“LIFE อโศก-พระราม 9” คอนโดใหญ่ใจกลางย่านธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯ

“LIFE อโศก-พระราม 9” จากเอพี โดดเด่นกว่าอย่างไร ? LIFE อโศก-พระราม 9 เป็นตัวเลือกอันดับแรกและดีที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมใหม่ ด้วยจุดแข็งที่แตกต่าง ดังนี้

1. Location (ทำเล) นอกจากเป็นศูนย์รวมโครงข่ายคมนาคมเมืองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ยังเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจแห่งใหม่ รายล้อมด้วยบริษัทชั้นนำของไทยและบริษัททุนต่างชาติ เป็นทำเลที่ ถูกจับตามองจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะเอเชีย อาทิ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น

2. Facility (สิ่งอำนวยความสะดวก) ครั้งแรกของคอนโดมิเนียมไทยกับการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดกว่า 7.5 ไร่ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล เป็นความสมบูรณ์พร้อมของการยกระดับคุณภาพการชีวิตอย่างไร้รอยต่อ

3. New Innovative Design (นวัตกรรมดีไซน์พื้นที่) การจัดวางผังยูนิตและสเปซภายในแบบใหม่ “New Interlocked Layout” ที่ลงตัวและคุ้มค่ากว่าเดิม แตกต่างด้วยหน้ากว้างของห้องที่มากถึง 7 เมตร และ 5 เมตร ระหว่างห้องสตูดิโอ ขนาด 27.5 ตารางเมตร ที่เน้นความโปร่งโล่ง กับห้องชุดแบบ One Bed-Plus ขนาด 35 ตารางเมตร ที่เน้นความเป็นสัดส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งาน พื้นที่พิเศษปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์และห้องครัวแบบปิด

4. Price (ราคาเร้าใจ) การเข้าใจความต้องการของลูกค้าในด้านราคาของตัวสินค้า ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยบริหารแพ็คเกจราคาขายเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อทุกกลุ่ม ตอบโจทย์การใช้ชีวิตใจกลางเมือง

ในราคาที่เอื้อมถึง เริ่มต้นเพียง 2.75 ล้านบาท (หรือที่เริ่มต้น 110,000 บาท ต่อ ตร.ม. เท่านั้น) คุ้มค่าที่สุดสำหรับทั้งการอยู่อาศัย และการลงทุน

โดดเด่นทั้งการดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งาน

LIFE อโศก-พระราม 9  ผสานความงดงามของการดีไซน์เข้ากับการใช้งานในยุคดิจิตอล ด้วยเสน่ห์ของ  การออกแบบคอนเซปต์ดีไซน์ให้โอ่อ่าหรูหรา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ การนำเสน่ห์และคุณสมบัติของ Crystal ที่สะท้อนแสงและมีความมันวาว มาออกแบบตกแต่งพื้นที่ภายในโครงการต่างๆ ดังนี้

1. The Grand Parlour Lobby สะดุดตาเมื่อก้าวเข้ามาภายในโครงการ สะท้อนความหรูหราโอ่อ่าตั้งแต่ก้าวแรก ให้การต้อนรับอย่างหรูหราลงตัวกับบรรยากาศสุดประทับใจในทุกมุมมอง ด้วยการออกแบบโดยใช้ คอนเซปต์ Modern Luminous

2. Sanctuary Pavilion พื้นที่พักผ่อนภายนอกอาคาร ที่เป็นมากกว่าการพักผ่อนท่ามกลางสวนขนาดใหญ่ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มออกซิเจน-พลังงานสะอาดให้กับชีวิต และทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางเมืองที่วุ่นวาย ออกแบบให้มี 2 ชั้นเพื่อสามารถเปิดรับวิวได้อย่างรอบด้าน เป็นจุดดึงสายตาได้เสมือนคริสตัลที่สะท้อนแสงอยู่กลางพื้นที่สีเขียว

3. The Third Place พื้นที่ Co-working space 2 ชั้น ดีไซน์ตอบรับพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยจริง ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานแบบกลุ่มและเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็น Community Bench Space หรือ Individual Cocoon ที่รองรับ ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ ช่วยเชื่อมต่อทุกมิติของการดำเนินชีวิตในเมืองยุคดิจิตอลอย่างไม่มีสะดุด ทำให้ชีวิตประจำวันกับการทำงานผสานกันได้อย่างลงตัวอย่างแท้จริง

LIFE อโศก – พระราม 9  ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ด้วยความโดดเด่น ดังนี้

1. 24-HOUR CONNECTED WORLD ผสานเทคโนโลยีในการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง เพื่อชีวิต Digital Community อย่างเต็มรูปแบบ ด้วย Infrastructure ที่พร้อมรองรับสิ่งอำนวยความสะดวก และสัญญาณ Wi-fi ในพื้นที่ส่วนกลางทุกจุด

ทั้งยังจัดสรรพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับ การใช้งานในรูปแบบ Co-working Space ที่จะทำให้การเชื่อมต่อเป็นเรื่องง่าย พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานจริง รองรับวิถีชีวิตการทำงานที่ยืดหยุ่นไม่ยึดติดกับกรอบของเวลาหรือสถานที่ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา

2. AP COMMUNITY APPLICATION ทุกอย่างควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ภายใต้วิสัยทัศน์ AP Digital Community สัมผัสอนาคตแห่งการอยู่อาศัยได้ด้วย AP COMMUNITY APPLICATION อย่างเต็มรูปแบบ ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในโครงการเอพีให้สะดวกสบายและปลอดภัยในรูปแบบที่สะดวกกว่าเดิม

โดยสามารถสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย ให้ควบคุมทุกอย่างได้แบบ real time รองรับการจองใช้พื้นที่ส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งยังสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในโครงการได้สะดวกสบายกว่าที่เคย

รายละเอียดโครงการ      

Life อโศก-พระราม 9 คอนโดใหม่ 300 เมตรจาก MRT พระราม 9 พร้อม Rooftop Facility ล้ำหน้าทุกแนวคิด ขนาด 1.5 ไร่

Pre-Sale 11-12 พ.ย. นี้ เริ่มต้น 2.75 ล้านบาท

สนใจลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 300,0000 บาท! คลิก  https://goo.gl/d4KCzb

และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ จองออนไลน์ (iBooking) ได้ที่ https://ibooking.apthai.com/th/

ทดสอบก่อนจองจริงวันที่ 31 ตุลาคม 2017 เวลา 9.00-17.00
จองออนไลน์ (iBooking)   วันที่ 8 พฤศจิการยน  2017 เวลา 20.00-22.00

คอนโด ไอคอน สุขุมวิท 77 IKON Sukhumvit 77

V Property เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ “IKON สุขุมวิท 77“ คอนโดใหม่ภายใต้แนวคิด  Be Extraordinary  บนทำเลศักยภาพโซนอ่อนนุช ใกล้ทางด่วน ติดคอมมูนิตี้มอลล์ เพียง 1 นาที ถึง BTS อ่อนนุช แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : http://ikon77.com/register.php

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 77 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.

*ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากโครงการยังไม่เปิดตัวค่ะ**

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 092-802-9999

Website : http://ikon77.com

คอนโด โอกะ เฮ้าส์ สุขุมวิท 36 Oka Haus Sukhumvit 36

Oka Haus สุขุมวิท 36 คอนโดใหม่สไตล์รีสอร์ท จาก แสนสิริ ยกธรรมชาติมาไว้ใจกลางเมือง บนทำเลที่เดินทางได้หลากหลาย  เข้าสู่ใจกลาง ถ.สุขุมวิทและ ถ.พระราม 4 เพียงไม่กี่นาที ใกล้ BTS ทองหล่อ และทางด่วนเฉลิมมหานคร สิ่งอำนวยความสะดวกแวดล้อมด้วยทุกไลฟ์สไตล์ เริ่ม 3.69 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท คลิกที่นี่ >> https://goo.gl/599cC3

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.

พิกัด Google : 13°42’57.0″N 100°34’29.9″E

:: GALLERY ::

ภาพจำลองบรรยากาศ Co-Playground

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby

ภาพจำลองบรรยากาศ Leiaure Pool

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/condominium/oka-haus/th/

EP.927 รีวิว คอนโด ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ Chateau In Town สุขุมวิท 64/1 จาก บริษัท พระยาพาณิชย์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นคอนโดใหม่พร้อมอยู่ ในแนวคิด “ขยายชีวิต ให้ใกล้อนาคต” ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/1 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. เดินทางสะดวกสบาย เพียง 250 ม. จาก BTS ปุณณวิถี ใกล้ทางด่วนหลัก 2 สาย รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันครบครัน

ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 3-0-64.6 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 222 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 28.02-44.86 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2559

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องตู้จดหมาย, สระว่ายน้ำระบบเกลือ และ ธาราบำบัด, สตรีม, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน และ พื้นที่สีเขียวรอบโครงการ, ที่จอดรถ คิดเป็น 50% รวมซ้อนคัน, เข้า-ออกระบบ Access Card Control ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดสำคัญ พร้อม รปภ. ตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเพียง 95,000 บาท/ตร.ม. (อัพเดท ก.ย. 60)

สำหรับรายละเอียดอื่นๆ สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 64/1 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.

ทำเลที่ตั้งโครงการ : ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ บนทำเลศักยภาพแห่งใหม่ โซนสุขุมวิทตอนปลาย ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/1 ห่างจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า เพียง 50 เมตร ใกล้แยกสุขุมวิท 101/1, แยกอุดมสุข, แยกบางนา, ใกล้ทางด่วนหลัก 2 สาย และ ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณวิถี เพียง 250 เมตร

ในอนาคตจะมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่าง Bangkok Mall โครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกของ The Mall Group และ สำนักงานภิรัชบุรี @ ไบเทค บางนา ศูนย์รวมออฟฟิศขนาดใหญ่ที่สุดในโซนสุขุมวิท-บางนา ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงกลางปี 60 ที่ผ่านมานี้

ปัจจุบันทำเลโซนนี้ เริ่มได้รับความนิยมในด้านที่อยู่อาศัยมากขึ้น ด้วยราคาที่ดินที่ยังขยับขึ้นไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับทำเลโซนสุขุมวิทต้น ๆ ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการจะมีบ้านหลังแรก บนทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในราคาที่จับต้องได้ รวมไปถึงนักลงทุน ที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ เก็งกำไร ก็ต้องตบเท้าเข้ามาลงทุนอสังหาฯโซนนี้กันมากขึ้น

ปัจจุบันราคาที่ดินโซนสุขุมวิทช่วงปลาย (บางนา-อ่อนนุช-อุดมสุข) จะอยู่ที่ 140,000-220,000 บาท/ตร.วา อ้างอิงจากประเมินทุนทรัพย์ที่ดินกรมธนารักษ์ปี 2559-2562 ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ Bangkok Mall สร้างเสร็จ คาดว่าราคาที่ดินโซนนี้จะปรับสูงขึ้นได้อีกค่ะ

พิกัด Google : 13.686297, 100.608874

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/1 ห่างจากถนนใหญ่ ถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า เพียง 50 เมตร ทำให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย สามารถเชื่อมต่อถนนสายสำคัญ และซอยลัดได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช), ถนนสุขุมวิท 101/1 (ปุณณวิถี), ถนนสุขุมวิท 103 (อุดมสุข), ถนนสรรพาวุธ และ ถนนบางนา-ตราด การเดินทางเข้าเมืองยิ่งสะดวก เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางพิเศษสาย S1 (ทางด่วนบางนา-อาจณรงค์) ประมาณ 1.7 กม. จากทางด่วนขับรถใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที วิ่งตรงสู่ใจกลางเมืองธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

แต่ถ้าไม่ต้องการขึ้นทางด่วน ก็สามารถใช้ถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า วิ่งผ่านอ่อนนุช, พระโขนง, เอกมัย, ทองหล่อ ออกไปยังอโศก ยาวไปยันสุขุมวิทตอนต้นได้เลย หรือจะใช้ทางลัดตรงแยกพระโขนง เชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 4 เส้นนี้จะใช้ออกไปยังโซนสาทร-สีลมได้เลย สำหรับการเดินทางออกเมือง สามารถใช้ได้ทั้งเส้นทางปกติ อย่างถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก หรือ จะใช้ทางด่วนบูรพาวิถี เพื่อมุ่งหน้าสู่บางพลี, สนามบินสุวรรณภูมิ, ฉะเชิงเทรา หรือวิ่งออกไปยังชลบุรีได้เลยค่ะ

: ภาพ Google ประกอบการเดินทาง :

• จากหน้าโครงการ ⇒ จุดขึ้นทางพิเศษสาย S1 หรือทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ ด่านบางนา ระยะทาง 1.9 กม.ใช้เวลาประมาณ 7 นาที

• จากหน้าโครงการ ⇒ ทางพิเศษบูรพาวิถี จุดขึ้นบางนา กม.2 ระยะทาง 4.8 กม.ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ระยะทางจากแยก และถนนสำคัญใกล้เคียง

• ที่ตั้งของโครงการ : ซอยสุขุมวิท 64/ 1
• แยกสุขุมวิท 101/1 (วัดทุ่ง) : 400 ม.
• แยกอุดมสุข (Sky Walk อุดมสุข-บางนา) : 1 กม.
• แยกบางนา : 1.7 กม.
• แยกอ่อนนุช : 3 กม.
• แยกศรีอุดม : 5 กม.
• แยกต่างระดับศรีเอี่ยม : 5.8 กม.
• แยกสวนหลวง (ศรีนุช) : 6.7 กม.

• ถนนสุขุมวิท : 50 ม.
• ถนนวชิรธรรมสาธิต (สุขุมวิท 101/1) : 400 ม.
• ถนนอุดมสุข (สุขุมวิท 103) : 1 กม.
• ถนนบางนา-ตราด : 1.7 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ : 6 กม.
• ถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) : 3 กม.
• ทางพิเศษสาย S1 หรือทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ (จากจุดลง) : 2.2 กม.
• ทางพิเศษบูรพาวิถี (จากจุดลง) : 8.6 กม.

:: การเดินทางโดยสาธารณะ ::

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : โครงการนี้จะใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สถานีด้วยกัน คือ BTS ปุณณวิถี ที่มีระยะทางใกล้กว่า เดินเท้าไปสบาย ๆ ระยะทางเพียง 250 เมตร และ อีกสถานีจะเป็น BTS อุดมสุข ระยะทางจากโครงการไป ประมาณ 950 เมตร ในอนาคตก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปรากา คาดว่าจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการ ช่วงปลายปี 2561 ซึ่งเมื่อโครงการส่วนต่อขยายนี้สร้างเสร็จ การเดินทางของคนโซนสุขุมวิทช่วงปลายก็จะสะดวกมากขึ้น

นอกจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ก็ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ให้ใช้บริการด้วยนะ สามารถนั่งจากสถานีปุณณวิถี ไปลงที่สถานีสำโรง (BTS) ซึ่งจะเป็นจุด Interchang ไปยังสถานีสำโรง ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใช้เดินทางเส้นทางหลักตามแนวถนนศรีนครินทร์ ออกไปยังโซนลาดพร้าวได้อย่างสะดวก โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2562 ค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ : หากต้องการเดินทางโดยใช้รถเมล์-รถประจำทางต่างๆ มีป้ายรถเมล์ให้เลือกทั้งฝั่งเดียวกับโครงการ และฝั่งตรงข้ามโครงการ มีสะพานลอยให้ข้ามอย่างปลอดภัย ระยะเดินเท้าจากโครงการ 250-300 เมตร มีทางเท้าขนาดใหญ่เดินไปได้สะดวก ในส่วนของ Taxi และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง สามารถเรียกได้จากหน้าโครงการ หรือ จากหน้าถนนสุขุมวิท มีรถผ่านตลอดทั้งวันค่ะ

• รถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท
• รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง (อนาคต)
• รถไฟฟ้า LRT สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (อนาคต)

• จากหน้าโครงการ ⇒ BTS ปุณณวิถี ระยะทาง 250 ม.ใช้เวลาประมาณ 3 นาที

• จากหน้าโครงการ ⇒ BTS อุดมสุข ระยะทาง 950 ม.ใช้เวลาประมาณ 12 นาที (Sky Walk อุดมสุข-บางนา ≈ 5-12 นาที)

• จากหน้าโครงการ ⇒ YL 15 สถานีสวนหลวง ร.9 ระยะทาง 6 กม.ใช้เวลาประมาณ 24 นาที

:: ภาพประกอบการเดินทาง ::

การเดินทางเริ่มจากถนนสุขุมวิท แยกอ่อนนุช ⇒ BTS อ่อนนุช⇒ BTS บางจาก ⇒ BTS ปุณณวิถี (ทางออก 6 เดิน≈250 เมตร) ⇒ BTS อุดมสุข ⇒ แยกอุดมสุข ≈ 100 เมตรถึงที่กลับรถ ⇒ ซอยสุขุมวิท 64/1 อีก 50 เมตร ถึงโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1

ภาพเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เราเริ่มจากสะพานข้ามคลองพระโขนง ซ้ายมือเป็นจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

ลงสะพานมาจะผ่านแยกอ่อนนุช จากแยกนี้ตรงไปอีกประมาณ 3.8 กม. เราจะต้องกลับรถเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 64/1 ซึ่งตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยนี้ค่ะ

ตรงมาเรื่อย ๆ ตามทางผ่าน BTS อ่อนนุช ,Tesco Lotus อ่อนนุช และ Century The Movie Plaza อ่อนนุชที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ผ่าน BTS บางจาก

ผ่านซอยสุขุมวิท 62 ขวามือและ M Tower ขับตรงไป

เราก็จะเห็น BTS ปุณณวิถี ซึ่งเป็นสถานีหลักในการโดยสารสาธารณะ เพราะห่างจากตัวโครงการประมาณ 250 ม. (ใช้ทางออก 6 ที่จะเชื่อมกับสะพานลอยที่ลงฝั่ง รร.นานาชาติ Anglo Singapore ค่ะ)

และพอถึงซอยสุขุมวิท 64 ฝั่งขวามือ แต่ตัวโครงการจะอยู่ถัดไปอีกซอยนึงค่ะ เดินเท้าประมาณ 150 ม.ถึงปากซอยสุขุมวิท 64/1 …แต่เรามาโดยรถยนต์ส่วนตัวดังนั้น จากจุดนี้ให้ตรงไปอีก 1.3 ถึงที่กลับรถ ซึ่งจะอยู่ถัดจากแยกอุดมสุข 100 ม.ค่ะ

ผ่าน BTS อุดมสุข เป็นสถานีที่มี Sky Walk เชื่อมต่อระหว่างอุดมสุข-บางนาค่ะ

ถึงแยกอุดมสุขให้ตรงไปอีก 100 ม. เพื่อกลับรถ (แยกนี้กลับรถไม่ได้)

ระหว่างทางเราก็จะเห็นเสาตอม่อ Sky Walk ด้วยนะคะ พอกลับรถมาแล้วให้ตรงไปอีก 1 กม. ถึงซอยสุขุมวิท 64/1

เลี้ยวเข้าซอยตรงไปอีก 50 ม. ถึงโครงการ

ถึงโครงการชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1

หน้าโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1

:: สถานที่สำคัญโดยรอบโครงการ ::

สถานที่สำคัญโดยรอบโครงการ รัศมีไม่เกิน 10 กม. มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ที่สุดจะเป็น 7-11 ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/1 แยก 3 เดินจากโครงการไปเพียง 120 เมตร เดินมาหน้าปากซอยริมถนนสุขุมวิท จะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ที่เปิดเป็นร้านค้าต่าง ๆ สลับกับโชว์รูมรถยนต์ขนาดใหญ่ มีการกระจายตัวของห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, ไลฟ์สไตล์มอลล์, ร้านอาหาร และ ตลาดสด ไว้ในรัศมีรอบๆ ค่อนข้างเยอะ

โดยห้างใหญ่ ๆ จะเกาะตามถนนเส้นหลัก อย่างถนนสุขุมวิท ก็จะมีเทสโก้ โลตัส อ่อนนุช, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า อ่อนนุช, The Phyll, People Park, Habito Mall รวมถึง Century The Movie Plaza อ่อนนุช ห้างสรรพสินค้า และ โรงหนังขนาดใหญ่แห่งใหม่ในย่านนี้เลย

ถ้าออกไปเส้นบางนา-ตราด ก็จะมีห้างขนาดใหญ่ให้เลือกไปอีกแห่ง ก็คือ เซ็นทรัล บางนา ในอนาคตจะมีโครงการ Bangkok Mall ในเครือ The Mall Group มาเปิดใกล้ ๆ ทั้งยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากไบเทค บางนา เวลามีการจัดงาน เราก็นั่งรถไฟฟ้าไปเดินเล่นกันได้ง่าย ๆ

และสุดท้ายจะอยู่ทางถนนศรีนครินทร์ ก็จะมีทั้งซีคอน สแควร์, พาราไดซ์ พาร์ค ที่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่รวบรวมสินค้าอุปโภค-บริโภค, สถาบันกวดวิชา และโรงภาพยนตร์ไว้ครบครัน มี Haha Mall ที่เป็นศูนย์รวมแฟชั่น และ ร้านอาหารต่างๆ ไว้ด้านใน รวมถึงใกล้กับตลาดนัดกลางคืนขนาดใหญ่ อย่างตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ให้ได้ไปเดินช๊อปปิ้ง หาไรกินกันได้ชิวๆ

นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานศึกษา และ โรงเรียนนานาชาติ, สถานพยาบาล, แหล่งงาน และ หน่วยงานราชการ อย่างครบถ้วน ใกล้ที่สุดจะเป็น รร.นานาชาติ Anglo Singapore ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 64 ติดกับสถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถี ซึ่งห่างจากโครงการเพียง 250 เมตรเท่านั้น

ออกไปรอบ ๆ ก็จะมี รร.นานาชาติ Berkeley, รร.นานาชาติ St.Andrews, รร.นานาชาติ Wells อ่อนนุชแคมปัส, รร.นานาชาติ Wells บางนาแคมปัส, รร.บางกอกพัฒนา, รร.การเดินเรือบาร์เธอร์ และ วิทยาลัยดุสิตธานี เป็นต้น

รวมถึงใกล้กับ รพ.กล้วยน้ำไท, รพ.สุขุมวิท, สนง.ที่ดินพระโขนง, กรมอุตุนิยมวิทยา, สนามกีฬาภูติอนันต์ ใกล้อาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง อาทิ ภิรัชบุรี @ ไบเทค บางนา, Central City Tower, บางนา คอมเพล็กซ์, อาคารไพโรจน์กิจจา, Ample Tower , บมจ.ไทยประกันชีวิต (บางนา), Inter Link Tower, อาคารบางนาธานี และ อาคารเตียวฮง

สถานที่สำคัญโซนอ่อนนุช-บางนา

• 7-11 : 120 ม.
• Piyarom Place : 210 ม.
• Di Wavery Park : 600 ม.
• The Phyll สุขุมวิท 54 : 2.1 กม.
• Lotus อ่อนนุช : 2.3 กม.
• The Bangkok Mall : 2.7 กม.
• Big C Extra อ่อนนุช : 3 กม.
• Bitec บางนา : 3.3 กม.
• Century The Movie Plaza อ่อนนุช : 3.3 กม.
• People Park : 3.6 กม.
• Habito Mall : 3.5 กม.
• W District : 3.7 กม.
• Summer Hill : 3.8 กม.

• DKSH (Thailand) Limited-Healthcare : CN : 1 กม.
• M Tower : 1 กม.
• สนง.เขตพระโขนง : 2 กม.
• Bhiraj Tower : 3.3 กม.
• กรมอุตุนิยมวิทยา : 3.7 กม.
• สนามกีฬาภูติอนันต์ : 3.8 กม.
• Center Point Studio : 4.4 กม.

• รพ.กล้วยน้ำไท : 4.7 กม.
• รพ.สุขุมวิท : 4.7 กม.

• รร.นานาชาติ Anglo Singapore : 250 ม.
• รร.นานาชาติ Berkeley : 3.5 กม.
• รร.นานาชาติ St.Andrews : 4.4 กม.
• รร.นานาชาติ Wells อ่อนนุชแคมปัส : 2.6 กม.
• รร.นานาชาติ บางกอกพัฒนา : 6.9 กม.
• รร.เดินเรือเคมสตาร์ : 9.5 กม.

สถานที่สำคัญโซนบางนา-ศรีนครินทร์

• Central Plaza บางนา : 5.9 กม.
• Big C บางนา : 6 กม.
• Little Walk บางนา : 6.4 กม.
• Top Market Place อุดมสุข : 6.5 กม.
• Seacon Square ศรีนครินทร์ : 6.6 กม.
• Pickadaily : 6.6 กม.
• ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ : 6.7 กม.
• Makro ศรีนครินทร์ 2 : 6.9 กม.
• Paradise Park ศรีนครินทร์ : 7 กม.
• Haha Mall : 7 กม.
• Chic Repubilc บางนา : 7.5 กม.
• Index Living Mall บางนา : 7.6 กม.

• Central City Tower : 5.9 กม.
• บางนา คอมเพล็กซ์ : 6.1 กม.
• รพ.ไทยนครินทร์ : 6.3 กม.
• อาคารไพโรจน์กิจจา : 6.6 กม.
• Ample Tower : 6.8 กม.
• สนง.ที่ดินพระโขนง : 7 กม.
• บมจ.ไทยประกันชีวิต (บางนา) : 7 กม.
• Inter Link Tower : 7.7 กม.
• อาคารเตียวฮง : 8 กม.
• อาคารบางนาธานี : 8.4 กม.

• รร.การเดินเรือ บาร์เธอร์ : 6 กม.
• รร.นานาชาติ Wells บางนาแคมปัส : 6.8 กม.
• วิทยาลัยดุสิตฯ : 7 กม.
• รร.นานาชาติ Montessori Academy : 8 กม.

:: ภาพมุมสูงโครงการ ::

ภาพมุมสูงโครงการ : ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 64/1 ห่างจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ประมาณ 50 เมตร สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ เป็นโซนของที่อยู่พักอาศัย ส่วนมากจะเป็นบ้านพักแนวราบ สลับกับอพาร์ทเมนท์ให้เช่า, ศูนย์ดูแลรักษารถยนต์ และ ที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรวมของโครงการนั้นมีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่านค่ะ

ดูภาพมุมสูงด้านบนกันไปแล้ว คราวนี้เราจะพาเดินดูรอบๆ โครงการกันบ้าง โดยจะเริ่มจากหน้าโครงการ ไปยังสถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถีกันค่ะ

ออกจากโครงการเลี้ยวขวาเดินไปทางหน้าปากซอย

ถัดจากโครงการมาซ้ายมือเป็นศูนย์ดูแลรักษารถยนต์ ส่วนขวามือเป็นอาคารพาณิชย์ แบบบ้านพักอาศัยค่ะ

ถัดมาซ้ายมือเป็น บริษัท เมโทรเท็คอีควิปเมนท์ จำกัด ส่วนขวามือเป็นที่ดินเปล่าค่ะ

จากโครงการเดินมาถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 64/1 ประมาณ 50 เมตร

จากหน้าปากซอยเราจะเดินเลี้ยวซ้ายไปยังสถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถี

มองไปทางซ้ายเป็น บริษัท เมโทรเท็คอีควิปเมนท์ จำกัด ขาย-เช่า รถยก, รถเครนต่างๆ

มองไปทางขวามือฝั่งถนนสุขุมวิทขาออก เป็นโชว์รูมโตโยต้า

ติดกันเป็นโชว์รูมนิสสัน

เดินตรงต่อมาซ้ายมือเป็นธนาคารกรุงไทย สาขาสุขุมวิท 64 สาขานี้มีที่จอดรถให้ด้านในค่ะ

ด้านหน้ามีบริการตู้ ATM รับ-ฝาก-ปรับสมุดบัญชี

ถัดจากธนาคารกรุงไทยมา เป็นร้านบุญทองกิจ 1999 ขายพวกประตูชนิดต่าง ๆ, วัสดุก่อสร้าง และ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน

ถัดมาซ้ายมือเป็นเวดดิ้ง สตูดิโอ ขาย-เช่าชุดแต่งงาน

ต่อมาก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ ที่เป็นแบบบ้านพักอาศัย และ ร้านค้าชั้นล่าง

ถัดมาเป็นร้านซ่อม-ขาย ไวโอลิน และ เครื่องดนตรี

ถัดมาเป็นร้านขายสี

ถัดจากร้านขายสีมา เป็นป้ายรถเมล์ มีรถผ่านหลายสายค่ะ

ถัดจากป้ายรถเมล์มา ซ้ายมือเป็น รร.นานาชาติ Anglo Singapore

มองตรงไปมีสะพานลอยให้ข้ามไปฝั่งตรงข้าม ถัดไปอีกหน่อยก็ถึงสถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถี แล้วค่ะ

หน้าปากซอยสุขุมวิท 64 ซอยนี้ก็จะครึกครื้นนะ ของกินต่างๆ ในซอยนี้ก็มีให้เลือกเยอะเลยค่ะ

มองเข้าไปในซอยนิดนึง ข้างโรงเรียนมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วยนะ ถ้าเราลงจากรถไฟฟ้ามา จะมาใช้บริการวินนี้ นั่งไปโครงการก็ได้เลย

จากหน้าปากซอยข้ามทางม้าลายไป ก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าแล้วค่ะ

แต่ถ้าไม่อยากข้ามทางม้าลายจะใช้ทางเชื่อมจากสถานี มาลงตรงสะพานลอยก็ได้นะ

พาเดินขึ้นสะพานลอยมาดูให้เห็นภาพกันหน่อย จากสะพานลอยมองออกไปเห็นตัวสถานีปุณณวิถีแบบนี้

มองไปในซอยสุขุมวิท 64

มองไปทางขวาเห็นบรรยากาศถนนสุขุมวิทในช่วงเวลากลางวัน

ทางเชื่อมจากสะพานลอยไปยังสถานีรถไฟฟ้า

มีทางเดินในร่มให้เดินไปสบาย ๆ

ถึงด้านในสถานีปุณณวิถีแล้วค่ะ

:: ภาพมุมสูงอาคารจริง ::

โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดิน ขนาด 3 ไร่ 64.6 ตร.วา. ห้องพักอาศัยจำนวน 222 ยูนิต หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตรงข้ามกับโครงการเป็นที่จอดรถของอพาร์ทเมนท์ ข้างโครงการทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ข้างโครงการฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังโครงการทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดร้านอาหารขนาดใหญ่ ความสูง 1 ชั้น โดยรวมแล้วยังไม่มีอาคารสูง หรือ คอนโดสูงมาบดบังทัศนียภาพ และ ทิศทางลมค่ะ

ภาพมุมสูงด้านหน้าโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตัวอาคารเป็นรูปตัว U วางลึกลงไปตามแนวที่ดิน ทางเข้า-ออกหลักอยู่ติดถนนซอยสุขุมวิท 64/1

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันตก

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดที่ดินเปล่าขนาดใหญ่

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศใต้

ภาพมุมสูงด้านหลังอาคาร ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดร้านอาหารชั้นเดียว

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันออก

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซึ่งเว้นระยะห่างกันพอสมควรค่ะ

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศเหนือ

:: แปลนอาคาร ::

แปลนอาคารชั้น 1 : ทางเข้า-ออกโครงการติดถนนซอยสุขุมวิท 64/1 การเดินรถยนต์ภายในโครงการแบบวันเวย์ ตามลูกศรในภาพ มีที่จอดรถใต้อาคาร และ รอบอาคาร คิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน เข้ามาด้านในอาคารจะเจอกับโถงต้อนรับ, กล่องจดหมาย และ ลิฟต์โดยสาร ด้านในจะมีประตูอีกทาง ใช้เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางด้านข้างโครงการ

พื้นที่ส่วนกลางด้านข้างจะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4 x 20 เมตร ความลึก 1.2 เมตร มีพื้นที่พักผ่อนริมสระว่ายน้ำ รวมถึงห้องน้ำ และ ห้องสตรีมแยกชาย-หญิง มีสวนพักผ่อนด้านท้าย และ ด้านข้างสระว่ายน้ำ นอกจากสวนพักผ่อนที่จุดนี้แล้ว ทางโครงการยังมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ สลับกับไม้พุ่มไว้รอบ ๆ โครงการ ช่วยให้บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นค่ะ

แปลนอาคารชั้น 2 : ผังอาคารเป็นรูปตัว U โถงลิฟต์โดยสารจะอยู่ทางปีกขวา ติดกับโถงลิฟต์เป็นห้องฟิตเนส มีบันไดหนีไฟให้ชั้นละ 2 จุด อัตราห้องพักอาศัยอยู่ที่ 27 ยูนิต ต่อชั้นค่ะ

แปลนอาคารชั้น 3-8 : เป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น อัตราความหนาแน่นอยู่ที่ 29 ยูนิต ต่อชั้น

:: ตัวโครงการ ::

หน้าโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/ มีแผงป้ายชื่อขนาดใหญ่บอกชัดเจน ตัวอาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์น ภายนอกใช้สีเทาเข้ม ตัดสีน้ำตาลและ สีขาว ให้ลุคดูโดดเด่น อบอุ่น และทันสมัย

ทางเข้า-ออกโครงการ ติดถนนซอยสุขุมวิท 64/1

ทางเข้า-ออกโครงการติดตั้งไม้กระดกอัตโนมัติ การเข้า-ออกรถยนต์ใช้ระบบ Access Card Control

ผ่านไม้กระดกอัตโนมัติเข้ามา การเดินรถยนต์เป็นแบบวันเวย์ จากทางเข้าแล้วเลี้ยวซ้าย วิ่งตามลูกศรสีขาว

มองไปทางขวามือเป็นที่จอดรถรับ-ส่ง ลูกบ้านไปยังสถานีรถไฟฟ้าค่ะ

เลี้ยวขวาต่อมาจะเจอกับถนนเมนโครงการ ขวามือเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง ส่วนซ้ายมือเป็นพื้นที่ส่วนกลาง

เดินขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางกันก่อน…ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ขนาด 4 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร ต่อเนื่องไปเป็นสวนพักผ่อน

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ข้างสระมีมุมธาราบำบัด สร้างความผ่อนคลาย สลับกับพื้นที่สีเขียว ให้บรรยากาศร่มรื่นดี

มุมธาราบำบัด

มองไปทางตัวอาคารพักอาศัย

จากท้ายสระว่ายน้ำมองกลับเข้ามา

ท้ายสระเป็นสวนพักผ่อน มีสนามหญ้า และ ต้นไม้ใหญ่กระจายไว้โดยรอบ แนวรั้วโครงการตกแต่งไม้พุ่ม เพิ่มความเป็นส่วนตัว รวมถึงจัดเตรียมชิงช้าเอาไว้ให้ 2 ชุดด้วยกัน

บรรยากาศภาพรวมพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

วนท้ายอาคารมาจะเจอกับพื้นที่จอดรถใต้อาคารแบบในร่ม สำหรับที่จอดรถของโครงการนี้ คิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคันค่ะ

ทางเข้า-ออกโถงต้อนรับ และ อาคารพักอาศัย

ด้านในโถงต้อนรับ และ นิติบุคคล

มองไปทางขวามือจะเป็นพื้นที่รับรอง และ ห้องจดหมาย

พื้นที่รับรองจัดวางโซฟา ขนาด 3 ที่นั่ง + โต๊ะกลาง 1 ตัว แบบนี้

ห้องจดหมาย พร้อมพื้นที่เก็บของส่วนกลาง

ตรงกลางเป็นประตูทางออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางด้านหลัง

เปิดประตูออกมาจะเจอกับถนนเมนโครงการ และ พื้นที่ส่วนกลางที่เราไปชมก่อนหน้านี้

ส่วนทางฝั่งซ้ายมือเป็นโถงลิฟต์โดยสาร และ บันไดหนีไฟ

ลิฟต์โดยสารมีให้ทั้งหมด 2 ตัว

ด้านในสุดมีรถเข็นให้ยืม 1 คัน

ลิฟต์โดยสารของ Schneider ด้านในมีไฟส่องสว่างให้ 1 คู่ ติดกล้องวงจรปิดให้ 1 ตัว ตรงกลางติดกระจกเงาบานใหญ่ ส่วนแผงลิฟต์เป็นระบบสัมผัส มีหน้าจอดิจิตอลบอกสถานะชัดเจน

ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 2 ไปดูห้องฟิตเนสกันต่อ

ทางเข้าห้องฟิตเนส ซ้ายมือเป็นระเบียงซักล้าง

ด้านในห้องฟิตเนส ผนังห้องเป็นกระจกใสแผงใหญ่ เปิดรับวิวฝั่งสระว่ายน้ำ และ ฝั่งสวนพักผ่อน

มีเครื่องนั่งปั่นจักรยานไฟฟ้า 3 ตัว

ถัดมามีเครื่องวิ่งออกกำลังกาย 1 ตัว และ เครื่องเดินวงรี 1 ตัว

ตรงข้ามมีม้านั่ง + บาร์เบลชุดกลางจัดเตรียมเอาไว้ให้

ด้านในมีห้องน้ำส่วนกลางให้ 1 ห้อง ส่วนประตูทางขวามือเป็นห้องควบคุมไฟของโครงการ

โถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย บริเวณโถงมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ให้ด้วย

โถงทางเดินปูพื้นแกรนิตโต้สีอ่อนดูสะอาดตาดี ท้ายโถงทางเดินมีหน้าต่างกระจกช่องแสง + บานกระทุ้งช่วยถ่ายเทอากาศ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ตลอดทาง

ทุกชั้นติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง มีป้ายบอกทางไปบันไดหนีไฟชัดเจน รวมถึงติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณโถงทางเดินเอาไว้ให้ด้วยค่ะ

ด้านในบันไดหนีไฟ ทุกชั้นจะติดไฟฉุกเฉิน และ มีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งติดไว้ให้แบบในภาพ

:: แบบห้อง ::

โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบดังนี้ค่ะ

• 1 Bedroom ขนาด 28.02-43.01 ตร.ม.
• 2 Bedrooms ขนาด 44.86 ตร.ม.

TYPE A1 : 1 Bedroom ขนาด 30.31 ตร.ม.

TYPE A2 : 1 Bedroom ขนาด 30.31 ตร.ม.

TYPE A3 : 1 Bedroom ขนาด 29.09 ตร.ม.

TYPE A4 : 1 Bedroom ขนาด 30.47 ตร.ม.

TYPE A5 : 1 Bedroom ขนาด 30.51 ตร.ม.

TYPE A6 : 1 Bedroom ขนาด 29.43 ตร.ม.

TYPE A7 : 1 Bedroom ขนาด 30.47 ตร.ม.

TYPE A8 : 1 Bedroom ขนาด 28.91 ตร.ม.

TYPE A9 : 1 Bedroom ขนาด 30.36 ตร.ม.

TYPE A10 : 1 Bedroom ขนาด 28.89 ตร.ม.

TYPE A11 : 1 Bedroom ขนาด 30.01 ตร.ม.

TYPE A12 : 1 Bedroom ขนาด 30.01 ตร.ม.

TYPE B1 : 1 Bedroom ขนาด 32.58 ตร.ม.

TYPE B2 : 1 Bedroom ขนาด 32.37 ตร.ม.

TYPE B3 : 1 Bedroom ขนาด 32.34 ตร.ม.

TYPE C : 1 Bedroom ขนาด 44.86 ตร.ม.

TYPE D1 : 1 Bedroom ขนาด 32.01 ตร.ม.

TYPE D2 : 1 Bedroom ขนาด 32.01 ตร.ม.

TYPE D3 : 1 Bedroom ขนาด 32.88 ตร.ม.

TYPE E1 : 1 Bedroom ขนาด 37.95 ตร.ม.

TYPE E2 : 1 Bedroom ขนาด 38.49 ตร.ม.

TYPE F : 1 Bedroom ขนาด 43.57 ตร.ม.

:: ห้องตัวอย่าง ::

สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างกันทั้งหมด 2 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.00 ตร.ม. และ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 38.29 ตร.ม. โดยทางโครงการขายห้องพักแบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ ประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เช่น ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง, โต๊ะทานอาหาร, เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินแกรนิต + เตาเซรามิก 2 หัว + เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานของ Schon, เครื่องปรับอากาศ Samsung 2 ตัว (ขนาด 12,000 BTU), สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Mogen พร้อมกระจกกั้นอาบน้ำ, พัดลมระบายอากาศ และ ประตูห้องพักแบบ Digital Door Lock ค่ะ

แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.00 ตร.ม. แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน เข้ามาในห้องส่วนแรกจัดเป็นมุมพักผ่อน ต่อเนื่องไปเป็นห้องนอน มีประตูไม้ปิดมิดชิดเป็นส่วนตัว ปีกขวาของห้องพักเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้ง และส่วนอาบน้ำให้ ส่วนห้องครัวเป็นแบบปิดตั้งอยู่ติดกับระเบียง ช่วยระบายอากาศ กลิ่นควันจากการทำอาหารออกสู่ภายนอกได้เป็นอย่างดี

เปิดประตูห้องพักเข้ามาจะเจอกับมุมนั่งเล่นเป็นส่วนแรก มองต่อเนื่องไปเป็นห้องนอนแบบปิด พื้นห้องชุดปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เดินสบายเท้า ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี ดูแลรักษาได้ง่าย ความสูงพื้น-เพดาน 2.4 เมตร มาตรฐาน ผนังห้องทาสีพื้น ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสี ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์สลิมไลน์ทั้งหมดค่ะ

มุมนั่งเล่นพักผ่อนจัดวางโซฟา ขนาด 2 ที่นั่ง + โต๊ะกลางทรงกลมให้เราดูเป็นไอเดีย ข้างโซฟามีพื้นที่เหลือเล็กน้อย สามารถวางโคมไฟตั้งพื้นเพิ่มเติมเข้าไปได้ค่ะ

ติดกับโซฟาทางโครงการบิวท์อินโต๊ะอเนกประสงค์ ขนาด 2.0 x 0.40 เมตร ให้แบบในภาพ โดยมุมนี้ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ จะทำเป็นมุมทานอาหาร หรือ มุมทำงานก็ได้เลยค่ะ

ถ่ายภาพรวมโต๊ะอเนกประสงค์ให้ดูค่ะ ผนังด้านบนสามารถติดตั้งชั้นเก็บของเพิ่มเติมเข้าไปได้

ด้านหลังโต๊ะอเนกประสงค์ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 0.80 x 1.20 เมตร ให้ 1 บาน ค่ะ

ตรงข้ามกับโซฟาทางโครงการตกแต่งตู้วางทีวี + ตู้เก็บของ ความกว้าง 1.8 เมตร ให้ดูเป็นไอเดีย ห้องจริงจะวางทีวีบนตู้ หรือแขวนทีวีที่ผนัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็ได้ค่ะ ผนังด้านหลังโครงการเดินเต้าเสียบปลั๊กไฟ + ช่องเสียบสายเคเบิลไว้ให้พร้อมใช้งาน

ผนังเหนือตู้วางทีวี ติดตั้งแอร์ Wall Type ของ Samsung ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่อง

ระยะห่างจากโซฟา-ตู้วางทีวี มีความกว้างอยู่ที่ 1.8 เมตร นั่งดูทีวีได้ในระดับสายตาที่ดี รวมถึงเดินเข้า-ออกไปส่วนอื่นๆได้อย่างสะดวกค่ะ

ถัดจากมุมนั่งเล่นพักผ่อน ไปดูกันต่อที่ห้องนอน โดยตำแหน่งของห้องนอนจะอยู่ถัดจากมุมนั่งเล่นเข้าไปด้านใน ส่วนทางขวามือเป็นประตูทางเข้าห้องครัว และ ห้องน้ำค่ะ

ประตูห้องนอนไม้ HDF บานลูกฟักสีขาว มือจับประตูก้านโยกฝังล็อก เปิด-ปิดใช้งานได้ง่าย

เปิดประตูเข้ามาด้านใน ซ้ายมือวางเตียงนอน ขนาด 5 ฟุต ให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนห้องจริงสามารถเพิ่มขนาดเป็น 6 ฟุต ได้เลยค่ะ

ข้างเตียงฝั่งซ้ายมือ ทางโครงการบิวท์อินโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมลิ้นชัก ความกว้าง 70 ซม. ติดกันเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ความกว้าง 1.4 เมตร ความสูงจรดฝ้าเพดานให้แบบในภาพค่ะ

ส่วนพื้นที่ข้างเตียงกว้างประมาณ 70 ซม. ผนังด้านข้างเตียงมีเต้าเสียบปลั๊กไฟ และ ช่องเสียบสายโทรศัพท์ติดตั้งเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

มองไปทางปลายเตียงจะเป็นผนังเปล่า ทางโครงการติดตั้งทีวีแขวนผนังให้ดูเป็นไอเดีย เพื่อการประหยัดพื้นที่ใช้สอย ผนังด้านหลังเดินงานระบบเต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสายเคเบิลให้พร้อม ด้านบนติดตั้งแอร์ Wall Type ของ Samsung ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่องค่ะ

ระยะห่างปลายเตียง-ผนังห้องนอน กว้างประมาณ 1 เมตร เดินเข้า-ออกได้สบายๆ

ผนังด้านในสุดเป็นหน้าต่างกระจก กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 2.2 x 2.3 เมตร โดยจะแบ่งเป็นแบบบาน Fix และ บานเลื่อน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเปิดรับลม และแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

ระยะห่างข้างเตียงฝั่งขวา-หน้าต่าง กว้างประมาณ 50 ซม. หากต้องการพื้นที่ใช้งานฝั่งโต๊ะเครื่องแป้ง-ตู้เสื้อผ้าเพิ่มขึ้น จะเลื่อนให้ชิดผนังเลยก็ได้นะ

บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน

มองย้อนกลับมาทางประตูห้องนอน เดี๋ยวไปดูห้องครัว และ ห้องน้ำกันต่อค่ะ

ห้องครัวจะอยู่ติดกับห้องนอนแบบนี้ โดยจุดนี้จะติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 0.80 x 2.0 เมตร เอาไว้ให้ ป้องกันกลิ่นออกมารบกวนส่วนพักผ่อน ส่วนตัวรางประตูจะเป็นแบบแขวน ช่วยให้กวาดพื้น ถูพื้นได้อย่างสะดวกค่ะ

เข้ามาด้านในห้องครัว ขวามือบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัว ขนาด 1.5 x 0.60 เมตร ให้แบบในภาพ ส่วนพื้นห้องครัวจะเป็นแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. เพื่อการเช็ดล้าง ทำความสะอาดพื้นได้ง่ายค่ะ

หน้าท็อปครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ นอกจากจะแข็งแรงแล้ว ยังทนน้ำ-กรด-ด่าง และ ทนรอยขีดข่วนได้ดี ทำความสะอาดได้สะดวก หน้าท็อปมีซิงค์ล้างจาน + ก๊อกน้ำให้พร้อม และที่ผนังครัวทางโครงการกรุกระเบื้องเซรามิกสีขาวเป็น Backsplash กันเปื้อนเอาไว้ให้ด้วยค่ะ

หน้าท็อปครัวติดตั้งเตาเซรามิก 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส + เครื่องดูดควันสลิมไลน์ของ Schon

ตู้เก็บของด้านบนเป็นแบบบานเปิด Soft Closes ปิดผิวไฮกรอสสีดำ ใต้ตู้มีชั้นวางของ และ ชั้นสำหรับวางไมโครเวฟเอาไว้ให้ด้วย

ส่วนด้านล้างมีตู้เก็บของบานเปิด Soft Closes 1 ตู้, ลิ้นชักเก็บของ 3 ช่อง ส่วนตรงกลางเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ขนาด 7 กก. จุดนี้ทางโครงการเดินงานระบบท่อน้ำดี-ท่อน้ำทิ้ง และ เต้าเสียบปลั๊กไฟให้พร้อม สามารถซื้อเครื่องซักผ้ามาวางแล้วต่อใช้งานได้เลยค่ะ

ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ขนาด 70 x 60 ซม. รองรับตู้เย็นขนาด 6-10 คิว กำลังดี ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด พร้อมเสียบใช้งาน

ส่วนระยะใช้งานจากเคาน์เตอร์ครัว-ผนังห้องครัว กว้างประมาณ 1 เมตร ช่วยให้เรายืนเตรียมอาหาร, ทำอาหาร, ล้างจาน, เปิดตู้เย็น รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องน้ำ และ ระเบียงได้อย่างสะดวกเลยค่ะ

ถัดออกไปเป็นระเบียงซักล้าง ประตูระเบียงกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 1.5 x 2.3 เมตร ยกธรณีสูงประมาณ 10 ซม. ช่วยกันน้ำฝน กันสิ่งสกปรกเข้าสู่ห้องพักได้ในระดับนึง

ระเบียงซักล้างปูกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. พื้นที่ใช้งานขนาด 1.6 x 0.90 เมตร ซ้ายมือติดก๊อกสนามให้ 1 ตัว

CDU แขวนผนังด้านขวามือ 2 เครื่อง ส่วนราวกันตกเป็นเหล็กทาสีดำกันสนิม ความสูงจากพื้น-มือจับ 1.10 เมตร ค่ะ

จากระเบียงซักล้างมองกลับเข้ามา ไปต่อกันที่ห้องน้ำเป็นส่วนสุดท้ายกัน

ประตูห้องน้ำไม้ HDF บานลูกฟักสีขาว ลูกบิดกลมสีเงิน พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย ป้องกันน้ำออกมายังด้านนอก

เข้ามาด้านในห้องน้ำ แบ่งฟังก์ชั่นส่วนแห้ง และ ส่วนเปียกให้ พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา ส่วนผนังกรุแกรนิตโต้สีอ่อนแบบในภาพ สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำเป็นของ Mogen และ Cotto ค่ะ

อ่างล่างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก หน้าอ่างวางของใช้ได้เล็กน้อย

ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush ติดสายชำระ และ ที่แขวนกระดาษทิชชู่เอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

ด้านหลังสุขภัณฑ์โครงการมีเคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำแบบหน้ากว้าง สำหรับวางของใช้ต่างๆ ในห้องน้ำเอาไว้ให้ด้วย

ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่ให้แบบนี้เลยค่ะ ส่องหน้า ส่องตัวได้เต็มที่ ทั้งยังช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นอีกด้วยนะ

ผนังทางขวามือติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวให้ 1 ชิ้น

ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นส่วนเปียก จุดนี้มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยติดตั้งเอาไว้ให้ ตัวประตูเป็นบานสวิง มือจับโครเมียมตัว U แขวนผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ

ด้านในติดฝักบัว Hand Shower ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก พร้อมที่วางสบู่ฝังกำแพง ผนังด้านบนเดินงานระบบไฟฟ้า รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้พร้อม

พื้นที่ส่วนอาบน้ำ ขนาด 1.3 x 0.80 เมตร กว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำได้สบายๆ

เพดานติดตั้งพัดลมระบายอากาศให้ 1 เครื่อง

แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 38.29 ตร.ม. ห้องมุม ภายในห้องกว้างขวาง แบ่งการใช้งานต่างๆ ได้ลงตัว และ เป็นสัดส่วน เข้ามาในห้องจะเจอกับโถงทางเดิน ต่อเนื่องไปเป็นมุมทานอาหาร, มุมนั่งเล่นพักผ่อน และ ห้องนอนแบบปิด อีกฝั่งของห้องเป็นส่วนใช้งานหนัก ประกอบไปด้วยห้องครัวแบบปิด ติดกับระเบียงซักล้าง ช่วยระบายอากาศได้ดี และ ห้องน้ำ ที่แยกส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อยค่ะ

เปิดประตูห้องเข้ามา จะเจอกับโถงทางเดินแบบในภาพ ผ่านโถงทางเดินนี้ไปจะเป็นมุมทานอาหาร และ มุมนั่งเล่นพักผ่อน ในส่วนวัสดุมาตรฐานที่ได้รับจะเหมือนกันกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้ คือพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. ความสูงเพดาน 2.4 เมตร ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพื้น ไฟภายในห้องเป็นแบบดาวน์ไลท์สลิมไลน์ทั้งหมดค่ะ

ตรงโถงทางเดินกว้าง ประมาณ 1.5 เมตร สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้วางตู้รองเท้า, ตู้เก็บของ หรือ บิวท์อินเป็นตู้อเนกประสงค์เพิ่มเติมเข้าไปได้เลยค่ะ

เดินเข้ามาด้านในจะเจอกับมุมทานอาหาร และ มุมพักผ่อนแบบนี้

ซ้ายมือโครงการวางโต๊ะทานข้าว ขนาด 4 ที่นั่ง ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ห้องจริงสามารถลด-เพิ่มขนาดโต๊ะได้ตามชอบเลย

ด้านหลังมีหน้าต่างกระจก บาน Fix + บานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 2.2 x 2.3 เมตร ให้แบบนี้ ข้อดีของมันก็คือจะเปิดรับแสงในตอนกลางวันได้ดี เปิดรับลมธรรมชาติ ระบายอากาศได้อีก แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วยค่ะ

ถัดจากมุมทานอาหารเข้าไป ตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน วางโซฟาขนาดใหญ่ + โต๊ะกลาง 1 ตัว ห้องจริงสามารถเปลี่ยนเป็นโซฟา L-Shape ก็ทำได้ค่ะ

ติดกับโซฟาทางโครงการบิวท์อินโต๊ะอเนกประสงค์ให้เช่นเดียวกัน ขนาดของโต๊ะอยู่ที่ 2.0 x 4.0 เมตร ค่ะ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามชอบ ด้านหลังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 0.80 x 1.20 เมตร ให้ 1 บาน

ตรงข้ามโซฟา เป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี ตรงนี้โครงการตกแต่งตู้วางทีวี ขนาด 1.5 เมตร ให้ดูเป็นไอเดีย ห้องจริงจะบิวท์อินเต็มผนัง หรือ จะติดเป็นทีวีแบบแขวนก็ได้ ผนังเดินงานระบบต่างๆให้พร้อมใช้งาน

ผนังด้านบนติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Wall Type ของ Samsung ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่องค่ะ

ระยะห่างจากโซฟา-ตู้วางทีวี มีความกว้างอยู่ที่ 1.8 เมตร กว้างขวางใช้งานได้สะดวกค่ะ

ถ่ายย้อนกลับมาดูภาพรวมให้ดูกันหน่อย

ไปต่อกันที่ห้องนอน ที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างมุมพักผ่อน และ ห้องครัว ตรงนี้จะกั้นเป็นประตูไม้ HDF บานลูกฟักสีขาว มือจับประตูก้านโยกฝังล็อกแบบเดียวกันกับห้องที่แล้วเลยค่ะ

เปิดประตูเข้ามาด้านในห้องนอน ซ้ายมือวางเตียงนอน ขนาด 5 ฟุต เพิ่มเป็น 6 ฟุต ได้ตามชอบ

ข้างเตียงนอนฝั่งซ้ายมือ ได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง ความกว้าง 90 ซม. และ ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน ขนาด 1.4 x 2.4 เมตร ให้ครบชุดแบบในภาพเลยค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 90 ซม. เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออก นั่งแต่งหน้า แต่งตัว ยืนเลือกเสื้อผ้าได้สบายๆ

มองไปทางปลายเตียงเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี จุดนี้โครงการวางตู้วางทีวี ขนาด 1.5 เมตร ให้ดูเป็นไอเดีย พื้นที่ข้างๆ มีเหลือนิดหน่อย สามารถวางชั้นวางของ หรือ โคมไฟตั้งพื้นเข้าไปได้ค่ะ

ผนังด้านบนติดเครื่องปรับอากาศ Wall Type ของ Samsung ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่อง

ส่วนระยะห่างปลายเตียง กว้างประมาณ 80 ซม. ถ้าไม่วางตู้วางทีวี แล้วเปลี่ยนเป็นทีวีแขวน พื้นที่จะกว้างถึง 1.10 เมตร เลยค่ะ

ด้านในสุดมีหน้าต่างกระจกบาน Fix + บานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 2.0 x 2.3 เมตร ให้แบบนี้ค่ะ

ระยะห่างข้างเตียง-หน้าต่าง กว้างอยู่ที่ 60 ซม.

บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน

มองย้อนกลับมาทางประตูห้องนอน เดี๋ยวไปต่อกันที่ห้องครัว และ ห้องน้ำกันค่ะ

จากห้องนอน เดินไปทางซ้ายมือเป็นห้องครัว ตรงนี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อน แบบรางแขวนติดตั้งไว้ให้

บรรยากาศภายในห้องครัว รูปแบบแปลนจะเหมือนกันกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้เลยค่ะ สิ่งที่ลูกค้าจะได้ก็เหมือนกัน คือพื้นแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม., เคาน์เตอร์ครัว ขนาด 1.5 x 0.60 เมตร หน้าท็อปหินแกรนิตสีดำ ผนังกรุกระเบื้องกันเปื้อนเอาไว้ให้ ติดกันเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ขนาด 70 x 60 ซม. รองรับตู้เย็นขนาด 6-10 คิว

หน้าท็อปติดตั้งเตาเซรามิก 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส + เครื่องดูดควันสลิมไลน์ของ Schon อีกฝั่งฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก

ตู้เก็บของด้านบน ปิดผิวไฮกรอสสีดำ แบบบานเปิด Soft Closes พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟ

ตู้เก็บของด้านล่าง และ ลิ้นชักเก็บของปิดผิวไฮกรอสสีดำ ตรงกลางเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ด้านหลังเดินงานระบบท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง เต้าเสียบปลั๊กไฟให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย

ระยะใช้งานจากเคาน์เตอร์ครัว-ผนังห้องครัว กว้าง 1 เมตร ยืนทำอาหาร, เตรียมอาหาร รวมถึงล้างจาน, เปิดตู้เย็น เดินเข้า-ออกได้สะดวกค่ะ

ประตูระเบียงกระจกเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ ขนาด 1.5 x 2.3 เมตร ยกธรณีสูง 10 ซม.

ระเบียงซักล้างปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. พื้นที่ใช้งาน ขนาด 1.6 x 0.90 เมตร ติดก๊อกสนามให้ 1 ตัว ทำท่อน้ำทิ้งให้เรียบร้อย พร้อมติดตั้งราวกันตกเหล็กทาสีดำกันสนิม ความสูง 1.10 เมตร ให้แบบในภาพค่ะ

ขวามือแขวน CDU 2 เครื่อง

เพดานติดโคมไฟทรงกลมให้ 1 ดวง

มองกลับเข้ามาด้านในห้องครัว เดี๋ยวไปต่อกันที่ห้องน้ำเป็นส่วนสุดท้ายค่ะ

ห้องน้ำปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา ผนังกรุแกรนิตโต้สีอ่อน แบ่งฟังก์ชั่นส่วนแห้ง ส่วนเปียกให้เหมือนกัน ส่วนสุขภัณฑ์ใช้เป็นของ Mogen และ Cotto ค่ะ

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก หน้าอ่างวางของได้เล็กน้อย

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush ติดตั้งสายชำระ และ ที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้พร้อมค่ะ

ด้านหลังสุขภัณฑ์มีเคาน์เตอร์หินแกรนิตแบบหน้ากว้าง เอาไว้วางของใช้ต่าง ๆ ในห้องน้ำ ผนังติดกระจกส่องหน้าบานใหญ่ให้แบบนี้เลยค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นส่วนเปียก ติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย ประตูเป็นบานสวิง มือจับโครเมียมตัว U แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ส่วนพื้นที่อาบน้ำด้านในขนาด 1.6 x 0.90 เมตร

ด้านในติดฝักบัว Hand Shower ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก มีที่วางสบู่ 1 ชิ้น พร้อมเว้นผนังสำหรับวางของไว้ให้ ผนังด้านบนเดินงานระบบไฟฟ้า รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้พร้อมใช้ค่ะ

:: ราคา :: (อัพเดทราคา ณ.วันที่ 26 ก.ย. 2560)

• ราคาเริ่มต้น 2,690,000 บาท
• ราคาเฉลี่ย 95,000 บาท/ตร.ม.

• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม./ชำระครั้งเดียว

** โปรดสอบถามราคาและโปรโมชั่นกับทางโครงการอีกครั้งเพื่อความถูกต้องค่ะ **

:: บทสรุปโครงการ ::

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 คอนโดพร้อมอยู่ บนทำเลโซนสุขุมช่วงปลาย ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/1 ห่างจากถนนสุขุมวิท เพียง 50 เมตร ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ประมาณ 250 เมตร และใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนด่านบางนา และ ทางด่วนบูรพาวิถี

ความอุดมสมบูรณ์อยู่ในระดับที่ดีมาก รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล, อาคารสำนักงาน และ หน่วยงานราชการ ในอนาคตจะมีโครงการเปิดใหม่ อย่าง Bangkok Mall โครงการ มิกซ์ยูส ขนาดใหญ่จาก The Mall Group และ Century Movie Plaza อ่อนนุช ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม และ โรงหนัง ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วง เม.ย. 2561 นี้ค่ะ

รวมถึงโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินปี 2561 และด้วยราคาเฉลี่ยไม่ถึง 100,000 บาท/ตร.ม. ทำให้โครงการนี้ เป็นที่จับตามอง ของลูกค้า พนง.ออฟฟิศ ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย เดินทางสะดวก เข้า-ออกเมืองได้ง่าย รวมถึง นักลงทุน ที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ ต่อยอดในอนาคต

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : สามารถเข้า-ออกตัวเมืองได้ง่าย เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า ใกล้กับทางด่วนถึง 2 ที่ คือ ทางด่วนด่านบางนา และ ทางด่วนบูรพาวิถี หากต้องการเข้าสู่ตัวเมือง ก็สามารถใช้ถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า วิ่งตรงเข้าสู่สุขุมวิทตอนต้นได้เลย จะขึ้นทางด่วน หรือใช้เส้นทางปกติก็เลือกเอาค่ะ

ส่วนคนที่ต้องการออกกนอกเมือง ไปยังเส้นบางนา-ตราด, บางพลี, สมุทรปราการ ก็เดินทางได้ง่ายค่ะ ออกจากโครงการมายังถนนใหญ่ ขับตรงไปผ่านสถานีปุณณวิถี แล้วชิดขวา กลับรถ ก็จะเชื่อมกับถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก วิ่งตรงยาวไปต่อได้เลยค่ะ

♦ การเดินทางโดยใช้รถสาธารณะ : สะดวกสบาย เพราะเป็นโครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ระยะทางเพียง 250 เมตร เดินไปได้สะดวก ใช้นั่งต่อไปเที่ยว ไปทำงานในเมืองได้ง่าย ส่วนคนที่เดินทางด้วยรถประจำทางต่าง ๆ ก็ง่ายเช่นเดียวกัน มีป้ายรถเมล์ที่ด้านหน้าซอยสุขุมวิท 64 ส่วนมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เรียกได้จากหน้าโครงการเลย ส่วน Taxi จะเดินมาขึ้นที่หน้าถนนใหญ่ หรือใช้บริการ Application ต่าง ๆ ก็ได้เลย แล้วแต่สะดวกค่ะ

♦ การออกแบบโครงการและที่ดิน : เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 3 ไร่ 64.6 ตร.วา. ตัวโครงการออกแบบเป็นรูปตัว U สไตล์โมเดิร์น ภายนอกใช้โทนสีเข้ม อย่างสีเทา, น้ำตาล และตัดด้วยสีขาว ดูทันสมัย แต่อบอุ่น ในส่วนของห้องพัก มีทั้งหมด 222 ยูนิต มีแปลนห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน โดยพื้นที่ใช้สอยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 28.02-43.01 ตร.ม.

ฟังก์ชั่นภายในห้องพักออกแบบได้อย่างลงตัว โดยจะเน้นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ห้องพักดูโปร่งโล่งอยู่สบาย รวมถึงมีการจัดวางพื้นที่ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน และ ห้องครัว แบบแยกกันอย่างเป็นสัดส่วน ห้องน้ำก็มีการแบ่งส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย

ส่วนการขายห้องจะเป็นแบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับคือ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน อย่าง โต๊ะอเนกประสงค์, ตู้เสื้อผ้า และ โต๊ะเครื่องแป้ง ได้เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินแกรนิต ฝังเตาเซรามิค 2 หัว + เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจาน ของ Schon สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cotto และ Prema มีฉากกระจกอาบน้ำติดตั้งให้ ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ พร้อมประตูห้องพักแบบ Digital Door Lock 3 ระบบ ค่ะ

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : พื้นที่ส่วนกลางหลัก ๆ จะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ด้านข้างอาคาร ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ และ ระบบธาราบำบัด ขนาด 4 x 20 เมตร, มีห้องน้ำ พร้อมห้องสตรีมแยกชาย-หญิง มีสวนพักผ่อนขนาดกลาง ๆ รวมถึงพื้นที่สีเขียวรอบ ๆ ตัวโครงการ

ในอาคารที่ชั้น 1 จะมีโถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย และ เคาน์เตอร์นิติบุคล ขึ้นไปที่ชั้น 2 มีห้องฟิตเนส พร้อมเครื่องเล่นมาตรฐานจัดเตรียมไว้ให้ ลิฟต์โดยสารให้มา 2 ตัว ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย รถยนต์เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control ประตูห้องพักติด Digital Door Lock ให้ทุกยูนิต ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดสำคัญต่าง ๆ ทั้งในลิฟต์ และชั้นพักอาศัยให้ครบ มีเจ้าหน้าที่รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ค่ะ

:: คะแนน ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สำนักงานขายโทร : 063-903-3718

Website : http://www.chateauintown-sukhumvit.com/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.930 วี คอนโด เอกมัย-รามอินทรา WE CONDO Ekkamai-Ramindra

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา สร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก L&T Asset กันค่ะ ตัวโครงการอยู่่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู และ รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่ สถานีวัชรพล เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ วงแหวนกาญจนาภิเษก

วี คอนโด เอกมัย-รามอินทรา เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มี 5 อาคาร จำนวน 1,168 ยูนิต และร้านค้าอีก 5 ยูนิต บนเนื้อที่ 11-1-22 ไร่ มีขนาดห้องให้เลือกเป็น 1 Bedroom, 1 Bedroom Extra และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 24.90 ตรม.

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน อาทิ Lobby, Mailbox, Fitness, Garden, ลิฟท์โดยสาร, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท (เฉลี่ย 80,000 บาท/ตร.ม.)

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

พิกัด : 13.847135, 100.640498

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรมข้างๆตลาดเลียบด่วนรามอินทรา จะอยู่บริเวณหัวโค้งถนนเชื่อมประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา โดยทางเข้าหลักของโครงการก็จะอยู่ตรงหัวโค้งพอดีค่ะ และมีทางเข้ารองอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เรียกว่าถนนเลียบด่วนรามอินทรา ตรงข้างๆตลาดอีกทาง โซนนี้นับว่าเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน

จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัย มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย จากที่สังเกตดูก็คือ ย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการประเภทคอนโดมิเนียม เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู จึงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกนะคะ จะเข้าหรือออกตัวเมืองก็ไม่ยาก เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม และใกล้กับถนนรามอินทรา ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น จากถนนประดิษฐ์มนูธรรมวิ่งลงทางตอนใต้ จะตัดกับถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนลาดพร้าว ซึ่งจะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน วิ่งลงมาอีกจะมาตัดกับถนนพระราม 9 และสุดที่ถนนเพชรบุรี เข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) ได้สะดวก โดยมีตัวช่วยในการเดินทางคือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ส่วนถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะ ตัดกับถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต และผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี โดยจะตัดผ่านวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอิน หรือ วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย

ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โดยจากทางเข้าหลักของโครงการให้วิ่งออกมาที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม จากนั้นให้ชิดขวาเอาไว้ จะเจอด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วนในระยะเพียง 2 กม.เท่านั้น เข้าสู่ย่านธุรกิจได้สะดวกและรวดเร็ว

ถ้าไปทางบางนาก็ให้พึ่งวงแหวนกาญจนาภิเษกเลยค่ะ โดยจากตัวโครงการออกมากลับรถที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อขึ้นสะพานทางเชื่อมสู่ถนนรามอินทรา จากถนนรามอินทราพอวิ่งผ่านซอยรามอินทรา 91 แล้วให้เข้าช่องจราจรทางซ้าย แล้วชิดขวาไปตามป้ายบางนา วิ่งสัก 10 นาทีเศษๆก็ถึงแล้ว

ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณโดยรอบของตัวโครงการส่วนมากจะเป็นอาคารที่พักอาศัยในแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม และอาคารพาณิชย์ ซึ่งจะต่างออกไปจากคอนโดมิเนียมในตัวเมืองที่โดยรอบจะมีแต่ความคึกคัก ทุกอย่างดูรวดเร็ว การสัญจรด้วยระบบขนส่งสาธารณะมีความสะดวกและมีให้เลือกอย่างหลากหลาย เรียกว่าสามารถกินอยู่ใช้สอยด้วยระยะเดินเพียงเล็กน้อย

ย่านนี้จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ง่ายๆแบบการอยู่คอนโดมิเนียม แต่ชอบความเงียบสงบไม่หนาแน่นอึกทึกเท่ากับคอนโดในตัวเมือง ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และตลาดนัด ในย่านนี้มีครอบคลุมทั้งหมด

เริ่มจากเส้นรามอินทรา ที่เด่นๆเลยก็คือ ตรง กม.2 มี เซ็นทรัลรามอินทรา และตรงกม.10 มีห้าง Fashion Island และข้างๆกัน The Promanade ซึ่งภายในก็จะมีทั้ง Shopping center, ห้าง Big C, ร้านอาหาร, โรงเรียนติวเตอร์, คลีนิกเสริมความงาม และ อื่นๆอย่างครบวงจร เส้นเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, ห้างใหม่อย่างเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่ข้างๆตัวโครงการ ซึ่งตอนนี้ได้เปิดพื้นใหม่อีก 10 ไร่ให้ร้านค้ามาลงติดเส้นรามอินทราอีกด้วย มาอีกด้านบนเส้นเกษตร – นวมินทร์ที่มีทั้ง Community mall, ตลาดนัดหัวมุม ตลาดนัดกลางคืนกับสินค้าในราคาย่อมเยา, ร้านอาหาร และร้านนั่งชิว มา Hangout กับเพื่อนๆได้ในยามค่ำคืนค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ทั้งบนเส้นเลียบด่วนและรามอินทราจะมีรถสาธารณะผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถตู้, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่ มีป้ายรถเมล์อยู่เป็นช่วงๆทั้ง 2 ฝั่งของถนน สามารถหารถได้ง่ายมากๆ อีกทั้งในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี บนเส้นรามอินทรา และ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีวัชรพล ซึ่งเป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้เอง

ทางขึ้น-ลงสถานีจะอยู่ระหว่างซอยรามอินทรา 59 กับ 61 (จากที่ทางโครงการกล่าวมา) โดย รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีกำหนดคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานตอนกลางปี 2563

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ > ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > สะพานเชื่อมประดิษฐ์มนูธรรม-รามอินทรา > ถนนรามอินทรา > ถนนเชื่อมรามอินทรา-ประดิษฐ์มนูธรรม > โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา

วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าไปทางรามอินทรา ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 15 นาที

สังเกตป้ายรามอินทราให้ชิดซ้าย ลงที่ทางออกน.3-05 ค่ะ

ชิดซ้ายแล้วลงที่ทางออก จะลงบนถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเส้นเลียบด่วนรามอินทรานั่นเอง

เมื่อลงจากทางด่วนมาแล้ว ฝั่งซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็นปั๊มปตท.ค่ะ คนที่เพิ่งลงจากทางด่วนมาอาจจะขับเข้าไปใช้ปั๊มนี้ได้ยากหน่อย เพราะระยะนับว่ากระชั้นมากทีเดียว และการจราจรบนเส้นเลียบด่วนก็นับว่าหน้าแน่นพอสมควร

วิ่งไปเรื่อยๆเราจะเห็นป้ายถนนวัชรพล-มีนบุรี ให้เราชิดขวาค่ะ

ชิดไปทางขวาขับขึ้นสะพานเชื่อมระหว่างถนนประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา

จากนั้นจะมีทางแยกอยู่ 2 ช่องการจราจร ให้เราดูป้ายถนนวัชรพล-มีนบุรี แล้วออกช่องทางซ้ายนะ

เมื่อลงมาจากสะพานให้เราขับตรงไปออกที่ถนนรามอินทราไปทางมีนบุรี ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะเข้าซอยวัชรพล

ขับไปเรื่อยๆสักพักเราจะเจอแยกไฟแดง ให้เราชิดขวาเพื่อยูเทิร์นค่ะ

เมื่อเรายูเทิร์นมาแล้วให้เราสังเกตป้าย ถนนพระราม 4-เอกมัย และบางนา-ดาวคะนอง ชิดซ้ายเอาไว้ค่ะ

ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าแยกทางด่วนข้างหน้าไปตามป้าย

จากนั้นยังให้เรายังคงชิดซ้ายอยู่ตลอด ถนนเส้นนี้จะเป็นทางเชื่อมไปยังเส้นประดิษฐ์มนูธรรมค่ะ

ก่อนจะถึงถนนประดิษฐ์มนูธรรม เราก็จะเจอทางเข้าโครงการหลักอยู่ทางด้านซ้ายมือของเราแล้ว

รูปหน้าทางเข้าโครงการแบบชัดๆ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 350 ม.
• ถนนรามอินทรา : 2.8 กม.
• ถนนเกษตร-นวมินทร์ : 3.0 กม.
• ถนนพหลโยธิน : 7.6 กม.
• ถนนลาดพร้าว : 7.8 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก : 8.7 กม.
• ถนนวิภาวดี-รังสิต : 9.5 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• ตลาดนัดเลียบด่วน : 350 ม.
• Ease Park : 3.3 กม.
• The Walk : 3.5 กม.
• ตลาดถนอมมิตร : 3.9 กม.
• Plearnary mall : 4.0 กม.
• ตลาดนัดหัวมุม : 4.5 กม.
• Big C extra รามอินทรา : 4.6 กม.
• Foodland : 4.8 กม.
• The Crystal : 4.9 กม.
• Chic Republic : 5.0 กม.
• CDC : 5.3 กม.
• Big C market นวมินทร์ : 5.6 กม.
• Tesco Lotus นวมินทร์ : 6.2 กม.
• Tesco Lotus extra เลียบทางด่วน : 6.2 กม.
• เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์ : 6.3 กม.
• Nawamin City Avenue : 6.3 กม.
• Nawamin Festival Walk : 6.2 กม.
• The Junction : 6.5 กม.
• The Promanade : 7.5 กม.
• Chocolate Ville : 7.6 กม.
• เซ็นทรัลรามอินทรา : 7.8 กม.
• Fashion Island : 7.9 กม.
• Tesco Lotus วังหิน : 9.5 กม.
• HomePro เลียบทางด่วน : 9.1 กม.
• Max Value : 10.7 กม.
• เมเจอร์รัชโยธิน : 11.3 กม.
• สวนสยาม : 12.4 กม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 16.2 กม.

สถานศึกษา

• รร.เลิศหล้า : 5.1 กม.
• รร.บดินทร์เดชา 2 : 6.2 กม.
• ม.เกริก : 7.7 กม.
• ม.เกษตรศาสตร์ : 13.5 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.พญาไท : 6.9 กม.
• รพ.สินแพทย์ : 8.7 กม.
• รพ.นพรัตน์ : 10.0 กม.
• รพ.วิภาวดี : 11.8 กม.

ศาสนสถาน

• วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร : 8.7 กม

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• สนามกีฬากองทัพบก : 6.4 กม.
• สนามกอล์ฟปัญญา : 9.2 กม.
• สนามกอล์ฟนวธานี : 14.2 กม.

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

โดยรอบโครงการระหว่างถนนประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทราจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยในแนวราบ โครงการบ้านจัดสรรทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise, อาคารพาณิชย์ และร้านค้า บรรยากาศโดยรวมถือว่าไม่พลุกพล่านมากถ้าไม่นับบนถนนใหญ่ ภายในซอยจะยังมีที่ดินเปล่าหลงเหลือพอให้เห็นกันอยู่บ้าง

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนเชื่อมรามอินทรา-ประดิษฐ์มนูธรรม
• ทิศใต้ ติดกับ คลองบางขวด
• ทิศตะวันออก ติดกับ ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา
• ทิศตะวันตก ติดกับ ตลาดนับเลียบด่วนรามอินทรา (เฟสใหม่)

เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการกันนะคะ จะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับโครงการ ข้างหน้าเราคือทางยกระดับขึ้นทางด่วนค่ะ

มองไปทางฝั่งซ้ายมือ เราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งเลียบด่วนกันก่อนนะ

เมื่อเราเดินผ่านหัวโค้งเข้าเส้นเลียบด่วนมาแล้ว เราจะเจอสำนักงานขายอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยค่ะ

ด้านหลังของสำนักงานขายก็คือตลาดนัดเลียบด่วนนั่นเอง

เข้าไปทางนี้จะทางเข้าอีกทางนึงของตัวโครงการด้วยนะ

ตรงไปข้างหน้าบนเส้นเลียบด่วนช่วงนี้จะมีทั้งหมู่บ้าน, ร้านค้า, ร้านอาหาร และลานเบียร์อยู่ตามข้างทาง บรรยากาศก็น่านั่งทีเดียว

กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เราจะเดินไปสำรวจทางฝั่งขวามือบนเส้นรามอินทรากันต่อ

ทางเดินไปเส้นรามอินทรามีฟุตบาทที่เรียบและกว้าง สามารถเดินได้สะดวกและสวนทางกันได้ ไม่ต้องลงไปเดินเบียดบนถนนเลย

มาถึงเส้นรามอินทราแล้วที่ฝั่งขวามือของเราจะเจอพื้นที่อีก 10 ไร่ของตลาดนัดเลียบด่วนที่เปิดเพิ่มเพื่อรองรับร้านค้า

ฝั่งตรงข้ามจะเห็นว่ามีอาคารพาณิชย์อยู่เรียงกันเป็นตับเลย

เดินต่อมาอีกหน่อยจะมีสะพานลอยข้ามฟากอยู่ตรงหน้าปั๊มบางจากพอดี

ภายในปั๊มบางจากก็พอจะมีร้านกาแฟให้เข้าไปนั่งพักดื่มได้หากผ่านมาทางนี้

เลยปั๊มบางจากเราจะเจอป้ายรถเมล์เลยค่ะ

ด้านหลังของป้ายรถเมล์คือปั๊ม Caltex ภายในมี Mini Big C ค่ะ

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา เป็นคอนโดมิเนียม Low rise สูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร มีทั้งหมด 1,168 ยูนิตบนพื้นที่ 11-1-22 ไร่ ตัวโครงการเป็นคอนโดสไตล์โมเดิร์น พร้อมสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกเหมือนกับเดินเล่นในสวนหลังบ้าน

มาดูในส่วนของ Plan อาคารกันค่ะ ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะมีอยู่ 2 ทาง ทางหลักจะอยู่บนถนนเชื่อมระหว่างรามอินทรา-ประดิษฐ์มนูธรรม ทางรองจะอยู่บนเส้นประดิษฐ์มนูธรรม โดยถูกวางอยู่บริเวณริมฝั่งขวาของไซท์ เส้นทางการเดินรถจะวนขวาตามเข็มนาฬิกาเข้าไปแล้วกลับออกมาที่ทางเข้า – ออกเดิม

ที่ชั้น G จะเป็นที่จอดรถทั้งแบบกลางแจ้งและใต้อาคารรวมทั้งหมด 467 ช่อง คิดเป็น 40% ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน Main Facilities จะอยู่ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 5 จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อม Day bed และสวนสาธารณะ ที่มีพื้นที่ให้เดินเล่นและนั่งพักผ่อนได้โดยรอบ

Facilities อีกจุดจะอยู่ที่ใต้อาคาร A ตรงนี้จะมีทั้ง Lobby Lounge, นิติบุคคล, Fitness, ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า รวมถึงร้านค้าอีก 5 ยูนิต อาคาร A ที่เป็นเหมือนอาคารประธานก็จะค่อนข้างคึกครื้นกว่าอาคารอื่นๆ เพราะจะมีคนเข้า-ออกอยู่ตลอด

ตั้งแต่ชั้น 2 ของอาคาร A ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย มีจำนวน 172 ยูนิต ชั้นที่มียูนิตหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 24 ห้อง ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 2 ตัวคิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 86 : 1 ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่หนาแน่นจนเกินไป

ในส่วนของอาคาร B-E จะมีผังอาคารคล้ายกันหมด ที่ชั้น G จะแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถครึ่งนึง, Lobby, Mailbox และห้องพักอาศัยค่ะ

ตั้งแต่ชั้น 2 ถึงชั้น 8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด มีจำนวน 250 ยูนิต ชั้นที่มียูนิตหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 34 ห้อง ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 125 : 1 เกินเกณฑ์มาตรฐานไปหน่อย แต่เนื่องจากเป็นคอนโดแบบ Low rise ทำให้การรอลิฟท์นั้นไม่นานเกินไปนัก

:::: บริเวณภายในโครงการ ::::

::: ทางเข้าโครงการ :::

เราได้ชมรายละเอียดของโครงการกันไปบ้างแล้ว คราวนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปชมบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้าง

ทางเข้าหลักของโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 ช่องจราจรเข้า-ออก การเข้า-ออกตัวโครงการนั้นจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย นั่นก็คือ ป้อมยามเป็นจุดตรวจ, ระบบ Access card, รั้วไม้กระดก และ กล้อง CCTV

ตรงนี้อาจจะลำบากพี่ยามหน่อยเพราะป้อมยามไม่ได้อยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ดังนั้นหากมีผู้มาเยือนโครงการ พี่ยามจะต้องเดินออกมาตรวจรถและแลกบัตรที่ฝั่งซ้ายด้วย

เครื่องอ่าน Access card และกล้อง CCTV

มุมมองย้อนกลับไปที่ทางเข้าโครงการ

::: บริเวณภายในโครงการ :::

เมื่อเข้ามาในตัวโครงการแล้วเราจะต้องขับวนซ้ายตลอดตามเข็มนาฬิกานะคะ เดี๋ยวเราจะเดินวนรอบดูตัวโครงการกันก่อน ที่ฝั่งซ้ายมือของเราคือตึก B และตึก C เราจะสามารถจอดรถได้ 2 ฝั่งทั้งกลางแจ้งและบริเวณใต้อาคาร

อ้อมมาด้านหลังโครงการจะเห็นพื้นที่ระหว่างตึก C และ E ทำเป็นสวนตรงกลาง Court

อีกด้านนึงคืออาคาร E และอาคาร D

เลยอาคาร D ตรงไปข้างหน้าจะเห็นทางเข้า-ออกฝั่งเลียบด่วนรามอินทรา

ทางนี้จะเป็นทางเข้า-ออกรอง ซึ่งจะเปิด-ปิดเป็นเวลา ตั้งแต่ช่วงตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมงเท่านั้นนะ

มองจากทางเข้า-ออกย้อนเข้ามาเห็นด้านหน้าอาคาร A

ทางเข้าของอาคารจะดูเด่นชัดกว่าอาคารอื่นหน่อย เพราะชั้นล่างเป็น Facilities ของโครงการ

เข้าไปภายในอาคารจะเจอส่วนของ Lobby Lounge ก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน และเป็นส่วนของประชาสัมพันธ์หลัก

ฝั่งขวามือด้านหลังประชาสัมพันธ์ คือห้องนิติบุคคล

ออกไปทางฝั่งซ้ายมือคือทางเข้าโถงลิฟท์, Mailbox และทางออกสู่ Facilities ของโครงการค่ะ

ออกมาจาก Lobby จะเป็นโถงทางเดินไปสู่ Facilities ส่วนต่างๆ

ในโถงทางเดินก็จะมีเก้าอี้นั่งเล่นจัดเอาไว้เป็นชุดๆ ได้วิวสวนของโครงการ

สุดโถงทางเดินคือห้อง Fitness

ภายในห้องมีพื้นที่กว้างขวาง จัดอุปกรณ์การออกกำลังกายมาให้อย่างครบครัน

ฝั่งติดริมหน้าต่างเห็นวิวสวนจะวางพวกเครื่องเล่น Cardio ทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และ จักรยานไฟฟ้า

อีกฝั่งที่ติดกระจกเงา จะเป็นอุปกรณ์ประเภท Weight training สร้างกำลังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ

อีกมุมมีม้านั่งราบและชุดดัมเบล

จากห้องฟิตเนสจะเชื่อมกับ Changing room และห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำฝั่งซ้ายคือห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ส่วนฝั่งขวาคืออ่างล้างมือ โดยมีตู้ล็อคเกอร์อยู่ฝั่งในสุด

ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

เราจะออกมาเดินชมสวนและดูสระว่ายน้ำกันต่อ

ที่ฝั่งขวามือของสระจะมีจุดล้างตัวให้ 1 จุด

บรรยากาศโดยรอบจัดออกมาได้ดูร่มรื่นดีมาก โดยรอบปกคลุมด้วยร่มเงาของต้นไม้ สระว่ายน้ำของที่นี่ยาวถึง 40 เมตรเลยค่ะ สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ ทางโครงการเลือกใช้กระเบื้องสีออกฟ้าเขียว เอฟเฟคที่ได้ทำให้สระเป็นสีเขียวมรกต ยิ่งสวยเวลาแดดออก

ข้างๆสระมี Day bed ให้นอนพักผ่อนได้

บันไดทางลงจะอยู่ภายในสระค่ะ

โดยรอบสระจะทำเป็นทางเดินกว้างๆ เราสามารถใช้เป็น Jogging track ได้ด้วย

ตลอดทางจะมีม้านั่งไว้อยู่เป็นจุดๆ

มุมมองจากอีกฝั่งนึงของสระว่ายน้ำ ดูน่าใช้งานมากๆ

อีกโซนนึงจะเป็นโซนสวนและน้ำพุค่ะ เราเดินเข้าไปดูกันต่อ

ตลอดทางเดินจะปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา ประดับด้วยไม้พุ่มและสระน้ำ เชิญชวนให้เดินเข้าไป

สุดทางเดินแล้วจะเป็นโซนสนามหญ้าให้เด็กๆมาวิ่งเล่น

ฝั่งในสุดของสวนจะมีกำแพงน้ำตกสร้างบรรยากาศ

มุมมองย้อนกลับจากภายในสวน

เข้าไปดูในส่วนของอาคาร B-E กันบ้าง

เข้ามาภายในอาคารจะมาเจอส่วนของโถงพักคอยและประชาสัมพันธ์ก่อน

เข้าไปทางฝั่งขวามือคือห้อง Mailbox และโถงลิฟท์

ภายในห้อง Mailbox

ในส่วนของโถงลิฟท์เราจะต้องใช้ Access card ในการผ่านเข้าไปเพื่อเข้าถึงส่วนห้องพักอาศัย

เครื่องอ่าน Access card ติดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของประตูโถงลิฟท์

เมื่อเข้ามาภายในโถงแล้ว ฝั่งซ้ายมือคือโถงลิฟท์ ในโถงเดียวกันนี้ก็มีห้องพักอาศัยบ้างแล้วซึ่งระเบียงห้องจะติดอยู่กับสวนและสระว่ายน้ำของโครงการ

เข้ามาภายในโถงลิฟท์ มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ภายในมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว

หน้าตาทางเข้าลิฟท์ ประดับขอบด้วยกระเบื้องลายหินให้ดูโดดเด่นขึ้น

ลิฟท์ของโครงการใช้ของ Hitachi สามารถรองรับได้ 550 กก.หรือ 8 คนใน 1 เที่ยว

หน้าตาโถงลิฟท์ของชั้น 2-8 จะเป็นแบบนี้

ภายในโถงทางเดินของอาคารสว่างดี ดูไม่แคบและน่ากลัว

:::: ROOM TYPE และ ห้องตัวอย่าง ::::

::: ROOM TYPE :::

ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 6 แบบด้วยกันได้แก่

• 1 Bedroom : 24.90-33.20 ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra A : 32.40-34.50 ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra B : 33.90-34.80 ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra C : 37.10-37.30 ตร.ม.
• 2 Bedroom A : 43.70 ตร.ม.
• 2 Bedroom B : 47.95-49.20 ตร.ม.

ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ใช้เฟอร์นิเจอร์ของ Modernform ทั้งหมด เรียกได้ว่าแค่ขนเสื้อผ้ามาก็เข้าอยู่ได้เลย เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลย

แบบ 1 Bedroom : ขนาด 24.90-33.20 ตรม.

แบบ 1 Bedroom Extra A : ขนาด 32.40-34.50 ตรม.

แบบ 1 Bedroom Extra B : ขนาด 33.90-34.80 ตรม.

แบบ 1 Bedroom Extra C : ขนาด 37.10-37.30 ตรม.

แบบ 2 Bedrooms A : ขนาด 43.70 ตรม.

แบบ 2 Bedrooms B : ขนาด 47.95-49.20 ตรม.

::: ห้องตัวอย่าง :::

วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ลำดับเป็น 1 Bedroom ขนาด 24.90 ตรม. และ 1 Bedroom Extra A ขนาด 32.40 ตรม. มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย

:: แบบ 1 Bedroom ขนาด 24.90-33.20 ตรม. ::

เริ่มต้นที่ห้อง 1 Bedroom มีขนาดตั้งแต่ 24.90-33.20 ตรม.ค่ะ ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว แบ่งสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องนอนออกจากกัน ห้องครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบปิด ช่วยกันกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้องได้ดี ตัวห้องจะเป็นแบบหน้าแคบแต่ลึก การจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องอาจจะยากกว่าห้องที่มีหน้ากว้างกว่า โดยห้องนี้จะเป็น Type ที่มีเยอะมากที่สุด

เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูภายในห้องด้วยกันเลยค่ะ

เข้าไปภายในห้องเราจะเจอส่วนครัวก่อน ฝั่งขวามือคือห้องน้ำ ผนังภายในห้องเป็นฉาบเรียบทาสี

พื้นห้องส่วนครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. มีข้อดีคือสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย พอเข้าไปในส่วนของห้องนอนก็จะแบ่งปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ค่ะ

ในส่วนของฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ ฝ้าสูง 2.4 เมตรตามมาตรฐาน

ภายในห้องขายแบบ Fully furnished เฟอร์นิเจอร์จาก Modern Form ทั้งหมด จะเห็นว่าเราได้ครัวแบบพร้อมใช้งานได้เลย เราจะได้ทั้งชุดเคาน์เตอร์และชั้นวางของเหนือหัวทั้งหมดค่ะ มาดูรายละเอียดกันต่อเลย

เคาน์เตอร์ที่ได้จะปิดผิวด้วยเมลามีน ใต้เคาน์เตอร์มีช่องเก็บของและชั้นวางเตาไมโครเวฟให้

ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต มีทั้งพื้นที่เตรียมอาหาร และ อ่างล้างจาน แต่เตาปรุงอาหารกับเครื่องดูดควันจะไม่ได้มาด้วยนะ แนะนำให้ติดตรงผนังหลังเคาน์เตอร์ เป็นกระเบื้อง หรือ แผ่น Splash board นะ จะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายๆ

ชุดก๊อกน้ำและอ่างล้างจานที่ได้เป็นของ Teka ขนาดกระทัดรัด ล้างจาน-แก้วกาแฟสะดวกอยู่

ก๊อกน้ำทรงสูง สามารถหมุนบิดไปซ้าย-ขวาได้ ใช้งานได้สะดวก

ชั้นเก็บของเหนือหัวก็พอจะเก็บของพวกแก้วและจานชามได้อยู่บ้าง

เมื่อวางเคาน์เตอร์แล้วก็ยังเหลือพื้นที่อีก 1.15 เมตร เป็นระยะที่อีกคนจะสามารถเดินสวนข้างหลังได้โดยไม่รบกวนคนที่ยืนปรุงอาหารอยู่

เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปเล็กน้อยประมาณ 1 นิ้ว

ไฟที่ได้ภายในห้องก็เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์เช่นกัน ภายในห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ ทางโครงการจึงแก้ปัญหาด้วยการติดพัดลมดูดอากาศมาให้

ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 60 x 60 ซม.ทั้งพื้นและผนัง และกระเบื้องโมเสกประดับ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard ทั้งหมด โดยจัดวางสุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเรียงเข้าไปยังส่วนเปียก

เราจะได้เซ็ทอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์ พร้อมกระจกตามนี้เลยค่ะ

อ่างล้างมือวางบนท็อปหิน White Calara ด้านข้างมีพื้นที่วางสบู่ล้างมือ ผนังส่วนนี้มีเต้าเสียบให้ สำหรับไดร์เป่าผม และที่โกนหนวดไฟฟ้า ซึ่งห้องจริงจะมีฝาครอบกันน้ำให้ด้วยค่ะ

อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยม มีขนาดกระทัดรัดดี

ก๊อกน้ำทรงมนๆหน่อย ใช้งานได้ถนัดมือ

อีกฝั่งจะวางโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ระยะนั่งไม่แคบจนเกินไป

ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ประกอบการใช้งาน

มุมในสุดของห้องน้ำติดตั้ง Shower box มาให้ เป็นแบบประตูบานเลื่อนเข้ามุมช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี

ข้างๆติดตั้งราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้

พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในค่อนข้างกระทัดรัด ถ้าเป็นผู้ชายตัวโตๆ หรือไซส์ชาวตะวันตกอาจจะแคบไปสักหน่อย

ภายในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้

ขนาดก้านฝักบัวจับถนัดมือดีค่ะ แต่หัวอาจจะเล็กไปสักหน่อยสำหรับคนที่ชอบอาบน้ำแบบทีเดียวทั่วตัว

เราจะเข้าไปดูในส่วนของโซนพักผ่อนกันต่อ ทางโครงการติดตั้งประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมแบบ 3 ตอน มาให้

มือจับแบบเซาะร่องมาตรฐาน

พื้นภายในโซนพักผ่อนดังที่กล่าวไปแล้วว่าจะปูด้วยพื้นลามิเนต

ภายในโซนพักผ่อนจะเป็นเหมือนแบบห้อง Studio ค่ะ รวมพื้นที่รับประทานอาหาร, ส่วนนั่งเล่น และเตียงนอนเอาไว้รวมกัน

ส่วนรับประทานอาหารจะถูกจัดไว้อยู่ติดกับห้องครัว

สามารถวางโต๊ะเข้ามุม และเก้าอี้สำหรับ 2 ที่นั่งได้ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้เราได้มากับตัวห้องด้วยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับส่วนรับประทานอาหารคือโซฟานั่งเล่น วางอยู่ข้างหัวเตียง

ที่ได้มากับห้องจะเป็นชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งยาวประมาณ 1.4 เมตร พร้อมโต๊ะกาแฟอีกตัว พอดีกับพื้นที่เลย

ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนของเตียงนอน

ที่ได้มากับห้องจะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งเหมาะสมกับพื้นที่ห้องพอดี (ไม่รวมฟูกและเครื่องนอนนะ)

ฝั่งปลายที่นอนเราจะได้ชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้ามาแบบนี้

เราจะได้ทั้งชั้นวางทีวี และชั้นลอยตามแบบห้องตัวอย่างนี้เลยค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นแบบบานเลื่อน เปิดได้ทั้ง 2 ทาง ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของให้

เมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงอีกเยอะเลยนะ ระยะหน้าตู้เสื้อผ้ากับขอบเตียงจะอยู่ที่ 0.9 เมตร ยืนแต่งตัวหน้าตู้ได้สบายๆ

ในส่วนของฝั่งซ้ายมือของหัวเตียงจะมีพื้นที่ห้องเหลือเป็นมุม เป็นส่วนที่เหลือจากระเบียงห้อง ทางโครงการจึงได้จัดโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้มาให้ด้วย โต๊ะหัวเตียงข้างๆก็แถมมาด้วยเช่นกัน

มุมนั่งทำงานตรงนี้จะอยู่บริเวณช่องแสงพอดี ฝั่งซ้ายมือคือบาน Fix ส่วนฝั่งขวาคือบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงค่ะ

มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานแบบนี้

ออกไปดูระเบียงห้องกันบ้าง ทางโครงการจะแบ่งพื้นที่ระเบียงเอาไว้ไม่ใหญ่มาก เพื่อเอามาเพิ่มพื้นที่ให้ภายในห้องแทน ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงเช่นกัน

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ใช้ Boarder เป็นทรายล้างสีทอง ขนาดพื้นที่เพียงพอสำหรับการตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้าพอดีๆ

นอกจากนี้ก็จะเป็นส่วนที่ใช้แขวน Compressor ค่ะ หันหน้าเข้าหาผ้าที่ตากพอดี ช่วยให้ผ้าแห้งไวขึ้นด้วยนะ

มุมมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนอน

หลังจากที่อาคารสร้างเสร็จแล้ว ทางโครงการได้ตกแต่งห้อง 1 Bedroom เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างภายในอาคารจริงด้วยนะ มาดูกันค่ะว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากประตูทางเข้าเป็นบานสำเร็จรูป

พร้อมมือจับแบบก้านโยก ตรงนี้เราสามารถติดตั้งระบบ Digital Door Lock เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นนึงได้

เปิดเข้าไปภายในห้อง แปลนห้องนี้จะสลับด้านกับห้องที่ผ่านมานะคะ

พื้นห้องใช้วัสดุตามห้องตัวอย่างค่ะ โดยหน้าห้องจะเก็บงานตรงธรณีประตูเรียบร้อย

ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตรเท่ากัน เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้

ในโถงของห้องครัวข้างประตูทางเข้าติดตู้ Load center มาให้ ใช้ของ Bticino ค่ะ

ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Haco นะ

ภายในห้องครัวได้เคาน์เตอร์มาเหมือนในห้องตัวอย่างทุกประการ

ในส่วนของห้องน้ำ ประตูเป็นบานสำเร็จรูป

พร้อมมือจับแบบลูกบิดสแตนเลส

ภายในห้องน้ำจะได้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องตัวอย่างทุกประการ

จากห้องครัวจะติดตั้งประตูบานเลื่อนกั้นส่วนระหว่างห้องครัวและส่วนพักผ่อนให้เหมือนกัน

ภายในส่วนพักผ่อนก็จะได้เฟอร์นิเจอร์มาตามที่แจ้งไว้ในห้องตัวอย่างค่ะ แต่ห้องนี้จะจัดห้องต่างออกไปตามฮวงจุ้ย

ฝั่งซ้ายมือจะวางเตียงนอน, โต๊ะทำงาน และชุดโซฟาเข้ามุมแทน

อีกฝั่งหนึ่งจะวางตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี และโต๊ะกินข้าวข้างระเบียง ทำให้ได้บรรยากาศอีกแบบ การจัดแบบนี้ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของห้องด้วยว่าชอบและมีพฤติกรรมการใช้งานแบบไหน

ออกไปที่ระเบียงห้อง ชั้นบนๆก็จะได้วิวดีหน่อย

ได้ทั้งวิวสวนที่ร่มรื่นและสระว่ายน้ำของโครงการ บรรยากาศดูดีทีเดียวค่ะ

จากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง

:: แบบ 1 Bedroom Extra A ขนาด 32.40-34.50 ตรม. ::

เสร็จจากห้องนอน 1 Bedroom มาดูห้องแบบ 1 Bedroom Extra A ขนาด 32.40-34.50 ตรม. กันต่อเลย ลักษณะการวางแปลนของห้องนี้ก็ไม่ต่างจากห้องที่ผ่านมาค่ะ แต่การแบ่งสัดส่วนห้องนั้นจะต่างกันตรงที่ จะรวมห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเอาไว้ในโซนเดียวกัน แล้วแบ่งโซนพักผ่อนแยกออกไปต่างหาก ห้องนี้ก็จะเหมาะสำหรับ 1-2 คนเช่นกัน

เข้าไปดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ

เข้าไปในห้องจะเจอส่วนของห้องครัวก่อน ตามด้วยส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ วัสดุภายในห้องจะได้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการ ทั้งกระเบื้องปูห้องครัวขนาด 60 x 60 ซม., พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลท์

มาดูส่วนครัวกันก่อน ตัวเคาน์เตอร์ครัวและชั้นวางของเหนือหัวจะได้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการ

จะแตกต่างกันตรงที่เราได้ Hob&Hood มาเพิ่มด้วย

เตาที่ได้เป็นเตาเซรามิกขนาด 2 หัวของ Teka

พร้อม Hood ของ Teka เช่นกัน

เมื่อวางเคาน์เตอร์แล้วก็ยังเหลือพื้นที่อีก 1.15 เมตร เป็นระยะที่อีกคนจะสามารถเดินสวนข้างหลังได้โดยไม่รบกวนคนที่ยืนปรุงอาหารอยู่ เท่ากับห้อง 1 Bedroom

เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ

ภายในห้องน้ำเราจะได้เหมือนห้อง 1 Bedroom ทุกประการ ดังนั้นจะขอข้ามไปเลยนะคะ

เดินผ่านส่วนครัวเข้าไป จะเป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ด้านในสุดที่ถูกกั้นส่วนออกไปคือโซนพักผ่อนค่ะ

โต๊ะทานอาหารจะถูกจัดเข้ามุมข้างๆเคาน์เตอร์ครัวเลย สามารถจัดวางได้ 2 ที่นั่งเช่นกัน

เก้าอี้ฝั่งที่ชนกับชั้นวางทีวี เวลาถอยหลังเพื่อจะลุกอาจจะต้องระวังหน่อย เพราะระยะกระชั้นมาก โต๊ะกับเก้าอี้ชุดนี้เราได้มากับตัวห้องค่ะ

อีกฝั่งนึงจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ชุดโซฟา และโต๊ะกาแฟเราได้มากับตัวห้องค่ะ ส่วนชั้น Built-in ฝั่งซ้ายเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเท่านั้น ไม่ได้มาด้วยนะ

จะเห็นว่าห้องนี้เราได้พื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางขึ้น ชุดโซฟาที่ได้มีขนาด 2.05 เมตรเลย

ฝั่งตรงข้ามเราได้ชั้นวางทีวีและชั้นวางของชุดเดิมค่ะ ระยะทีีวีตรงนี้ค่อนข้างดีนะ ดูทีวีจอใหญ่ๆสัก 60 นิ้วนี่ได้เลย

เราจะเข้าไปดูในโซนพักผ่อนกันต่อค่ะ ซึ่งจะถูกแบ่งด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม

ในส่วนของโซนพักผ่อนก็ยังมีพื้นที่ๆกว้างพอสมควร สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว

เตียงที่ได้เป็นขนาด 5 ฟุตเท่ากันพร้อมโต๊ะข้างหัวเตียง แต่โซฟาฝั่งขวามือไม่ได้มากับตัวห้องนะ

ฝั่งตรงข้ามก็ได้โต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้ามาเหมือนเดิม

ซึ่งระยะปลายเตียงก็ยังเหลือพอๆกับห้อง 1 Bedroom นะ เดินผ่าน, เปลี่ยนผ้าปูเตียง หรือยืนแต่งตัวได้สบาย

ช่องแสงของห้องยังคงเหมือนห้อง 1 Bedroom ค่ะ มุมฝั่งซ้ายมีหน้าต่างบานเลื่อนและหน้าต่างบาน Fix ส่วนฝั่งขวามือมีประตูบานเลื่อนออกสู่ระเบียงห้องนอนได้

พื้นที่ระเบียงมีขนาดเท่ากับห้อง 1 Bedroom เช่นกัน

มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง

:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2560) ::::

• พื้นส่วนพักผ่อน : ไม้ลามิเนต หนา 8 มม.
• พื้นส่วนครัว : กระเบื้อง ขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. Boarder ทรายล้างสีทอง
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60 x 60 ซม.
• ประตูภายนอก (โถงทางเดิน) : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบานกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
• ประตูห้องน้ำ : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส
• หน้าต่างภายนอก : บาน Fix และบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : American Standard

งานไฟฟ้า

• สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Haco
• ตู้ Load center : Haco
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ไฟภายนอก : ไฟกิ่ง

เฟอร์นิเจอร์

• ชุดเคาน์เตอร์ครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว ท็อปหินแกรนิต ปิดผิวด้วยเมลามีน และชั้นเก็บของเหนือเคาน์เตอร์ Built – in (Modernform)
• อ่างล้างจาน, ก๊อกน้ำ, เตาเซรามิคขนาด 2 หัว และฮูดดูดควัน จาก Teka
• โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ตัว (Modernform)
• ชั้นวางทีวี และชั้นวางของ Built-in (Modernform)
• ตู้เสื้อผ้า Built – in, เตียงแบบลอยตัวขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างหัวเตียง (Modernform)
• เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนแบบติดผนัง Samsung หรือ เทียบเท่า ในห้องนอน

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ

:::: ราคา (กันยายน 2560) ::::

แบบ 1 Bedroom

– ขนาด 24.90-33.20 ตร.ม.

– ราคาเริ่มต้นที่ 1,790,000 บาท

– เงินจอง 5,000 บาท

– ทำสัญญา 30,000 บาท

แบบ 1 Bedroom Extra A

– ขนาด 32.40-34.50 ตรม.

– ราคาเริ่มต้นที่ 2,690,000 บาท

– เงินจอง 10,000 บาท

– ทำสัญญา 40,000 บาท

แบบ 2 Bedrooms A

– ขนาด 43.70 ตรม.

– ราคาเริ่มต้นที่ 4,100,000 บาท

– เงินจอง 15,000 บาท

– ทำสัญญา 45,000 บาท

• ค่ากองทุน 400 บาท/ตรม.
• ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 35 บาท/เดือน

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่บริเวณหัวโค้งถนนเชื่อมประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา โซนนี้นับว่าเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัย มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย จากที่สังเกตดูก็คือ ย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการประเภทคอนโดมิเนียม เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู จึงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกทั้งขาเข้าและออกเมือง เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม สามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น เข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) ได้สะดวก โดยมีตัวช่วยในการเดินทางคือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ส่วนถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะ ตัดกับถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต และผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี โดยจะตัดผ่านวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอิน หรือ วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย

แต่ย่านนี้ก็จะมีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดอยู่เหมือนกัน ดังนั้นจะขอแนะนำให้เผื่อเวลาดีๆ และใช้ทางด่วนจะเร็วที่สุดค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ เนื่องจากทั้งเส้นเลียบด่วนและเส้นรามอินทรามีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ทั้งรถเมล์, รถตู้, รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ จึงถือว่าไม่ยากลำบากค่ะ อีกทั้งในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี บนเส้นรามอินทรา และ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีวัชรพล ซึ่งเป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้เอง ทางขึ้น-ลงสถานีจะอยู่ระหว่างซอยรามอินทรา 59 กับ 61 (จากที่ทางโครงการกล่าวมา) ก็จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น แต่ก็อาจจะต้องรอกันอีกหลายปีหน่อยนะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น มี 5 อาคาร ทั้งหมด 1,168 ยูนิต บนพื้นที่ 11 ไร่กว่าๆ วางผังโครงการแบบ Linear เรียงแต่ละตึกเข้าไปเป็นคู่ๆ คือ B-D และ C-E โดยมีตึก A อยู่ตรงกลางเป็นตึกประธาน การวางแปลนแต่ละชั้นก็เรียบง่ายเป็นแบบ Double Corridor การวางอาคารแบบนี้ทำให้เกิด Space ตรงกลางระหว่างอาคาร ซึ่งถูกจัดให้เป็นส่วนกลางของโครงการทั้ง สวนสาธารณะ และ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่

ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว โดยหลักจะขออิงไปที่ห้อง 1 Bedroom และ 1 ฺBedroom Extra A ที่เราได้รีวิวให้ดูกันนะคะ ห้องทั้ง 2 แบบจะวางแปลนค่อนข้างเหมือนกัน มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันค่ะแล้วแต่ว่าใครจะเหมาะกับแบบไหนมากกว่า โดยห้อง 1 Bedroom จะเหมือนกับห้อง Studio คือกั้นส่วนเฉพาะห้องครัวออกไป ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องนั่งเล่น และเตียงนอนจะอยู่รวมกัน ทั้งห้องจะได้แสงสว่างอย่างทั่วถึง ห้องครัวถูกกั้นส่วนออกไป เมื่อปรุงอาหารกลิ่นก็จะไม่ฟุ้งไปทั่วห้อง โดยพื้นจะปูด้วยกระเบื้อง ซึ่งสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเมื่อเวลาเลอะเทอะ แต่เวลามีแขกไปใครมาจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่

ส่วนห้อง 1 ฺBedroom Extra A จะมีพื้นที่ๆกว้างขวางกว่า ภายในห้องจะไม่ได้กั้นส่วนระหว่างห้องครัว กับส่วนรับประทานอาหารหาร และห้องนั่งเล่น จึงทำให้ภาพรวมของห้องดูโปร่ง จะกั้นเฉพาะโซนพักผ่อนออกไปซึ่งทำให้ภายในห้องนั่งเล่นไม่ได้แสงสว่างผ่านทางหน้าต่าง ต้องอาศัยแสงสว่างผ่านทางโซนพักผ่อนเอา ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี ถือว่าใช้ได้ค่ะ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้พวกเฟอร์นิเจอร์ครบ แบบขนเสื้อผ้าเข้ามาอยู่ได้เลย นอกจากนี้ก็ยังได้แอร์ จาก Sumsung ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตรม.ละ 80,000 บาทค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ โดยจะมี สวนสาธารณะ และ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลาง Court ส่วนกลางอีกส่วนจะอยู่ที่ใต้ตึก A คือ Lobby Lounge, Fitness และร้านค้าอีก 5 ยูนิต

ทางโครงการได้ทำทำช่องจอดรถเอาไว้ประมาณ 40% แบบยังไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อย ถึงแม้ว่าจะมีลูกบ้านบางส่วนเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ตาม มีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารตั้งแต่ 86 : 1 จนไปถึง 125 : 1 แอบเกินมาตรฐานมานิดหน่อยแต่ถึือว่ารับได้นะ เพราะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low rise การรอลิฟท์จึงไม่นานมากอยู่แล้ว

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ

:::: คะแนน ::::

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 085 390 9955

WEBSITE : http://www.we-condo.com/

คอนโด คาวะ เฮ้าส์ อ่อนนุช 77 KAWA Haus Onnut 77

KAWA Haus อ่อนนุช 77 คอนโดใหม่จาก แสนสิริ ท่ามกลางความเร่งรีบของคนเมือง ธรรมชาติยังเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างเรื่องราวดีๆ ของชีวิต ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และความสดชื่นของชีวิตริมน้ำในขณะที่ทุกความสะดวกสบายอยู่ใกล้แค่เอื้อม

เพียง 2 นาทีจากทางด่วน และ 5 นาทีจาก BTS อ่อนนุช โครงการตั้งอยู่ใน T77 มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ ใกล้ทุกความสะดวกสบาย ทั้ง ฮาบิโตะ มอลล์, โรงเรียนนานาชาติ บางกอก เพรพ, และโครงการที่อยู่อาศัย ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีชีวิตชีวา ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท คลิกที่นี่ >>  https://goo.gl/fuXhcQ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท 77 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. 10250

พิกัด Google : 13°42’42.9″N 100°36’06.3″E

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/condominium/kawa-haus/th/

คอนโด เอลลิโอ เดล มอสส์ พหลโยธิน 34 Elio Del Moss Phaholyothin 34

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดตัวโครงการ Elio Del Moss พหลโยธิน 34 คอนโด Low-Rise พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า BTS เสนานิคม และ BTS ม.เกษตรศาสตร์ ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท / แต่งครบ*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษคลิก : https://www.ananda.co.th/register/elio/

ที่ตั้งโครงการ

ซอยพหลโยธิน 34 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม.

พิกัด Google : 13.838839, 100.582461

** หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากโครงการยังไม่มีการเปิดตัวค่ะ **

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : www.ananda.co.th

คอนโด เดอะ ไพรเวซี่ พระราม 9 The Privacy Rama 9

“The Privacy พระราม 9“ คอนโด High Rise บนทำเลโซนพระราม 9 เพียง 250 ม. จาก Airport Link รามคำแหง 1 สถานี ถึงอโศก เริ่ม 1.79 ล้านบาท*

ลงทะเบียนคลิก : https://goo.gl/rr5F2A

ที่ตั้งโครงการ

ถนนรามคำแหง แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.

:: GALLERY ::

ภาพจำลองบรรยากาศมุมสูงตัวอาคาร และ The Sky Space

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 30 เมตร

ภาพจำลองบรรยากาศ Star Pool & Terrace

ภาพจำลองบรรยากาศ Double Volume Lobby

ภาพจำลองบรรยากาศ Pricavy Lounge

ภาพจำลองบรรยากาศ Play Space

ภาพจำลองบรรยากาศ Workout Space

ภาพจำลองบรรยากาศห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.25 ตร.ม.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739

Wevsite : www.pruksa.com

EP.934 รีวิว คอนโด ไมอามี่ บางปู The Miami Bangpu

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Miami บางปู จาก J.S.P Property กันค่ะ ตัวโครงการอยู่บนถนนสุขุมวิท ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู ใกล้กับ สถานีรถไฟฟ้าเมืองโบราณ เพียง 100 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ วงแหวนกาญจนาภิเษก, ทางด่วนพระราม 2 และ ทางด่วนบางนา

ไมอามี่ บางปู เป็นคอนโด Low Rise สูง 5 ชั้น มี 90 อาคาร จำนวน 5,010 ยูนิต บนเนื้อที่ 120-0-5.20 ไร่ แบ่งเป็น Beach Front 30 อาคาร 1,170 ยูนิต และ Garden Villa 60 อาคาร 3,840 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกเป็น Studio และ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 25.00 ตรม. ซึ่งโครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2558 ค่ะ (บางส่วน)

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน อาทิ อาคารสโมสร, สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก, Fitness, สวนส่วนกลาง, สวนสวยรอบโครงการ, CCTV, รปภ. 24 ชม. และ ช้อปปิ้ง มอลล์ แบบครบวงจร รวมร้านอาหาร, ร้านค้า และบริการชื่อดังกว่า 50 ร้าน ในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นที่ 0.899 ล้านบาท (เฉลี่ยเริ่มต้นที่ 36,000 บาท/ตร.ม.)

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

พิกัด : 13.542646, 100.619481

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง โครงการ Miami บางปู ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ในย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งเลยค่ะ บริเวณนี้จะมีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้มากมาย จึงมีพวกหอพัก, ร้านค้า และร้านอาหารอยู่เยอะ เพื่อรองรับความต้องการของพนักงานโรงงานเป็นหลัก จากการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม, การขยายตัวของที่อยู่อาศัย ที่ต่อเนื่องมาจากในเมือง ออกมาตามแนวเส้นสุขุมวิท ทำให้ทำเลนี้มีความหนาแน่นของชุมชนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการมาถึงของโครงข่ายรถไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ย่านนี้มีความเจริญ และการขยายตัวมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทำเลนี้ยังถือเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯกับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆของจังหวัดอื่น ทั้งชลบุรี, ระยอง และ ท่าเรือแหลมฉบัง อีกด้วยค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางในย่านนี้ หลักๆเลยก็จะเป็นถนนสุขุมวิท ใช้เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ และจ.สมุทรปราการ สู่ภาคตะวันออกของไทย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง ทั้ง ถนนศรีนครินทร์ ขึ้นไปทางประเวศถึงเส้นรามคำแหง, ถนนเทพารักษ์ ใช้ลัดเข้าเส้นสุขุมวิทตรงแยกเทพารักษ์ BTS สถานีสำโรง, ถนนบางนา-ตราด, ถนนแพรกษา เชื่อมต่อถนนตำหรุบางพลี และถนนกิ่งแก้ว ไปทางสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังเชื่อมสู่วงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้จุดขึ้นทางด่วนพระราม 2 และทางด่วนบางนาอีกด้วย

ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนบางนาและทางด่วนพระราม 2 ค่ะ ระยะทางประมาณ 10 กม. โดยจากตัวโครงการใช้เส้นสุขุมวิทขึ้นไปยังเส้นศรีนครินทร์ จะมีทางแยกไปทางซ้ายขึ้นทางด่วนไปทางพระราม 2

ส่วนทางด่วนบางนาให้เข้าทางแยกทางซ้ายเช่นกัน แต่ต้องไปกลับรถใต้ทางยกระดับอีกที

ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากย่านนี้เป็นย่านนิคมอุตสาหกรรม คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ นอกจากคนในท้องที่เดิมแล้ว ส่วนมากก็จะเป็นบุคลากรของโรงงาน และชาวต่างชาตินั่นเองค่ะ ซึ่งโดยรอบก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งร้านค้าและร้านอาหาร ภายในตัวโครงการเองก็จะมีโซนช้อปปิ้งมอลล์ครบวงจร ที่รวมร้านอาหาร, ร้านค้าและบริการชื่อดัง กว่า 50 ร้านเอาไว้ ทั้งร้านอาหารประเภท Pub&Restaurant, Steakhouse, หมูกระทะ, อาหารญี่ปุ่น, โจ๊ก รวมถึง Mc Donald และ Hypermarket อย่าง Makro ด้วยนะ

ถ้าเป็นห้างใหญ่ๆที่อยู่ใกล้ๆก็จะมีทั้ง Robinson สมุทรปราการ, Big C และ Tesco Lotus บนเส้นสุุขุมวิท ถ้าขึ้นไปทางเส้นศรีนครินทร์ไปทางบางนา-ตราด ก็จะมีทั้ง Tesco Lotus, Foodland, Makro, เซ็นทรัลบางนา, Meka และ Ikea บางนา นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว ทั้ง เมืองโบราณ, สถานตากอากาศบางปู, ฟาร์มจระเข้, พิพิธภัณฑ์, สถานศึกษา และ โรงพยาบาลอีกด้วย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการจะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่นะ เป็นรถ 2 แถว และรถตู้ จากปากน้ำ-นิคมบางปู/โลตัสบางปู หรือ ปากน้ำ-คลองด่าน และในอนาคต ย่านนี้รถไฟฟ้าจะเข้าถึงค่ะ จะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ส่วนต่อขยาย เคหะสมุทรปราการ-บางปู ทางโครงการได้แจ้งว่าห่างจากสถานีเมืองโบราณเพียง 100 เมตร

แต่ถ้าเรานับระยะมาตั้งแต่จากโซนที่อยู่อาศัย (ไม่ใช่จากบริเวณหน้าทางเข้า-ออกโครงการ) จะต้องเพิ่มระยะเข้าไปอีก 300-800 เมตร รวมๆระยะเดินแล้วก็ประมาณ 400-900 เมตร ก็ถือว่ายังพอไหวอยู่ บริเวณทางเข้าโครงการได้ทำที่จอดจักรยานไว้ที่หน้าโซน ช้อปปิ้งมอลล์ ลูกบ้านคนไหนที่จะเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สามารถปั่นจักรยานมาจอดทิ้งไว้ได้ ซึ่งในส่วนต่อขยาย เคหะสมุทรปราการ-บางปู น่าจะได้เปิดใช้งานในปี 2565 รอกันอีกไม่กี่อึดใจเท่านั้นค่ะ

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Miami บางปู โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถ.กาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) > ถ.ศรีนครินทร์ > ถ.สุขุมวิท > โครงการ Miami บางปู

การเดินทางเริ่มต้นจาก ถ.กาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) โดยชิดซ้ายขับลง ทางออก ถ.ศรีนครินทร์ (สมุทรปราการ) ผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง บางเมือง ขาออก 2

เมื่อชิดซ้ายมาแล้ว จ่ายค่าผ่านทางที่ด่านบางเมือง ขาออก 2 ค่ะ

จ่ายค่าผ่านทางเรียบร้อยขับลงมาจะเจอทางบังคับเลี้ยวซ้าย ออก ถ.ศรีนครินทร์

จาก ถ.ศรีนครินทร์ ขับไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายบางปู-ชลบุรี ให้เตรียมชิดซ้าย

เลี้ยวซ้าย ออก ถ.สุขุมวิท ตามป้ายบางปู-ชลบุรี ค่ะ

เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ขับเลยมาประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอรถไฟฟ้า BTS สถานีศรีนครินทร์ ด้านหน้า ซ้ายมือเป็น ซ.ชุมชนบางปิ้ง ให้ตรงไปค่ะ

เมื่อเลยรถไฟฟ้าสถานีศรีนครินทร์มา 700 เมตร ยังให้ตรงต่อไปนะ สังเกตว่าด้านหน้าจะเป็นรถไฟฟ้าสถานีแพรกษา และโรบินสันสมุทรปราการ อยู่ซ้ายมือ

เราขับตรงตามเส้นสุขุมวิทมาเรื่อยๆ จากหน้า Robinson มาประมาณ 5 กม. ก็จะเห็นป้ายทางเข้าโครงการ Miami บางปู อยู่ทางด้านขวามือค่ะ เราจะต้องไปกลับรถกันข้างหน้านะ

ขับเลยไปอีก 1.6 กม. ผ่านหน้าเมืองโบราณไปแล้วให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ

เมื่อกลับรถมาแล้วให้ชิดเลนซ้ายค่ะ ฝั่งซ้ายมือของเราจะผ่านวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ

จากจุดกลับรถมา 1.6 เมตร เราก็จะถึงทางเข้าโครงการแล้วค่า

ทางเข้าโครงการแบบชัดๆ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนแพรกษา : 5.4 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ : 6.7 กม.
• ถนนตำหรุ-บางพลี : 8.0 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก : 9.9 กม.
• แยกศรีเทพา : 10.7 กม.
• ถนนเทพารักษ์ : 10.7 กม.
• แยกเทพารักษ์ : 12.6 กม.
• แยกคลองขุด : 17.9 กม.
• ถนนกิ่งแก้ว : 18.0 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• Big C : 5.0 กม.
• โรบินสัน สมุทรปราการ : 5.6 กม.
• Tesco Lotus บางปู : 6.4 กม.
• อินฟินิท มอลล์ : 6.5 กม.
• ตลาดสดปากน้ำ : 6.6 กม.
• นิคมอุตสาหกรรมบางปู : 7.3 กม.
• อิมพีเรียลสำโรง : 13.0 กม.

สถานศึกษา

• วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ : 300 ม.
• รร.สมุทรปราการ : 5.3 กม.
• รร.นายเรือ : 9.1 กม.
• วิทยาลัยเทคนิคสุวรรณภูมิ บริหารธุรกิจ : 13.0 กม.
• วิทยาลัยเซาท์อีสต์ บางกอก : 19.2 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.เมืองสมุทรปราการบางปู : 3.3 กม.
• รพ.รัทรินทร์ : 4.4 กม.
• รพ.สมุทรปราการ : 5.3 กม.
• รพ.เมืองสมุทรปราการ : 7.0 กม.
• รพ.เปาโลเมมโมเรียล สมุทรปราการ : 8.6 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• เมืองโบราณ : 900 ม.
• ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ : 4.9 กม.
• สถานตากอากาศบางปู : 5.8 กม.
• ท่าเรือข้ามฟากวิบูลย์ศรี : 6.5 กม.
• พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 12.7 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยใช้ถนนที่ใกล้ที่สุด**

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

ตลอด 2 ข้างทางถนนสุขุมวิทจะเป็นอาคารพาณิชย์ ลึกเข้าไปในซอยเป็นบ้านพักอาศัยของคนในละแวกนั้น จะยังเห็นว่าบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการนั้นยังไม่หนาแน่นมาก บางส่วนยังคงเป็นที่ดินเปล่า ศักยภาพโดยรอบของโครงการยังสามารถพัฒนาต่อได้อีกเยอะค่ะ

• ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ ถนนสุขุมวิท
• ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ
• ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ ทะเลอ่าวไทย

จากนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันค่ะ

มองไปทางฝั่งซ้ายของโครงการ บนถนนสุขุมวิทโดยรอบโครงการจะยังไม่ค่อยมีอะไรมาก ทัศนียภาพดูเรียบร้อยและเงียบสงบ

มองไปทางฝั่งขวาก็เช่นกันค่ะ

จากฝั่งซ้ายมือ ถ้าเราเดินเลยไปหน่อยก็มีทางเข้าอีกทางนึงของโครงการ

ถ้าเราตรงไปจนสุดทาง ก็จะเจอโซน Garden Villa และ Beach Front Villa ฝั่งซ้ายมือหน้าปากทางเข้า มีวินมอไซค์คอยให้บริการอยู่ค่ะ

อัตราค่าโดยสารไปยังบริเวณใกล้ๆ ในละแวกนี้

กลับมาที่บริเวณหน้าทางเข้าหลักค่ะ

ฝั่งขวามือจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย

ถัดจากสำนักงานขายไปจะสามารถเข้าโซน Miami Bayside ซึ่งเป็นส่วนของพลาซ่า ได้อีกทาง ภายในแบ่งเอาไว้เป็นหลายๆโซน โซน A-C จะเป็นโซนร้านค้า โซน D เป็น Supermarket ส่วนโซน F-H จะเป็นโซนขายของแฟชั่นค่ะ

มาที่ซุ้มทางเข้าหลักของ Miami Bayside จากถนนสุขุมวิท

ด้านหน้าทางเข้าจะมีเต็นท์ร้านหมูกระทะ-อาหารซีฟู้ดขนาดใหญ่

เข้ามาด้านในสามารถจอดรถได้ตลอด 2 ข้างทางตามหน้าร้านค้า

ที่โซนด้านหน้าสุดจะเป็นโซน Giftshop

ถัดเขาไปก็มีร้านอาหารบรรยากาศน่านั่งอยู่หลายร้านให้เลือกกัน

ถัดเข้ามาอีกจะเป็นพื้นที่โซนบาร์ซ่าร์ ซึ่งด้านหลังติดกับโซน Garden Villa แต่ละโซนจะมีการเล่นสีสันของตัวอาคารให้ต่างกันออกไป โดยจะเน้นใช้สีสันที่ดูสดใส และสนุกสนาน

กลับมาที่หน้าสำนักงานขาย เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูตัวโมเดลของโครงการด้านในกัน

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ Miami บางปู เป็นคอนโดมิเนียม Low rise สูง 5 ชั้น มี 90 อาคาร จำนวน 5,010 ยูนิต บนเนื้อที่ 120-0-5.20 ไร่ แบ่งเป็น Beach Front Villa 30 อาคาร 1,170 ยูนิต และ Garden Villa 60 อาคาร 3,840 ยูนิต โดยโซนด้านหน้าสุดของโครงการคือ Miami Bayside ซึ่งจะเป็นส่วนของพลาซ่า ถัดลงมาคือ โซน Garden Villa ตามด้วย Beach Front Villa ซึ่งอยู่ติดชายทะเล

ในส่วนของโซน Miami Bayside ซึ่งเป็นส่วนของพลาซ่า แบ่งออกเป็นโซน A-F ซึ่ง โซน A-C คือโซนร้านค้า โซน D คือ Supermarket และ โซน E-F คือ โซนสินค้าแฟชั่น ทางเข้าสู่โซน Garden Villa และ Beach Front Villa จะเป็นถนนอยู่ 2 ฝั่งซ้าย-ขวาของตัวโครงการยาวเข้าไปค่ะ

มาดูในส่วนของโมเดลแบบผังโครงการกันบ้าง มองจากถนนสุขุมวิทเข้าไปภายในโครงการ ด้านหน้าสุดคือ Miami Bayside ตามด้วย Garden Villa และ Beach Front Villa

มองจากทางด้านทิศตะวันตก

ส่วนของ Garden Villa จะอยู่ติดกับโซน Miami Bayside มีถนนทางเข้าจากเส้นสุขุมวิทตัดยาวเข้ามา แล้วทำเป็นทางเข้าโครงการ

บริเวณทางเข้าของ Garden Villa มีสวนสาธารณะอยู่ระหว่างอาคารฝั่งซ้าย และหน้าอาคารฝั่งขวา

ตรงกลางโซน Garden Villa จะตัดถนนผ่าน ซึ่งตรงนี้จะเป็นส่วนของอาคารสโมสร ส่วนอาคารเล็กๆอีกประมาณ 4 อาคารจะเป็นร้านค้าค่ะ

ส่วนโซน Beach Front Villa จะอยู่ถัดเข้ามาจาก Garden Villa ขั้นกลางด้วยถนน ซึ่งตัดเป็นทางเข้าโครงการ ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า แถมยังอยู่ติดชายทะเลด้วย แต่จะต้องเดินออกไปข้างหน้าไกลหน่อยหากไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว

ถนนตัดแบ่งระหว่างโซน Garden Villa และ Beach Front Villa

ซุ้มทางเข้าด้านหน้าและจุด Drop-off เข้าสู่อาคารสโมสร

มองจากริมชายทะเล ด้านหลังโซน Beach Front Villa ได้จัดเป็นสวนสวยขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบก็ได้จัด Landscape สร้างบรรยากาศของการพักผ่อน

นี่คือหน้าตาของอาคาร Garden Villa สูง 5 ชั้น จะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดทุกอาคาร

แปลนอาคารจะถูกวางแบบเรียบง่ายทั่วไป แบบ Double Corridor มีจำนวนทั้งหมด 64 ยูนิต ต่อ 1 อาคาร คิดเป็นอัตราส่วนลิฟท์ 64 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นจนเกินไปค่ะ ใน 1 ชั้นก็มีเพียง 13 ห้องเท่านั้น (ชั้น 1 มี 12 ห้อง) ค่อนข้างเป็นส่วนตัวทีเดียว

หน้าตาของ Beach Front Villa สูง 5 ชั้น เช่นกัน อาคารจะเป็นทรงโค้งมน เว้าเข้าไปบางส่วนเพื่อให้ได้หน้าตัดทำเป็นช่องแสงได้มากขึ้น

แปลนอาคารจะถูกวางแบบเ Double Corridor มีจำนวนทั้งหมด 39 ยูนิต ต่อ 1 อาคาร คิดเป็นอัตราส่วนลิฟท์ 39 : 1 ใน 1 ชั้นก็มีเพียง 8 ห้องเท่านั้น (ชั้น 1 มี 7 ห้อง)

:::: ROOM TYPE ::::

ทั้งโซน Garden Villa และโซน Beach Front Villa จะมีแบบห้องอยู่โซนละ 1 แบบค่ะ ในส่วนของโซน Garden Villa จะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 25.00 ตรม. ส่วนโซน Beach Front Villa จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.00-41.00 ตรม. เราไปดูแบบห้องกันเลย

แบบห้อง Garden Villa ขนาด 25.00 ตรม.

แบบห้อง Beach Front Villa ขนาด 34.00-41.00 ตรม.

:::: บริเวณภายในโครงการ ::::

::: โซน Garden Villa :::

ทางเข้าโครงการ

เราได้ชมรายละเอียดของโครงการกันไปหมดแล้ว คราวนี้เรามาดูบรรยากาศภายในโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เราจะเริ่มต้นจาก Garden Villa กัน

ทางเข้า-ออกของโครงการจะมีป้อมยามและระบบรักษาความปลอดภัยอยู่ด้านหน้าแบบนี้

การเข้า-ออกโครงการจะต้องผ่านป้อมยาม, เครื่องตรวจจับสัญญาณ Key Card, รั้วไม้กระดก และ กล้อง CCTV

ถ้าเป็นลูกบ้านที่ถือ Key Card ก็สามารถผ่านเข้าไปได้เลยค่ะ แต่ถ้าเป็น Visitor จะต้องแลกบัตรและตรวจท้ายรถก่อนนะ

มุมมองย้อนกลับไปที่ทางเข้า-ออกโครงการ

บริเวณภายในโครงการ

เข้ามาภายในโครงการแล้วจะเป็นถนนขนาด 16.00 เมตรตัดยาวเข้าไปจนสุดเลยค่ะ ที่ถนนกว้างขนาดนี้ก็เพราะว่าไม่มีที่จอดรถใต้ตึก จะต้องจอดตามช่องที่แบ่งเอาไว้บนถนนนะ คิดแล้วที่จอดรถก็มีอยู่ประมาณ 30% ยังไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ

เข้าไปในซอยย่อย ถนนก็มีขนาด 16.00 เมตรเหมือนกัน โดยทั้ง 2 ฝั่งจะแบ่งช่องจอดรถเอาไว้ให้

การจัดวางอาคารจะเรียงเป็นแถวๆตามผังโครงการ ส่วนพื้นที่ระหว่างอาคารได้จัดทำเป็น Landscape อย่างร่มรื่นสวยงาม โดยทำทางเดินเอาไว้ตรงกลาง สามารถใช้เป็น Jogging Track ได้

บางส่วนจัดเป็นม้านั่งเล่นใต้ร่มเงาไม้ ได้บรรยากาศของการพักผ่อนหย่อนใจ

บรรยากาศสวนภายในโครงการจากมุมสูง

เรามาดูอาคารสโมสรกันต่อค่ะ เป็นอาคารสูง 2 ชั้น จะอยู่ตรงกลางระหว่าง Garden Villa ทั้ง 2 เฟส

ขึ้นมาบนอาคารชั้น 2 จะมีเฉลียงทางเข้าสำหรับนั่งเล่นรับลมได้

เข้ามาภายในตัวอาคารจะเป็น Fitness ขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวาง และเครื่องออกกำลังกายอยู่อีกหลายชิ้น

ทางฝั่งซ้ายด้านประตูทางเข้าจะเป็นเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ส่วนฝั่งริมหน้าต่างจะเป็นเครื่องออกกำลังแบบ Weight Training ครบทุกส่วนของร่างกาย

ทั้ง ลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้า

ฝั่งทางขวาด้านประตูทางเข้าก็เป็นเครื่องเล่นแบบ Weight Training ค่ะ

อีกฝั่งจะเป็นพวกม้านั่งราบ และชุดดัมเบล พร้อมกระจกเอาไว้ใช้เช็คท่าทางในการยกเวท

ออกมาจากฟิตเนส เดินขึ้นบันไดไปจะเป็นส่วนของ Pool Deck และ สระว่ายน้ำค่ะ

สระว่ายน้ำของโครงการนี่มีขนาดเท่ากับมาตรฐานโอลิมปิกเลยนะ มีขนาด 12.5 x 25 เมตร ภายในแบ่งเป็นสระเด็กให้ ลึกเพียง 0.6 เมตร

ส่วนสระใหญ่ก็จะลึกตามมาตรฐานค่ะ คือ 1.2 เมตร

ข้างๆสระวาง Day Bed ให้หลายตัว ไว้นอนพักผ่อน หรืออาบแดดได้

ปลายสระมีส่วนร่มให้เข้าไปว่ายหลบแดดได้

ด้านข้างของสระทำเป็นจุดล้างตัวก่อนลงสระให้

มุมโต๊ะเก้าอี้นั่ง และ Day Bed อีกฝั่ง

นอกจากนี้ ข้างๆสระว่ายน้ำก็จะมีห้องออกกำลังกายสำหรับคลาสเล็กๆ จัดเตรียมไว้อีกห้องด้วย

::: โซน Beach Front Villa :::

บริเวณภายในโครงการ

มาดูในส่วนของโซน Beach Front Villa กันต่อค่ะ เมื่อผ่านรปภ.ตรงทางเข้า เข้ามาภายในโครงการแล้วก็จะเป็นจุด Drop-off ขึ้นสู่ตัวอาคารสโมสรแบบนี้ค่ะ

เดินเข้ามาในใต้อาคารจะเห็นทางเข้าสโมสรอยู่ทางขวามือ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นโถงต้อนรับ ในอนาคตจะมีการจัดวางชุดโซฟานั่งเล่นพักผ่อนให้

มองไปทางขวามือจะเป็นโถงทางเดินไปยังลิฟท์และบันไดขึ้นชั้น 2

ในส่วนของชั้น 2 จะเป็น Fitness ขนาดใหญ่ ได้วิวโดยรอบแบบ 360 องศา ภายในมีเครื่องออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio และ Weight Training มาให้อย่างครบครัน

ในโซน Cardio ก็มีมาให้ทั้ง ลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้า ให้มาไม่ต่างจาก Garden Villa ค่ะ

ฝั่งทางเครื่อง Cardio มองออกไปได้วิวสระว่ายน้ำพอดี

ในส่วนของเครื่องแบบ Weight Training ก็มีมาให้ครบเช่นกัน

พื้นที่ว่างตรงกลางก็สามารถปู Mat ออกกำลังเล่นแบบ Body Weight ประกอบด้วยก็ได้เช่นกัน

ลงมาจากอาคารสโมสร เดินเข้าไปภายในโครงการกันต่อ ซึ่งจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ

ในส่วนของสระว่ายน้ำก็มีขนาดใหญ่ไม่แพ้โซน Garden Villa เลย แต่ทำเป็นรูปทรงโค้งเพื่อรับกับรูปแบบอาคาร

ข้างๆสระจะวาง Day Bed ให้นอนเล่นอาบแดดได้หลายตัว

อีกมุมหนึ่งจัดเก้าอี้นั่งไว้ใต้ร่มเงาไม้ ตอนนี้ต้นไม้ยังไม่ค่อยโตเท่าไหร่ค่ะ ต้องรออีกนิดนึงจะได้ทั้งร่มเงา และบรรยากาศที่สวยงามแน่นอน

มุมนึงข้างๆสระจัดเป็นจุดล้างตัวให้

มุมมองย้อนกลับไปที่อาคารสโมสร

เราเดินเข้ามาด้านในกันต่อ เราจะมาเจอ 2 สระเล็กๆด้านใน เป็นสระสำหรับเด็กค่ะ

พื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคาร ได้จัดทำเป็นทางเดิน และ Landscape สวยสวยตลอดทางไปสู่ทะเล

มาถึงสวนส่วนหลังสุดติดกับทะเล ก็มีการออกแบบ Landscape ให้เข้ากับบรรยากาศริมชายทะเลด้วยการใช้พรรณไม้ท้องถิ่น

จากรั้วโครงการ ส่วน Resident จะมีประตูสามารถเปิดออกสู่สวนริมชายฝั่งได้

ทางโครงการได้จัดสวนริมชายหาดส่วนตัวให้ยาวตลอดแนวโครงการ

ภายในสวนก็มีพวกเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งให้ด้วยนะ

จะแต่ชิ้นจะจัดเอาไว้กระจายๆกันค่ะ มีหลายแบบเลย

ภายในสวนได้ทำ Terrace ยกระดับขึ้นมา สามารถมานั่งเล่น รับลมชมวิว หรือซื้ออาหารทะเลมานั่งทานกันเบาๆ ก็ได้บรรยากาศดี

เดินลงมาจาก Terrace อีกฝั่งก็จะมีพื้นที่เดินเล่นภายในสวน ได้บรรยากาศดีๆและไอทะเล

เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งชิ้นต่างๆภายในสวน

อาคาร Beach Front Villa

เราเข้าไปดูในส่วนของอาคารใน Beach Front Villa กันต่อค่ะ ด้านหน้าทางเข้า-ออกก็จะต้องผ่านรปภ.เหมือนกัน

การจัดวางอาคารก็ไม่ต่างจาก Garden Villa นะ ถนนภายในโครงการกว้าง 16.00 เมตร สามารถจอดรถได้ทั้งทางซ้าย-ขวา

เราจะเข้าไปดูภายในตัวอาคารกันค่ะ

ประตูทางเข้าอาคารจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดเข้าไป

โดยจะติดเครื่องจับสัญญาณเอาไว้ที่ข้างประตู ให้เอา Key Card มาแปะตรงนี้เพื่อเปิดประตู

เมื่อเข้ามาภายในอาคารแล้วจะเจอโถงอาคารพร้อมตู้ Mailbox

ฝั่งตรงข้ามกับตู้ Mailbox คือลิฟท์ และบันไดทางขึ้นอาคาร

ภายในลิฟท์โดยสาร ทางโครงการใช้ลิฟท์ของ Hitachi สามารถรับน้ำหนักได้ 750 กก. หรือ 11 คนต่อเที่ยว

ข้างๆลิฟท์คือโถงบันไดค่ะ ถ้าอยู่ชั้น 2-3 ก็เดินขึ้นเถอะ ออกกำลังกายหน่อย

ขึ้นมาชั้นบนจะเป็นโถงทางเดินภายในอาคารแบบนี้ ตัวอาคารจะวางผังแบบ Double Corridor ธรรมดาค่ะ จะเห็นประตูตรงกลางด้านในสุดสีเทาๆ ก็คือประตูบันไดหนีไฟของอาคารนะ

ภายในปล่องบันไดหนีไฟ

:::: ห้องตัวอย่าง ::::

วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ลำดับเป็น Garden Villa ขนาด 25.00 ตรม. และ Beach Front Villa ขนาด 40.50 ตรม. ซึ่งห้องของโครงการจะขายแบบ Fully Furnished นะ ซื้อแล้วแค่ขนกระเป๋ามาเข้าอยู่ได้เลย มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลยค่ะ

แบบ Garden Villa ขนาด 25.00 ตรม.

ห้องของ Garden Villa จะเป็นแบบห้อง Studio ขนาด 25.00 ตรม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน เข้ามาภายในห้องจะเจอส่วนครัวและห้องน้ำก่อน เข้ามาจะเป็นส่วนพักผ่อน มีการจัดวางห้องเหมือนห้องตามห้องมาตรฐานทั่วไปค่ะ ห้องเราจะได้มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบเลย ได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัว, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดโซฟา, ตู้วางทีวี, โต๊ะทำงาน พร้อมแอร์ 1 ตัว

ห้องตัวอย่างของโครงการจะอยู่ภายในสำนักงานขายนะคะ เราไม่รอช้า เข้าไปดูรายละเอียดภายในห้องกันเลยค่า

เข้ามาภายในห้องแล้วเราจะเจอโถงทางเดินกว้าง 1 เมตร มีส่วนครัวอยู่ทางขวา และประตูห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ เข้าไปด้านในจะเป็นโซนพักผ่อน พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.ตามมาตรฐาน ส่วนผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสี

ฝ้าเพดานภายในห้องสูง 2.45 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ค่ะ

เรามาเจาะรายละเอียดภายในส่วนครัวกันก่อนเลย ส่วนครัวจะไม่มีประตูกั้นโซนมาให้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะเลือกทำอาหารแบบกลิ่นเบาๆพอ หรือไม่ก็ติดตั้งประตูบานเลื่อนกั้นส่วนครัวออกไปก็ได้ค่ะ

ที่เราได้มากับตัวห้องก็คือชุดเคาน์เตอร์ครัวชุดนี้ รวมถึงตู้ชั้นลอยด้วยนะ แต่ไม่รวมตู้เก็บรองเท้าข้างๆค่ะ ตัวเคาน์เตอร์เป็นไม้ Particle ปิดผิวด้วยเมลามีน ขนาดของเคาน์เตอร์ยาวประมาณ 1.2 เมตร พอวางอ่างล้างจานและเป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้

อ่างล้างจานและก๊อกน้ำติดตั้งมาพร้อมกับเคาน์เตอร์เรียบร้อย เป็นของ Hafele

เข้าไปดูรายละเอียดภายในห้องน้ำกันต่อ

ที่พื้นประตูห้องน้ำจะก่อธรณีขึ้นมาให้เพื่อกันน้ำไหลย้อน

ภายในห้องน้ำก็จะเป็นแบบทั่วๆไป มีการวางสุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.สีออกโทนส้ม ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องขนาดเท่ากันสีขาว ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกบางส่วน

มาดูสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือที่ได้จะเป็นแบบแขวนผนัง ติดตั้งมาพร้อมกับบานกระจกขอบเจียปรีแบบนี้

ขนาดอ่างกระทัดรัดกำลังดีค่ะ ขอบอ่างมีพื้นที่สำหรับวางขวดสบู่และแปรงสีฟันได้อยู่บ้าง อ่างล้างมือจะเป็นของ Balena

ก็อกน้ำจับถนัดมือ เป็นของ Balena เช่นกัน

ถัดเข้ามาเป็นโถสุขภัณฑ์ เป็นระบบ Dual Flush ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ประกอบ เป็นของ Balena ทั้งชุด ระยะนั่งกำลังพอดีสำหรับคนไซส์เอเชีย

ที่ใส่กระดาษชำระ

และสายฉีดชำระค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์ติดตั้งราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้เรียบร้อย

ด้านในสุดจะเป็นโซนอาบน้ำ แต่ไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ

ส่วนที่พื้นจะทำธรณีขึ้นมาให้เล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน

ภายในติดตั้งจานวางสบู่, ก๊อกสนาม และชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้ ใช้ของ Balena ทั้งชุดอีกเช่นเคย

ขนาดหัวฝักบัวใหญ่ดีนะคะ อาบได้สะใจเลย

ก็อกสนามติดอยู่ข้างล่างฝักบัวอาบน้ำ

แต่จานวางสบู่จะเป็นของ Moonler นะ

มองจากภายในห้องน้ำย้อนกลับออกไป

ออกมาจากห้องน้ำแล้วเข้ามาดูในส่วนของโซนพักผ่อนกันต่อค่ะ

ลักษณะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจะเหมือนตามแบบห้องมาตรฐานทั่วไปเลย

เฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้มากับตัวห้องก็จะมีเตียงนอนขนาด 5 ฟุตนี้ แต่ไม่รวมฟูกนะ

ที่ฝั่งซ้ายมือเราจะได้ตู้เสื้อผ้ามาด้วย

ระยะตรงนี้เหลือน้อยไปหน่อย เวลาเปิดตู้อาจจะต้องนั่งบนเตียง

ภายในมีชั้นวางของและราวแขวนเสื้อผ้ามาให้แบบนี้

ส่วนฝั่งขวาจะได้ชุดโซฟามา

คือโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟอีก 1 ตัว

มองจากหัวเตียงไปที่ผนังอีกด้านหนึ่งของห้อง จะเป็นส่วนของชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงานค่ะ

ที่เราจะได้มากับห้องก็คือชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงานข้างๆแบบนี้ (แต่ไม่รวมชั้นลอย และ เก้าอี้โต๊ะทำงานนะ)

ใต้ชั้นวางทีวีจะสามารถเก็บของได้บ้าง มีบานเลื่อนเปิด-ปิดแบบนี้

ผนังอีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นช่องแสงทั้งหมด

ด้านหลังโซฟาจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งและหน้าต่างบาน Fix กรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง

ข้างๆโต๊ะทำงานเป็นประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเปิดออกสู่ระเบียงห้องได้

มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐานพร้อมตัวล็อคค่ะ

พื้นที่ตรงระเบียงมีขนาดไม่กว้างมาก แต่พอจะวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องแบบเดียวกันกับห้องน้ำ พร้อมติดราวกันตกระแนงเหล็กให้

นอกจากนี้ก็สามารถแขวน Compressor ได้ค่ะ ตรงระเบียงจะได้ไฟเป็นดวงโคมซาลาเปานะ

มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง

นอกจากนี้ สวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Bticino ค่ะ

แบบห้อง Beach Front Villa ขนาด 40.50 ตรม.

แบบห้องของ Beach Front Villa จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 40.50 ตรม. สามารถอยู่อาศัยได้ประมาณ 1-2 คน มีการจัดวางห้องอย่างเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น โดยจะแบ่งส่วนพักผ่อนแยกออกไปต่างหาก ภายในห้องจะได้มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบเลย ได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัว, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดโซฟา, ตู้วางทีวี, ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมแอร์ 2 ตัว สังเกตเห็นได้ว่า ห้องนี้จะสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวกว่าห้องที่แล้วพอสมควรเลย

มาดูรายละเอียดของห้องกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าห้องจะเป็นบานสำเร็จรูป

มือจับแบบก้านโยกมาตรฐาน

เมื่อเข้ามาภายในห้องแล้วจะเป็นโถงทางเข้า มีส่วนครัวอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนทางขวามือเข้าไปจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารและโซนนั่งเล่น พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.ตามมาตรฐาน ส่วนผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานภายในห้องสูง 2.45 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้เหมือนห้องที่แล้วค่ะ

มองย้อนกลับไปที่โถงทางเข้าห้อง เราจะเริ่มดูรายละเอียดจากส่วนครัวกันก่อน

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นแบบรูปตัว L เข้ามุม ใช้วัสดุอย่างเดียวกัน ใต้เคาน์เตอร์มีช่องให้เก็บของได้อยู่บ้าง

บนเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างล้างจานมาให้เหมือนเดิมค่ะ แต่จะมีพื้นที่ในการเตรียมอาหารที่กว้างขึ้น

ชั้นลอยที่ได้มาเปิดแบบบานเปิดคู่ 2 บาน มีช่องใส่ของ 4 ช่อง พอเก็บของเครื่องใช้ได้

ข้างๆจะเว้นที่เอาไว้ให้เราวางตู้เย็นได้ค่ะ

จากส่วนครัวเราเข้าไปดูส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นกันต่อ

จะเห็นว่าภายในห้องเนี่ยค่อนข้างสว่างเลย เพราะว่าได้ช่องแสงมาทั้งผนัง ซึ่งจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งและบาน Fix ค่ะ

เรามาดูในส่วนนั่งเล่นกันก่อน ตรงนี้เราจะได้ทั้งชุดโซฟา และชั้นวางทีวีฝั่งซ้ายมือพร้อมชั้นลอย

ที่ได้มากับห้องก็จะเป็นชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟแบบนี้

วิวสวนริมทะเลจากภายในห้องชั้น 2 ค่ะ

มองไปอีกฝั่งหนึ่งของห้อง ไปดูส่วนรับประทานอาหารกันต่อ

ตรงนี้เราจะได้โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้นั่ง 4 ตัวแบบนี้ (สำหรับห้องขนาด 40.50 ตรม.ขึ้นไปนะ ห้องขนาด 34.00 ตรม.จะได้มา 2 ตัวค่ะ)

เราจะเข้าไปดูรายละเอียดภายในห้องน้ำและห้องนอนกันต่อ

ประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูปติดเกล็ดระบายอากาศ มือจับแบบลูกบิดสแตนเลส

เข้ามาภายในห้องน้ำจะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์ของ Balena เหมือนเดิมทุกประการ

แต่ในส่วนของอ่างล้างมือจะเป็นแบบอ่างวางบนเคาน์เตอร์ค่ะ ใต้เคาน์เตอร์มีช่องเก็บของมีให้

โถสุขภัณฑ์ และ Accessories ประกอบเหมือนเดิมทุกประการ

ในส่วนของโซนอาบน้ำจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เลย เป็นแบบบานเลื่อนเข้ามุมค่ะ

มือจับบานเลื่อนเป็นปุ่มแบบนี้

ภายในติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ หัวฝักบัวยังใช้รุ่นเดิมนะ

ฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ เนื่องจากในห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ ทางโครงการจึงติดพัดลมดูดอากาศมาช่วยแทน

มาดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ ภายในห้องจะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมฟูก) พร้อมตู้เสื้อผ้า ภายในห้องจะได้ช่องแสงมาเต็มๆ 1 ด้าน เป็นหน้าต่างบ้านกระทุ้งและบาน Fix ค่ะ

เมื่อวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบเตียงพอประมาณ สามารถเดินผ่านได้และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก

มองย้อนกลับไปอีกฝั่งหนึ่งของห้อง

ตู้เสื้อผ้าที่ได้มาก็มีขนาดไม่ต่างจากห้องที่ผ่านมาค่ะ เป็นบานเปิดคู่เหมือนกัน

ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของให้

ด้านข้างติดกระจกประมาณครึ่งบานเปิด ให้พอแต่งหน้าแต่งตัวได้อยู่

ผนังฝั่งปลายเตียงจะมีประตูบานเลื่อน เปิดออกสู่ระเบียงห้องได้

ห้องนี้ตำแหน่งดีมากเลยค่ะ ได้วิวสวนและวิวทะเลทั้ง 2 ด้านเลย

ออกมาที่ระเบียงห้องนอนจะได้วิวทะเล

ขนาดพื้นที่ระเบียงก็พอจะวางเก้าอี้นั่งเล่นกับโต๊ะกาแฟตัวเล็กๆได้อยู่นะ

นอกจากนี้ตรงนี้ก็จะเป็นจุดแขวนตัว Compressor ค่ะ

:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2560) ::::

• พื้น : ไม้ลามิเนต หนา 8 มม.
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 30 x 30 ซม.
• พื้นระเบียง : กระเบื้อง ขนาด 30 x 30 ซม.
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 30 x 30 ซม. ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก
• ประตูภายนอก (โถงทางเดิน) : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับก้านโยกอลูมิเนียม
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบานกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส
• ประตูห้องน้ำ : ประตูบานสำเร็จรูป ติดเกล็ดระบายอากาศ มือจับลูกบิดสแตนเลส
• หน้าต่างภายนอก : บาน Fix และบานกระทุ้ง กรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : Balena และ Moonler

งานไฟฟ้า

• สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Bticino
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ไฟภายนอก : ดวงโคมซาลาเปา

เฟอร์นิเจอร์

Garden Villa ขนาด 25.00 ตรม. (Studio)

• ชุดเคาน์เตอร์ครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวปิดผิวด้วยเมลามีน, ชั้นลอยเก็บของเหนือเคาน์เตอร์ Built-in และ ติดอ่างล้างจานของ Hafele
• โต๊ะทำงาน (ไม่รวมเก้าอี้)
• ชั้นวางทีวี (ไม่รวมชั้นลอย)
• โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อม โต๊ะกาแฟ
• ตู้เสื้อผ้า
• เตียงนอนขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมฟูก)
• แอร์ขนาด 12,000 BTU 1 ตัว

Beach Front Villa ขนาด 34.00-41.50 ตรม. (1 Bedroom)

• ชุดเคาน์เตอร์ครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวปิดผิวด้วยเมลามีน, ชั้นลอยเก็บของเหนือเคาน์เตอร์ Built-in และ ติดอ่างล้างจานของ Hafele
• โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ (เก้าอี้ 2 ตัว สำหรับห้องขนาด 34.00 ตรม./เก้าอี้ 4 ตัว สำหรับห้องขนาด 40.50 ตรม.ขึ้นไป)
• ชั้นวางทีวี และ ชั้นลอย
• โซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อม โต๊ะกาแฟ
• ตู้เสื้อผ้า
• เตียงนอนขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมฟูก)
• แอร์ขนาด 12,000 BTU 1 ตัว และขนาด 9,000 BTU 1 ตัว

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ

:::: ราคา (กันยายน 2560) ::::

Garden Villa (Studio)

เฟส 4 ตึกที่ 12 ชั้น 4

– พื้นที่ใช้สอย 25.00 ตรม.

– ราคา 899,000 บาท

• เงินจอง + ทำสัญญา 999 บาท
• ค่าเงินกองทุน 350 บาท/ตรม.
• ค่าส่วนกลาง เดือนละ 25 บาท/ตรม.

Beach Front Villa (1 Bedroom)

เฟส 17 ตึกที่ 81 ชั้น 2

– พื้นที่ใช้สอย 34.00 ตรม.

– ราคา 1,699,000 บาท

เฟส 17 ตึกที่ 81 ชั้น 3

– พื้นที่ใช้สอย 40.50 ตรม.

– ราคา 1,899,000 บาท

เฟส 17 ตึกที่ 82 ชั้น 3

– พื้นที่ใช้สอย 41.00 ตรม.

– ราคา 1,899,000 บาท

• เงินจอง + ทำสัญญา 10,000 บาท
• ค่าเงินกองทุน 500 บาท/ตรม.
• ค่าส่วนกลาง เดือนละ 35 บาท/ตรม.

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Miami บางปู ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ในย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู จึงมีพวกหอพัก, ร้านค้า และร้านอาหารอยู่เยอะ เพื่อรองรับความต้องการของพนักงานโรงงานเป็นส่วนมาก จากการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม และการขยายตัวของที่อยู่อาศัยต่อจากในเมืองออกมาตามแนวเส้นสุขุมวิท ทำให้ทำเลนี้มีความหนาแน่นของชุมชนมากขึ้น บวกกับการมาถึงของโครงข่ายรถไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ย่านนี้มีความเจริญ และการขยายตัวมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน

โครงการนี้จึงเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานอยู่ในย่านนิคมอุตสาหกรรม, ผู้ที่ต้องการจะขยายครอบครัว แตกออกมาจากครอบครัวใหญ่เป็นหลัก ถ้าจะซื้อไว้เป็นคอนโดตากอากาศเห็นว่าไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ เพราะอยู่ใกล้นิคม และไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งธรรมชาติด้วย

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวกนะ เพราะตัวโครงการออกมาก็อยู่ติดถนนใหญ่เลย ถ้าเป็นผู้ที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนี่จะสบายมากๆเพราะอยู่ค่อนข้างใกล้ แต่ถ้าทำงานในเมืองก็อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นหน่อย โดยหลักๆก็จะเป็นถนนสุขุมวิทใช้เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ และ จ.สมุทรปราการ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง ทั้ง ถนนศรีนครินทร์ ขึ้นไปทางประเวศถึงเส้นรามคำแหง, ถนนเทพารักษ์ ใช้ลัดเข้าเส้นสุขุมวิทตรงแยกเทพารักษ์ BTS สถานีสำโรง, ถนนบางนา-ตราด, ถนนแพรกษา เชื่อมต่อถนนตำหรุบางพลี และถนนกิ่งแก้ว ไปทางสุวรรณภูมิ

นอกจากนี้ยังเชื่อมสู่วงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้จุดขึ้นทางด่วนพระราม 2 และทางด่วนบางนา ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกด้วย

การเดินทางโดยรถสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการจะมีรถสาธารณะวิ่งผ่าน จะเป็นรถ 2 แถว และ รถตู้ จากปากน้ำ-นิคมบางปู/โลตัสบางปู หรือ ปากน้ำ-คลองด่าน แต่ในอนาคตในย่านนี้รถไฟฟ้าจะเข้าถึง นั่นก็คือรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ส่วนต่อขยาย เคหะสมุทรปราการ-บางปู น่าจะได้เปิดใช้งานในปี 2565 ถ้าแผนงานไม่ล้าช้ากว่ากำหนดนะ โดยรวมแล้วทำเลนี้จะยังเหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าค่ะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 5 ชั้น มี 90 อาคาร จำนวน 5,010 ยูนิต บนเนื้อที่ 120-0-5.20 ไร่ แบ่งเป็น Beach Front 30 อาคาร 1,170 ยูนิต และ Garden Villa 60 อาคาร 3,840 ยูนิต โดยโซนด้านหน้าสุดของโครงการคือ Miami Bayside ซึ่งจะเป็นส่วนของพลาซ่า ถัดลงมาคือ โซน Garden Villa ตามด้วย Beach Front Villa ซึ่งอยู่ติดชายทะเล แบบหน้าแคบแต่ลึก วางผังโครงการแบบ Linear เรียงแต่ละตึกเข้าไปเป็นคู่ๆ การวางแปลนแต่ละชั้นก็เรียบง่ายเป็นแบบ Double Corridor การวางอาคารแบบนี้ทำให้เกิด Space ตรงกลางระหว่างอาคาร กลายเป็นสวนสาธารณะค่ะ

ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว ในส่วนของห้องแบบ Studio ของ Garden Villa จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวไม่เท่าห้อง 1 Bedroom ของ Beach Front Villa ในส่วนของห้อง Studio จะไม่ค่อยเหมาะกับการปรุงอาหารเท่าไหร่นักเพราะกลิ่นจะฟุ้งเข้าไปในโซนพักผ่อน กลิ่นติดเตียงนอนคงจะไม่สนุกเท่าไหร่

ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี ถือว่าใช้ได้ค่ะ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้พวกเฟอร์นิเจอร์มาครบ ส่วนห้องแบบ Studio จะได้เฟอร์นิเจอร์น้อยกว่าหน่อย ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตรม.ละไม่เกิน 47,000 บาท ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวนะ สำหรับห้องที่ขายแบบ Fully Furnished

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ที่นี่จะค่อนข้างเน้นสวนและบรรยากาศภายในโครงการ ทั้ง 2 Villa จะมี Clubhouse แยกในตัว ซึ่งภายในประกอบด้วย Fitness และสระว่ายน้ำชั้นบนสุด พร้อม Pool Deck มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว Court ตรงกลางระหว่างอาคารก็จะจัดเป็นสวนใช้เดินเล่น หรือเป็น Jogging Track ก็ได้ โดยรอบของโครงการได้จัด Landscape เอาไว้อย่างสวยงาม มีต้นไม้ร่มรื่นดี

เนื่องจากโครงการเน้นผู้อยู่อาศัยที่เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าด้วยจึงได้ทำช่องจอดรถเอาไว้ประมาณ 30% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อย เพราะว่าตอนนี้รถไฟฟ้าก็ยังเข้าไม่ถึง มีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารไม่เกิน 64 : 1 ยังอยู่ในมาตรฐานที่ดีค่ะ

ข้อดีของโครงการนี้ก็คือจะเน้นให้เป็นชุมชนที่พึ่งตนเองได้เป็นหลัก ไม่ต้องไปหาร้านค้า, ร้านอาหาร หรือไปหาวัตถุดิบ และของใช้จากภายนอก สามารถอยู่ได้สบายๆภายในโครงการด้วยระยะเดินไม่เกิน 900 เมตรค่ะ

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่ตัวอาคารและระบบ Key card ถือว่าโอเคแล้ว

:::: คะแนน ::::

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 080-438-6777 หรือ 080-438-6888

WEBSITE : http://miamibangpu.com/index.php

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

เพลินเพลิน คอนโด บางบัวทอง-เวสต์เกต Ploen Ploen Condo Bangbuathong-Westgate

เพลินเพลิน คอนโด บางบัวทอง-เวสต์เกต กลางเมืองบางบัวทอง ทำเลน่าอยู่อาศัย ล้อมรอบด้วยร้านอาหาร ตลาด ห้างสรรพสินค้า ใกล้รถไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ  คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดี

โดยเน้นขนาดห้องที่ใหญ่กว่ามาตรฐานห้องในท้องตลาดอย่างชัดเจน เพดานสูงโปร่ง ตกแต่งห้องให้รู้สึกอบอุ่น อยู่สบาย  มีจำนวนห้องที่พอดี ไม่มากจนรู้สึกพลุกพล่านจอแจ ที่จอดรถมากเพียงพอ

ผนังก่อด้วยอิฐมอญ วัสดุอุปกรณ์ในโครงการคัดสรรมาตรฐานอย่างดี ที่สำคัญทุกห้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม เป็นเจ้าของได้จริง ตามปณิธานของบริษัทฯ คือ เราตั้งใจสร้างที่อยู่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกบ้านให้ดีขึ้น เหมาะสำหรับการเริ่มมีบ้านเป็นของตัวเองและครอบครัว ราคาเริ่มต้นเพียง 7.9 แสนบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซ. สำนักงานที่ดินบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

:: UNIT TYPE ::

แบบห้องพักมีให้เลือก 5 แบบ เป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 29.00-43.00 ตร.ม.

1 ห้องนอน ขนาด 29 ตร.ม.

1 ห้องนอน ขนาด 32 ตร.ม.

1 ห้องนอน ขนาด 33.5 ตร.ม.

1 ห้องนอน ขนาด 35 ตร.ม.

2 ห้องนอน ขนาด 43 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 090-909-3233, 02-961-3733

Website : https://ploen-property.com/

คอนโด ฮัมเบิล ลีฟวิ่ง แอด เฟื่องฟู Humble Living @ Fueangfu

Humble Living @ เฟื่องฟู คอนโดใหม่ใจกลางรัชดา-สุทธิสาร เพียง 3 นาที จาก MRT สุทธิสาร ภายใต้ คอนเซ็ป “Living With Your Desire” พร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่, ฟิตเนส และสวนพักผ่อน 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยเฟื่องฟู ถนนสุทธิสารวินิจฉัย  แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.

:: FLOOR PLAN ::

แปลนอาคารชั้น 2

แปลนอาคารชั้น 3-6

แปลนอาคารชั้น 7

แปลนอาคารชั้น 8

:: UNIT TYPE ::

1 Bed A ขนาด 28-29 ตร.ม.

1 Bed B ขนาด 22-23 ตร.ม.

2 Bed A ขนาด 38-39 ตร.ม.

1 Bed A ขนาด 45-46 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 091-407-0261-2

Website : http://www.humblelivingcondo.com/

EP.935 รีวิว คอนโด เมทริส ลาดพร้าว METRIS Ladprao

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน มีใครสนใจกำลังมองหาคอนโดในย่านลาดพร้าว ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้กันบ้างไหมเอ่ย เพราะวันนี้เราจะพามาชมทำเลที่ตั้งโครงการ เมทริส ลาดพร้าว จาก Major Development กันค่ะ โครงการเป็น High rise Condominium ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2560 นี้เอง ตัวโครงการอยู่ติดกับถนนลาดพร้าว ตรงหน้าปากซอยลาดพร้าว 8 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธิน เพียง 250 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดี-รังสิต และ ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์

เมทริส ลาดพร้าว เป็น High rise Condominium ที่ผสมผสานองค์ประกอบของ Modernist และ Retro เข้าด้วยกัน โดดเด่นในเรื่องดีไซน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Remaster the modern DNA มี 1 อาคาร จำนวน 193 ยูนิต ให้ความเป็นส่วนตัว มีขนาดห้องให้เลือกเป็น 1 Bedroom กับ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 30.0 ตรม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2562 ค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ จะเน้นมากเป็นพิเศษ มีมาให้อย่างครบครัน อาทิ Double Volume Lobby, Private Mailbox, Indoor and Outdoor Co-Working Space, Private Meeting Room, Swimming Pool, Dynamic Fitness Center, Steam&Sauna, BBQ Garden, Sky Garden, Pet Zone, Car Wash Area, Laundry, Fully Automatic Parking, Passenger Lift, Access Card Control, CCTV, Security 24 hours และ Shuttle Service ในราคาเริ่มต้นที่ 3.8 ล้านบาท (เริ่มต้น 127,000 บาท/ตร.ม.) (2560)

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ปากซอยลาดพร้าว 8 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

พิกัด : 13.811143, 100.564114

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง โครงการ เมทริส ลาดพร้าว เป็น High rise Condominium ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวตอนบน ตรงหน้าปากซอยลาดพร้าว 8 พอดี ซึ่งอยู่ห่างจาก MRT สถานีพหลโยธินเพียง 250 เมตรเท่านั้นเองค่ะ หลายๆคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าถนนลาดพร้าวเป็นเส้นที่มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะมีทั้งออฟฟิศ, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, อพาร์ทเม้นท์ และบ้านพักอาศัย เรื่องอาหารการกินนั้นก็ไม่ขาดปาก ตอนนี้ลาดพร้าวก็เรียกได้ว่าเป็นย่าน Vertical Living Area หรือ พื้นที่อยู่อาศัยในแนวตั้งอีกหนึ่งย่าน นั่นก็เพื่อการรองรับความเจริญของศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District) ย่านรัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งเป็น CBD ใหม่ของกรุงเทพมหานครนั่นเอง

การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางถือว่าสะดวกมาก หากมองในมุมมองของคนที่ทำงานอยู่ในช่วง รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว-วิภาวดี เพราะโครงการอยู่ติดถนนลาดพร้าวเลย จากถนนลาดพร้าวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ทั้ง พหลโยธิน ใช้วิ่งออกไปทางอนุสาวรีย์ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้, วิภาวดี-รังสิต วิ่งขนานกับเส้นพหลโยธิน แต่มีการจราจรที่คล่องตัวกว่าค่ะ ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนาและชลบุรี, รัชดาภิเษก ตัดกับถนนลาดพร้าวตรงแยกลาดพร้าว-รัชดา ใช้วิ่งลงไปทางพระราม 9 ได้, ประดิษฐ์มนูธรรม มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้บนเส้นลาดพร้าวก็ยังมีทางลัดไปออกถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ได้จาก ซอยลาดพร้าว 41 และ ถนนโชคชัย 4 เข้าถนนลาดพร้าววังหิน และ ถนนนาคนิวาส เชื่อมต่อกับถนนสุคนธสวัสดิ์ ใช้ออกเกษตร-นวมินทร์ได้สะดวก จากเส้นเกษตร-นวมินทร์ยังมีซอยมัยลาภ ใช้เป็นทางลัดออกถนนรามอินทราได้อีกด้วย บนเส้นรัชดาภิเษกเองก็จะมีซอยโชคชัยร่วมมิตร ที่สามารถใช้เข้าถนนวิภาวดี-รังสิตได้ จากถนนวิภาวดี-รังสิตจะเชื่อมกับซอยพหลโยธิน 18 (ซอยวิภาวดี-รังสิต 3) ออกเส้นพหลโยธินตรงแยกกำแพงเพชรพอดี

แต่ข้อเสียของถนนลาดพร้าวก็คือ เป็นถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณรถที่มากตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีแยกไฟแดงและทางกลับรถอยู่อีกเป็นระยะๆ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ถนนซอยเล็กๆในการลัดเลาะไปออกถนนเส้นอื่นๆประกอบด้วย จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมากค่ะ

ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ในระยะเพียง 2.6 กม.เท่านั้น ซึ่งถ้ารถไม่ติดมากใช้เวลาขับไปเพียง 6 นาทีก็ถึงค่ะ โดยจากถนนลาดพร้าวให้เลี้ยวซ้ายออกถนนพหลโยธินไปกลับรถ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหอวัง จากนั้นพอวิ่งออกมาที่ทางคู่ขนานวิภาวดี-รังสิต ตรงนั้นจะมีทางแยกฝั่งซ้าย เป็นด่านเก็บเงินลาดพร้าวขาออกขึ้นทางยกระดับค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมบนถนนลาดพร้าวและบริเวณใกล้เคียงมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ เพราะเป็นย่านของแหล่งที่พักอาศัยในแนวดิ่ง ซึ่งคนส่วนมากอาจจะไม่ได้ปรุงอาหารทานกันเองในทุกๆมื้อ ก็ต้องออกมาพึ่งร้านอาหารข้างทางกันนี่แหละ สะดวกและรวดเร็วที่สุดแล้ว ดังนั้นตลอดถนนเส้นนี้ก็จะมีทั้งร้านอาหารทั้งร้านทั่วไปและพวก Chain Restaurant, ร้านสะดวกซื้อก็เห็นมีกระจายอยู่, ร้านขายของชำ, ร้านขายยา, ร้านอินเตอร์เน็ต, คลีนิกเสริมความงาม, คลีนิกทันตกรรม ถ้าเข้าไปตามตรอกซอกซอยก็มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ อย่างเส้นลาดพร้าววังหิน,ถนนโชคชัย 4 และถนนนาคนิวาสนี่ก็อุดมสมบูรณ์มากๆ

ส่วนแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นเซ็นทรัลลาดพร้าวกับแฟชั่นมอลล์อย่าง Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ถ้าจะดูเป็น Hypermarket เพื่อซื้อของเข้าบ้านก็จะมี Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Green และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดินในวันสบายๆ ออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้สะดวกนะคะ

นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รร.หอวัง, ม.ราชภัฏจันทรเกษม และ ม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเช่นกัน บริเวณหน้าโครงการมีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด ถ้าวันไหนไม่เร่งรีบมาก อยากประหยัดเงินก็สามารถขึ้นรถเมล์ได้ค่ะ ป้ายรถเมล์จะมีอยู่บริเวณหน้าโครงการเลย สายที่ผ่านก็มีสาย 8, 8ปอ, 44, 92, 96, 122, 145, 502, 517 และ 545

ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินเพียง 250 เมตรเท่านั้น (ทางออกที่ 1) ซึ่งสถานีพหลโยธินจะเชื่อมกับสถานีห้าแยกลาดพร้าวของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ นอกจากนี้ถนนลาดพร้าวก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ เกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งจะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบทางด่วนรามอินทราที่สถานีฉลองรัชค่ะ

นอกจากนี้ยังมีโครงการจากรถโดยสารด่วนพิเศษ บีอาร์ที ช่วง บางซื่อ-ห้างเซ็นทรัล เชื่อมโครงข่ายการเดินทางระหว่าง ภายใน-ภายนอกศูนย์การคมนาคมพหลโยธินกับสถานีกลางบางซื่อ เส้นทางการเดินทางเริ่มจาก สถานีกลางบางซื่อ ผ่านรถไฟฟ้า BTS และ รถไฟฟ้า MRT ที่สถานีจตุจักร ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว อาคารเอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อีกด้วย

จากหน้าโครงการเดินบนฟุตบาทถนนลาดพร้าวไปเพียง 3 นาทีก็ถึง MRT สถานีพหลโยธินแล้วค่ะ ฝั่งของโครงการจะเป็นทางออกที่ 1 นะ

สถานีลาดพร้าวก็อยู่ไม่ไกลนะ ทางออกที่ใกล้ที่สุดคือทางออก 3 ถ้านั่งรถไปให้เข้าทางซอยลาดพร้าว 8 เพื่อไปกลับรถบริเวณหน้าปากซอยลาดพร้าว 10 จะเร็วกว่า ไม่ต้องวนไกล ประมาณ 2.2 กม.เท่านั้นเอง

หรือถ้าจะไป BTS สถานีหมอชิตเลยก็อยู่ไม่ไกลค่ะ ถ้านั่งรถไปจากเส้นลาดพร้าวเลี้ยวซ้ายเข้าพหลโยธิน ตรงไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว ที่ใกล้ที่สุดคือทางออกที่ 4 นะ

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ เมทริส ลาดพร้าว โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) > ถนนลาดพร้าว > แยกรัชดา-ลาดพร้าว > ถนนลาดพร้าว > โครงการ เมทริส ลาดพร้าว

วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือที่คุ้นหูกว่าก็คือเลียบด่วนรามอินทรานั่นเองค่ะ บริเวณที่เราอยู่ตอนนี้ก็คือช่วง CDC จากตรงนี้จะใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 20 นาทีถึงโครงการ

วิ่งผ่าน CDC มาแล้วก็ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายประดิษฐ์มนูธรรมให้ชิดไปทางเลนขวาค่ะ

จากนั้นจะเห็นป้ายพระราม 9 ให้เราชิดขวาตรงไปตามทางนั้นเลยเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว 86

ชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกไปเลยค่า

เมื่อลงจากสะพานมาแล้วให้เรารีบชิดเลนขวาเพื่อกลับรถ

เมื่อกลับรถมาอีกฝั่งนึงแล้วให้ดูป้ายโชคชัย 4 เอาไว้ค่ะ

ดูป้ายโชคชัย 4-รัชดาภิเษกเอาไว้ ให้เราชิดซ้ายนะ

ข้างหน้าถ้าชิดขวาจะขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว 86 ไปทางรามอินทราค่ะ แต่เราจะชิดซ้ายเอาไว้

จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ถ้าออกทางขวาจะยูเทิร์นกลับไปอีกฝั่งนะ

เข้ามาที่ถนนลาดพร้าวจะเป็นถนนขนาด 6 เลนมีเกาะกลางแบ่งอย่างชัดเจน ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของถนนจะเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise หลากหลายแบรนด์ ขับไปเรื่อยๆเราจะวิ่งผ่านตลาดสะพาน 2 อยู่ฝั่งขวามือของเราค่ะ

วิ่งตรงไปเรื่อยๆผ่านแยกรัชดา-ลาดพร้าว

เลยแยกไปไม่ไกลเราจะเห็นทางออก MRT สถานี ลาดพร้าว

ใกล้ถึงตัวโครงการเราจะเห็น Big C ลาดพร้าว 2 อยู่ทางฝั่งขวามือ

เลยจาก Big C ลาดพร้าว 2 มาประมาณ 500 เมตรตรงปากซอยลาดพร้าว 8 พอดี ก็คือที่ตั้งของโครงการ เมทริส ลาดพร้าว ค่า

บริเวณหน้า Sales Office ค่ะ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนพหลโยธิน : 550 ม.
• แยกลาดพร้าว : 550 ม.
• ถนนวิภาวดี-รังสิต : 950 ม.
• แยกรัชโยธิน : 2.8 กม.
• แยกกำแพงเพชร : 2.8 กม.
• ถนนรัชดาภิเษก : 3.4 กม.
• แยกลาดพร้าว-รัชดา : 3.4 กม.
• ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 7.5 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• Union Mall : 350 ม.
• Big C ลาดพร้าว 2 : 700 ม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 1.3 กม.
• Tesco Lotus ลาดพร้าว : 2.0 กม.
• ตลาดนัดสวนจตุจักร : 2.7 กม.
• JJ Green : 2.8 กม.
• Major Cineplex รัชโยธิน : 2.9 กม.
• SCB Park Plaza : 3.3 กม.
• JJ Mall : 3.3 กม.
• สวนลุมไนท์บาซ่าร์ : 4.6 กม.
• บุญถาวร : 5.1 กม.
• ตลาดสะพาน 2 : 5.3 กม.
• ตลาดโชคชัย 4 : 5.9 กม.
• ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ : 6.6 กม.
• เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์ : 9.6 กม.
• The Crystal : 10.6 กม.
• CDC : 11.2 กม.

สถานศึกษา

• รร.หอวัง : 1.8 กม.
• ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 4.1 กม.
• ม.เกษตรศาสตร์ : 7.8 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.เปาโลเมโมเรียล : 3.3 กม.
• รพ.สุทธิสาร : 3.3 กม.
• รพ.โกลเด้นเยียร์ : 4.9 กม.

ศาสนสถาน

• วัดลาดพร้าว : 5.3 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• ไทยรัฐ : 2.2 กม.
• สนง.ขนส่ง ลาดพร้าว : 2.3 กม.
• สนง.ใหญ่การบินไทย : 3.2 กม.
• สวนรถไฟ : 4.1 กม.
• ไปรษณีย์ลาดพร้าว : 6.9 กม.
• สนามกีฬากองทัพบก : 7.6 กม.
• สวนจตุจักร : 3.8 กม.

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

บนถนนลาดพร้าวที่ดินที่ติดกับถนนจะเป็นออฟฟิศ, คอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise, ธนาคาร และอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างเปิดเป็นกิจการอย่างหลากหลายตั้งแต่ร้านอาหาร, ห้างทอง จนไปถึงคลีนิกเสริมความงามค่ะ ถัดเข้าไปภายในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยสูงตั้งแต่ 1-3 ชั้น มีทั้งอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมกระจายตัวกันอยู่ด้วย

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนลาดพร้าว
• ทิศใต้ ติดกับ ซอยลาดพร้าว 8 และบ้านพักอาศัย
• ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยลาดพร้าว 8 และบ้านพักอาศัย
• ทิศตะวันตก ติดกับ ฮอมโบ้ จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์

เรามาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันต่อเลยค่ะ ดูซิว่าแถวนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการ จะเป็นสำนักงานควบคุมประพฤติประจำศาลแขวงพระนครเหนือ

เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งซ้ายมือกันก่อนนะ

เราเดินเลยไปไม่ไกลก็จะเจอธนาคาร TMB ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามมีอาคารออมสินด้วยนะ จะเห็นว่าเลียบถนนลาดพร้าวจะเป็นอาคารพาณิชย์โดยตลอด สลับๆกับอาคารสำนักงาน

เดินเลยไปไม่ไกลก็จะเจอสะพานลอยค่ะ

บริเวณทางขึ้นสะพานลอยจะมี 7-Eleven

ร้านถ่ายเอกสาร ด้านหน้าขายน้ำปั่น และร้านขายยา

เดินผ่านสะพานลอยไปจะเจอร้านเสริมสวย

หรือจะเป็นคาเฟ่นั่งสบายๆ

คลีนิกเสริมความงาม ดูจากหน้าร้านแล้วเป็นที่นิยมพอสมควร

ร้านเครื่องเขียนและอุปกรณ์ไอทีก็มีค่ะ

หรือจะเป็นร้านสุกี้ยากี้ก็มีให้เลือกทาน

เดินตรงไปจนถึงหัวมุมมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ ตรงนี้จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ

เพียงแค่ 250 เมตรเราก็เดินมาถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินแล้วค่า ฝั่งนี้จะเป็นทางออกที่ 1 นะ

มองไปฝั่งตรงข้ามคือ Union Mall ฝั่งนั้นจะเป็นทางออกที่ 5

กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งขวามือกันต่อ

ถัดจากซอยลาดพร้าว 8 มา ข้างๆกันเป็นร้านขายฟิล์มติดรถยนต์

หาร้านปริ้นท์งานดีๆได้ไม่ไกลค่ะ เดินเลยมาแค่นิดเดียว

มีร้านคาเฟ่เล็กขายทั้งกาแฟและฮันนี่โทสต์กลิ่นหอยเนย

เรากลับมาที่หน้า Sales Office ค่ะ เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูข้างในกัน

ประตูทางเข้าเดินจากซุ้มด้านหน้าเข้ามานิดนึง

บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ จะมี Staffs คอยให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับตัวโครงการ

ข้างหน้าเราคือ Model จำลองภาพรวมของตัวอาคารค่ะ

มุมนั่งเล่น-พักคอยภายใน Sales Office

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ เมทริส ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียม High rise สูง 29 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 193 ยูนิตบนพื้นที่ 1-0-78.1 ไร่ ตัวโครงการเป็นคอนโดที่ผสมผสานองค์ประกอบของ Modernist และ Retro เข้าด้วยกัน โดดเด่นในเรื่องดีไซน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Remaster the modern DNA โดยจะลดทอนรายละเอียดลงให้ดูเรียบง่ายขึ้น ตัวอาคารใช้เป็นโทนสีเขียว (แต่สุดท้ายแล้วจะเขียวแบบไหนคงต้องมาลุ้นดูนะคะ น่าจะสวยไปอีกแบบ) โดยจะเน้น Facilities มากเป็นพิเศษ อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้ Pet Friendly Standard

มาดูในส่วนของผังอาคารกันค่ะ Site ของตัวโครงการจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะมีอยู่ 2 ทาง ทางหลักอยู่บนถนนลาดพร้าว ส่วนอีกทางอยู่ในซอยลาดพร้าว 8 เส้นทางการเดินรถตามกราฟฟิกลูกศรสีเหลืองและสีส้มค่ะ จะวนไปทางซ้ายทวนเข็มนาฬิกา ไปผ่านจุด Drop-off แล้วสามารถวนออกทางซอยลาดพร้าว 8 ได้เลย หรือจะวนมาออกที่ถนนลาดพร้าวก็ได้ เข้าไปแล้วกลับออกมาที่ทางเข้า-ออกเดิม ส่วนการจอดรถจะเป็นระบบ Fully Automatic Parking ช่วยประหยัดพื้นที่เพราะตัวโครงการมีเนื้อที่ไม่เยอะ

โดยรอบตัวอาคารจะจัด Landscape อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมี Facilities อยู่หลายจุด ทั้ง BBQ Garden, Outdoor Co-Working Space, Garden และ มุม Pet Zone เข้าสู่ตัวอาคารจะเจอโถง Main Lobby เป็นแบบ Double Volume มี Reception ตั้งอยู่ตรงกลาง ซึ่งจะเป็นตัวแจกสู่ Indoor Co-Working Space และ Lift Lobby ในส่วนของชั้น 2-8 จะเป็นที่จอดรถ รวมทั้งหมด 112 คัน คิดเป็น 58% ค่ะ แต่ถ้ารวมจอดบริเวณรอบๆโครงการด้วยก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยเป็น 60%

ชั้นที่ 10-23 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย มีทั้งหมด 193 ยูนิตด้วยกัน แปลนอาคารก็เป็นทรงสามเหลี่ยมตามรูป Site มีการจัดแปลนแบบ Double Corridor เป็นรูปตัว L ตามทรงของอาคาร ชั้นที่มียูนิตหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 11 ห้อง ถือว่าไม่แออัดเลย ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 2 ตัว (ตัวนึงใช้เป็น Service Lift ด้วย) คิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 97 : 1 ถือว่ายังไม่หลุดจากเกณฑ์มาตรฐาน ชั้นที่ 10-23 จะมีห้องอยู่ 2 แบบคือ 1 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedrooms 1 Bathroom

ชั้นที่ 24 จะแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นห้องพัก และอีกครึ่งเป็น Main Facilities ทั้ง Dynamic Fitness Center, Garden, Swimming Pool, Pool Deck รวมถึง Steam&Sauna ด้วยค่ะ

ชั้นที่ 25-29 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด

ชั้น Roof Top จะเป็นพื้นที่ของ Sky Garden ทั้งชั้น โดยจัดให้มีพื้นที่นั่งเล่น และ Day Bed สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ

มาดูตัว Model กันบ้าง นี่คือหน้าตาของอาคารค่ะ

รูปซ้ายคืออาคารด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับถนนลาดพร้าว เป็นทางเข้า-ออกหลัก รูปขวาคืออาคารด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทรงอาคารด้านนี้ดูเท่ดีนะ

รูปด้านซ้ายคือทิศตะวันตกเฉียงใต้ และรูปด้านขวาคือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฝั่งซอยลาดพร้าว 8 เป็นทางเข้า-ออกอีกทางหนึ่งค่ะ

Main Entrance จะอยู่บนถนนลาดพร้าว ส่วน Sub Entrance จะอยู่ในซอยลาดพร้าว 8 จะเห็นว่าตั้งแต่ชั้น 2-8 จะปิดทึบ นั่นก็คือเป็นชั้นลานจอดรถนั่นเองค่ะ

บริเวณโดยรอบตัวอาคารจัดเป็น Facilities เรียงเข้ามาจากด้านหน้าเป็น BBQ Garden, Outdoor Co-Working Space, Garden และ Pet Zone

ขึ้นมาที่ชั้น 24 จะเป็น Facilities หลัก คือ Swimming Pool, Garden และ Fitness ส่วนชั้นที่ 29 ก็คือ Sky Garden

มาดูในส่วนของทัศนียภาพจำลองของโครงการกันบ้าง เมื่อเข้ามาสู่ตัวอาคารจะเจอ Main Lobby ก่อน

ทัศนียภาพภายใน Main Lobby บรรยากาศดูสบายๆ โทนสีน้ำตาลและโทนสีเขียวช่วยทำให้สบายตาและผ่อนคลายมาก

ภาพใน Main Lobby จะเชื่อมต่อกับ Indoor Co-Working Space ยกฝ้าเพดานสูงให้ดูโปร่งโล่งและสว่าง เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ในการสุมหัวและนั่งทำงาน

ทัศนียภาพจำลองภายใน Fitness Center บนชั้นที่ 24

ทัศนียภาพจำลอง Swimming Pool และ Pool Deck บนชั้นที่ 24

:::: ROOM TYPE ::::

ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบด้วยกันได้แก่

• 1 bedroom 1 bathroom : 30.00-31.00 ตร.ม.
• 2 bedrooms 1 bathroom : 44.00-52.50 ตร.ม.
• 2 bedrooms 2 bathrooms : 51.00-61.00 ตร.ม.

ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted จะได้พวกเคาน์เตอร์ครัว และ เครื่องปรับอากาศ มากับตัวห้องค่ะ เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลย

TYPE A1-1R : 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.00 ตร.ม.

TYPE A1-4E : 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.00 ตร.ม.

TYPE A3-1L : 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 31.00 ตร.ม.

TYPE C2-2L : 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 47.00 ตร.ม.

TYPE C3-1L : 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 47.00 ตร.ม.

TYPE C4-1 : 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 52.5 ตร.ม.

:::: ห้องตัวอย่าง ::::

สำหรับห้องตัวอย่างที่เราพามาชมในวันนี้ มีเพียงแบบเดียว นั่นก็คือแบบห้อง TYPE C2-2L : 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 47.00 ตร.ม. เราไปดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของตัวห้องกันเลยค่า

แบบห้อง TYPE C2-2L : 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 47.00 ตร.ม.

ห้อง 2 Bedrooms 1 Bathroom มีขนาด 47.00 ตรม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 2-3 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี เพราะเป็นห้องที่มีหน้าห้องค่อนข้างกว้างจึงสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวกว่า และสามารถรับแสงธรรมชาติได้มากกว่า โดยแบ่งสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร ขาดออกจากห้องนอน ซึ่งทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted ค่ะ

มาเริ่มต้นที่ทางเข้าห้องเลยค่ะ ประตูทางเข้าเป็นประตูบานสำเร็จรูป

มือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Door Lock

พื้นห้องเก็บรอยต่อด้วยธรณีประตูเรียบร้อย ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.ตามมาตรฐาน

เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหารก่อน ด้านในสุดของโถงคือห้องนั่งเล่น เข้าไปข้างในโถงทางเดินฝั่งซ้าย จะเป็นห้องน้ำและห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ผนังของห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีค่ะ

ฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตรเลย เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมระบบไฟแบบเซ็นเซอร์ดวงหน้าห้อง

มาดูรายละเอียดของส่วนครัวกันก่อนค่ะ

นี่คือชุด Built-in แบบ Fully Fitted ที่เราจะได้มากับตัวห้องด้วย เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I แบบนี้ ปิดผิวด้วยเมลามีน

ใต้เคาน์เตอร์ก็มีชั้นวางไมโครเวฟ, ช่องวางเครื่องซักผ้า และมีลิ้นชักให้พอเก็บอุปกรณ์ภายในครัวได้อยู่บ้าง บนเคาน์เตอร์ได้ Top ตามภาพ ติดตั้งเตาเซรามิกและอ่างล้างจานมาให้ เมื่อวางเตาและอ่างล้างจานแล้วก็ยังพอเหลือพื้นที่ในการเตรียมอาหารอยู่บ้าง

เตาเซารามิกให้มาขนาด 2 หัว ของ Hafele

พร้อม Hood ดูดควันจาก Hafele

อ้างล้างจานขนาดกระทัดรัด จาก Hafele เช่นกัน ล้างพวกแก้วหรือจานชามได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นหม้อหรือกระทะขนาดใหญ่นี่จะยากหน่อย

ก๊อกน้ำสามารถปรับทิศทางหมุนซ้าย-ขวาได้ ใช้งานได้สะดวก

ชั้นลอยเก็บของเหนือก็มีมาให้หลายช่องค่ะ เพียงพอต่อการใช้งาน ตัวบานเปิดและลิ้นชักจะเป็นแบบ Soft Closed นะ

มุมมองจากส่วนครัวไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่น

ในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารได้จัดเอาไว้สำหรับ 4 ที่นั่ง พื้นที่ก็ยังเหลือแบบสบายๆเลยนะ ซึ่งเราสามารถหมุนทิศโต๊ะก็ได้ค่ะ

ถัดเข้าไปจากโต๊ะรับประทานอาหาร มาดูห้องนั่งเล่นกันต่อ

ทางโครงการได้จัดชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ขนาด 1.5 เมตร และโต๊ะกาแฟมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่จะเห็นว่าผนังด้านหลังจริงๆแล้วยาวถึง 2.7 เมตรเลยนะคะ เราสามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะข้างก็ยังได้เลย

ฝั่งตรงข้ามได้จัดวางชั้นเก็บของและทีวีแบบแขวนผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งตรงนี้จะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 1.9 เมตร เหมาะสมสำหรับทีวีจอขนาดตั้งแต่ 42-50 นิ้วค่ะ

จากห้องนั่งเล่นจะสามารถเปิดออกสู่ระเบียงห้องได้ ด้วยประตูบานกรอบเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง

มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

ขนาดระเบียงไม่ได้กว้างขวางมาก เพราะเน้นพื้นที่อยู่อาศัยภายในที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. กว้างประมาณ 1.1 เมตร ส่วนราวกันตกเป็นระแนงเหล็ก

แม้พื้นที่ระเบียงจะไม่กว้างขวางมาก แต่ก็พอสำหรับการตากผ้า, แขวน Compressor เครื่องปรับอากาศ, วางกระถางต้นไม้ หรือยืนรับลมชมวิวได้ค่ะ

จากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง

กลับเข้ามาภายในห้อง เราจะเข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำ, ห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่กันต่อ

มุมมองจากโถงห้องนอนกลับออกมาที่ห้องโถงค่ะ

เริ่มต้นจากห้องน้ำกัน

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 60 ซม. และขนาด 60 x 60 ซม. ลดระดับลงจากพื้นโถงเล็กน้อย

ห้องน้ำจะตกแต่งมาให้ตามภาพเลยนะคะ จัดวางสุขภัณฑ์เรียงจากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก ใช้สุขภัณฑ์จาก Lavenz และ Hafele ทั้งหมด ส่วนผนังก็กรุด้วยวัสดุเดียวกับพื้น

ฝ้าห้องน้ำเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลน์และพัดลมดูดอากาศมาให้ ห้องน้ำจะพึ่งระบบการระบายอากาศของตัวอาคารเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีหน้าต่างให้

มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันค่ะ อ่างล้างมือที่ได้เป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป ด้านล่างพอจะเก็บของได้บ้าง

อ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีขนาดใหญ่กำลังดี สามารถวางขวดสบู่หรือแปรงสีฟันที่ขอบอ่างได้อยู่บ้าง เป็นของ Lavenz

พร้อมก๊อกน้ำของ Hafele

ถัดเข้ามาคือโถสุขภัณฑ์ เป็นระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ ติดตั้งมาพร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน ใช้ของ Hafele เช่นกัน

ที่ใส่แกนกระดาษชำระ และสายฉีดชำระค่ะ

ฝั่งตรงข้ามข้างโซนอาบน้ำติดตั้งราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้

โซนอาบน้ำทางโครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อนมาให้ตามภาพเลยค่ะ

พื้นที่ยืนอาบน้ำก็กำลังพอเหมาะ อาจจะดูเล็กหน่อยแต่ก็ไม่อึดอัด ที่พื้นก่อธรณีประตูขึ้นมาให้กันน้ำไหลย้อน

ภายในติดตตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ ข้างๆเจาะผนังทำเป็นชั้นวางสบู่ เรียบร้อยดี

ขนาดหัวฝักบัวกำลังดีเลยนะ จับถนัดมือ หัวฝักบัวสามารถปรับระดับสายน้ำได้

มาดูห้องนอนเล็กที่อยู่ฝั่งขวามือของโถงกันต่อค่ะ

ภายในห้องนอนเล็กจะมีขนาดค่อนข้างกระทัดรัด แต่ก็สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว ทั้งเตียงขนาด 3.5 ฟุต, โต๊ะข้างหัวเตียง และตู้เสื้อผ้า

วางเตียงจะต้องชิดไปทางขวาหน่อย เกือบติดกำหน้าต่าง เพื่อให้มีพื้นที่ฝั่งซ้ายเหลือสามารถเปิดตู้เสื้อผ้าและแต่งตัวได้ กว้าง 0.9 เมตร

ซึ่งตู้เสื้อผ้าจะขอแนะนำให้ใช้เป็นแบบบานเลื่อนค่ะ จะได้ประหยัดพื้นที่มากขึ้น

พื้นที่ปลายเตียงสามารถเดินผ่านได้สบาย

ถ้าจะวางชั้นวางของเพิ่ม แนะนำให้เป็นแบบแขวนผนังแทน ซึ่งหนาไม่เกิน 0.3 เมตรค่ะ

ผนังอีกด้านจะเป็นช่องแสงของห้อง เป็นบาน Fix และบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศ

มือจับบานหน้าต่างแบบก้านโยกค่ะ

มาดูห้องนอนใหญ่ที่อยู่กลางโถงกันต่อ

ภาพรวมของห้องจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาเยอะเลย สามารถจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุต, โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าได้อย่างลงตัว

เมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว ก็จะยังเหลือพื้นที่ข้างๆเตียงอยู่พอสมควร

ฝั่งซ้ายวางตู้เสื้อผ้า ส่วนฝั่งขวาสามารถวางโต๊ะทำงานตัวเล็กๆได้

แต่จะทำชั้นวางของแบบแขวนผนังเพิ่มก็ยังพอไหวอยู่

ช่องแสงภายในห้องเหมือนห้องนอนเล็กค่ะ เป็นหน้าต่างบาน Fix และ บานกระทุ้ง

:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2560) ::::

วัสดุโดยรวม

• พื้นห้องครัว, ห้องนั่งเล่น และห้องนอน : ลามิเนตหนา 8 มม.
• พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม.
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 60 ซม. และ 60 x 60 ซม.
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 60 ซม. และ 60 x 60 ซม.
• ประตูห้อง : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูกรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
• หน้าต่างภายนอก : บานกระทุ้ง และ บานติดตาย กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : Hafele และ Lavenz

งานไฟฟ้า

• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดอากาศ
• ไฟภายนอก : ไฟกิ่ง

เฟอร์นิเจอร์

• ชุดเคาน์เตอร์ครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว และชั้นลอย
• อ่างล้างจาน 1 หลุม, ก๊อกน้ำ, เตาเซรามิคขนาด 2 หัว และฮูดดูดควัน จาก Hafele
• เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนแบบแขวนผนัง 2-3 ตัว

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ

:::: ราคา (กันยายน 2560) ::::

แบบห้อง TYPE A1-1R : 1 Bedroom 1 Bathroom

– ขนาด 30.00 ตร.ม.

– ราคา 3,942,840 บาท

แบบห้อง TYPE A3-1L : 1 Bedroom 1 Bathroom

– ขนาด 31.00 ตรม.

– ราคา 4,265,848 บาท

แบบห้อง TYPE A1-4E : 1 Bedroom 1 Bathroom

– ขนาด 30.00 ตรม.

– ราคา 4,054,080 บาท

แบบห้อง TYPE C2-2L : 2 Bedrooms 1 Bathroom

– ขนาด 47.00 ตรม.

– ราคา 6,419,166 บาท

• เงินจอง 50,000 บาท
• เงินทำสัญญา 5%

• เงินกองทุน 650 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง เดือนละ 70 บาท/ตร.ม.

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ เมทริส ลาดพร้าว เป็น High rise Condominium ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวตอนบน ตรงหน้าปากซอยลาดพร้าว 8 พอดี ซึ่งอยู่ห่างจาก MRT สถานีพหลโยธินเพียง 250 เมตร ถนนลาดพร้าวเป็นเส้นที่มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะมีทั้งออฟฟิศ, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, อพาร์ทเม้นท์, คอนโดมิเนียมทั้ง High rise และ Low rise และบ้านพักอาศัย ตอนนี้ลาดพร้าวก็เรียกได้ว่าเป็นย่าน Vertical Living Area หรือ พื้นที่อยู่อาศัยในแนวตั้งอีกหนึ่งย่าน นั่นก็เพื่อการรองรับความเจริญของศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District) ย่านรัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งเป็น CDB ใหม่ของกรุงเทพมหานครนั่นเอง

แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้มี เซ็นทรัลลาดพร้าว กับ Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ส่วน Hypermarket ก็จะมี Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Green และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดิน ออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้สะดวก

นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รร.หอวัง, ม.ราชภัฏจันทรเกษม และ ม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางถือว่าสะดวกมาก เพราะโครงการอยู่ติดถนนลาดพร้าว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ทั้ง พหลโยธิน ใช้วิ่งออกไปทางอนุสาวรีย์ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้, วิภาวดี-รังสิต วิ่งขนานกับเส้นพหลโยธิน แต่มีการจราจรที่คล่องตัวกว่าค่ะ ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนาและชลบุรี, รัชดาภิเษก ตัดกับถนนลาดพร้าวตรงแยกลาดพร้าว-รัชดา ใช้วิ่งลงไปทางพระราม 9 ได้, ประดิษฐ์มนูธรรม มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้บนเส้นลาดพร้าวก็ยังมีทางลัดไปออกถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ได้จาก ซอยลาดพร้าว 41 และ ถนนโชคชัย 4 เข้าถนนลาดพร้าววังหิน และ ถนนนาคนิวาส เชื่อมต่อกับถนนสุคนธสวัสดิ์ ใช้ออกเกษตร-นวมินทร์ได้สะดวก จากเส้นเกษตร-นวมินทร์ยังมีซอยมัยลาภ ใช้เป็นทางลัดออกถนนรามอินทราได้อีกด้วย บนเส้นรัชดาภิเษกเองก็จะมีซอยโชคชัยร่วมมิตร ที่สามารถใช้เข้าถนนวิภาวดี-รังสิตได้ จากถนนวิภาวดี-รังสิตจะเชื่อมกับซอยพหลโยธิน 18 (ซอยวิภาวดี-รังสิต 3) ออกเส้นพหลโยธินตรงแยกกำแพงเพชรพอดี

แต่ข้อเสียของถนนลาดพร้าวก็คือ เป็นถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณรถที่มากตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีแยกไฟแดงและทางกลับรถอยู่อีกเป็นระยะๆ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ถนนซอยเล็กๆในการลัดเลาะไปออกถนนเส้นอื่นๆประกอบด้วย จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมากค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสบายมาก บริเวณหน้าโครงการมีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด ถ้าวันไหนไม่เร่งรีบมาก อยากประหยัดเงินก็สามารถขึ้นรถเมล์ได้ค่ะ มีผ่านตลอดทั้งวัน

ที่เด่นที่สุดก็คือ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินเพียง 250 เมตรเท่านั้น (ทางออกที่ 1) ซึ่งสถานีพหลโยธินจะเชื่อมกับสถานีห้าแยกลาดพร้าวของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต นอกจากนี้ถนนลาดพร้าวก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ เกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งจะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบทางด่วนรามอินทราที่สถานีฉลองรัชค่ะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 29 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 193 ยูนิต บนพื้นที่ 1 ไร่เศษๆ วางผังอาคารแบบทรงสามเหลี่ยม ไปตามรูปของ Site ชั้นพักอาศัยวางห้องเป็นแบบ Double Corridor

ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว โดยหลักจะขออิงไปที่ห้อง 2 ฺBedrooms 1 Bathroom ที่เราได้รีวิวให้ดูกันนะคะ ตัวห้องจะมีหน้าห้องที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถจัดห้องได้ลงตัวมากกว่า สามารถใช้งานได้จริง เสียอย่างที่ห้องน้ำบางห้องไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ ต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว และห้องนอนเล็กจะค่อนข้างเล็กไปหน่อย ส่วนของวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาก็ค่อนข้างดีทีเดียวนะ ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตร.ม.ละ 127,000-137,000 บาทค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ถือว่าให้มาพอใช้ได้เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ โดยรอบอาคารมี BBQ Garden, Outdoor Co-Working Space, Garden และ Pet Zone เข้าไปภายในอาคาร ที่ชั้น G จะเป็นส่วนของ Main Lobby, Indoor Co-Working Space และ Lift Lobby ที่ชั้น 24 เป็น Main Facilities มี Fitness Center, Swimming Pool, Pool Deck, Garden และ Steam&Sauna และที่ชั้น 29 เป็น Sky Garden ภาพรวมทำออกมาได้ดูดีทีเดียว

ทางโครงการมีที่จอดรถอยู่ 112 คิดเป็น 58% เป็นที่จอดรถแบบ Fully Automatic Parking แต่ถ้ารวมพื้นที่จอดโดยรอบตัวอาคารก็จะเพิ่มมาอีกเล็กน้อยเป็น 60% ถือว่าให้มาค่อนข้างเพียงพอนะ เพราะลูกบ้านบางส่วนก็น่าจะเดินทางด้วยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าเป็นประจำ อาคารมีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารอยู่ที่ 97 : 1 ยังอยู่ในมาตรฐานที่รับได้ค่ะ

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น และ Digital Door Lock ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ

:::: คะแนน ::::

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 02 116 1111

WEBSITE : http://www.mde.co.th/

รายละเอียดโครงการเมทริส ลาดพร้าว : https://goo.gl/W8eXVQ

คอนโด โนเบิล แอมเบียนส์ สุขุมวิท 42 Noble Ambience Sukhumvit 42

NOBLE เตรียมเปิดตัวโครงการ “Noble Ambience สุขุมวิท 42“ บางสิ่ง…ที่ซ่อนตัวในใจกลางสุขุมวิท คอนโดแนวคิดใหม่ เพียง 350 เมตร จาก BTS เอกมัย เร็ว ๆ นี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก :  https://goo.gl/Pt8bS1

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 42 (ซอยสุขใจ) แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.

:: ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ::

ลงทะเบียน คลิก >>  https://goo.gl/Pt8bS1

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-251-9955

Website : http://www.noblehome.com

คอนโด เวรี่ 3 สุขุมวิท 72 Very III Sukhumvit 72

VERY III สุขุมวิท 72 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ คุ้มค่าทุกตารางเมตรด้วยราคาเหมาะสม เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยคุณภาพได้ง่ายขึ้น 1 ห้องนอน 30-31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 ลบ* Fully Furnished

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 72 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

:: FLOOR PLAN ::

แปลนอาคารชั้น 1

แปลนอาคารชั้น 2

แปลนอาคารชั้น 3

แปลนอาคารชั้น 4-8

:: UNIT TYPE ::

TYPE A : 27.00 ตร.ม.

TYPE B1 : 30.60 ตร.ม.

TYPE B2 : 31.20 ตร.ม.

TYPE C1 : 37.60 ตร.ม.

TYPE C2 : 37.90 ตร.ม.

TYPE C3 : 37.90 ตร.ม.

TYPE D : 56.40 ตร.ม.

:: GALLERY ::

ภาพบรรยากาศจำลองตัวอาคาร

ภาพบรรยากาศจำลองตัวอาคาร

ภาพบรรยากาศจำลอง Lobby & Lounge

ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนส

ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำชั้นดาดฝ้า

ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำชั้นดาดฝ้า

ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำชั้นดาดฝ้า

ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่พักผ่อนริมสระว่ายน้ำ

ภาพบรรยากาศจำลองห้องรับแขก

ภาพบรรยากาศจำลองห้องรับแขก

ภาพบรรยากาศห้องนอน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-720-7888

Website : http://www.verycondo.com/web/node/7

ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน dcondo Campus Kampangsaen

dcondo Campus กำแพงแสน คอนโดใหม่ใกล้ ม.เกษตศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เตรียพบชีวิตดีดี เริ่มต้นที่นี่…

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://goo.gl/T1tH3k

ที่ตั้งโครงการ

ถ.มาลัยแมน ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : www.sansiri.com/condominium/dcondo-campus-kamphaeng-saen/th/

พลัมคอนโด รามคำแหง 60 อินเตอร์เชนจ์ Plum Condo Ram 60 Interchange

Plum Condo รามคำแหง 60 อินเตอร์เชนจ์ Energize Your Life เติมพลังชีวิต กับพื้นที่ส่วนกลาง ขนาดใหญ่ กว่า 2,000 ตร.ม.* เพียง 350 เมตร ถึงรถไฟฟ้า เริ่ม 1.35 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิกที่นี่

ที่ตั้งโครงการ

ซอยรามคำแหง 60 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

:: FLOOR PLAN ::

แปลนอาคาร A ชั้น 1

แปลนอาคาร A ชั้น 2-8

แปลนอาคาร B ชั้น 1

แปลนอาคาร B ชั้น 2-8

แปลนอาคาร C ชั้น 1

แปลนอาคาร C ชั้น 2-8

แปลนอาคาร D ชั้น 1

แปลนอาคาร D ชั้น 2-8

แปลนอาคาร F ชั้น 1

แปลนอาคาร F ชั้น 2-8

แปลนอาคาร G ชั้น 2-7

แปลนอาคาร G ชั้น

แปลนอาคาร H ชั้น 2-7

แปลนอาคาร H ชั้น 8

:: UNIT TYPE ::

แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน-1 ขนาด 22.50 ตร.ม.

แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน-2 ขนาด 26.00 ตร.ม.

แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.95 ตร.ม.

:: GALLERY ::

ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำ

ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์

ภาพบรรยากาศจำลอง Co-Working Space

ภาพบรรยากาศจำลองห้อง Kids Room

ภาพบรรยากาศจำลอง Reading Lounge

ภาพบรรยากาศจำลองห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 ตร.ม.

ภาพบรรยากาศจำลองห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.00 ตร.ม.

ภาพบรรยากาศจำลองห้องพักแบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.95 ตร.ม.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739

Website : https://www.pruksa.com/

  EP.937 รีวิว คอนโด เซล รัตนาธิเบศร์ Zelle Rattanathibet

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Zelle รัตนาธิเบศร์ จาก ปริญสิริ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมติดถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี อยู่ในย่านชุมชน, สถานที่ราชการ, สถานศึกษา สองข้างทางมีร้านค้า ร้านอาหาร ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า, ตลาดสด

เซล รัตนาธิเบศร์ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 8 อาคาร พื้นที่โครงการ 5-0-35.1 ไร่ ยูนิตพักอาศัย 570 ยูนิต มีให้เลือก 3 แบบ โดยขนาดพื้นที่ใช้สอยจะเริ่มตั้งแต่ 30.0-52.0 ตร.ม. 1-2 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำ คาดว่าสร้างเสร็จทั้งโครงการประมาณปี 2561

สิ่งอำนวยความสะดวก มีให้ครบครัน มีอาคาร Clubhouse ภายในมีสระว่ายน้ำระบบเกลือที่แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่, ห้องออกกำลังกาย, พื้นที่พักผ่อนที่รายล้อมด้วยต้นไม้, กล้องวงจรปิดภายในโครงการ และรปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ละอาคารมีทางเข้าและพื้นที่จอดรถแยกกันแต่ละอาคาร ลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.69 ล้านบาท Fully Furnished

วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูห้องตัวอย่างกันค่ะ ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร : )

ที่ตั้งโครงการ

พิกัด google map : 13°52’13.8″N 100°29’09.4″E
ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

โครงการ Zelle รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ โดยรอบเป็นบ้านพักอาศัย เดินทางไปยังร้านค้าและร้านอาหารสะดวก ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าใหญ่, ตลาดสด, ตลาดนัด หน้าโครงการมีรถโดยสารประจำทาง, รถตู้, รถสองแถววิ่งผ่านเป็นระยะ สามารถไปยังรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ง่าย สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีสะพานพระนั่งเกล้า

ที่ตั้งโครงการ ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งเป็นถนนใหญ่ มีการสัญจรคึกคัก รอบข้างเป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินเปล่าและร้านค้า ถนนเส้นนี้เชื่อมต่อกับถนนอื่นๆหลายสาย สามารถลัดเลาะไปได้โดยง่าย อีกทั้งถ้าจะเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สะดวก มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ตลาดสด สถานที่ราชการอยู่ไม่ไกล

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกทีเดียว เนื่องจากหน้าโครงการเป็นถนนใหญ่อย่างรัตนาธิเบศร์ เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ถ้ารู้จักลัดเลาะเส้นทางก็จะทำให้เดินทางได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นถนนเส้นหลักที่สามารถตรงข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปยังบางใหญ่, ราชพฤกษ์, บางกรวยไทรน้อย และถ้าตรงไปจนถึงสามแยกบางใหญ่จะเป็นจุดที่เชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก เส้นนี้ก็ตรงไปยังสุพรรณบุรีและปทุมธานีได้ ดังนั้นถ้าจะเข้าหรือออกนอกเมืองไปต่างจังหวัด เส้นนี้ก็สะดวก ส่วนเส้นราชพฤกษ์นั้นก็วิ่งไปยังเชื่อมกับถนน 345 ไปยังนนทบุรีหรือจะวิ่งลงไปยังนครอินทร์, ปิ่นเกล้า

หรือจากถนนรัตนาธิเบศร์จะตรงเข้าตัวเมืองนนทบุรี สามารถตรงไปยังถนนงามวงศ์วานและถนนติวานนท์ วิ่งเข้าถนนเลี่ยงเมืองนนฯ เพื่อเลี่ยงรถติดช่วงแยกแครายได้ จากถนนติวานนท์ก็วิ่งเข้าถนนสนามบินน้ำ ลัดเข้าโครงการก็เป็นอีกเส้นทางที่สามารถสัญจรได้ค่ะ

ถ้าวิ่งตรงเข้าถนนงามวงศ์วานก็สามารถไปยังถนนประชาชื่น, พหลโยธิน, ดอนเมือง และวิ่งเข้าเส้นรัชดาได้ไม่ยาก หรือถ้าวิ่งตรงไปตามเส้นติวานนท์ก็สามารถวิ่งไปยังรังสิต

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกมากทีเดียวเพราะถนนหน้าโครงการมีรถโดยสารประจำทางเป็นระยะ อีกทั้งยังมีรถตู้อีกหลายสาย ไปยังจตุจักร, งามวงศ์วาน, สีลม, ม.เกษตร, ติวานนท์ เป็นต้น หรือจะไปยังท่าน้ำนนท์ก็นั่งรถกะป๊อจากหน้าโครงการไปได้เลยค่ะ

อีกทั้งยังไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีสะพานพระนั่งเกล้า สามารถเดินไปได้ หรือจะนั่งวินเพื่อไปยังสถานีแยกนนทบุรี 1 ก็แล้วแต่ความสะดวกเลย โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเป็นรถไฟฟ้าช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ สถานีสุดท้ายจะอยู่ที่สถานีคลองบางไผ่ ส่วนสถานีปลายทางคือสถานีเตาปูน โดยเส้นนี้ปลายทางที่สถานีเตาปูนจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเส้นที่วิ่งในตัวกรุงเทพ

ทางด่วน อยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช ห่างออกไปเพียง 5.5 กม.เท่านั้น เดินทางเข้าขออกตัวเมืองกรุงเทพและต่างจังหวัดได้สะดวก