EP.936 รีวิว NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง คอนโดใหม่ ติดถนนใหญ่ พร้อมส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดในย่านแบริ่ง เริ่ม 2.3 ล้านบาท*

สวัสดีค่ะชาว Homenayoo ทุกท่าน สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนกันอยู่นั้น วันนี้เรามีโครงการใหม่ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง จาก บริษัท เสนา ฮันคิว 2 จำกัด มาฝากกันค่ะ เป็นคอนโดใหม่ สูงสุดในย่านแบริ่ง บนทำเลติดถนนใหญ่สุขุมวิท 70 และห่างจาก BTS แบริ่ง เพียง 250 เมตรเท่านั้น พร้อมใกล้ทางด่วนบางนา, เซ็นทรัล บางนา, บิ๊กซี, แม็คโคร, ไบเทค บางนา, รร.เซนต์แอนดรูว์ส, รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา, รร.เซนต์โยเซฟ บางนา และ รพ.ไทยนครินทร์

นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง เป็นคอนโด High-Rise 34 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 4-3-59.8 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 1,275 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอน พลัส และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 28.00-48.00 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไตรมาส 1 ปี 2563

คอนเซ็ปโครงการคือ Life Charger ความลงตัวของพื้นที่ชาร์จชีวิต ซึ่งเป็นคอนโดแนวคิดใหม่กับการสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ที่ร่วมทุนกันระหว่าง “SENA” (บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มหาชน)ร่วมกับ “Hankyu Realty” ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ผู้มีความชำนาญด้านพัฒนาอสังหาฯ ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 100 ปี ร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ NICHE MONO พร้อมเปิดตัวคอนเซปต์ “Geo fit+” ที่นี่เป็นที่แรกอีกด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge / ห้องออกกำลังกาย /Boxing Room / Yoga Room / Sky Lounge & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง / Sena Solar Station ที่มี EV Charger ใช้พลังงานไฟฟ้าจาก Solar / Double Lobby โถงต้อนรับลูกค้าขนาดใหญ่ พร้อมร้านค้า7-11 และ TOM N TOMS COFFEE พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชม.

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท คลิก : https://goo.gl/kb1BdH

ตอนนี้สำนักงานขายโครงการก็สร้างเสร็จสามารถเข้าชมได้แล้วนะคะ รายละเอียดทำเลและตัวโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนใหญ่ สุขุมวิท 70 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

พิกัด Google : 13.658036, 100.600087

โครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง เป็นโครงการที่ทำมาตอบโจทย์กลุ่มคนที่มองหาทำเลที่เข้าสู่ตัวเมืองสุขุมวิทชั้นใน(CBD) ได้ง่าย โดยอยู่ถัดออกมาจากสุขุมวิทชั้นในอย่างโซนใกล้ BTS แบริ่ง ซึ่งมีราคาที่จับต้องได้มากกว่า ได้ห้องใหญ่กว่ามาก ในราคาเท่ากัน และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่งในระยะเดินถึงสบาย เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่านักศึกษาหรือคนทำงานในเมืองโซนเพลินจิต พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย หรือพนักงาน ปตท ที่อยู่ตรงท่าเรือกรุงเทพ เป็นต้น พร้อมจุดแข็งที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งติดถนนใหญ่สุขุมวิทและใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่งเพียง 250 ม., ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนทั้งรามอินทรา- อาจณรงค์และเฉลิมมหานคร และมีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆในระยะเดินถึงมากมาย ทั้ง ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ตลาด และ โรงเรียน

สำหรับคนไม่ใช้รถโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง มีที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ สุขุมวิท70 ห่างจาก BTS แบริ่งเพียง 250 เมตร ซึ่ง โดยจากโครงการเดินไปทางขึ้น BTS แบริ่งได้สบายๆ และหน้าโครงการยังมีวินมอเตอร์ไซค์คอยบริการอยู่ ติดถนนใหญ่สุขุมวิท ก็มีป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย มาจากในเมืองจนถึงสำโรง หรือไปปากน้ำก็มี ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองมีความสะดวกและมีทางเลือกหลายทางค่ะ แท้กซี่ก็มีผ่านไปผ่านมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

สำหรับคนที่ใช้ BTS แบริ่ง นั่งเข้าตัวเมืองสุขุมวิทชั้นในอย่าง เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ สยาม มีความสะดวกสบายสูง นั่งไป 15 – 20 นาทีถึง เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่เข้าออกเมืองตลอด แต่ยอมขยับออกมาห่างจากเมืองชั้นในซักหน่อย แต่ได้ห้องขนาดใหญ่ขึ้นแบบเท่าตัว หรือมากกว่า ในราคาเท่ากัน พร้อมได้ความสะดวกจากรถไฟฟ้าที่เดินทางไปมาอย่างสะดวกสบายได้นั่นเอง

พอขึ้นรถไฟฟ้าแล้วจะไปไหนก็ไว ใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้งหรือหาอะไรกิน ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปลงเอกมัย ทองหล่อได้เพียง 7-8 สถานีเท่านั้น หรือจะนั่งต่อไปอีกสถานีก็เป็น พร้อมพงษ์ อโศก ใกล้ๆ ก็มีทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ที่สยาม ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก

ในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ เพิ่ม ซึ่งตอนนี้ฝั่งสมุทรปราการก็กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดยสถานี สำโรง สถานีส่วนต่อขยายถัดจาก BTS แบริ่งจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการเดินทางสู่โซนชานเมืองกับกรุงเทพฯมากขึ้นอีก

สำหรับคนใช้รถ โครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง มีที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท ฝั่งขาเข้าเมืองไปทางสี่แยกบางนา ใกล้จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร ถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง ไปไหนมาไหนง่าย ขับรถช่วงสั้นๆ 20 นาทีก็ถึง เอกมัย ทองหล่อ หรือจากแยกบางนาวิ่งไปถนนบางนา – ตราด ไปออกถนนศรีนครินทร์และกาญจนาภิเษกได้ หรือจะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น และรอบๆมีถนนและซอยย่อยลัดเลาะเลี่ยงถนนใหญ่เยอะ ทำให้เวลาการจราจรหนาแน่น สามารถลัดเลาะเข้าไปในตัวเมืองชั้นในได้ในเวลาอันสั้น รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะ

ข้อดีที่เด่นๆเลยนอกจากอยู่ไม่ไกล CBD คือเป็นทำเลที่ขึ้นลงทางด่วนได้สะดวก และแถวนี้เป็นทางเข้าออกไปนิคมอุตสาหกรรม รถบรรทุกโซนนี้ก็เลยจะเยอะไปด้วย ยิ่งในอนาคตจะมีห้าง Bangkok Mall ซึ่งเป็นห้างใหญ่มาเปิดที่แยกบางนาอีก ก็จะเพิ่มความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีกขั้น

จุดเด่นของโครงการสำหรับคนใช้รถคืออยู่ใกล้จุดขึ้น–ลง ทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยมีระยะทางจากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร เป็นระยะประมาณ 2.3 กม. หรือระยะขับรถประมาณ 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งจากทางด่วนเฉลิมมหานครนี้จะไปวิ่งไปเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ วิ่งไปพระราม 9, ลาดพร้าว หรือโซนรังสิตได้อย่างสะดวกสบาย

แยกและถนนใกล้เคียงโครงการ

• สี่แยกบางนา 1.8 กม.
• แยกศรีนครินทร์ 7 กม.
• แยกพระโขนง 7.1 กม.
• แยกหนองบอน ประเวศ 7.4 กม.

• ถนนซอยแบริ่ง (สุขุมวิท 107) 190 ม.
• ถนนซอยลาซาล (สุขุมวิท 105) 600 ม.
• ถนนบางนา – ตราด 1.8 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ 4.3 กม.
• ถนนซอยอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) 6.3 กม.
• เอกมัย (สุขุมวิท 63) 8.3 กม.
• ทองหล่อ (สุขุมวิท 55) 9 กม.

สิ่งอำนวยความสะดวก รอบๆโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ใกล้ๆโครงการ มีทั้งซอยอุดมสุข, ลาซาลและซอยแบริ่งที่มีโรงเรียนและโรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งโซนใกล้โรงเรียนใกล้โรงพยาบาลต่างๆเหล่านี้จะมีอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกคอยบริการอยู่เยอะนั่นเอง มีร้านอาหารเยอะ มีตลาด อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ค่ะ

นอกจากนี้บนถนนสุขุมวิทจะมีซอยทองหล่อ เอกมัย ซึ่งเป็นทำเลที่ใกล้โครงการ ภายในซอยมีร้านอาหารนับร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน ใช้เป็นแหล่งแฮงก์เอาต์กับเพื่อนๆ ที่จัดว่าอยู่ใกล้ เดินทางไปมาได้สะดวกสบาย

และจากโครงการออกมาประมาณ 1 กม. ถึง Imperial World สำโรง และ Big C ซึ่งจัดเป็นห้างใหญ่ของคนย่านนี้ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด สามารถเดินมาซื้อของที่ Big C, กินข้าว, ดูหนัง, มาธนาคาร หรืออื่นๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการได้สบายๆ แถมที่นี่ยังเป็นท่ารถเมล์ รถสองแถว และรถตู้ ที่คนย่านนี้มาต่อรถกันคับคั่งอีกด้วย ฝั่งตรงข้ามอิมพีเรียลก็มีตลาดเอี่ยมเจริญให้มาซื้อของสดกันได้

แหล่งช้อปปิ้งและห้างใหญ่ๆอีกส่วนจะกระจุกตัวกันอยู่บนเส้นบางนา – ตราด ไม่ว่าจะเป็น Central บางนา, Big C, ร.พ.ไทยนครินทร์, SB Design Square, Index Livingmall, Chic republic, Mega Bangna, Ikea หรือห้างใหญ่ในอนาคตอย่าง The Bangkok Mall ที่มีกำหนดสร้างเสร็จภายในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว และอยู่ห่างจากตัวโครงการเพียง 2.1 กม.เท่านั้น ถือว่าเป็นห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการที่สุดห้างนึงเลย

จาก BTS แบริ่ง นั่งมา 9 สถานี จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ สถานีนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ร้านอาหาร ของกิน แหล่งช้อปปิ้งมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งห้างหรูอย่างเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ หรือพื้นที่สีเขียวไว้เดินเล่นอย่างสวนสาธารณะเบญจสิริ หรือแหล่งรวมร้านอาหารดีๆอย่าง Rain Hill หรือซุปเปอร์มาเกตอย่าง Tops ร้านอาหารสองฝั่งถนนใหญ่สุขุมวิทโซนนี้ก็มีร้านคุณภาพดีๆและมีคอนเซ็ปร้านเก๋ๆเยอะทีเดียว ในอนาคตจะมีห้างหรูตามมาอีกห้างในเครือเดียวกันชื่อ Emsphere ที่กำลังจะสร้างเสร็จเร็วๆนี้อีกแห่ง ซึ่งเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับย่านพร้อมพงษ์มาขึ้นไปอีก

แนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนชอบร้านอาหาร ชอบกิจกรรมต่างๆนะคะ ในซอยสุขุมวิท 33 และซอยสุขุมวิท 24 และ 26 มีร้านอาหารเยอะมากกค่ะ ลองเสิร์ชดู หรือเดินเข้าไปดูจะไปมีร้านให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยค่ะ กิจกรรมต่างๆโซนนั้นก็เยอะค่ะ ส่วนตัวกิจกรรมที่เราชอบและแนะนำจะมีแช่ออนเซ็นกับเล่นเซิร์ฟบอร์ดที่ A Square ค่ะ ทุกวันนี้เริ่มมีคนไปแช่ออนเซ็นเยอะมากขึ้นแล้วค่ะ เสาร์อาทิตย์นี่คนแน่นเลย แต่ใครทำงานหนักมาถ้าได้ไปแช่จะรู้สึกสบายตัวมากขึ้นจริงๆ อันนี้ถ้าสนใจต้องลองหาข้อมูลกันดูนะคะ แนะนำไปวันธรรมดาตอนกลางวันค่ะ คนน้อยกว่าตอนกลางคืนเยอะ เหมือนได้บ่อส่วนตัวเลย

ส่วนแหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมาย ทั้ง Gateway Ekamai, Major เอกมัย, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะนั่ง BTS ไปไม่กี่นาทีเท่านั้น

สิ่งอำนวยความความสะดวกใกล้โครงการ

• Imperial World สำโรง + Big C 1 กม.
• ตลาดเอี่ยมเจริญ 1.3 กม.
• ตลาดบางนา 1.8 กม.
• Bangkok Mall 2.1 กม.
• ไบเทคบางนา 2.2 กม.
• ตลาดสดลาซาล 2.4 กม.
• ตลาดอุดมสุข 2.7 กม.
• Big C บางนา 5 กม.
• Makro สมุทรปราการ 5.1กม.
• The Jas Urban 5.2 กม.
• Central Plaza บางนา 5.2 กม.
• SB Design Square 5.9 กม.
• Big C อ่อนนุช 6.3 กม.
• Gateway เอกมัย 7.9 กม.
• เมเจอร์เอกมัย 8.2 กม.
• Big C เอกมัย 8.8 กม.
• เมกะบางนา 11.1 กม.

• ร.ร.นานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส 270 ม.
• ร.ร.นานาชาติเบิร์คลีย์ 2.7 กม.
• ร.ร.นานาชาติบางกอกพัฒนา 3.1 กม.
• ร.ร.เซนต์โยเซฟ บางนา 3.3 กม.
• ร.ร.ลาซาล 4.3 กม.
• ร.ร.เทพศิรินทร์สมุทรปราการ 4.5 กม.
• ร.ร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ 4.7 กม.
• ร.ร.เซนต์โยเซฟทิพวัล 4.8 กม.
• ร.ร.นานาชาติไทย – สิงคโปร์ ศรีนครินทร์ 4.8 กม.

• รพ.มนารมย์ บางนา 1 กม.
• ร.พ.สำโรงการแพทย์ 1.4 กม.
• ร.พ.ไทยนครินทร์ 5.5 กม.
• ร.พ.ศิครินทร์ บางนา 5.8 กม.

การเดินทาง

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง การเดินทางเริ่มจากถนนสุขุมวิท BTS อุดมสุข ⇒ BTS บางนา ⇒ BTS แบริ่ง ⇒ แยกลาซาล ⇒ แยกแบริ่ง ⇒ กลับรถใต้สะพานสำโรงตรงไปอีก 1 กิโลเมตรถึง ⇒ ซอยสุขุมวิท 70 จะเจอโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

เริ่มเดินทางกันจากถนนใหญ่สุขุมวิทมุ่งหน้าไปทางสี่แยกบางนา หรือง่ายๆเลยคือตามรางรถไฟฟ้ามาเรื่อยๆได้เลยค่ะ เริ่มจากขับผ่านสถานีอุดมสุข

ตรงผ่านสี่แยกบางนา ที่สี่แยกบางนานี้นอกจากรางรถไฟฟ้าด้านบนแล้ว เราจะเห็นทางยกระดับของทางด่วนเฉลิมมหานครอยู่ด้วย ซึ่งจุดขึ้นลงทางด่วนแห่งนี้จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.6 กม. เท่านั้น

ตรงมาบนถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ ผ่าน BTS บางนา

ตรงผ่าน BTS แบริ่ง ไป

ตรงไป จะเห็น Imperial World สำโรง และ Big C อยู่ทางขวามือ จัดเป็นห้างใหญ่ของคนย่านนี้ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ประมาณ 1 กม. จากโครงการ เดินมาซื้อของที่ Big C, กินข้าว, ดูหนัง, มาธนาคาร หรืออื่นๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการได้สบายๆ แถมที่นี่ยังเป็นท่ารถเมล์ รถสองแถว และรถตู้ ที่คนย่านนี้มาต่อรถกันคับคั่งอีกด้วย

ตรงไปกลับรถใต้สะพานสำโรง

เราชิดซ้าย ตรงไป ไม่ขึ้นสะพานนะคะ

เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ ซ้ายมือเราจะเห็นตลาดสดเอี่ยมเจริญ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสดและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกแห่งที่อยู่ใกล้โครงการค่ะ

พอกลับรถมาแล้วเราตรงมาจะเห็นห้าง Imperial World สำโรง และ Big C อยู่ฝั่งซ้ายมือ เราก็ตรงต่อไป

ตอนนี้เราจะอยู่ถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าเมือง เราตรงไปมุ่งหน้าไปทางแยกบางนา

จากหน้าห้าง Imperial World สำโรง ตรงมาประมาณ 1 กม. เราจะเจอที่ดินโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง อยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ โดยตอนนี้สำนักงานขายโครงการสร้างเสร็จและเปิดให้เข้าชมกันได้เรียบร้อยแล้ว

รอบโครงการ

พื้นที่สีแดงเป็นขอบเขตที่ดินโครงการแบบคร่าวๆ ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงระยะจริงได้นะคะ

โครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 70 ทางเข้าออกอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิทฝั่งขาเข้าเมืองมุ่งหน้าไปทางแยกบางนา, โครงการอยู่ห่างจาก BTS แบริ่ง ประมาณ 250 เมตรเท่านั้น เป็นระยะที่ยังเดินได้สบายๆอยู่ไม่ไกลจนเกินไปนะคะ เดี๋ยวเราจะพาเดินดูบรรยากาศจากปั๊ม Esso ข้างทางขึ้นลง BTS แบริ่ง Exit 4 ไปโครงการกัน จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

เริ่มกันจาก BTS แบริ่ง Exit 4 ทางลงที่ใกล้โครงการ Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง ที่สุด จุดสังเกตคือจะมีปั๊ม Esso อยู่ด้านข้าง

ภายในปั๊ม Esso จะมี Tesco Lotus Express และร้านกาแฟสดอยู่ เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตรเท่านั้น

ถัดจากปั๊ม Esso มาจะเป็นโชว์รูมรถยนต์ของ Benz Bkk Group

ซึ่งด้านหน้าโชว์รูมรถเบนซ์นี้จะเป็นบันไดเลื่อนทางขึ้น BTS แบริ่งที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 250 เมตรเท่านั้น

ถัดมาเป็นโชว์รูมรถยนต์ของ Nissan

ถัดจากโชว์รูมรถยนต์มาจะเจอป้ายรถเมล์ค่ะ ส่วนป้ายรถเมล์นั้นอยู่ห่างจากโครงการ Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง ประมาณ 80 เมตร มีรถประจำทางผ่านหลายสายมากๆ ไม่ว่าจะ 2, 23, 23ส, 25, 45, 102, 511, 536 และอื่นๆ คลิกที่นี่ เพื่อดูสายรถประจำทางและจุดหมายปลายทาง

ด้านหลังป้ายรถเมล์ก็จะมีร้านขายเครื่องดื่มชอบชา ที่มีเครื่องดื่มหลายรสให้เลือกในราคาแก้วละ 25 บาทเท่ากันหมด และสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่สองสามร้าน เช่นร้านเสริมสวย ร้านขายขวดน้ำหอมและน้ำหอมแบบส่ง

ถัดจากป้ายรถเมล์มาหน่อยขวามือก็จะเป็นซอยสุขุมวิท 70 แล้วค่ะ จะเห็นว่าที่ดินโครงการอยู่ติดซอย 70 เลยแบบนี้

อัตราค่าโดยสารวินมอเตอร์ไซค์ติดที่ดินโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง

จากถนนใหญ่สุขุมวิทมองเข้าไปในซอยสุขุมวิท 70 จะเห็นสำนักงานขายของโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ฝั่งซ้ายเป็นแนวยาวเข้าไปในซอย ภายในซอยเป็นถนน 2 เลน รถสวนกันเข้าออกได้

เข้ามาในซอยเลี้ยวขวา จะเห็นที่ดินโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ถัดไปเป็นที่ดินเปล่า ในซอยจะเป็นที่ดินเปล่าสลับกับอาคารที่พักอาศัยแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

กลับมาด้านหน้าโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ติดถนนใหญ่สุขุมวิท

สำนักงานขายตอนนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยและ เปิด Pre-Sale ไปแล้วเมื่อ 30 กันยายนที่ผ่านมานี้

ส่วนทางเข้าโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ค่ะ ด้านหน้าจะมีป้ายโครงการทางฝั่งขวามือ

ถัดไปขวามือจะเจอพื้นที่ร้านค้า TOM N TOMS COFFEE Flagship Coffee Shop ซึ่งตอนนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ใครว่างๆแวะมานั่งทานกาแฟกันได้เลย แต่ส่วน 7-11 ที่จะมีในโครงการนั้น ตอนนี้จะเป็นส่วนสำนักงานขายของโครงการค่ะ

ทางเดินไป TOM N TOMS COFFEE และสำนักงานขายโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ทำทางเดินและ Landscape แบบเดียวกับสวนและ Jocking Track ในโครงการเมื่อสร้างเสร็จนะคะ

เราพาเข้าไปดูในร้านกาแฟ TOM N TOMS COFFEE ของโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง กันก่อน

ภายในร้านกาแฟกว้างขวาง มีเพดานสูงให้บรรยากาศโปร่งสบายน่านั่งดีค่ะ เหมาะใช้เป็นที่คุยงานหรือปั่นงาน เพราะมีระยะห่างจากที่นั่งแต่ละชุดแบบกำลังดี ไม่แน่นหรือติดกันเกินไปแบบร้านกาแฟบางร้าน

เข้าไปดูเคาน์เตอร์ของ TOM N TOMS COFFEE กันต่อค่ะ

มี Free Wifi และมีกาแฟให้เลือกหลายสูตรมากๆ ที่อินเทรนด์อยู่ช่วงนี้อย่างกาแฟแบบ Cold drip ก็มีขายนะ, ช่วงนี้ใกล้วันฮัลโลวีนก็มีเมนูรับฮัลโลวีนออกมาเยอะเลย ใครสนใจไปลองกันได้นะคะ

มีเบเกอรี่อย่างเค้ก, ขนมปัง, แซนด์วิช และอาหารเช้าให้บริการด้วย

มีขายชุดแก้วกาแฟ, กระติกและแก้วเก็บความเย็นของ TOM N TOMS COFFEE ด้วย

ถัดจาก TOM N TOMS COFFEE จะเป็นสำนักงานขายของโครงการแล้วค่ะ ในอนาคตส่วนนี้จะเป็น 7-11

สำนักงานขายเปิดทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม ภายในมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการข้อมูลโครงการและพาชมห้องตัวอย่าง

ภายในสำนักงานขายมีที่นั่งรับรองลูกค้ามาให้หลายจุด มีโมเดลโครงการและห้องตัวอย่างมาให้ดูกันสี่ห้อง รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรมาดูกันต่อเลยค่ะ

ตัวโครงการ

ภาพจำลองโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง เป็นคอนโด High-Rise 34 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 4-3-59.8 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 1,275 ยูนิต กำหนดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไตรมาส 1 ปี 2563 จะเห็นว่าเป็นตึกสูงที่สุดในย่านนี้ เปิดรับวิวโล่งได้ทุกด้าน เนื่องจากรอบๆในระยะประชิดที่ดินโครงการเป็นอาคารแนวราบทั้งหมด

คอนเซ็ปโครงการคือ Life Charger ความลงตัวของพื้นที่ชาร์จชีวิต ซึ่งเป็นคอนโดแนวคิดใหม่กับการสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ที่ร่วมทุนกันระหว่าง “SENA” (บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มหาชน)ร่วมกับ “Hankyu Realty” ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ผู้มีความชำนาญด้านพัฒนาอสังหาฯ ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 100 ปี ร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ NICHE MONO พร้อมเปิดตัวคอนเซปต์ “Geo fit+” ที่นี่เป็นที่แรกอีกด้วย

การออกแบบโครงการแต่ละส่วนจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

โมเดลโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง เป็นคอนโด High-Rise 34 ชั้น 1 อาคาร แบ่งพื้นที่ใช้สอยชั้นต่างๆดังนี้

ชั้น 1 – TOM N TOMS COFFEE & 7-11, Lobby, นิติบุคคล, Jogging track, ห้องพยาบาล

ชั้น 1 – 7 – ที่จอดรถ

ชั้น 8 – สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องต่อยมวย, ห้องโยคะ, ห้องสันทนาการ, ห้องสตีม

ชั้น 4 – 33 – ยูนิตที่พักอาศัย

ชั้น 34 – Co-working space, Panoramic Sky Louge, สวนลอยฟ้า, ห้องประชุม, SENA Solar station with EV Charger

Master Plan หรือผังโครงการชั้นล่าง พอเข้ามาภายในจะเจอพื้นที่ร้านค้า 7-eleven และ TOM N TOMS COFFEE Flagship Coffee Shop อยู่ทางขวามือก่อน เข้ามาด้านในจะเป็น Drop off ทางเข้าล็อบบี้วิวสวนด้านนอกที่ปลูกต้นไม้มาร่มรื่น พื้นที่โครงการชั้นล่างส่วนด้านหลังจะเป็นที่จอดรถซะเป็นส่วนใหญ่

ภาพจากโมเดลส่วนทางเข้าโครงการค่ะ ทางเข้าโครงการอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิทเลย แบ่งทางเข้าฝั่งซ้ายทางออกฝั่งขวา เข้ามาฝั่งขวามือจะเจอ TOM N TOMS COFFEE Flagship Coffee Shop และ 7-11

ภาพจำลองส่วนทางเข้าโครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง ค่ะ ด้านหน้าจะมีป้ายโครงการทางฝั่งขวามือ สองฝั่งข้างทางปลูกต้นไม้และจัดสวนหย่อมมาร่มรื่น ถัดไปขวามือจะเจอพื้นที่ร้านค้า TOM N TOMS COFFEE Flagship Coffee Shop และ 7-11 พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชม.

จากโมเดลจะเห็นว่าออกแบบสวนหย่อมพร้อม Jogging track มารอบโครงการ

ภาพจำลองพื้นที่สีเขียวชั้นล่างของโครงการ ปลูกต้นไม้มาร่มรื่นทั้งไม้ยืนต้นและไม้พุ่มคลุมดิน พร้อมทำทางเดินหรือ Jogging track มาให้เดินและวิ่งออกกำลังกายกันได้

ผังชั้น 4 – 7 กันต่อค่ะ ส่วนยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 4 แต่ชั้น 4 – 7 จัดผังแบบเดียวกันนะคะ คือจัดอยู่ฝั่งปีกซ้ายอย่างเดียวที่มีความหนาแน่นยูนิตต่อชั้นที่ 15 ชั้นเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าชั้นบนๆนะ เพราะว่าพื้นที่ส่วนที่เหลือจะเป็นส่วนลานจอดรถของโครงการค่ะ

มาดูผังชั้น 8 กันต่อค่ะ ส่วนยูนิตที่พักชั้นนี้มี 15 ยูนิตต่อชั้นเช่นเดียวกันกับชั้น 4 – 7 และพื้นที่ส่วนกลางหลักๆของโครงการก็จะอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย โดยจะมีประตูกั้นส่วนยูนิตที่พักอาศัยไว้เป็นสัดส่วนต้องใช้ Access Card เฉพาะชั้นผ่านเข้าไปเท่านั้น ไม่ปะปนกันกับคนที่มาใช้พื้นที่ส่วนกลางนะคะ

พื้นที่ส่วนกลางจะมี สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องต่อยมวย, ห้องโยคะ, ห้องสันทนาการ, ห้องสตีม แต่ละส่วนจะเป็นอย่างไร ไปดูภาพกันเลยค่ะ

โมเดลโครงการค่ะ เราซูมส่วนชั้น 8 ให้ดู จะเห็นพื้นที่ส่วนกลางส่วนต่างๆ สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือขนาดยาวกว่า 88 เมตร ถือว่าเป็นสระที่ยาวมากทีเดียว

ภาพจำลองสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ระบบเกลือยาวกว่า 88 เมตร พร้อมสระเด็ก และ Sunken Deck ที่มาว่ายพักผ่อนชมวิวเมืองได้อย่างเป็นส่วนตัว

ภาพจำลองห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครันด้วยพื้นที่กว่า 250 ตรม. ขึ้นมาออกกำลังกายพร้อมชมวิวเมืองรอบโครงการไปด้วยได้

ภาพจำลองส่วน Yoga Room ที่ขึ้นมาชาร์จพลังและผ่อนคลาย และ Boxing Room ปลุกพลังความแอคทีฟในตัวคุณ

ผังชั้น 9 – 33 จะเป็น Typical Floor Plan ห้องพักมีให้เลือกทั้งหมด 7 แบบ โถงลิฟต์โดยสารมี 6 ตัว แบ่งฝั่งละ 3 ตัว เพื่อไม่ให้มีห้องไหนอยู่ไกลลิฟต์จนเกินไป และมีลิฟต์บริการสำหรับขนของและเก็บขยะแยกมาต่างหากอีก 1 ตัว ถือว่าใช้ได้สบายๆค่ะ ตัวอาคารเป็นรูปตัว L และจะมีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา

ในส่วนของวิว ห้องวิวสระที่ระเบียงหันหน้ามาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือก็จะได้แดดเบากว่าทิศใต้ เนื่องจากพระอาทิตย์ในประเทศไทยวิ่งอ้อมใต้เป็นหลักนะคะ และตัวอาคารก็ช่วยบังแดดให้สระว่ายน้ำไปในตัว ขณะที่ระเบียงที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า และไม่ชนอาคารที่พักอาศัยอื่นด้วย เพราะรอบๆเป็นอาคารแนวราบ 2 – 4 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่

ผังชั้นดาดฟ้า ชั้น 34 หรือ Roof Top จะมีสวนชั้นดาดฟ้าอยู่นะคะ โดยแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น Co-working space, Panoramic Sky Louge, สวนลอยฟ้า, ห้องประชุม ..พื้นที่ส่วนสีเทาเป็น SENA Solar station with EV Charger ซึ่งวางแผงโซลาร์รับพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและค่าส่วนกลางให้โครงการ

ภาพจากโมเดลส่วนดาดฟ้าของโครงการค่ะ ทุกคนในโครงการสามารถขึ้นมาชมวิวเมืองชั้นสูงสุดของโครงการด้วยกันได้ ทั้งเดินเล่นสวนลอยฟ้า หรือนั่งทำงานและพักผ่อนที่ Co-working space, Panoramic Sky Louge และมีห้องประชุมมาให้ใช้คุยงานได้ด้วย

ภาพจำลองพื้นที่ส่วนกลางหลักๆของโครงการ Sky Relaxing Zone & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง

:: UNIT TYPE ::

โครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง มีห้องพักอาศัยรวม 1,275 ยูนิต มีห้องพักให้เลือก 3 แบบ คือ 1 ห้องนอน 28 – 31 ตร.ม., 1 ห้องนอนพลัส 34.9 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน 48 ตร.ม. ผังห้องแต่ละแบบจะเป็นอย่างไร ไปดูกันค่ะ

1 ห้องนอน 34.9 ตร.ม. พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนปรับเปลี่ยนใช้งานร่วมกันและแยกกันได้ด้วยฉากกั้นห้อง โดยจัดโซฟาและส่วนห้องนั่งเล่นไว้ปลายเตียง

2 ห้องนอน 48 ตร.ม. พื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำส่วนตัวที่ใช้งานพร้อมกันทั้ง 2 ฟังก์ชั่น (โซนเปียกและ โซนแห้ง)

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตร.ม. ห้องที่มาพร้อมกับ Sky working zone มุมทำงานส่วนตัว พร้อมวิวส่วนตัว ตัวห้องแบ่งโซน Private และ Public มาด้วยฉากกั้นห้องคั่นส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอยู่ ข้อดีคือมีครัวปิดที่กลิ่นอาหารและควันจากครัวจะไม่เข้าไปในส่วนอื่นๆของห้อง และอยู่ติดระเบียงทำให้เปิดระบายอากาศได้ง่าย โดยเข้าห้องมาจะเจอส่วน ห้องนั่งเล่น ถัดมาจะเจอส่วนห้องนอนพร้อมฉากกั้นห้อง ซึ่งมีประตูเปิดไประเบียงได้ อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ ตรงข้ามเป็นห้องครัวปิดติดระเบียง

ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอย่างเต็มที่, ชุดสุขภัณฑ์, ชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

ประตูห้องตัวอย่างเจาะช่องขนาดเท่าประตูจริงมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ ส่วนประตูที่ได้จะเป็นบาน HDF กรุลามิเนตลายไม้

มือจับประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส พร้อม Digital Door Lock ของ MOLI LOCK ติดมาให้เรียบร้อยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ วิธีการเข้าห้องคือแตะการ์ดเข้าไปหรือกดรหัสผ่าน ซึ่งสะดวกดีค่ะ ภาพขวามือคือภาพจากด้านในห้อง เวลาจะออกจากห้องก็หมุนล็อกออกไป พอเราปิดประตูห้อง Digital Door Lock นี้ก็จะล็อกห้องให้เราอัตโนมัตค่ะ

เข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอนพร้อมฉากกั้นห้องนอนเป็นสัดส่วน สังเกตว่าระยะใช้งานกว้างขวาง เพดานห้องสูง 2.7 เมตร ถือว่าได้เพดานมาสูงค่ะเมื่อเทียบกับคอนโดทั่วไปที่สูง 2.4 เมตรเท่านั้น ผนังเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม. เราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

ส่วนห้องนั่งเล่น มีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 1.8 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 – 50 นิ้ว

โซฟาให้มาเป็นโซฟาหุ้มผ้าแบบ 2 ที่นั่ง ชอบที่มีที่วางแขนและลิ้นชักใต้ที่นั่งที่ใช้เก็บของได้ และมีพนักพิงด้านหลัง ของจริงได้ตามนี้ ไม่รวมหมอนอิงตกแต่งนะคะ

ข้างชุดโซฟามีชุดโต๊ะอาหารเข้ามุมพร้อมเก้าหุ้มผ้ามาให้สำหรับ 2 ที่นั่ง สเป็คมาสีสวยเรียบๆสบายตา และเข้ากับชุดโซฟาดีค่ะ

มองไปทางชั้นวางทีวี Built in ชั้นวางของใต้ทีวีมาให้ ด้านบนทีวีติดเครื่องปรับอากาศมาให้ ของจริงได้ตามนี้

ติดกันกับชั้นวางทีวีข้างประตูห้องมี Built in ชั้นวางของสูงจรดเพดานมาให้ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ หน้าบานตู้เป็นกระจกเงาใช้สำรวจความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้ เราเปิดตู้ให้ดูด้านในจะเห็นว่าเก็บของได้เยอะดีค่ะ

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนห้องนอน มีฉากกั้นห้องเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 2 บาน กั้นส่วนห้องนอนมาให้เป็นสัดส่วน ช่วยกันกลิ่นอาหารจากครัวและห้องนั่งเล่นเข้าไปในส่วนห้องนอน บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัว อาจติดฟิล์มแบบกระจกเงาหรือกระจกฝ้าเพิ่มอีกที ส่วนตัวแนะนำฟิล์มกระจกฝ้าค่ะ เพราะแสงธรรมชาติจะได้ส่องเข้ามาในห้องนั่งเล่นอยู่

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ของจริงได้ฐานเตียงไม่รวมฟูกหมอนผ้าปูตามปกติ นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน Built in มาให้ด้วย เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ

ข้อดีคือฐานเตียงก็มีลิ้นชักให้เก็บของได้ ..ที่เก็บของเล็กๆน้อยๆพวกนี้ สำหรับคนอยู่คอนโดนับเป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ทั้งนั้นค่ะ

มองไปข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่าง ข้างเตียงจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ 1 ชุด มีส่วนที่เปิดปิดได้แบบหน้าต่างบานกระทุ้งฝั่งขวาบน รอบๆเป็นกระจกบานฟิกซ์ช่วยเพิ่มช่องแสงธรรมชาติ

ข้างเตียงทำ Built in โต๊ะทำงานมาให้ กว้างขวาง ใช้ทำงานและวางของเพิ่มได้ และมีลิ้นชักเก็บของมาให้ วางเก้าอี้มาให้ดูระยะใช้งาน

ปลายเตียงเหลือระยะพอเดินไปเดินมาได้ แต่ไม่สามารถวางชั้นวางทีวีได้นะคะ ถ้าจะติดทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนผนังค่ะ

มองไปฝั่งทางเข้าห้องนอน

ฝั่งนี้ทำตู้เสื้อผ้า built in สูงจรดเพดานมาให้เรียบร้อย เราเปิดตู้ให้ดูจะเห็นว่าใส่ใจรายละเอียดเรื่องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและใช้ประโยชน์ความสูงของเพดานได้ดี

ที่พิเศษและเป็นฟังก์ชั่นที่จัดว่าหรูหราเลยสำหรับคอนโดราคาระดับนี้ค่ะ คือในตู้เสื้อผ้าจะมี Pull down rail หรือราวแขวนผ้าด้านบนที่มีก้านดึงลงมาได้ ได้ราวแขวนเพิ่มด้านบนอีก 1 ตอน และมีช่องให้แขวนผ้าพันคอหรือเครื่องประดับด้วย

ออกจากห้องนอนมาดูทางเดินที่อยู่ระหว่างห้องน้ำและห้องครัวกันต่อนะคะ

จะมีลักษณะเป็นมุมเข้าไปและมี Built in ชั้นลอยวางของมาให้อีกจุด ใช้เป็นตู้เก็บยา ของกระจุกกระจิก และเครื่องประดับต่างๆได้ดีเลย ที่หน้าบานตู้มีกระจกเงามาให้ใช้แต่งหน้าได้ด้วย

เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นกระเบื้อง ข้อดีคือโดนน้ำไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาให้ประตูเปิดปิดยาก

ภาพรวมห้องน้ำค่ะ ระยะใช้งานสบายๆ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. สุขภัณฑ์ของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่า

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน เป็นลายหินอ่อนสีทรายให้ลุดที่ดูหรูหรา ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศช่วยระบายอากาศ

อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาได้ขนาดตามที่เห็นค่ะ ใครต้องการทำเคาน์เตอร์ไว้วางของเพิ่มก็สามารถทำได้นะคะ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้งานพอ

อ่างล้างมือมีที่พอวางของอย่างสบู่ล้างมือ แปรงสีฟัน ยาสีฟันได้บ้างนิดหน่อย

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่า สายฉีดชำระพร้อมที่แขวนทิชชู่เป็นสแตนเลสเข้าชุดกัน

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องกระจกเทมเปอร์แบบบานเปิดพร้อมมือจับสแตนเลสรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

ชุดฝักบัวมี Rain Shower มาให้ ของจริงได้ตามนี้ ฝักบัวเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ เทียบกับฝ่ามือให้ดูขนาดจะเห็นว่ากำลังเหมาะมือดี ผนังข้างชุดฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย ชอบที่ผนังหลังชุดฝักบัวเจาะช่องเป็นที่วางของมาให้ใหญ่ดีค่ะ แถมวางกระจกมาเป็นชั้นวางของให้ถึง 2 ชั้น

ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีฉากกั้นห้องเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 3 บาน กั้นส่วนห้องนอนมาให้เป็นสัดส่วน ช่วยกันกลิ่นอาหารจากครัวและห้องนั่งเล่นเข้าไปในส่วนห้องนอน

ชุดครัวด้านบนมีชั้นลอยพร้อมหน้าบานปิดแบบเดียวกับเคาน์เตอร์ครัวชั้นล่าง ของจริงได้ตามที่เห็นทั้งบนและล่าง เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในมีที่เก็บของมาให้เยอะดีค่ะ เหมาะสำหรับใช้อุ่นอาหาร ล้างจาน หรืออาหารที่ประกอบง่ายๆไม่ซับซ้อน มีลิ้นชักวางช้อนส้อมมาให้ หน้าบานตู้เป็นเมลามีนลายไม้สีอ่อน เปิดปิดแบบเซาะร่อง และเว้นช่องไว้ให้วางตู้เย็นเรียบร้อย

พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. เปิดตู้ให้ดูระยะใช้งาน จะเห็นว่ามีระยะเดินไปมาได้อยู่

ส่วนห้องครัวที่ชั้นลอยด้านบนก็มี Pull down shelf ที่เป็นชั้นวางจานแบบสามารถดึงลงมาให้หยิบง่ายๆได้แบบนี้ ส่วนด้านล่างที่เคาน์เตอร์ครัวเป็นอ่างล้างจานสแตนเลสแบบ 1 หลุม ไม่มีที่พักจาน

Top ครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวมีเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้าพร้อม Backsplash ท่ีผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย ทำให้เวลาทำครัวสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย และมีรางแขวนอุปกรณ์ทำครัวมาให้ด้วย ของจริงได้ตามนี้

ติดตั้งเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวและเครื่องดูดควันมาให้เรียบร้อย

จากครัวจะมีประตูเปิดออกไประเบียงได้ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน และเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงกรอบอลูมิเนียมแบบ 3 ตอน ทำให้มีช่องเปิดที่กว้างกว่าแบบ 2 ตอนนั่นเอง

ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีเทา ส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์แขวนมาให้ทั้ง 2 เครื่อง ทำให้สามารถใช้พื้นที่ใต้แอร์คอมเพรสเซอร์ได้อยู่ โดยห้องตัวอย่างวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาให้ดูระยะใช้งานนะคะ ราวกันตกเป็นเหล็กกล่องทาสีเทา มีระแนงขึ้นมาบังส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เรียบร้อย

ที่เพดานระเบียงติดไฟดาวน์ไลท์แบบกล่องมาให้ และมีระบายความร้อนที่ฝ้าเพดานมาให้

ห้องตัวอย่างห้องที่สองที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตร.ม.ห้องสามารถปรับฟังก์ชั่น combine พื้นที่ห้องเพื่อเพิ่มพื้นที่มากกว่า ตามไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ ตัวห้องแบ่งโซน Private และ Public มาด้วยฉากกั้นห้องคั่นส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอยู่ ข้อดีคือมีครัวปิดที่กลิ่นอาหารและควันจากครัวจะไม่เข้าไปในส่วนอื่นๆของห้อง โดยเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัว ถัดมาจะเจอส่วนนั่งเล่นติดระเบียง และห้องนอนพร้อมฉากกั้นห้อง ซึ่งมี Walk in closet และห้องน้ำในตัว

ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอย่างเต็มที่, ชุดสุขภัณฑ์, ชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

เข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องครัวปิดและพื้นที่วางของตรงข้ามชุดครัวค่ะ ระยะใช้งานกำลังดี พื้นห้องครัวเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60×60 cm. ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.7 เมตร ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว

ชุดครัวด้านบนมีชั้นลอยพร้อมหน้าบานปิดแบบเดียวกับเคาน์เตอร์ครัวชั้นล่าง ของจริงได้ตามที่เห็นทั้งบนและล่าง เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในมีที่เก็บของมาให้เยอะดีค่ะ เหมาะสำหรับใช้อุ่นอาหาร ล้างจาน หรืออาหารที่ประกอบง่ายๆไม่ซับซ้อน มีลิ้นชักวางช้อนส้อมมาให้ หน้าบานตู้เป็นเมลามีนลายไม้สีอ่อน เปิดปิดแบบเซาะร่อง และเว้นช่องไว้ให้วางตู้เย็นเรียบร้อย

ส่วนห้องครัวที่ชั้นลอยด้านบนก็มี Pull down shelf ที่เป็นชั้นวางจานแบบสามารถดึงลงมาให้หยิบง่ายๆได้แบบนี้ ส่วนด้านล่างที่เคาน์เตอร์ครัวเป็นอ่างล้างจานสแตนเลสแบบ 1 หลุม ไม่มีที่พักจาน

Top ครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ ติดตั้งเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวและเครื่องดูดควันมาให้เรียบร้อย ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวมีเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้าพร้อม Backsplash ท่ีผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย ทำให้เวลาทำครัวสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย และมีรางแขวนอุปกรณ์ทำครัวมาให้ด้วย ของจริงได้ตามนี้

ฝั่งตรงข้ามชุดครัว ข้างประตูห้องมี Built in ชั้นวางของสูงจรดเพดานมาให้ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ เราเปิดตู้ให้ดูด้านในจะเห็นว่าเก็บของได้เยอะดี และมีช่องให้วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้ด้วย

ถัดจากครัวจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นติดระเบียงและห้องนอนค่ะ มีฉากกั้นระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นมาให้ เป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 2 บาน กั้นส่วนห้องนั่งเล่นและนอนมาให้เป็นสัดส่วน ช่วยกันกลิ่นอาหารจากครัวเข้าไปด้านในนั่นเอง

มองกลับไปที่ประตูครัว จะเห็นว่าฝ้าเพดานส่วนครัวดรอปลงมาจากเพดานห้องประมาณ 20 cm. เพื่อซ่อนงานระบบ และเหนือประตูติดเครื่องปรับอากาศมาให้เรียบร้อย ของจริงได้ตามนี้

มีชุดโต๊ะอาหารเข้ามุมพร้อมเก้าหุ้มผ้ามาให้สำหรับ 2 ที่นั่ง สเป็คมาสีสวยเรียบๆสบายตา และเข้ากับชุดโซฟาดีค่ะ

ส่วนห้องนั่งเล่น มีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 1.8 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 – 50 นิ้ว

โซฟาให้มาเป็นโซฟาหุ้มผ้าแบบ 2 ที่นั่ง ชอบที่มีที่วางแขนและลิ้นชักใต้ที่นั่งที่ใช้เก็บของได้ และมีพนักพิงด้านหลัง ของจริงได้ตามนี้ ไม่รวมหมอนอิงตกแต่งนะคะ

มองไปทางชั้นวางทีวี Built in ชั้นวางของใต้ทีวีมาให้ ด้านบนทีวีติดเครื่องปรับอากาศมาให้ ของจริงได้ตามนี้

จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูเปิดออกไประเบียงได้ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน และเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงกรอบอลูมิเนียมแบบ 2 ตอน

ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีเทา ส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์แขวนมาให้ทั้ง 2 เครื่อง ทำให้สามารถใช้พื้นที่ใต้แอร์คอมเพรสเซอร์ได้อยู่ โดยห้องตัวอย่างวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาให้ดูระยะใช้งานนะคะ ราวกันตกเป็นเหล็กกล่องทาสีเทา มีระแนงขึ้นมาบังส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เรียบร้อย

เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อค่ะ จะมีฉากกั้นห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 บาน เฟรมอลูมิเนียมสีดำ ลูกฟักกระจกใส ข้อดีของประตูเลื่อนแบบ 3 บานคือทำให้มีช่องเปิดประตูที่กว้างขึ้นกว่าแบบ 2 บานนั่นเอง

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ของจริงได้ฐานเตียงไม่รวมฟูกหมอนผ้าปูตามปกติ ข้อดีคือฐานเตียงก็มีลิ้นชักให้เก็บของได้ ..ที่เก็บของเล็กๆน้อยๆพวกนี้ สำหรับคนอยู่คอนโดนับเป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ทั้งนั้นค่ะ นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet และโต๊ะเครื่องแป้ง Built in มาให้ด้วย เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ

ปลายเตียงมีระยะพอเดินไปมาได้

มองไปข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่าง ข้างเตียงจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ 1 ชุด มีส่วนที่เปิดปิดได้แบบหน้าต่างบานกระทุ้งฝั่งขวาบน รอบๆเป็นกระจกบานฟิกซ์ช่วยเพิ่มช่องแสงธรรมชาติ

ข้างเตียงทำ Built in โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงามาให้ ของจริงได้ตามนี้ วางเก้าอี้มาให้ดูระยะใช้งาน

อีกฝั่งของห้องนอนเป็น Walk in closet และทางเดินเข้าไปส่วนห้องน้ำในห้องนอนค่ะ

ฝั่งนี้ทำตู้เสื้อผ้า built in สูงจรดเพดานมาให้เรียบร้อย เราเปิดตู้ให้ดูจะเห็นว่าใส่ใจรายละเอียดเรื่องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและใช้ประโยชน์ความสูงของเพดานได้ดี ในตู้เสื้อผ้าจะมี Pull down rail หรือราวแขวนผ้าด้านบนที่มีก้านดึงลงมาได้ ได้ราวแขวนเพิ่มด้านบนอีก 1 ตอน

เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นกระเบื้อง ข้อดีคือโดนน้ำไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาให้ประตูเปิดปิดยาก

ภาพรวมห้องน้ำค่ะ ระยะใช้งานสบายๆ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. สุขภัณฑ์ของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่า และมี Low Wall หลังอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มาให้วางของเพิ่มได้

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน เป็นลายหินอ่อนสีทรายให้ลุดที่ดูหรูหรา ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศช่วยระบายอากาศ

อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาได้ขนาดตามที่เห็นค่ะ ใครต้องการทำเคาน์เตอร์ไว้วางของเพิ่มก็สามารถทำได้นะคะ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้งานพอ

อ่างล้างมือมีที่พอวางของอย่างสบู่ล้างมือ แปรงสีฟัน ยาสีฟันได้บ้างนิดหน่อย แต่ข้อดีคือมี Low Wall มาให้วางของเพิ่มด้านหลังได้

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่า สายฉีดชำระพร้อมที่แขวนทิชชู่เป็นสแตนเลสเข้าชุดกัน

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องกระจกเทมเปอร์แบบบานเปิดพร้อมมือจับสแตนเลสรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

ชุดฝักบัวมี Rain Shower มาให้ ของจริงได้ตามนี้ ฝักบัวเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ เทียบกับฝ่ามือให้ดูขนาดจะเห็นว่ากำลังเหมาะมือดี ผนังข้างชุดฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ราคา (ต.ค.60)

• 1 Bedroom 28 ตร.ม. ชั้น 9 ราคา 2,280,600 บาท ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. 81,450 บาท
• 1 Bedroom 31 ตร.ม. ชั้น 19 ราคา 2,666,100 บาท ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. 86,003 บาท
• 2 Bedrooms 48 ตร.ม. ชั้น 15 ราคา 4,210,900 บาท ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. 87,727 บาท

โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมชุดครัว เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องปรับอากาศ

– ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

– ค่าส่วนกลาง 37 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)

สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

สำหรับผู้ที่สนใจ “NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง” มีราคา เริ่มต้นที่ 2.3 ล้านบาท ผ่อนเพียง 8,000 บาท/เดือน ขายแบบ Fully Furnished โดยจะเปิด Pre-sales วันที่ 30 ก.ย.นี้ สามารถลงทะเบียนรับส่วนลด 50,000 บาท ที่นี่ http://sena.co.th/register/niche-mono-sukhumvit-bearing

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 1775#70

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง เป็นโครงการที่ทำมาตอบโจทย์กลุ่มคนที่มองหาทำเลที่เข้าสู่ตัวเมืองสุขุมวิทชั้นใน(CBD) ได้ง่าย โดยอยู่ถัดออกมาจากสุขุมวิทชั้นในอย่างโซนใกล้ BTS แบริ่ง ซึ่งมีราคาที่จับต้องได้มากกว่า ได้ห้องใหญ่กว่ามาก ในราคาเท่ากัน และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่งในระยะเดินถึงสบาย เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่านักศึกษาหรือคนทำงานในเมืองโซนเพลินจิต พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย หรือพนักงาน ปตท ที่อยู่ตรงท่าเรือกรุงเทพ เป็นต้น

ความอุดมสมบูรณ์ – ใกล้ๆโครงการ มีทั้งซอยอุดมสุข, ลาซาลและซอยแบริ่งที่มีโรงเรียนและโรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งโซนใกล้โรงเรียนใกล้โรงพยาบาลต่างๆเหล่านี้จะมีอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกคอยบริการอยู่เยอะนั่นเอง มีร้านอาหารเยอะ มีตลาด อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ค่ะ

นอกจากนี้บนถนนสุขุมวิทจะมีซอยทองหล่อ เอกมัย ซึ่งเป็นทำเลที่ใกล้โครงการ ภายในซอยมีร้านอาหารนับร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน ใช้เป็นแหล่งแฮงก์เอาต์กับเพื่อนๆ ที่จัดว่าอยู่ใกล้ เดินทางไปมาได้สะดวกสบาย

และจากโครงการออกมาประมาณ 1 กม. ถึง Imperial World สำโรง และ Big C ซึ่งจัดเป็นห้างใหญ่ของคนย่านนี้ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด สามารถเดินมาซื้อของที่ Big C, กินข้าว, ดูหนัง, มาธนาคาร หรืออื่นๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการได้สบายๆ แถมที่นี่ยังเป็นท่ารถเมล์ รถสองแถว และรถตู้ ที่คนย่านนี้มาต่อรถกันคับคั่งอีกด้วย ฝั่งตรงข้ามอิมพีเรียลก็มีตลาดเอี่ยมเจริญให้มาซื้อของสดกันได้

แหล่งช้อปปิ้งและห้างใหญ่ๆอีกส่วนจะกระจุกตัวกันอยู่บนเส้นบางนา – ตราด ไม่ว่าจะเป็น Central บางนา, Big C, ร.พ.ไทยนครินทร์, SB Design Square, Index Livingmall, Chic republic, Mega Bangna, Ikea หรือห้างใหญ่ในอนาคตอย่าง The Bangkok Mall ที่มีกำหนดสร้างเสร็จภายในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว และอยู่ห่างจากตัวโครงการเพียง 2.1 กม.เท่านั้น ถือว่าเป็นห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการที่สุดห้างนึงเลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนใช้รถ จุดเด่นที่ทำให้คนใช้รถมีความสะดวกสบายสูงคือโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท ฝั่งขาเข้าเมืองไปทางสี่แยกบางนา ใกล้จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร ถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง ไปไหนมาไหนง่าย ขับรถช่วงสั้นๆ 20 นาทีก็ถึง เอกมัย ทองหล่อ หรือจากแยกบางนาวิ่งไปถนนบางนา – ตราด ไปออกถนนศรีนครินทร์และกาญจนาภิเษกได้ หรือจะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น และรอบๆมีถนนและซอยย่อยลัดเลาะเลี่ยงถนนใหญ่เยอะ ทำให้เวลาการจราจรหนาแน่น สามารถลัดเลาะเข้าไปในตัวเมืองชั้นในได้ในเวลาอันสั้น รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะ

ข้อดีที่เด่นๆเลยนอกจากอยู่ไม่ไกล CBD คือเป็นทำเลที่ขึ้นลงทางด่วนได้สะดวก และแถวนี้เป็นทางเข้าออกไปนิคมอุตสาหกรรม รถบรรทุกโซนนี้ก็เลยจะเยอะไปด้วย ยิ่งในอนาคตจะมีห้าง Bangkok Mall ซึ่งเป็นห้างใหญ่มาเปิดที่แยกบางนาอีก ก็จะเพิ่มความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีกขั้น

จุดเด่นของโครงการสำหรับคนใช้รถคืออยู่ใกล้จุดขึ้น–ลง ทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยมีระยะทางจากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร เป็นระยะประมาณ 2.3 กม. หรือระยะขับรถประมาณ 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งจากทางด่วนเฉลิมมหานครนี้จะไปวิ่งไปเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ วิ่งไปพระราม 9, ลาดพร้าว หรือโซนรังสิตได้อย่างสะดวกสบาย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – การเดินทางโดยไม่ใช้รถ หน้าโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ สุขุมวิท70 ห่างจาก BTS แบริ่งเพียง 250 เมตร ซึ่ง โดยจากโครงการเดินไปทางขึ้น BTS แบริ่งได้สบายๆ และหน้าโครงการยังมีวินมอเตอร์ไซค์คอยบริการอยู่ ติดถนนใหญ่สุขุมวิท ก็มีป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย มาจากในเมืองจนถึงสำโรง หรือไปปากน้ำก็มี ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองมีความสะดวกและมีทางเลือกหลายทางค่ะ แท้กซี่ก็มีผ่านไปผ่านมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

สำหรับคนที่ใช้ BTS แบริ่ง นั่งเข้าตัวเมืองสุขุมวิทชั้นในอย่าง เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ สยาม มีความสะดวกสบายสูง นั่งไป 15 – 20 นาทีถึง เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่เข้าออกเมืองตลอด แต่ยอมขยับออกมาห่างจากเมืองชั้นในซักหน่อย แต่ได้ห้องขนาดใหญ่ขึ้นแบบเท่าตัว หรือมากกว่า ในราคาเท่ากัน พร้อมได้ความสะดวกจากรถไฟฟ้าที่เดินทางไปมาอย่างสะดวกสบายได้นั่นเอง

พอขึ้นรถไฟฟ้าแล้วจะไปไหนก็ไว ใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้งหรือหาอะไรกิน ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปลงเอกมัย ทองหล่อได้เพียง 7-8 สถานีเท่านั้น หรือจะนั่งต่อไปอีกสถานีก็เป็น พร้อมพงษ์ อโศก ใกล้ๆ ก็มีทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ที่สยาม ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก

ในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ เพิ่ม ซึ่งตอนนี้ฝั่งสมุทรปราการก็กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดยสถานี สำโรง สถานีส่วนต่อขยายถัดจาก BTS แบริ่งจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการเดินทางสู่โซนชานเมืองกับกรุงเทพฯมากขึ้นอีก

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์แบบ Built in มาให้พร้อมแอร์ครบทุกยูนิต สำหรับราคานี้ก็ถือว่าเลือกวัสดุมาได้ดี มีความใส่ใจรายละเอียด ได้ Digital Door Lock ทุกห้อง ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม. ซึ่งจัดว่าให้มาสูงกว่าคอนโดทั่วๆไปในราคาระดับเดียวกันนะคะ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นเป็นลามิเนต 8 มม. และห้องน้ำกับระเบียงจะเป็นกระเบื้องเซรามิกที่มีความทนทาน สุขภัณฑ์ของ Kohler มาพร้อมฉากกั้นห้องน้ำ และมีห้องครัวมาให้ พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ Built in ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี แบบห้องมีการจัดวางระยะใช้สอยที่ใช้งานได้สบายและลงตัว ไม่อึดอัด

คอนเซ็ปโครงการคือ Life Charger ความลงตัวของพื้นที่ชาร์จชีวิต ซึ่งเป็นคอนโดแนวคิดใหม่กับการสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ที่ร่วมทุนกันระหว่าง “SENA” (บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มหาชน)ร่วมกับ “Hankyu Realty” ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ผู้มีความชำนาญด้านพัฒนาอสังหาฯ ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 100 ปี ร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ NICHE MONO พร้อมเปิดตัวคอนเซปต์ “Geo fit+” ที่นี่เป็นที่แรกอีกด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวก – ถือว่าเป็นโครงการที่เตรียมเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยมาดีเลยค่ะ โดยทางเข้าออกโครงการเป็น Access Card ทั้งหมด มี CCTV รอบโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พื้นที่ส่วนกลางอาทิสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge / ห้องออกกำลังกาย /Boxing Room / Yoga Room / Sky Lounge & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง / Sena Solar Station ที่มี EV Charger ใช้พลังงานไฟฟ้าจาก Solar / Double Lobby โถงต้อนรับลูกค้าขนาดใหญ่ พร้อมร้านค้า 7-11 และ TOM N TOMS COFFEE พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชม.

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1775 # 70

Website : http://www.sena.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.939 รีิวิว เมทริส พระราม 9-รามคำแหง Metris Rama 9-Ramkhamheang

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมพามาชมโครงการ METRIS พระราม 9 – รามคำแหง จาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง มีทางเข้าออกทั้งสองฝั่ง ใกล้ทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ใกล้ Airport Link รามคำแหง และรถไฟฟ้าสายสีส้ม รายล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น Food Land รามคำแหง, The Mall รามคำแหง, Major Cineplex รามคำแหง, Gateway เอกมัย, ม.รามคำแหง, ม.อัสสัมชัน

เมทริส พระราม 9 – รามคำแหง เป็นคอนโด High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 2-0-25 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 570 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 30.00 – 59.00 ตร.ม. โครงการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องประชุมส่วนตัว, ห้องอเนกประสงค์, Social Lounge, Co-Working Space, สระว่ายน้ำ พร้อมส่วนจากุชชี่, ห้องสตีมและซาวน่า, สวนพักผ่อน, สวนบาร์บีคิวดาดฟ้า, พื้นที่สีเขียวรอบโครงการ, พื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์, ลิฟท์ล็อกชั้น, ที่จอดรถ, พื้นที่ล้างรถ พร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

พิกัด Google : 13.748434, 100.606896

ที่ตั้งโครงการ เมทริสพระราม 9 – รามคำแหง ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง มีทางเข้าออกทั้งสองทาง แต่ทางหลักจะเป็นฝั่งพระราม 9 อยู่ฝั่งขาออกเมืองติดเกือบติดแยกรามคำแหงเลย โดยถนนพระราม 9 เป็นถนนที่มีจุดเริ่มจากแยกพระราม 9 ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนรัชดาภิเษก และถนนอโศก-ดินแดง มุ่งหน้าไปทางตะวันออก ผ่านแยกถนนวัฒนธรรม ผ่านจุดตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม และผ่านแยกรามคำแหงตัดกับถนนรามคำแหง ไปสิ้นสุดที่ทางแยกต่างระดับศรีนครินทร์ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์ในพื้นที่เขตสวนหลวง โดยมีถนนมอเตอร์เวย์เป็นเส้นทางต่อเนื่อง

ส่วนทางเข้าฝั่งรามคำแหง จะอยู่ฝั่งที่มุ่งหน้ามาทางแยกรามคำแหง โดยห่างจากแยกรามคำแหงประมาณ 140 ม. ถนนรามคำแหงเป็นเส้นที่ตัดจากแยกคลองตัน ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ และถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดี พนมยงค์) มาตัดผ่านแยกรามคำแหง (จุดตัดกับถนนพระราม 9) ผ่านแยกราม 24 – หลังราม ผ่านแยกวัดเทพลีลา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านถนนกาญจนาภิเษก ผ่านแยกรามคำแหง – ร่มเกล้า และไปสิ้นสุดที่ถนนสุวินทวงศ์

การเดินทางเข้าเมือง จากโครงการมาแยกรามคำแหงใช้เส้นพระรามเก้าวิ่งไปเข้าพระรามเก้าได้เลย หรือตัดเข้าเอกมัย อโศกได้ เชื่อมไปดินแดง อนุสาวรีย์ชัยฯ หรือออกวิภาวดีรังสิตก็ได้ มีจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชไม่ไกลจากแยกรามคำแหง จากโครงมาแยกคลองตันใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิท 71 เส้นเพชรบุรี ถ้าใช้เส้นสุขุมวิท 71 มาปากซอยจะเจอกับถนนสุขุมวิทซึ่งวิ่งไปเอกมัย ทองหล่อ อโศกยาวไปชิดลม สยามได้เลย หรือจากแยกพระโขนงสามารถมาเข้าถนนพระราม 4 ก็ได้ ไปออกลุมพินี สีลม สาทร ข้ามไปฝั่งทน หรือไปสายย่าน หัวลำโพง เยาวราช มีทางด่วนให้ขึ้นตรงท่าเรือครับ ถ้าใช้เส้นเพชรบุรีก็วิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวเป็นเส้นที่วิ่งขนานกับสุขุมวิทและจะตัดเข้าท้ายซอยเอกมัย ทองหล่อ อโศก ชิดลม ยาวไปประตูน้ำ ราชเทวีได้เลย

การเดินทางออกนอกเมือง เส้นรามคำแหงวิ่งออกนอกเมืองแยกลำสาลี ซึ่งตัดไปเข้าเส้นลาดพร้าว และเสรีไทยได้ หรือเลยไปถนนกาญจนาภิเษกตัดไปได้ทั้งฝั่งโซนลำลูกกา รังสิต หรืออีกฝั่งมาทางบางนา สมุทรปราการ เส้นพระรามเก้าฝั่งขาออกเมือง จะมีจุดตัดกับเส้นศรีนครินทร์ เส้นกาญจนาภิเษก ไปโซนลาดกระบัง และเชื่อมกับมอเตอร์เวย์วิ่งไปออกชลบุรี พัทยาได้เลย หรือมาใช้เส้นพัฒนาการตัดเข้าศรีนครินทร์ ไปสมุทรปราการได้ หรือยาวไปประเวศ ลาดกระบัง ถ้ามาทางพระโขนง ไปอ่อนนุช บางนา นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้ทางด่วนรามทินทรา-อาจณรงค์ทั้งฝั่งไปโซนรามอินทรา และไปโซนบางนา ระยะจากโครงการประมาณ 1.5 กม.เท่านั้น

ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม. จากโครงการวิ่งไปเข้าถนนพระรามเก้า จะเจอทางขึ้นทางด่วนครับเข้าเมืองได้เลยสะดวกดี

นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทั้งฝั่งไปโซนรามอินทรา และไปโซนบางนา ระยะจากโครงการประมาณ 1.5 กม.

การเดินทางโดยสาธารณะ เดินออกมาฝั่งถนนรามคำแหงย้อนขึ้นมาประมาณ 130 ม. มีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก ตรงป้ายรถเมล์มีวินมอเตอร์ไซค์ หน้าโครงการโบกเรียก Taxi ได้เลยสะดวกดีทั้งสองฝั่ง ตัวโครงการอยู่ห่างจาก ARL รามคำแหงประมาณ 900 ม. ใครจะเดินไปก็ได้ ระวังตอนข้ามถนนกันด้วยครับ นั่ง ARL ไปลงมักกะสันห่างเพียง 1 สถานีจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับ MRT เพชรบุรี ถ้าจะเปลี่ยนเป็น BTS ก็นั่ง MRT มาเปลี่ยนที่อโศก หรือนั่ง ARL ไปลงพญาไทได้เลย มีท่าเรือด่วนคลองแสนแสบอยู่ด้านหลัง ARL รามคำแหงคือท่าเรือรามหนึ่ง นั่งไปได้ทั้งอโศก ชิดลม ประตูน้ำ มาบุญคลอง ผ่านฟ้าลีลาศ หรือออกไปโซนรามคำแหงได้เลย ส่วนใครที่เดินทางไปสนามบินบ่อยๆ ขึ้น ARL ต่อเดียวถึงสนามบินสุวรรณภูมิเลย

เว็บไซต์โครงการ : http://www.mrta-orangeline.net/

นอกจากนี้ในอาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ตัดมาจากศูนย์วัฒนธรรมเข้าถนนพระรามเก้า ผ่านแยกรามคำแหง เข้าสู่เส้นรามคำแหง ซึ่งจะผ่านหน้าโครงการเลย โดยสถานีที่ใกล้โครงการจะอยู่บริเวณ The Mall รามคำแหง คือสถานีรามคำแหง 12 คงต้องรอกันอีกสักพักใหญ่ ถ้าเปิดใช้บริการได้คงสะดวกมากข้ึนครับ

วีดีโอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยออกแนวชุมชนดั้งเดิม รวมทั้งอาคารพาณิชย์ หอพัก คอนโดมิเนียมช่วงนี้มีโครงการใหม่ๆให้เห็นมากขึ้นครับ ซึ่ง เมทริสพระราม 9 – รามคำแหง ก็เป็นโครงการใหม่ในย่านนี้เลย

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทตรง BTS พระโขนง จากนั้นมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 71 ขับตรงไปสุดซอยจนถึงแยกคลองตัน ข้ามแยกไปเข้าถนนรามคำแหง ตรงไปผ่าน ARL รามคำแหง ข้ามแยกรามคำแหง และตรงไปกลับรถ จากนั้นก็ขับตรงมาโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนนรามคำแหงเลย ก่อนถึงแยกรามคำแหงประมาณ 140 ม.

สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ซอยสุขุมวิท 71 > ถนนรามคำแหง > กลับรถ > Metris พระราม 9 – รามคำแหง

เร่ิมจากถนนสุขุมวิท ตรงหน้าเป็น BTS พระโขนง เราจะขับตรงตามป้ายปรีดี พนมยงค์ครับ

จากนั้นขวามือติดกับสถานีจะเป็น Summer Hill คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ย่านนี้ครับ

จากนั้นเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 71 ตามป้ายคลองตันไปครับ

ชิดเลนซ้ายไว้

จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 71 ครับ

เลี้ยวเข้าซอยมาก็ขับตรงไปจนถึงแยกคลองตันเลย

ถัดมาขวามือจะเจอ Max Valu

จากนั้นจะเจอมัสยิดอี่ดาย่าตุ้ลอิสลาม

ติดกันเป็น รร.สุเหร่าสามอิน

จากนั้นจะเจอปั๊ม ESSO

และจะเห็นอาคารวิจิตร

และจะเจอแยกคลองตัน ให้ขับตรงข้ามแยกไปเข้าถนนรามคำแหง ถ้าเลี้ยวซ้ายไปถนนเพชรบุรี เลี้ยวขวาไปถนนพัฒนาการ

ข้ามแยกมาซ้ายมือเป็น UM Tower ขวามือเป็นโรงแรม NASA ติดกับ UM Tower มีตลาดขายอาหาร

เข้ามาดูภายในตลาดข้างๆ UM Tower ก็จะมีร้านอาหารตามสั่ง, อาหารมุสลิม ซึ่งแถวนี้คนมุสลิมเยอะ มีโต๊ะเก้าอี้สามารถนั่งทานได้เลย แล้วลานตรงกลาง จะมีตลาดนัดตอนเที่ยง มีพ่อค้า แม่ค้า มาตั้งขายของเยอะพอสมควร แต่พอเลยเที่ยงเค้าก็จะเก็บกลับบ้านกันละ ช่วงเที่ยงจะค่อนข้างคึกคัก

ออกมาหน้าตลาดเดินต่อไปอีกหน่อย

เดินมาจะเจออาคาร UM Tower เป็นอาคารสำนักงานสูง 30 ชั้นครับ

ด้านหน้าอาคารมีป้ายรถเมล์

ติดกันมีวินมอเตอร์ไซค์

ถัดมาจะเจอ ARL รามคำแหง ตั้งขนานกับถนนกำแพงเพชร 7 และแนวรถไฟสายตะวันออก

เดินไปดูตัวสถานี ARL รามคำแหงต่อครับ

มีป้ายบอก ARL รามคำแหง และท่าเรือรามหนึ่ง จุดนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 900 ม. ใครชอบเดินก็ได้นะครับ หรือนั่งวินมาจะไวกว่า

ตรงสถานี ARL รามคำแหงจะมีคอมมูนิตี้มอลล์ชื่อว่า NASA Street

มีวินมอเตอร์ไซค์จอดรอด้านหน้า

อัตราค่าบริการครับ

พาเข้าไปดูด้านในกันหน่อยนะ ด้านหน้ามี Starbucks 2 ชั้น เปิดให้บริการ

โดยตัว ARL กับ NASA Street นี่เดินเชื่อมกันได้เลย…

เข้ามาด้านในมีร้านอาหารเปิดประปราย ไม่ได้เปิดเต็มสูบขนาดนั้น ซึ่งร้านสำคัญ ๆ ก็อยู่ด้านหน้าเดินมาใช้บริการได้ง่าย ๆ

Subway ก็มีเวลาเช้า แวะซื้อก่อนไปทำงานได้

มี 7-11 ขนาดใหญ่พอสมควร

ทางขึ้นไปชานชลารถไฟ ช่วงกลางวันคนน้อย ไม่วุ่นวายดี

ขึ้นมาด้านบนบริเวณตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

บรรยากาศเงียบ ๆ แบบนี้ก็ดีครับ

จากชานชลาด้านบนก็จะมีป้ายบอกทางไปท่าเรือรามหนึ่งตลอดทาง

เดินลงมาแล้วไปดูกันต่อทีท่าเรือ โดยท่าเรือจะอยู่ด้านหลังสุดของ ARL สถานีรามคำแหง

บริเวณท่าเรือรามหนึ่ง นั่งไปประตูน้ำ, สยาม ยันผ่านฟ้าลีลาศได้เลยนะ

มองย้อนกลับเข้ามาด้านใน

กลับมาที่สถานี ARL จะมีทางเชื่อมสะพานเพื่อข้ามถนนไปอีกฝั่งที่ชั้นสองแบบนี้

ทางเชื่อมกว้างดี เดินได้สะดวก มีหลังคาคลุมตลอดทาง ไม่ต้องห่วงเรื่องแดด เรื่องฝน สุดทางลงจะเจอกับโรงแรมนาซ่า เวกัส

ดูบรรยากาศจากมุมสูงกันหน่อย ฝั่งนี้เป็นฝั่ง UM Tower มุ่งหน้าสู่แยกคลองตัน

มองกลับมาอีกฝั่งเป็นถนนรามคำแหง มุ่งหน้าสู่แยกรามคำแหง

เดินลงจากทางเชื่อมมานี่จะเจอกับโรงแรมนาซ่า เวกัส โรงแรมนี้แขกที่เข้ามาพักส่วนมากจะเป็นทัวร์จีน ประเทศอื่นๆก็มี ช่วง High Season คนจะเยอะหน่อย ส่วนช่วง Low Season ก็จะเงียบๆ

กลับลงมาที่ถนนรามคำแหง ถัดจาก ARL รามคำแหงมุ่งหน้าไปแยกรามคำแหงต่อครับ ขวามือเป็น รพ.แพทย์ปัญญา

จากนั้นจะเจอแยกรามคำแหงให้ตรงข้ามแยกไปครับ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปพระรามเก้า เลี้ยวขวาไปออกมอเตอร์เวย์ได้

ข้ามแยกรามคำแหงมา โครงการจะอยู่ขวามือครับ เราต้องตรงไปกลับรถอีกประมาณ 1 กม.

ถัดมาจะเจอ Food Land ซ้ายมือ ห่างจากโครงการประมาณ 200 ม.

ติดกันเป็น KFC Drive Thru

เลยมาอีกหน่อยจะเจอ The Mall ราม 2 และ 3 ห่างจากโครงการประมาณ 650 ม.

ถัดมาจะเจอ Major รามคำแหงห่างจากโครงการประมาณ 850 ม.

จากนั้นจะเจอจุดกลับรถ ให้กลับรถได้เลยครับ

กลับรถมาก็ขับตรงไปอีกครับ

ผ่าน The Mall ราม 2 และ 3

ขวามือจะเห็น Food Land

จากนั้นจะเจอธนาคารไทยพาณิชย์ซ้ายมือ เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการเมทริสพระราม9 – รามคำแหงได้เลย

และจะเห็นพื้นที่โครงการ ตอนนี้มีสำนักงานขายตั้งอยู่ด้านหน้าเลย ฝั่งนี้จะเป็นทางเข้าออกโครงการอีกทางครับ ส่วนทางเข้าออกหลักจะอยู่ตรงถนนพระรามเก้า

ภายในสำนักงานขายแบ่งออกเป็นสองชั้น ส่วนแรกเข้ามาจะเจอเคาน์เตอร์ผนังสีทองมันเงาสูงเด่นถึงฝ้าชั้นบน ชั้นสองจะเป็นห้องตัวอย่างที่มีให้ชมแบบเดียวครับ

เดินเข้ามาด้านในจะมีโมเดลโครงการตั้งอยู่ พร้อมเก้าอี้ไว้ให้นั่ง

พื้นที่โครงการเมทริสพระราม 9 – รามคำแหงทิศเหนือติดกับอาคารสำนักงานของ Major สูง 27 ชั้น ทิศใต้จะเป็นด้านหน้าโครงการติดกับถนนพระรามเก้า และแนวทางด่วนศรีรัช ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ The Base Garden สูง 36 ชั้น ฝั่งทิศตะวันตกจะเป็นทางเข้าออกอีกทางติดกับถนนรามคำแหง อีกส่วนจะติดกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น และพื้นที่ว่างเปล่านิดหน่อย ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ The Base พระรามเก้าสูง 35 ชั้น และโครงการ Ideo New พระรามเก้าสูง 24 ชั้น ฝั่งทิศตะวันออกที่ดินติดกับพื้นที่ว่างเปล่า และติดกับอาคารสำนักงาน PPG Coatings 5 ชั้น

ฝั่งที่ติดกับกถนนรามคำแหงเป็นทางเข้าออกอีกทาง ตอนนี้มีสำนักงานขายตั้งอยู่

มองไปทางซ้ายติดกับธนาคารไทยพาณิชย์

มองไปทางขวาติดกับที่ดินของอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ The Base พระรามเก้า และโครงการ Ideo New พระรามเก้า(อยู่ในช่วงก่อสร้าง)

มองไปทางแยกรามคำแหง

มองไปอีกฝั่ง

ผมพาเดินไปดูฝั่งด้านหน้าโครงการที่อยู่ติดถนนพระรามเก้าครับ เดินตามทางเท้าไปทางแยกรามคำแหงต่อ

ถัดมาจะเป็นรั้วที่ดินของอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น

ส่วนรั้วโครงการจะอยู่ด้านในครับ

หันกลับมาทางเดิมต่อ

เดินมาถึงแยก ซ้ายมือจะเป็นคลินิกแพทย์ปัญญา

หน้าคลินิกมีที่จอดรถ

เลี้ยวซ้ายมา จะเป็นริมถนนพระรามเก้าครับ

เดินเลยมาอีกจะเจอรั้วด้านหน้าโครงการครับ

ด้านหน้าโครงการฝั่งนี้จะอยู่กับที่ดินใต้ทางด่วนศรีรัช ฝั่งนี้จะเป็นทางเข้าออกหลักของโครงการ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นแนวทางด่วน และสะพานข้ามแยก

ด้านข้างจะติดกับอาคารสำนักงาน PPG Coatings 5 ชั้น

มองจากมุมกลับไปที่โครงการ

พื้นที่ภายในโครงการตอนนี้อยู่ในช่วงปรับหน้าดิน พื้นที่หลักๆจะแบ่งเป็น 2 ส่วนนะครับ ฝั่งด้านในจะเป็นสำนักงานออฟฟิศของ Major ส่วนพื้นที่โครงการจะอยู่ติดกับถนนพระรามเก้า

มองไปฝั่งที่ติดถนนรามคำแหงจะเห็น 2 โครงการ The Base พระรามเก้า และ Ideo New พระรามเก้า

ฝั่งทิศเหนือพื้นที่ติดกับธนาคารไทยพาณิชย์ แต่ตัวโครงการจริงจะถูกอาคารสำนักงานบังพอดีครับ (ดูได้จากในโมเดล)

ฝั่งทิศตะวันออกโครงการติดกับ PPG Coatings

มองไปฝั่งด้านหน้าที่ติดถนนพระรามเก้า จะเห็นแนวทางด่วน และโครงการ The Base Garden 36 ชั้น

วิวทิศเหนือจากชั้น 30 มองเข้าไปทางรามคำแหง วิวดูโล่งดี

วิวฝั่งทิศตะวันออกจากชั้น 30 มองไปทางถนนพระรามเก้า ฝั่งขาออกเมือง ฝั่งนี้อาคารสูงยังไม่ค่อยมีครับ

วิวฝั่งทิศใต้ด้านหน้าโครงการ จากชั้น 30 มองไปทางแยกคลองตัน จะเห็นอาคารสูงตามแนวถนนเส้นหลัก อีกหน่อยวิวตรงนี้จะโดนโครงการ The Base Garden สูง 36 ชั้นบังตรงกลางภาพเลยครับ

วิวฝั่งทิศตะวันตกจากชั้น 30 มองเข้าไปโซนพระรามเก้า เห็นแนวอาคารสูงในเมือง ฝั่งตรงข้ามจะมีโครงการ The Base พระรามเก้า และ Ideo New พระรามเก้า

กลับมาด้านหน้าสำนักงานขาย เดินไปทาง Food Land กันต่อครับ

ติดกับโครงการเป็นธนาคารไทยพาณิชย์

มีทางเท้าเดินสะดวกยาวไปถึง The Mall ได้เลย

จากนั้นจะเจอป้ายรถเมล์ มีวินมอเตอร์ไซค์ตรงนี้ด้วย

อัตราค่าบริการพี่วิน นั่งไป ARL รามคำแหง 20 บาท

ถัดจากป้ายรถเมล์มามีสะพานลอยเดินข้ามฝั่ง

ขึ้นมาบนสะพานลอย มองไปฝั่งแยกรามคำแหง ตัวโครงการจะอยู่ซ้ายมือครับ

มองไปอีกฝั่ง ซ้ายมือเป็น Food Land ห่างจากโครงการประมาณ 200 ม. ถัดไปอีกเป็น The Mall ราม 2 และ 3 ห่างจากโครงการประมาณ 650 ม.

ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการ จากโครงการฝั่งถนนรามคำแหงเดินข้ามสะพานลอยไปจะมี Food Land เปิด 24 ชม. ห่างจากโครงการประมาณ 200 ม. ติดกันมี KFC ถัดไปอีกจะเป็น The Mall ราม 2 และ 3 ห่างจากโครงการประมาณ 650 ม. ล่าสุดกลุ่มเดอะมอลล์ เตรียมปรับปรุงครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีการทุบทิ้งแล้วก่อสร้างใหม่ในรูปแบบมิกซ์ยูส คาดใช้เวลาก่อสร้าง 2-3 ปี เพื่อรองรับสถานีรถไฟฟ้ารามคำแหง 12 ที่ผ่านหน้าโครงการ ติดกับ The Mall เป็น Major เดินไปดูหนังกันได้เลย หรือเลยไปอีกมี หัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ , เมเจอร์ ฮอลีวูด มีตลาดนัด กกท ซึ่งเป็นตลาดนัดชื่อดังย่านรามคำแหงเลยมีของกิน ของใช้ เสื้อผ้า รองเท้าขายเพียบครับ หรือตามริมทางเท้าตั้งแต่หน้า The Mall ไปจะมีร้านค้า ร้านอาหารหลายร้านเลยครับ รวมไปถึงตลาดสด แถวนี้ของกินเยอะดีครับ หรือมาตรงแถว ARL รามคำแหงมี NASA Street มี Starbuck , Subway และร้านค้า มีตลาดเอกรินทร์ตรงตึก UM Tower ตรงเส้นพระรามเก้ามี The Nine ส่วนห้างสรรพสินค้าเส้นพัฒนาการมี London Street , Lotus , Max Value

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

โซนรามคำแหง-พัฒนาการ

• Food Land รามคำแหง : 200 ม.
• The Mall รามคำแหง 2 , 3 : 650 ม.
• Major Cineplex รามคำแหง : 850 ม.
• NASA Street : 900 ม.
• ตลาดเอกรินทร์ : 950 ม.
• Huamark Town Center : 1 กม.
• Major Hollywood รามคำแหง : 2.5 กม.
• สนามราชมังคลากีฬาสถาน : 3.2 กม.
• ตลาดนัด กกท : 3.9 กม.
• London Street : 4.9 กม.
• Tesco Lotus พัฒนาการ : 5 กม.
• MaxValue พัฒนาการ : 5.3 กม.
• Thanya Park ศรีนครินทร์ : 6.4 กม.

โซนเพชรบุรี-พระราม 9

• The Nine พระราม 9 : 2.5 กม.
• Food Land เพชรบุรี : 3.6 กม.
• RCA : 3.7 กม.
• G Land Tower : 4.8 กม.
• Super Tower : 4.8 กม.
• Fortune Town พระราม 9 : 5 กม.
• Central Grand พระราม 9 : 5 กม.
• Tesco Lotus พระราม 9 : 5.2 กม.
• Esplanade : 6.2 กม.

โซนเอกมัย-ทองหล่อ

• J Avenue ทองหล่อ : 4 กม.
• Big C เอกมัย : 4 กม.
• Summer Hill พระโขนง :4.6 กม.
• Tops Market ทองหล่อ : 4.6กม.
• Major Cineplex เอกมัย : 5 กม.
• ขนส่งเอกมัย : 5.2 กม.
• ท้องฟ้าจำลอง : 5.3 กม.
• Gateway เอกมัย : 5.5 กม.
• Bangkok Mediplex : 5.6 กม.
• Rain Hill : 6.4 กม.

โซนพร้อมพงษ์-อโศก

• Shinsen Fish Market : 4.6 กม.
• The District EM : 6.5 กม.
• Terminal 21 : 8.5 กม.
• Robinson สุขุมวิท : 8.5 กม.

:: โรงพยาบาล ::

• รพ.ปิยะเวช : 3.2 กม.
• รพ.เพชรเวช : 3.3 กม.
• รพ.คามิลเลียน : 3.4 กม.
• รพ.กรุงเทพ : 3.5 กม.
• รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 4.7 กม.
• รพ.สุขุมวิท : 5 กม.
• รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 5.3 กม.
• รพ.รามคำแหง : 6.6 กม.

:: สถานศึกษา ::

• ร.ร.เทพลีลา : 2.6 กม.
• ม.รามคำแหง : 3.1 กม.
• ร.ร.สาธิต ม.รามคำแหง : 3.1 กม.
• ABAC วิทยาเขตหัวหมาก : 3.9 กม.
• สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น : 4.2 กม.
• ม.เกษมบัณฑิต : 4.3 กม.
• มศว : 5.6 กม.
• ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ : 6.6 กม.
• ร.ร.สาธิต มศว : 6.8 กม.
• ม.กรุงเทพฯ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท : 7 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• แยกรามคำแหง : 140 ม.
• แยกคลองตัน : 1.1 ม.
• แยกโรงปูน : 1.6 ม.
• แยกเอกมัยเหนือ : 2.3 กม.
• แยกรามคำแหง 24 (เสรี) : 2.3 กม.
• แยกทองหล่อเหนือ : 2.7 กม.
• แยกประดิษฐ์มนูธรรม : 3.3 กม.
• แยกพระโขนง : 4.6 กม.
• แยกเอกมัย : 5.7 กม.
• แยกทองหล่อ : 5.1 กม.
• แยกอโศก-เพชรบุรี : 5.2 กม.
• แยกอ่อนนุช : 6.1 กม.
• แยกอโศก : 6.7 กม.
• ถนนพระราม 9 : 140 ม.
• ถนนเพชรบุรี : 1.1 กม.
• ถนนเพชรพระราม : 1.6 กม.
• ถนนเอกมัย : 2.3 กม.
• ถนนทองหล่อ : 2.7 กม.
• ถนนอโศกมนตรี : 5.2 กม.
• ถนนสุขุมวิท 77 : 6.3 กม.
• ทางพิเศษศรีรัช : 1.1 กม.
• ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ : 1.5 กม.

Model

เมทริสพระราม 9 – รามคำแหง เป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น ตัวอาคารภายนอกรูปทรงสี่เหลี่ยมตัว L มีเล่นลวดลายเส้นสายที่ Facade ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติ ด้านหลังของอาคารจะเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานของ Major เอง ใช้โครงสร้างรากฐานเดียวกันแต่แบ่งขอบเขตพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน ตัวอาคารที่ชั้น 1 จะเป็น Facility ชั้นจอดรถจอดได้ถึงชั้น 3 และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 45% รวมซ้อนคัน ส่วนชั้นพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 4-33 ครับ Facility อยู่ที่ชั้น 4 และชั้นดาดฟ้าครับ

แนวคิดการออกแบบสไตล์ Mid-Century Modern (MCM) คือจุดกำเนิดของ Modern design เมทริสเกิดจากการผสมผสานของ “Retro-Modernist” กลุ่มคนที่หลงใหลในงานดีไซน์ เราจึงเลือกใช้งานดีไซน์ในยุค MCM ซึ่งเป็นสไตล์ที่ทรงอิทธิพลและคงคุณค่าเหนือกาลเวลา เป็นต้นแบบของดีไซน์ในทุกมิติชีวิตเมือง หัวใจสำคัญคือการลดทอนการออกแบบ ให้เรียบง่ายพร้อมการใช้งานอันชาญฉลาด Metris ต่อยอดปรัชญาระดับ Master ของ MCM สู่การ Remaster ใหม่ด้วยเทคนิคและวัสดุยุคปัจจุบัน ลงในทุกองค์ประกอบของโครงการนี้เพื่อตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยและตัวตนที่ลึกซึ้ง อย่างสมบูรณ์แบบ

ตัวอาคารใช้โทนสีเทาเข้มและอ่อน เล่นลวดลายที่เปลือกอาคาร ทำให้ดูมีมิติ

ฝั่งด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนพระราม 9 และแนวทางด่วนศรีรัช ฝั่งตรงข้ามหน้าโครงการ มีโครงการ The Base Garden สูง 36 ชั้น

ทางเข้าออกแยกสำหรับทางรถ และทางคนเดิน พื้นที่ด้านหน้าที่ติดกับรั้วโครงการเป็นที่ดินของทางด่วน โครงการจัดเป็นสวนหย่อมมาให้

ผ่านทางเข้าโครงการมาเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ ส่วนถนนภาระจำยอมด้านฝั่งนี้จะเป็นเส้นที่เชื่อมไปออกฝั่งถนนรามคำแหงครับ ส่วนการเดินรถจะเป็นแบบไหนรอดูตอนสร้างเสร็จอีกทีครับ

จากด้านหน้าโครงการเข้ามาเลี้ยวซ้ายไปจะเจอจุดDrop Off วนจอดหน้า Lobby ได้เลย

ภาพจำลองส่วน Lobby กั้นเป็นสัดส่วน

ภาพจำลองห้อง Social Lounge

ภาพจำลอง Private Meeting Room แบ่งแยกเป็นสัดส่วน

ถัดจาก Drop Off เข้ามาจะเป็น Co-Working Space และจะเจอทางเข้าที่จอดรถในอาคาร ตรงมุมอาคารมีจุดจอดสำหรับล้างรถให้ 2 คันครับ ที่ชั้น 4 จะมียูนิตพักอาศัยพิเศษคือ จะได้พื้นที่สวนส่วนตัวที่เชื่อมออกมาจากระเบียงห้องทุกยูนิตครับ

ภาพจำลองส่วน Co-Working Space With Sound Domes จัดชุดโต๊ะและโซฟาไว้ให้นั่ง ผนังด้านซ้ายเป็นกระจกสูงถึงฝ้า

ที่ชั้นดาดฟ้าจะเป็นสวนไว้ให้เดินเล่นชมวิว ซ้ายมือมีพื้นที่สำหรับ Pet Zone โครงการนี้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ครับ โดยน้ำหนักต้องไม่เกิน 15 กก. มีค่าใช้จ่ายต่อปี 3,600 บาท

ชั้นดาดฟ้าอีกฝั่งเป็นสวนหย่อมทั้งหมด มีพื้นที่ให้นั่ง หรือเดินเล่นได้

ภาพจำลองบริเวณชั้นดาดฟ้า

ภาพจำลองพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง มีรั้วกั้นไว้ให้

ฝั่งทิศตะวันตกติดกับถนนรามคำแหง จะมีทางเข้าออกได้อีกทาง พื้นที่โครงการจะติดกับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 5 ชั้น มองจากฝั่งนี้จะเห็นว่าตัวอาคารอยู่ติดกับอาคารสำนักงานของ Major มี 27 ชั้นแต่ความสูงเท่ากับโครงการเลยคาดว่าจะสร้างเสร็จก่อนโครงการครับ

มองลงมาฝั่งนี้จะเห็นทางเข้าออก และมีถนนด้านข้าง มีที่จอดรถใต้อาคาร ที่ชั้น 4 จะมีสระว่ายน้ำครับ

ขนาดสระว่ายน้ำ 13 x 29 ม. แบ่งสระเด็ก ส่วนยูนิตพักอาศัยที่ชั้น 4 จะมีสวนส่วนตัวที่เชื่อมออกมาจากระเบียงห้อง มีแนวพุ่มไม้บังสายตารอบๆสระว่ายน้ำ

ภาพจำลองสระว่ายน้ำที่ชั้น 4

ที่ชั้นดาดฟ้าฝั่งนี้ตัวอาคารออกแบบเป็นแท่งๆวางสลับกัน เปิดเป็นช่องโล่งบ้างทึบบ้าง

ฝั่งทิศเหนือตัวโครงการจะโดนอาคารสำนักงานของ Major เองบังวิวพอดีเลยครับ

มองลงมาจะเห็นทางเข้าแบบนี้ ฝั่งนี้หลักๆก็จะเป็นส่วนของสำนักงาน

มาดูฝั่งทิศตะวันออกกันบ้าง ฝั่งนี้พื้นที่จะติดกับอาคารของ PPG Coatings สูง 5 ชั้น

มองลงมาจะเห็นถนนที่เชื่อมต่อกันระหว่างโครงการและอาคารสำนักงาน

ฝั่งนี้จะมองเป็น Lobby และ Dynamic Fitness Center

ภาพจำลอง Dynamic Fitness Center มีบันไดวนขึ้นไปอีกชั้น

Floor Plan

จาก Master Plan โครงการ พื้นที่ของ Major ทั้งหมดจะเกือบคล้ายๆสี่เหลี่ยมผืนผ้า และแบ่งเป็น 2 ส่วนคือเป็นโครงการพักอาศัย และอาคารสำนักงาน โดยวางอาคารไว้ตรงกลาง และล้อมด้วยถนน ทำให้มีทางเข้าออกโครงการได้ทั้งฝั่งถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง

ทางเข้าโครงการเมทริสพระราม 9 – รามคำแหง ทางหลักอยู่ฝั่งถนนพระราม 9 เข้ามาจะเจอจุด Drop Off ซ้ายมือวนจอดหน้า Lobby ผ่านเข้ามาอีกจะเจอทางเข้าที่จอดรถในอาคาร ถัดมาเป็นจุดจอดล้างรถ 2 คัน ถัดมาอีกจะเจอทางเข้าที่จอดรถในอาคารอีก ภายในอาคารที่ชั้น 1 จะมี Lobby , Co-working Space , Dynamic Fitness Center , Meeting room , Multi Purpose Room , Socail Lounge ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว

ซูมตรงพื้นที่ชั้น 1 ของโครงการเมทริสพระราม9-รามคำแหงให้ดูครับ

แปลนชั้น 4 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 19 ยูนิต แบ่งเป็นห้องแบบ 2 Bed 6 ยูนิต และที่เหลือจะเป็น 1 Bed ทั้งหมดครับ ทุกยูนิตที่ชั้นนี้จะได้พื้นที่สวนส่วนตัวที่เชื่อมออกมาจากระเบียงห้อง และที่ชั้นนี้เป็นชั้น Facility มีสระว่ายน้ำขนาด 13 x 29 ม. แบ่งสระเด็ก มีส่วนจากุซซี่ และพื้นที่นั่งริมสระ

แปลนชั้น 5-33 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดครับ มีทั้งหมด 19 ยูนิต เป็นห้องแบบ 2 Bed 6 ยูนิต ที่เหลืออีก 13 ยูนิตเป็นแบบ 1 Bed ทั้งหมดครับ

แปลนชั้นดาดฟ้าจะเป็นสวนแบ่งเป็นส่วน Living Pavilion , BBQ Pavilion , Pet Zone สัตว์เลี้ยงใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ที่ชั้นนี้เท่านั้นครับ

Units Layout

เมทริสพระราม 9 – รามคำแหง มีห้องให้เลือกดังนี้

• 1 Bed 1 Bath ขนาด 30.00 – 30.50 ตร.ม.
• 2 Bed 1 Bath ขนาด 48.00 – 50.50 ตร.ม.
• 2 Bed 2 Bath ขนาด 59.00 ตร.ม.

1 Bed 30.00 ตร.ม.

1 Bed 30.00 ตร.ม. Private Garden 23 ตร.ม.

1 Bed 30.50 ตร.ม.

1 Bed 30.50 ตร.ม.

1 Bed 30.50 ตร.ม. Private Garden 28 ตร.ม.

1 Bed 30.50 ตร.ม. Private Garden 23 ตร.ม.

1 Bed 30.50 ตร.ม. Private Garden 23 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 48.00 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 48.00 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 49.50 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 50.50 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 48.00 ตร.ม. Private Garden 20 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 48.00 ตร.ม. Private Garden 23 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 49.50 ตร.ม. Private Garden 34 ตร.ม.

2 Bed 1 Bath 50.50 ตร.ม. Private Garden 24 ตร.ม.

2 Bed 2 Bath 59.00 ตร.ม.

2 Bed 2 Bath 59.00 ตร.ม. Private Garden 36 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มีแบบเดียวครับ

• 2 Bedroom ขนาด 49.50 ตร.ม.

ห้องที่พามาชมเป็น 2 Bedroom 1 Bath ขนาด 49.50 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนรับประทานอาหารก่อนเลยเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่นด้านใน ระเบียงจะอยู่ติดห้องนั่งเล่น ติดกับประตูห้องจะเป็นส่วนครัวได้เป็นครัวเปิด ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง Master Bedroom จะอยู่มุมด้านใน ส่วนห้องน้ำมีห้องเดียวอยู่หน้าห้อง Master Bedroom

เริ่มจากบานประตูสีไม้อ่อนๆ

ได้ Digital Door Lock ของ Hafele พร้อมมือจับแบบคันโยก

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนรับประทานอาหารก่อนเลย เชื่อมกับส่วนของห้องนั่งเล่นด้านใน ในสุดจะเป็นระเบียง ขวามือติดกับประตูห้องจะเป็นส่วนครัว และทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องน้ำ พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังห้องจะได้แบบฉาบเรียบทาสี ส่วนความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.65 ม.

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ ฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนครัว

พื้นที่ส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นจะใช้งานร่วมกันครับ

วางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งให้ดู

ถัดเข้าไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น จากโต๊ะรับประทานอาหารสามารถมองไปยังทีวีได้

วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง พื้นที่สามารถวางโซฟาตัว L ได้ครับ

ระยะดูทีวีประมาณ 2.62. ม.

ถัดไปเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน เหนือประตูติดแอร์ 1 ตัว

เปิดประตูออกมาจะเจอระเบียงขนาด 3.96 x 0.81 ม.

ฝั่งด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 3 ตัว มีระแนงบังสายตา

กลับเข้ามาด้านในห้องกันต่อครับ

ติดกับประตูห้องจะเป็นส่วนครัว ได้เป็นครัวเปิด และเป็นทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นตู้บานเปิดขนาด 6 บานและลิ้นชักสองชั้น ทุกบานมี Soft Close มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า มุมด้านในมีพื้นที่ให้วางตู้เย็น

ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกขนาด 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele ผนังด้านในกรุกระเบื้องมาให้เลย ท็อปเป็นหินควอทซ์

อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวของ Hafele ฝังท็อปมาให้เรียบร้อยดี

ถัดจากส่วนครัวเข้าไปฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ในสุดเป็นห้องน้ำ พื้นที่ทางเดินส่วนนี้กว้างประมาณ 1.2 ม.

ห้องแรกซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็ก ติดกันเป็น Master Bedroom ในสุดเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องนอนเล็ก ขนาดไม่ได้เล็กมาก

วางเตียงเดี่ยวมาให้ดู พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 53 ซม.

ข้างเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 1.5 ม.

ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 45 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.5 ม.

ด้านในมีพื้นที่ไว้ให้วางโต๊ะทำงานได้ มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน แอร์ติดผนังซ้ายมือ 1 ตัว

ตรงพื้นที่ริมหน้าต่างนี้ขนาดประมาณ 1.5 x 1.36 ม. วางโต๊ะทำงานแบบนี้ก็ได้ครับ หรือจะวางเป็นโซฟาไว้นั่งเล่น

ฝั่งด้านในมีพื้นที่ไว้ให้วางตู้เสื้อผ้าได้ โครงการไม่ได้แถมให้นะครับ

มาต่อกันที่ Master Bedroom มีพื้นที่มาให้พอสมควร

วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดู ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 65 ซม.

ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.58 ม.

ข้างเตียงฝั่งริมหน้าต่างเหลือประมาณ 65 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.6 ม.แอร์ติดผนัง 1 ตัว

หน้าต่างในห้องนอนเป็นแบบบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

ฝั่งด้านในมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าได้ จะออกแบบเองหรือซื้อแบบสำเร็จรูปมาวางก็ได้

ตู้เสื้อผ้าแบบห้องตัวอย่างทำแบบบานเปิดให้ดูความสูงถึงฝ้า

ออกจากห้องนอนมา จะเป็นห้องน้ำอยู่ด้านในสุด

ภายในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน กระจกเงาให้บานไม่ใหญ่เท่าไหร่

อ่างล้างหน้าได้ทรงสี่เหลี่ยมของ Lavenz ก็อกน้ำของ Hafele ขอบอ่างมีพื้นที่ให้วางของ

ติดกันวางโถสุขภัณฑ์ของ Hafele

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน เฟรมกระจกเป็นสีดำ

ด้านในติดตั้งฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Hafele มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้พร้อมเลย

หน้าตาฝักบัวที่ได้ทรงกลม ขนาดพอดีมือ

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.49 x 0.93 ม.

ราคา (ต.ค.60)

• 1 Bed 1 Bath ขนาด 30.00 – 30.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 3.2 ล้านบาท
• 2 Bed 1 Bath ขนาด 48.00 – 50.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 4.95 ล้านบาท
• 2 Bed 2 Bath ขนาด 59.00 ตร.ม. ราคาเริ่ม 6.1 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม

เงินจอง 50,000 บาท เงินทำสัญญา 5% ของราคาห้อง

ดาวน์ 15% แบ่งชำระ 28 เดือน

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – เมทริสพระราม 9 – รามคำแหง ตั้งอยู่ติดแยกรามคำแหงเลย ย่านนี้จะออกแนวชุมชน มีทั้งบ้านพักอาศัย และหอพัก ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 1 ปีที่ผ่านมาเร่ิมคึกคักมากขึ้น มีโครงการใหม่ๆเข้ามาจัดสรรพื้นที่กันพอสมควร น่าจะด้วยการขยายตัวของเมืองมากขึ้น และด้วยการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้ม เมทริสพระราม 9 – รามคำแหงก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ แถวนี้คนมุสลิมอาศัยอยู่เยอะ อย่างฝั่งตรงข้ามโครงการมีชุมชนเยรูซาเล็ม และมัสยิดอยู่ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการอยู่ในระดับพอประมาณในระยะเดิน มีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านรถเข็นตามสองฝั่งทางถนนรามคำแหง มีตลาดสดใกล้ๆแถวตึก UM หรือไปทางฝั่งรามคำแหงจะคึกคักมากกว่า มีทั้ง Food Land , เดอะมอลล์ ราม 2 และ เดอะมอลล์ ราม 3 , เมเจอร์รามคำแหง , หัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ , เมเจอร์ฮอลลีวูด , ตลาดนัด กกท ย่านรามคำแหงจะมีร้านอาหารอร่อยๆหลายร้านครับ แต่หาที่จอดรถลำบากหน่อย นอกจากนี้ตรงเส้นพระรามเก้ายังมี The Nine เส้นรัชดาที่เชื่อมจากพระราม 9 มีเซ็นทรัล , ฟอร์จูน หรือวิ่งเข้า พร้อมพงษ์ เอกมัย ทองหล่อในระยะไม่เกิน 9 กม. มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆให้เลือกเดินได้เลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง เข้าออกโครงการได้ทั้งสองทาง การเดินทางค่อนข้างสะดวกเวลาเข้าเมืองเลือกใช้ได้ทั้งเส้นเพชรบุรี แล้วไปเชื่อมเข้าซอยสุขุมวิทต่างๆทั้งเอกมัย ทองหล่อ อโศก นานาเหนือ ชิดลม ประตูน้ำ หรือจะใช้เส้นพระราม 9 ก็มีทางเชื่อมเข้าเพชรบุรีได้ หรือวิ่งเข้าไปโซนแยกพระราม 9 ไปออกอโศกดินแดง จตุรทิศ รัชดาภิเษก หรือตรงไปดินแดงเข้าราชเทวี ไปอนุสาวรีย์ หรือเลี้ยวเข้าวิภาวดีตรงแยกดินแดงก็ทำได้สะดวก ถ้าจะไปโซนพระรามสี่ก็มาแยกคลองตันที่เป็นจุดตัดกับเส้นเพชรบุรี ข้ามไปเข้าสุขุมวิท 71 หรือปรีดีพนมยงค์ ออกไปปากซอยก็เป็นถนนสุขุมวิทวิ่งไปเข้าเส้นพระรามสี่ ยาวไปลุมพินี สีลม สาทร สามย่าน หัวลำโพง มีทางด่วนให้ขึ้นตรงท่าเรือ ถ้าจะออกนอกเมือง โซนบางนา ลาดกระบัง สมุทรปราการ ก็ใช้เส้นพัฒนาการ ได้ หรือเส้นสุขุมวิทก็ได้ครับ อีกโซนคือลาดพร้าว ใช้เส้นรามคำแหง แต่ต้องไปกลับรถครับ จากนั้นวิ่งไปแยกลำสาลี ไปบางกะปิ ลาดพร้าว มีนบุรี นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และรามอินทรา-อาจณรงค์ เส้นพระราม 9 สามารถวิ่งออกไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก และมอเตอร์เวย์ไปชลบุรี พัทยาสะดวกเลย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – มีป้ายรถเมล์ใกล้ๆโครงการ มีรถวิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก ตรงป้ายรถเมล์มีวินมอเตอร์ไซค์ หน้าโครงการโบกเรียก Taxi ได้เลยสะดวกดีทั้งสองฝั่ง ตัวโครงการอยู่ห่างจาก ARL รามคำแหงประมาณ 900 ม. นั่ง ARL ไปลงมักกะสันห่างเพียง 1 สถานีจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับ MRT เพชรบุรี ถ้าจะเปลี่ยนเป็น BTS ก็นั่ง MRT มาเปลี่ยนที่อโศก หรือนั่ง ARL ไปลงพญาไทได้เลย มีท่าเรือด่วนคลองแสนแสบอยู่ด้านหลัง ARL รามคำแหงคือท่าเรือรามหนึ่ง นั่งไปได้ทั้งอโศก ชิดลม ประตูน้ำ มาบุญคลอง ผ่านฟ้าลีลาศ หรือออกไปโซนรามคำแหงได้เลย ส่วนใครที่เดินทางไปสนามบินบ่อยๆ ขึ้น ARL ต่อเดียวถึงสนามบินสุวรรณภูมิเลยสะดวกดี และแถว The Mall จะมีทั้งรถเมล์ รถตู้ สองแถววิ่งผ่านไปมาเยอะพอสมควรครับ อนาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มเพิ่มขึ้นมาอีก โดยสถานีที่ใกล้โครงการสุดจะอยู่ตรง The Mall แต่คงต้องรออีกสักพัก

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร สูง 33 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาด 2-0-25 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นตัว L ออกแบบโดยใช้เส้นสายแนวตั้งที่เรียบง่าย สีภายนอกอาคารใช้โทนเทาเข้มและอ่อน ที่ชั้น 1-3 และลงไปใต้ดินอีก 2 ชั้น เป็นชั้นจอดรถ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 – 33 ส่วนกลางหลักๆอยู่ที่ชั้น 1 , 4 และดาดฟ้าครับ

การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือก 2 แบบหลักๆ คือ 1 Bed ขนาดเริ่ม 30.00 – 30.50 ตร.ม. , 2 Bed ขนาดเร่ิม 48.00 – 59.00 ตร.ม. ห้องออกแบบมาแบ่งเป็นสัดส่วน ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 2.65 ม. โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี ชุดครัว อ่างล้างจาน และ Hob & Hood ของ Hafele สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Hafele และ Lavenz พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก แอร์ได้แบบติดผนังตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน ประตูได้ Digital Door Lock ของ Hafele

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 , 4 และดาดฟ้า ที่ชั้น 1 มี Lobby , Co-Working Space , Social Lounge , Dynamic Fitness Center , Private Meeting Room , Multi Purpose Room ที่ชั้น 4 เป็นสระว่ายน้ำขนาด 13 x 29 ม. แบ่งสระเด็ก มีส่วนจากุซซี่ และห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อมห้องสตรีมและซาวน่า ส่วนที่ชั้นดาดฟ้าจัดเป็นสวนหย่อมพร้อมที่นั่งพักผ่อน และมีพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ โครงการนี้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 15 กก. และมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียให้ส่วนกลางปีละ 3,600 บาท ลิฟท์โดยสารมีให้ 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-3 และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จอดได้ประมาณ 45% รวมซ้อนคัน ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-116-1111

Website : http://www.mde.co.th/th/project/metrisrama9ramkumhang

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

EP.940 รีวิว คอนโด ไลฟ์ อโศก-พระราม 9 Life Asoke-Rama 9

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะขอพาไปชมห้องตัวอย่างโครงการ ‘Life อโศก – พระราม 9’ คอนโดใหม่ล่าสุดจาก AP ร่วมทุนกับ Mitsubishi Estate Groupในแบรนด์ Life หลังจากมีการเปลี่ยน Brand Positioning ให้เข้ามาอยู่ในคอนโดที่หรูมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ได้เปิดตัวรุ่นพี่มาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ Life ลาดพร้าว กับ Life One Wireless ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งคู่ค่ะ

สำหรับโครงการ Life อโศก – พระราม 9 นี้ จะตั้งอยู่บนถนนอโศก – ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ระยะทางประมาณ 300 เมตร และ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน ระยะทางประมาณ 550 เมตร ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ ทั้ง Central พระราม 9, Fortune Tower, G Tower, Tesco Lotus เป็นต้น

ไลฟ์ อโศก-พระราม 9 เป็นคอนโด High-Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 42 ห้องพักอาศัยจำนวน 1,298 ยูนิต และ อาคาร B สูง 45 ชั้นห้องพักอาศัยจำนวน 950 ยูนิต รวม 2,248 ยูนิต +2 ยูนิตร้านค้า พื้นที่โครงการขนาด 8-3-11 ไร่ มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 25 – 58 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted เปิดจอง Online วันที่ 8 พ.ย. และ Presale วันที่ 11 – 12 พ.ย. ณ สำนักงานขาย

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการขนาดใหญ่ ครบครัน จุดเด่นคือส่วนกลาง Rooftop ขนาดใหญ่ 1.5 ไร่ ไล่ระดับ 3 ชั้น ส่วนกลางประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ 3 สระ เป็นสระขนาดใหญ่ ยาว 50, 40 และ 23 เมตร, ฟิตเนส 2 ชั้น, สวนพักผ่อน และส่วนกลางชั้นล่างอื่นๆ อาทิ Grand Lobby กับ Super Co-Working Space มี Free WIFI บนพื้นที่ส่วนกลางทุกจุด, ห้องจดหมาย, ประตูคีย์การ์ด, ที่จอดรถ คิดเป็น 40% หรือ 905 คัน ไม่รวมซ้อนคัน, กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 300,000 บาท* คลิก : https://goo.gl/d4KCzb

ที่ตั้งโครงการ

ถนนอโศก-ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

พิกัด : 13.7543567,100.5638778

แผนที่จากทางโครงการ แสดงที่ตั้งโครงการและสถานที่สำคัญรอบๆโครงการค่ะ

โครงการ Life อโศก – พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนจตุรทิศ ฝั่งมุ่งหน้าถนนอโศก – ดินแดง ที่วิ่งตรงเชื่อมไปถนนรัชดาภิเษกได้ ใครที่ได้ยินว่าตั้งอยู่บนถนนจตุรทิศอาจจะฟังดูไกลๆ และคิดว่าจะเดินทางลำบากหรือเปล่านะ? … สำหรับโครงการนี้แล้วถือว่าไม่ลำบากเลยค่ะ เพราะทำเลที่ตั้งจริงๆตั้งอยู่ระหว่าง CBD ปัจจุบัน ค่อนมาทางบริเวณของ New CBD ในอนาคต คือย่านพระราม 9 และรัชดาภิเษก ใกล้แยกพระราม 9 และ แยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งถือได้ว่าเป็นโซนของแหล่งธุรกิจสำคัญของกทม. มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้างและอาคารสำนักงานหลายแห่งทั้งอาคารสำนักงาน ขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่ดั้งเดิม และอาคารใหม่ๆ ที่กำลังบูม อย่าง G-Tower ที่เป็นทั้งอาคารสำนักงานและมีร้านต่างๆเปิดอยู่ภายในอาคารในอนาคตจะ The Super Tower ตึกสูง 125 ชั้น ซึ่งจะเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย และ อาเซียน ยิ่งทำให้ความคึกคักของย่านนี้เพิ่มขึ้นๆ ทุกวันค่ะ

และยังอยู่ในระยะของรถไฟฟ้าทั้ง MRT พระราม 9 และ Airport Rail Link มักกะสัน นอกจากนั้นเมื่อเทียบราคาเฉลี่ยกับโครงการข้างเคียงแล้วยังมีราคาที่น่าจับจองเป็นเจ้าของกว่าพอสมควรค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากตัวโครงการเลยจะต้องอาศัย Taxi เท่านั้น ไม่มีรถโดยสารอื่นๆวิ่งผ่านค่ะ แต่ในระยะที่ใกล้โครงการจะมีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้ 2 เส้นทาง คือ MRT พระราม 9 ที่สามารถเดินจากโครงการไปถึงตัวสถานี(ทางออก 3)ได้เลย ในระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยจะมีทางคนเดินข้างโครงการจะมาโผล่บนถนนอโศก – ดินแดง ช่วงตีนสะพานข้ามคลองสามเสนในพอดีค่ะ ไม่ต้องเดินจากหน้าโครงการ ซึ่งฟุตบาทช่วงหน้าโครงการจะเดินลำบากหน่อย เพราะเป็นฟุตบาทเล็กๆ

และ Airport Rail Link มักกะสัน มีระยะทางจากโครงการประมาณ 550 เมตรค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ของโครงการสามารถใช้เส้นทางเข้าได้ 2 เส้นทางคือจากทางเข้าหลักถนนจตุรทิศฝั่งมุ่งหน้าอโศก – ดินแดง และจากถนนอโศก – ดินแดง โดยใช้ซอยไม้ดัด ซึ่งเป็นเส้นทางที่สะดวกทีเดียวค่ะ โดยวิ่งตรงมาจากเส้นอโศก หรือเพชรบุรีก็สามารถเข้าโครงการได้เลย ส่วนทางเข้าจากฝั่งจตุรทิศถ้าเดินทางมาจากทางฝั่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากเส้นพญาไท หรือเข้าเส้นราชปรารภมาก็จะเข้าโครงการสะดวก วิ่งตรงเข้าเส้นจตุรทิศฝั่งมุ่งหน้าอโศก – ดินแดงได้เลย ส่วนถ้ามาจากเส้นอื่นก็อาจจะต้องวนรถนิดหน่อยเพื่อเข้าเส้นจตุรทิศค่ะ (เส้นที่เชื่อมเข้าโครงการได้จะมี ถนนราชปรารภ, ถนนศรีอยุธยา, ถนนประชาสงเคราะห์(ถ้าใช้เส้นดินแดงให้วิ่งฝั่งมุ่งหน้าราชวิถี แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกโบสถ์แม่พระจะเข้าเส้นจตุรทิศมุ่งหน้าเข้าโครงการได้เลยค่ะ) และถนนดินแดงตัดใหม่ค่ะ)

ส่วนการเดินทางจากโครงการไปยังสถานที่อื่นๆ เช่น โซนรัชดา, เทียมร่วมมิตร, ห้วยขวาง, สุทธิสาร หรือออกไปยังโซนวิภาวดีรังสิต ถือว่าเดินทางได้สะดวก โดยออกจากหน้าโครงการ ตรงเข้าถนนอโศก – ดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งยาวไปได้เลย แต่การเดินทางเข้าเมืองไปยังโซนเพชรบุรี, อโศกมนตรี, สุขุมวิท หรือเข้าไปยังโซนสาทร, สีลม, พระราม 3 ก็จะต้องวิ่งไปกลับรถไกลหน่อยค่ะ โดยจุดกลับรถ คือเลี้ยวขวาตรงแยกพระราม 9 แล้วกลับรถตรงแยกอสมท. วิ่งกลับเข้ามาบนถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนอโศก-ดินแดง ฝั่งที่มุ่งหน้าไปอโศกมนตรี และอีกทาง คือออกจากหน้าโครงการแล้วเข้าถนนอโศก – ดินแดง ขับตรงไปผ่านแยกพระราม 9 ขับตรงไปเรื่อยๆ จะมีจุดกลับรถตรงหน้า The Street รัชดาฯ ค่ะ

สำหรับเส้นทางด่วนที่ใกล้โครงการจะมีให้เลือกใช้ คือทางด่วนศรีรัชทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกค่ะ โดยเส้นทางขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งขาเข้าจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.7 กม. เป็นด่านเก็บเงินอโศก 1 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 – 10 นาที

และจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชขาออกเมืองจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 11 นาทีค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ ในระยะที่ใกล้โครงการที่สุดส่วนใหญ่จะไปกองอยู่บนเส้นรัชดาภิเษก และเส้นอโศกซึ่งเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน บนเส้นรัชดาภิเษกจะมีห้างใหญ่ๆอย่าง Fortune Tower และ Central พระราม 9 ซึ่งอยู่ในระยะที่พอจะเดินไปถึงได้ประมาณ 750 เมตร สามารถเดินไปทานอาหาร, Shopping และดูหนังกันได้

ถัดออกไปทางโซนรัชดา, ห้วยขวาง, สุทธิสาร จะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่, และสถานที่ราชการที่สำคัญๆ เกาะตามแนวถนนหลัก และกระจายอยู่ตามซอยต่างๆ อยู่เยอะมาก เช่น Cyber World, AIA Capital Center, True Tower, RS Towe, อาคารตลาดหลักทรัพย์, สถานฑูตจีน, สถานฑูตเกาหลี, สถานฑูตลาว, สนง.ใหญ่ธอส. หากลงมาทางอโศกมนตรี ก็จะมีทั้ง Thai Summit Tower, OAI Tower, GMM, Sino-Tower, สถานฑูตอินเดีย และอื่นๆ อีกมากมาย

ทำให้มีซุ้มร้านอาหารราคาไม่แพงและตลาดนัดต่างๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปตามไปด้วยค่ะ เช่น ตลาดนัดรถไฟรัชดา, ตลาดละลายทรัพย์ และ ตลาดห้วยขวาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีของขายเยอะมาก

ส่วนสถานศึกษาในละแวกนี้จะมี โรงเรียนนานาชาติมากมาย เช่น วิทยาลัยนานาชาติ The Regent’s (RIC), รร.บางกอกทวิวิทย์, ร.ร.นานาชาติ NIS, ร.ร.นานาชาติ Anglo Campus 31, ร.ร.นานาชาติ Australian-ISB, ร.ร.นานาชาติ MISB, ร.ร.นานาชาติ ASB, รร. เซนต์ดอมินิก, รร.วัฒนาวิทยาลัย, ร.ร.สาธิต มศว.ประสานมิตร และ มศว.ประสานมิตร

และโรงพยาบาลใกล้ๆโครงการจะมี ร.พ.พระราม 9, ร.พ.ปิยะเวท, รพ.กรุงเทพ, รพ.บำรุงราษฎร์, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, รพ.คามิลเลียน, รพ.จักษุ รัตนิน และ รพ.ผิวหนังอโศก

การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าถนนพญาไท บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วิ่งตรงเข้าถนนพญาไท แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีอยุธยาที่แยกพญาไท เมื่อเข้าถนนศรีอยุธยาแล้วขับตรงขึ้นสะพานลอยเข้าถนนจตุรทิศขับตรงตามถนนไปเรื่อยๆ เบี่ยงซ้ายตามป้ายอโศก – ดินแดง ขับตรงไปเรื่อยๆจะเห็นโครงการทางซ้ายมือ

สรุปการเดินทาง ถนนพหลโยธิน > อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ > ถนนพญาไท > แยกพญาไท > ถนนศรีอยุธยา > ถนนจตุรทิศ > โครงการ Life อโศก – พระราม 9

เริ่มการเดินทางกันบนถนนพหลโยธินมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วเราขับตรงมุ่งหน้าเข้าถนนพญาไทค่ะ

ขับตรงมาเข้าถนนพญาไทแล้วเราจะเห็นโรงพยาบาลราชวิถีทางขวามือ

ถัดมาอีกหน่อยจะผ่าน BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เลยสถานี BTS มาแล้วเราจะผ่านห้าง Century ทางซ้ายมือ

ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงแยกพญาไทเราจะเห็นตึกวรรณสรณ์ทางซ้ายมือ

ถึงแยกพญาไทเราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีอยุธยา

เข้ามาบนถนนศรีอยุธยาแล้วเราใช้เลนกลาง ขับตรงมุ่งหน้าอโศก – ดินแดง (เข้าถนนจตุรทิศ) ระหว่างทางจะผ่านรร.ศรีอยุธยาทางซ้ายมือ

เราขับตรงต่อมาเรื่อยๆโดยใช้เลนกลางแล้วเราจะสามารถตรงขึ้นสะพานลอย โดยการเดินทางไปยังตัวโครงการเราจะวิ่งตามป้ายอโศก – ดินแดงไปเรื่อยๆค่ะ

ขึ้นสะพานมาแล้วเราจะเข้าสู่ถนนจตุรทิศ เราขับตรงต่อไปเรื่อยๆค่ะ

ซึ่งระหว่างทางจะมีทางแยก ทางเบี่ยงที่สามารถใช้ไปยังเส้นอื่นๆได้ ทางแยกแรกจะสามารถใช้วิ่งไปดินแดงได้

ขับตรงต่อมาจะเจอทางแยกที่สอง ซึ่งจะเป็นเส้นทางสำหรับกลับรถไปเข้าเส้นราชปรารภค่ะ

ขับตรงตามป้ายอโศกดินแดงต่อไปเรื่อยๆ

ทางแยกจุดที่สามสามารถใช้วิ่งไปประชาสงเคราะห์ได้

ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ สังเกตป้ายให้เราเริ่มใช้เลนซ้ายค่ะ

ใช้เลนซ้ายวิ่งตามป้ายไปเรื่อยๆ

ขับตามป้ายมาจะเจอทางเบี่ยงแยกให้เราใช้เลนซ้ายค่ะ

ขับตรงต่อมาอีกหน่อยเราจะถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือแล้วค่า

ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ

• ถนนอโศก – มนตรี : 150 ม.
• แยกพระราม 9 : 350 ม.
• แยกอ.ส.ม.ท. : 900 ม.
• แยกผังเมือง : 1.2 กม.
• แยกอโศก-เพชรบุรี : 1.5 กม.
• แยกเทียมร่วมมิตร : 2.1 กม.
• แยกดินแดง : 2.4 กม.
• แยกอโศกมนตรี : 2.9 กม.
• แยกเหม่งจ๋าย : 4.2 กม.

สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ

โซนแยกพระราม 9 (ถนนรัชดาภิเษก)

• ตลาดอยู่เจริญ : 350 ม.
• The Grand Rama 9 : 650 ม.
• Fortune Town : 800 ม.
• Esplanade Cineplex : 1.6 กม.
• ตลาดละลายทรัพย์รัชดา : 1.7 กม.
• ตลาดนัดรถไฟรัชดา : 1.8 กม.
• Big C Extra : 1.9 กม.
• The Street รัชดา : 2 กม.
• Show DC Mall : 2.3 กม.
• สยามนิรมิต : 3 กม.

• Unicity : 800 ม.
• อาคารภคินท์ : 900 ม.
• True Tower : 1.2 กม.
• อาคารตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานใหญ่ : 1.2 กม.
• AIA Capital Center : 1.3 กม.
• กรมโยธาธิการ และผังเมือง : 1.3 กม.
• สถานฑูตจีน : 1.8 กม.
• การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (MRTA) : 2.1 กม.
• สำนักงานใหญ่ ธอส. : 2.2 กม.
• MCOT (อ.ส.ม.ท.) : 2.5 กม.
• ศูนย์วัฒนธรรม : 2.5 กม.
• สถานฑูตเกาหลี : 2.8 กม.
• Cyber World : 4 กม.

• ร.ร.บางกอก ทวิวิทย์ : 4.3 กม.
• วิทยาลัยนานาชาติ RIC : 4.6 กม.

• รพ.พระราม 9 : 1.4 กม.
• รพ.ปิยะเวช : 2.5 กม.
• รพ.กรุงเทพ : 4.1 กม.

โซนแยกอโศก-เพชรบุรี (ถนนอโศกมนตรี)

• Terminal 21 : 4.2 กม.
• ตลาดนัดแกรนด์ มินิพลาซ่า : 4.1 กม.
• ตลาดเพชรอโศก : 3 กม.
• Interchange 21 Tower : 2.9 กม.
• Shinsen Fish Market : 2.7 กม.
• Mid Town Asoke : 2.1 กม.
• ตลาดรวมทรัพย์ : 2 กม.
• GMM Tower : 2.2 กม.
• Sino-Tower : 2.5 กม.
• สภาวิชาชีพบัญชี : 2.5 กม.
• พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง : 2.6 กม.
• สถานฑูตอินเดีย : 2.9 กม.
• Thai Summit Tower : 2.9 กม.
• OAI Tower : 2.9 กม.

• วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโก : 1.9 กม.
• ร.ร.เซนต์ดอมินิก : 2 กม.
• ร.ร.สาธิต มศว.ประสานมิตร : 3.3 กม.
• มศว.ประสานมิตร : 3.3 กม.
• ร.ร.นานาชาติ NIST. : 4 กม.
• ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย : 4 กม.
• ร.ร.นานาชาติ Australian-ISB : 4 กม.
• ร.ร.นานาชาติ MISB : 4.6 กม.

• รพ.ผิวหนังอโศก : 1.3 กม. (เดิน 900 ม.)
• รพ.จักษุ รัตนิน : 1.8 กม.
• รพ.บำรุงราษฎร์ : 3.1 กม.
• รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 4.4 กม.
• รพ.คามิลเลียน : 5.5 กม.

รอบๆโครงการ

• ทิศเหนือ ติดกับคลองสามเสน ข้ามคลองไปเป็นโครงการ Ashton อโศก – พระราม 9
• ทิศใต้ ติดกับถนนจตุรทิศ และทางด่วนศรีรัช
• ทิศตะวันออก ติดกับถนนอโศก – ดินแดง, โครงการ Rhythm Asoke I
• ทิศตะวันตก ติดกับที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยสูง 1 – ชั้น

ด้านหน้าที่ดินโครงการค่ะ ตัวที่ตั้งอาคารจริงๆจะอยู่ด้านใน พื้นที่ข้างหน้าส่วนนี้จะเป็นถนนใหญ่เข้าไปยังตัวโครงการ

ขยับเข้ามาดูในซอยตรงพื้นที่ ที่ล้อมรั้วตาข่ายสีเขียวไว้คือพื้นที่ของสำนักงานขาย ซึ่งจะตั้งอยู่ตรงนี้ยาวๆจนกว่าจะขายหมดค่ะ

ด้านหน้าที่ดินจะติดกับถนนจตุรทิศ

บรรยากาศด้านหน้าโดยรวมตอนนี้อาจจะยังดูเงียบๆ แต่หลังจากโครงการเสร็จเรียบร้อยบรรยากาศก็จะดูเจริญ ปลอดภัยมากขึ้นค่ะ

ติดกับที่ดินโครงการทางซ้ายมือ เป็นบ้านเดี่ยว ถัดไปเป็นอพาร์ทเมนท์ สูง 4 ชั้น ส่วนอาคารสูงที่เราเห็นด้านหลังคือโครงการรุ่นพี่ Chewathai Residence และ Rhythm Asoke I

จากที่ตั้งโครงการเราจะลองเดินไปตรงเส้นอโศก – ดินแดง จนถึงแยกพระราม 9 และ MRT พระราม 9 เพื่อดูบรรยากาศโดยรวมกันนะคะ ซึ่งจากภาพนี้จะเห็นว่าทางเข้าหลักโครงการจะเดินเท้าไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะจะมีฟุตบาทแค่บางช่วง

ส่วนที่มีฟุตบาทก็จะค่อนข้างแคบเดินลำบาก แต่ใครที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะเค้ามีทางเข้าสำหรับคนเดินเท้าอีกทาง สะดวกกว่ามาก

ซึ่งเส้นทางเข้าโครงการด้านข้าง ที่เชื่อมกับถนนอโศก – ดินแดงที่เราบอกไปข้างต้นคือการใช้ซอยไม้ดัดนั่นเองค่ะ โดยตัวซอยจะเชื่อมเข้าสู่ตัวโครงการได้ 2 ด้าน คือจากถนนจตุรทิศ​และจากถนนอโศก – ดินแดง ระหว่างโครงการคอนโดของชีวาทัยและ Rhythm Asoke I

จากซอยนี้เราก็จะมองเห็นโครงการฝั่งติดถนนอโศก – ดินแดงทั้ง 2 โครงการได้อีกเช่นกันค่ะ

เราเดินมาจนถึงช่วงทางโค้งเชื่อมถนนอโศก – ดินแดง จะเริ่มมีฟุทบาทกว้างเดินสะดวกแล้วค่ะ

พ้นช่วงโค้งมาแล้วเราก็จะเข้าสู่ถนนอโศก – ดินแดงแล้วค่า

ออกมาบนถนนอโศก – ดินแดงแล้วเราจะเห็น 2 คอนโดรุ่นพี่ ชีวาทัยและ Rhythm Asoke I

และซอยไม้ดัดที่เราพูดถึงกันก่อนหน้านี้จะอยู่ระหว่าง ชีวาทัยและ Rhythm นี่เองค่ะ

บรรยากาศภายในซอยปัจจุบันอาจจะยังดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่เพราะยังมีการก่อสร้างของคอนโดข้างเคียง และตัวโครงการ Life เอง ซึ่งเดี๋ยวพอโครงการเสร็จหมด ซอยนี้ก็น่าจะเรียบร้อย เข้า ออกกันได้สะดวกค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด Rhythm Asoke II

เราลองเดินไปดูทางฝั่งพระราม 9 กันหน่อยค่ะ โดยเส้นทางที่ใช้เดินจะมีฟุทบาทกว้าง เดินได้สะดวก มองตรงไปจะเป็นสะพานข้ามคลองสามเสน

ตรงตีนสะพานมีคิวพี่วินให้ใช้บริการ

ข้ามมาฝั่งตรงข้ามเพื่อจะได้เห็นที่ตั้งโครงการที่ติดฝั่งอโศก – ดินแดงชัดๆ โดยเส้นทางคนเดินเข้าโครงการจะอยู่บริเวณนี้ แต่ทางนี้จะไม่สามารถใช้เป็นทางเข้ารถได้เพราะติดคอสะพานค่ะ

เดินขึ้นสะพานมาแล้วมองตรงไปเราจะเห็นอาคาร G Tower เด่นเชียวค่ะ

เดินมาจนถึงแยกพระราม 9 จะมีทางม้าลายทุกฝั่งเลยค่ะ เราสามารถเดินไปกลับโครงการได้สะดวก

ข้ามมาทางฝั่งพระราม 9 ก็มีทางม้าลายอีกเช่นกัน

ข้ามมาปุ๊ปจะเจออาคาร G Tower

ติดกันเป็นห้าง Central พระราม 9

และฝั่งตรงข้าม Central เป็นห้าง Fortune Tower ค่ะ

เดินเท้าจากโครงการมาประมาณ 700 เมตร จะถึงตัวสถานี MRT พระราม 9 ทางออกที่ 3 เป็นทางลงสถานีที่เดินมาโครงการได้สะดวกที่สุดค่ะ

ตัวโครงการ

วันนี้เรามีตัว Master Plan และแปลนส่วนกลางมาให้ดูคร่าวๆ กันก่อน เริ่มจาก Master Plan เราจะเห็นว่าตัวที่ดินโครงการจะอยู่ติดกับถนน 2 เส้น คือถนนจตุรทิศและถนนอโศก – ดินแดง ส่วนทางเข้าตัวโครงการจะมี 2 แบบคือทางเข้ารถและทางเดินเท้าเข้าโครงการ โดยทางเข้าหลักรถจะสามารถเข้าได้จากทางถนนจตุรทิศและอโศก – ดินแดงผ่านซอยไม้ดัด ส่วนอีกทางคือเส้นทางคนเดินจะมีทางเข้าติดกับสะพานข้ามคลองสามเสนในซึ่งจะสะดวกทั้งสภาพเส้นทางและจะมีระยะทางเพียง 300 เมตรเท่านั้นค่ะ

ขยับเข้ามาดูพื้นที่ด้านในโครงการกันบ้าง ขนาดที่ดินโครงการจะอยู่ที่ 8 – 3 – 11 ไร่ โดยพื้นที่บนชั้น 1 รอบนอกจะถูกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดรวมถึง 3 ไร่ ส่วนด้านในตัวอาคารจะมี Lobby ถัดเข้าไป ส่วนด้านหลังจะเป็นที่จอดรถ ซึ่งที่จอดรถจะมีทั้งหมดประมาณ 40% อยู่ที่ชั้น 1 – 6ค่ะ

ภาพบรรยากาศทางเข้าโครงการทำออกมาดูโปร่งดีค่ะ น่าจะช่วยปรับภูมิทัศน์ของที่ดินให้น่าอยู่ได้มากเลยทีเดียว

ส่วน Drop off และถนนภายในโครงการมองเข้าไปด้านในจะเห็นส่วน Lobby

พื้นที่สวนด้านนอกที่ชั้น 1 นอกจากสวนเขียวร่มรื่นแล้ว ก็จะมีอาคารที่จัดมาให้ภายในสวน ช่วยดึงการใช้งานของผู้อยู่อาศัยให้มานั่งเล่นภายในสวนได้มากขึ้น บรรยากาศสวนโดยรวมภายในโครงการ มีที่นั่งพักผ่อนกระจายอยู่ตามจุดต่างๆด้วยค่ะ

ภายในโถง Lobby สามารถนั่ง Take View สวนภายนอกได้

และจะมีโซนที่แบ่งสำหรับการนั่งที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น

จะเห็นว่าฝ้าเพดานของโถง Lobby จะได้โถงสูงโปร่ง และผนังจะได้เป็นกระจกแบบเต็มบาน สูงจรดฝ้า ทำให้โถงโปร่งและสว่างมากขึ้นค่ะ

นอกจากนั้นก็จะมีโซนที่แบ่งที่นั่งแบบ Private ด้วยเก้าอี้ที่มีพนักยื่นออกมาบังในระดับสายตา ทำให้คนที่ใช้งานมีสมาธิค่ะ

ขึ้นมาด้านบนจะเป็นพื้นที่ Co – Working Space ที่มีห้องประชุมที่ลูกบ้านสามารถจองเพื่อใช้งานได้

พื้นที่สวนบนชั้น 7 จะมีซุ้มที่นั่งมีหลังคาคลุมและจะมีปลั๊กติดตั้งไว้ให้ใช้งานทุกตัว

ขยับกันขึ้นมาที่ชั้น Rooftop ที่เป็นส่วนกลางหลักและถือเป็นจุดเด่นของโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะพื้นที่รวมบนชั้นนี้มีขนาดถึง 1.5 ไร่ ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ ณ ปัจจุบัน โดยพื้นที่ด้านบนนี้จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, พื้นที่สวน Rooftop, ห้องนั่งพักผ่อนและทำงาน

ภาพรวมของส่วนกลางบนชั้น Rooftop ขนาด 1.5 ไร่ ก็จะดูอลังการๆ หน่อยแบบนี้ค่ะ

ภายในห้องฟิตเนสผนังกระจกใสรอบ มองเห็นวิวเมือง ดีไซน์โดยรวมทำออกมาสวยดีค่ะ

บรรยากาศภายใน Lounge ชั้น Rooftop จัดออกมาได้สวยอีกเช่นกัน

สระว่ายน้ำมี 3 สระ โดย 2 สระจะเป็นสระขนาดใหญ่ 50 และ 45 เมตร บนชั้น Rooftop และมีสระยกระดับอีกสระอยู่เหนือสระใหญ่ที่เราเห็นในกรอบสีแดงค่ะ

ตัวสระที่ซ้อนอยู่ด้านบนจะเป็นสระโค้ง กระจกรอบ เหมาะสำหรับลงแช่น้ำพักผ่อนสวยๆ

จากสระว่ายน้ำจะมองเห็นวิวเมือง

พื้นที่พักผ่อนด้านหน้าจะเป็นสวนไล่ระดับ

ภาพจำลองบรรยากาศสวนด้านหน้า จะเป็นสวนไล่ระดับ ราวกันตกกระจกใสโดยรอบ และสวนนี้จะเชื่อมอยู่กับห้อง Home Theater ด้วยค่ะ

นอกจากนั้นก็จะมีห้องสำหรับนั่งพักผ่อนและทำงานด้วนบน ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้โดยรอบ

ภาพจำลองห้องพักผ่อนและทำงานบนชั้น Rooftop ผนังกระจกรอบ มองเห็นวิวเมือง หันหน้าไปทางฝั่ง Super Tower

แบบห้อง

แบบห้องในโครงการจะมีทั้งหมด 4 แบบ คือ

• Studio ขนาด 25 – 27.5 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 40 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาด 45 – 58 ตร.ม.

การวางยูนิตของห้องขนาด 27.5 ตร.ม. และ 35.5 ตร.ม. จะมีการออกแบบให้ตัวห้อง Interlock กัน ทำให้มีการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าและสามารถจัดพื้นที่ครัวให้กั้นเป็นครัวปิดได้ทั้ง 2 แบบค่ะ

ตัวอย่างแปลนของห้องแบบ Studio มีการจัดฟังก์ชั่นในห้องทั้ง 2 แบบให้มีครัวปิด และระเบียงภายในห้องครบค่ะ

ห้องแบบ 1 Bedroom จะมีขนาดเดียวคือ 32 ตร.ม. ภายในห้องจะแยกฟังก์ชั่นห้องนั่งเล่น, ห้องนอน, ห้องน้ำและห้องครัวปิดเป็นสัดส่วนชัดเจน

แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 40 ตร.ม. จะมีห้องอเนกประสงค์กั้นเพิ่มมาให้ 1 ห้อง ซึ่งเราสามารถที่จะจัดเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานได้ค่ะ

แบบห้อง 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ใช้สอย 45 – 58 ตร.ม. โดยห้องขนาด 45 – 46.5 ตร.ม. จะได้ 2ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำ ห้องครัวได้แยกเป็นสัดส่วนทุกห้อง

สำหรับห้อง 2 Bedrooms ขนาด 58 ตร.ม. จะได้ห้องขนาดใหญ่ขึ้น และฟังก์ชั่นภายในห้องจะได้ 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ โดยห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

ห้องตัวอย่าง

สำหรับห้องตัวอย่างที่ Sale Office จะมีทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมทั้ง 3 แบบกันเลยนะคะ คือห้อง

• Studio 27.50 ตร.ม., 1 Bedroom Plus 35.5 ตร.ม. ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้จะเป็นคู่ Interlock กัน ที่เป็น Highlight ของห้องในโครงการ และมีจำนวนเยอะที่สุดด้วยค่ะ
• 2 Bedrooms 45 ตร.ม.

มาเริ่มกันที่ห้องตัวอย่างแบบแรก ห้อง Studio ขนาด 27.50 ตร.ม. ที่จะ Interlock อยู่กับห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35.50 ตร.ม. เป็นคู่ Layout ที่ AP พัฒนาขึ้นมาใหม่และมีใช้ที่นี่เป็นโครงการแรก ซึ่งการวางแปลนห้องแบบนี้ทำให้ห้องทั้ง 2 แบบได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในห้องได้เต็มที่ โดยจุดเด่นของห้อง Studio คือจะได้ครัวปิด และห้องนอน + ห้องนั่งเล่นที่ได้ความรู้สึกกว้างกว่าห้อง Studio ทั่วๆไปที่เราเคยเห็นกัน สามารถจัดปรับแต่งพื้นที่ในห้องได้ตามใจค่ะ ส่วนจุดเด่นของห้อง 1 Bedroom Plus คือจะได้พื้นที่ครัวปิดที่มีขนาดค่อนข้างกว้างและแยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ไม่ไปกินพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร และห้องน้ำที่มีทางเข้าออก 2 ทางคือจากห้อง Master Bedroom และห้องทานอาหาร ส่วนห้องที่เป็นตัว Plus หรือห้องเอนกประสงค์ก็สามารถที่จะจัดวางเป็นห้องนอนได้เช่นกัน

เรามาเริ่มกันที่ห้องตัวอย่างห้องแรกกันเลย คือห้อง Studio ขนาด 27.50 ตร.ม.

พื้นด้านในห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้ทั้งห้อง ยกเว้นในห้องน้ำและระเบียง มีตัวจบลามิเนตติดตั้งมาให้เรียบร้อย

เข้ามาด้านในห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อน มองตรงไปจะเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น

ดวงไฟภายในห้องจะได้เป็นดาวน์ไลท์ทั้งหมด

เรามาดูพื้นที่ครัวกันก่อนค่ะ โดยพื้นที่ส่วนครัวที่ได้จะได้เป็นครัวปิด ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวมาให้ครบชุด พร้อม Hob & Hoods, ซิงค์ล้างจาน และเตาไฟฟ้า ระยะยืนทำครัวประมาณ 1.2 เมตร

Top เคาน์เตอร์จะได้เป็นหินเทียมสีขาว ผนังด้านหลังติดตั้งกระจกช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนพื้นที่ใช้สอยบนเคาน์เตอร์ครัวนี้จะมีพื้นที่สำหรับเตรียมของหรือวางที่คว่ำจานได้นิดหน่อย ไม่กว้างมากแต่ก็ไม่แคบเกินค่ะ

ซิงค์ล้างจานจะได้เป็นซิงค์ทางเหลี่ยมขอบมน ขนาดไม่กว้างเท่าไหร่ ลึกพอสมควร พร้อมก๊อกน้ำทรงโค้ง

ส่วนเตาไฟฟ้าได้ของยี่ห้อ FRANKE เป็นเตา 2 หัวค่ะ

ชุดตู้เก็บของเหนือเคาน์เตอร์จะได้เป็นตู้ทั้งหมด 3 บาน

บานเปิดทั้งหมดเป็นแบบ Soft Closed

ส่วนชุดตู้เก็บของด้านล่างจะแบ่งเป็นตู้เก็บของใต้อ่าง 1 บาน, ช่องวางเตาไมโครเวฟ และ 2 ลิ้นชัก

นอกจากนั้นยังมีดีเทลเล็กๆน้อยๆ ที่เค้าใส่มาให้ เป็นโต๊ะพับได้ที่จะเพิ่มพื้นที่ในการเตรียมอาหาร หรืออาจจะใช้เป็นโต๊ะทานอาหารช่วงเร่งด่วนไปด้วยในตัวเลยก็ได้ค่ะ โดยโต๊ะตัวจริงที่เราจะได้ใช้วัสดุเป็นสแตนเลส จะดูดีและแข็งแรงกว่านี้ค่ะ

จากห้องครัวทางขวามือจะเป็นส่วนของห้องน้ำ โดยบานประตูที่ได้ในห้องมาตรฐานคือบานไม้อัดกรุลามิเนต

ตัวห้องน้ำจะใช้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ธรณีประตูห้องน้ำเลยจะยกตัวขึ้นมาสูงหน่อยค่ะ ประมาณ 10 ซม.

ภายในห้องน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบ พร้อมแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน โดยบานกระจกเงาจะได้เป็นบานขนาดใหญ่เต็มพื้นที่แบบนี้เลยค่ะ

อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ American Standard ที่ตรงตัวเคาน์เตอร์อ่างด้านล่างจะมีราวสำหรับวางผ้าขนหนูติดตั้งมาให้ พร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ Grohe

ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Kogler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด คือสายชำระและที่วางกระดาษชำระ ตัวโถมีระยะการใช้งานที่พอดีๆ

ตัวสายชำระหน้าตามาตรฐาน

ถัดมาเป็นส่วนของห้องอาบน้ำ ทางโครงการติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อย บานเปิดแบบผลักเข้าไปในห้อง มีมือจับเป็นราวที่สามารถใช้ประโยชน์ด้วยการวางพาดผ้าเช็ดตัวได้

ด้านหลังบานประตูจะมีตัว Stopper สำหรับป้องกันประตูกระแทกผนังค่ะ

ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Grohe แบบปรับระดับได้มาให้ พร้อมที่วางของที่ผนังด้านข้างอีก 2 ช่อง

ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.75 x 0.95 เมตร ขนาดกระทัดรัดดีค่ะ

จากห้องครัวเราจะไปดูภายในห้องนอนและห้องนั่งเล่นกันต่อ โดยจะมีประตูกั้นมาให้เป็นบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้กว้างกว่าแบบบานเลื่อนคู่ทั่วไป โดยจะมีระยะทางเดินประมาณ 1.2 เมตรค่ะ

ตัวบานกรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีดำ มือจับแบบเซาะร่อง

เข้ามาถึงพื้นที่ด้านในจะเจอกับโถงห้องนอนและห้องนั่งเล่น ซึ่งอย่างที่บอกว่าการจัดวางของตัวแปลนแบบใหม่นี้จะทำให้เราได้ใช้พื้นที่อย่างเต็มที่ และได้ความรู้สึกว่าในพื้นที่ห้องส่วนนี้จะมีขนาดกว้างและโปร่ง ได้ Experience ที่แตกต่างจากห้อง Studio ทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะจัดมาเป็นแปลนตรงๆ ทำให้รู้สึกแคบค่ะ

เรามาดูทางฝั่งห้องนอนกันก่อน ในฝั่งนี้จะได้ช่องแสงบานให้ 1 จุด ขนาดห้องค่อนข้างกว้าง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบ

สำหรับขนาดเตียงที่เหมาะสำหรับห้องนี้จะเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ค่ะ

เมื่อจัดวางเตียงขนาดควีนไซส์ลงไปแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 50 ซม. พอให้เดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้ และอาจจะวางโคมไฟหัวเตียงขนาดไม่ใหญ่มากได้ด้วยค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานได้ 1 หลัง

ระยะการใช้งานของพื้นที่ฝั่งนี้เหลือเฟือค่ะ สามารถวางเก้าอี้ไว้นั่งเอนหลังได้อีกตัว

ช่องแสงที่ได้จะได้เป็นบานฟิกซ์ 2 บานและหน้าต่างบานกระทุ้งอีก 1 บาน

ตัวบานกระทุ้งจะเปิดระบายอากาศได้ประมาณนี้ค่ะ

บานเปิดหน้าต่างกระทุ้งมือจับแบบก้านโยก

พื้นที่อีกฝั่งของห้องจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น

ถ้ามองจากฝั่งห้องนอน ปลายเตียงจะเห็นมุมมองประมาณนี้ค่ะ

พื้นที่ปลายเตียงมีระยะห่างจากส่วนห้องนั่งเล่นพอให้เดินผ่านได้สะดวก ไม่ติดขัดค่ะ

สำหรับพื้นที่ในห้องนั่งเล่นนี้จะได้แสงธรรมชาติมาจากประตูที่เชื่อมระเบียงภายนอก สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศในวันอยู่ห้องและไม่อยากเปิดแอร์ได้ค่ะ

พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นนี้เหมาะที่วางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งค่ะ โดยระยะดูทีวีจะอยู่ที่ 1.40 เมตร สมารถวางทีวีขนาด 26″ – 32″ จะได้ระยะดูทีวีที่เหมาะสมค่ะ

สำหรับบานประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกจะได้เป็นบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง

ออกมาดูที่ระเบียงภายนอก จะได้ราวกันตกเป็นเหล็กซี่สีดำ ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์แบบลอยตัว พร้อมมีกริลล์บังสายตาจากภายนอกทำให้ตัวอาคารด้านนอกดูเรียบร้อยค่ะ

ตัวระเบียงกว้างประมาณ 0.9 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าขนาดเล็กๆได้

กลับเข้ามาในห้อง ให้ดูมุมจากห้องนั่งเล่นมองย้อนไปทางห้องนอนค่ะ

ถัดมาเราจะมาดูที่ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 กันต่อ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ค่ะ เมื่อเข้ามาในตัวห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารก่อนเป็นส่วนแรก มองตรงไปจะเป็นห้องเอนกประสงค์ (Plus) ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำและห้องนอน Master Bedroom และฝั่งขวามือเป็นส่วนห้องครัวค่ะ

พื้นที่ส่วนของห้องทานอาหารค่อนข้างกว้าง สามารถรับแสงธรรมชาติได้จากช่องแสงของห้องนั่งเล่นภายในค่ะ

ในส่วนของโต๊ะทานอาหาร ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง และยังมีพื้นที่เหลือรอบๆอีกเยอะ ใครที่มีเพื่อนๆมาเยี่ยมบ่อยก็สามารถที่จะวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ

สำหรับใครที่คิดว่าคงไม่ได้นั่งทานข้าวแบบจริงจังบ่อยๆ ห้องทานอาหารจึงอาจจะไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่ ดังนั้นพื้นที่ห้องทานอาหารส่วนแรกนี้เราก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่นได้

โดยโครงการจะมีติดตั้งปลั๊กไฟและช่องสัญญาณโทรทัศน์ไว้ให้เรียบร้อยเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ

ถัดมาเรามาดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ โดยห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด ใช้ประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกใส ช่วยให้ห้องดูไม่ทึบ

พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ทำความสะอาดง่ายและเหมาะสำหรับใช้ในห้องครัวมากกว่าพื้นลามิเนตค่ะ

ภายในห้องครัวจะได้ครัวที่มีขนาดค่อนข้างกว้างเลยค่ะ โดยพื้นที่ส่วนครัวนี้จะเป็นส่วนที่เกิดจากการ Interlock ของแปลนตามที่บอกไปข้างต้นทำให้ได้ห้องครัวที่แยกเป็นสัดส่วนมากขึ้นนั่นเองค่ะ

สำหรับอุปกรณ์ในห้องครัวก็จะได้เป็นมาตรฐานเหมือนห้องที่แล้วคือชุดเคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob & Hood, ซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว

ด้านข้างมีพื้นที่ให้วางตู้เย็นแบบเหลือๆ

ระยะยืนทำครัวประมาณ 1.3 เมตร ค่อนข้างกว้างใช้งานกันได้สะดวกค่ะ

กลับออกมาที่ห้องทานอาหารเราจะไปดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อ

โดยห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อน 3 ตอน บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกใส กั้นแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วน

พื้นภายในห้องเป็นลามิเนตเช่นกันค่ะ

เข้ามาภายในห้องนั่งเล่นจะมีช่องแสง 1 บานใหญ่ เป็นชุดหน้าต่างบานฟิกซ์ 2 บานและหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้

ขนาดของห้องสามารถที่วางโซฟาขนาด 2 – 4 ที่นั่งได้สบายๆ และมีระยะดูทีวีประมาณ 1.55 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 32″-42″ จะได้ระยะดูทีวีที่เหมาะสมกับระดับสายตาค่ะ

สำหรับห้องนั่งเล่นนี้ จริงๆแล้วจะเป็นห้องเอนกประสงค์ หรือห้องที่ Plus เข้ามานั่นเองค่ะ ซึ่งในห้องมาตรฐานจะได้มาเป็นห้องเปล่าๆ ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนไว้เป็นห้องนอนเล็กได้ หรือจะใช้เป็นห้องทำงานก็เหมาะ ส่วนห้องนั่งเล่นก็สามารถที่จะเอาไปไว้ที่ห้องทานอาหารด้านนอกแทนได้สบายๆค่ะ

จากห้องเอนกประสงค์หรือห้องนั่งเล่นเราจะไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ โดยบานประตูในห้องมาตรฐานจะได้เป็นบานไม้อัดทาสี

เข้ามาภายในห้องนอนจะมีขนาดกว้างมาตรฐาน สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบถ้วน ไม่อึดอัด มีช่องแสง 1 จุด เป็นประตูบานเลื่อนที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกค่ะ

เตียงที่เหมาะกับห้องนี้จะเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ แต่ถ้าใครชอบเตียงนอนกว้างๆก็ยังมีที่พอวางเตียงคิงส์ไซส์ได้ แต่อาจจะทำให้ห้องแน่นๆหน่อยค่ะ

สำหรับพื้นที่ข้างเตียงที่เหลือหลังจากวางเตียงขนาดควีนไซส์ลงไปแล้ว จะเหลือประมาณ 50 ซม. สามารถที่จะวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะจัดวางเป็นตู้เสื้อผ้า และมีทางเข้าห้องน้ำจากห้อง Master Bedroom ค่ะ

ระยะการใช้งานตู้เสื้อผ้าทางด้านนี้เหลือพอให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก และสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งขนาดไม่ใหญ่มากได้ค่ะ

ระยะปลายเตียงเหลือพอให้ดินได้สะดวก และมีเดินช่องสัญญาณโทรทัศน์ไว้ให้พร้อม

จากห้องนอนเราจะออกไปดูที่ระเบียงภายนอกกันต่อ โดยตัวบานประตูถึงแม้จะไม่ได้เป็นบานสูง แต่ก็กว้างเต็มพื้นที่ ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มๆเลยค่ะ

ขนาดระเบียงภายนอกกว้างประมาณ 0.9 เมตร สามารถวางราวตากผ้าได้

กลับเข้ามาในห้อง เราไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ โดยเราจะเข้าทางประตูที่เชื่อมจากในห้อง Master Bedroom ค่ะ

ภายในห้องน้ำสำเร็จรูปติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบถ้วน มี Shower Box มาให้พร้อม ขนาดห้องจะกว้างกว่าห้องแบบที่แล้วหน่อยค่ะ

อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ American Standard พร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ Grohe

ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด คือสายชำระและที่วางกระดาษชำระ ตัวโถมีระยะการใช้งานที่พอดีๆ เหนืออ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ใช้วางของได้นิดหน่อย

ส่วนของห้องอาบน้ำ ทางโครงการติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อย บานเปิดแบบผลักเข้าไปในห้อง มีมือจับเป็นราวที่สามารถใช้ประโยชน์ด้วยการวางพาดผ้าเช็ดตัวได้

ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Grohe แบบปรับระดับได้มาให้ พร้อมที่วางของที่ผนังด้านข้างอีก 2 ช่อง

ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.95 x 1 เมตร ค่อนข้างกว้าง อาบได้สะดวก

ถัดมาเป็นห้อง 2 Bedrooms ค่ะ เมื่อเข้าไปในห้องจะเจอกับส่วนห้องทานอาหาร ถัดไปเป็นห้องเอนกประสงค์ และระเบียง ฝั่งขวามือจะเป็นส่วนของห้อง Master Bedroom และห้องน้ำที่เข้าได้ 2 ทางคือจากห้องทานอาหารและห้องนอน ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวปิด และห้องนอนรองค่ะ

มาดูบรรยากาศภายในห้องกันต่อค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่โถงกว้าง แบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่ทานอาหาร และห้องนั่งเล่น

ฝั่งซ้ายมือจะติดกับห้องครัว และห้องนอนรอง ส่วนฝั่งขวามือจะติดกับห้อง Master Bedroom และห้องน้ำค่ะ

ในส่วนของพื้นที่ทานอาหารจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่ระยะการจัดวางโต๊ะทานอาหารจะค่อนข้าง Fixed ตำแหน่งพอสมควร คือจะต้องวางอยู่ระหว่างประตูห้องครัวและห้องนอนรอง ไม่งั้นจะเกะกะทางเดินค่ะ โดยขนาดโต๊ะทานอาหารที่สามารถใช้ได้จะเป็นโต๊ะ 4 – 6 ที่นั่ง กำลังดี

ห้องครัวสำหรับห้อง Type นี้ จะอยู่ติดกับห้องทานอาหาร โดยจะกั้นเป็นครัวปิดด้วยประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกใสค่ะ

ภายในห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวมาให้ครบชุด พร้อม Hob & Hoods, ซิงค์ล้างจาน และเตาไฟฟ้า 2 หัว

ระยะยืนทำครัวประมาณ 1 เมตร ค่อนข้างแคบนิดนึง พอให้ยืนทำครัวคนเดียวได้สะดวก

กลับออกมาที่ห้องทานอาหาร จะเห็นว่าอีกฝั่งติดกับห้องน้ำและห้อง Master Bedroom

เราไปดูในส่วนของห้องน้ำกันก่อนนะคะ

โดยทางเข้าห้องน้ำจะมี 2 ทาง คือจากห้องทานอาหารและห้อง Master Bedroom ค่ะ

ภายในห้องน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบ พร้อมแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน โดยบานกระจกเงาจะได้เป็นบานขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ สุขภัณฑ์ที่ได้จะได้ อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ American Standard พร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ Grohe, โถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด

ส่วนห้องอาบน้ำ ทางโครงการติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อย บานเปิดแบบผลักเข้าไปในห้อง ภายในติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Grohe แบบปรับระดับได้มาให้

ส่วนที่ไม่เหมือนกับห้องตัวอย่าง 2 ห้องที่แล้ว คือจะมีช่องสำหรับวางของเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ห้องค่ะ

กลับออกมาดูที่ห้องนั่งเล่นกันต่อ

ภายในห้องนั่งเล่นจะได้ช่องแสง 1 จุด เป็นประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกค่ะ

ขนาดโซฟาที่เหมาะ จะเป็นโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่ง กำลังดีค่ะ และมีระยะดูทีวีประมาณ 1.7 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาด 42″ – 47″ ได้ค่ะ

ต่อมาเราจะออกไปดูพื้นที่ระเบียงภายนอกกันต่อ โดยบานประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกจะได้เป็นบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง

ออกมาดูที่ระเบียงภายนอก จะได้ราวกันตกเป็นเหล็กซี่สีดำ ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์แบบลอยตัว พร้อมมีกริลล์บังสายตาจากภายนอกทำให้ตัวอาคารด้านนอกดูเรียบร้อยค่ะ

ตัวระเบียงกว้างประมาณ 0.8 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าขนาดเล็กๆได้

กลับเข้ามาภายในห้อง ถ่ายให้ดูมุมจากห้องนั่งเล่นมองย้อนไปทางห้องทานอาหาร จะเห็นพื้นที่โปร่งที่เชื่อมถึงกันได้ค่ะ

ต่อมาเราจะไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ

เข้ามาภายในห้องนอนจะมีขนาดกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบถ้วนแบบเหลือๆ ไม่อึดอัด มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้ง

เตียงที่เหมาะกับห้องนี้จะเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ แต่ถ้าใครชอบเตียงนอนกว้างๆก็ยังมีที่พอวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆ

สำหรับพื้นที่ข้างเตียงที่เหลือหลังจากวางเตียงขนาดควีนไซส์ลงไปแล้ว จะเหลือประมาณ 60 ซม. สามารถที่จะวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะจัดวางเป็นตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง และมีทางเข้าห้องน้ำจากห้อง Master Bedroom ค่ะ

ระยะการใช้งานตู้เสื้อผ้าทางด้านนี้เหลือค่อนข้างกว้าง พอให้ยืนแต่งตัวและใช้งานโต๊ะเครื่องแป้งได้สะดวก

กลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น เราจะไปดูในห้องนอนรองกันต่อค่ะ

เข้ามาภายในห้องนอนจะมีขนาดกว้างเลยค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบ มีช่องแสง 2 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้ง ฝั่งข้างเตียง และได้หน้าต่างบานกระทุ้งเหนือโต๊ะเครื่องแป้งอีก 1 บานค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะจัดวางเป็นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

ระยะการใช้งานตู้เสื้อผ้าทางด้านนี้เหลือพอให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก

และมีมุมจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือด้วยค่ะ

ระยะปลายเตียงเหลือพอให้เดินผ่านได้สะดวก

ราคา

• ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท หรือประมาณ 98,000 – 120,000 บาท/ตร.ม.

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 300,000 บาท* คลิก : https://goo.gl/d4KCzb

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ : Life อโศก – พระราม 9 ตั้งอยู่ติดถนน 2 เส้น คือถนนอโศก-ดินแดงและถนนจตุรทิศ ทำเลที่ตั้งจริงๆตั้งอยู่ระหว่าง CBD ปัจจุบัน ค่อนมาทางบริเวณของ New CBD ในอนาคต คือย่านพระราม 9 และรัชดาภิเษก ใกล้แยกพระราม 9 และ แยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเป็นทำเลบน New CBD แห่งใหม่ของกทม. จุดศูนย์กลางของสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมไปถึงโครงการใหม่ อย่าง เดอะ แกรนด์ พระราม 9 จาก G Land ทั้งยังมีโครงการ The Super Tower ตึกสูง 125 ชั้น ซึ่งจะเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย และ อาเซียน ทำให้ในอนาคตจะมีมนุษย์เงินเดือน ตั้งแต่ระดับทั่วไป จนถึงระดับผู้บริหาร เข้ามาทำงานในโซนนี้เป็นจำนวนมาก

ทำให้ทำเลโซนนี้ ถือได้ว่าเป็นทำเลทอง ที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัย ใกล้ที่ทำงาน หรือ ซื้อไว้เพื่อลงทุน ปล่อยเช่า ก็น่าสนใจ นอกจากนั้น ยังใกล้สถานที่สำคัญ และ แหล่งอำนวยความสะดวกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูน, เอสพลานาด รัชดา, ตลาดนัดรถไฟ, ตลาดห้วยขวาง รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่อย่าง The Street รัชดา ที่มีซุปเปอร์มาร์เก็ต-ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง

และยังอยู่ในระยะของรถไฟฟ้าทั้ง MRT พระราม 9 และ Airport Rail Link มักกะสัน นอกจากนั้นเมื่อเทียบราคาเฉลี่ยกับโครงการข้างเคียงแล้วยังมีราคาที่น่าจับจองเป็นเจ้าของกว่าพอสมควรค่ะ

การเดินทางโดยรถส่วนตัว : สามารถใช้เส้นทางเข้าได้ 2 เส้นทางคือจากทางเข้าหลักถนนจตุรทิศฝั่งมุ่งหน้าอโศก – ดินแดง และจากถนนอโศก – ดินแดง โดยใช้ซอยไม้ดัด ซึ่งเป็นเส้นทางที่สะดวกทีเดียวค่ะ สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลากหลาย หากต้องการเข้าเมือง อาจต้องกลับรถไกลหน่อย แต่ก็สามารถเชื่อมสู่แยกอโศก-มนตรี ออกไปเชื่อมกับถนนเส้นสุขุมวิท, เอกมัย-ทองหล่อ ได้เลย ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับทางด่วนพิเศษศรีรัช หากต้องการเข้าเมืองเร็วๆ หรือ ออกไปนอกเมืองแบบไม่อารมณ์เสีย แนะนำให้ใช้เป็นทางด่วนเลยค่ะ

แต่การจราจรบนทำเลนี้ ถือว่าค่อนข้างหนาแน่น ในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างช่วงเช้า ไปทำงาน ไปเรียน และช่วงเย็นที่เลิกงาน ถนนเส้นนี้รถจะติดยาวไปเลยค่ะ ถ้าอยากหลีกเลี่ยงรถติด ขอแนะนำให้ใช้เป็นรถไฟฟ้า น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ในระยะที่ใกล้โครงการจะมีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้ 2 เส้นทาง คือ MRT พระราม 9 ที่สามารถเดินจากโครงการไปถึงตัวสถานี(ทางออก 3)ได้เลย ในระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยจะมีทางคนเดินข้างโครงการจะมาโผล่บนถนนอโศก – ดินแดง ช่วงตีนสะพานข้ามคลองสามเสนในพอดีค่ะ ไม่ต้องเดินจากหน้าโครงการ หากต้องการเปลี่ยนการเดินทางจาก MRT ไปเป็น BTS ก็ง่าย โดยจะมีจุด Interchange ที่ สถานีสุขุมวิท และสถานีสีลม นอกจากรถไฟฟ้าใต้ดินแล้ว ยังมี Airport Link มักกะสัน ระยะทางไปประมาณ 550 เมตร หรือถ้าวันไหนเร่งรีบก็สามารถใช้บริการพี่วินแถวหน้าปากซอยไม้ดัดฝั่งถนนอโศก – ดินแดงก็ได้ค่ะ

การออกแบบโครงการ : Life อโศก – พระราม 9 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 8-3-11 ไร่ ไร่ เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ สูง 42 และ 45 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 2,248 ยูนิต + 2 ร้านค้า แต่ละทาวน์เวอร์แยกเป็น

• ทาวเวอร์ A จำนวน 1,298 ยูนิต
• ทาวเวอร์ B จำนวน 950 ยูนิต
• ร้านค้า 2 ยูนิต

สำหรับแบบห้องในโครงการจะมีทั้งหมด 4 แบบ คือ

• Studio ขนาด 25 – 27.5 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 40 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาด 45 – 58 ตร.ม.

และห้องตัวอย่างที่มีจะมี 3 แบบ คือ Studio 27.50 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 35.50 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม. ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือ โครงการนี้ เป็น Project แรก ที่ทาง AP นำ Room Layout แบบใหม่มาใช้ คือแปลนห้อง Studio 27.50 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 35.5 ตร.ม. ที่ Interlock กัน ซึ่งทำให้ภายในห้องทั้ง 2 แบบมีพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างจากห้องทั่วๆไป ที่เด่นเลยคือภายในห้อง Studio จะให้ความรู้สึกกว้างขึ้น และได้ครัวปิดแยก ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus จะได้ครัวปิดแยกที่ไม่มากินพื้นที่ของฟังก์ชั่นอื่นๆ

ส่วนห้อง 2 Bedrooms 45 ตร.ม. จะเป็นห้องไซส์เล็กสุดใน Type นี้ ซึ่งจากที่เข้าไปชมดูก็รู้สึกว่ามีการแบ่งฟังก์ชั่นได้ดี ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่เหลือให้ขยับตัวได้คล่อง แต่เสียดายที่มีห้องน้ำห้องเดียวค่ะ

โครงการขายห้องพักให้แบบ Fully Fitted โดยจะได้เป็นห้องเปล่า พร้อมเคาน์เตอร์ครัว Hob & Hood, เตาไฟฟ้า 2 หัว, ห้องน้ำสำเร็จรูป สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ American Standard และ Kohler พร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจก Tempered ผนังห้อง+ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว ไฟในห้องแบบดาวน์ไลท์ และเครื่องปรับอากาศแถมให้ครบทุกยูนิตค่ะ (1 Bedroom แอร์ 1 ตัวที่ห้องนั่งเล่น, 1 Bedroom Plus ได้ 2 ตัว ในห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่, 2 Bedrooms ได้แอร์ 3 ตัวค่ะ )

สิ่งอำนวยความสะดวก : ได้มาครบครันและมีขนาดใหญ่รองรับตามจำนวนยูนิต เริ่มที่ชั้น 1 รอบโครงการจะเป็นพื้นที่สีเขียว พร้อมอาคารพักผ่อนที่จัดมาให้ภายในสวน ช่วยดึงการใช้งานของผู้อยู่อาศัยให้มานั่งเล่นภายในสวนได้มากขึ้น ส่วนภายในอาคารจะมี Lobby ขนาดใหญ่ แบ่งให้เลือกใช้ได้หลายโซนค่ะ ทั้งแบ่งเป็นห้องแยก/โซนวิวสวน/โต๊ะยาว และโซนที่นั่งแบบ Private

นอกจากนั้นจะมีพื้นที่ Co – Working Space แบ่งเป็นทั้งห้องประชุมให้จองเวลาเข้าใช้ และที่นั่งทำงานด้านนอก

และจุดเด่นจริงๆคือ Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ 1.5 ไร่ ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ที่เชื่อมกันระหว่าง 2 อาคาร, สระว่ายน้ำระบบเกลือ 3 สระ ขนาด 50 เมตร, 40 เมตร และ 23 เมตร, Fitness 2 ชั้น, Co – Working Space และ Free WiFi พื้นที่ส่วนกลางทุกจุด พร้อมพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ขึ้นไปยืนชมวิวเมืองกว้างๆ ได้ด้วย

ได้ลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้น ทั้งหมด 10 ตัว พร้อมลิฟท์บริการ 1 ตัว อัตราส่วน 1 : 224 ที่จอดรถชั้น 1-6 และ ที่จอดรถจะมีทั้งหมดประมาณ 40% อยู่ที่ชั้น 1 – 6 จอดได้ประมาณ 905 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ระบบรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกโครงการและอาคารด้วยระบบ Easy Pass และลิฟท์ล็อคชั้น พร้อม รปภ. ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1623 / 0-2261-2518

Website : www.apthai.com/คอนโด/life/life-asoke-rama-9/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คอนโด เดอะคิวบ์ พลัส พหลโยธิน 56 The Cube Plus Phaholyothin 56

เตรียมพบกับ … The Cube Plus พหลโยธิน 56 ทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ราคาล้านต้น ๆ* เร็ว ๆ นี้

ที่ตั้งโครงการ

ติดซอยพหลโยธิน 56 ถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม.

พิกัด Google : 13°55’57.5″N 100°37’32.9″E

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 081-349-9933

Website : http://www.thecube-condo.com/home

สแตนด์อัพ คอนโด สะพานใหม่-พหล 50 Stand up Condo Sapanmai-Phahol 50

Stand up Condo สะพานใหม่-พหล 50 คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ราคาคุ้มที่สุดในย่านสะพานใหม่ เพียง 46,000 บาท/ตร.ม. สะดวกสบายทุกการเชื่อมต่อการเดินทาง ตอบโจทย์ชีวิตคนทำงาน ใช้ชีวิตอย่างสบาย กับคอนโดราคาอุ่นใจ ราคาเริ่มต้น 1.16 ลบ.

ที่ตั้งโครงการ

ซอยพหลโยธิน 50 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.

:: UNIT TYPE ::

โครงการ Stand up Condo สะพานใหม่-พหล 50  มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้

TYPE A : Studio ขนาด 25.00 ตร.ม.

TYPE B : 1 Bedroom ขนาด 32.00 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 097-926-1993

Website :  http://www.standcondo.com/

ฟีล คอนโด ลาดพร้าว 33 Feel Condo Ladprao 33

Feel Condo ลาดพร้าว 33 คอนโดใหม่ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย เงียบสงบ เป็นส่วนตัวเพียง 79 ยูนิต พร้อมสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ ที่จอดรถมากถึง 60% พร้อมอยู่ต้นปี 62 เริ่ม 1.725 ล้านบาท* เริ่มต้น 69,000 บาท/ตร.ม.

ที่ตั้งโครงการ

ซอยลาดพร้าว 33 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.

:: UNIT TYPE ::

TYPE A : 1 Bedroom ขนาด 25.00 ตร.ม.

TYPE  B : 1 Bedroom ขนาด 27.00 ตร.ม.

TYPE C : 1 Bedroom ขนาด 35.00 ตร.ม.

TYPE D : 1 Bedroom ขนาด 36.00 ตร.ม.

TYPE F : 1 Bedroom ขนาด 36.50 ตร.ม.

TYPE E : 2 Bedrooms ขนาด 39.00 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-106-8444

Website : http://www.feelcondoladprao33.com/

คริสม่า กรีน คอนโด เพชรเกษม Chrisma Green Condo Phetkasem

คริสม่า กรีน คอนโด เพชรเกษม 92 คอนโดใหม่ ใกล้เดอะมอลล์ บางแค และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน แวดล้อมด้วยธรรมชาติ พร้อมสระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส เริ่ม 1.32 ล้านบาท ฟรีแอร์ + ชุดครัว

ที่ตั้งโครงการ

ซอยเพชรเกษม 92 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 083-096-2246

Website : https://www.facebook.com/CHRISMA-Green-Condo

คอนโด วันไนน์ไฟว์ อโศก-พระราม 9 One 9 Five Asoke-Rama 9

TC Development เตรียมเปิดตัวโครงการ “One 9 Five อโศก-พระราม 9“ คอนโด High Rise 61 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการขนาดใหญ่กว่า 11 ไร่ บนทำเลศักยภาพ New CBD (พระราม 9 ซอย 5) เพียง 120 เมตร จาก Super Tower, 250 เมตร จาก เซ็นทรัล พระราม 9 และ 200 เมตร จาก MRT พระราม 9

เป็นส่วนตัวแก่การพักอาศัย เพียง 18 ยูนิต/ชั้น พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 8.6 ไร่ มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ความยาว 100 เมตร พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ประมาณ 6 ไร่ มีจุด EV chargers  และ Self Service Car Wash จัดเตรียมไว้ให้ ราคาเริ่มต้น 2.xx ล้านบาท* คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2561

ที่ตั้งโครงการ

พระราม 9 ซอย 5 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.

:: FLOOR PLAN ::

Ground Floor Plan

Rivulet Plaza

Fruit Forest

8th Floor Plan

61st Floor Plan

61st Floor Plan Mezzanine

:: GALLERY ::

ไฮ สุทธิสาร คอนโด Hi Sutthisan Condo

HI Sutthisan Condo คอนโดใหม่ใจกลางเมือง ใกล้ MRT สุทธิสาร เปิดชมห้องตัวอย่าง 4 พ.ย. นี้ !!

พบห้องตัวอย่าง 2 แบบ ขนาด 28 ตร.ม. และ 30 ตร.ม.  ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : http://www.hicondo8.com/

ที่ตั้งโครงการ

ซ.20 มิถุนา แยก 5 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.

:: GALLERY ::

ภาพบรรยากาศจำลองอาคารพักอาศัย

ภาพบรรยากาศจำลองอาคารพักอาศัย

ภาพบรรยากาศจำลองอาคารภายในสำนักงานขาย

ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำ และ พื้นที่พักผ่อนริมสระ

ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนส

ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนส

ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่รับรอง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 080-678-6789

Website : http://www.hicondo8.com/

EP.942 รีวิว คอนโด คาวะ เฮ้าส์ อ่อนนุช 77 KAWA Haus Onnut 77

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมพามาชมทำเลโครงการ kawa HAUS อ่อนนุช T77 จาก แสนสิริ ตัวโครงการตั้งอยู่ติดริมน้ำใน T77 Community Hub แห่งการอยู่อาศัยที่เปี่ยมไปด้วยไลฟ์สไตล์

ภายใน T77 Community ปัจจุบันมีโครงการพักอาศัย 8 โครงการ มีอพาร์ทเม้นท์ระดับพรีเมี่ยมจากมั่นคงเคหะการ และมี HABITO ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์แห่งแรกจากแสนสิริ รวมไปถึงโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep และ Dental Hospital โดยมีทางเข้า-ออกโครงการ 2 ทางคือจากฝั่งสุขุมวิท 77 และสุขุมวิท 71 ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนเฉลิมมหานคร ใกล้รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช และ BTS พระโขนง ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท*

kawa HAUS อ่อนนุช T77 เป็นโครงการใหม่ล่าสุดในแบรนด์ HAUS หลังจากจากประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้แสนสิริมาแล้ว 2 โครงการคือ hasu HAUS และ mori HAUS จุดเด่นของโครงการแบรนด์ HAUS คือเป็นที่พักอาศัยสไตล์รีสอร์ทที่ใช้ชีวิตแบบละเมียดละไม โดยออกแบบตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางให้มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับผู้พักอาศัย เหมาะแก่การใช้ชีวิตและการพักผ่อนอย่างแท้จริง

ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท คลิกที่นี่ >> https://goo.gl/fuXhcQ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท 77 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. 10250

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.714530, 100.604366

kawa HAUS อ่อนนุช T77 ตั้งอยู่ใน T77 เป็นเมืองเล็กๆ ที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่เพื่อตอบสนองทุกไลฟสไตล์ชีวิตเมืองบนสุขุมวิท ออกแบบความพร้อมในการอยู่อาศัยครบวงจร บนเนื้อที่มากกว่า 50 ไร่ กลางสุขุมวิท 77 ที่รวมไลฟไสตล์การอยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่พร้อมสรรพไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ และทาวน์โฮม 1 โครงการ นอกจากนี้ยังมีอพาร์ทเม้นท์ระดับพรีเมี่ยมจากมั่นคงเคหะการ โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ และ Dental Hospital รวมไปถึง Habito คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกของแสนสิริอีกด้วยครับ

kawa HAUS อ่อนนุช T77 สามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจากฝั่งสุขุมวิท 77 และสุขุมวิท 71 ทางเข้าฝั่งสุขุมวิท 77 อยู่ระหว่างโครงการ Blocs 77 ซึ่งเป็นโครงการแรกของแสนสิริในย่านนี้ และ The Base สุขุมวิท 77 ซึ่งเป็นโครงการที่สอง ปากซอยทางเข้าฝั่งนี้คือซอยอ่อนนุช 1/1 จากนั้นจะเจอสะพานแสนสำราญข้ามคลองพระโขนง ผ่านหน้า Habito THE BASE Park west, THE BASE Park east , Garden Square , hasu HAUS , โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ , Park Court และเข้ามาสุดซอยจะเจอพื้นที่โครงการ

และอีกทางคือฝั่งสุขุมวิท 71 โดยเข้ามาทางซอยปรีดีพนมยงค์ 2, 14, 26 ครับจากนั้นรอดใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จะเจอทางเข้า หรือถ้ามาเส้นสุขุมวิทก็สามารถเข้าได้ตรงทางที่จะไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และวนลงมาที่ใต้ทางด่วน ตรงทางเข้าฝั่งนี้จะผ่าน THE BASE Park west, THE BASE Park east, Garden Square, hasu HAUS, mori HAUS, โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ, Park Court เข้าไปสุดทางจะเจอพื้นที่โครงการ

การเดินทางเข้าเมือง การเดินทางโดยรถส่วนตัวถือว่าเหมาะกับการอาศัยอยู่ที่นี่ครับ เนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนหลัก มีทางเข้าออกได้หลายทาง โครงการอยู่กึ่งกลางระหว่างทางออกฝั่งสุขุมวิท 71 และ 77 ระยะถึงถนนสุขุมวิทใกล้เคียงกันเลย ถ้าจะเข้าเมืองใช้ถนนสุขุมวิทออกได้ทั้งฝั่งสุขุมวิท 77 และ 71 ไปเอกมัย ทองหล่อ อโศกก็ไม่ไกลมาก มีซอยย่อยลัดเลาะไปโดยไม่ต้องใช้เส้นสุขุมวิทเลยก็ได้ครับ เช่นออกฝั่งซอย 71 จะมีซอยที่สามารถทะลุออกเอกมัยได้หลายซอยจะมีป้ายบอกไว้ตามทางครับ ถ้าไปเข้าปรีดีพนมยงค์ 31 จะไปทะลุออกเอกมัย 12 ได้ หรือตรงไปอีกก็จะเป็นทองหล่อซอย 10 แล้วไปเข้าทองหล่อ 13 จะไปเชื่อมกับสุขุมวิท 49 ได้ และเชื่อมซอยไปเรื่อยๆจะไปโผล่ตรงอโศกได้เลยครับ ถ้าใครจะไปสีลมก็ตัดเข้าถนนพระรามสี่ หรือจะไปถนนเพชรบุรีก็วิ่งเส้นสุขุมวิท 71 แล้วไปเข้าถนนเพชรบุรีตรงแยกคลองตัน หรือเลยไปอีกนิดเพื่อเข้าถนนพระรามเก้าตรงแยกรามคำแหงก็ได้ครับ

การเดินทางออกนอกเมือง ถ้าใช้ถนนสุขุมวิท 77 ไปเชื่อมศรีนครินทร์ได้ สามารถไปบางนา สมุทรปราการ ลาดกระบัง ออกชลบุรี พัทยาได้ครับ ความสะดวกของทำเลนี้อีกอย่างคือใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม. สามารถไปพระรามเก้า ศรีนคริทร์ ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ รามอินทรา และลำลูกกาได้ครับส่วนทางลงก็ลงตรงสุขุมวิท 50 แล้วจะมีทางวนมาเข้าด้านหลังครับ และมีทางด่วนเฉลิมมหานครขึ้นได้ตรงสุขุมวิท 62 ประมาณ 3.9 กม. ไปได้หลายที่ครับทั้งพระรามเก้า, แจ้งวัฒนะ, พระราม 2, รามอินทรา, รัชดา, ดาวคะนอง หรือจะมาขึ้นตรงแถวม.กรุงเทพกล้วยน้ำไทยก็ได้โดยวิ่งผ่านถนนพระรามสี่เข้ามาแล้วเลี้ยวเข้าถนนกล้วยน้ำไท ห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กม. ซึ่งเป็นทางด่วนเส้นเดียวกับตรงซอยสุขุมวิท 62 คือทางด่วนเฉลิมมหานคร ใครมีรถส่วนตัวสะดวกแน่นอน แต่อาจจะเจอปัญหารถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนครับ

ตัวโครงการอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ประมาณ 1.1 กม. โดยออกประตู T77 ฝั่งด้านหลังไปวนใต้ทางด่วนและวิ่งตรงไปอยู่เดียวจะเจอจุดขึ้นทางด่วน

นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครแถวๆท่าเรือห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กม. โดยออกจากโครงการมาทางปากซอยสุขุมวิท 71 จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนพระราม 4 มาเข้าถนนกล้วยน้ำไท และถนนอาจณรงค์ จากนั้นจะเจอจุดขึ้นทางด่วน

จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครอีกจุดคือตรงซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการประมาณ 3.9 กม. โดนวิ่งตามถนนสุขุมวิทมาเข้าซอยสุขุมวิท 62 ตรงตามทางไปจะเจอจุดขึ้นทางด่วนครับ

การเดินทางโดยสาธารณะ ตัวโครงการมี Shuttle Service บริการส่งที่รถไฟฟ้าส่วนรายละเอียดรอทางโครงการแจ้งอีกทีครับ นอกจากนี้ตรง Habito ห่างจากโครงการประมาณ 450 ม. ตอนนี้มี Shuttle Bus รับส่ง Habito ไป-กลับ BTS อ่อนนุช และ BTS พระโขนง บริการรับส่งฟรี รถจะออกทุก 30 นาที แต่ไม่ได้วิ่งทั้งคืน เดินมาใช้บริการตรงนี้ก็ได้ครับ หรือถ้าออกมาปากทางเข้าสุขุมวิท 77 มีวินมอเตอร์ไซค์ รอให้ใช้บริการอยู่ หรือฝั่งที่ออกมาซอย 71 ตรงใต้ทางด่วนก็มีครับหรือจะขอเบอร์ติดต่อไว้ก็ได้จะสะดวกกว่า Taxi รถเมล์และสองแถวต้องออกมาตรงเส้นสุขุมวิท 77 และ 71 ครับ หรือออกมาตรงเส้นสุขุมวิทเลยจะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง ส่วนรถไฟฟ้าห่างจาก BTS อ่อนนุช 1.6 กม. และห่างจาก BTS พระโขนงประมาณ 1.8 กม.

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่ารอบๆโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่อยู่อาศัย แต่ก่อนใน T77 Community หรือก่อนที่แสนสิริจะเข้ามาจัดสรรนั้นพื้นที่จะเป็นที่ว่างเปล่าและเข้าออกได้จากฝั่งสุขุมวิท 71 อย่างเดียวครับ โดยทางแสนสิริได้ตัดซอยทางเข้าจากฝั่งสุขุมวิท 77 เพิ่มและทำสะพานแสนสำราญข้ามคลองพระโขนง เชื่อมกับถนนด้านใน T77 Community ตอนนี้มีป้อมยามตรงทางเข้าออกทั้งสองฝั่ง เนื่องจากเป็นซอยส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเองจึงได้มีการเรียกเก็บเงินจากคนภายนอกที่ไม่ใช่ลูกบ้านใน T77 Community ที่จะวิ่งผ่านเส้นนี้ รถยนต์เที่ยวละ 20 บาท รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวละ 10 บาท สองโครงการแรกของแสนสิริก็ต้องเสียค่าผ่านทางครับทั้ง BLOCS 77 และ THE BASE Sukhumvit 77

ตัวแรกเริ่มของ T 77 Community เริ่มจาก BLOCS 77 , THE BASE Sukhumvit 77 , THE BASE Park West , THE BASE Park East , hasu HAUS, mori HAUS และโครงการล่าสุดคือ kawa HAUS ครับ อีกทั้งยังมี 1 โครงการทาวน์เฮาส์ Garden Square ที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อตอบรับการใช้ชีวิตในบริเวณนี้ภายใต้แบรนด์แสนสิริเช่นกันครับ นอกจากยังมี Habito คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกของแสนสิริ มีโรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ และแกรนด์อพาร์ทเม้นท์ Park Court จากมั่นคงเคหะการ และ Dental Hospital มีสวนสาธารณะอย่าง T77 Park ส่วนอนาคตจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกคงต้องรอดูกันต่อไปครับ

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทมั่งหน้าบางนา ขับตามแนว BTS มาจนถึงแยกอ่อนนุช เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอ่อนนุช หรือสุขุมวิท 77 ตรงไปอีกประมาณ 350 ม. จะเจอซอยอ่อนนุช 1/1 ซึ่งเป็นซอยส่วนบุคคล จะอยู่ระหว่างโครงการ BLOCS 77 และ THE BASE Sukhumvit 77 จากนั้นเข้าซอยไปอีกประมาณ 890 ม. จะถึงโครงการครับ

สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) > ซอยอ่อนนุช 1/1 > kawa HAUS อ่อนนุช T77

เริ่มจากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าบางนา ข้างเป็น BTS พร้อมพงษ์

ซ้ายมือเป็น Emquartier ขวามือเป็น Emporium

เลยมาอีกจะเป็น Rain Hill

และจะเจอ BTS ทองหล่อ

ผ่านมาจะเจอแยกทองหล่อ ซ้ายมือเป็นซอยสุขุมวิท 55

จากนั้นจะเจอ Major เอกมัย

และจะเจอแยกเอกมัย ตรงหน้าเป็น BTS เอกมัย

จากนั้นซ้ายมือเป็นโรงพยาบาลสุขุมวิท

เลยมาอีกจะเจอ BTS พระโขนง ติดกับสถานีฝั่งขวามีคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ชื่อว่า Summer Hill เจ้าของเดียวกับ Rain Hill ครับ จะเปิดให้บริการเร็วๆนี้

ถัดมาเป็นแยกพระโขนง

ผ่านแยกมาซ้ายมือเป็น W District

เลยมามีธนาคาร TMB และ K Bank

จากนั้นจะเจอแยกสุขุมวิท 71 ฝั่งซ้ายจะเป็นซอยสุขุมวิท 71 หรือพระโขนงครับ สามารถเข้าออกโครงการได้จากซอยนี้ครับ แต่ผมจะพาเข้าอีกทาง

จากนั้นตรงมาอีกซ้ายมือจะมีทางไปขึ้นทางด่วนซ้ายมือ ซึ่งสามารถเข้าโครงการได้อีกทางครับ แต่เราจะตรงไปเข้าอีกทางครับ

ตรงมาอีกให้เตรียมชิดซ้ายเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 77

และจะเจอแยกอ่อนนุช เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายตรงนี้ครับ

จากแยกอ่อนนุชประมาณ 350 ม. จะเป็น BTS อ่อนนุช

เดี๋ยวเราจะเลี้ยวเข้าถนนอ่อนนุช หรือซอยสุขุมวิท 77 ต่อครับ

เลี้ยวเข้ามาจะเป็นถนนขนาด 4 เลน สองฝั่งทางจะเป็นอาคารพาณิชย์

เลยมาหน่อยซ้ายมือเป็นทางเข้าตลาดอ่อนนุช ขวามือเป็น Big C Extra

เส้นนี้จะมีรถสองแถววิ่งผ่านตลอดตั้งแต่ปากซอยจนไปถึงท้ายซอย ไปศรีนครินทร์ก็ได้

จากนั้นซ้ายมือจะเจอโครงการ BLOCS 77 ซึ่งเป็นโครงการแรกของแสนสิริในย่านนี้ครับ และทางแสนสิริจะเริ่มเรียกตรงนี้ว่า T 77 Community ครับ

หน้าโครงการ BLOCS 77 มีป้ายรถเมล์ ถัดไปข้างหน้าจะเป็นซอยอ่อนนุช 1/1 ซึ่งเป็นทางเข้าโครงการ ขวามือเป็นสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 12

มองเข้าไปในซอยอ่อนนุช 1/1 ภายในนี้จะเป็นอาณาจักรของพี่แสนเค้าครับ หรือที่เรียกว่า T77 Community

จากนั้นเราจะเดินเข้าซอยอ่อนนุช 1/1 ไปอีกประมาณ 890 ม. เดินผ่านป้อมยาม และสะพานแสนสำราญ ผ่าน Habito ผ่านโรงเรียน Bangkok Prep ผ่านโครงการ hasu HAUS ผ่านโครงการ Park Court เข้าไปสุดซอยจะเจอพื้นที่โครงการตรงหน้าเลยครับ

ภาพมุมสูงจากด้านหน้าทางเข้า T77 จะเจอประตูทางเข้า ผ่านสะพานแสนสำราญเข้าไปด้านใน สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ใน T77 มี 4 โครงการครับคือ Blocs 77, THE BASE Sukhumvit 77, THE BASE Park West, THE BASE Park East

จากด้านหน้าประตูทางเข้าออกฝั่งสุขุมวิท 77 เข้ามาจะผ่านสะพานแสนสำราญ ลงสะพานมาจะเจอ HABITO ผ่าน THE BASE Park West, THE BASE Park East (ระหว่าง 2 โครงการนี้มีประตูทางเข้าออก T77 อีกทาง) จากนั้นจะผ่าน Garden Suuare และ hasu HAUS

จาก hasu HAUS จะผ่าน Park Court ตรงเข้ามาสุดทางจะเจอพื้นที่โครงการครับ

กลับลงมาด้านหน้าทางเข้า T77 ตัวโครงการ kawa HAUS จะเข้าซอยนี้ไปอีกประมาณ 890 ม.

เงยหน้ามองด้านบนซ้ายมือคือ BLOCS 77 ขวามือเป็น THE BASE Sukhumvit 77 เป็นโครงการที่สองของแสนสิริย่านนี้ และเป็น THE BASE ตัวแรกครับ T 77 Community จะเริ่มตั้งแต่สองตัวนี้เข้าไปเลย

เดินเข้าซอยมาฝั่งนี้มีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่ นั่งไป BTS อ่อนนุช 20 บาทครับ

เดินเข้ามาจะเจอประตูทางเข้า-ออก T77 Community ซึ่งแสนสิริทำขึ้นเพื่อเชื่อมเข้าไปยังพื้นที่ด้านใน สามารถไปทะลุออกสุขุมวิท 71 และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ ซอยนี้สำหรับคนภายนอกจะเก็บค่าผ่านทางเพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลดภัยตลอด 24 ชม. ส่วนลูกบ้านของ THE BASE Prak East, THE BASE Park West, Garden Square, hasu HAUS, mori HAUS, kawa HAUS และผู้ที่มาใช้บริการ Habito กับบุคคลากร Bangkok Prep ไม่ต้องเสียครับ นอกนั้นต้องเสียค่าผ่านทางครับลูกบ้าน BLOCS และ THE BASE 77 ก็ต้องเสียทั้งๆที่รวมอยู่ใน T77 Community แต่ไม่ได้อยู่พื้นที่ด้านในครับ

อัตราค่าผ่านทางใน 30 นาทีแรก รถยนต์ 20 บาท/เที่ยว จักรยานยนต์ 10 บาท/เที่ยว ถ้าเกิน 30 นาทีคิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 100 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง โดยขาเข้าจะต้องรับบัตร จ่ายเงินตอนขาออกครับ ส่วนลูกบ้านที่อยู่พื้นที่ด้านใน T77 Community จะใช้ Key Card สแกนเข้าออกได้เลย มีเลนแยกเฉพาะให้ครับ

ผ่านประตูเข้ามาจะเจอกับสะพานแสนสำราญข้างหน้า

มองไปทางซ้ายจะเห็นป้ายจอดรถกอล์ฟของโครงการด้านใน จะจอดรับส่งบริเวณนี้ หรือบางโครงการจะไปส่งที่ BTS อ่อนนุชครับ

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าออก T77

กลับมาทางเดิมต่อ จากนั้นก็ขึ้นสะพานแสนสำราญข้ามคลองพระโขนง ริมสะพานสองฝั่งจะเป็นทางสำหรับคนเดินครับ มีแนวรั้วกั้นให้ ปลอดภัยจากรถที่วิ่งผ่านไปมา

ขึ้นมาบนสะพานมองไปจะเห็น THE BASE Park West และ Park East

มองจากมุมบนจะเห็น Habito ระหว่าง THE BASE สองตัวข้างใน

ยืนบนสะพานมองไปทางขวาจะเห็น hasu HAUS ขวามือเป็นวัดใต้

มองไปอีกฝั่งของสะพานจะเห็น BLOCS 77 อยุ่ติดคลอง คลองที่เห็นคือคลองพระโขนงครับ

กลับมาทางเดิมกันต่อ

เดินลงสะพานขวามือเป็น Habito ซ้ายมือเป็นพื้นที่บุคคลอื่น

ลงสะพานมาจะเจอถนนขนาด 2 เลน และส่องฝั่งทางมีเลนจักรยาน

เดินตรงเข้ามาอีกซ้ายมือเป็นโครงการ THE BASE Park West

THE BASE Park West สูง 39 ชั้น โครงการปิดการขายไปแล้วครับ

เดินตรงไปอีกครับ

จากนั้นจะเจอป้ายบอกทางไปยังโครงการต่างๆ

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นป้าย Habito ซึ่งเป็น Community Mall แห่งแรกของแสนสิริ

ทางเข้า Habito จะมีป้อมยาม และไม้กระดกกั้นอีกส่วน ผมจะพาแวะเข้าไปชมด้านในหน่อยว่ามีร้านอะไรมาเปิดบ้าง

เข้ามาจะเจอวงเวียน

มีที่จอดรถกลางแจ้งด้านหน้า และด้านข้าง และที่ชั้นใต้ดิน

มองไปยัง Habito มีทั้งหมด 3 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น

จากที่จอดรถมีทางเดินไปยังร้านด้านนอก

เดินมาจะเจอร้าน PAPA Shabu Farm ร้านจะเปิดช่วงเย็น รสชาติใช้ได้ บรรยากาศดีครับ

เดินเข้ามาดูด้านในกันต่อ

เริ่มที่ชั้น 1 เดินเข้ามาจะแบ่งร้านเป็นสองฝั่ง ตรงกลางเป็นบันไดเลื่อน

มองไปทางซ้ายจะเป็นร้าน TOM N TOM เปิด 24 ชม.

เข้ามาด้านในมีธนาคารไทยพาณิชย์

มองออกไปด้านในจะเป็นโล่งๆ ให้ลมสามารถผ่านเข้าออกได้

เดินขึ้นบันไดข้างธนาคารไทยพาณิชย์กันต่อ

ขึ้นมาจะเจอเคาน์เตอร์ Information มีพนักงานต้อนรับบริการอยู่ และเป็นจุดแสตมป์บัตรจอดรถ

อีกฝั่งมีร้านคาเฟ่

ด้านในสุดเป็น 7-11 แบบพรีเมี่ยม ติดกันเป็นร้าน Subway และ Wake up เปิด 24 ชม.ทั้งหมด

อีกฝั่งมีห้องน้ำแยกชายหญิงให้ทุกชั้น พร้อมกับลิฟท์ให้ 1 ตัว

มองกลับไปยังทางที่เดินเข้ามา ตามมุมต่างๆก็จะมีร้านเล็กๆ

เดี๋ยวเราขึ้นไปดูชั้นสองกันต่อ บันไดทางขึ้นมีทั้งแบบบันไดเลื่อน และบันไดธรรมดาครับอยู่ด้านหน้า มีร้าน Boots อยู่ตรงนี้ด้วย

ขึ้นมาชั้นสองจะเจอโถงโล่งๆและข้างหน้าเป็นบันไดเลื่อนขึ้นไปชั้นสาม

ชั้นสองมีร้าน Muine Vietnamese

ถัดมาเป็นร้าน Mont Calzone

มี Shop AIS ลูกบ้านมาจ่ายค่าบริการกันได้

มีลานโล่งๆให้รับลมชมวิวใน T77 Community

มองลงมาชั้นล่างจะเห็น PAPA Shabu

มองกลับเข้ามาด้านใน

มีร้านอาหารญี่ปุ่น Teien

เดินมาดูฝั่งด้านใน

มีร้านอาหาร Saeb Lai

มีร้านเสริมสวย Sunshine by Prestige Salon

เดินขึ้นไปดูชั้นสามต่อครับ

มีมุมสำหรับนั่งพักผ่อน รับลมได้

พื้นที่ส่วนใหญ่จะค่อนข้างเปิดโล่งให้อากาศถ่ายเทได้

มีทางเดินเชื่อมไปยังอีกฝั่ง

เดินมาจะเจอ Habito Dental Clinic

ติดกันเป็น Co-Working Space และ Co-Creation Community แบบ Duplex แห่งแรกของ ไทย บนเนื้อท่ีกว่า 800 ตารางเมตร ชื่อว่า HUBBA-TO ออกแบบโดย บริษัท Supermachine ที่เคยคว้ารางวัลการออกแบบ สถาปัตยกรรมระดับโลกมาแล้ว ภายในพร้อมด้วยรูปแบบการ ใช้งานและเครื่องอํานวยความสะดวกที่ครบครันที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อการแลกเปลี่ยนไอเดียอย่างไร้ขีดจําากัด ของเหล่าสตาร์ทอัพและคนที่หลงใหลในงานศิลปะ

เดินเข้ามาดูด้านในกันหน่อย ราคาที่นี่มีทั้งแบบรายวัน รายเดือน รายปี ก็เข้ามาติดต่อสอบถามกันได้ โดยราคารายวันตอนนี้ 299 บาท สามารถใช้งานได้ทุกอย่างที่อยู่ในนี้ครับ

ส่วนแรกที่จะเจอจะเป็นร้านกาแฟชื่อดังสุดเท่จากสามย่านอย่าง April Store

ร้านนี้จะชงกาแฟในแบบ Aeropress เท่านั้นครับ

มีรูปตกแต่งไว้ตามผนัง

ด้านในมีชุดโต๊ะเก้าอี้วางไว้

วิวมองออกไปยังสวน ชุมชนบ้านพักอาศัย และคลองพระโขนง

เดินเข้ามาอีกจะมีห้องสำหรับประกอบอาหาร สามารถเข้ามาใช้งานได้

ภายในมีอุปกรณ์ให้ครบ แต่อาจจะต้องนำวัตถุดิบมาเอง

มองไปอีกฝั่งมี Island และ Sink ล้างจาน

กลับออกมาด้านนอก

เดินขึ้นชั้นสองกันต่อ

เดินขึ้นมาจะเจอโถงแบบนี้ ด้านในก็จะแบ่งเป็นห้องต่างๆ

มองลงมาด้านล่างจะเห็นร้านกาแฟ

กลับเข้ามาด้านในจะเจอโต๊ะยาวๆ และเก้าอี้จัดไว้รองรับ

มีเครื่องถ่ายเอกสารให้ ฝั่งนี้แบ่งเป็นสองห้อง

ห้องแรกคือ Wearable Room

อีกห้องคือ Maker Space

ออกมาดูด้านนอกจะมีโต๊ะตามมุมเสา

อีกฝั่งมีตู้ Locker และห้องที่แบ่งเป็นสองชั้น เผื่อมีใครมากันเป็นกลุ่ม

ที่ชั้นบนจะเป็นแบบนี้ ออกแนวแบบนั่งพื้นเบาะนวม

ส่วนห้องชั้นล่างจะมีเก้าอี้ให้ และโต๊ะใช้เป็นโต๊ะปิงปอง เวลาพักก็เปลี่ยนเป็นเล่นปิงปอง

ด้านในสุดมีห้องประชุมใหญ่ มีโปรเจคเตอร์ให้

มองไปอีกฝั่ง

สำหรับใครที่ต้องการเช่าเป็นออฟฟิศที่นี่ก็มีให้บริการ ซึ่งตอนนี้มี 1 ห้องที่มีมาเช่าแล้วครับ

ส่วนห้องนี้เป็นห้อง Ceramic Room

มีอุปกรณ์ให้ครบ

เครื่องปั้นมี 3 เครื่อง

และมีห้องอบมาให้พร้อมเลย ทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ HUBBA-TO สามารถมาลองทำได้

อีกห้องที่น่าสนใจคือห้องนี้ครับ Dark Room มีอุปกรณ์และน้ำยามาให้พร้อมเลย

มีเครื่องแบบนี้ 4 เครื่อง

อีกฝั่งก็จะเป็นที่ล้างฟิลม์

จากด้านหน้า HABITO เดินไปจะเจอแยก เลี้ยวขวาไปโครงการ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปเจอประตูทางเข้าออก T77 อีกทาง

กลับลงมาด้านหน้า Habito เราจะไปดูพื้นที่โครงการกันต่อ

เดินตรงไปอีกจะเจอโครงการ THE BASE Park East ตรงหน้าแบบนี้ โครงการนี้ก็ปิดการขายไปแล้วครับ

จากนั้นจะเจอสามแยก ซ้ายมือไปทางเข้า-ออก T77 Community อีกทาง ส่วนขวามือจะไปพื้นที่โครงการครับ

ผมพามาดูทางออกอีกทางก่อน

เดินมาจะเจอป้อมยามตรงกลาง แยกทางเข้าออกเหมือนด้านหน้า

ผ่านป้อมยามออกมาจะเจอทางแยกซ้ายไปออกสุขุมวิท 71 ได้ตามซอยปรีดีพนมยงค์ 2 , 14 , 26 และไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ครับ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาไปออกสุขุมวิท 71 ได้เช่นกันที่ซอยปรีดี 26 และไปเชื่อมกับทางเข้าออก T77 อีกทางครับ

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา

มองกลับเข้ามาด้านใน T77 Community

เดินกลับเข้ามาเราจะไปดูพื้นที่โครงการกันต่อครับ

ตอนนี้ฝั่งซ้ายมือจะเป็น THE BASE Park East ขวามือเป็น Habito

เดินเข้ามาจะเจอท่ารถ Shuttle Bus รับส่ง Habito ไป-กลับ BTS อ่อนนุช และ BTS พระโขนง ตอนนี้เปิดให้ใช้บริการฟรีอยู่ครับ

Shuttle Bus มีตารางการเดินรถให้ดูครับ มี 2 เส้นทาง รถออกทุก 30 นาที

ผ่านป้าย Shuttle Bus มาขวามือจะเห็นซอยเล็กๆ ในนี้มีร้านอาหารอยู่ครับ ราคาไม่แพง

ถัดมาอีกซ้ายมือเป็นหมู่บ้าน Garden Square ขวามือที่เห็นล้อมรั้วอยู่เป็น Dental Hospital อยู่ในช่วงก่อสร้าง โดยมีรูปแบบอาคารสูง 6 ชั้น

Garden Square เป็นโครงการบ้านทาวน์โฮม 4 ชั้น สไตล์ Kensington

ภายในโครงการมีเพียง 34 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 14.79 ล้านบาท ยังเปิดขายอยู่ครับ

ติดรั้วโครงการ Garden Square ซ้ายมือเป็นโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ขวามือเป็นโครงการ hasu HAUS

ด้านหน้าทางเข้าโรงเรียน Bangkok Prep

ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ hasu HAUS

จากนั้นจะเจอทางแยก ซ้ายมือไปทางเข้าออก T77 อีกทางครับ ขวามือคือทางไปโครงการ

มองจากมุมบนจะเห็นแบบนี้ครับ ลูกศรสีแดงคือทางไปยังโครงการ

ตรงเกาะกลางจะเป็นสวนหย่อม มีป้ายบอกทาง แต่ละโครงการอยู่

จากนั้นขวามือจะเป็นด้านหน้าโครงการ hasu HAUS

เดี๋ยวผมจะแวะเข้าไปชมส่วนกลางโครงการนี้ครับ เนื่องจากตัวที่ตั้งโครงการนี้อยู่ติดริมคลองพระโขนงเหมือนกับ kawa HAUS ผมเลยอยากให้ชมบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลาง hasu HAUS ว่าจะได้อารมณ์ประมาณไหนครับ

ตัวโครงการ hasu HAUS จะตั้งอยู่ติดริมคลองพระโขนง แบ่งเป็น 2 อาคาร รูปทรงตัว L เว้นพื้นที่ตรงกลางเป็น Facility และเชื่อมออกมาถึงริมคลองพระโขนง โครงการนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ช่วงกลางปี 2559 และ Sold Out ไปแล้วนะครับ

hasu HAUS เป็นโครงการ Low Rise สูง 7 ชั้น โดยออกแบบจากแรงบันดาลใจของการใช้ชีวิตในเมืองแบบละเมียดละไมผสมผสานกับ วิถีชีวิต เป็นรีสอร์ทคอนโดมิเนียม ในสไตล์โมเดิร์นที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ และสายน้ำ

พื้นที่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคารจะเป็นสระว่ายน้ำ และสระบัว มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา

บริเวณทางเดินที่เชื่อมส่วนต่างๆในโครงการ เป็นทางเดินไม้ที่ออกแบบมาให้เหมือนบรรยากาศบ้านริมคลอง

ทางเดินแบบเปิดโล่งริมสระว่ายน้ำ จะมีต้นไม้นานาชนิด สร้างบรรยากาศในสไตล์รีสอร์ทได้ดีครับ

สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 1 ขนาด 17.5 x 7.5 ม.

ติดกับสระว่ายน้ำฝั่งตรงข้ามจะเป็นสระบัว เวลาว่ายน้ำเหมือนว่ายอยู่ในคลองครับ รอบๆจะมีต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น

ในสระบัวจะมีต้นไม้ใหญ่ และ Pavilion แทรกอยู่

นอนอาบแดดใน Pavilion ท่ามกลางสระบัว ได้บรรยากาศริมคลอง

จากสระบัวมองผ่านสระว่ายน้ำ จะเห็นโถงโล่งมองออกไปยังริมคลองพระโขนง

บริเวณโถงริมคลองใต้อาคาร B ฝ้าจะสูง 5.9 ม. ที่โครงการออกแบบให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ริมคลอง โดยเอายูนิตพักอาศัยชั้น 2 และ 3 ออก เพื่อเปิดวิวริมคลองใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางได้ รับลมจากคลองได้สบายๆ มองออกไปเห็นคลองพระโขนง ผมว่าส่วนนี้เค้าออกแบบมาดีนะครับ

มีสระน้ำพุริมทางเดิน ฟังเสียงน้ำนั่งคิดอะไรเพลินๆเลยครับ

ริมคลองจะมีที่นั่งห้อยขาใต้ต้นไม้ใหญ่

พื้นที่ริมคลองมีสนามหญ้าโล่งๆ

วิวมองไปฝั่งตรงข้ามคลองคือวัดใต้ครับ ซึ่งพื้นที่บริเวณวัดมีการดูแลดี สะอาดตา

มองกลับเข้ามาด้านในจะเห็นโถงโล่งๆยาวเข้าไปถึงสระว่ายน้ำ

ทางเดินริมน้ำได้ร่มเงาจากต้นไม้

มีที่นั่งห้อยขาใต้ต้นไม้อีกส่วน

เดินมาสุดทางจะมีทางเดินเชื่อมเข้าห้อง The Sway เป็นห้องพักผ่อน นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ

ภายในห้องมีโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้ขนาด 6 ที่นั่ง ด้านในมีชั้นวางหนังสือ

มองออกไปที่ริมคลอง มีหน้าต่างบานใหญ่ จะเปิดรับลมด้านนอกก็ได้

พื้นที่นั่งห้อยขาตรงหน้าต่าง ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากที่นั่งริมน้ำ

ป้ายสำหรับบอกพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ

ตรงพื้นที่โล่งจะสะดุดตากับบันไดวนขึ้นไปยัง Terrace

ส่วนของ Terrace จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีโซฟาไว้ให้นั่งหรือนอนเล่นชมวิวคลองพระโขนง

มองออกไปที่คลองพระโขนงผ่านแนวต้นไม้ที่ชั้นล่าง

จาก Terrace มองลงมาที่ชั้นล่างสวยดีครับ

ส่วนของ Lobby พื้นหินอ่อนตามสไตล์แสนสิริเกือบจะทุกโครงการเลย ผนังด้านในกระจกสูงถึงฝ้ามองออกไปที่สวนและสระว่ายน้ำ แต่ถ้าช่วงบ่ายๆแดดจะส่องเข้ามา ต้องใช้ม่านช่วยครับ จุดเด่นของ Lobby คือไฟที่ออกแบบมาให้เหมือนใบบัวล้อไปกับสระบัวด้านนอก

ภายใน Lobby อีกมุม

บริเวณโถงลิฟท์โดยสารมีให้อาคารละ 2 ตัว ผนังจะใช้ไม้เป็นหลัก

บริเวณโถงทางเดินส่วนพักอาศัยแต่ละชั้น

กลับออกมาตรงถนนด้านหน้า hasu HAUS เดินตามลูกศรเพื่อไปโครงการต่อครับ

กลับออกมาด้านหน้าโครงการ hasu HAUS เดินเข้าไปพื้นที่โครงการ kawa HAUS อ่อนนุช T77 กันต่อ

ติดกับรั้วโครงการ hasu HAUS คือโครงการ Park Court เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม ของ มั่นคงเคหะการ

เดินตรงมาสุดทางจะบังคับเลี้ยวขวาไปตามทางอีกครับ ซ้ายมือจะเป็นโครงการ mori HAUS ของแสนสิริอีกตัวครับ ตัวนี้ส่วนกลางก็สวยไม่แพ้ hasu HAUS เลย ตอนนี้ถนนทางเข้าพื้นที่โครงการยังอยู่ในช่วงก่อสร้างบางส่วนอยู่ครับ เดินมาได้แค่ส่วนนี้

ผมเก็บภาพจากโดรนมาฝากแทนครับ ทางเข้าโครงการจะอยู่ระหว่างโครงการ mori HAUS และ Park Court

ตรงเข้ามาสุดทางจะเจอพื้นที่โครงการด้านหน้าเลย ส่วนนี้จะมีคลองเล็กๆ ขั้นระหว่างถนนและหน้าโครงการครับ ทิศเหนือพื้นที่โครงการติดกับบ้านพักอาศัย และพื้นที่ว่างเปล่าบางส่วน ทิศใต้จะติดคลองพระโขนง ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโครงการของ LPN ฝั่งทิศตะวันออกติดกับพื้นที่ว่างเปล่า และทิศตะวันตกติดกับพื้นที่ว่างเปล่า และคลองเล็กๆระหว่าง Park Court

มุมมองไปฝั่งคลองพระโขนงจะเห็นประมาณนี้ครับ

กลับออกมาตรงทางแยกระหว่าง Bangkok Prep กับ hasu HAUS ผมจะพาไปดูทางเข้าออก T77 อีกทางครับ ไปทางซ้ายมือนะครับ

เดินมาตรงหน้าจะเห็นโครงการ mori HAUS

โครงการ mori HAUS เป็นโครงการ Low Rise ตัวที่สองใน T77 เพิ่งจะเริ่มโอนไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาครับ ที่นี่ส่วนกลางก็สวยครับ

เดินผ่าน mori HAUS มาจะเจอวงเวียน พื้นที่ด้านขวามือคงจะเป็นโครงการในอนาคตต่อไปอีกครับ

เลี้ยวซ้ายมาตามถนน ด้านขวามือจะเป็นสำนักงานขายโครงการ Park Court

ด้านหน้าสำนักงานขายมั่นคงเคหะการ

ถัดมาอีกจะเจอประตูทางเข้าออก T77 อีกทาง แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดให้ใช้นะครับ

ผ่านประตูออกมาขวามือจะมีสวนหญ้าเทียมขนาด 7 ไร่

สวนนี้มีชื่อว่า T77 Park อยู่ในการดูแลของมั่นคงเคหะการ รับจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ

มีป้ายบอกระเบียบการใช้พื้นที่และเวลาเปิดปิด 6.00-18.00 น. ลูกบ้านใน T77 มาเดินเล่น หรือวิ่งเล่นกันได้ครับ

ภายในสวนด้านใน พื้นเป็นหญ้าเทียมนะครับ

ถัดจาก T77 Park ออกมาจะเจอถนนใต้ทางด่วนเส้นเดียวกับทางเข้าออกตรง THE BASE Park West เลี้ยวซ้ายไปออกสุขุมวิท 71 ได้ตามซอยปรีดีพนมยงค์ 2 , 14 , 26 และไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถ้าเลี้ยวขวาไปออกสุขุมวิท 71 ได้เช่นกันที่ซอยปรีดี 26

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา

มองจากมุมสูงเข้าไปด้านใน เห็น T77 Park และทางเข้าออก T77 อีกทาง

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆอยู่ห่างจาก Habito ประมาณ 400 ม. ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ของแสนสิริเองมีร้านค้า ร้านอาหาร ครบครัน 7-11 ที่นี่เป็นแบบพรีเมี่ยม มีธนาคาร ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย รวมไปถึง Co-Working Space อย่าง HUBBA-TO หรือถ้าอยากรับประทานแบบราคาไม่แพงมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว นอกนั้นก็ไปฝั่งซอยปรีดีพนมยงค์ 2 มีร้านของกินเปิดถึงดึกๆเลย หรือออกไปตรงเส้นสุขุมวิท 71 มีร้านอาหารริมทางอยู่หลายร้าน หรือเดินทะลุเข้าไปใน W District ก็ได้ครับ และตรง BTS พระโขนงมีคอมมูนิตี้มอลล์อีกแห่งชื่อว่า Summer Hill ตอนนี้มี Starbucks เปิดแล้วครับ จากโครงการเดินมาปากซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ประมาณ 1.1 กม. แต่ซอยจะมืดหน่อยถ้าเป็นผู้หญิงไม่แนะนำ

ถ้าเป็นฝั่งสุขุมวิท 77 มี Big C Extra จากโครงการประมาณ 1 กม. อยู่ห่างจากตลาดอ่อนนุชประมาณ 1 กม. ตั้งแต่ Big C ถึงปากซอยสุขุมวิท 77 และตรงด้านหลัง Big C ซอยสุขุมวิท 77/1 มีร้านค้าหลายร้าน ร้านอาหารก็มีเยอะเลย ส่วนรสชาติอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนแล้วกันครับ ตรง BTS อ่อนนุชมีโลตัส และ Century the movie plaza อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโลตัสเลย นั่ง Shuttle Bus มาลงได้เลยสะดวกดี นอกจากนี้อนาคตจะมีคอมมูนิตี้มอลล์อีกแห่งในซอยสุขุมวิท 77 อยู่ตรงช่วงซอยอ่อนนุช 10 และ 12 คือ People Park ตอนนี้ล้อมรั้วมาสักพักใหญ่แล้วคงต้องรอดูอีกที หรือจะขึ้น BTS เข้าเมืองไปเลยสะดวกดี ไปเอกมัย 2 สถานีมีเมเจอร์ และ Gateway เลยไปก็เป็นทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก หรือยาวไปลงสยามได้เลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• BTS อ่อนนุช : 1.6 กม.
• BTS พระโขนง : 1.8 กม.

• Habito mall : 400 ม.
• Big C Extra อ่อนนุช : 1 กม.
• ตลาดอ่อนนุช : 1 กม.
• W District : 1.3 กม.
• People Park : 1.5 กม.
• Century The Movie Plaza : 1.7 กม.
• Tesco Lotus : 1.7 กม.
• Summer Hill : 1.7 กม.
• The Phyll : 2.5 กม.
• Gateway เอกมัย : 2.5 กม.
• Major เอกมัย : 2.8 กม.
• The Beacon Place : 3.1 กม.
• Pickadaily : 4.7 กม.
• Emporium : 5.2 กม.
• Emquartier : 5.2 กม.
• Bangkok Mall : 5.8 กม.
• Rain Hill : 5.8 กม.
• ซีคอนสแควร์ : 8.1 กม.
• Makro ศรีนครินทร์ : 8.2 กม.
• HaHa mall : 8.9 กม.
• พาราไดซ์ พาร์ค : 8.9 กม.

• Bangkok Prep : 300 ม.
• Wells International School : 2.1 กม.
• Anglo Singapore International School : 4.1 กม.

• ร.พ.กล้วยน้ำไท : 2.9 กม.
• ร.พ.สุขุมวิท : 3 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนสุขุมวิท 77 : 890 ม.
• ถนนสุขุมวิท 71 : 1.1 กม.
• ถนนสุขุมวิท : 1.3 กม.
• ถนนพระรามสี่ : 1.7 กม.
• ถนนเอกมัย : 2.8 กม.
• ถนนทองหล่อ : 3.4 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ : 5.4 กม.
• ถนนบางนาตราด : 5.5 กม.
• แยกอ่อนนุช : 1.2 ม.
• แยกพระโขนง : 1.7 กม.
• แยกเอกมัย : 2.8 กม.
• แยกทองหล่อ : 3.4 กม.
• แยกบางนา : 5.5 กม.

ภาพจำลองบรรยากาศอาคารพักอาศัย kawa HAUS

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ kawa HAUS พื้นที่ส่วนกลางอยู่ติดริมน้ำ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ kawa HAUS

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ kawa HAUS

ราคา (ต.ค.60)

• ราคาเริ่ม 3.59 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

***สำหรับผู้ที่สนใจโครงการตอนนี้สามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติม และสิทธิพิเศษพร้อมส่วนลดสูงสุด 50,000 บาทได้ที่นี่

https://www.sansiri.com/condominium/kawa-haus/th/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/condominium/kawa-haus/th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

EP.943 รีวิว คอนโด วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม Wish Signature II Midtown Siam

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนครับวันนี้ผมพามาชมโครงการ Wish Signature II Midtown Siam จาก บริษัท สยามนุวัตร จำกัด ตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรีฝั่งเลขคู่ อยู่ตรงปากซอยเพชรบุรี 20 ติดกับโครงการแรก Wish Signature Midtowm Siam ใกล้ BTS ราชเทวี ประมาณ 400 ม. ห่างจาก BTS สยาม ประมาณ 750 ม. ห่างจาก Airport Rail Link พญาไท ประมาณ 850 ม. ห่างจากท่าเรือประตูน้ำประมาณ 750 ม. และแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านหน้าโครงการในอนาคต รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ห่างจากสยามพารากอนประมาณ 350 ม.

วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร สูง 41 ชั้น บนที่ดิน 1-3-75 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 333 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, เพ้นท์เฮ้าส์ 3 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 30.00-241.31 ตร.ม. คาดว่าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2563

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีจุดเด่นในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลาง “Lifestyle Pods” จะอยู่ 4 ชั้นบนสุดของตัวอาคาร อาทิ Pool Pods สระว่ายน้ำลอยฟ้ารูปตัวยูขนาดใหญ่ มองทัศนียภาพได้แบบ 360 องศา, Body and Mind Pods ฟิตเนส ห้องโยคะ และ Boxing Stage, Chill and Work Pods พื้นที่สำหรับผ่อนคลาย และการทำงานที่เป็นส่วนตัว รวมถึง Sky Pods พื้นที่สำหรับสังสรรค์และทำกิจกรรม, สวนหย่อม , ลิฟท์โดยสาร, Access Card Control, Video Door Phone, กล้องวงจรปิดภายในโครงการ ที่จอดรถ 197 คัน และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมงใน ราคาเริ่มต้น 5.x ล้านบาท ราคาเฉลี่ยเริ่ม 190,000 บาท/ตร.ม.

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนเพชรบุรี ซอย 20 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.752039, 100.534996

ที่ตั้งโครงการ WISH Signature II Midtown Siam ตั้งอยู่ติดกับโครงการแรก WISH Signature Midtown Siam ด้านหน้าโครงการติดถนนเพชรบุรีฝั่งมุ่งหน้าไปแยกราชเทวี พื้นที่ระหว่าง 2 โครงการมีถนนซอยเพชรบุรี 20 ขั้นกลางอยู่ ถนนเพชรบุรีซึ่งเป็นเส้นหลักและเส้นสำคัญของย่านนี้เลยก็ว่าได้ ตัวถนนเพชรบุรีเริ่มตั้งแต่บริเวณแยกยมราช มาตัดกับถนนพระรามที่ 6 ตรงแยกอุรุพงษ์ จากนั้นก็มาตัดกับถนนบรรทัดทองตรงแยกเพชรพระราม และมาตัดกับถนนพญาไทบริเวณแยกราชเทวี จากนั้นมาตัดกับถนนราชปรารภและถนนราชดำริบริเวณแยกประตูน้ำ จากนั้นก็ไปตัดกับถนนชิดลม ถนนวิทยุ ถนนนิคมมักกะสันและซอยสุขุมวิท 3 ตัดกับถนนอโศก-ดินแดงและอโศกมนตรี ตัดกับซอยเพชรบุรี 38/1 ตัดกับซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) และไปสิ้นสุดที่แยกคลองตันโดยตัดกับถนนรามคำแหง ถนนพัฒนาการ และสุขุมวิท 71 จะเห็นว่าถนนเพชรบุรีมีจุดเด่นที่เป็นเส้นที่มีจุดเชื่อมต่อไปยังเส้นต่างๆได้หลากหลายไม่ว่าจะเข้าหรือออกนอกเมืองก็ค่อนข้างจะสะดวก มีจุดขึ้นลงทางด่วนใกล้ๆตรงบริเวณแยกยมราช และตรงด่านเพชรบุรี

จุดเด่นของโครงการคือทำเลที่ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองก็ว่าได้ครับ เป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังที่ต่างๆได้สะดวก มีให้เลือกหลากหลายเส้นทางไม่ว่าจะเข้าหรือออกเมือง พร้อมทั้งอยู่ใกล้ทางด่วน และมีซอยย่อยที่ลัดเลาะไปได้โดยไม่ต้องใช้เส้นหลัก การเข้าออกโครงการปากซอยเพชรบุรี 20 สามารถเลี้ยวซ้ายและขวาได้ หรือทางมาจากแยกราชเทวีสามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้เลยไม่ต้องไปกลับรถตรงแยกประตูน้ำ

จุดเด่นของทำเลโครงการอีกอย่างคือด้านข้างพื้นที่โครงการฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับซอยกรุงเทพการบัญชี เชื่อมกับด้านหลังพารากอน ซอยนี้เป็นซอยส่วนบุคคล รถทั่วไปจะวิ่งจากพารากอนมาออกถนนเพชรบุรีได้อย่างเดียว แต่คนเดินเข้าออกได้ทั้งไปและกลับจากพารากอน โดยเวลาเปิดปิดคือ 10.00 น. – 22.00 น. ซอยนี้มี รปภ. เข้มงวดตลอด 24 ชม. ลูกบ้านจากโครงการถ้าใช้รถ หรือเดินมาจากพารากอนถือว่าใกล้ที่สุดในโครงการย่านนี้เลย แต่ถ้าเป็นโครงการฝั่งตรงข้าม หรือฝั่งเลขคี่ต้องไปกลับรถครับ เพราะซอยห้ามเลี้ยวขวา

การเดินทางเข้าเมือง ออกจากโครงการมาจะเป็นเส้นเพชรบุรี ปากซอยเพชรบุรี 20 สามารถเลี้ยวซ้าย และขวาได้ ถ้ามาเข้าถนนพญาไทตรงแยกราชเทวีบังขับเลี้ยวซ้าย กับตรงเท่านั้น เลี้ยวมาจะมุ่งหน้าไปถนนพระราม 1 มาเข้าสยาม เลยไปเข้าถนนเพลินจิต เชื่อมเข้าสุขุมวิทได้เลย และสามารถเชื่อมออกถนนพระรามสี่ได้อีกครับ หรืออีกฝั่งไปเข้าถนนบำรุงเมืองเข้าเขตพระนครได้ หรือตรงตามถนนพญาไทไปออกสามย่าน หัวลำโพงได้ แต่ถ้าจะไปฝั่งอนุสาวรีย์ชัยฯ ต้องกลับรถใต้สะพานหัวช้าง จากนั้นก็มุ่งหน้าผ่านแยกพญาไท และเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ อีกทางจากโครงการเลี้ยวขวามาทางแยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภวิ่งไปรางน้ำ อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้อีกทาง และออกดินแดง วิภาวดีได้ ถ้าเลี้ยวเข้าราชดำริมาออกเพลินจิตได้ หรือตรงไปออกพระรามสี่ และสีลม สาทร สวนลุมได้ ถ้าวิ่งตามเส้นเพชรบุรีจะไปเข้าซอยย่อยสุขุมวิททางท้ายซอยได้

การเดินทางออกนอกเมือง ถ้าจะออกโซนรังสิตใช้เส้นราชปารภไปออกวิภาวดีรังสิตได้ มีทางด่วนโทลเวย์ให้ขึ้น เส้นวิภาวดีตัดเข้าลาดพร้าวได้ ถ้าไปโซนปิ่นเกล้า ใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งข้ามแยกราชเทวีไปเข้าหลานหลวง ก็ขึ้นสะพานพระราม 8 ได้ จะลงปิ่นเกล้า หรือยิงยาวขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีออกพุทธมณฑลสายต่างๆ ไปนครปฐมได้เลย ถ้าไปโซนบางนา จะใส้เส้นสุขุมวิทก็ได้วิ่งตามแนว BTS ไปได้เลย ยาวไปจนถึงสมุทรปราการได้ หรือถ้าใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งไปตัดเข้าสุขุมวิท 71 หรือพระโขนง ออกสุขุมวิทได้ หรือตรงข้ามไปเข้าถนนพัฒนาการตัดออกศรีนครินทร์ได้ เส้นราชดำริวิ่งมาพระรามสี่ เข้าสาทร วิ่งตรงข้ามสะพานตากสินไปฝั่งธน ยาวออกไปวงเวียนใหญ่ ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ได้เลย

การเดินทางโดยสาธารณะ มีให้เลือกหลากหลายดีครับ หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านไปมาหลายสายเกือบตลอดทั้งคืน มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก ใต้สะพานลอยมีวินมอเตอร์ไซค์เรียกใช้บริการได้เลย หน้าโครงการติดถนนเพชรบุรีก็โบก Taxi ได้เลย ถ้ามาแถวประตูน้ำจะมีรถตู้ให้บริการหลายสายไม่ว่าจะไปรังสิต ดอนเมือง สะพานใหม่ ลาดพร้าว สี่พระยา โบกขึ้นได้เลยครับ นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งทางน้ำเรือโดยสารคลองแสนแสบที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการโดยต้นทางอยู่ที่สะพานผ่านฟ้า ไปสุดที่วัดศรีบุญเรือง ท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือประตูน้ำประมาณ 750 ม. และสะพานหัวช้างระยะเดินจากโครงการมาประมาณ 800 ม. และ เผื่อใครเบื่อรถติดจะนั่งเรือไปต่อ MRT ก็เป็นทางเลือกที่ดี

จุดเด่นโครงการคืออยู่ห่างจาก BTS ราชเทวีประมาณ 400 ม. ถึงบันไดเลื่อนขึ้นตัวสถานีได้เลย เป็นระยะที่เดินสบายๆครับ มีทางเท้าเดินสะดวกตั้งแต่หน้าโครงการถึงบันไดเลื่อน ข้อดีของโครงการฝั่งเลขคู่คือไม่ต้องข้ามถนนมาขึ้น BTS เหมือนฝั่งเลขคี่ นอกจากนี้ยังอยู่ห่างจาก Airport Rail Link พญาไทระยะเดินประมาณ 850 ม. ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับ BTS พญาไท ระยะเดินก็มีเหงื่อตกกันบ้างแต่ถ้าเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆผมว่าสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะพอสมควรครับ

ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านเส้นเพชรบุรี โดยเป็นแนวรถไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกมีระยะทางรวม 35.4 กม. ต้นทางอยู่ที่สถานีบางขุนนนท์ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) และไปสิ้นสุดที่สถานีสุวินทวงศ์ ส่วนสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีประตูน้ำ ต่อไปคงจะสะดวกเพิ่มขึ้นไปอีกครับ

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่บริเวณรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย ทั้งตึกแถว บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมที่กระจุกตัวอยู่ใกล้ๆโครงการ ทั้งโครงการเดิมที่สร้างเสร็จและโครงการใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ฮอทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาครับ ส่วนราคาย่านนี้ก็โดดสูงไปพอสมควร

WISH Signature II Midtown Siam ที่ดินโครงการประมาณ 2 ไร่ แต่เดิมเป็นของโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย และซื้อต่อมาในราคา 2 ล้านบาทต่อตารางวา มูลค่าโครงการทั้งหมด 3,000 ล้านบาท แบ่งจำนวนยูนิตมา 333 ยูนิต โดยทำราคาเริ่มที่ 190,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาเริ่มที่ 5.x ล้านบาท

ตัวทำเลจริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรมาก แต่ด้วยความที่ใกล้กับสยามและสถานที่สำคัญอย่างที่ผมไฮไลท์ให้ดูมีทั้งห้างสรรพสินค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอร์รี่ และเซ็นทรัลเวิลด์ มีโรงแรมระดับ 5 ดาวอย่าง Kempinsik ใกล้กันเป็นวังสระปทุม ซึ่งถ้าเรานั่ง BTS จากราชเทวีมาสยามมองลงมาที่วังจะเห็นต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น มีการดูแลเป็นอย่างดี เป็นสถานที่อันทรงคุณค่าเป็นอย่างมาก นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงก็ยังรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาสำคัญอีกหลายแห่ง

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนราชดำริ มุ่งหน้าไปทางแยกประตูน้ำ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรี จากนั้นตรงไปอีกประมาณ 700 ม. พื้นที่โครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ ตรงปากซอยเพชรบุรี 20

สรุปการเดินทาง ถนนราชดำริ > แยกประตูน้ำ > ถนนเพชรบุรี > WISH Signature II Midtown Siam

เริ่มจากถนนราชดำริมุ่งหน้าไปทางแยกประตูน้ำ ซ้ายมือเป็น Central World ขวามือเป็น Gaysorn Village

ถ้ดมาขวามือเป็น Arnoma Grand Bangkok ติดกันเป็น Big C ราชดำริ เราจะเห็น Sky Walk ที่เชื่อมตั้งแต่ Gaysorn Village ยาวไปจนถึง Platinum เลย

ถัดมาขวามือเป็น The Market by Platinum กำลังก่อสร้างกันอยู่ ซ้ายมือมองเห็นโรงแรม Novotel

จากนั้นจะเจอแยกประตูน้ำ เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรีครับ ข้างหน้ามองเป็นตึกใบหยก 2 ขวามือเป็น The Palladium World Shopping

จากนั้นเราเลี้ยวซ้ายตรงแยกประตูน้ำครับ

เลี้ยวซ้ายมาจะเจอ Platinum Fashion Mall จากแยกประตูน้ำไปถึงโครงการประมาณ 700 ม.

ถัดมาซ้ายมือเป็น Grand Diamond Plaza ขวามือเป็น Shibuya

ถัดมาเป็น 7-11

เลยมาอีกซ้ายมือเป็นห้างพัรธุ์ทิพย์

ติดกันเป็นสถานฑูตอินโดนีเซีย ขวามือจะเห็น Ideo Q สยาม-ราชเทวี

ถัดมาจะเจอซอยกรุงเทพการบัญชี ปากซอยมี 7-11 และห้างเล้งนาฬิกา ซอยนี้เป็นซอยส่วนบุคคลครับ เป็นซอยที่ติดกับฝั่งด้านข้างโครงการ รถวิ่งออกมาจากพารากอนได้ เลี้ยวเข้าไปไม่ได้ แต่เดินไปพารากอนได้นะครับ เตรียมชิดซ้ายได้เลย

ติดกันก็จะเจอพื้นที่ด้านหน้าโครงการครับอยู่ตรงปากซอยเพชรบุรี 20 เลย ติดกันเป็นโครงการแรกซึ่งจะพร้อมโอนได้เร็วๆนี้

อีกทางผมจากพาเดินจาก BTS ราชเทวี ไปโครงการระยะทางประมาณ 400 ม. โดยออกทางออก 4 และเดินย้อนขึ้นไปทางแยกราชเทวี และเลี้ยวขวาเดินเลียบถนนเพชรบุรีไปจนถึงโครงการ ทางเดินนี้ค่อนข้างสะดวกมีทางเท้าตั้งแต่ตัวสถานีไปจนถึงหน้าโครงการเลย ข้อดีของพื้นที่โครงการคืออยู่ฝั่งเดียวกับตัวสถานีไม่ต้องรอข้ามถนนครับ

เริ่มจาก BTS ราชเทวี

จากบนสถานีมองไปที่แยกราชเทวี จะเห็นโครงการคอนโดมิเนียมรุ่นก่อนๆหลายโครงการเลย

มองมาทางขวาหน่อย จะเริ่มเห็นโครงการใหม่ๆเปิดตัวตามเส้นเพชรบุรี

ติดกับตัวสถานีมองลงมาจะเห็น CoCo Walk มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านนั่งชิลล์ให้เลือกหลายร้านครับ

จากสถานี BTS เราจะออกทางออก 4

เดินลงบันไดมาจะเจอ CoCo Walk ซ้ายมือ

ตรงนี้มีวินมอเตอร์ไซค์

อัตราค่าบริการพี่วินมอเตอร์ไซค์

จากนั้นเราจะเดินย้อนขึ้นไปทางแยกราชเทวีครับ

เดินมาซ้ายมือเป็นบันไดเลื่อนขึ้นสถานี จากโครงการมาถึงตรงนี้ประมาณ 400 ม.

จากนั้นจะเจอแยกราชเทวีตรงหน้า มีวินมอเตอร์ไซค์ตรงนี้ด้วย

อัตราค่าบริการวินสี่แยกราชเทวี

จากนั้นเราเลี้ยวขวาต่อครับ เดินตามทางเท้าริมถนนเพชรบุรีไปจนถึงโครงการได้เลยสะดวกดี

ถัดมาเป็นโครงการบ้านกลางกรุง

ติดกันมีวินมอเตอร์ไซค์

ถัดมาเป็นโครงการ The Line ราชเทวี

เดินมาอีกขวามือจะเห็น Cafe Amazon

ติดกันเป็นกรมการพลังงานทหาร

เดินเลยมาอีกเป็นโครงการ The Address สยาม

จากนั้นจะเจอ WISH Signature Midtown Siam โครงการแรก ติดกันก็จะเป็นที่ดิน WISH Signature II Midtown Siam ครับ

WISH Signature Midtown Siam ถ่ายตัวแรกให้ดู ตัวโครงสร้างขึ้นไปพอสมควรแล้ว ตัวนี้เหลือขายอีกประมาณ 5% ราคาเริ่มอยู่ที่ 150,000 บาทต่อตารางเมตร

เดินผ่าน WISH ตัวแรกมาจะเจอซอยเพชรบุรี 20 อีกฝั่งซอยก็จะเป็นพื้นที่โครงการครับ ตอนนี้ล้อมรั้วไว้อยู่

ที่ดินโครงการด้านหน้าจะเป็นทิศเหนือติดกับถนนเพชรบุรี ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม ด้านหลังโครงการเป็นทิศใต้ติดกับโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัยสูง 8 ชั้น ถัดออกไปอีกจะมีโรงแรม Chatrium สูง 32 ชั้น ถัดออกไปอีกจะเป็นโรงแรม Siam Kempinski และ Siam Paragon ทิศตะวันออกติดกับซอยกรุงเทพการบัญชีเป็นซอยส่วนบุคคล ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์ อาคารพักอาศัย และโรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม ฝั่งทิศตะวันตกติดกับซอยเพชรบุรี 20 อีกฝั่งติดกับโครงการ WISH ตัวแรกสูง 45 ชั้น

ตัวพื้นที่โครงการหลักๆจะอยู่ด้านในที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ส่วนด้านหน้าที่ติดถนนเพชรบุรีโครงการจะทำเป็นทางคนเดินเข้าออกครับ ส่วนทางเข้าออกรถจะอยู่ถัดเข้ามาในซอยเพชรบุรี 20 ด้านหน้าที่ดินจะมีส่วนที่ติดกับเล้งนาฬิกา

ภาพจำลองตัวโครงการเมื่อสร้างแล้วเสร็จบนที่ดิน

มองจากด้านหน้าเข้าไปในซอย ด้านหน้าที่ติดปากซอยจะเป็นทางสำหรับคนเดินเข้าออกโครงการ ส่วนทางเข้าออกรถจะอยู่ด้านในซอยอีกหน่อยครับ พื้นที่หลักๆโครงการจะอยู่ด้านในครับ ตัวซอยเพชรบุรี 20 จะถูกขยายกว้างเป็น 10 ม. จากเดิมที่กว้าง 4 ม. โดยทางโครงการแบ่งที่ดินยกให้เป็นสาธารณะครับ

หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ และสะพานลอยข้ามถนนได้สะดวก

ขึ้นมาบนสะพานลอยมองไปฝั่งประตูน้ำ จะเห็นรถค่อนข้างหนาแน่น ซึ่งเป็นปกติของในเมืองครับ สองฝั่งทางจะเต็มไปด้วยอาคารพาณิยช์ โรงแรม และห้างสรรพสินค้า

มองไปฝั่งแยกราชเทวี สองฝั่งทางส่วนใหญ่จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งเก่าและใหม่ ซ้ายมือมองเห็นหน้าโครงการครับ อนาคตเส้นนี้จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่าน น่าจะเพิ่มความสะดวกให้คนย่านนี้อีกครับ

ด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนเพชรบุรี ซอยด้านข้างเป็นซอยเพชรบุรี 18 ติดกันขวามือเป็น WISH Signature ตัวแรกความสูงอยู่ที่ 45 ชั้น ซ้ายมือติดกันเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น

ถัดมาอีกฝั่งเป็นเล้งนาฬิการซึ่งติดกับที่ดินโครงการด้านใน ด้านข้างโครงการอีกฝั่งจะติดกับซอยกรุงเทพการบัญชี

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการเป็นโครงการ Ideo Q สยาม-ราชเทวี และอาคารพาณิชย์

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา

เดินเข้าไปดูด้านในซอยเพชรบุรี 20 หน่อยครับ

ตัวซอยนี้ในอนาคตขนาดซอยจะกว้างขึ้นอีกครับ ทางโครงการจะยอมเสียที่ดินให้สาธารณะ เพื่อให้ลูกบ้านเข้าออกโครงการได้สะดวกครับ พื้นที่ฝั่งขวาจะเป็นโครงการ WISH Signature ตัวแรกยาวขนานเข้าไปด้านใน

เดินเข้ามาจะเจอสำนักงานขายตัวแรก ซึ่งตอนนี้กำลังปรับปรุงเป็น WISH Signature II Midtown Siam น่าจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างได้เร็วๆนี้ครับ ทางเข้าออกรถของโครงการจะอยู่ช่วงสำนักงานขายนี่แหละครับ ส่วนตำแหน่งต้องรอดูอีกที

WISH Signature II Midtown Siam ที่ดินเดิมเป็นของโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย

ตรงเข้ามาจะเจอทางโค้ง ตรงหน้าเป็นบ้านพักอาศัยติดกับพื้นที่โครงการซ้ายมือ

ซอยนี้เป็นซอยตันนะครับ แต่ถ้าทางคนเดินสามารถเดินไปทะลุออกใต้สะพานหัวช้างได้

มองกลับไปที่พื้นที่โครงการ พื้นที่อยู่ในช่วงการรื้อถอนอยู่ ยังเป็นอาคารของโรงเรียนอยู่

มองไปฝั่งด้านหน้าโครงการ

กลับออกมาปากซอยเพชรบุรี 20 เดี๋ยวผมเดินไปดูฝั่งด้านข้างซอยกรุงเทพการบัญชีต่อ

เลยหน้าโครงการมาจะเจอสะพานลอย ใต้สะพานมีวินมอเตอร์ไซค์ เรียกใช้บริการได้เลย

ถัดมาเป็นเล้งนาฬิกา

เลยมามีร้านก๋วยเตี๋ยว ถัดไปเป็นซอยกรุงเทพการบัญชี

ผมจะพาเดินเข้าไปดูซอยด้านข้างโครงการอีกซอย เป็นซอยส่วนบุคคลคือซอยกรุงเทพการบัญชี ซอยนี้ไปเดินเชื่อมเข้าด้านหลังพารากอนได้ครับ

ซอยกรุงเทพการบัญชีนี้เป็นซอยส่วนบุคคลเชื่อมกับซอยด้านหลังพารากอนได้ มี รปภ. คุมเข้มงวดตลอด 24 ชม. รถที่เลี้ยวเข้าจากฝั่งเพชรบุรีได้ต้องมีสติ๊กเกอร์แปะหน้ารถเท่านั้น ถ้าเผลอเลี้ยวเข้าไปจะมี รปภ. คอยตรวจและให้เลี้ยวกลับออกมา รถทั่วไปจะออกมาจากฝั่งพารากอนได้อย่างเดียวครับ ส่วนถ้าเป็นคนเดินก็ได้ทั้งเดินเข้าและออกได้ เวลาเปิด ปิดคือ 10.00 น. – 22.00 น. คือเวลาเปิดปิดห้างนั่นเอง ตัวโครงการอยู่ติดกับซอยนี้เลยเดินไปพารากอนประมาณ 350 ม.

ปากซอยมี 7-11

เดินเข้ามาในซอยขวามือเป็นที่ดินของเล้งนาฬิกา ยาวเข้าไปติดที่ดินโครงการด้านในครับ

ถัดเข้ามา ขวามือเป็นที่จอดรถของเล้งนาฬิกา ข้างหน้าเป็นที่ดินโครงการครับ

ที่จอดรถเล้งนาฬิกาจะติดกับที่ดินโครงการเลย

ถัดมาเป็นที่ดินโครงการฝั่งด้านข้างทิศตะวันออก ขอบเขตเส้นสีแดง

ฝั่งซ้ายจะเป็นอาคารพักอาศัย

พื้นที่โครงการด้านในตอนนี้อยู่ในช่วงรื้อถอนอาคารครับ เป็นที่ดินเก่าของโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย

กลับออกมาด้านนอก เดินมาที่ดินด้านหลังโครงการต่อ

สิ้นสุดที่ดินโครงการติดกับโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย อาคารสูง 8 ชั้น

ตอนนี้มีการแบ่งรั้วเขตที่ดินแล้วครับ

มองไปฝั่งด้านหน้า ตรงรั้วโครงการฝั่งนี้จะทำเป็นประตูคนเดินเข้าออกให้อีกทางครับ ไว้ให้ลูกบ้านเดินไปช้อปปิ้งได้

ผมจะพาเดินไปดูด้านหลังพารากอนหน่อย จากโครงการเดินไปประมาณ 350 ม.

ถัดมาซ้ายมือเป็นโรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม ซึ่งแต่เดิมเป็นโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย แต่ตอนนี้ให้เปลี่ยนเป็นให้เช่าที่แทนครับ

ถัดมาจะเข้าเขตคุมเข้มซึ่งจะเป็นที่ดินในการดูแลของพารากอน มีป้ายห้ามเสียงดัง ห้ามรถหนักเกิน 2 ตัน

มีป้ายข้อปฏิบัติสำหรับการใช้สะพานบอกไว้ชัดเจน

ถัดมาสองฝั่งทางที่เห็นล้อมรั้วอยู่จะคือ Chatrium เป็นโรงแรมครับ

จากนั้นจะเห็น รปภ. ก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองแสนแสบ

จากนั้นจะเจอสะพานข้ามคลองข้างหน้าครับ ตอนนี้เราเข้าเขตพารากอนแล้วนะครับ

ขึ้นมาบนสะพานข้ามคลองแสนแสบ

จากบนสะพานมองไปฝั่งประตูน้ำ สภาพคลองวันที่ไปถ่ายไม่มีกลิ่นนะครับ ส่วนสีน้ำก็ตามที่เห็น

กลับมาทางเดิม เดินตามทางไปครับ ซ้ายมือจะเป็นโรงแรม Siam Kempinski

ลงสะพานมาขวามือเป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นส่วนหนึ่งในวังสระปทุม ซึ่งไม่ได้เปิดให้เข้าชมตลอดนะครับ เปิดเป็นช่วงๆ จะเห็นต้นไม้ปกคลุมหนาแน่นเลย

กลับออกมาทางเดิม เดินไปอีกหน่อยครับ

จากนั้นซ้ายมือจะเจอทางเข้าโรงแรม Siam Kempinski

Siam Kempinski โรงแรมระดับ 5 ดาว ตัวโรงแรมอยู่ติดกับด้านหลังพารากอนเลย

ผ่านทางเข้าโรงแรมไปอีกจะเจอพารากอนครับ

เดินออกมาจะเห็นด้านหลังพารากอนพอดี ประตูเข้าห้างมีทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวาครับ เลือกเข้าได้เลย

ผมจะพาเดินจากโครงการไปทางฝั่งแยกประตูน้ำ และไปสิ้นสุดที่ Sky Walk หน้า Central World

กลับมาตรงปากซอยกรุงเทพการบัญชี เดี๋ยวผมพาเดินไปทางแยกประตูน้ำต่อ

ผ่านมาจะเจอร้านสปาแจ่มจันทร์

ติดกันเป็นธนาคารธนชาติ

เลยมาอีกเป็นสถานฑูตอินโดนีเซีย

เลยมาอีกเป็นห้างพันธ์ุทิพย์ ซ้ายมือมีวินมอเตอร์ไซค์

มองไปฝั่งตรงข้ามเป็น Shibuya

ถัดมาเป็นซอยเพชรบุรี 22 มีร้านค้า ร้านอาหาร

ติดกันเป็นธนาคารกรุงศรี

ถัดมาเป็น Grand Diamond Plaza มี Starbucks

เลยมาอีกนิดจะเป็น Platinum Fashion Mall ของขายเพียบ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าทั้งปลีกและส่ง

ด้านห้างก็มีร้านค้ายาวตลอดแนว จะเห็นว่าคนคึกคักเกือบทุกวันทั้งชาวไทย และต่างชาติ

Platinum Fashion Mall ตัวอาคารยาวไปถึงแยกประตูน้ำเลย

ร้านค้าด้านหน้าห้างหลายร้านเลย

ตรงนี้มี McDonald เปิด 24 ชม.

ตรงนี้มีร้านฟู้ดทรัค

ถัดมาอีกหน่อยมี Starbucks

มุมสุดติดกับแยกประตูน้ำ มีโรงแรม Novotel ตรงหน้าจะเห็น Sky Walk

Sky Walk เดินเชื่อมไป Central World ได้

เดินขึ้นมาบน Sky Walk

ขึ้นมาแล้วมองไปที่แยกประตูน้ำ จะเห็น The Palladium ฝั่งซ้ายจะเป็นประตูน้ำ มีเสื้อผ้าของใช้ขายในราคาส่งเป็นย่านฮิตของพ่อค้าแม่ค้า ที่มาเหมาไปขายต่อครับ

ขึ้นมาบน Sky Walk มองไปฝั่งขวาจะไปเข้า Platinum Fashion Mall ได้

มองไปอีกฝั่งไปทางแยกราชประสงค์

เดินตาม Sky Walk ไปครับ

ที่ดินด้านข้างห้าง Central World ฝั่ง Isetan กำลังได้รับการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะขนาด 40 ไร่ เพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีคือ “สวนปทุมวนานุรักษ์”

มองไปอีกฝั่งจะเห็นโครงการ The Market by Platinum อยู่ติดกับ Big C ราชประสงค์

หันกลับมาตามทางเดินต่อ ขวามือเห็นป้าย Central World แล้ว

และจะเจอทางลงไป Central World เดินต่อไปในห้างเชื่อมไปสยามได้ ส่วน Sky Walk มีทางเดินเชื่อมไปอีกจนถึง Gaysorn Village และเดินต่อไป BTS ชิดลมได้

มองไปฝั่งแยกประตูน้ำ

มองไปฝั่งแยกราชประสงค์

ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้รอบๆโครงการมีทั้งอาคารสำนักงาน สถานศึกษาชื่อดัง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารให้เลือกเยอะพอสมควร ตั้งแต่ริมทางไปจนถึงร้านหรูๆในห้อง ตรงปากซอยกรุงเทพการบัญชี มี 7-11 หรือเดินเข้าซอยไปผ่านโรงแรมสยามเคมปินสกี้ และเข้าด้านหลังพารากอนในระยะเดินประมาณ 350 ม. พอเรามาถึงพารากอนแล้วก็สบายแล้วครับ คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ว่าแถวนี้มีอะไรบ้าง น่าจะทราบดีกันทุกท่าน เลือกทาน เลือกช้อปได้ตามอัธยาศัยเลยครับ หรือถัดไปอีกหน่อยก็เป็นเซ็นทรัลเวิล์ด เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ส่วนแถวประตูน้ำก็ใกล้ๆ มีห้างพันธุ์ทิพย์, Grand Diamond Plaza, Platinum Fashion Mall, พาลาเดียม, ประตูน้ำ, Central World, The Market, Big C ราชดำริ, Gaysorn Village อนาคตมีสไมล์สแควร์อีก ทั้งหมดนี้คือแหล่งช๊อปปิ้งที่สมบูรณ์ที่สุดของกรุงเทพฯแล้ว เลือกได้เลยจะนั่งรถสาธารณะ หรือขับไปเอง หรือจะเดินไปก็ไม่ยากเลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• BTS ราชเทวี 400 ม.
• BTS สยาม 750 ม.
• BTS พญาไท : 850 ม.
• Airport Rail Link พญาไท : 850 ม.
• ท่าเรือประตูน้ำ : 750 ม.
• ท่าเรือสะพานหัวช้าง : 800 ม.

• 7-11 : 60 ม.
• พันธุ์ทิพย์พลาซ่า : 250 ม.
• Siam Paragon : 350 ม.
• Siam Center : 500 กม.
• แพลตตินั่ม : 500 ม.
• Siam Discovery : 700 ม.
• The Palladium : 750 ม.
• ประตูน้ำเซ็นเตอร์ : 750 ม.
• Siam Square : 850 ม.
• Central World : 950 ม.
• The Market : 1 กม.
• Big C ราชดำริ : 1 กม.
• Gaysorn Village : 1.2 กม.
• สไมล์สแควร์ : 1.3 กม.
• มาบุญครอง : 1.3 กม.
• Central ชิดลม : 1.8 กม.
• Central Embassy : 2 กม.
• อัมรินทร์พลาซ่า : 2 กม.
• Center One : 2.6 กม.
• Century : 3 กม.

• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : 1.5 กม.
• รร.เตรียมอุดมศึกษา : 1.8 กม.

• รพ.ตำรวจ : 1.4 กม.
• BDMS Wellness Clinic : 2.4 กม.
• รพ.บำรุงราษฎร์ : 2.7 กม.

• สถานฑูตอินโดนีเซีย : 170 ม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนพญาไท 350 ม.
• ถนนราชปรารภ : 700 ม.
• ถนนราชดำริ : 700 ม.
• ถนนพระราม 1 : 1.1 กม.
• ถนนเพลินจิต : 1.3 กม.
• ถนนหลังสวน : 1.7 กม.
• ถนนอังรีดูนังค์ : 1.7 กม.
• ถนนวิทยุ : 2.1 กม.
• ถนนพระรามสี่ : 2.6 กม.
• ถนนสุขุมวิท : 3 กม.
• ถนนสีลม : 3.5 กม.
• แยกราชเทวี : 350 ม.
• แยกประตูน้ำ : 700 ม.
• แยกพญาไท : 850 ม.
• แยกปทุมวัน : 1.1 กม.
• แยกราชประสงค์ : 1.3 กม.
• แยกชิดลม : 1.7 กม.
• แยกเพลินจิต : 2.1 กม.
• แยกศาลาแดง : 3.5 กม.
• แยกวิทยุ : 4.5 กม.

Sale Gallery

วันนี้ผมพามาชมตัวสำนักงานขายที่เปิดพร้อมให้ชมห้องตัวอย่างกันแล้วครับ ปากซอยเพชรบุรี 20 ตอนนี้จัดตกแต่งเป็นสวน ด้านในจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายครับ

มีป้ายโครงการติดไว้ด้านหน้าแบบนี้ ด้านในมองเห็นแนวต้นสน

ด้านหน้าสำนักงานขาย

ภายในสำนักงานขาย ตกแต่งมาแบบเรียบๆ มีโมเดลจำลองโครงการ

ฝ้าด้านบนเป็นแผ่นสีขาววางเรียงกันเป็นคลื่นน้ำจำลองบรรยากาศ ฝ้าที่จะใช้ในชั้น 40 Work & Chill Pods แต่วัสดุของจริงจะเป็นอีกแบบครับ

มองออกไปด้านนอก

ด้านในเป็นทางเดินไปยังห้องตัวอย่าง 2 ห้อง

มีตัว Video Door Phone ของ ABB ที่จะติดอยู่ตรงทางเข้า Lobby และเชื่อมกับห้องของลูกบ้านทุกยูนิต สามารถกดเลขห้องและมองจากจอจะเห็นคนที่มาหาเรา และคุยผ่านเครื่องนี้พร้อมทั้งปลดล็อคประตูได้เลย

Model

Wish Signature II Midtown Siam เป็นคอนโด High rise สูง 41 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-3-75 ไร่ ตัวรูปทรงอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความหนาของอาคารวางห้องได้ 3 ยูนิต Facade ตกแต่งโดยใช้ฟินยื่นออกมาเล็กน้อยทำให้อาคารดูมีมิติ สีภายนอกใช้สีแชมเปญโกลด์

ที่ชั้น 1-8 จะเป็นชั้นจอดรถ ชั้น 1 เป็น Lobby ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 9-37 มีสวนที่ชั้น 9 และ Facility หลักๆอยู่ที่ชั้น 38-41 ให้มาทั้งหมด 4 ชั้นซึ่งถือว่าเยอะครับ และอยู่ชั้นบนสุดลูกบ้านได้ชมวิวกันเต็มๆเลย

ภาพจำลองโครงการ

ตัวอาคารจะตั้งอยู่ระหว่างซอยเพชรบุรี 20 และซอยกรุงเทพการบัญชี โดยทางเข้าออกโครงการจะอยู่ในซอยเพชรบุรี 20 มีประตูคนเดินที่อยู่ติดกับถนนเพชรบุรีตรงปากซอย ฝั่งนี้เป็นทิศเหนือหันออกมาทางถนนเพชรบุรี ที่ดินติดกับอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น และพื้นที่ของเล้งนาฬิกา

ตรงทางเข้าออกโครงการคือซอยเพชรบุรี 20 แต่เดิมซอยนี้จะกว้าง 4 ม. ทางโครงการแบ่งที่ดินเพิ่มยกให้เป็นสาธารณะเป็น 10 ม. ฝั่งขวาเป็นโครงการ Wigh Signature ตัวแรกครับ ตรงทางคนเดินเข้าโครงการจะจัดเป็นสวนปลูกต้นไม้ใหญ่สร้างความร่มรื่นตลอดทางเดิน

ตรงบริเวณประตูคนเดินปากซอยจะใช้ระบบ Key Card ในการเข้าออก พร้อมติดตั้ง CCTV

ทางเข้าออกรถอยู่ในซอย ด้านหน้ามีป้ายโครงการ และป้อมยาม ผ่านเข้าไปจะเจอจุด Drop off

ภาพจำลองด้านหน้าทางเข้าออกโครงการที่ติดกับซอยเพชรบุรี 20

Drop Off ทำเป็นวงเวียน จอดด้านหน้า Lobby เลย

ภาพจำลองตรงจุด Drop off

ภาพจำลองส่วน Lobby ฝ้าสูง 7 ม.

ที่ชั้น 9 จะเป็นสวนส่วนกลาง วิวมองออกมาที่ถนนเพชรบุรี

ซูมตรงส่วนฟินอาคารที่ยื่นออกมาให้ดูครับ

ที่ชั้น 38-41 จะเป็น Facility ทั้งหมด

• Pool Pods ชั้น 38 ชมวิวได้ 360 องศา มีสระว่ายน้ำเป็นตัว U ขนาด 30 x 5 ม., ส่วนจากุซซี่, ห้องน้ำแยกชายหญิง
• Body and Mind Pods ชั้น 39 มีฟิตเนส, Boxing Stage, ห้องโยคะ, Steam & Sauna
• Chill and Work Pods ชั้น 40 ฝ้าชั้นนี้จะสูง 10 ม. มี Lounge, Co-Working Space, Mini Theater, Golf Simulator, Meeting room
• Sky Pods ชั้น 41 มี พื้นที่ปาร์ตี้บาร์บีคิว, สนามสตรีทบาส

ภาพจำลองชั้น 38-41 ซึ่งเป็นชั้น Facility ทั้งหมดของโครงการ

สระว่ายน้ำตัว U ล้อมพื้นที่ตรงกลาง

ภาพจำลองชั้น 38

ภาพจำลองบริเวณสระว่ายน้ำที่ชั้น 38

ภาพจำลองชั้น 40 Chill and Work Pods

ภาพจำลองบริเวณ Lounge ที่ชั้น 40

ภาพจำลองห้อง Golf Simulator ที่ชั้น 40

ภาพจำลอง Mini Theater ที่ชั้น 40

ภาพจำลองห้องฟิตเนสที่ชั้น 39

ภาพจำลองมองจากมุมสูงลงมาจะเห็นสนามสตรีทบาสที่ชั้น 41 และสระว่ายน้ำที่ชั้น 38

ด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกวิวฝั่งนี้มองไปทาง BTS ราชเทวี พื้นที่ติดกับซอยเพชรบุรี 20 ที่เป็นทางเข้าออกโครงการ ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Wish signature ตัวแรกสูง 45 ชั้น และด้านในติดกับบ้านพักอาศัย ตัวถนนที่เพิ่มพื้นที่เป็น 10 ม.จะเพิ่มมาถึงแค่หน้าบ้านพักอาศัยนะครับ

ฝั่งด้านข้างในโครงการจะทำเป็นทางเดิน และสวนหย่อมยาวเชื่อมไปด้านหลังครับ

ด้านหลังเป็นทิศใต้ติดกับอาคารโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีสูง 8 ชั้น วิวมองไปทางพารากอน วังสระปทุม

พื้นที่ชั้นล่างเป็นทางเดินและสวนที่เชื่อมมาจากด้านหน้า และทางเดินมาจาก Lobby ไปประตูคนเดินด้านหลังที่ออกซอยกรุงเทพการบัญชี ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมกับด้านหลังพารากอนนั่นเองครับ เดินจากโครงการไปประมาณ 350 ม.

ที่ชั้น 9 มีสวนอีกจุด

ฝั่งด้านหลัง ช่วงกลางอาคารที่ตรงกับโถงลิฟท์จะมีต้นไม้เป็นบางชั้น

ชั้น 38-41 มองจากฝั่งด้านหลังอาคาร จะเห็นว่า รับวิวได้ทั้งหมด 360 องศาครับ

ด้านข้างฝั่งทิศตะวันออกติดกับซอยกรุงเทพการบัญชี ซอยที่เชื่อมมาจากด้านหลังพารากอน

ฝั่งนี้จะมีประตูคนเดินเข้าออกได้อีกทาง โดยใช้ระบบ Key Card

Floor Plan

จาก Master Plan โครงการเริ่มจากทางเข้าออกซอยเพชรบุรี 20 ซึ่งมีทางคนเดินเข้าออกตรงปากซอยที่ติดกับถนนเพชรบุรี เข้ามาจะเจอ Drop Off วนมาจอดหน้า Lobby หรือตรงผ่านเข้ามาขึ้นที่จอดรถในอาคาร หรือมาจอดใต้อาคารด้านหลังก็ได้ครับ ทางเดินรถจะเป็น Two way ที่จอดรถในโครงการจอดได้ทั้งหมด 197 คัน หรือคิดเป็น 60% ไม่รวมซ้อนคัน ริมรั้วโครงการฝั่งทิศใต้และตะวันตกจะทำเป็นทางเดินพร้อมสวนหย่อมตลอดแนว มีประตูคนเดินเข้าออกอีกทางฝั่งที่ติดกับซอยกรุงเทพการบัญชี ด้านในอาคารจะเป็นส่วนของ Lobby, Mail Box, นิติบุคล, ห้องน้ำ ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ลิฟท์ระบบล็อคชั้นขึ้นได้เฉพาะชั้นตัวเอง และชั้นส่วนกลางครับ

แปลนชั้น 9 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย นับได้ทั้งหมด 10 ยูนิต ห้องแบบ 2 Bed จะอยู่มุมอาคารทั้ง 4 มุม ที่เหลือจะเป็นแบบ 1 Bed ทั้งหมด ห้องพักจะล้อมรอบโถงลิฟท์ตรงกลาง มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว บันไดหนีไฟมี 2 จุด และที่ชั้นนี้จะมีสวนส่วนกลางทั้งฝั่งด้านหน้าและด้านหลัง

แปลนชั้น 10-12A เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด นับได้ 12 ยูนิต ห้อง 2 Bed อยู่มุมอาคารมี 4 ยูนิต ที่เหลือเป็นห้อง 1 Bed มี 8 ยูนิต

แปลนชั้น 14-31 มีทั้งหมด 12 ยูนิตเหมือนชั้น 10-12A แต่มีต้นไม้ตรงช่องใกล้ๆโถงลิฟท์

แปลนชั้น 32-36 มีทั้งหมด 10 ยูนิต ฝั่งทิศใต้หรือด้านหลัง จะเหลือ 2 ยูนิตเป็นแบบ 3 Bed ที่เหลือก็เหมือนชั้น 14-31 ครับ

แปลนชั้น 37 มีทั้งหมด 9 ยูนิต ห้องฝั่งทิศใต้จะเป็นห้อง Penthouse ขนาด 241.31 ตร.ม. ที่เหลืออีก 8 ยูนิตเหมือนเดิมครับ

แปลนชั้น 38 เป็นชั้น Facility ชั้นนี้เรียกว่า Pool Pods มีสระว่ายน้ำตัว U มีพื้นที่เดินและนั่งเล่นตรงกลางชมวิวได้ 360 องศา มีส่วนจากุซซี่ 2 ฝั่ง มีห้องน้ำแยกชายหญิง

แปลนชั้น 39 เรียกว่า Body and Mind Pods มีฟิตเนส, Boxing Stage, ห้องโยคะ, Steam & Sauna

ชั้น 40 เรียกว่า Chill and Work Pods ฝ้าชั้นนี้จะสูง 10 ม. มี Lounge, Mini Theater, Golf Simulator ส่วนของชั้นลอยจะเป็น Co-Working Space และ Meeting room

ชั้น 41 เรียกว่า Sky Pods มี พื้นที่ปาร์ตี้บาร์บีคิว และสนามสตรีทบาส

Units Type

โครงการมีห้องให้เลือกดังนี้

• 1 Bed : 30.00-34.94 ตร.ม.
• 2 Bed : 46.66-58.52 ตร.ม.
• 3 Bed : 96.75 ตร.ม.
• Penthouse 3 Bed : 241.31 ตร.ม.

1 Bedroom 30.00 ตร.ม.

1 Bedroom 30.33 ตร.ม.

1 Bedroom 34.76 ตร.ม.

1 Bedroom 34.62 ตร.ม.

1 Bedroom 34.94 ตร.ม.

2 Bedroom 46.66 ตร.ม.

2 Bedroom 58.52 ตร.ม.

3 Bedroom 96.75 ตร.ม.

Penthouse 3 Bedroom 241.31 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ

• 1 Bedroom ขนาด 34.62 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาด 58.84 ตร.ม.

แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 34.62 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อนเลย ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำ ห้องน้ำมีทางเข้าออก 2 ทางคือจากห้องครัวและจากในห้องนอน ถัดจากครัวเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารที่ใช้งานร่วมกัน ด้านในมีระเบียงขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนห้องนอนมีพื้นที่วางโต๊ะ ตู้ เตียงได้ครบ และมีประตูเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้เลย

เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็น บานไม้อัด กรุลามิเนต บานสูงถึงฝ้า

ได้ Digital Door Lock ของ Yale ใช้ได้ 3 ระบบทั้ง รหัส, Key Card, สแกนนิ้วมือ พร้อมมือจับแบบคันโยก

เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนเลย ได้เป็นครัวเปิด ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอน พื้นห้องส่วนครัวเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineer Wood ความหนา 14 มม. ฝ้าส่วนครัวสูง 2.7 ม. ฝ้าส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนสูง 3 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ ซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ครัว ขวามือเป็นห้องน้ำ

ติดกับหน้าประตูห้องจะติด Video Door Phone ของ ABB ที่เชื่อมกับเครื่องตรงประตูทางเข้า Lobby มองจากจอจะเห็นคนที่มาหาเรา และคุยผ่านเครื่องนี้พร้อมทั้งปลดล็อคประตูได้เลย

ชุดเคาน์เตอร์ครัวของ Modernform ได้ตามนี้เลย หน้าบานด้านล่างเป็น High gloss ส่วนด้านบนเป็นกระจกสีชา

ตู้ที่ติดกับประตูห้องเป็นบานเปิด 2 บาน ด้านในแบ่งช่องไว้ให้เก็บของ

ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดกำลังดี ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินควอตซ์

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 3 บาน บานตู้ทุกบานมี Soft Close

ด้านล่างเป็นลิ้นชัก 2 ชั้น และบานเปิด 2 บาน ติดถังขยะไว้ที่บานตู้ใต้อ่างล้างจาน

อ่างล้างจานที่ได้ทรงสี่เหลี่ยมแบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานของ Franke พร้อมฝังท็อปมาให้เรียบร้อย

ได้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว หน้าเซรามิกพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวมีช่องสำหรับวางตู้เย็น และมีตู้เก็บของให้ ติดกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ

ตู้เก็บของด้านบนช่องวางตู้เย็นเป็นบานเปิด 2 บาน

เข้ามาดูในห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำจะมีทางเข้าออกสองทางคือจากส่วนครัว และจากในห้องนอน ในห้องน้ำจะได้กระจกเงาบานใหญ่

ได้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Villeroy & Boch แบรนด์จากเยอรมัน ก๊อกน้ำของ Grohe เป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น ปลั๊กไฟตรงอ่างล้างหน้าจะมีฝาครอบมาให้ด้วย

ตู้ใต้อ่างล้างหน้าเป็นบานเปิด 1 บาน ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนในนี้ได้

ติดกับอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Villeroy & Boch

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แบบบานเปิด กระจกเป็น Tempered Glass

ด้านในติดฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Grohe

หน้าตาฝักบัวที่ได้แบบทรงกลมขนาดพอดีมือ ก๊อกน้ำเป็นแบบปรับอุณหภูมิได้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.2 x 0.86 ม.

ออกจากห้องน้ำมา ถัดจากครัวไปจะเป็นห้องนั่งเล่น

พื้นตรงห้องนั่งเล่นจะเป็น Engineer Wood หนา 14 มม.

จัดชุดโซฟาไว้ฝั่งนี้ ผนังของจริงจะได้เป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวครับ ฝ้าส่วนห้องนั่งเล่นสูง 3 ม.

วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง

ระยะดูทีวีประมาณ 2.6 ม. ซ้ายมือเป็นห้องนอน ขวามือเป็นระเบียง

ถัดเข้าไปอีกจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed ความสูงเกือบถึงฝ้าเพดาน

วางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งให้ดู ใครจะวางเป็นโต๊ะบาร์หันหน้าออกไปทางหน้าต่างก็ได้ครับ

ติดกันเป็นประตูออกไปตรงระเบียง

พื้นที่ระเบียงจะมีระแนงกั้นบังสายตาไว้ ด้านบนไว้แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์

พื้นที่ระเบียงขนาด 1.52 x 1 ม. มีพื้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้าได้

กลับเข้ามาด้านในห้องกันต่อ แอร์ตรงส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นแบบฝังฝ้า

ไปดูห้องนอนกันต่อครับ

ภายในห้องนอนตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ

วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตให้ดู

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1 ม.

ปลายเตียงเหลือประมาณ 70 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงด้านนอกเหลือประมาณ 34 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

ฝั่งด้านในเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ด้านล่างเป็นบาน Fixed แอร์ติดตรงผนังฝั่งขวา 1 ตัว

พื้นที่ตรงที่ติดกับหน้าต่าง สามารถวางโต๊ะทำงานได้ ความยาวประมาณ 1 ม. หรือจะวางเป็นโซฟาไว้นั่งเล่นก็ได้ครับ

ฝั่งด้านในจะมีพื้นที่ไว้วางตู้เสื้อผ้าได้

ห้องตัวอย่างทำเสื้อผ้าห้ดูขนาด 4 บาน ด้านในเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

อีกฝั่งเป็นทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอน

มองเข้าไปในห้องน้ำ จะเห็นประตูทางเข้าจากฝั่งห้องครัว

อีกห้องที่พามชมเป็นแบบ 2 Bedroom ขนาด 58.52 ตร.ม. พื้นที่ห้องนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ โดยตรงกลางจะเป็นส่วนห้องครัวและห้องนั่งเล่น ฝั่งซ้ายเป็น Master Bedroom ฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนเลย ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่น ฝั่งซ้ายเป็น Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวพร้อมอ่างอาบน้ำ ระเบียงก็อยู่ในห้องนี้ครับ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้องนอนเล็กมีประตูเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนเลย ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ตัวห้องนั่งเล่นจะขั้นกลางระหว่างห้องนอนทั้งสองห้อง

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปจะเห็นส่วนครัวอยู่ติดประตูห้องแบบนี้ครับ ซ้ายมือเป็น Master Bedroom ขวามือเป็นห้องน้ำ

ติดกับประตูห้องจะเป็นตู้เก็บของ เป็นบานเปิด 4 บาน

ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์ครัววัสดุเหมือนห้องแรก แต่ได้เคาน์เตอร์เป็นตัว L มีพื้นที่มากกว่า

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด ทุกบานมี Soft close แบ่งช่องด้านในมาให้เก็บของ

ด้านล่างเป็นลิ้นชัก 2 ชั้น ขวามือมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

ตู้ใต้อ่างล้างจานเป็นแบบบานเปิด 2 บาน

อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานของ Franke ฝังท็อปมาเรียบร้อย

เตาไฟฟ้าได้ขนาด 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux

ติดกับเคาน์เตอร์ครัววางเป็นโต๊ะรับประทานอาหารให้ดูขนาด 4 ที่นั่ง

มองจากส่วนครัวไปจะเห็นห้องส่วนห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นห้องน้ำและห้องนอนเล็ก ขวาเป็น Master Bedroom

ตรงห้องนั่งเล่นวางโซฟาขนาก 4-5 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง พื้นที่สามารถวางโซฟาตัว L ได้

ระยะดูทีวีประมาณ 3 ม.

หน้าต่างตรงห้องนั่งเล่นเป็นบานกระทุ้ง 2 บานที่เหลือเป็นบาน Fixed บางสูงเกือบถึงฝ้า เสียดายเฟรมกระจกเยอะไปหน่อย

มองกลับเข้ามาด้านใน แอร์ส่วนนี้จะได้แบบฝังฝ้า

ห้องนอนเล็กอยู่ฝั่งนี้ครับ ติดกันเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องนอนเล็กขนาดวางเตียงเดี่ยวกำลังดี

วางเตียงเดี่ยวมาให้ดู

พื้นที่ข้างเตียงด้านในเหลือประมาณ 1.35 ม.

ปลายเตียงเหลือประมาณ 58 ซม.

ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 65 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.5 ม.

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed พื้นที่ฝั่งขวามุมห้องมีส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมที่เกิดจากรูปทรงของอาคาร

ฝั่งด้านในมีพื้นที่ไว้วางตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำ แอร์ติดตรงผนังเหนือประตูห้องน้ำ 1 ตัว

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง กระจกเงาได้บานใหญ่เต็มบาน

สุขภัณฑ์ที่ได้ของ Villeroy & Boch แบรนด์จากเยอรมัน

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แบบบานเปิด เป็นกระจก Tempered Glass

ด้านในติดตั้งฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Grohe ก๊อกน้ำแบบปรับอุณหภูมิได้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.4 x 0.93 ม.

ห้องน้ำมีทางเข้าออกสองทางคือจากในห้องนอนเล็ก และจากห้องนั่งเล่น

ออกจากห้องน้ำมามองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็น Master Bedroom

ภายในห้องขนาดพื้นที่กว้างพอสมควร วางเตียง 5 ฟุตให้ดู

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งด้านใน พื้นที่เหลือไปจนถึงหน้าห้องน้ำประมาณ 2.97 ม. แต่ถ้าวางตู้เสื้อผ้าไว้แบบห้องตัวอย่างจะเหลือประมาณ 85 ซม.

ปลายเตียงเหลือประมาณ 84 ซม.

ริมด้านนอกเหลือประมาณ 57 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.8 ม. แอร์ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว

ฝั่งด้านในมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้า

พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดกับตรงระเบียง และหน้าห้องน้ำ วางได้สองฝั่งแบบนี้ หรือใครมีไอเดียแบบอื่นก็ลองจัดวางดูได้ครับ ด้านในสุดเป็นประตูออกไประเบียง

ตรงระเบียงจะมีระแนงกั้นบังสายตา ด้านบนจะแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์

พื้นที่ระเบียงขนาด 1.45 x 1.12 ม. พอวางราวตากผ้าได้ พื้นที่ใกล้เคียงกับห้อง 1 Bed เลย จะเห็นว่าโครงการจะเน้นพื้นที่ในห้องมากกว่าตรงระเบียงครับ

กลับเข้ามาด้านใน ถัดไปเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำให้พื้นที่มาพอสมควร ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนเปียก

สุขภัณฑ์ของ Villeroy & Boch

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียกติดตั้งฉากกั้นกระจก Tempered Glass

ด้านในมีพื้นที่แบบยืนอาบ และอ่างอาบน้ำ ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Grohe

พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาด 1.68 x 0.99 ม.

อ่างอาบน้ำวางไว้ด้านในสุด มีพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำด้านใน

มีฝักบัวและก๊อกน้ำแบบปรับอุณหภูมิ

ในห้องน้ำจะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน และบาน Fixed อีกบาน

ราคา (ก.ย.60)

• 1 Bed 30.00 – 34.98 ตร.ม. ราคาเริ่ม 5.x ล้านบาท
• 2 Bed 1 Bath 46.66 – 47.34 ตร.ม. ราคาเริ่ม 8.x ล้านบาท
• 2 Bed 2 Bath 58.52 – 58.84 ตร.ม. ราคาเริ่ม 12 ล้านบาท
• 3 Bed 96.75 ตร.ม. ราคาเริ่ม 19 ล้านบาท

เงินจอง

• 1 Bed 50,000 บาท
• 2 Bed 100,000 บาท
• 3 Bed 150,000 บาท

เงินทำสัญญา 5%

ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม

โปรโมชั่น *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

• เมื่อจองและทำสัญญารับ iPhone 8*

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Wish Signature II Midtown Siam ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรีตรงซอยเพชรบุรี 20 ทำเลถือว่าอยู่ใจกลางเมือง ย่านนี้เป็นแหล่งพาณิชยกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯก็ว่าได้ อยู่ใกล้สถานที่สำคัญๆทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อาคารสำนักงานต่างๆ โรงแรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งเมื่อใกล้สถานที่สำคัญแบบนี้แล้วเรื่องความอุดมสมบูรณ์คงไม่ต้องพูดถึง ย่านนี้ของกินเพียบครับตั้งแต่ร้านเล็กๆริมทาง ไปจนถึงร้านหรูๆในห้างสรรพสินค้า มี 7-11 ใกล้ๆตรงปากซอยกรุงเทพการบัญชี

และจุดเด่นของทำเลโครงการคือด้านข้างพื้นที่โครงการฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับซอยกรุงเทพการบัญชีทางโครงการทำประตูทางเดินเข้าออกไว้ให้ลูกบ้าน ซอยนี้เชื่อมกับด้านหลังพารากอนห่างจากโครงการประมาณ 350 ม. ลูกบ้านจากโครงการถ้าใช้รถ หรือเดินมาจากพารากอนถือว่าใกล้ที่สุดในโครงการย่านนี้เลย แต่ถ้าเป็นโครงการฝั่งตรงข้าม หรือฝั่งเลขคี่ต้องไปกลับรถครับ เพราะซอยห้ามเลี้ยวขวา นอกจากนี้ถ้าเดินย้อนไปทางแยกประตูน้ำก็จะมีร้านค้าต่างๆตามริมทางเดิน มีห้างสรรพสินค้าให้เลือกช้อปทั้งสองฝั่งเลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – เป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังที่ต่างๆได้สะดวกพร้อมทั้งอยู่ใกล้ทางด่วน และมีซอยย่อยที่ลัดเลาะไปได้โดยไม่ต้องใช้เส้นหลัก การเข้าออกโครงการปากซอยเพชรบุรี 20 สามารถเลี้ยวซ้ายและขวาได้ หรือทางมาจากแยกราชเทวีสามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้เลยไม่ต้องไปกลับรถตรงแยกประตูน้ำ ตรงแยกราชเทวีเลี้ยวซ้ายไปสยาม เชื่อมเข้าสุขุมวิทได้เลย ขับตามแนว BTS ยาวออกไปบางนาสมุทรปราการได้เลย หรือตรงตามถนนพญาไทไปออกสามย่าน หัวลำโพงได้

ถ้าตรงข้ามแยกราชเทวีไปนางเลิ้ง สามเสน เลยไปขึ้นขึ้นสะพานพระราม 8 ไปลงปิ่นเกล้า หรือยิงยาวขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีออกพุทธมณฑลสายต่างๆ ถ้าจะไปฝั่งอนุสาวรีย์ชัยฯ ต้องกลับรถใต้สะพานหัวช้าง จากนั้นก็มุ่งหน้าผ่านแยกพญาไท และเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ อีกทางจากโครงการเลี้ยวขวามาทางแยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภวิ่งไปรางน้ำ อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้อีกทาง และออกดินแดง วิภาวดีรังสิตได้ ถ้าเลี้ยวเข้าราชดำริมาออกเพลินจิต หรือตรงไปออกพระรามสี่ และสีลม สาทร สวนลุมได้ ถ้าวิ่งตามเส้นเพชรบุรีจะไปเข้าซอยย่อยสุขุมวิททางท้ายซอยได้

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – มีให้เลือกหลากหลายหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านไปมาหลายสายเกือบตลอดทั้งคืน มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก ใต้สะพานลอยมีวินมอเตอร์ไซค์เรียกใช้บริการได้เลย Taxi โบกเรียกด้านหน้าได้เลย ถ้ามาแถวประตูน้ำจะมีรถตู้ให้บริการหลายสายไม่ว่าจะไปรังสิต ดอนเมือง สะพานใหม่ ลาดพร้าว สี่พระยา โบกขึ้นได้เลยครับ นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งทางน้ำเรือโดยสารคลองแสนแสบ ท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือประตูน้ำประมาณ 750 ม. และสะพานหัวช้างระยะเดินจากโครงการมาประมาณ 800 ม. และ เผื่อใครเบื่อรถติดจะนั่งเรือไปต่อ MRT ก็เป็นทางเลือกที่ดี

จุดเด่นโครงการคืออยู่ห่างจาก BTS ราชเทวีประมาณ 400 ม. ถึงบันไดเลื่อนขึ้นตัวสถานีได้เลย เป็นระยะที่เดินสบายๆครับ มีทางเท้าเดินสะดวกตั้งแต่หน้าโครงการถึงบันไดเลื่อน หรือจะมาขึ้นที่ BTS สยามประมาณ 750 ก็พอเดินได้ครับเข้าพารากอนเดินแอร์เย็นๆไปเชื่อมออกสถานีได้เลย ข้อดีของโครงการฝั่งเลขคู่คือไม่ต้องข้ามถนนมาขึ้น BTS เหมือนฝั่งเลขคี่ นอกจากนี้ยังอยู่ห่างจาก Airport Rail Link พญาไทระยะเดินประมาณ 850 ม. ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับ BTS พญาไท ระยะเดินก็มีเหงื่อตกกันบ้างแต่ถ้าเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆผมว่าสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะพอสมควรครับ ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านเส้นเพชรบุรี โดยเป็นแนวรถไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก สถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีประตูน้ำ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร สูง 41 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาด 1-3-75 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมดูผอมเพียว ออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีภายนอกใช้สีแชมเปญโกลด์ โดยที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนของ Lobby ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 9 – 37 ส่วนกลางหลักๆอยู่ที่ชั้น 1 , 9 , 38-41

การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกแบบหลักๆ คือ 1 Bed 30.00 – 34.98 ตร.ม. , 2 Bed 46.66 – 58.84 ตร.ม. , 3 Bed 96.75 ตร.ม. , Penthouse 3 Bed : 241.31 ตร.ม. ห้องออกแบบมาเป็นสัดส่วน จัดวางฟังก์ชั่นได้ดี เน้นพื้นที่การใช้งานในห้องเป็นหลัก ลดความสำคัญของระเบียงลง ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 3 ม. บานกระจกให้มาสูงเกือบถึงฝ้า แต่เฟรมกระจกน่าจะน้อยกว่านี้ โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี ชุดครัวของ Modernform อ่างล้างจานของ Franke Hob & Hood ของ Electrolux สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Villeroy & Boch จากเยอรมัน ก๊อกน้ำและฝักบัวของ Grohe ปรับอุณหภูมิได้ พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก แอร์ได้แบบฝังฝ้าตรงห้องนั่งเล่น และแบบติดผนังตรงห้องนอน

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility โครงการนี้ให้มาเยอะแบบจัดเต็มเลยครับ แต่ก็ต้องแลกมากับค่าส่วนกลางที่สูงหน่อย 80 บาท/ตร.ม. หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 , 9 , 38-41 ที่ชั้น 1 มี Lobby ฝ้าสูง 7 ม. ที่ชั้น 9 ,มีสวนและพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิว และที่ชั้น 38-41 ทั้ง 4 ชั้นนี้เป็นส่วนกลางทั้งหมด ชมวิวได้ 360 องศาแบ่งได้ดังนี้

• Pool Pods ชั้น 38 มีสระว่ายน้ำเป็นตัว U ขนาด 30 x 5 ม. มีส่วนจากุซซี่, ห้องน้ำแยกชายหญิง
• Body and Mind Pods ชั้น 39 มีฟิตเนส, Boxing Stage, ห้องโยคะ, Steam & Sauna
• Chill and Work Pods ชั้น 40 ฝ้าชั้นนี้จะสูง 10 ม. มี Lounge, Co-Working Space, Mini Theater, Golf Simulator, Meeting room
• Sky Pods ชั้น 41 มี พื้นที่ปาร์ตี้บาร์บีคิว, สนามสตรีทบาส

ลิฟต์โดยสารมีให้ 3 ตัว อัตราสส่วน 111 ยูนิตต่อลิฟท์ 1 ตัว มีลิฟท์ขนของ 1 ตัว รถจอดได้ที่ชั้น 1-8 จอดได้ 197 คัน หรือประมาณ 60% ไม่รวมซ้อนคัน ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access มีระบบ Video Door Phone ให้ทุกยูนิต

คะแนน

ด้วยทำเลโครงการที่เรียกได้ว่าตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีความพร้อมในทุกๆด้านทั้งแหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา อาคารสำนักงาน การเดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ ใครที่ชอบความสะดวกสบายแบบนี้ Wish Signature II Midtown Siam ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีอีกโครงการครับ ทางโครงการแอบบอกมาว่าห้อง Type 1B4 ตำแหน่งห้องจะเป็นวิวที่มองเห็นอนุสาวรีย์ชัยฯ และตึกใบหยก ใครที่สนใจก็รีบไปจองกันนะครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-652-6533 หรือ 02-652-6588

Website : www.siamnuwat.com/wishsignature2

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

คอนโด บันยัน ทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ Banyan Tree Residence Riverside Bangkok

Banyan Tree Residence Riverside Bangkok คอนโดระดับดิอัลติเมทลักชัวรี่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จาก เนอวานา ไดอิ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท บนทำเลสุดเอ็กซ์คูลซีฟ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The sanctuary of your soul” เป็นส่วนตัวเพียง 133 ยูนิต หรือ มากสุด 4 ยูนิต ต่อชั้น เปิดรับวิวโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นบรรยากาศที่สวยงามของทั้งฝั่งเมืองเก่าและฝั่งเมืองใหม่ได้อย่างชัดเจน  ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.