6

1 Bedroom Type F ขนาด 38.17-39.94 ตร.ม. | ชั้น 7

:: GALLERY ::

ภาพห้องตัวอย่างแบบห้อง  Studio Type A ขนาด 20.33 – 20.89 ตร.ม. | ชั้น 2-6

ภาพห้องตัวอย่างแบบห้อง Studio Type B ขนาด 20.14-21.75 ตร.ม. | ชั้น 2-7

ภาพห้องตัวอย่างแบบห้อง Studio Type C ขนาด 23.97-24.86 ตร.ม. | ชั้น 2-7

ภาพห้องตัวอย่างแบบห้อง Studio Type D ขนาด 22.32-24.70 ตร.ม. | ชั้น 2-7

ภาพห้องตัวอย่างแบบห้อง Studio Type E ขนาด 21.75 ตร.ม. | ชั้น 4-6

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 084-516-6666

Facebook : https://www.facebook.com/MeeSinDee/

Website : http://msdcondo.weebly.com/

คอนโด ไอดีโอ โมบิ รางน้ำ Ideo Mobi Rangnam

Ananda Development เตรียมเปิดตัวโครงการ “Ideo Mobi รางน้ำ” คอนโดใหม่ ในซอยรางน้ำ บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประมาณ 630 เมตร ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก >> https://goo.gl/X8U9N2

ที่ตั้งโครงการ

ซอยรางน้ำ แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th/

คอนโด ไอดีโอ โมบิ พระราม 4 Ideo Mobi Rama 4

Ananda Development เตรียมเปิดตัวโครงการ “Ideo Mobi พระราม 4“ คอนโดใหม่ บนทำเลศักยภาพ 0 เมตร จาก MRT คลองเตย ใกล้ทางด่วน ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก >> https://goo.gl/X8U9N2

ที่ตั้งโครงการ

โซนพระราม 4

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th/

คอนโด นิวาติ ทองหล่อ 23 Niwati Thonglor 23

เตรียมพบกับ “Niwati ทองหล่อ 23“ โครงการใหม่จาก บริษัท 888 ทองหล่อ จำกัด คอนโดหรูระดับ Luxury มูลค่าโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท เปิดตัวภายใต้ Concept “Elegant Classic Contemporary” ดีไซน์สไตล์ Beaux Arts บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ภายในซอยทองหล่อ 23 เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ถนนสุขุมวิท, ถนนเพชรบุรี และ รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ แล้วพบกันเร็วๆ นี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ คลิก >> http://www.nivaticondo.com

ที่ตั้งโครงการ

ซอยทองหล่อ 23 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 095-914-9888

Website : http://www.nivaticondo.com/

EP.897 รีวิว คอนโด วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao จาก MQDC กันค่ะ ตัวโครงการอยู่บนหัวมุมแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว ทางออกที่ 1 และสวนลุมไนท์บาร์ซ่าร์รัชดา เดินทางสะดวกใกล้ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดี-รังสิต และ ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์

วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว เป็น High rise Condominium สูง 27 ชั้น ระดับ Luxury มี 1 อาคาร จำนวน 497 ยูนิต บนเนื้อที่ 3-0-44 ไร่ มีขนาดห้องให้เลือกเป็น Studio, 1 Bedroom, 2 Bedrooms, Duplex, Duplex Penthouse และ Penthouse ขนาดเริ่มต้นที่ 27.00 ตรม. ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในเดือนสิงหาคมปี 2560 นี้เองค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน อาทิ Grand Lobby, Mailbox, Library, Sky Garden, Sky Infinity Edge Swimming pool, Fitness, Sky Lounge, Sky Terrace, ลิฟท์โดยสาร, Access Card Control, Digital Door Lock, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท (เฉลี่ย 153,000 บาท/ตร.ม.)

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

พิกัด : 13.805248, 100.574192

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง โครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao เป็น High rise Condominium ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวตอนบน ตรงแยกลาดพร้าว-รัชดาพอดี ทางเข้าโครงการจะอยู่ข้างๆ MRT สถานีลาดพร้าวที่ทางออก 1 เลยค่ะ หลายๆคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าถนนลาดพร้าวเป็นเส้นที่มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะมีทั้งออฟฟิศ, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, อพาร์ทเม้นท์, คอนโดมิเนียมทั้ง High rise และ Low rise และบ้านพักอาศัย เรื่องอาหารการกินนั้นก็ไม่ขาดปาก ตอนนี้ลาดพร้าวก็เรียกได้ว่าเป็นย่าน Vertical Living Area หรือ พื้นที่อยู่อาศัยในแนวตั้งอีกหนึ่งย่าน นั่นก็เพื่อการรองรับความเจริญของศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District) ย่านรัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งเป็น CDB ใหม่ของกรุงเทพมหานครนั่นเอง

การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางถือว่าสะดวกมาก หากมองในมุมมองของคนที่ทำงานอยู่ในช่วง รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว-วิภาวดี เพราะโครงการอยู่ตรงแยกลาดพร้าว-รัชดาเลย จากถนนลาดพร้าวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ทั้ง พหลโยธิน ใช้วิ่งออกไปทางอนุสาวรีย์ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้, วิภาวดี-รังสิต วิ่งขนานกับเส้นพหลโยธิน แต่มีการจราจรที่คล่องตัวกว่าค่ะ ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนาและชลบุรี, รัชดาภิเษก ตัดกับถนนลาดพร้าวตรงแยกลาดพร้าว-รัชดา ใช้วิ่งลงไปทางพระราม 9 ได้, ประดิษฐ์มนูธรรม มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้บนเส้นลาดพร้าวก็ยังมีทางลัดไปออกถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ได้จาก ซอยลาดพร้าว 41 และ ถนนโชคชัย 4 เข้าถนนลาดพร้าววังหิน และ ถนนนาคนิวาส เชื่อมต่อกับถนนสุคนธสวัสดิ์ ใช้ออกเกษตร-นวมินทร์ได้สะดวก จากเส้นเกษตร-นวมินทร์ยังมีซอยมัยลาภ ใช้เป็นทางลัดออกถนนรามอินทราได้อีกด้วย บนเส้นรัชดาภิเษกเองก็จะมีซอยโชคชัยร่วมมิตร ที่สามารถใช้เข้าถนนวิภาวดี-รังสิตได้ จากถนนวิภาวดี-รังสิตจะเชื่อมกับซอยพหลโยธิน 18 (ซอยวิภาวดี-รังสิต 3) ออกเส้นพหลโยธินตรงแยกกำแพงเพชรพอดี

แต่ข้อเสียของถนนลาดพร้าวก็คือ เป็นถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณรถที่มากตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีแยกไฟแดงและทางกลับรถอยู่อีกเป็นระยะๆ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ถนนซอยเล็กๆในการลัดเลาะไปออกถนนเส้นอื่นๆประกอบด้วย จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมากค่ะ

ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ในระยะเพียง 4.1 กม.เท่านั้น ซึ่งถ้ารถไม่ติดมากใช้เวลาขับไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงค่ะ โดยจากโครงการให้กลับรถไปถนนลาดพร้าวฝั่งมุ่งหน้าไปถนนพหลโยธิน จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายออกถนนพหลโยธินไปกลับรถอีกที เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหอวัง จากนั้นพอวิ่งออกมาที่ทางคู่ขนานวิภาวดี-รังสิต ตรงนั้นจะมีทางแยกฝั่งซ้าย เป็นด่านเก็บเงินลาดพร้าวขาออกขึ้นทางยกระดับค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมบนถนนลาดพร้าวและบริเวณใกล้เคียงมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ เพราะเป็นย่านของแหล่งที่พักอาศัยในแนวดิ่ง ซึ่งคนส่วนมากอาจจะไม่ได้ปรุงอาหารทานกันเองในทุกๆมื้อ ก็ต้องออกมาพึ่งร้านอาหารข้างทางกันนี่แหละ สะดวกและรวดเร็วที่สุดแล้ว ดังนั้นตลอดถนนเส้นนี้ก็จะมีทั้งร้านอาหารทั้งร้านทั่วไปและพวก Chain Restaurant, ร้านสะดวกซื้อก็เห็นมีกระจายอยู่, ร้านขายของชำ, ร้านขายยา, ร้านอินเตอร์เน็ต, คลีนิกเสริมความงาม, คลีนิกทันตกรรม ถ้าเข้าไปตามตรอกซอกซอยก็มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ อย่างเส้นลาดพร้าววังหิน,ถนนโชคชัย 4 และถนนนาคนิวาสนี่ก็อุดมสมบูรณ์มากๆ

ส่วนแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นเซ็นทรัลลาดพร้าวกับแฟชั่นมอลล์อย่าง Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ถ้าจะดูเป็น Hypermarket เพื่อซื้อของเข้าบ้านก็จะมี Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว บริเวณข้างๆกับโครงการเองก็มีสวนลุมไนท์บาซ่าร์ค่ะ ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Grean และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดินในวันสบายๆ ออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้สะดวก อีกทั้งในเดือนกันยายน ปี 2560 นี้จะมี Gourmet Market มาเปิดให้บริการอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการบริเวณ MRT สถานีลาดพร้าวอีกด้วยนะ

นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รร.หอวัง, ม.ราชภัฏจันทรเกษม และ ม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเช่นกัน บริเวณหน้าโครงการมีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด ถ้าวันไหนไม่เร่งรีบมาก อยากประหยัดเงินก็สามารถขึ้นรถเมล์ได้ค่ะ ป้ายรถเมล์จะมีอยู่บริเวณหน้าโครงการเลย สายที่ผ่านก็มีสาย 8, 8ปอ, 44ร, 92, 96, 122ร, 145, 145ส, 502, 517 และ 545ร

ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ทางเข้าโครงการจะอยู่ข้างรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว ทางออกที่ 1 เดินออกจากตัวโครงการเลี้ยวซ้ายก็ถึงเลย สถานีลาดพร้าว ในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange เชื่อมกับสถานีรัชดาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ ซึ่งจะไปเชื่อมกับ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบทางด่วนรามอินทราที่ สถานีฉลองรัช อีกทีค่ะ ส่วน MRT พหลโยธิน ซึ่งห่างจาก สถานีลาดพร้าว เพียงสถานีเดียว ในอนาคตจะเชื่อมกับ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ของ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต อีกด้วย

ถ้าจะไปต่อ BTS สถานีหมอชิต ก็อยู่ไม่ไกล ถ้านั่งรถไปจากหน้าโครงการ จากเส้นลาดพร้าวเลี้ยวซ้ายเข้าพหลโยธิน ตรงไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว ที่ใกล้ที่สุดคือทางออกที่ 4 นะ

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) > ถนนลาดพร้าว > แยกรัชดา-ลาดพร้าว > ถนนลาดพร้าว > Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao

วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือที่คุ้นหูกว่าก็คือเลียบด่วนรามอินทรานั่นเองค่ะ บริเวณที่เราอยู่ตอนนี้ก็คือช่วง CDC จากตรงนี้จะใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 15 นาทีถึงโครงการ

วิ่งผ่าน CDC มาแล้วก็ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายประดิษฐ์มนูธรรมให้ชิดไปทางเลนขวาค่ะ

จากนั้นจะเห็นป้ายพระราม 9 ให้เราชิดขวาตรงไปตามทางนั้นเลยเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว 86

ชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกไปเลยค่า

เมื่อลงจากสะพานมาแล้วให้เรารีบชิดเลนขวาเพื่อกลับรถ

เมื่อกลับรถมาอีกฝั่งนึงแล้วให้ดูป้ายโชคชัย 4 เอาไว้ค่ะ

ดูป้ายโชคชัย 4-รัชดาภิเษกเอาไว้ ให้เราชิดซ้ายนะ

ข้างหน้าถ้าชิดขวาจะขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว 86 ไปทางรามอินทราค่ะ แต่เราจะชิดซ้ายเอาไว้

จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ถ้าออกทางขวาจะยูเทิร์นกลับไปอีกฝั่งนะ

เข้ามาที่ถนนลาดพร้าวจะเป็นถนนขนาด 6 เลนมีเกาะกลางแบ่งอย่างชัดเจน ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของถนนจะเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise หลากหลายแบรนด์ ขับไปเรื่อยๆเราจะวิ่งผ่านตลาดสะพาน 2 อยู่ฝั่งขวามือของเราค่ะ

วิ่งตรงไปเรื่อยๆ เราจะเจอแยกรัชดา-ลาดพร้าว ให้เราชิดซ้ายเอาไว้ โครงการจะอยู่เลยจากแยกไปนิดเดียว

จากแยกตรงเลยมาก็จะถึงทางเข้าโครงการแล้วค่ะ ตรงนี้จะมีทางออกสถานี MRT ลาดพร้าวเป็นจุดสังเกต

ภาพหน้าทางเข้าโครงการแบบชัดๆ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนรัชดาภิเษก : 1.1 กม.
• แยกลาดพร้าว-รัชดา : 1.1 กม.
• ถนนพหลโยธิน : 1.8 กม.
• แยกลาดพร้าว : 1.8 กม.
• ถนนวิภาวดี-รังสิต : 2.0 กม.
• แยกรัชโยธิน : 3.7 กม.
• แยกกำแพงเพชร : 4.1 กม.
• ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 5.3 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• Gourmet Market : 70 ม.
• สวนลุมไนท์บาซ่าร์ : 80 ม.
• Big C ลาดพร้าว 2 : 1.2 กม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 2.6 กม.
• Union Mall : 2.7 กม.
• ตลาดสะพาน 2 : 2.9 กม.
• Tesco Lotus ลาดพร้าว : 3.3 กม.
• บุญถาวร : 3.3 กม.
• ตลาดโชคชัย 4 : 3.6 กม.
• ตลาดนัดสวนจตุจักร : 4.0 กม.
• JJ Green : 4.0 กม.
• ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ : 4.2 กม.
• Major Cineplex รัชโยธิน : 4.2 กม.
• SCB Park Plaza : 4.5 กม.
• JJ Mall : 4.5 กม.
• เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์ : 7.2 กม.
• The Crystal : 8.3 กม.
• CDC : 8.8 กม.

สถานศึกษา

• ม.เซนต์จอห์น : 2.1 กม.
• รร.หอวัง : 3.1 กม.
• ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 3.3 กม.
• ม.เกษตรศาสตร์ : 9.1 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.โกลเด้นเยียร์ : 3.1 กม.
• รพ.สุทธิสาร : 4.5 กม.
• รพ.เปาโลเมโมเรียล : 4.6 กม.

ศาสนสถาน

• วัดลาดพร้าว : 3.0 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• ไทยรัฐ : 3.5 กม.
• สนง.ขนส่ง ลาดพร้าว : 3.6 กม.
• สวนจตุจักร : 4.0 กม.
• สนง.ใหญ่การบินไทย : 4.5 กม.
• ไปรษณีย์ลาดพร้าว : 4.6 กม.
• สวนรถไฟ : 5.3 กม.
• สนามกีฬากองทัพบก : 8.8 กม.

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

บนถนนลาดพร้าวที่ดินที่ติดกับถนนจะเป็นออฟฟิศ, คอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise, ธนาคาร และอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างเปิดเป็นกิจการอย่างหลากหลายตั้งแต่ร้านอาหาร, ห้างทอง จนไปถึงคลีนิกเสริมความงามค่ะ ถัดเข้าไปภายในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยสูงตั้งแต่ 1-2 ชั้น มีทั้งอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมกระจายตัวกันอยู่ด้วย

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนลาดพร้าว
• ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น เป็นมุมที่เห็นวิวของตัวเมืองได้เป็นอย่างดี
• ทิศตะวันออก ติดกับ โรงแรมบาซ่าร์ โฮเทล
• ทิศตะวันตก ติดกับ ซ.ลาดพร้าว 26

เรามาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันต่อเลยค่ะ ดูซิว่าแถวนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการก็คืออาคารจอดรถ Park&Ride ของ MRT ลาดพร้าวสูง 8 ชั้น ในเดือนกันยายนนี้บริเวณ MRT ลาดพร้าวจะมี Gourmet Market มาเปิดให้บริการแล้วด้วยนะ เราสามารถเดินลงใต้ดินข้ามไปได้สบายๆ ระยะเดินก็ประมาณ 70 เมตรเท่านั้นเอง

มองไปทางฝั่งซ้ายมือ เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งนี้กันก่อนนะคะ จะเห็นว่า MRT ลาดพร้าวทางออกที่ 1 อยู่ตรงหน้าโครงการเลย

เดินลงมาจากตัวโครงการเลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้ว จะเดินทางไปไหนก็สะดวกมากๆค่ะ

ถัดจากทางลง MRT จะเป็นอาคารพาณิชย์อยู่เลียบถนนลาดพร้าวทั้ง 2 ฟาก ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้าและกิจการต่างๆ มีร้านอาหารหลายร้าน ตรงนี้มีรร.สอนพิเศษภาษาอังกฤษด้วย

เดินเลยจากหน้าโครงการมาแค่ 120 เมตรก็จะมี 7-Eleven อยู่ หิวเมื่อไหร่จะดึกแค่ไหนก็มีของให้รับประทาน

ร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆก็มีค่ะ

เดินตามทางไปเรื่อยๆก็จะเจอร้านกาแฟเพื่อสุขภาพจากเกาะนามิ อาหารสไตล์เกาหลีก็มีให้บริการนะ ข้างๆกันเป็นร้านติ่มซำชื่อดังค่ะ

ฝั่งตรงข้ามคือธนาคารธนชาต

อีกไม่ไกลก็จะถึง ทางออกที่ 2 ของ MRT สถานีลาดพร้าว

ที่ข้างหน้ามีสะพานลอยเดินข้ามฟากค่ะ บริเวณตีนสะพานก็จะมีทั้งร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่ด้วย

กลับมาที่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจบริเวณทางฝั่งขวามือกันบ้าง

ข้างๆกันคือทางเข้าโรงแรมบาซ่าร์โฮเทล และ สวนลุมไนท์บาซ่าร์ค่ะ

ซึ่งจะอยู่บริเวณหัวมุมของสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าวพอดี

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao เป็นคอนโด High Rise สูง 27 ชั้น 497 ยูนิต บนพื้นที่ขนาดประมาณ 3 ไร่เศษ ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวตรงแยกรัชดา-ลาดพร้าวพอดี ถูกออกแบบและก่อสร้างด้วยระบบ BIM ทำให้มีความถูกต้อง, แม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น ตัวอาคารโดดเด่นด้วย Facade เน้นการทำสีทองแดง สะท้อนแสงสีของถนนรัชดาตัดลาดพร้าว บนตัวอาคารสีน้ำตาลเข้ม เดี๋ยวเราจะไปดูแปลนอาคารพร้อมๆกันเลยค่ะ

ที่ชั้น G โครงการจะสามารถเข้าได้จากถนนลาดพร้าวเพียงทางเดียวโดยผ่านซุ้มรปภ. เป็นระบบ Access card control ส่วนบุคคลภายนอกจะต้องแลกบัตรและแจ้งหมายเลขห้องค่ะ เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอ Drop-off แล้ววนตามเข็มนาฬิกาไปเข้าลานจอดรถที่อยู่อีกฝั่งนึง

เมื่อเข้าไปภายในตัวอาคาร (ส่วนสีเทา) จะเจอโถง Grand Lobby ก่อน ข้าง Lobby จะเป็นส่วนของ Retail 1 ยูนิตซึ่งในอนาคตจะเปิดเป็น 7-Eleven ของโครงการ จากห้องโถงถ้าจะขึ้นไปในส่วนของห้องพักจะต้องเดินผ่านประตูเข้าโถงลิฟท์ ภายในมีลิฟท์โดยสารให้ 4 ตัวและ Service lift อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการเป็น 125 : 1 Mail box ก็จะอยู่ข้างในโถงลิฟท์ด้วยค่ะ ส่วนข้างโถงลิฟท์จะมีห้องน้ำและประตูทางออกไปยังลานจอดรถค่ะ (ส่วนสีน้ำตาล)

ตั้งแต่ชั้น G ขึ้นไปจนถึงชั้น 4 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด 244 คัน คิดเป็น 49% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน และคิดเป็น 60% แบบรวมการจอดซ้อนคันแล้ว อาคารมีบันไดหนีไฟ 2 จุด คือภายในพื้นที่ Grand Lobby 1 จุด และที่จอดรถกลางแจ้งอีก 1 จุด

ชั้นที่ 5 จะเริ่มมียูนิตพักอาศัยแล้ว ตัวอาคารเป็นรูปตัว L จึงจัดวางห้องแบบ Double Corridor การวางผังของอาคารได้คำนึงถึงวิวทิวทัศน์ รวมถึงภาวะการอยู่สบายของผู้อยู่อาศัย ซึ่งตัวอาคารถือเป็นอาคารประหยัดพลังงาน หรือ Green Building นั่นเอง ตามเกณฑ์การประเมินของสถาบันอาคารเขียว น่าจะได้คะแนนอยู่ที่ระดับ Gold แล้วค่ะ

ห้องที่นี่มี 6 แบบ คือ Studio ขนาด 27.00 ตรม., 1 Bedroom ขนาด 30.00-38.00 ตรม., 2 Bedrooms ขนาด 47.00-56.00 ตรม., Duplex ขนาด 76.00-77.00 ตรม., Duplex Penthouse ขนาด 81.35-82.39 ตรม. และ Penthouse ขนาด 105.00-129.00 ตรม. ฝ้าเพดานสูงถึง 2.80-7.00 เมตร ส่วนในชั้นนี้จะมีอยู่ 3 แบบ คือ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms รวมทั้งหมด 22 ยูนิต

พื้นที่อีกส่วนหนึ่งของชั้นนี้จะเป็น Main facilities สามารถเข้าได้จากทางโถงลิฟท์ จะเป็น Sky Garden, Library และ Laundry

ชั้นที่ 6 จะมีการจัดวางห้องพักแบบเดียวกับชั้นที่ 5 โดยมียูนิตจำนวนเท่ากัน แต่ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะไม่มี Facilities จะไปโผล่อีกทีที่ชั้น Roof Top

ชั้นที่ 7-24 จะมีการจัดห้องพักหนาแน่นที่สุดคือ 24 ยูนิต จะมีห้องแบบ Duplex เพิ่มขึ้นมาอีกแบบนึงอยู่ที่มุมปลายตัว L

ชั้นเลขคู่ระหว่างชั้นที่ 7-24 คือชั้น 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20, 22 และ 24 จะมีแบบห้องเหมือนชั้นเลขคี่ระหว่างชั้นที่ 7-24 คือชั้น 7, 9, 11, 13, 15, 17, 19, 21 และ 23 ทุกประการ แต่ที่ห้องแบบ Duplex ชั้นเลขคู่จะเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ ตรงนี้จะมีประตูที่สามารถเปิดเข้า-ออกจากโถงทางเดินได้เช่นกัน แต่ส่วนมากจะเข้าห้องจากทางห้องนั่งเล่นที่ชั้นเลขคี่เสียมากกว่า

ชั้นที่ 25 จะมีการจัดแปลนแบบชั้นที่ 7-24 แต่จากห้อง Duplex ตรงปลายตัว L จะเปลี่ยนเป็นห้อง 2 Bedrooms แทน

ชั้นที่ 26 เป็นชั้นสำหรับห้องขนาดใหญ่ มีห้องอยู่ 2 แบบคือ Duplex Penthouse (สีน้ำเงิน) มี 3 ห้อง และ Penthouse (สีเทา) มี 6 ห้อง รวมเป็น 9 ห้อง ที่ 2 ชั้นนี้จึงมีความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ โดยที่ชั้น 26 จะมี Pocket Garden ให้ด้วย

ชั้นที่ 27 จะเหมือนกับชั้นที่ 26 ทุกประการ แต่ที่ห้องแบบ Duplex Penthouse จะเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ

ชั้น Roof Top จะเป็นชั้นของ Main Facilities ทั้งหมด จะมีทั้ง Sky Infinity Edge Swimming Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 7 x 31 เมตร มี Jacuzzi อยู่ภายใน บรรยากาศรอบสระทำเป็นสวน ได้วิวเมืองจากทางเส้นลาดพร้าวออกไป ข้างๆสระทางปีกซ้ายมี Sky Terrace สร้างสูงขึ้นไปอีกชั้น สามารถขึ้นไปนั่งเล่นและรับลมชมวิวได้ ส่วนปีกขวาจะเป็น Fitness และ Sky Lounge ซึ่งจะได้วิวเมืองโดยรอบเช่นกันค่ะ

การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะใช้มาตรฐานตามแบบ Universal Design หรือ การออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคม เพื่อให้ทุกๆคนสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็น เด็ก, ผู้ใหญ่, หญิงมีครรภ์ หรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็น นั่นเอง

:::: บริเวณภายในโครงการ ::::

::: ทางเข้าโครงการ :::

เราได้ชมรายละเอียดของโครงการกันไปบ้างแล้ว เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูตัวโครงการของจริงพร้อมๆกันเลย

ทางเข้าโครงการจะมีรั้วไม้กระดกกั้นอยู่ ซึ่งจะต้องใช้ Access Card ในการเปิดรั้วผ่านเข้าไป แต่ถ้าเป็นบุคคลภายนอกจะต้องแลกบัตรกับทางรปภ.ฝั่งซ้ายมือค่ะ

ที่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวามือจะมีทางเท้าสำหรับให้คนเดินเข้า-ออกได้อย่างปลอดภัย

บริเวณเกาะกลางของรั้วไม้กระดกจะมีเครื่องสแกน Card และกล้อง CCTV ติดตั้งอยู่

::: บริเวณภายในโครงการ :::

เข้ามาภายในโครงการจะเป็นถนน 2 เลนแบบนี้ ข้างทางจัด Landscape เอาไว้อย่างร่มรื่นสวยงาม เมื่อเข้ามาแล้วก็ให้ขับวนตามเข็มนาฬิกาค่ะ

ขับวนเข้าไปทางซ้ายแล้วจะไปเจอ Drop-off เข้าสู่ Grand Lobby ด้านหน้าทางเข้าสร้างจุดเด่นด้วยระแนง Facade สีทองแดง บิดเป็นคลื่นสร้าง Movement ให้แก่ตัวอาคาร

วนเข้ามาทางซ้ายจะผ่านจุด Drop-off ฝั่งขวามือ และวนออกไปเข้าลานจอดรถอีกฝั่ง

ส่วนทางขวาจะเป็นฝั่งที่รถขับวนออกมาค่ะ

ลานจอดรถ

อีกฝั่งนึงของอาคารจะเป็นทางเข้าสู่ลานจอดรถค่ะ ทางเข้าเป็นทางลาดขับขึ้น-ลงอย่างนี้

จะเป็นพื้นที่จอดรถแบบนี้ขึ้นไปถึงที่ชั้น 4

ทุกชั้นจะมีโถงลิฟท์เพื่อลงไปที่ชั้น Lobby และชั้นอื่นๆได้

Grand Lobby

กลับมาที่บริเวณ Drop-off หน้าโครงการ ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของ Retail ซึ่งจะเปิดเป็น 7-Eleven ของโครงการ เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูภายในอาคารด้วยกันต่อเลยค่ะ

ทางเข้าหลักของอาคารจะเป็นประตูแบบ 2 ชั้นเพื่อการประหยัดพลังงาน

เข้ามาภายในตัวอาคารจะเจอส่วนของ Grand Lobby ก่อน ตรงนี้ฝ้าเพดานสูงถึง 7 เมตรเลย ทำให้ภายในดูโอ่โถงมาก อีกทั้งยังหรูหราและสวยงามด้วย Finishing สีเข้ม อีกทั้งยังมีระแนงเหล็กประดับดวงไฟกั้นเป็น Partition โปร่งๆ แบ่งเป็นมุมนั่งเล่นหลายๆมุม

ผนังโดยรอบโถงเป็นผนังกระจกสูงขึ้นไปเสมอฝ้าเลยค่ะ ภายในโถงจึงสว่างและโปร่งมาก ฝั่งด้านหน้าอาคารมี Facade อยู่ภายนอกช่วงลดความแรงของแสงและสร้างความเป็นส่วนตัวจากคนภายนอกได้เป็นอย่างดี ช่วงที่แดดแรงหน่อยก็สามารถเลื่อนม่านลงมาปิดได้

มุมนั่งเล่นอีกมุมนึงภายใน Grand Lobby

โถงลิฟท์, Mailbox และ โถงทางเดิน

ระหว่าง Counter ของ Staff จะมีประตูกระจกเป็นทางเข้าโถงลิฟท์ อยู่ตรงกลางของ Grand Lobby

ภายในโถงลิฟท์ก็ยังคงใช้วัสดุโทนเดียวเชื่อมต่อจาก Grand Lobby เข้ามา ภายในเล่นแสงเป็นเส้นตรงสร้างชีวิตชีวาและความทันสมัย เข้ามาทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นห้อง Mailbox ตามด้วย Passenger Lift อีกฝั่งละ 2 ตัว

ภายในห้อง Mailbox ตกแต่งด้วย Concept อย่างเดียวกัน

บริเวณหน้าประตูลิฟท์และปุ่มกดลิฟท์ค่ะ ลิฟท์ที่นี่จะเป็นระบบล็อคชั้น ต้องใช้ Access Card สแกนก่อนจึงจะสามารถกดชั้นของตัวเองได้ ลิฟท์ที่ใช้เป็นของ Schindler สามารถรับน้ำหนักได้ 1150 กก. หรือประมาณ 16 คนต่อเที่ยว

ขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัย บริเวณโถงลิฟท์จะประดับตกแต่งด้วยวัสดุที่ดูเป็นบ้านและดูสบายตามากขึ้น

ป้ายบอกเลขชั้นและเลขที่ห้องตรงกลางโถง

บริเวณโถงทางเดินภายในอาคารค่ะ จัดเป็นรูปแบบ Double Corridor คือมีห้องอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง วัสดุที่ใช้ดูเรียบๆ สะอาดตา แต่ก็ยังคงความหรูหราเอาไว้อยู่

Sky Garden

มาดูส่วนกลางของโครงการกันต่อค่ะ เราขึ้นมาที่ชั้น 5 ซึ่งชั้นนี้จะเป็นส่วนของ Sky Garden, Library และ Laundry

ออกมาจากโถงลิฟท์จะเจอ Sky Garden ก่อน มุมนี้จะเป็นวิวตรงแยกรัชดา-ลาดพร้าวค่ะ

Library

บริเวณฝั่งขวาของสวนจะมีโถงทางเดินสู่ Library ทางซ้ายมือและเลี้ยวขวาตามทางเดินไปจะเป็น Laundry ค่ะ

Library มีขนาดกว้างขวางและสูงโปร่ง ผนังทุกด้านจะเป็นผนังกระจกทั้งหมดทำให้ห้องได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือ ภายในจะใช้ชั้นหนังสือเป็น Partition แบ่งพื้นที่ของห้องเป็นมุมนั่งเล่นหลายๆมุมที่มีความเป็นส่วนตัว

ที่ผนังกระจกมีการใช้กระจกสีช่วยสร้างลูกเล่นทำให้ดูน่าสนใจและสร้างบรรยากาศที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้ ความพิเศษของห้องสมุดที่นี่คือเป็น E-Library หรือห้องสมุดออนไลน์โดยสามารภใช้งานทางผ่าน Application บน Smartphone หรือ Tablet นั่นเอง

มุมน่านั่งข้างในอีก 1 มุมค่ะ จะเป็น Single Couch หรือ Couch set นั่งเอนสบายๆก็มี

Sky Infinity Edge Swimming Pool

ขึ้นมาบนชั้น Roof Top กันต่อ ที่ชั้นนี้จะมี Swimming Pool, Sky Terrace, Fitness และ Sky Lounge ไปชมกันเลยค่ะ

ออกมาจากโถงลิฟท์ไปทางขวาจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ สระที่นี่มีขนาดใหญ่ 7 x 31 เมตร ใช้ระบบเกลือ สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายแบบจริงจังได้ โดยรอบจัด Landscape สร้างบรรยากาศสีเขียวอย่างสวยงาม

ตรงกลางสระมีอ่าง Jacuzzi มีสายน้ำนวดตัวภายใน สามารถนั่งนวดตัวในน้ำพร้อมชมวิวเมืองได้พร้อมๆกัน

สระจะเป็นแบบ Infinity edge pool ทำขอบสระแบบน้ำล้น เชื่อมวิวทิวทัศน์ของเมืองและเส้นขอบฟ้าเข้ากับตัวสระ

บางส่วนของสระจะทำพื้นค่อนข้างตื้นสำหรับเด็กเล็กค่ะ ส่วนบันไดเดินลงสระจะออกแบบให้อยู่ภายในสระเลย ทำให้จบงานได้ดูเรียบร้อยสวยงาม ที่ฝั่งซ้ายของสระก็คือ Sky Terrace เดี๋ยวเราจะขึ้นไปชมวิวข้างบนนั้นกัน

บน Sky Terrace จะสูงขึ้นมาจากระดับชั้นสระว่ายน้ำอีก 1 ชั้น บนนี้มีความเป็นส่วนตัวมาก มีม้านั่งสำหรับนั่งเล่นด้านนึง โดยรอบปลูกต้นไม้ใหญ่เหมือนอยู่บนภูเขาที่มองเห็นวิวเมือง

วันนี้ท้องฟ้าออกครึ้มๆหน่อย ในวันที่ฟ้าโปร่งมองวิวจากจุดนี้จะสวยมากๆ ยิ่งเป็นตอนกลางคืนจะยิ่งสวยค่ะ

มองจาก Sky Terrace ลงไปที่สระว่ายน้ำ

บรรยากาศยามเย็นของตัวเมืองกับ Sky Infinity Edge Pool

ไปดูที่อีกฝั่งนึงกันบ้าง โถงทางเดินตรงนี้จะนำไปสู่ ห้องน้ำ และ Sky Lounge ทางฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาคือ Fitness ค่ะ

Fitness

มาเริ่มจาก Fitness กันก่อน ภายในเป็นแบบ Fully Equipment Fitness มีอุปกรณ์ทุกอย่างมาให้อย่างครบครัน

ที่ห้อง Fitness นี้ก็จะได้วิวเมืองเช่นกันค่ะ

วิวเมืองจากห้อง Fitness ตอนนี้ฟ้าเริ่มเปิดแล้วนะ สวยมากเลย

มาดูอุปกรณ์ที่ให้มากันบ้าง

เริ่มจากฝั่งขวามือ จะมีชุดดัมเบลหลายขนาด วางคู่ Flat bench ข้างผนังกระจกเพื่อเช็คท่าในการยกน้ำหนัก ถัดมาเป็นเครื่องเล่นหน้าท้องและจักรยานไฟฟ้าอย่างละตัวค่ะ

มีเครื่องเดินวงรี และ ลู่วิ่งไฟฟ้าอีกอย่างละ 2 เครื่อง

หันไปอีกด้านจะมีเครื่องออกกำลังแขน, หลัง และ หน้าอก อีก 2 เครื่องค่ะ

WC, Locker และ Changing room

มาดูที่ห้องน้ำกันต่อแบ่งห้องชาย-หญิง เข้าไปภายในจะเจอตู้ล็อกเกอร์และเก้าอี้นั่งแต่งตัวหรือพักคอย

ภายในแบ่งเป็น 2 ฝั่งคืออ่างล้างมือและห้องน้ำ

อ่างล้างมือ 2 อ่าง ติดกระจกเต็มผนัง

ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ

Sky Lounge

มาดู Facility ส่วนสุดท้าย นั่นก็คือ Sky Lounge นั่นเอง

ภายในห้องมีความสูงโปร่งพอๆกับห้อง Fitness ค่ะ ด้านในจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและเล่นเกมส์อยู่หลายมุม ห้องนี้ก็จะได้วิวเมืองอย่างเต็มที่โดยรอบด้าน

มุมนั่งเล่นอีก 1 มุม

โดยรอบของห้องจะทำเป็นพื้นที่ระเบียงเล็กๆ สามารถเดินออกไปรับลมชมวิวภายนอกได้ด้วยนะ

ที่ผนังทึบด้านหลังห้องจะติด Fiber Optic ค่ะ

ซึ่งจะเป็นการเล่นแสงสร้างบรรยากาศในช่วงกลางคืนแบบนี้เลย

:::: Room Type และ ห้องตัวอย่าง ::::

::: Room Type :::

ห้องภายในโครงการมีการออกแบบจัดวาง Space เพื่อตอบโจทย์ lifestyle และการอยู่อาศัยที่แท้จริง สอดคล้องกับหลักการอยู่เย็น (สบาย) และ เป็นสุข (สุขภาพดี) โดยทั้งโครงสร้าง, ประตู-หน้าต่าง รวมถึงหลังคาจะมีการรับประกันอยู่ที่ 30 ปี ในทุกๆปีก็จะมีหน่วยงาน Premium Care มาคอยตรวจเช็คสุขภาพของห้องให้ด้วย ห้องจะมีตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับอยู่เพียง 1-2 คน จนไปถึงห้องที่สามารถอยู่กัันได้ถึง 5-6 คนเลยทีเดียว โดยแบ่งออกเป็น 6 แบบหลักๆด้วยกัน คือ

• Studio : 27.00 ตรม.
• 1 Bedroom : 30.00-38.00 ตรม.
• 2 Bedrooms : 47.00-56.00 ตรม.
• Duplex : 76.00-77.00 ตรม.
• Duplex Penthouse : 81.35 – 82.39 ตรม.
• Penthouses : 105.00-129.00 ตร.ม.

ห้องของที่นี่จะขายแบบ Fully Fitted จะไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ จะมี ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ครัว และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำมาให้ค่ะ เดี๋ยวเราไปดูแปลนห้องแต่ละแบบกันต่อเลย

Studio-A1 ขนาด 27.00 ตรม.

1 Bedroom-B2 ขนาด 30.90 ตรม.

1 Bedroom-B4 ขนาด 34.47 ตรม.

2 Bedrooms-C3 ขนาด 55.61 ตรม.

Duplex-D1 ขนาด 76.00 ตรม.

Duplex Penthouse-DP3 ขนาด 82.39 ตรม.

Penthouse-PH3 ขนาด 129.00 ตรม.

::: ห้องตัวอย่าง :::

วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ลำดับเป็น 1 Bedroom-B2 ขนาด 30.90 ตรม. และ 2 Bedrooms-C3 ขนาด 55.61 ตรม. มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย

:: แบบห้อง 1 Bedroom-B2 ขนาด 30.90 ตรม. ::

เริ่มต้นที่ห้อง 1 Bedroom-B2 ขนาด 30.90 ตรม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว แบ่งสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องนอนออกจากกัน ห้องครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบปิด ช่วยกันกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้องได้ดี

เริ่มจากประตูทางเข้าห้องจะเป็นบาน HDF ขนาด 0.9 x 2.3 เมตร มือจับประตูแบบก้านโยกพร้อม Digital Door lock จาก Yale ที่บานมีตาแมวสามารถส่องดูคนที่ยืนอยู่หน้าห้องได้ ประตูทางเข้าห้องจะลึกเข้าไปจากแนวผนังประมาณ 0.5 เมตร เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านแต่ละยูนิตเวลาจะเข้าหรือออกจากห้อง

มือจับประตูแบบก้านโยกพร้อม Digital Door lock

ที่ผนังด้านข้างของห้อง (จะเป็นบริเวณห้องนั่งเล่นด้านใน) มี Grill สามารถเปิดเป็นช่องให้ลม Flow ผ่านได้

พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 มม. จบ Finishing ระหว่างพื้นภายใน-ภายนอกห้องเรียบร้อยดี

เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วนนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องครัวทางซ้าย และห้องนอนทางขวา ภายในห้องนี้ตกแต่งด้วย Calvin Klein Furniture ทั้งหมดเป็นสไตล์เรียบหรู ไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป ส่วนผนังที่ได้จริงๆจะเป็นฉาบเรียบทาสีนะ ในห้องนี้จะได้แอร์มาด้วย 2 ตัวคือบริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัว และห้องนอนอีก 1 ตัว ตำแหน่งการติดตั้งแอร์ก็ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพรวมถึงผู้ใช้งานด้วยค่ะ โดยตำแหน่งที่ติดจะไม่เป่าหน้าผู้อยู่อาศัยโดยตรง จะให้แอร์เป่าออกมาทางด้านข้างแทน

ที่นี่ฝ้าให้มาสูงถึง 2.8 เมตรเลยค่ะ เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทุกห้อง สังเกตที่ฝ้าจะติด Smoke Detector, Heat Detector และ Sprinkle เอาไว้ให้เรียบร้อย

มาดูการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ของห้องนั่งเล่นกันต่อเลย

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะกว้างประมาณ 2.4 เมตร สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, โต๊ะกาแฟ และโต๊ะข้างอีก 1 ตัว หรือจะว่างเป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่งไปเลยก็ได้เหมือนกัน ระยะกระทัดรัดกำลังสบายๆ

หันไปอีกฝั่งนึงจะสามารถวางชั้นทีวีได้ ขนาดยาวประมาณ 1 เมตรเพราะจะติดกับประตูห้องน้ำนะ

ระยะดูทีวีของห้องนี้อยู่ที่ 2.2 เมตร เหมาะกับทีวีขนาด 50-55 นิ้ว เหมาะกับขนาดห้อง แต่ต้องลองเช็คขนาดทีวีกับความยาวผนังอีกทีนะคะว่าจะสามารถติดตั้งได้หรือไม่

พื้นที่ของห้องห้องนั่งเล่นกับห้องครัวจะยังดูเชื่อมต่อกันอยู่ ไม่ขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง เพราะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้ห้องดูกว้างขวาง เนื่องจากห้องนั่งเล่นนั้นไม่อยู่ติดกับผนังภายนอกอาคารจึงไม่ได้หน้าต่างหรือช่องแสงเลย การที่กั้นส่วนของห้องครัวด้วยกระจกก็จะทำให้ห้องนั่งเล่นยังได้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาด้วย

ประตูกั้นห้องครัวจะเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมติดกระจกแบบ 3 ตอนอย่างนี้ค่ะ ข้อดีคือทำให้สามารถเปิดช่องประตูได้กว้างมากขึ้นเมื่อเทียบกับบานเลื่อนแบบ 2 ตอน

มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน สามารถกดล็อคได้

เข้ามาภายในห้องครัว พื้นยังปูด้วยไม้ลามิเนตเหมือนเดิมนะ ภายในจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งเคาน์เตอร์และฝั่งโต๊ะรับประทานอาหาร

มาดูที่เคาน์เตอร์ครัวกันก่อนค่ะ ชุดนี้จะได้มากับห้องด้วย เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I

Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์วางทั้งแผ่น ส่วนตัวบานเปิดหน้าบานเป็นเมลามีน บานพับแบบ Soft closed มีช่องให้เก็บของได้อยู่ 4 ช่อง

บนเคาน์เตอร์วางอ่างล้างจานมาให้จาก MEX ขนาดค่อนข้างกระทัดรัดค่ะ ล้างจาน-แก้วกาแฟสะดวกอยู่ แต่ถ้าเป็นกระทะหรือหม้อใบใหญ่อาจจะยากหน่อยนะ

ก๊อกน้ำทรงสูง สามารถหมุนบิดไปซ้าย-ขวาได้ ใช้งานได้สะดวก

อีกฝั่งนึงวางเตาเซรามิกจาก MEX มาให้ มี 2 หัว

เหนือเตาติด Hood ดูดควันให้เรียบร้อย

ชั้นเก็บของเหนือเคาน์เตอร์ก็ได้มาด้วยเช่นกันค่ะ ตรงนี้จะสูงถึงฝ้าเลย เวลาหยิบของบนชั้นบนสุดอาจจะต้องปีนเก้าอี้เอานะ

อีกฝั่งนึงจะวางโต๊ะกินข้าวมาให้ดูพื้นที่ใช้สอย สามารถวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้พอดิบพอดี โต๊ะกับเก้าอี้จะไม่ได้มากับห้องด้วยนะ

เมื่อวางเคาน์เตอร์และโต๊ะรับประทานอาหารแล้วจะเหลือพื้นที่ยืนปรุงอาหารและเป็นทางเดินกว้าง 0.95 เมตร ยังอยู่ในระยะมาตรฐาน ไม่คับแคบจนเกินไป

จากห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกสู่ระเบียงห้องได้

ระเบียงห้องมีขนาดประมาณ 1 x 2.2 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.ชนิดผิวด้านกันลื่น ราวกันตกเป็นระแนงเหล็ก

โดยพื้นระเบียงจะลดระดับจากพื้นห้องครัวลงไปประมาณ 5 ซม.

พื้นที่ตรงนี้ก็เพียงพอสำหรับการตากผ้านะคะ หรือถ้าใครอยากจะเอาเครื่องซักผ้ามาวางไว้ข้างนอกห้องก็ทำได้เช่นกัน มีการเจาะเตรียมท่อเอาไว้ให้เรียบร้อย

ไฟตรงระเบียงจะเป็นดวงเดียวที่เป็นไฟกิ่งค่ะ

กลับเข้ามาภายในห้อง เราจะไปดูห้องน้ำ (ฝั่งขวา) และ ห้องนอน (ฝั่งซ้าย) กันต่อ ประตูห้องทั้ง 2 จะเป็นประตูบานสำเร็จ มือจับเป็นแบบก้านโยก

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นห้องนั่งเล่นเล็กน้อย

ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 60 ซม.ทั้งพื้นและผนัง จัดวางสุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเรียงเข้าไปยังส่วนเปียก โดยใช้สุขภัณฑ์จาก Cotto ทั้งหมด ยกเว้นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจะเป็นของ I-SPA

ฝ้าเพดานติดดวงโคมดาวน์ไลท์ และพัดลมดูดอากาศมาให้ค่ะ เนื่องจากห้องน้ำจะไม่อยู่ติดผนังภายนอกอาคาร จึงไม่มีหน้าต่าง ต้องพึ่งระบบการระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว

มาดูที่สุขภัณฑ์กันบ้าง บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจะติดกระจกและปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้เรียบร้อยสำหรับที่โกนหนวดไฟฟ้าหรือไดร์เป่าผม

อ่างล้างมือเป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์ มีขนาดกำลังดี ขอบอ่างสามารถวางของใช้ได้อยู่บ้าง

ก๊อกน้ำทรงมนๆหน่อย ใช้งานได้ถนัดมือ

ถัดจากอ่างล้างมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้

Accessories ประกอบโถสุขภัณฑ์ค่ะ

ด้านในสุดคือโซนอาบน้ำ โดยจะติดฉากกั้นอาบน้ำและประตูกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย

ข้างๆติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้

พื้นที่ยืนอาบน้ำมีขนาดกำลังดี ที่พื้นก่อธรณีขึ้นมาให้เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกไปยังโซนแห้ง

ภายในโซนอาบน้ำติดตั้งฝักบัวพร้อมราวปรับระดับมาให้ ข้างๆเจาะผนังเพื่อเป็นชั้นวางขวดสบู่และแชมพูค่ะ

เทียบขนาดหัวฝักบัวให้ดูกับฝ่ามือนะคะ มีขนาดกำลังดี หัวฝักบัวสามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้ โดยทางโครงการได้เตรียมระบบการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนเอาไว้ให้ ลูกบ้านจะสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนได้ที่บริเวณเหนือฝ้าเพดานค่ะ

มาที่ห้องนอนกันต่อเลย ภายในห้องนอนมีขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ ประมาณ 3.35 x 2.75 เมตร จึงทำดูแลได้ง่าย พื้นที่ภายในห้องเหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตนะ ภายในห้องจะได้ช่องแสงมาเต็มๆ 1 ด้าน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานด้านข้าง และที่เหลือเป็นบาน Fix ทั้งหมด เป็นกรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง

ตำแหน่งของการติดตั้งประตูภายในห้องก็ยังได้คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยอีกชั้นนึงด้วย โดยประตูที่เปิดเข้าห้องนอนจะไม่อยู่ตรงกับเตียงนอน

เมื่อวางเตียงแล้วก็จะยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 0.4 เมตร เดินผ่านได้สบายๆค่ะ

ข้างๆเตียงก็จะเหลือพื้นที่นิดหน่อย พอทำเตียงได้อยู่

ที่ฝั่งขวาจะเว้นที่เหลือเอาไว้เยอะหน่อยประมาณ 0.85 เมตร เพราะอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าพอดี จะได้เปิด-ปิดตู้และยืนแต่งตัวได้สะดวก ตรงนี้ยังสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้อีกตัวนึงค่ะ

ตู้เสื้อผ้าก็จะได้มากับห้องด้วย เป็นตู้ Built-in สูงจนถึงฝ้าเพดานเลย ภายในมีช่องให้เก็บของได้เยอะ ตัวบานพับก็จะใช้แบบ Soft closed ด้วยเช่นกัน

ที่ผนังอีกฝั่งจะเดินสายอากาศและปลั๊กไฟไว้ในลายผนังให้เรียบร้อย สามารถติดทีวีแบบติดผนังได้นะ

ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้จะเป็นของ Panasonic ค่ะ

:: แบบห้อง 2 Bedrooms-C3 ขนาด 55.61 ตรม. ::

แบบห้อง 2 Bedrooms-C3 ขนาด 55.61 ตรม. จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัวของห้องที่แล้ว ห้องนอนจะถูกแบ่งออกไปทางปีกซ้ายและขวา โดยมีโถงกลางเป็นห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น อยู่ตรงกลาง สิ่งที่แตกต่างจากห้อง 1 Bedroom-B2 ก็คือจะได้เป็นครัวแบบเปิดแทน ห้องนอนเล็กจะใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องโถงกลาง ส่วนห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำให้ในตัว

มาดูห้องตัวอย่างกันค่ะ บริเวณพื้นที่หน้าห้องและวัสดุประตูก็จะเป็นเหมือนห้องแบบที่แล้วทุกประการ

ภายในห้องที่พื้นก็จะเป็นไม้ลามิเนตหนา 12 มม.และผนังฉาบเรียบทาสีเหมือนเดิม ส่วนฝ้าเพดานฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ ไม่ได้ดรอปฝ้ามาเหมือนห้องตัวอย่างนะ เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัวอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดริมระเบียงค่ะ

มุมมองจากฝั่งปีกขวาของห้อง เดี๋ยวเราจะเริ่มอธิบายจากส่วนครัวกันก่อน

ส่วนครัวจะถูกจัดให้อยู่ชิดริมผนังฝั่งทางเดิน เป็น Counter รูปตัว I เหมือนเดิม

ขนาดของเคาน์เตอร์และชั้นเก็บของข้างบนจะมีขนาดยาวขึ้นเล็กน้อยตามขนาดของห้อง ตัววัสดุที่ใช้ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ

บนเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างล้างจาน, เตาเซรามิค และ Hood ดูดควันมาให้ เป็นรุ่นเดิมเช่นกันค่ะ จะเห็นว่าเคาน์เตอร์มีพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มมาอีกบล็อกนึงเลย

ข้างๆเคาน์เตอร์ครัวบริเวณกลางห้องจะสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้อย่างพอดี ถ้ามีแขกมาที่ห้องอาจจะเก้าอี้เพิ่มหัว-ท้ายก็ยังพอไหว

ถัดเข้าไปข้างในจะเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ มีขนาดพอๆกับห้องที่แล้วแต่อยู่ริมระเบียงจึงทำให้ดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ผนังฝั่งที่วางโซฟาสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและโต๊ะข้างได้อีก 1 ตัว

ระยะดูทีวีของห้องนี้อยู่ที่ 1.85 เมตร เหมาะสำหรับทีวีขนาด 42-47 นิ้ว ประตูฝั่งขวาคือห้องนอนใหญ่นะ

ข้างห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนคู่สามารถเปิดออกสู่ระเบียงได้

ระเบียงห้องนี้จะมีหน้ากว้างมากกว่าค่ะ ขนาดความลึกยังคงเดิม

นอกจากจะวางเครื่องซักผ้าแล้วอาจจะหากระถางต้นไม้อันเล็กๆมาวางประดับเพิ่มสร้างพื้นที่สีเขียวส่วนตัวของห้องได้

มาที่ส่วนปีกซ้ายของห้อง เราจะเข้าไปดูห้องน้ำ (ฝั่งซ้าย) และห้องนอนเล็ก (ฝั่งขวา) กันต่อ

ภายในห้องนี้จะเหมือนกับห้องน้ำแบบห้อง 1 Bedroom-2B ทุกประการ ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ รวมถึงการจัดวางการใช้สอยของห้องน้ำด้วยค่ะ จะขอข้ามไปเลยนะ

เข้ามาดูที่ห้องนอนเล็กกันต่อ พื้นที่ห้องมีขนาดกระทัดรัด นอนได้ 1 คน เหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่ง

เมื่อวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 0.5 เมตร สามารถเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูเตียงได้สบายๆ ฝั่งนี้จะติดตั้งปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้สำหรับทีวีแบบแขวนผนังค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งก็ยังเหลือพอดีๆ โดยจะให้ทางฝั่งซ้ายกว้างหน่อยประมาณ 0.9 เมตร เพื่อที่จะสามารถเปิดตู้เสื้อผ้าและแต่งตัวได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้าที่ได้มากับห้องจะเหมือนกับห้องที่แล้วค่ะ มีขนาดเท่ากันเลย

ส่วนผนังอีกฝั่งเป็นช่องแสงแบบเต็มผนังเหมือนในห้องนอนของ 1 Bedroom-2B จะเป็นบานกระทุ้งข้างๆ 2 บานและที่เหลือเป็นบาน Fix

มาที่ส่วนปีกขวาของห้อง เราจะเข้าไปดูในห้องนอนใหญ่กันต่อ

ภายในห้องนอนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนพักผ่อนและโซนแต่งตัว ภายในห้องได้ช่องแสงมาทั้ง 2 ด้านจึงทำให้ภายในห้องดูสว่างและโปร่งโล่งดี

มาดูในส่วนของโซนพักผ่อนกันก่อนค่ะ ตรงนี้จะจัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางของเพิ่มได้

ที่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวายังเหลือพื้นที่ีอีกเยอะค่ะ จริงๆแล้วถ้าจะวางเป็นเตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังมีที่เหลือพอนะ

มาดูที่โซนแต่งตัวกันต่อ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำแบบ Sexy bath

ภายในโซนแต่งตัวจะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งตรงกลางได้อย่างพอดี ฝั่งขวาเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเดียวกับห้องนอนเล็ก ส่วนฝั่งซ้ายก็คือประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ ห้องนี้จะเป็นแบบบ้านเลื่อนนะ

ภายในห้องน้ำจะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนเดิมทุกประการ ต่างกันแค่ทางเข้าห้องน้ำจะถูกเจาะตรงกลาง เดินเข้าไปเจออ่างล้างมือก่อน แล้วแยกซ้ายขวาเป็นโซนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์

โซน Shower ที่เรียกว่า Sexy Bath ก็คือมีผนังกระจกอยู่นั่นเอง ในสามารถเห็นนอก และนอกสามารถเห็นในได้ ตรงนี้ทำให้ห้องน้ำได้รับแสงธรรมชาติจากภายนอกด้วย ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดม่านมู่ลี่เพิ่มเติมได้ค่ะ

:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (สิงหาคม 2560) ::::

วัสดุโดยรวม

• พื้น : ไม้ลามิเนต หนา 12 มม.
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 30 x 60 ซม.
• พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 30 x 60 ซม.
• ประตูภายนอก (โถงทางเดิน) : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส ติดระบบ Digital Door lock
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบานกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส
• หน้าต่างภายนอก : บาน Fix และบานกระทุ้ง กรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : Cotto และ I-SPA

งานไฟฟ้า

• สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Panasonic
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ไฟภายนอก : ไฟกิ่ง

เฟอร์นิเจอร์

• ชุดเคาน์เตอร์ครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินสังเคราะห์สีดำ, ตัวเคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยเมลามีน บานเปิดแบบ Soft closed และชั้นเก็บของเหนือเคาน์เตอร์ Built – in
• อ่างล้างจาน, ก๊อกน้ำ, เตาเซรามิคขนาด 2 หัว และฮูดดูดควัน จาก MEX
• ตู้เสื้อผ้า Built – in ในห้องนอนทุกห้อง
• แอร์ภายในห้อง

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ

:::: ราคา (สิงหาคม 2560) ::::

แบบห้อง Studio

– พื้นที่ใช้สอย 27.00 ตรม.

– ราคาเริ่มต้น 4,000,000 บาท

แบบห้อง 1 Bedroom

– พื้นที่ใช้สอย 30.00-38.00 ตรม.

– ราคาเริ่มต้น 4,260,000 บาท

แบบห้อง 2 Bedrooms

– พื้นที่ใช้สอย 47.00-56.00 ตรม.

– ราคาเริ่มต้น 7,420,000 บาท

แบบห้อง Penthouse

– พื้นที่ใช้สอย 105.00-129.00 ตรม.

– ราคาเริ่มต้น 17,380,000 บาท

• เงินจอง 50,000 บาท
• เงินทำสัญญา 5% – 50,000 บาท (เงินจอง)

• ค่าส่วนกลาง ตรม.ละ 60 บาท/เดือน
• ค่ากองทุน ตรม.ละ 600 บาท

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวตรงแยกลาดพร้าว-รัชดาพอดี ทางเข้าโครงการจะอยู่ข้างๆ MRT สถานีลาดพร้าวที่ทางออก 1 ถนนลาดพร้าวเป็นเส้นที่มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะมีทั้งออฟฟิศ, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, อพาร์ทเม้นท์, คอนโดมิเนียมทั้ง High rise และ Low rise และบ้านพักอาศัย จึงมีทั้งร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออยู่ตลอดทั้งเส้น

ถ้าเข้าไปตามตรอกซอกซอยก็มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ แหล่งช้อปปิ้งในย่านนี้ก็คือเซ็นทรัลลาดพร้าวกับแฟชั่นมอลล์อย่าง Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดี ส่วน Hypermarket ก็จะมี Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว บริเวณข้างๆกับโครงการเองก็มีสวนลุมไนท์บาซ่าร์ ในอนาคตบริเวณ MRT ลาดพร้าวฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการจะมี Gourmet Market มาเปิดให้บริการอีกด้วยค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางถือว่าสะดวก เพราะโครงการอยู่ตรงแยกลาดพร้าว-รัชดาเลย แต่ระยะกลับรถหน้าโครงการจะค่อนข้างกระชั้นหน่อย และปริมาณรถบนถนนเส้นนี้ก็ค่อนข้างมากเช่นกัน จากถนนลาดพร้าวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย และตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนาและชลบุรี ไม่ไกลกันก็มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ค่ะ การเดินทางบนเส้นลาดพร้าวถ้าจะให้เร็วก็ต้องรู้จักซอยในการลัดเลาะไปยังถนนเส้นต่างๆประกอบเอา เพราะถ้าวิ่งบนถนนใหญ่ตรงๆเลยก็อาจจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมงๆเลย

การเดินทางโดยรถสาธารณะ สำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์ถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกมากๆ เพราะทางเข้าของโครงการจะอยู่ติดกับ MRT ลาดพร้าวทางออกที่ 1 เลยค่ะ เดินออกมาจากตัวอาคารเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว จากสถานีลาดพร้าวก็อยู่ไม่ไกลจากสถานี Interchange อย่าง MRT จตุจักร/BTS หมอชิต ในอนาคตสถานีลาดพร้าวจะเป็นสถานี Interchange จะเชื่อมกับสถานีรัชดาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ อีกด้วย นอกจากนี้บริเวณทางลงรถไฟฟ้าก็จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์คอยจอดให้บริการอยู่ เวลาเร่งรีบก็นับว่าทันใจมาก

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 27 ชั้น ทั้งหมด 497 ยูนิต ระดับราคา Luxury class เฉลี่ยตรม.ละ 150,000 บาท โดยขายแบบ Fully Fitted เนื่องจากโครงการเน้นผู้อยู่อาศัยที่เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าด้วยจึงได้ทำช่องจอดรถเอาไว้ประมาณ 49% หรือ 60% แบบรวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาค่อนข้างสมเหตุสมผลทีเดียว มีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารอยู่ที่ 125 : 1 อาจจะน้อยไปสักหน่อยสำหรับอาคารสูงค่ะ

ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีหน้าห้องที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้ภายในห้องได้รับแสงจากธรรมชาติอย่างทั่วถึง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็สามารถทำได้ลงตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับห้องที่มีหน้าแคบแต่ลึก จุดที่ดีอีกอย่างของห้องในโครงการนี้ก็คือจะลดพื้นที่ในส่วนระเบียงลงให้เหลือเท่าที่จำเป็นเพื่อมาเพิ่มพื้นที่ภายในห้องให้กว้างขวางขึ้น ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี ถือว่าใช้ได้ค่ะ

นอกจากนี้ตัวโครงการยังเป็นอาคารประหยัดพลังงาน เพื่อการอยู่อาศัยที่สบายทั้งสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังออกแบบตามหลักของ Universal design โดยจะมีผลในการใช้งานอาคารอย่างมากเมื่อลูกบ้านได้เข้ามาอยู่อาศัยจริง

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการถือว่าให้มาครบครัน มี Landscape ที่สวยงาม, สวนพักผ่อน, ห้องสมุด, สระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool และ Sky Lounge ส่วนห้อง Fitness มีอุปกรณ์ครบครันดีอยู่ แต่อาจจะไม่พอสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายอย่างจริงจัง

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่ตัวอาคารและระบบ Key card ภายในลิฟท์แบบระบุชั้น ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ

:::: คะแนน ::::

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 1265

WEBSITE : http://www.mqdc.com/whizdom/avenueratchadaladprao/

คอนโด ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู Supalai Park Talat Phlu Station

“Supalai Park สถานีตลาดพลู“ คอนโดใหม่ ใกล้เดอะมอลล์ ท่าพระ ใกล้รถไฟฟ้า BTS ตลาดพลู เพียง 250 เมตร และ BRT สถานีราชพฤกษ์ เพียง 400 เมตร

ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู เป็นคอนโด High Rise 34 ชั้น 1 อาคาร ห้องพัก 785 ยูนิต + ร้านค้า 3 ยูนิต ออกแบบอาคารรูปตัว L โดยตัวตึกถูกออกแบบเป็นขั้นบันได โดยแต่ละขั้นบันไดเป็นพื้นที่สวนหย่อม

พื้นที่พักผ่อนบริเวณดาดฟ้า (Sky Terrace) และ สวนส่วนกลางกว่า 7 ชั้น เพื่อสามารถให้ผู้อยู่อาศัยปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.61 ล้านบาท*

ให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใคร วันที่ 7-13 ก.ย. นี้ Lifestyle Hall ชั้น 1 @ The Mall ท่าพระ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนราชพฤกษ์ ฝั่งขาออก แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.

พิกัด Google : 13.7126871,100.4726585

:: FLOOR PLAN  ::

5th Floor Plan

5th Floor Plan

6th Floor Plan

7th-10th Floor Plan

11th-16th Floor Plan

12th-16th Floor Plan

17th-20th Floor Plan

21st-23rd Floor Plan

22nd-23rd Floor Plan

24th-27th Floor Plan

25th-26th Floor Plan

27th Floor Plan

28th-30th Floor Plan

29th-30th Floor Plan

31st-33rd Floor Plan

32nd-33rd Floor Plan

:: UNIT TYPE ::

แบบ STUDIO

Talat Phlu Suite A : 27.5 ตร.ม.

Talat Phlu Suite B : 27.5 ตร.ม.

Talat Phlu Suite C : 27.5 ตร.ม.

Talat Phlu Suite D : 27.5 ตร.ม.

Talat Phlu Suite E : 28.0 ตร.ม.

Talat Phlu Suite F : 28.0 ตร.ม.

Talat Phlu Suite G : 28.5 ตร.ม.

Talat Phlu Suite H : 28.5 ตร.ม.

แบบ 1 Bedroom

Deluxe Suite : 49.00 ตร.ม.

Executive Suite A : 35.00 ตร.ม.

Executive Suite B : 37.00 ตร.ม.

Executive Suite C : 37.00 ตร.ม.

Executive Suite D : 37.5 ตร.ม.

Ratchaphruek  Suite A : 36.00 ตร.ม.

Ratchaphruek  Suite B : 36.00 ตร.ม.

แบบ 2 ห้องนอน

Premier Suite : 60.5 ตร.ม.

Family Suite : 72.5 ตร.ม.

:: GALLERY ::

ภาพบรรยากาศจำลองตัวอาคาร ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู

ภาพบรรยากาศจำลองทางเข้า-ออกโครงการ

ภาพบรรยากาศจำลอง สระว่ายน้ำ และ สวนพักผ่อนชั้น 5

ภาพบรรยากาศจำลองมุมสูงพื้นที่ส่วนกลางชั้น 5 และ สวนเล่นระดับ

ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนส

ภาพบรรยากาศจำลองโถงต้อนรับ

ภาพบรรยากาศจำลองสกายเลาจ์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1720

Website : http://www.supalai.com/Home

ไอคอนโด เสรีไทย iCondo Serithai คอนโดใหม่ ใกล้นิด้า

เตรียมพบกับโครงการ iCondo เสรีไทย คอนโดใหม่จาก Property Perfect ใกล้นิด้า พบกันเร็วๆ นี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >> https://goo.gl/JzEEEx

ที่ตั้งโครงการ

ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.

** หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากโครงการยังไม่เปิดตัว **

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1375

Website : www.pf.co.th

ไอคอนโด สุขุมวิท 77 iCondo Sukhumvit 77 คอนโดใหม่ ใกล้ The Paseo ลาดกระบัง

เตรียมพบกับโครงการ iCondo สุขุมวิท 77 คอนโดใหม่จาก Property Perfect ใกล้ The Paseo ลาดกระบัง พบกันเร็วๆ นี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก >> https://goo.gl/JzEEEx

ที่ตั้งโครงการ

โซนสุขุมวิท 77-อ่อนนุช

** หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากโครงการยังไม่เปิดตัว **

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1375

Website : www.pf.co.th

รีวิวทำเล คอนโด “ลุมพินี พาร์ค พหล 32″ คอนโดใหม่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ใกล้ BTS เสนานิคม และ Major รัชโยธิน จาก LPN

สวัสดีค่ะชาว Homenayoo ทุกท่าน สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่ากันอยู่นั้น วันนี้เรามีบทความฉบับพิเศษมาฝากกันค่ะ กับโครงการใหม่ล่าสุดจาก LPN ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับที่ดินโครงการ The Selected เกษตร-งามวงศ์วาน by LPN ที่เปิดจองไปและประกาศ Sold Out ภายใน 2 ชั่วโมง เรียกว่าจองกันจนเกลี้ยงทุกยูนิตไปแล้ว ซึ่งโครงการนี้มีชื่อเรียกว่า “ลุมพินี พาร์ค พหล 32” โดยจะพัฒนาเป็นอาคารสูงประมาณ 30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ประมาณ 550 ยูนิต ซึ่งจะเปิดให้จองในช่วงต้นตุลาคมนี้

ที่ตั้งโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 อยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินระหว่างซอยพหลโยธิน 30 และซอยพหลโยธิน 32 (หรือถนนเสนานิคม) ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้ง BTS เสนานิคม และ BTS รัชโยธิน ที่กำลังก่อสร้างอยู่ และ MRT พหลโยธิน เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินได้เช้าจรดค่ำ ใกล้ห้าง สถานศึกษา โรงพยาบาล และแหล่งทำงานขนาดใหญ่มากมาย เช่น ห้างเมเจอร์รัชโยธิน, ม.เกษตรศาสตร์, โรงพยาบาลเปาโล เกษตร, อาคารสำนักงาน SCB, ปตท., เชฟล่อน, อีซูซุ เป็นต้น

รายละเอียดทำเลและตัวโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่า : )

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิกเลย >> http://app.lpn.co.th/q/pahon32/index.php?media=LPN-Banner

ที่ตั้งโครงการ

ถนน พหลโยธิน แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

พิกัด google map : 13.833495, 100.572081

โครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 จัดเป็นโครงการใหม่ราคาจับต้องได้ที่เริ่มหาได้ยากในโซนพหลโยธินตอนกลางแบบนี้ค่ะ ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ระหว่างซอยพหลโยธิน 32 (หรือซอยเสนานิคม) และซอยพหลโยธิน 30 เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูงและมีจุดแข็งที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคม และสถานีรัชโยธิน(ในอนาคต), ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชและทางยกระดับอุตราภิมุข และยังใกล้ห้าง เพราะรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมายทั้ง Major รัชโยธิน, Central ลาดพร้าว, Union Mall, Tesco Lotus

นอกจากนี้ที่ตั้งโครงการยังอยู่ใกล้อาคารสำนักงานขนาดใหญ่มากมาย เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงในแง่การลงทุนปล่อยเช่าซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักคือ ม.เกษตรศาสตร์ ที่มีทั้งนักศึกษาและบุคลากรมากมาย, SCB Park หรือสำนักงานใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีจำนวนพนักงานที่ทำงานในนั้นมากกว่า 8,000 คน พนักงานจากตึก ปตท., เชฟล่อน, อีซูซุ และบรรดาอาคารสำนักงานรอบๆที่มีเยอะมาก และยังเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารก็เยอะ ตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศและนักศึกษาซะเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

ที่ตั้งโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ระหว่างซอยพหลโยธิน 32 และพหลโยธิน 30โดยที่ถนนพหลโยธินตอนนี้จะมีโครงการสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่- คูคต กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ กำหนดสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีเสนานิคม โดยมีระยะห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 300 เมตร คนชอบเดินก็สามารถเดินไปขึ้น BTS ได้สบายๆ

สำหรับคนไม่ใช้รถ นอกจากตัวโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ในระยะเดินไปได้สบายๆแล้ว โซนนี้มีทั้งรถเมล์, แท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ ผ่านหน้าโครงการแทบจะ 24 ชั่วโมงนะคะ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้นเพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ นั่งเพียง 3 สถานีถึง BTS หมอชิต สถานี Interchange
กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สวนจตุจักรได้ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงใกล้รถไฟฟ้าหลายสายค่ะ

ในรัศมี 3 กม. นี่ไปต่อ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน (2.5 กม.จากโครงการ) หรือ ในอนาคตก็มีรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีบางเขน (2.5 กม. จากโครงการ) ที่อยู่ใกล้โครงการอีกสาย สร้างเสร็จเมื่อไหร่โซนนี้ก็จะมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ที่กระจายตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางที่หลากหลายมากขึ้นไปอีก

สำหรับคนใช้รถ เราทำไฮไลท์เส้นทางสำคัญรอบๆโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 มาให้ดูค่ะ จะเห็นถนนใหญ่สำคัญ 3 เส้นอย่างพหลโยธิน, เกษตร-นวมินทร์, งามวงศ์วาน, รัชดาภิเษก และลาดพร้าววังหิน ล้อมรอบที่ตั้งโครงการอยู่ คนใช้รถสามารถเดินทางได้สะดวกมาก มีทางเข้าออกได้หลายทาง ทั้งด้านหลักอย่างถนนใหญ่พหลโยธิน ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ระหว่างแยกรัชโยธินและแยกเกษตร หรือถนนพหลโยธิน 32 (ถนนเสนานิคม) ที่สามารถใช้ลัดเลาะไปออกถนนลาดพร้าววังหินและถนนลาดพร้าวโดยเลี่ยงแยกต่างๆที่ตอนเย็นจะมีการจราจรหนาแน่นอย่างแยกรัชโยธิน, แยกเกษตร และห้าแยกลาดพร้าวได้ดี

การศึกษาทางลัดเลาะต่างๆเป็นเรื่องจำเป็นของโซนในเมืองแบบนี้ค่ะ เพราะใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ยาก โดยเฉพาะถนนลาดพร้าวที่เป็นถนนตรงยาวมาตั้งแต่สวนจตุจักรเรื่อยไปจนถึงแถวบางกะปิ ซึ่งกระทบมาที่ถนนพหลโยธิน, วิภาวดีรังสิต และ รัชดาภิเษก ทำให้ช่วงเช้า-เย็น โดยเฉพาะช่วงเย็นปริมาณรถบนถนนจะหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดงและทางกลับรถที่มีอยู่เป็นระยะๆ ดังนั้นจะแนะนำให้ใช้ถนนรัชดาภิเษก ที่มีทางกลับรถน้อยกว่า จากโครงการสามารถเข้า-ออกนอกเมืองด้วยการใช้โทลล์เวย์ที่ถนนวิภาวดีรังสิต หรือทางด่วนศรีรัชที่มีทางขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการอยู่บนถนนรัชดาภิเษก

โครงการจะอยู่ห่างจากจุดขึ้น – ลงทางด่วนศรีรัช ในระยะประมาณ 4.3 กม.หรือระยะเวลาขับรถเพียง 11 นาทีเท่านั้น การมีทางด่วนอยู่ใกล้ๆแบบนี้คนขับรถได้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเยอะค่ะ เพราะทำให้เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมือง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะไม่ว่าจะไปพระราม 4, สีลม, สาทร หรือออกเมืองไป เมืองทอง, ดอนเมือง, รังสิต ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชไปได้สะดวก

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• แยกรัชโยธิน 750 เมตร
• ถนนรัชดาภิเษก 750 เมตร
• แยกเกษตร 850 เมตร
• ถนนงามวงศ์วาน 900 เมตร
• ถนนงามวงศ์วาน 900 เมตร
• ถนนเกษตร-นวมินทร์ 1 กิโลเมตร
• ถนนวิภาวดีรังสิต 2 กิโลเมตร
• แยกวังหิน 2.3 กิโลเมตร
• ถนนลาดพร้าววังหิน 2.3 กิโลเมตร
• ถนนลาดพร้าว 2.5 กิโลเมตร
• ห้าแยกลาดพร้าว 2.7 กิโลเมตร
• แยกรัชดา-ลาดพร้าว 3.6 กิโลเมตร
• ถนนประชาชื่น 3.9 กิโลเมตร
• ถนนโชคชัยสี่ 4.0 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก รอบๆโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินได้ง่ายตั้งแต่เช้าจรดค่ำค่ะ ส่วนนึงเพราะอยู่ใกล้ห้างใหญ่อย่างเมเจอร์รัชโยธิน, ร.พ.เปาโล เกษตร, ตลาดบางเขน และม.เกษตรศาสตร์ มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารก็เยอะ ตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นนักศึกษาและพนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่พหลโยธินซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก ห่างจากโครงการไปประมาณ 600 ม. จะมี Major รัชโยธินอยู่ นอกจากฟังก์ชั่นหลักอย่างดูหนังโยนโบว์ลิ่งแล้ว เมเจอร์รัชโยธินมีร้านอาหารเยอะมากค่ะ ด้านในมี Community Mall อยู่ด้วย ร้านอาหารเต็ม แถมยังมีตลาดนัดขนาดใหญ่ด้านข้างซึ่งขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายซะเยอะ ใครชอบแต่งตัวน่าจะชอบค่ะ ของเยอะ เดินสนุกราคาไม่แพงด้วย

ถัดออกมาประมาณ 2.5 กม. จากโครงการที่ห้าแยกลาดพร้าว จะมีห้างใหญ่ของคนย่านนี้คือ Central ลาดพร้าวอยู่ ส่วนตัวเราชอบเซ็นทรัลสาขานี้มากที่สุดค่ะ คือมีของให้ช็อปเยอะและคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วด้วย แถมฝั่งตรงข้ามมี Union Mall แหล่งช้อปปิ้งราคาย่อมเยาว์ถูกใจมนุษย์เงินเดือนด้วย เดินช้อปปิ้งข้ามไปข้ามมาสนุกดี ซึ่งจากห้าแยกลาดพร้าวนี่เราสามารถเดินไปสวนรถไฟได้เลยนะคะ ถ้าเป็นคนชอบเดินนะ ภายในร่มรื่น มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นได้และมีหอสมุดพุทธทาสด้วย ใครอยากชวนที่บ้านมาเดินเล่นพักผ่อนปฎิบัติธรรม ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สวยสงบดี

ภาพตลาดนัดข้างเมเจอร์รัชโยธินค่ะ จะเห็นว่าเป็นตลาดนัดที่ใหญ่มากทีเดียว

สถานที่สำคัญใกล้เคียงโครงการ

• ตลาดบางเขน 300 ม.
• เมเจอร์รัชโยธิน 600 ม.
• SCB Park 1.3 กม.
• เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว 2.0 กม.
• Central ลาดพร้าว 2.4 กม.
• Union Mall 2.7 กม.
• บอง มาร์เช่ 3.6 กม.
• สวนรถไฟ 4.1 กม.
• ตลาดประชานิเวศน์ 4.3 กม.
• ตลาดนัดจตุจักร 4.4 กม.
• สถานีตำรวจโชคชัยสี่ 5.8 กม.
• ตลาดโชคชัยสี่ 6.1 กม.
• เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น 6.7 กม.
• ตลาดเตาปูน 6.9 กม.

• ม.เกษตรศาสตร์ 2.1 กม.
• ร.ร.หอวัง 2.2 กม.
• ม.ราชภัฏจันทรเกษม 2.3 กม.
• ม.ศรีปทุม 2.9 กม.
• ร.ร.เซนต์จอห์น 3.2 กม.

• รพ.เปาโล เกษตร 800 ม.
• รพ.วิภาวดี 3.0 กม.
• รพ.วิภาวดี 3.0 กม.
• รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น 4.1 กม.
• รพ.เปาโล เมมโมเรียล 5.4 กม.

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนเกษตร-นวมินทร์ → มุ่งหน้าไปแยกเกษตร → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน → เข้าไปประมาณ 750 เมตร จะเจอโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

เราเริ่มเดินทางกันจากถนนเกษตร-นวมินทร์ มุ่งหน้าไปแยกเกษตร เพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน

พอถึงแยกเกษตรเราเลี้ยวซ้ายไปถนนพหลโยธิน

เราเลี้ยวเข้ามาถนนพหลโยธินแล้ว เราจะเห็นว่าเกาะกลางถนนกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกันอยู่ เป็นส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ กำหนดสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563

เราตรงไปเราจะเจอโรงพยาบาลเปาโล เกษตร ทางฝั่งซ้ายมือ โดยโรงพยาบาลเปาโล เกษตรอยู่ห่างจากโครงการ 280 เมตร

ตรงไปอีกหน่อยจะเป็นตลาดบางเขนอยู่ห่างจากโครงการ 170 เมตร

เราตรงไปเรื่อยๆ

ตรงไปเราจะเจอถนนพหลโยธิน 32 ทางฝั่งซ้ายมือ ซึ่งสามารถลัดไปลาดพร้าวได้ ส่วนเราตรงไปนะคะ โครงการจะอยู่ใกล้ๆแล้วค่ะ

ตรงไปอีกนิดจะเจอที่ดินโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

รอบโครงการ

ที่ดินโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 มีลักษณะเป็นรูปตัว L ทิศตะวันตกอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ทิศเหนืออยู่ติดถนนเสนานิคมหรือพหลโยธิน 32 โดยด้านอื่นๆจะอยู่ติดอาคารแนวราบทั้งหมดค่ะ ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น ทิศใต้อยู่ติดอาคารธนาคารกรุงเทพสูง 4 ชั้น ข้อดีคือชั้น 7 ขึ้นไปก็สามารถมองวิวออกไปได้ไกล เนื่องจากไม่มีตึกสูงขึ้นบังในระยะประชิดนั่นเอง

รอบๆโครงการในระยะเดินมีความอุดมสมบูรณ์สูงค่ะ นอกจาก Major รัชโยธิน ในระยะเดินถึงสบายๆประมาณ 600 เมตรแล้ว รอบๆใกล้ๆโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งธนาคาร ร้านอาหาร ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ แผงขายอาหาร น้ำ ขนม ส้มตำ เรียกได้ว่าหาของกินได้เช้าจรดค่ำค่ะ บรรยากาศรอบๆหน้าโครงการจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

ที่ดินโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 ล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย ตอนนี้สำนักงานขายและห้องตัวอย่างสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ สามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้แล้ว

ที่ดินโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกรัชโยธินที่มีถนนรัชดาภิเษกตัดผ่าน

มองไปฝั่งตรงข้าม เราจะเห็นว่าเกาะกลางถนนกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกันอยู่ เป็นส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ กำหนดสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานี เสนานิคม ค่ะ ถัดไปอีกฝั่งถนนจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 – 6 ชั้น

มองไปทางฝั่งขวามือหรือทิศใต้ของโครงการ ติดกับโครงการเป็นอาคารธนาคารกรุงเทพสูง 4 ชั้น จากตรงนี้เดินตรงไปประมาณ 600 เมตรก็ข้ามฝั่งไปเมเจอร์รัชโยธินได้แล้วค่ะ เดี๋ยวเราพาเดินไปดูกัน

ถัดไปเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ด้านล่างมีร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์

ถัดไปเป็นร้านสุกี้ดารา ร้านอาหารอีกร้านที่อยู่ใกล้ๆโครงการค่ะ

เดินไปอีกหน่อยเป็นร้านทำกรอบรูป ทางเดินเท้าริมถนนพหลโยธินเดินง่ายค่ะ และปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นมาเป็นระยะๆ

ตรงไปจะเจอร้านเสริมสวยเกศสยาม ฝั่งตรงข้ามมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่

อัตราค่าโดยสารนั่งไป SCB Park 20 บาท, MRT พหลโยธินที่อยู่ติดเซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนียนมอลล์ 40 บาท เวลารถติดนั่งเลาะไปสะดวกดีค่ะ

เดินต่อไปข้างทางจะมีแผงขายอาหารหลายร้านค่ะ ไม่ว่าจะแผงร้านขายส้มตำ ยำ ลาบ น้ำตก

หรือแผงขายกล้วยทอด มันทอด

ถัดมาจะเป็นหน้าโครงการคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วของ LPN โดยด้านหน้าจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่

อัตราค่าโดยสารค่ะ

ซ้ายมือเราจะเป็นคอนโดลุมพินี เพลส รัชโยธิน จาก LPN เช่นกัน

เดินมาอีกนิด ด้านหน้าคอนโดจะมีป้ายรถเมล์อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 400 เมตร มีรถเมล์ผ่านหลายสายค่ะ ไม่ว่าจะเป็น 24, 26, 34, 39, 59, 63 เป็นต้น

ถัดมาจะเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายยา

ถัดมามีร้านทำผม, คลินิกเสริมสวย, คลินิกจัดฟัน ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีค่ะ เดินมาใช้บริการได้สบายๆ

ถัดมามี 7-11 พร้อม ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ จุดนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร

จาก 7-11 มองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นห้างเมเจอร์รัชโยธินแล้วค่ะ โดยเมเจอร์รัชโยธินอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 เมตรเท่านั้น

กลับมาที่หน้าโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 กันต่อ คราวนี้เราไปดูฝั่งซ้ายมือหรือทางฝั่งทิศเหนือกันบ้างค่ะ

ติดที่ดินโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น

ด้านล่างเป็นร้านค้า เดินไปหน่อยจะเจอร้านตัดสูทเก่าแก่

ถัดมาเป็นร้านสักและแผงขายอาหารเจ

ถัดไปเป็นถนนพหลโยธิน 32 หรือถนนเสนานิคม 1 แล้วค่ะ ซึ่งเป็นถนนที่สามารถลัดไปออกถนนลาดพร้าวได้ด้วย

สำนักงานขายและห้องตัวอย่างโครงการ ลุมพินี พาร์ค พหล 32 ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

สามารถเข้าชมสำนักงานขายและห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้

ลงทะเบียนรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ ที่นี่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 02-689-6888

Website : http://www.lpn.co.th/

Facebook : Condo Lumpini

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย Supalai Loft Yaek Fai Chai Station

บมจ.ศุภาลัย เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ “Supalai Loft สถานีแยกไฟฉาย“ คอนโด High Rise 24 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนพระเทพตัดใหม่ เดินทางสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีแยกไฟฉาย 350 เมตร และ เพียง 4 สถานี สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีบางหว้า

เปิดจองครั้งแรก 7-13 ก.ย. นี้ Lifestyle Hall ชั้น 1 @ The Mall ท่าพระ ราคาเริ่มต้น 2.17 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ถนนพระเทพตัดใหม่ (พรานนก-พุทธมณฑล สาย 4) แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม.

พิกัด Google : 13.754861, 100.466588

:: FLOOR PLAN ::

Master Plan

5th Floor Plan

6th-23rd Floor Plan

24th Floor Plan

:: UNIT TYPE ::

TYPE  1  BEDROOM

LOFT SUITE (a) : 35.00 sq.m.

LOFT SUITE (b) : 35.00 sq.m.

LOFT SUITE (c) : 35.00 sq.m.

PRESIDENTIAL SUITE 01 : 47.00 sq.m.

PRESIDENTIAL SUITE 02 : 47.00 sq.m.

PRESIDENTIAL SUITE 03 : 47.00 sq.m.

Deluxe Suite : 47.00 sq.m.

Executive Suite : 47.00 sq.m.

TYPE 2 BEDROOMS

PRESIDENTIAL SUITE 04 : 77.50 sq.m.

PRESIDENTIAL SUITE 05 : 75.00 sq.m.

PRESIDENTIAL SUITE 06 : 71.00 sq.m.

PRESIDENTIAL SUITE 07 : 71.00 sq.m.

FAMILY SUITE (a) : 72.5 sq.m.

FAMILY SUITE (b) : 75.00 sq.m.

FAMILY SUITE (c) : 77.00 sq.m.

FAMILY SUITE (d) : 77.50 sq.m.

:: GALLERY ::

ภาพบรรยากาศจำลองภายนอกอาคาร ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย

ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลางชั้น 5

ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลางชั้น 24 (ชั้นดาดฟ้า)

ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำระบบเกลือ + Jacuzzi  และ ฟิตเนส

ภาพบรรยากาศจำลองโถงต้อนรับชั้น 1

ภาพบรรยากาศจำลอง Sky Lounge

ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องชุดพักอาศัย

ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องนอน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1720

Website : http://www.supalai.com/Home

รีวิวทำเล คอนโด มารุ เอกมัย 2 MARU EKKAMAI 2 ใกล้ BTS เอกมัย เริ่ม 4.3 ล้านบาท

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน มีใครกำลังสนใจคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้อยู่บ้างหรือเปล่า วันนี้เราจะพามาชมทำเลโครงการ MARU เอกมัย 2 ซึ่งเป็นคอนโด High rise จาก Major Development กันค่ะ ตัวโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 63 หรือ ถนนเอกมัย ระหว่างซอยเอกมัย 2 และ ซอยเอกมัย 4 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย เพียง 550 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ถนนสุขุมวิท, ถนนเพชรบุรี และ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

มารุ เอกมัย 2 เป็น High rise Condominium สูง 32 ชั้น มี 1 อาคาร จำนวน 371 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-2-77.2 ไร่ มีขนาดห้องให้เลือกเป็น Studio, 1 Bedroom, 2 Bedrooms และ Duplex ขนาดเริ่มต้นที่ 29.50 ตรม. ซึ่งทางโครงการกำลังจะเปิดพรีเซลล์ครั้งแรกในวันที่ 23-24 กันยายน นี้

สิ่งอำนวยความสะดวก ของทางโครงการจะเน้นเป็นพิเศษ มีพื้นที่ใช้สอยมาก จุดเด่นคือเป็น Pet Friendly & Wellness Living จัดสรรเนื้อที่มาให้อย่างหลากหลาย เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรมส่วนตัว และการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ อาทิ Lobby, Mailbox, Library, Swimming pool, Park, Sky Garden, Fitness, Workshop, Quiet room, ลิฟท์โดยสาร, Access Card Control, กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. โดยในส่วนที่เป็นพื้นที่ Outdoor จะสามารถนำสัตว์เลี้ยวเข้าไปได้ ในราคาเริ่มต้นที่ 4.3 ล้านบาท (เฉลี่ย 180,000 บาท/ตร.ม.)

วันนี้ทางทีมงานจะพาไปชมทำเลกันก่อน ซึ่งเมื่อโครงการเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เราจะมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ชมกันอีกครั้ง

ส่วนวันนี้สภาพแวดล้อมของโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

ลงทะเบียนรับพิเศษส่วนลดพิเศษ 100,000. คลิกที่นี่ www.marubymajor.com