คอนโด สุขุมวิท ซิตี้ รีสอร์ท (สุขุมวิท 11) Sukhumvit City Resort

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 11 (ซอย ไชยยศ) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110

EP.252 รีวิว คอนโดเลต มิสท์ พระราม 9 CONDOLETTE MIDST RAMA 9

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ผมขอนำเสนอโครงการ  Condolette Midst พระราม 9 ของพฤกษา เรียลเอสเตท คอนโด High-Rise สูง 30 ชั้นที่ ณ ปัจจุบัน เดือนต.ค. 58 นั้นสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้ว โดยตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้แยกพระราม 9 ที่ทราบกันดีว่าแยกดังกล่าวเป็นที่ตั้งของห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลพระราม 9 และห้างฟอร์จูนทาวน์ รวมถึงในอนาคตที่ทำเลแถวนี้จะกลายเป็น New CBD แห่งใหม่ด้วยโปรเจคอาคารสำนักงานหลายแห่ง ภายในครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนลอยฟ้า ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามได้จากด้านในรีวิวครับ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

การเดินทาง

Condolette Midst พระราม 9 ตั้งอยู่ใกล้แยกพระราม 9 และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 โดยผมมีตัวอย่างการเดินทางมาให้ชมในกรณีที่เดินทางมาจากถนนอโศกครับ

การเดินทาง : ถนนอโศกมนตรี > ถนนเพชรบุรี > ถนนเพชรอุทัย > ถนนพระราม 9 > Condolette Midst พระราม 9

เริ่มออกเดินทางจากแยกอโศก โดยมาจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ตรงผ่านไปยังถนนอโศก

วิ่งมาตามถนนอโศกจนถึงแยกอโศก-เพชรบุรี ให้เลี้ยวขวาไปทางถนนเพชรบุรี

ขับมาตามเส้นเพชรบุรีจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเพชรอุทัย

บนถนนเพชรอุทัยขับตรงไปมุ่งหน้าสู่แยกอ.ส.ม.ท.

ถึงแยกอ.ส.ม.ท.เลี้ยวซ้ายไปทางแยกพระราม 9

ขณะนี้อยู่บนถนนพระราม 9 ให้วิ่งอยู่เลยซ้ายสุดเอาไว้

ถึงแล้วครับ Condolette Midst พระราม 9 ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ

บริเวณโครงการ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

– MRT พระราม 9 : 150 เมตร
– Airport Link มักกะสัน : 900 เมตร
– ทางพิเศษศรีรัช : 800 เมตร
– Central Plaza Grand พระราม 9 : 200 เมตร
– ฟอร์จูนทาวน์ : 300 เมตร
– เทสโก้ โลตัส ฟอร์จูนทาวน์ : 500 เมตร
– โรงพยาบาลพระราม 9 : 800 เมตร
– โรงพยาบาลปิยะเวท : 1.6 กม.
– โรงพยาบาลกรุงเทพ : 3.3 กม.
– โรงพยาบาลวัฒโนสถ : 3.3 กม.
– โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ : 3.3 กม.
– โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย : 1.4 กม.
– โรงเรียนนานาชาติใหม่ (NIST) : 1.2 กม.
– มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ : 1.3 กม.

โครงการข้างเคียง
– คอนโด ไอดีโอ โมบิ พระราม 9
– คอนโด แอสปาย พระราม 9
– คอนโด เบลล์ แกรนด์ หรือ เบลล์ อเวนิว พระราม 9
– คอนโด ริทึ่ม อโศก
– คอนโด ริทึ่ม อโศก 2
– คอนโด ศุภาลัย ปาร์ค อโศก – รัชดา
– คอนโด เดอะ มาร์ครัชดา – แอร์พอร์ต ลิงค์
– คอนโด เอ สเปซ ไฮด์อเวย์ อโศก – รัชดา
– คอนโด ลุมพินี เพลส พระราม 9 – รัชดาภิเษก (เฟส 1)
– คอนโด ลุมพินี เพลส พระราม 9 – รัชดาภิเษก (เฟส 2)

ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ Condolette midst ทางซ้ายของอาคารติดกับคอนโด ไอดีโอ โมบิ ทางขวาติดกับปั๊มแก๊ส PTT ด้านหลังเป็นคลองสามเสนใน ข้ามฝั่งคลองไปเป็นพื้นที่ของโครงการ Aspire พระราม 9 ตัวโครงการอยู่ห่างจากแยกพระราม 9 ประมาณ 100 เมตร และห่างจากแยกอ.ส.ม.ท. ประมาณ 350 เมตร ซึ่งทั้งสองแยกนั้นเป็นจุดกลับรถที่ใช้สำหรับเข้า-ออกจากโครงการ

เดินชมบริเวณด้านหน้าโครงการกันก่อนครับ

เงยหน้ามองอาคาร สูง 30 ชั้น อาคารที่อยู่ติดกันคือ ไอดีโอ โมบิสูง 28 ชั้น

ฟุตบาทขนาดกำลังเดินได้สะดวก ปลูกต้นไม้ตลอดแนวทางเดินหน้าโครงการ

ทางด้านซ้ายเป็นปั๊มแก๊ส ปตท.

ด้านหลังปั๊มมองเห็นอาคาร Aspire พระราม 9 สูง 23-25 ชั้น (มีสองอาคาร)

ทางเข้าโครงการ Aspire อยู่ที่พระราม 9 ซอย 2 มีวินมอไซค์อยู่ที่ปากซอย

อัตราค่าโดยสารวิน พระราม 9 ซอย 2

พระราม 9 ซอย 4

เดินมาจนเกือบถึงแยก อ.ส.ม.ท. มีคอนโด PG พระราม 9

แยก อ.ส.ม.ท. ซึ่งเราต้องใช้จุดนี้เป็นจุดกลับรถสำหรับเข้าโครงการในกรณีที่มาจากดินแดงหรือรัชดาภิเษก

วนกลับมาที่หน้าโครงการ ถนนหน้าโครงการมักจะมีปริมาณรถสะสมอยู่เป็นประจำเนื่องจากว่ามีสัญญาณไฟจราจรแยกพระราม 9 อยู่ข้างหน้า

Ideo Mobi พระราม 9

ใต้คอนโดไอดีโอ มี True Coffee และ Max Valu ทันใจ ซึ่งโครงการคอนโดเลตก็ไปใช้บริการได้ครับ

แยกพระราม 9 เป็นแยกสำคัญ ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของย่านนี้และเป็นจุดตัดของถนน 4 เส้นได้แก่ อโศก รัชดาภิเษก ดินแดง และพระราม 9

หากเราจะไปใช้งานรถไฟฟ้านั้นจำเป็นต้องข้ามถนนที่จุดนี้ เนื่องจากทางลงสถานีนั้นอยู่อีกฝั่งของหัวมุมแยกพระราม 9

พอข้ามถนนมาก็จะเจอกับทางลงสถานีครับ

กลับเข้าไปชมพื้นที่บริเวณด้านในโครงการ

ลาน Drop Off หน้าโครงการ

ทางเข้า-ออกลานจอดรถมีไม้กระดกกั้น ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเปิด

สิ่งอำนวยความสะดวก

ล็อบบี้สูง 7 เมตรแบบ Double Volume ดูโปร่ง โอ่โถง

สำนักงานขายติดต่อได้ที่ล็อบบี้นี้เลยครับ

ประตูล็อบบี้

Meeting Point จุดนัดพบ ต้อนรับแขกผู้มาเยือนพร้อมมี Wifi ให้ใช้งาน

ต่อไปผมจะพามาที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้น Facilities หลักของโครงการโดยเริ่มจากห้อง Fitness เปิดทุกวัน 7 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม

ภาพรวมห้องฟิตเนส

อุปกรณ์มีลู่วิ่ง 2 ตัว

เทรนเนอร์ 1 ตัว จักรยานปั่นทั้งแบบนั่งและนอนรวม 3 ตัว

ดรัมเบลล์หลากหลายน้ำหนัก

ถัดมาห้องที่อยู่ติดกันคือห้องพักผ่อนอ่านหนังสือ

อาจจะใช้เป็น Conference room ก็ได้

ห้องนี้มีกระจกรอบด้านโปร่งสบาย

วิวของห้องนี้คือสระว่ายน้ำที่เราจะไปชมเป็นส่วนถัดไปครับ

ทางเดินลงสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำลึก 1.2 เมตร

ระเบียบการใช้สระว่ายน้ำ

First impression

มองย้อนไปยังทางลงสระว่ายน้ำ

พื้นที่ส่วนแรกของสระว่ายน้ำเป็นจุดนั่งพักผ่อนริมสระ

ฝักบัวอาบน้ำก่อนใช้งาน

ภาพรวมๆของสระว่ายน้ำ

สระจากุซซี่น่าใช้งาน

มุมมองจากุซซี่อีกมุมหนึ่ง รั้วกันตกเป็นกระจกใสให้เราสามารถชมวิวได้ในขณะที่เอนกายผ่อนคลายในสระ

สระว่ายน้ำระบบเกลือ เป็นรูปแบบ Free Form ขนาดประมาณ 30 x 5 เมตร

สำหรับห้องชุดนี้มีบางยูนิตจะเป็นยูนิตติดกับสระว่ายน้ำที่นอกจากจะได้เห็นวิวสระว่ายน้ำแล้วยังสามารถรับชมทิวทัศน์ของตัวเมืองอีกด้วย

ส่วนสุดท้ายของพื้นที่ส่วนกลาง เราจะขึ้นมาดูที่ชั้นดาดฟ้า (ชั้น 31) โดยลิฟต์จะสุดแค่ที่ชั้น 30 ต้องใช้บันไดต่อขึ้นมาในส่วนนี้

มุมนั่งพักผ่อนใต้ร่มเงา

สวนพักผ่อนลอยฟ้า

สวนพักผ่อนลอยฟ้า

พื้นที่นั่งเล่นอีกส่วนที่เป็นพื้นไม้ ส่วนนี้เหมาะใช้งานตอนเย็นเพื่อรับลมชมวิวกรุงเทพได้รอบด้าน

อาคารที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่นั้นคือ Rhythm Asoke

ไอดีโอ โมบิที่อยู่ติดกัน

โถงลิฟต์ อาคารมีลิฟต์ 2 ตัว ด้านหลังมีลิฟต์ขนของแยกต่างหากอีก 1 ตัว

โถงทางเดิน

แปลนอาคาร

ภาพมุมสูง ทิศเหนือเป็นทางเข้าออกโครงการ บริเวณถนนพระราม 9 ด้านบนมีทางด่วนพระราม 9 ทิศตะวันตกติดกับไอดีโอ โมบิสูง 28 ชั้น ทิศใต้เป็นเป็นคลองสามเสนใน และทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีปั๊มแก๊สปตท.

Master Plan ผังชั้นล่าง ทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศเหนือ บริเวณด้านหน้าโครงการเป็นจุด Drop off มีสวนหย่อมและที่จอดรถของผู้มาติดต่อ ไม่ต้องผ่าน Access Point จุดแตะบัตรเข้าลานจอดรถใต้อาคาร ภายในอาคารมีโถงล็อบบี้ ห้องนิติบุคคลและห้องจดหมาย มีลิฟต์ให้ 2 ตัวแยกลิฟต์ขนของให้อีก 1 ตัว ไม่มีร้านค้าภายในโครงการครับ ต้องไปใช้งานโครงการเพื่อนบ้านอย่างไอดีโอข้างๆที่มี Max Valu และ True Coffee

8th Floor

9 – 23rd Floor

24th Floor

25 – 29th Floor

30th Floor

Roof Floor ชั้นบนสุดของอาคารเป็น Sky Garden มีทั้งจุดนั่งเล่นในที่ร่มและกลางแจ้ง พร้อมลานสนามหญ้าเทียมขนาดใหญ่สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ

ห้องตัวอย่าง

Condolette Midst มีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 3 แบบได้แก่

Studio : Type A1-b ขนาด 22.30 ตร.ม.
1 Bedroom : Type C1 ขนาด 34.58 ตร.ม.
2 Bedroom : Type D1 ขนาด 56.08 ตร.ม.

ขายแบบ Fully Furnished มีอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ให้ครบพร้อมอยู่อาศัย

เริ่มจากห้องแบบ Studio Type A1-b ขนาด 22.30 ตร.ม.

แปลนห้อง Studio A1-b ส่วนแรกพื้นที่บริเวณหน้าห้องเป็น Pantry ครัวแบบปิดและห้องน้ำ ถัดออกไปจากโซนครัวเป็นห้องนอน มีระเบียงอยู่ด้านนอก ห้องนี้เป็นแบบสตูดิโอก็จริงแต่แบ่งสัดส่วนการใช้งานได้อย่างลงตัวและครบทุกฟังก์ชั่น

เปิดประตูห้องเข้าไปชมด้านในกันครับ

พื้นที่ส่วนแรกคือ Pantry ด้านนึงเป็นเคาน์เตอร์ครัว อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ พื้นห้องปูด้วยลามิเนต 8 มม.

เคาน์เตอร์ครัวมีให้ตามชุดนี้ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า (ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, ไมโครเวฟ)

เคาน์เตอร์ด้านบนบานปิดไฮกรอส

ฮอบ ฮูด ซิงค์ครบชุด ท๊อปครัวหินสังเคราะห์ ด้านหลังปูกระเบื้องกันเปื้อนให้เรียบร้อย พื้นที่ใช้งานซิงค์ดูแคบไปหน่อยเพราะช่องไมโครเวฟดรอปลงมาด้านล่างเพื่อให้ใช้งานง่าย

เตาเซรามิค 2 หัวและฮูดของ Franke

ซิงค์หลุมเดียวทรงเหลี่ยม Franke

ประตูห้องน้ำใช้แบบบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ กระจกฝ้า

พื้นที่รวมๆห้องน้ำ

อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของด้านล่างแบบลิ้นชัก

อ่างล้างหน้า Mogen

สุขภัณฑ์ American Standard

ส่วนเปียกอาบน้ำแยกส่วนด้วยกระจกบานสวิง Frameless

พื้นที่ส่วนเปียกอาบน้ำ

ฝักบัวปรับระดับได้ พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำปูกระเบื้องตกแต่งด้วยโมเสค

ห้องครัวและห้องนอนแบ่งพื้นที่กันด้วยบานเลื่อนอลูมิเนียม

ห้องนอน

ห้องนอนอีกมุมมอง สำหรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตนี้มีให้ แต่ไม่รวมฟูก

วางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งข้างๆเตียงแล้วยังเหลือช่องเดินระหว่างเตียงได้

สำหรับมุมนี้ถ้าเปลี่ยนโต๊ะกินข้าวให้เป็นแบบมีฟังก์ชั่นพับเก็บเข้าไปที่กำแพงได้ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในห้องได้อย่างดี

ตู้วางของนี้ไม่มีให้ครับ

ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวี

ตู้เสื้อผ้าให้ตามนี้ครับ บานปิดมีกระจกแต่งตัว

ชั้นวางทีวีบิลท์อินติดผนังให้ 2 ชิ้นบนล่างครับ

พื้นที่ใช้งานบริเวณปลายเตียง

ระเบียงและหน้าต่างห้องวัสดุอลูมิเนียมสีดำ

หน้าต่างเปิดได้ 1 บานแบบบานกระทุ้ง

พื้นที่ระเบียงประมาณ 220 x 110 ซม.

แขวนคอมแอร์ด้านบน ด้านล่างไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าเพราะในห้องมีช่องวางใต้เคาน์เตอร์ครัวแล้ว

ห้องตัวอย่างถัดไปเป็นแบบ 1 Bedroom Type C1 ขนาด 34.58 ตร.ม.

แปลนห้อง Type C1 ส่วนแรกเปิดมาเจอ Pantry 2 ฝั่ง โดยจะแบ่งส่วนออกจากห้องนั่งเล่นด้วยฉากบานเลื่อน และห้องนั่งเล่นกับห้องนอนก็แบ่งส่วนด้วยบานเลื่อนขนาดใหญ่เช่นกัน ระเบียงห้องมีขนาดยาวเท่ากับขนาดหน้ากว้างของห้อง แบ่งเป็นช่องวางคอมแอร์โดยเฉพาะ เพื่อให้พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่นี้ใช้งานเป็นห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นแบบ Outdoor ได้

เข้าไปดูห้องจริงกัน เมื่อสักครู่นี้ผมลืมบอกไปว่าในส่วนของความสูงเพดานห้องนั้นสูง 2.7 เมตรครับ

พื้นที่ส่วนแรกเป็น Pantry

เคาน์เตอร์ครัวด้านนึงวัสดุท๊อปครัวหินสังเคราะห์ ฮอบ ฮูด ซิงค์ Franke ไม่รวมเครื่องซักผ้า

เคาน์เตอร์ด้านบน

เคาน์เตอร์อีกฝั่งเว้นช่องวางตู้เย็นไว้ให้

มีเคาน์เตอร์ชั้นบนให้ด้วย

บานเลื่อนห้องครัว

ส่วนถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอน ซึ่งจะเห็นว่ามีบานเลื่อนขนาดใหญ่แบ่งส่วนอยู่ตรงกลาง

ภาพรวมๆ ส่วนของพื้นที่หลักในห้อง

ที่ห้องนั่งเล่นมีวางโต๊ะทานข้าว

ชุดโต๊ะทานข้าวมีให้ตามนี้ พร้อมเก้าอี้สีขาว 2 ตัวของ Modernform

โซฟามีให้แต่จะเป็นขนาด 2 ที่นั่งครับ

มีชั้นวางทีวีให้ตามนี้

ออกไปดูระเบียงด้านนอกกันครับ

สำหรับระเบียงนี้ สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ระเบียงขนาดใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นเป็นเพียงตัวอย่างการตกแต่งนะครับ

ระเบียงเป็นฟังก์ชั่นแบบระเบียง 2 ชั้น มีบานเลื่อนด้านนอกระเบียงอีกชั้นนึงเพื่อให้ใช้งานพื้นที่ส่วนระเบียงนี้ได้อย่างเต็มที่

สุดระเบียงมีประตูห้องวางคอมแอร์

คอมแอร์แบบแขวน ด้านล่างพอเหลือพื้นที่ให้เก็บของได้อีกหน่อย

กลับเข้ามาในห้องเพื่อไปดูห้องนอนกันต่อ

รางบานเลื่อนด้านล่างนั้นทางโครงการดรอปพื้นที่ตรงรางเล็กน้อยให้เรียบเสมอกัน เพื่อให้เดินได้สะดวกไม่สะดุดกับรางนี้ครับ

ห้องนอนมีเตียงให้ ยกเว้นฟูก

อีกด้านของห้องนอน มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินและทางเข้าห้องน้ำ

ภาพรวมๆห้องนอนอีกมุมหนึ่ง อุปกรณ์พวก ผ้าม่าน โคมไฟนี้ไม่มีให้ครับ ระบบไฟใช้เป็นโคมดาวน์ไลท์มาตรฐาน

ตู้เสื้อผ้า

ห้องน้ำ

พื้นที่ห้องน้ำรวมๆ

อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของด้านล่าง Mogen

สุขภัณฑ์ American Standard

ห้องอาบน้ำ ฉากกระจก Frameless

ฝักบัวปรับระดับได้พร้อมช่องว่างอุปกรณ์อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

ลองเปิดลิ้นชักใต้อ่างล้างหน้าดู ถ้าเปิดสุดจะชนกับประตูห้องน้ำพอดี

สุดท้ายเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน Type D1 ขนาด 56.08 ตร.ม.

แปลนห้อง 2 ห้องนอน ส่วนแรกพื้นที่นั่งเล่นและโซนนั่งทานอาหาร ห้องครัวแบบปิดมีระเบียงที่ใช้สำหรับวางคอมแอร์และตากผ้า ห้องน้ำมี 2 ห้องโดยห้องแรกมีฟังก์ชั่นเข้าออกได้สองทางคือจากห้องนอนรองและโถงห้องนั่งเล่น ส่วนห้องน้ำอีกห้องจะไปอยู่ในห้องนอนหลัก

เปิดประตูห้องเข้าไป ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น พื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม. เพดานห้องสูง 2.7 เมตร

ภาพรวมๆ มองจากประตูห้องเข้าไป ฝั่งตรงข้ามเห็นห้องครัวแบบปิดด้วยบานเลื่อน ทางซ้ายสุดเป็นระเบียงห้อง

อีกด้านของห้องเป็นห้องนอนรองและห้องน้ำ

โฟกัสไปที่ห้องนั่งเล่น

ชั้นวางทีวีติดผนังมีให้พร้อม ขนาดยาวกว่าห้องสตูดิโอและ 1 Bed

โซฟามีให้แต่จะเป็นรูปแบบ 3 ที่นั่ง ถ้านึกภาพไม่ออกให้ย้อนกลับไปดูโซฟาในห้องเมื่อสักครู่ครับ

ระเบียงห้อง

มือจับประตูระเบียง

พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ ทำเป็นส่วนนั่งเล่น Pocket Garden

ที่ระเบียงนี้ไม่มีการวางคอมแอร์หรือเครื่องซักผ้า เนื่องจากว่าจะมีระเบียงอีกจุดอยู่ที่ห้องครัว

ด้านนอกของระเบียงมีบานเลื่อนกั้นอีกชั้นนึง

บานเลื่อนด้านนอกระเบียง

ลองมองออกไปด้านนอก บริเวณถนนพระราม 9 หน้าโครงการ

มองเห็นอาคาร Grand พระราม 9 ที่กำลังก่อสร้างบริเวณแยกพระราม 9

อาคาร Unilever House

กลับเข้ามาด้านในเพื่อไปชมห้องนอนหลัก ทางเข้าอยู่ใกล้ๆระเบียง

Master Bedroom

ด้านหลังประตู มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน

เตียงขนาด 5 ฟุต

พื้นที่ด้านปลายเตียงเหลือไม่พอวางไซด์บอร์ด หากต้องการวางทีวีต้องใช้เป็นแบบติดผนังแทน

หน้าต่างห้องนอนหลัก เปิดได้ 1 บานแบบบานกระทุ้ง

โต๊ะเครื่องแป้งวางหน้าห้องน้ำ

พื้นที่รวมๆในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้า Mogen

ประตูเปิดได้ พ้นจากโถสุขภัณฑ์พอดี

ห้องอาบน้ำแบ่งส่วนเปียกด้วยฉากกระจก Frameless

ฝักบัวปรับระดับได้

หน้าตาของหัวฝักบัว

กลับออกมาที่โถงห้องนั่งเล่น เพื่อไปดูห้องน้ำและห้องนอนรอง

ห้องน้ำนี้เป็นห้องที่ใช้ส่วนกลาง

อ่างล้างหน้า Mogen

ลองเลื่อนเปิดลิ้นชักด้านล่าง

แบ่งส่วนเปียกอาบน้ำด้วยฉากกระจก

ฝักบัว ด้านหลังมีช่องวางของ

ห้องน้ำห้องนี้สามารถเข้าออกได้สองทางคือห้องนอนรองและห้องนั่งเล่น

ห้องนอนรองวางเตียง 3.5 ฟุต

มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

ตู้เสื้อผ้า

ช่องทางเดินข้างเตียง

ทางเดินปลายเตียง หากชอบนอนดูทีวีต้องใช้แบบติดผนังครับ พื้นที่ไม่พอสำหรับชั้นวางทีวี

หน้าต่างห้องนอนรอง

ส่วนสุดท้ายเป็นห้องครัว

ห้องครัวพื้นลามิเนต

เคาน์เตอร์ครัว มีช่องวางเครื่องซักผ้าด้านล่าง

เคาน์เตอร์ด้านบนบานปิดไฮกรอส

เตาเซรามิคให้เพิ่มเป็น 4 หัวของ Franke

ซิงค์เหลี่ยม Franke

ระเบียงห้องครัว

พื้นที่ระเบียงครัวนี้ ใช้สำหรับวางคอมแอร์และตากผ้า

มีระแนงเหล็กแบบตาถี่อยู่ที่ด้านนอกของระเบียง

ราคา

Studio Type A : ราคา 3.97 – 4.33 ล้านบาท
ขนาด 21.78 – 22.30 sq.m.

1 Bed Type B1, B2 : ราคา 4.39 – 5.63 ล้านบาท
ขนาด 27.81 – 28.94 sq.m.

1 Bed Type C1, C2, C3 : ราคา 4.99 – 7.28 ล้านบาท
ขนาด 34.47 – 34.92 sq.m.

2 Bed Type D : ราคา 11.9 ล้านบาท
ขนาด 56.08 sq.m.

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/เดือน/ตร.ม.
ค่ากองทุน 550 บาท/ตร.ม.

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Condolette Midst พระราม 9 ตั้งอยู่ใกล้แยกพระราม 9 ติดถนนใหญ่ ทำเลดังกล่าวกำลังได้รับการผลักดันให้เป็น New CBD ด้วยโปรเจคอาคารสำนักงานหลายโครงการที่ล้วนแล้วแต่เป็นอภิมหาโปรเจคทั้งนั้น ซึ่งจะทำให้ความต้องการที่พักอาศัยมีสูงขึ้น รวมถึงสถานที่อำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆที่จะเปิดอย่างมากมายเพื่อรองรับความต้องการนั่นเอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ย่านนี้ที่ปกติเจริญอยู่แล้วยังสามารถเติบโตขึ้นไปได้อีกนั้นเป็นเพราะว่ามีการคมนาคมที่สะดวก มีรถไฟฟ้าใต้ดินรองรับการเดินทางและจุดขึ้นลงทางด่วนก็อยู่ในระยะที่ใช้งานได้สะดวกครับ

ความอุดมสมบูรณ์ อยู่ในระดับที่สมบูรณ์มากๆด้วยห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัล พระราม 9 หรือ ฟอร์จูน ทาวน์ที่อยู่ในระยะเดินไปใช้งานได้สะดวกประมาณ 200 เมตรเท่านั้น ส่วนร้านสะดวกซื้อแม้ว่าในตัวโครงการเองจะไม่มีแต่คอนโดที่ติดกันอย่างไอดีโอ โมบิ มีทั้ง True Coffee และ Max Valu ให้เราไปใช้งานได้ครับ ในอนาคตตรงข้ามโครงการจะมีอาคารสำนักงานอย่าง Grand Rama 9 และ Super Tower นั่นจะทำให้การหาของกินของใช้นั่นมีทางเลือกมากขึ้นแน่นอน

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – แยกพระราม 9 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเดินทางด้วยถนนหลายเส้นที่ล้วนแล้วแต่เป็นถนนเส้นสำคัญมาตัดกันที่แยกพระราม 9 นี้ได้แก่ถนนรัชดาภิเษกใช้เชื่อมต่อไปยังลาดพร้าว ดินแดงใช้เดินทางสู่อนุสาวรีย์ชัย อโศกใช้เชื่อมต่อกับถนนเพชรบุรีและสุขุมวิท พระราม 9 ใช้ไปยังถนนรามคำแหงหรือเลียบด่วนรามอินทรา จะเห็นได้ว่าสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมตามจุดหมายได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้นด้วยทางด่วนพระราม 9 ที่มีจุดขึ้นลงไม่ห่างจากตัวโครงการครับ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ตัวเลือกอันดับแรกเลยคือรถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ที่ทางลงสถานีอยู่บริเวณแยกพระราม 9 ห่างจากโครงการไปประมาณ 150 เมตร มีข้อด้อยอยู่หน่อยตรงที่ทางลงสถานีอยู่ทางฝั่งเซ็นทรัล ทำให้เราต้องข้ามถนนแยกพระราม 9 ที่บางทีก็ทำให้เสียเวลาจากการรอจังหวะสัญญาณไฟอยู่เหมือนกัน ส่วน Taxi หายห่วงมีผ่านให้เรียกทุกนาที

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ลักษณะโครงการ Condolette Midst พระราม 9 เป็นคอนโด High-Rise 1 อาคาร สูง 30 ชั้น จำนวน 433 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 87.6 ตร.ว. ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่ดูทันสมัยทุกมุมมองสอดคล้องกับทำเลย่านนักธุรกิจที่ต้องเปิดรับข่าวสารสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

– การออกแบบตัวห้องนั้นทำมาหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ สตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน ไปจนถึง 3 ห้องนอน โดยผมจะขอพูดถึงในส่วนของห้องตัวอย่างที่ผมได้เข้าไปชมในวันนี้นะครับ
♦ Studio A1-b : แปลนห้องนี้เป็นสตูดิโอก็จริงแต่แบ่งส่วนได้ลงตัวด้วยการทำครัวแบบปิดโดยใช้บานเลื่อนแบ่งส่วน ห้องน้ำขนาดพอเหมาะ แต่ในส่วนของห้องนอนนั้นต้องบอกก่อนว่าหากวางเตียงใหญ่แล้วพื้นที่ไม่พอสำหรับการวางโซฟาเพื่อทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น ฉะนั้นการอยู่อาศัยแบบจริงจังอาจจะดูอึดอัดไปหน่อยเหมาะกับผู้ที่ใช้สำหรับพักผ่อนในวันทำงานมากกว่า
♦ 1 Bedroom C1 : ห้องนี้ได้ครัวเป็นแบบครัวปิดด้วยบานเลื่อนเช่นกัน โดยในส่วนของพื้นที่หลักในห้องแบ่งครึ่งด้วยบานเลื่อนระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเพื่อให้การใช้งานดูมีระบบระเบียบ เพิ่มเติมด้วยฟังก์ชั่นระเบียง 2 ชั้นคือมีบานเลื่อนกระจกด้านนอกระเบียงอีกชั้นนึง เพื่อให้สามารถใช้งานระเบียงได้อย่างเต็มพื้นที่ เพราะไม่มีเสียงหรือรบกวนจากด้านนอกและคอมแอร์ที่มีห้องแยกส่วนเก็บต่างหาก
♦ 2 Bedroom D1 : สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่โดดเด่นคือมีห้องน้ำ 2 ห้องโดยห้องแรกนั้นมีประตูที่สามารถเข้าออกได้สองทางคือจากห้องนอนรองและโถงห้องนั่งเล่น ส่วนอีกห้องเป็นห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom ระเบียงมีให้สองจุดแบ่งเป็นจุดสำหรับพักผ่อนและจุดสำหรับซักล้างวางคอมแอร์ โดยที่จุดสำหรับพักผ่อนได้ฟังก์ชั่นระเบียง 2 ชั้นด้วย

– โครงการขายแบบ Fully Furnished มีอุปกรณ์ให้ครบครันได้แก่ Pantryครัวครบชุด เคาน์เตอร์บนล่าง ท๊อปครัวหินสังเคราะห์ เตาเซรามิค ฮูดดูดควัน ซิงค์ของ Franke ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน (ไม่รวมฟูก) โซฟานั่งเล่นและโต๊ะทานอาหารจาก Modernform ส่วนวัสดุต่างๆที่ใช้อยู่ในระดับกลางๆ พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังห้องปูวอลล์เปเปอร์ โคมไฟดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.7 เมตร ประตู Digital door lock บานเลื่อนประตูหน้าต่างอลูมิเนียมสีดำ ในห้องน้ำอ่างล้างหน้าแบบมีลิ้นชักเก็บของ Mogen โถสุขภัณฑ์ American Standard แยกส่วนเปียกอาบน้ำด้วยกระจก Temper แบบไร้กรอบ

สิ่งอำนวยความสะดวก – ล็อบบี้ของโครงการมีขนาดใหญ่ด้วยรูปแบบเพดานสูง Double Volume ที่ใช้เป็นจุดพบปะต้อนรับเพื่อนหรือแขกได้อย่างสมเกียรติ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกหลักนั้นจะอยู่ที่ชั้น 8 ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น อ่านหนังสือหรือจะดัดแปลงใช้เป็นห้องประชุมก็ได้ ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำรูปแบบฟรีฟอร์มขนาด 30 x 5 เมตร ระบบเกลือที่พร้อมด้วยอ่างจากุซซี่วิวเปิดโล่งชมทิวทัศน์ของตัวเมืองกรุงเทพได้ และส่วนสุดท้ายคือสวนหย่อมขนาดใหญ่บนชั้นดาดฟ้า เรื่องที่จอดรถมีช่องจอด 40% ไม่รวมซ้อนคัน ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวและแยกลิฟต์ขนของให้ 1 ตัว

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 089-600-6100 / Call center 1739

Website : http://condolette.pruksa.com/th/1481/condolette-midst-rama-9

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

วี คอนโด แจ้งวัฒนะ V Condo ใกล้เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เริ่ม 1.77 ล้านบาท

วี คอนโด แจ้งวัฒนะ V Condo คอนโดสไตล์รีสอร์ท สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เริ่ม 1.77 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซ.สวัสดิการกทม. เมน1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

Floor Plan อาคาร A

2nd – 8th Floor Plan

Floor Plan อาคาร B

2nd – 8th Floor Plan

UNIT TYPE

TYPE A : 35.55 SQ.M.

TYPE A1 : 35.55 SQ.M.

TYPE B : 37.80 SQ.M.

TYPE C : 52.20 SQ.M.

TYPE D : 37.42 SQ.M.

TYPE E :40.20 SQ.M.

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-962-0502, 098 427 7880, 098 427 7881

WEBSITE : http://www.vcondominium.com/

EP.255 เปิดตึกใหม่! รีวิว คอนโด The Metropolis สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ติด BTS สำโรง – รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่ม 1.9 ล้านบาท

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ “เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์” มหานครแห่งใหม่จาก บริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นคอนโดตกแต่งครบ ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบชุด + เครื่องใช้ไฟฟ้าครบเซ็ท อาคารพักอาศัยทั้งหมด 3 อาคาร อาคาร A ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และ อาคาร C เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ออกแบบภายใต้แนวคิด Smart Life, Smart Decision โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ โซนสมุทรปราการ ติดถนนสุขุมวิท ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สำโรง และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใกล้อิมพิเรียลสำโรง สะดวกเดินทางด้วย 3 เส้นทางหลัก สุขุมวิท บางนา-ตราด และ เทพารักษ์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ในราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท* รายละเอียดโครงการแบบเจาะลึก สามารถติดตามต่อได้ที่ด้านล่างเลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

การเดินทาง

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง เราเริ่มจาก แยกบางนา > ถ.สุขุมวิท >ข้ามคลองสำโรง > The Metropolis สำโรง Interchange *ตรงข้าม สน.ตำรวจภูธรตำบลสำโรงเหนือ

การเดินทางเรามาจาก ทางพิเศษเฉลิมมหานคร วิ่งตรงไป บางนา – สมุทรปราการ ลงทางออก 17 B สมุทรปราการ ข้ามแยกบางนา เข้าสู่ ถ.สุขุมวิท

ผ่าน BTS บางนา และกรมอุตุนิยมวิทยา

ผ่าน แยกลาซาล และ BTS แบริ่ง

ผ่าน แยกแบริ่ง

ตรงไปเรื่อยๆ ข้ามคลองสำโรง ลงสะพานให้ชิดขวาไว้ เราจะเลี้ยวเข้าโครงการค่ะ ทางเข้าโครงการจะตรงกับ สน.ตำรวจภูธรตำบลสำโรงเหนือ

ข้ามคลองสำโรงมาแล้วให้ชิดขวา แล้วเลี้ยวเข้าโครงการ The Metropolis สำโรง Interchange ค่ะ

ถึงโครงการ The Metropolis สำโรง Interchange 

หน้าโครงการ The Metropolis สำโรง Interchange

สำนักงานขาย

ตรงข้ามกับโครงการ เป็นสถานีตำรวจสำโรงเหนือ

เดินถัดขึ้นไป เป็นสี่แยกเทพารักษ์

แยกเทพารักษ์ค่ะ

บริเวณโดยรอบโครงการ

ภาพมุมสูง

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

สถานที่สำคัญ
– BTS แบริ่ง 2.3 กม.
– ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง – สมุทรปราการ) E15 สำโรง และเป็นจุดเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง)
– ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี 3.8 กม.
– ใกล้ ถ.กาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฯ) 2.3 กม.
– กรมอุตุนิยมวิทยา 3.2 กม.
– พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 2.7 กม.
– เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา 6.8 กม.
– ไบเทค บางนา 5 กม.
– The Bangkok Mall 4.3 กม.
– อิมพีเรียลเวิร์ด สำโรง 600 ม.
– บิ๊กซี สำโรง 600 ม.
– บิ๊กซี จัมโบ้ สำโรง 2  1.2 กม.
– บิ๊กซี ศรีนครินทร์ 8.5 กม.
– บิ๊กซี บางนา 6.9 กม.
– เทสโก้โลตัส สมุทรปราการ 6.8 กม.
– แมคโคร ศรีนครินทร์ 8.3 กม.
– ฟู้ดแลนด์ 7.8 กม.
– เอสบี ดีไซน์ สแควร์ (บางนา กม.4 ) 7.7 กม.
– ชิค รีพับบลิค บางนา 10.9 กม.
– อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ บางนา 10.9 กม.
– ฮาร์บิน ไอซ์ วันเดอร์แลนด์ 2.5 กม.

สถานพยาบาล
– รพ.สำโรงการแพทย์ 650 ม.
– รพ.มนารมย์ บางนา 2.9 กม.
– รพ.ศิครินทร์ บางนา 8.3 กม.
– รพ.ไทยนครินทร์ บางนา 7.3 กม.

สถานที่ศึกษา
– ร.ร.เซนต์โยเซฟทิพวัล 3.8 กม.
– ร.ร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ 4.1 กม.
– ร.ร.เทพศิรินทร์สมุทรปราการ 3.5 กม.
– ร.ร.ลาซาล 6.2 กม.
– ร.ร.เซนต์โยเซฟ บางนา 5.2 กม.
– ร.ร.นานาชาติบางกอกพัฒนา 5 กม.
– ร.ร.นานาชาติไทย – สิงคโปร์ ศรีนครินทร์ 8.9 กม.
– ร.ร.นานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส 2.2 กม.
– ร.ร.นานาชาติเบิร์คลีย์ 4.6 กม.

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

แผนที่แนวรถไฟฟ้า

โมเดลโครงการ

เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ : โครงการตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท เพียง 1 ก้าวถึงรถไฟฟ้า BTS สำโรง และในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีเทพารักษ์) ทำให้จุดนี้เป็น Interchange ในการเปลี่ยนเส้นทางรถ ในอนาคตคงจะสะดวกเอามาก ๆ 

โครงการติดถนนสุขุมวิท เพียง 1 ก้าว ถึง BTS สำโรง

ทางเข้า-ออกโครงการ

โมเดลโครงการ : อาคารพักอาศัย มีทั้งหมด 3 อาคาร ประกอบไปด้วย อาคาร A : 39 ชั้น, อาคาร B : 30 ชั้น (ยังไม่เปิดขาย) และ อาคาร C : 7 ชั้น

อาคาร B : 30 ชั้น เป็นอาคารที่ติดถนนสุขุมวิทมากที่สุด (ยังไม่เปิดขาย)

ที่จอดรถใต้อาคาร B จอดได้ตั้งแต่ชั้น 1-ชั้น 5 : ชั้น 6 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25 x 12 เมตร

อาคาร C : 7 ชั้น และ อาคารจอดรถ 4 ชั้น

อาคาร C มี Roof Top Garden : ส่วนอาคารจอดรถชั้นบน เป็นสนามไดร์ฟกอล์ฟ และ สนามแบตมินตัน 2 สนาม

อาคารจอดรถสูง 5 ชั้น : ชั้น 1-4 เป็นที่จอดรถ ส่วนชั้น 5 (ดาดฟ้า) เป็นห้องไดร์ฟกอล์ฟ และ สนามแบตมินตัน

ทางเชื่อมจากอาคารจอดไป ไปยังอาคาร A

โมเดลอาคาร A จอดรถชั้น 1-5 ได้ มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลัง

สระว่ายน้ำอาคาร A ขนาด 30 x 12 เมตร แยกสระเด็กให้ด้วย

ด้านหลังอาคาร A และ อาคาร B ค่ะ

:: ห้องตัวอย่าง ::

สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชม มีทั้งหมด 2 แบบค่ะ คือ

– TYPE B1 : 1 Bedroom ขนาด 35.00 ตร.ม.
– TYPE C : 2 Bedrooms ขนาด 52.00 ตร.ม.

โดยทางโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished โดยลูกค้าจะได้

• เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ลอยตัว Design By SB.
• เคาน์เตอร์ครัว พร้อมเตาเซรามิค, เครื่องดูดควัน, ซิงค์ล้างจาน
• สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ
• แอร์ Daikin ขนาด 9,000 BTU
• ประตูห้องระบบ Digital Smart Door Lock

• แปลนห้อง TYPE B1 : 1 ห้องนอน ขนาด 35.00 ตร.ม. | เป็นห้องพักแบบแนวลึก หน้ากว้าง 4.9 เมตร ลึก 6.9 เมตร เข้ามาภายในห้องส่วนแรกเป็น Living Area ถัดเข้าไปเป็นห้องนอน กั้นประตูเลื่อนปิดมิดชิด เป็นส่วนตัว ทางซ้ายมือกั้นประตูกระจกบานเลื่อน ผ่านเข้าไปเป็นห้องน้ำ แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกเรียบร้อย พร้อมห้องครัว ที่สามารถทำอาหารหนักได้ ระบายกลิ่นออกสู่ระเบียงด้านนอกได้อย่างดีค่ะ

ประตูห้องพักไม้เนื้อแข็งสีเข้ม มือจับประตูสเตนเลสก้านโยก

กลอนประตูห้องพักระบบ Digital Smart Lock ของ Kwikset ควบคุมเปิด-ปิดห้องผ่าน Smart Phone , แตะสัมผัสที่แป้น หรือใช้กุญแขไขแล้วแต่ความสะดวก

เปิดประตูเข้ามา ความสูงเพดาน 2.55 เมตร ดรอปฝ้าสูง 2.65 เมตร ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ทั้งหมด ผนังห้องวอลเปเปอร์สีพื้นค่ะ

ดรอปฝ้าด้านบนส่วน Living Area ตกแต่งภายในด้วยวัสดุสีไม้ สวยลงตัวดีค่ะ

พื้นที่ส่วนแรกเป็น Living Area ขนาดกว้างพอสมควร ปูพื้นแกรนิตโต้สีครีม 60×60 ซม. โครงการขายห้องแบบตกแต่งครบ ลูกค้าจะได้เฟอร์นิเจอร์แบบที่เห็นทั้งหมด สิ่งที่ไม่ได้คือ ผ้าม่าน และ ของตกแต่งค่ะ

มุมนั่งเล่น วางโซฟาหนังเทียม ขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางสีขาว 1 ตัว

ตรงข้ามบิวท์อิน Sideboard เต็มพื้นที่ เว้นช่องให้แขวนทีวี (ทีวีไม่ได้แถมให้นะคะ)

ตู้เก็บของด้านบน แบบบานโช็ค แบ่งช่องไว้ครบถ้วน เก็บของได้เยอะ เป็นระเบียบ

ตรงกลางก็มีตู้มาให้ เป็นตู้แบบบานโช็คเช่นเดียวกัน

Sideboard ด้านล่างนี้ สามารถวางทีวีไว้ด้านบนได้ มีลิ้นชักเก็บของด้านล่าง แบ่งไว้ให้ครบ

ระยะห่างโซฟา – Sideboard ประมาณ 2 เมตร อยู่ในระดับสายตาที่ดี เดินเข้า-ออกส่วนอื่นได้สะดวก

ถัดจากโซฟามา มีชุดโต๊ะทานข้าว ขนาด 2 ที่นั่ง วางตำแหน่งเข้ามุมแบบนี้

ระยะห่างให้เก้าอี้ – โซฟา 50 ซม. เหลือไว้ให้เลื่อนเก้าอี้ได้สะดวก

มองย้อนให้เห็นภาพรวม ใครที่ชอบพักผ่อน นอนดูทีวี จะเพิ่มขนาดโซฟาให้ใหญ่ขึ้นก็ได้นะคะ

ถัดจาก Living Area เป็นห้องนอน ปูพื้น Engineering wood

กั้นประตูไม้เนื้อแข็งบานเลื่อน 3 ตอนให้แบบนี้

เปิดประตูออก เชื่อมต่อห้องนอนกับส่วนนั่งเล่นได้เต็มที่

ภาพรวมภายในห้องนอน ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด

ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมที่นอน)

มีโต๊ะหัวเตียง พร้อมลิ้นชักให้ ขนาบทั้งสองข้างเลย

ระยะห่างข้างเตียง และ ปลายเตียง : 80 x 50 x 60 ซม. พอเดินเข้า-ออกโดยรอบได้สะดวก

ปลายเตียงบิวท์อินตู้เสื้อผ้า และ โต๊ะเครื่องแป้ง ผนังด้านบนติดตั้งแอร์ Daikin 9,000 BTU

ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน กว้าง 1.7 เมตร หน้าบ้านกระจกสีขาว เปิดได้ทั้งสองฝั่ง

เปิดออกให้ดู : ด้านในตู้จะแบ่งเป็นสองส่วน มีราวแขวนผ้า พร้อมลิ้นชัก และ ชั้นวางของด้านบนให้ครบ

โต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัด พอเหมาะ ติดกระจกส่องหน้าทรงสูง ได้พร้อม Stool 1 ตัว ข้างๆเหลือที่ว่างเล็กน้อย เอาไว้วางโคมไฟตั้งพื้นได้ ด้านล่างมีปลั๊กไฟให้พร้อมใช้งาน

ถึงจะขนาดกะทัดรัด แต่ก็ออกแบบให้มีลิ้นชักเก็บของ หน้าโต๊ะก็วางพวกครีม, เครื่องสำอางได้ครบ

ด้านในสุดมีหน้าต่างรับแสงบานใหญ่ แบ่งเป็นบานเลื่อนด้านบน ส่วนบานล่างเป็นแบบปิดตาย กว้างประมาณ 1.9 เมตร

เปิดม่านออกให้ดู สามารถรับแสง – ระบายอากาศได้เต็มที่ แถมช่วยให้ห้องดูโปร่ง และ กว้างขึ้นอีกด้วย

มองย้อนกลับมาดูภาพรวมกันค่ะ

อีกฝั่งของห้อง แบ่งเป็นห้องน้ำ , ห้องครัว และ ระเบียง

กั้นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ตัวประตูกว้างประมาณ 1.1 เมตร ความสูงจรดฝ้า ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

เดินเข้ามา ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ : ตัวประตูห้องน้ำเป็น UPVC ไม่จับคราบดำ ง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาด กันน้ำ กันชื้น ไม่เป็นเชื้อรา ลูกบิดประตูมาตรฐาน

ภาพรวมของห้องน้ำ โครงการแยกส่วนแห้ง กั้นฉากอาบน้ำให้เรียบร้อย ปูพื้นด้วยกระเบื้องกันลื่นแผ่นใหญ่ ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องเงาสวยงาม สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard ทั้งหมดค่ะ

อ่างล้างมือขนาดใหญ่เลยทีเดียว ก็อกน้ำโครเมียมก้านโยก เปิด-ปิดง่าย หน้าอ่างมีพื้นที่ให้วางแปรงสีฟัน, ยาสีฟัน สบู่ล้างมือได้เล็กน้อย

ใต้อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของแบบบานเปิด ภายในขนาดพอเหมาะ เก็บของได้เยอะพอสมควร

โถสุขภัณฑ์ 2 Piece ฝาปิดชักโครกแบบ Soft Close นอกจากจะช่วยกันกระแทก เพื่อยืดอายุการใช้งานแล้ว เวลาเปิด-ปิดเสียงไม่ดัง ผนังด้านหลังทำ Low Wall ให้วางของได้ ติดตั้งสายชำระ พร้อมที่ใส่กระดาษทิชชู่ให้ครบ

ฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน กระจกฝ้า เฟรมมิเนียมสีขาว ยกพื้นสูงเล็กน้อย กันไม่ให้น้ำไหลออก

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.7 x 1.0 เมตร ขนาดมาตรฐานทั่วไป

ติดฝักบัวโครเมียมของ American Standard ได้ทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower ทรงสี่เหลี่ยม มีราวปรับระดับสูง-ต่ำ เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น

ด้านหลังทำพื้นที่ให้วางอุปกรณ์อาบน้ำ ไม่ต้องติดชั้นเพิ่มเติม

ออกจากห้องน้ำมา เจอกับมุมครัว โครงการบิวท์เคาน์เตอร์ และ ตู้เก็บของให้แบบ Full Option

พื้นห้องครัวปูแกรนิตโต้สีครีม ทนต่อน้ำ ทำความสะอาดได้ง่าย

บิวท์อินตู้เก็บของให้ มีช่องสำหรับวางตู้เย็น ขนาด 8 คิว ได้พอดี

ตู้เก็บของเหนือตู้เย็น เป็นตู้แบบบานเปิด ด้านในแบ่งช่องให้ครบ

ด้านล่างก็เช่นกัน มีตู้เยอะขนาดนี้ ในห้องครัวไม่รกแน่นอน

เคาน์เตอร์ครัว กว้าง 2.3 เมตร TOP ครัวหินสังเคราะห์สีดำ ทนต่อความร้อน ไม่บวมน้ำ เวลาเลอะก็เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนผนังครัวมีการกรุกระเบื้องกันเปื้อนให้ครบ

ซิงค์ล้างจานหลุมเดี่ยว พร้อมที่พักจาน ก็อกน้ำทรงสูง ของ MEX

ฝังเตาเซรามิค 2 หัว ของ Tecno

เครื่องดูดควัน Tecno

มีตู้เก็บของด้านบน พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ครบเซ็ท

ตู้เก็บของแบบบานเปิดทั้งหมด แบ่งช่องไว้วางของให้เรียบร้อย

ด้านล่างก็เช่นกัน แบ่งเป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ พร้อมติดตั้งถังขยะที่บานประตู มีลิ้นชัก พร้อมถาดเก็บช้อม-ส้อม จัดมาให้ครบสุด ๆ

ส่วนด้านในสุด เว้นช่องไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ขนาด 7 กก. เดินท่อน้ำดี, ท่อน้ำทิ้ง พร้อมต่อปลั๊กไฟให้ครบ

ระยะยืนทำครัว ไม่ได้กว้างมาก เหมาะสมกับขนาด 1 ห้องนอน > ส่วนประตูระเบียงกระจกบานเลื่อน ความสูงถึงเพดาน

พื้นที่ระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบ ขนาด 0.8 x 1.0 เมตร ผนังติดตั้งก็อกสนาม มีท่อน้ำทิ้งให้ครบ โดยพื้นที่ระเบียงสามารถวางราวตากผ้าขนหนูเล็ก ๆ ได้ ซ้ายมือกั้นเป็นห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ ประตูระแนงอลูมิเนียมสีดำ ปล่อยลมร้อนออกด้านนอกค่ะ

:: ———————————————————————————- ::

• แปลนห้อง TYPE C : 2 ห้องนอน ขนาด 52.00 ตร.ม. | สำหรับห้องนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ แบ่งแยกฟังก์ชั่นการใช้งานเป็น 3 ส่วน เริ่มจากทางเข้าห้อง ตรงกลางเป็นมุมทานอาหาร ถัดเข้าไปเป็น Living Area และระเบียงที่สามารถเชื่อมต่อกับห้องนอนใหญ่ได้ ส่วนที่ 2 ฝั่งขวามือ แบ่งเป็นห้องน้ำ และ ห้องนอนใหญ่ และส่วนสุดท้าย ทางซ้ายมือ แบ่งเป็นห้องครัวแบบปิด และ ห้องนอนเล็กค่ะ

ประตูห้องพักไม้เนื้อแข็ง + ตาแมว เหมือนกันทั้งโครงการ

ประตูห้องพักระบบ Digital Smart Lock ของ Kwikset

เปิดประตูห้องเข้ามา เจอกับมุมทานข้าว และ Living Area ก่อน ส่วนอื่นๆ ถูกกั้นห้องปิดมิดชิด เป็นสัดส่วน พื้นห้องโซนแรกปูแกรนิตโต้สีครีม ความสูงเพดาน 2.55 เมตร, ดรอปฝ้า 2.65 เมตร ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ ผนังห้องวอปเปอร์ทั้งหมดค่ะ

มุมทานอาหาร ได้ชุดโต๊ะทานข้าว พร้อมเก้าอี้ 4 ที่นั่ง ด้านบนติดแอร์ Daikin 1 เครื่อง

มองย้อนออกมาให้ดู ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ส่วนขวามือเป็นห้องครัว

หน้าห้องน้ำบิวท์อินตู้เก็บรองเท้า แบบบานเปิด หน้าบานเป็นกระจกเงา ด้านในแบ่งไว้ทั้งหมด 5 ชั้น สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ตามต้องการ

ทางเข้าห้องน้ำ

ภาพรวมภายในห้องน้ำค่ะ สุขภัณฑ์ และฟังก์ชั่นห้องน้ำ เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด

อ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บของ

โถสุขภัณฑ์ 2 Piece ฝานั่ง Soft Close ติดอุปกรณ์ให้ครบชุด ด้านหลังมี Low Wall ให้วางอุปกรณ์ของใช้ได้เต็มพื้นที่

กั้นฉากอาบน้ำแบบบานเลื่อน ติดที่ดูดอากาศแบบฝังฝ้าไว้ด้านบน

พื้นที่อาบน้ำ ขนาด 0.7 x 1.0 เมตร

ติดฝักบัวโครเมียมของ แบบ Rain Shower และ Hand Shower ทรงสี่เหลี่ยม มีราวปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำให้ครบ

มองย้อนกลับออกมาดูภาพรวมเล็กน้อย

พอดูโซนหน้า แล้วค่อยขยับเข้าด้านในนะคะ >> ติดกับมุมทานอาหารเป็นห้องครัว

กั้นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ความสูง-เพดาน ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

พื้นห้องครัวปูแกรนิตโต้ เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด

เคาน์เตอร์ครัว L-Shape มีตู้เก็บของทั้งบนและล่าง เว้นช่องให้วางตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, ไมโครเวฟครบค่ะ

TOP ครัวหินสังเคราะห์สีขาว ผนังกรุกระจกทำความสะอาดง่าย เครื่องใช้ไฟฟ้าได้เหมือนกับ 1 Bedroom

ตู้เก็บของด้านบน บานเปิด แบ่งช่องเก็บของได้เยอะ และเป็นระเบียบ

ด้านล่างก็เช่นเดียวกัน แบ่งเป็นตู้บานเปิด และ ลิ้นชักเก็บของ จัดมาให้ครบเซ็ท

ผนังด้านนี้ กั้นกระจกให้มีช่องแสง มองออกไปข้างนอกได้สะดวก แถมช่วยให้ห้องครัว ดูโปร่ง ไม่อึดอัด

หน้าห้องครัว บิวท์อินตู้เก็บของให้ เก็บของได้เยอะทีเดียว

ต่อกันที่โซนด้านในห้อง เริ่มจาก Living Area กันก่อน

จัดเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน-ลอยตัวให้ครบชุด

ได้โซฟาหนังเทียมขนาด 3-4 ที่นั่ง 1 ชุด

ตรงข้ามบิวท์อิน Sideboard พร้อมตู้เก็บของด้านบน กว้างเต็มพื้นที่ผนัง

ตู้เก็บของด้านบนแบบบานโช็ค แบ่งช่องไว้ให้เรียบร้อย

ด้านล่างเป็นลิ้นชัก มีทั้งหมด 4 ช่อง

ประตูระเบียงกระจกบานเลื่อน เปิดได้สองฝั่ง

ระเบียงแบบหน้ากว้าง ปูพื้นกระเบื้องผิวหยาบ กันน้ำได้ดี เวลาฝนตก หรือ พื้นเปียก เดินแล้วไม่ลื่นค่ะ

ระเบียงที่สามารถเชื่อมต่อกันได้

ราวกันตกเหล็กสีดำ ทากันสนิมอีกชั้น ความสูงประมาณ 1 เมตร

ฝั่งระเบียงห้องนอนใหญ่ มีห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ กั้นกริลระแนงอลูมิเนียมสีดำ ปล่อยลมร้อนออกสู่ด้านนอก

มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง

มาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ ทางเข้าติดกับห้องน้ำแบบนี้

ภาพรวมภายในห้องนอน ปูพื้น Engineering wood วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้เฟอร์ครบชุด ดรอปฝ้าเล่นระดับสวยหรูแบบนี้เลย

ขวามือบิวท์อินตู้เสื้อผ้าบานเปิด – โต๊ะเครื่องแป้ง ให้พร้อม Stool 1 ตัว ผนังด้านบนติดแอร์ Daikin 1 เครื่อง

ระยะห่างจากเตียง – ตู้เสื้อผ้า กว้างพอสมควร นั่งแต่งหน้า ยืนแต่งตัวได้สะดวก

ปลายเตียงเหลือพื้นที่น้อยไปหน่อย ถ้าต้องการติดทีวี แนะนำแบบแขวนเท่านั้น

ส่วนฝั่งนี้ ยังพอเดินได้ ข้างเตียงมีโต๊ะหัวเตียงมาให้ 1 ตัว

ประตูระเบียงห้อง แบบกระจกบานเลื่อน ความสูง-เพดาน ส่วนของระเบียงจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้องนั่งเล่น

ภาพรวมภายในห้องนอนใหญ่ค่ะ

กลับมาที่ห้องนอนเล็ก เป็นส่วนสุดท้าย

ภายในห้องปูพื้น Engineering wood  วางเตียงนอน 3.5 ฟุต เฟอร์นิเจอร์ได้ครบชุดเช่นเดียวกัน

หัวเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้ง + Stool 1 ตัว อีกฝั่งให้โต๊ะหัวเตียงครบชุด

หน้าต่างห้องกระจกบานใหญ่ มีทั้งแบบบานเลื่อน และ บานปิด เปิดรับแสง รับลมธรรมชาติได้เต็มที่

ติดกับประตู บิวท์อินตู้เสื้อผ้าบานเปิด กว้าง 90 ซม.

ภาพรวมภายในห้องนอนเล็กค่ะ

:: บทสรุปโครงการ ::

– ทำเลที่ตั้งโครงการ เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 8 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามกับสน.สำโรงเหนือ ใกล้แยกเทพารักษ์ ทำเลโดยรอบเป็นชุมชน มีอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้า และ โกดังเก็บสินค้ามากพอสมควร ความอุดมสมบูรณ์ เริ่มจากในโครงการ มี Community Mall (ชั้น 1 – 3) ที่อาคาร B อาคารที่ติดกับถนนใหญ่ ยังไม่มีบทสรุปว่า จะเปิดเป็นร้านอะไรบ้าง แต่คาดว่าจะเป็นร้านค้าที่เอื้อต่อความสะดวกสบายของคนในโครงการแน่นอน นอกจากนั้นในระยะเดิน ประมาณ 500 เมตร ก็จะมี อิมพิเรียลสำโรง, บิ๊กซี สำโรง ตรงข้ามมีตลาดสดสำโรง ที่มีทั้งของสด และ ของแห้ง รวมถึง 7-11 ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ

– การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เดินทางสะดวก เนื่องจากเป็นโครงการติดถนนใหญ่ ถนนสุขุมวิท ใกล้กับแยกเทพารักษ์ ที่วิ่งตรงออกไปยังบางพลีได้เลย รวมถึงการเดินทางเข้าเมืองก็สะดวก ใกล้ทั้งทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ และ ทางด่วนขั้นที่ 1 ด่านบางนา หรือจะใช้เส้นสุขุมวิท วิ่งเข้าเมือง ขับตรงอย่างเดียวผ่านทั้งเอกมัย, ทองหล่อ, อโศกมนตรี วิ่งยาวไปจนถึงโซนสยามได้เลย หรือ หากต้องการไปโซนสีลม-สวนลุม โดยไม่ใช้ทางด่วน และ เส้นสุขุมวิท ก็มีเส้นทางลัดโดยใช้เส้นถนนรางรถไฟสายเก่า วิ่งตรงไปจะไปออกที่ถนนพระราม 4 หรือหากต้องการออกตจว. สามารถใช้ถนนเส้นบางนา-ตราด หรือ ถนนกาญจนาภิเษก วิ่งตรงเข้าสู่โซนชลบุรีได้เลย โดยรวมแล้วถือว่าสะดวกครบทุกเส้นทาง

– การเดินทางโดยรถสาธารณะ : เชื่อมต่อความสะดวกสบายในการเดินทาง เข้า-ออกเมืองได้สะดวก เพียง 1 ก้าว หรือประมาณ 20 เมตร ถึง BTS สถานีสำโรง ซึ่งจะพร้อมให้บริการในปีพ.ศ. 2559 คาดว่ารถไฟฟ้าเสร็จก่อนโครงการแน่นอน จากสถานีสำโรง นั่งเข้าเมืองเพียง 9 สถานี – ทองหล่อ 2 สถานี (ออกเมือง) ถึงสถานีเอราวัณ และในอนาคตบริเวณนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสองสาย ที่เพิ่มเข้ามาคือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เส้นลาดพร้าว (โครงการในอนาคต) โดยเส้นนี้สามารถวิ่งไปเชื่อมต่อกับ Airport Link หัวหมากได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการเดินทางโดยรถเมล์ หรือ รถสองแถว สามารถเดินไปขึ้นได้ที่หน้าอิมพิเรียลสำโรง ระยะเดินไปป้ายรถเมล์ประมาณ 500 เมตร ตรงนั้นจะมีรถเมล์ให้เลือกหลายสาย รวมถึงรถตู้ที่วิ่งเข้าเมือง ก็มีให้บริการ ส่วน Taxi และ มอเตอร์ไซค์รับจ้างนั้น ยืนเรียกได้ที่หน้าโครงการเลยค่ะ มีผ่านตลอดทั้งวัน

– การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการ เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ คอนโดสไตล์โมเดิร์น มีอาคารพักอาศัยทั้งหมด 3 อาคาร ห้องพักอาศัยรวม 1,752 ยูนิต แยกเป็นอาคาร A สูง 39 ชั้น ห้องพัก 1,056 ยูนิต : อาคาร B สูง 30 ชั้น ห้องพัก 552 ยูนิต และ อาคาร C แบบ Low-Rise 7 ชั้น ห้องพัก 144 ยูนิต ปัจจุบันเปิดขายแล้ว 2 อาคาร คือ อาคาร A และ อาคาร C ส่วนอาคาร B คาดว่าจะเปิดขายในปีหน้า นอกจากอาคารพักอาศัยแล้ว ยังมีอาคารจอดรถ สูง 4 ชั้น คิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

ในส่วนของห้องพัก มีให้เลือกหลายขนาด มีทั้งแบบ Studio, 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน โดยทางโครงการขายห้องพักให้แบบ Fully Furnished คือได้ทั้งหมดแบบที่เราพาไปชม เริ่มจากหน้าห้อง ประตูห้องพักใช้เป็นระบบ Digital Smart Lock สั่งงานผ่าน Bluetooth ไฮเทคมาก วัสดุภายในห้องพักเกรดดีเยี่ยม พื้นห้องมีทั้งส่วนที่ปูแกรนิตโต้ และ ปูพื้น Engineering Wood ความสูงเพดาน 2.55 เมตร มีการดรอปฝ้าฝังไฟดาวน์ไลท์สวยงาม เฟอร์นิเจอร์มีทั้งแบบบิวท์อิน และ ลอยตัว ขอชมนิดนึงในส่วนของเฟอร์บิวท์อิน โครงการออกแบบมาได้อย่างดีมากจริง ๆ ใส่ใจทั้งวัสดุ และ การใช้งาน ที่ไม่ใช่แต่ทำออกมาให้สวยอย่างเดียว ต้องใช้งานได้จริง ๆ พวกตู้เก็บของ ก็ให้แบบ Soft Close ส่วนมากบิวท์ให้สูงจรดฝ้า เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที ส่วนเฟอร์ลอยตัว อาทิ โซฟา โต๊ะทานข้าว และ เตียงนอน ก็ดีไซน์ออกมาได้ดูดีเกินราคา

รวมถึงแต่ละส่วนของห้องพัก กั้นประตู กั้นฉากบานเลื่อน ปิดแยกให้เป็นสัดส่วน ห้องครัวบิวท์อินเคาน์เตอร์แบบ Full Option ได้พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ เตาเซรามิค, เครื่องดูดควัน และ ซิงค์ล้างจาน Tecno ครบชุด มีการเว้นช่องให้วางตู้เย็น, ไมโครเวฟ และ เครื่องซักผ้า ไว้อย่างพอดี ห้องน้ำแยกส่วนแห้ง และ ส่วนเปียกให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ American Standard เกรดดี โถสุขภัณฑ์ใช้ฝานั่งแบบ Softclose ปิดไม่มีเสียง รวมถึงมีฝักบัวให้ถึง 2 แบบ จัดมาให้เต็มที่สมชื่อจริงๆ

– สาธารณูปโภค : จัดให้ครบ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบไร้ขอบ ให้มาถึง 2 สระ ตั้งอยู่ที่อาคาร B เป็นขนาด 25×12 เมตร และ อีกสระที่อาคาร A ขนาด 30×12 เมตร อาคาร A จะมีสระเด็กให้ด้วย มีห้องฟิตเนส เครื่องเล่นครบครัน ที่ชั้นบนของอาคารจอดรถ มีห้องไดร์ฟกอล์ฟ และ สนามแบตมินตันให้ 2 สนาม, สวนพักผ่อนมีให้รอบโครงการ กระจายเป็นจุด ๆ เพิ่มความร่มรื่น และอีกที่ เป็นสวนลอยฟ้า ตั้งอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าของอาคาร C ที่จอดรถสามารถจอดได้ที่อาคารจอดรถ 4 ชั้น และ ใต้อาคาร A และ B ชั้น 1-5 สิทธ์การจอดห้องละ 1 คัน แบบไม่ Fix ที่ ในเรื่องของลิฟท์เป็นแบบล็อคชั้นทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย อาคาร A : มีลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว, อาคาร B ยังไม่สรุป และ อาคาร C มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ไม่มีลิฟท์ขนของ ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ค่ะ

:: คะแนน ::

**การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้**

:: ราคา ::

– ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท

– ราคาเฉลี่ยต่อ เริ่มต้น 68,000 บาท/ตร.ม.

สอบถามโปรโมชั่นติดต่อได้ที่สำนักงานขายค่ะ**

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-024-8000

WEBSITE : http://www.metroprop.co.th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.256 รีวิว คอนโด THE ESSE ASOKE ดิ เอส อโศก คอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้าทุกชนิด

สวัสดีครับ วันนี้มีรีวิว ดิ เอส อโศก (THE ESSE ASOKE) มาฝาก โดยคอนโดนี่ถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดในอโศกด้วยความสูงที่ 55 ชั้น ซึ่งดิ เอส อโศก ถือเป็นคอนโดโครงการแรกจากสิงห์ เอสเตท (SINGHA ESTATE) ตั้งอยู่ ณ ใจกลางอโศก ถือเป็นทำเลดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110

พิกัด : 13.743120, 100.561979

THE ESSE ASOKE ตั้งอยู่ ณ ใจกลางอโศก ซึ่งเป็นทำเลที่เชื่อมโยงทุกจุดหมายเข้าไว้ด้วยกัน เพราะตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก, รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท, เพชรบุรี, รวมไปถึงรถไฟ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน

อีกทั้งยังเป็นทำเลซึ่งถือว่ามีศักยภาพสูงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ รวมไปถึงการแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญมากมาย ตั้งแต่ ศูนย์การค้า สถานศึกษาและ มหาวิทยาลัยชื่อดัง โรงพยาบาล และโรงแรม

สรุปสถานที่สำคัญ

การเดินทาง

• รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท 550 ม.
• รถไฟใต้ดิน MRT เพรชบุรี 650 ม.
• รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก 700 ม.
• รถไฟ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน 800 ม.
• จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช 1.2 กม.

สถานศึกษา

• โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย 30 ม.
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) 150 ม.

ศูนย์การค้า

• Terminal 21 … 700 ม.
• The EM District 2 กม.
• เซนทรัลพระราม 9 … 2 กม.

โรงพยาบาล

• รพ. จักษุรัตนิน 250 ม.
• รพ. ผิวหนัง อโศก 850 ม.
• รพ. บํารุงราษฎร์ 2 กม.

สวนสาธารณะ

• สวนเบญจกิติ 2 กม.
• สวนเบญจสิริ 6 กม.

โครงการ

THE ESSE ASOKE ตกแต่งภายใต้แนวคิด Iconic Elegance ผ่านสถาปัตยกรรมในรูปแบบ Contemporary Luxury และในส่วนของ Landscape ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับรูปแบบของงานสถาปัตยกรรม ภายใต้แนวคิด Green Elegance and Luxury Space ซึ่งมีความเรียบง่าย แต่มีความหรูหราต่อเนื่องกันไปทั้งโครงการ

สัมผัสกับความโปร่งโล่งสบายของ Grand Lobby ที่มีความสูงถึง 7.5 เมตร

THE ESSE ASOKE โดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เพื่อเติมเต็มทุกมิติความสุขของชีวิต เริ่มตั้งแต่บริเวณชั้น Ground ก็มีพื้นที่จอดรถให้มากถึง 102% พร้อมที่จอดพิเศษสำหรับซูเปอร์คาร์ และซูเปอร์ไบค์, ดิ เอส คอร์ท สวนขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตร.ม., ตู้เก็บของสำหรับใส่อุปกรณ์ซูเปอร์ไบค์ ห้องเก็บของส่วนกลางสำหรับใส่ถุงกอล์ฟและกระเป๋าเดินทาง

THE ESSE COURT พื้นที่สีเขียวกว่า 1,000 ตารางเมตร
ซึ่งเกิดจากการ set back ตัวอาคารจากถนนไปถึง 40 เมตร

จากนั้นเมื่อขึ้นมาที่ชั้น 33 และ 43 ก็จะเป็นแหล่งรวม Facility สำคัญๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำพาโนรามิคพร้อมสระเด็ก สระว่ายน้ำทวนน้ำ และจากุชชี่, ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน และกอล์ฟ ซิมูเลเตอร์, ดิ เอส เรสซิเดนท์ เลาจน์, ห้องสมุด, บิซิเนสเซ็นเตอร์ที่ประกอบด้วย ห้องประชุมขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ และสวนส่วนกลางชั้น 43

ฟิตเนส ชั้น 33 – ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงได้ง่ายๆ ทุกวัน

สระว่ายน้ำพาโนรามิคพร้อมสระเด็ก สระว่ายน้ำทวนน้ำ และจากุชชี่ ชั้น 33 – ดูแลสุขภาพ และผ่อนคลาย เพื่อเติมเต็มทุกมิติความสุขของชีวิตได้ง่ายๆ

ดิ เอส เรสซิเดนท์ เลาจน์ ชั้น 43 – สัมผัสวิวของกรุงเทพฯ ได้ง่ายๆ และเป็นส่วนตัว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Parking

102% พร้อมที่จอดพิเศษสำหรับซูเปอร์คาร์ และซูเปอร์ไบค์

Ground Floor

• ดิ เอส คอร์ท สวนขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตร.ม.
• ตู้เก็บของสำหรับใส่อุปกรณ์ซูเปอร์ไบค์
• ห้องเก็บของส่วนกลางสำหรับใส่ถุงกอล์ฟ และกระเป๋าเดินทาง

10th Floor

• Sculpture court สวนส่วนกลางชั้น 10

33rd Floor

• สระว่ายน้ำพาโนรามิคพร้อมสระเด็ก สระว่ายน้ำทวนน้ำ และจากุชชี่
• ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน
• กอล์ฟ ซิมูเลเตอร์

43rd Floor

• ดิ เอส เรสซิเดนท์ เลาจน์
• ห้องสมุด
• บิซิเนสเซ็นเตอร์ และห้องประชุมขนาด เล็ก กลาง ใหญ่
• Skyscraper deck สวนส่วนกลางชั้น 43

ห้องตัวอย่าง

THE ESSE ASOKE มีห้องให้เลือก 3 แบบ คือแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 37.00 – 53.00 ตร.ม., แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 75.50 – 84.00 ตร.ม. และแบบเพนท์เฮาส์ 104.50 – 195.50 ตร.ม. ซึ่งห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้คือห้องขนาดเริ่มต้นแบบ  1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ที่ 37 ตร.ม.

ห้องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสาว Fashion Designer ที่ชื่นชอบความหรูหราและงานดีไซน์ที่มีสีสัน โดย theme หลักของห้องนี้คือสีทองและสีเขียว สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่มีความทันสมัยโฉบเฉี่ยว และรักปาร์ตี้ ในส่วนที่เป็น Bay Window ได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นด้วย Lounge chair เพื่อพร้อมสำหรับการรับแขก หรือนั่งพักผ่อนเพื่อใช้จินตนาการในการออกแบบ

นอกจากนั้นแล้วการออกแบบยังคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ด้วยการจัดวางผังอาคารแบบไม่มีห้องตรงข้าม และจำนวนห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 12 ยูนิตต่อชั้น

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – THE ESSE ASOKE โดดเด่นเป็นอย่างมากด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางอโศก ซึ่งเชื่อมโยงรถไฟฟ้าทุกชนิดเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงเป็นทำเลที่แวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญอีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้ายอดนิยม โรงเรียนเก่าแก่ มหาวิทยาลัยชื่อดัง โรงพยาบาลที่ได้มาตราฐาน โรงแรมหรู รวมไปถึงร้านอาหารอร่อยๆ อีกเพียบ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – THE ESSE ASOKE ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นหนึ่งใจกลางอโศก ซึ่งคำว่าใจกลางอโศกนั้นก็หมายถึงใจกลางกรุงเทพฯ ไปในตัว การเดินทางหลักๆ เข้าออกได้ทั้งจากทางสุขุมวิท และเพรชบุรี โดยมีจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชที่ห่างออกไปเพียง 1.2 กม. นอกจากนี้ THE ESSE ASOKE มีพื้นที่จอดรถให้อย่างครบครัน คิดเป็น 102% พร้อมที่จอดพิเศษสำหรับซูเปอร์คาร์ และซูเปอร์ไบค์

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – THE ESSE ASOKE เชื่อมโยงรถไฟฟ้าทุกชนิดเข้าไว้ด้วยกัน เพราะจากตัวโครงการสามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกชนิด โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดได้แก่ รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 550 ม. จากนั้นก็คือรถไฟใต้ดิน MRT เพรชบุรี, รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก รวมไปถึงรถไฟ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน

การออกแบบโครงการและวัสดุ – THE ESSE ASOKE ออกแบบภายใต้แนวคิด Iconic Elegance ผ่านสถาปัตยกรรมในรูปแบบ Contemporary Luxury ที่มีลักษณะเด่นที่ความเรียบง่าย เฉียบและดูหรูหรา พร้อมด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีความสวยงามและคงทน อาทิ หินธรรมชาติ Creama Mocca ที่ตกแต่งบริเวณ Podium ของตัวอาคาร และวัสดุตกแต่งอาคารสี Champaign Gold  ซึ่งช่วยเพิ่มความหรูหราตลอดทั่วทั้งตัวอาคาร

ในส่วนของห้องพัก THE ESSE ASOKE มีห้องให้เลือก 3 แบบ คือแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 37.00 – 53.00 ตร.ม., แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 75.50 – 84.00 ตร.ม. และแบบเพนท์เฮาส์ 104.50 – 195.50 ตร.ม. โดดเด่นด้วยเพดานที่สูงถึง 3 เมตร เพื่อการใช้ชีวิตที่โปร่งโล่งสบายอย่างแท้จริง และยังคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ด้วยการจัดวางผังอาคารแบบไม่มีห้องตรงข้าม และจำนวนห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 12 ยูนิตต่อชั้น

สิ่งอำนวยความสะดวก – ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก พูดได้ว่า THE ESSE ASOKE นั้นมีครบครันจริงๆ เริ่มตั้งแต่บริเวณชั้น Ground ก็มีพื้นที่จอดรถให้มากถึง 102% จากนั้นเมื่อขึ้นมาที่ชั้น 33 ก็จะเป็นแหล่งรวม Facility ต่างๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, กอล์ฟ ซิมูเลเตอร์, รวมไปถึงห้องสมุด และบิซิเนสเซ็นเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 43

ใครที่สัมผัสการใช้ชีวิตแบบ LIVE LIFE SIMPLY

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Website: http://condo.singhaestate.co.th/

Tel. 02 664 3555

ใหม่! มิติ คอนโด ลาดพร้าววังหิน 72 MITI Condo Ladprao Wanghin 72

มิติ คอนโด คอนโดที่เพิ่มโลกใบใหม่ เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีกว่า ติดถนนลาดพร้าววังหิน ซอย 72 เดินทางเชื่อมต่อ 5 เส้นทางหลัก 3 เส้นทางรถไฟฟ้า ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนลาดพร้าววังหิน ซอย 72 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.

ลงทะเบียนรับข่าวสารโครงการที่นี่

คลิก เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 085-911-8811

WEBSITE : http://www.miticondo.com/

คอนโด H2 Glo เอช ทู โกล์ว รามอินทรา 21 ชีวิตเมือง สู่ความหรูส่วนตัว เริ่ม 1.59 ล้านบาท

H2 Glo รามอินทรา 21 Life + Style ความลงตัวของการใช้ชีวิต รูปแบบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสาน Modern และ Luxury สุนทรียะที่ลงตัวของการอยู่อาศัย สไตล์ที่ไม่ซ้ำใครเพื่อคนรุ่นใหม่ พบกับชีวิตมุมใหม่‹ ใกล้รถไฟฟ้า ครบ facility สระว‹ายน้ำ ฟิตเนส พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย เริ่ม 1.59 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยรามอินทรา 21 เขตบางเขน กทม.

FLOOR PLAN

1st Floor Plan

2nd Floor Plan

3rd Floor Plan

4th Floor Plan

5th Floor Plan

6th – 8th Floor Plan

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

TEL : 085-106-2121

WEBSITE : http://www.h2-condo.com/

TKF Condo ที เค เอฟ คอนโด สุขุมวิท 52 คอนโดใหม่แกะกล่อง พร้อมอยู่ 

TKF Condo สุขุมวิท 52 คอนโดใหม่แกะกล่อง พร้อมเข้าอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช เพียง 300 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนสุขุมวิท 50 และ สุขุมวิท 62 พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 52 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 092-629-9900 , 02-742-7273

WEBSITE : http://www.tkfcondo.com/

คอนโด เคนซิงตัน แหลมฉบัง-ศรีราชา Kensington ตอบโจทย์ชีวิตเหนือระดับ ตรงข้ามม.เกษตร ศรีราชา เริ่ม 1.2x ล้านบาท

Kensington แหลมฉบัง-ศรีราชา “Where Life is Being Loft” ตอบโจทย์ชีวิตเหนือระดับ ตรงข้ามม.เกษตร ศรีราชา เริ่ม 1.2x ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท ต.ทุ่งสงขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 061-398-3000

WEBSITE : http://kensington.origin.co.th/

โมนีค คอนโด สุขุมวิท 64 Moniiq Condo Sukhumvit 64 คอนโดสไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่น เริ่ม 1.99 ลบ.

โมนีค สุขุมวิท 64 คอนโดเรียบง่ายสไตล์มินิมอล จากประเทศญี่ปุ่น การออกแบบใส่ทุกใจรายละเอียดของการพักอาศัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ ใกล้รถไฟฟ้าปุณณวิถี ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้าน

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 (ซอยพงษ์อนุสรณ์ 1) แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษที่นี่

คลิก เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

WEBSITE : http://www.moniiqcondo.com/

EP.258 รีวิว คอนโด Pause สุขุมวิท 107 คอนโดพร้อมอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง เริ่ม 1.99 ล้านบาท

สวัสดีครับ…วันนี้ผมมีรีวิวคอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่มาฝากกับโครงการ Pause สุขุมวิท 107 จาก Origin Property เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 1 แยก 1 ปากซอยแบริ่งมี BTS แบริ่ง เป็นสถานีสุดท้ายก่อนจะไปเชื่อมกับส่วนต่อขยายช่วงสำโรง-สมุทรปราการที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยโครงกการแบ่งออกเป็น 2 อาคารพร้อมส่วนกลางที่แยกมาให้ทั้ง 2 อาคารเลยที่ชั้นดาดฟ้า มีห้องให้เลือก 3 แบบ ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยแบริ่ง 1 ถนนสุขุมวิท สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ

พิกัด : 13.658027, 100.605371

Pause 107 ตั้งอยู่ในปลายซอยแบริ่ง 1 แยก 1 ซึ่งเป็นซอยตัน เข้าจากปากซอยแบริ่ง 1 ประมาณ 150 ม. ก็จะถึงพื้นที่โครงการ ตัวซอยแบริ่ง 1 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนแบริ่ง (สุขุมวิท 107) และลาซาล (สุขุมวิท 105) สามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ทางเลย จากโครงการไปปากซอยลาซาล 12 ประมาณ 550 ม. ส่วนการเดินทางของถนนแบริ่ง (สุขุมวิท 107) และลาซาล (สุขุมวิท 105) ทั้งสองเส้นนี้ยังเป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์อีกด้วย ก็อยู่ที่ว่าจะเดินทางไปยังโซนไหน แต่ตรงแยกบางนาจะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนมากกว่า จะอยู่ตรงช่วงสี่แยกบางนาครับ จึงส่งผลให้การเดินทางเข้าหรือออกเมืองค่อนข้างสะดวกถ้าไม่นับเรื่องการจราจรติดขัดในบางช่วงเวลา

การเดินทางโดยรถสาธารณะในซอยแบริ่ง 1 มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ หรือออกมาตรงปากซอยแบริ่ง 1 ก็มีครับ ถ้าออกมาตรงแบริ่งก็จะมีรถสองแถววิ่งตั้งแต่ต้นไปถึงปลายซอยเลย Taxi ต้องออกมาเรียกตรงปากซอยแบริ่ง 1 แต่ถ้าจะนั่งรถเมล์ต้องออกมาเส้นสุขุมวิทมีวิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมืองเลย ป้ายจะอยู่ตรงช่วง BTS แบริ่ง ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนการเดินทางโดย BTS จากโครงการถึงทางขึ้นสถานีประมาณ 900 ม. ระยะนี้เหงื่อตกแน่นอนครับต้องพึ่งพี่วินจะสะดวกกว่าครับ

การเดินทางวันนี้เริ่มจากสี่แยกบางนามุ่งหน้าสมุทรปราการ ผ่าน BTS บางนา และ BTS แบริ่ง และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่งหรือสุขุมวิท 107 เข้าไปประมาณ 550 ม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่ง 1 สังเกตที่มี 7-11 หน้าปากซอย เข้าไปประมาณ 100 ม. จะเจอสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่ง 1 แยก 1 อีกที ตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยนี้ครับ

เริ่มจากสี่แยกบางนามุ่งหน้าไปสมุทรปราการ

ข้ามแยกมาซ้ายมือจะเป็นไบเทคบางนา ขวามือเป็น The Coast Village เป็นคอมมูนิตี้มอลล์

จากนั้นจะเจอสถานีรถไฟฟ้าบางนาครับ

ตรงมาซักพักก็จะเจอสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ขวามือเป็นซอยลาซาล

เลยมาจะเจอ ร.รนานาชาติเซนต์ แอนดรูวส์ ซ้ายมือ

เส้นนี้มีทั้งรถสองแถว และรถเมล์วิ่งผ่านไปมาหลายสายครับ

ผ่านสถานี BTS แบริ่งมาประมาณ 200 ม. ก็จะเจอแยก ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าซอยแบริ่ง หรือสุขุมวิท 107

จากปากซอยแบริ่งเข้าไปอีกประมาณ 550 ม. จะเจอซอยแบริ่ง 1 ซ้ายมือสังเกตมี 7-11 อยู่ปากซอย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปประมาณ 100 ม. จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่ง 1 แยก 1 ก็จะถึงพื้นที่โครงการครับ

ปากซอยแบริ่งมี 7-11 และมีของขายทั้งของกิน และของใช้ครับ

เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นซอยแบริ่ง ถนนขนาด 4 เลน ฝั่งขวาจะมีร้านขายของตั้งแต่ต้นซอย ฝั่งขวามีอาคารเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ เปิดให้ร้านค้ามาเช่า

ติดกันจะเจอประตูทางเข้าอีกทางของ ร.ร.นานาชาติเซนต์ แอนดรูวส์ ซ้ายมือ

จากนั้นจะเห็นโครงการ Knightsbridge แบริ่ง และ The Gallery เป็นโครงการ High Rise 2โครงการแรกในซอยนี้เลย

เลยมาอีกหน่อยจะเริ่มเห็นป้ายโครงการบอกทางติดตามเสาไฟ

จากนั้นจะเห็นหมู่บ้าน Fantasia Villa 2 ขวามือ เป็นบ้านออกแนวสไตล์อังกฤษ ด้านหน้าจะเป็นร้านค้าครับ

ฝั่งตรงข้าม Fantasia Villa 2 จะเป็นซอยแบริ่ง 1 ซึ่งเป็นทางเข้าโครงการ มี 7-11 อยู่ปากซอยเลย

ด้านหน้าหมู่บ้าน Fantasia Villa 2 จะมีร้านค้า ร้านนวดแผนไทย

กลับมาที่ปากซอยแบริ่ง 1 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลย

ภายในซอยแบริ่ง 1 จะเป็นถนนขนาด 2 เลน รถวิ่งสวนกันพอดี ซ้ายมือเป็น 7-11 มีพื้นที่จอดรถได้ ขวามือมีป้ายโครงการบอกทางอยู่

ผ่านเข้ามาจะเจอต้นไม้ใหญ่ มีร้านส้มตำไก่ย่างอยู่ครับ

เดินเข้ามาอีก ซ้ายมือจะเห็นว่าเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะเป็นโครงการอะไรครับแต่พื้นที่ใหญ่พอสมควรเลย ขวามือก็จะเห็นเป็นโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆในซอย

มองไปทางขวาตึกสีเทาๆ 2 ตึกที่เห็นเป็นโครงการ The Knight 1 และ The Knight 2 ถัดไปเป็น Cassia ด้านหลังสุดเป็น Notting Hill

เดินเข้ามานิดเดียวก็จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่ง 1 แยก 1 ครับ ถ้าตรงไปจะไปทะลุออกซอยลาซาลได้

ภายในซอยมองเข้าไปก็จะเห็นโครงการแล้วครับ ซ้ายมือเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ ขวามือเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ตรงเข้ามาก็จะถึงพื้นที่โครงการแบ่งเป็นซ้ายอาคาร A และขวาเป็นอาคาร B ขวามือจะเห็นว่าติดกับบ้านพัก 2 ชั้น

เดินเข้ามาจะเจอทางเข้า Lobby B ก่อนทางขวามือ

จากนั้นก็จะเจอทางเข้าที่จอดรถทั้งสองอาคาร ถนนซอยนี้เป็นของสาธารณะครับ

เดินเลยเข้ามาสังเกตขวามือจะสิ้นสุดพื้นที่อาคาร B ที่เสาไฟ จากนั้นจะเป็นพื้นที่ของบ้านพักอาศัยครับ ส่วนซ้ายมือเป็นอาคาร A จะเลยเข้าไปอีกหน่อย

เดี๋ยวผมจะพาออกไปฝั่งซอยลาซาลครับ เริ่มจากตรงแยกก่อนเข้าซอยแบริ่ง 1 แยก 1 ผ่านซอยไปตรงไปสุดซอยเลี้ยวขวา ตรงไปสุดเลี้ยวซ้ายซึ่งเป็นซอยลาซาล 12 แล้ว จากนั้นก็ตรงอย่างเดียวจนไปถึง ถนนลาซาล หรือสุขุมวิท 105 เลี้ยวซ้ายตรงไปจนถึงถนนสุขุมวิทครับ

กลับออกมาเริ่มกันตรงสี่แยก ซ้ายมือคือซอยแบริ่ง 1 แยก 1 เดี๋ยวผมจะพาไปออกซอยลาซาลครับ

ขับตรงมาสุดซอยให้เลี้ยวขวา ตามลูกศรร

เลี้ยวขวามาจะเห็นแบบนี้ครับ ตอนนี่เราอยู่ซอยลาซาล 12 แล้วครับ  ตรงไปสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้ายข้างหน้า

เลี้ยวซ้ายมาจะเห็นศาลซ้ายมือ มีพื้นที่ว่างเปล่าสลับกับบ้านพักอาศัย

ในซอยนี้จะมีมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไปมาตลอด เรียกใช้บริการได้เลย

ขับตรงมาอีกเกือบจะต้นซอยจะเริ่มเห็นหอพัก และบ้านพักอาศัยครับ

ช่วงต้นซอยลาซาล 12 จะมีร้านอาหารตามสั่ง และโรงเรียนสอนภาษาครับ ข้างหน้าจะเป็นปากซอยแล้วจะมองเห็นตึกแถว

ถึงแล้วครับปากซอยลาซาล 12 ถ้าเลี้ยวขวาสามารถไปออกถนนศรีนครินทร์ได้ แต่ผมจะพาเลี้ยวซ้ายไปออกสุขุมวิทนะครับ สังเกตซ้ายมือจะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว จากโครงการมาถึงปากซอยนี้ประมาณ 550 ม.

เลี้ยวซ้ายมาก็จะเป็นซอยลาซาล หรือสุขุมวิท 105 ครับ ซ้ายมือจะเห็นร้านค้าเรียงรายอยู่ และมี FamilyMart ข้างหน้าขวามือมี 7-11 ขวามือครับ

ตรงข้ามกับ 7-11 จะเป็นตลาดสด ช่วงเย็นค่อนข้างคึกคักดี จากโครงการประมาณ 650 ม.

ผ่านมาจะเจอร้านขายยา สองฝั่งทางจะเป็นตึกแถว และบ้านทาวน์เฮ้าส์

ช่วงต้นซอยร้านค้าจะเริ่มบางตาลงครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ

จากนั้นจะเจอสำนักงานขายโครงการ Excel ขวามือ ติดกันจะเจอ Center Point Entertainment มาดูรายการสด The Voice Thailand ได้ที่นี่ครับ

ผ่านมาก็จะเจอ 7-11 ขวามืออยู่ปากซอยลาซาลเลย มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงนี้ด้วย ข้างหน้าก็จะเป็นถนนสุขุมวิท มองเห็นรถไฟฟ้า BTS แล้ว

ถึงแล้วครับปากซอยลาซาล เลี้ยวซ้ายไปสำโรง และ BTS แบริ่ง เดินไปนิดเดียว ส่วนเลี้ยวขวาก็จะไปสี่แยกบางนาครับ

ตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านอยู่อาศัย สลับกับมีพื้นที่ว่างเปล่าให้เห็นบ้างพอสมควร ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ช่วงปากซอยแบริ่ง และปากซอยลาซาลเป็นส่วนใหญ่มีทั้งร้านขายของกินของใช้ให้เลือกพอสมควรครับ แถวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านริมข้างทางออกแนวย่านชุมชน บริเวณรอบๆ BTS แบริ่ง มี APT แบริ่งมอลล์ มีของกินของใช้ขาย แต่ร้านที่เปิดขายอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้เยอะมาก ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นอาคารพาณิชย์มีร้านอาหาร 3-4 ร้าน ที่เหลือก็มีพวกร้านอะไหล่ประดับยนต์ ปากซอยแบริ่ง 1 มี 7-11 ห่างจากโครงการประมาณ 170 ม. เดินออกมาได้สบายๆ หรือข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ตรงหน้าหมู่บ้าน Fantasia Villa 2 ก็มีร้านค้าเช่นกัน ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆต้องไปแถวสำโรงมีห้างอิมพิเรียลเวิลด์สำโรง ระยะจากโครงการประมาณ 1.8 กม. หรือไปแถวถนนบางนาตราดมีเซ็นทรัล และ Big C นอกจากนี้ตรงใกล้ๆสี่แยกบางนามีคอมมูนิตี้มอลล์ตรงคอนโด The Coast Bangkok ที่สามารถเดินจากสถานีบางนาไปประมาณ 250 ม. ส่วนในอนาคตตรงแยกบางนา จะมีโครงการบางกอกมอลล์ ซึ่งเป็น Shopping Center ขนาดใหญ่แต่คงต้องรออีกสักพักครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• 7-11 : 17o ม.
• The Coast Bangkok : 2.2 กม.
• โรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรูว์ส : 700 ม.
• BTS สถานีแบริ่ง : 900 ม.
• APT แบริ่งมอลล์ : 1 กม.
• อิมพิเรียลเวิลด์สำโรง : 1.8 กม.
• บางกอกมออล์ : 2.6 กม. (โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนา)
• เซ็นทรัลบางนา : 5.5 กม.
• Big C บางนา : 5.5 กม.
• Ikea : 13 กม.
• เมกา บางนา : 13 กม.

โครงการ

เริ่มจากตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ซ้ายมือคืออาคาร A ขวามือคืออาคาร B หน้าตาภายนอกอาคารจะคล้ายๆกันครับ โดยทางเข้า-ออกทั้ง 2 อาคารอยู่ติดกับซอยแบริ่ง 1 แยก 1 เราจะไปดูอาคาร A กันก่อน

ภายนอกอาคาร A  รูปทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา สูง 8 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจะร่นระยะอาคารเข้าไปตามกฎหมาย

ซ้ายมือเป็นประตูทางเข้า Lobby ขวามือเป็นทางเข้าที่จอดรถ

เข้ามาดูที่จอดรถ ทางเข้าจะมีป้อมยามตรวจดูตลอด 24 ชม.

ผ่านเข้ามาก็จะเป็นพื้นที่จอดรถแยกซ้าย ขวา อาคาร A นับช่องจอดได้ 19 คัน

มองกลับไปยัง Lobby จะเห็นประตูทางเข้าอีกทาง (ขวามือ)

ออกมาด้านหน้าทางเข้า Lobby อาคาร A เป็นประดูบานกระจก 2 บาน

เปิดเข้ามาก็จะเจอส่วนของ Lobby ซ้ายและขวา ตรงหน้าเป็นประตูเข้าไปยังโถงลิฟท์

มองไปขวามือจะเห็นชุดโซฟาขวามือ ฝั่งซ้ายตอนนี้เป็นสำนักงานขายครับ

มองไปฝั่งตรงข้ามมีโซฟายาวเช่นกัน พร้อมโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งขวามือ

เดินเข้าไปดูโถงลิฟท์กันต่อครับ ต้องใช้ Key Card ในการเข้าออก

เดินเข้ามาจะเจอกับลิฟท์ 1 ตัว อัตราส่วน 78 : 1 ถ้าลูกบ้านเข้ามาอยู่ครบอาจจะต้องรอนานในช่วงเวลาเร่งด่วนครับ ขวามือเป็น Mail Box ของอาคาร A

มองไปฝั่งที่จอดรถจะเห็นประตูทางเข้า-ออกจากที่จอดรถ

เดี๋ยวเราขึ้นลิฟท์ไปดูส่วนกลางชั้นบนสุดกันครับ ปุ่มกดลิฟท์เป็นแบบสัมผัส

แผงลิฟท์ด้านในก็เป็นแบบสัมผัสครับ

เราขึ้นมาที่ชั้น 8 จะเห็นโถงทางเดินแบบนี้ พื้นทางเดินทุกชั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

ยืนตรงมุมเลี้ยวแล้วถ่ายย้อนกลับให้ดูครับ ขวามือที่เห็นเป็นประตูเข้าส่วนพักอาศัยชั้น 8 ต้องใช้ Key Card นะครับ

ประตูทางออกไปยังส่วนกลางอยู่ทางขวามือ ก่อนประตูเข้าส่วนพักอาศัย

เดินออกมาจะเจอโถงเพื่อแยกซ้ายไปยังสระว่ายน้ำ ส่วนขวาเป็นห้องฟิตเนส

ห้องฟิตเนสมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน

เดินเข้ามาในห้องจะเห็นเครื่องออกกำลังกายวายอยู่ 4 เครื่อง มีชุดดัมเบล ลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน ผนังโดยรอบเป็นกระจกมองวิวออกด้านนอก

ออกจากห้องฟิตเนสมาจะเห็นบันไดทางขึ้นไปยังสระว่ายน้ำ และสวน ติดกับบันไดมีจากุซซี่ให้นั่งแช่

ตรงส่วนจากุซซี่นั่งได้ประมาณ 2-3 คัน มีผนังเป็นกระจกด้านขวากั้นไว้เพื่อความปลอดภัยแต่ก็ไม่บดบังวิว

เดินขึ้นบันไดต่อจะเห็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 14 x 3.5 ม. ลึก 1.2 สระนี้เหมาะจะแช่น้ำชิวๆมากกว่าออกกำลังกาย วิวมองไปยังอาคาร B และถนนสุขุมวิท ซ้ายมือมีทางเดินไปยังสวนหย่อม และลานบาร์บีคิว

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ ตอนนี้อยู่บนชั้นดาดฟ้าแล้ว

วิวจากสระมองไปยังอาคาร B เห็นเพื่อนบ้าน ซ้ายมือบางส่วนจะเป็นบ้านพักอาศัย เนื่องจากทั้งสองอาคารไม่ได้ขนาดกันพอดีจะเยื้องๆกันหน่อย

ถ่ายอาคาร B แบบเต็มๆให้ดูครับ ชั้นบนมีส่วนกลางให้เหมือนกัน

กลับมาที่อาคาร A วิวจากสระมองไปยังถนนสุขมวิทหรือแนวรถไฟฟ้า ขวามือเป็นบ้านพักอาศัย ใครอยากชมวิวโล่งๆก็ไปยืนชิวๆตรงปลายสระครับ ซ้ายมือมีทางเดิน พร้อมต้นไม้

เดินมาจนสุดก็จะเห็นสวนหย่อมเล็กๆ มีไม้ใหญ่และไม้พุ่ม ส่วนพื้นจะปูหญ้าบางส่วน มุมขวามือสุดเป็นเคาน์เตอร์จัดให้เป็นส่วนลานบาร์บีคิว

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ มีไม้พุ่มปลูกเป็นแนวขวามือ ช่วงเที่ยงบนนี้ก็จะร้อนหน่อย ใช้งานช่วงเช้าๆก่อนทำงาน และช่วงเย็นหลังกลับจากที่ทำงานจะได้ไม่ร้อนครับ

วิวทิศเหนือจากอาคาร A จะติดกับพื้นที่ว่างเปล่า พื้นที่ใหญ่พอสมควรยังไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรคงต้องรอดูกันต่อไปครับ ซ้ายมือถัดจะซอยแบริ่ง 1 แยก 1 เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งอยู่ติดกับอาคาร B ครับ วิวถัดออกไปก็จะเห็นคอนโดในซอยแบริ่ง 1

วิวทิศตะวันตก หรือด้านหน้าอาคาร A ส่วนหน้าจะโดนอาคาร B บัง และส่วนด้านในจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

วิวทิศตะวันตกส่วนที่ไม่โดนอาคาร B บังจะมองวิวได้ไกลกว่าครับ ฝั่งนี้มองไปยังถนนบางนา-ตราด

วิวทิศตะวันออกวิวมองไปยังถนนสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง ขวามืออาคารสีเทาเข้มๆคือ Knightsbridge แบ่ริ่งของ ออริจิน ติดกันอาคารสีแดงอิฐคือ The Gallery

ลงมาที่หน้าอาคาร B กันต่อครับ มีที่จอดรถกลางแจ้งด้านหน้าอาคารให้

ทางเข้าที่จอดรถจะเป็นเหมือนอุโมงค์

ป้อมยามอยู่ซ้ายมือ

ผ่านเข้ามาก็จะแบ่งซ้ายขวาเป็นที่จอดรถทั้งหมด นับได้ 22 คัน

มองไปอีกฝั่ง มีทางเข้า Lobby อาคาร B จากที่จอดรถ อยู่ขวามือครับ

ด้านหน้าทางเข้า Lobby อาคาร B ขวามือมีมุมนั่งเล่น

มีชุดโต๊ะให้นั่ง 2 ชุด ฝั่งอาคาร A ก็มีนะครับ

เดินเข้ามาใน Lobby จะเห็นเป็นโถงแบบนี้ มีโซฟา และโต๊ะนั่ง

ด้านในที่เห็นเป็นกระจกคือทางเข้าไปยังโถงลิฟท์ครับ

เปิดประตูเข้ามาขวามือเจอ Mail Box ก่อนเลย ในสุดจะเห็นประตูทางเข้า-ออกจากที่จอดรถ

เดินเข้ามาซ้ายมือก็จะเห็นลิฟท์โดยสาร 1 ตัว  ส่วนประตูที่เห็นตรงหน้าเลยคือบันไดหนีไฟ

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 8 ออกมาหน้าลิฟท์ ขวามือเป็นประตูทางเข้าส่วนพักอาศัย ติดกับประคูซ้ายมือมีทางเดินไปส่วนกลางครับ

เดินเข้ามาจะเห็นห้องฟิตเนสตรงหน้า และทางออกไปยังสระว่ายน้ำ(ขวามือ)

ภายในห้องฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายมา 4 เครื่อง มีชุดดัมเบล ลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน วิวมองไปยังอาคาร A

มุมด้านในห้องฟิตเนส

เดินออกไปยังทางขึ้นสระว่ายน้ำกันต่อ

เดินขึ้นมาจะต่างจากอาคาร A ที่มีจากุซซี่ให้ อาคาร B โรยหินมาแทน

เดินขึ้นมาก็เจอสระว่ายน้ำเลยซ้ายมือ วิวมองไปยังอาคาร A และฝั่งถนนสุขุมวิท สวนขวามือจะเป็นสวนหย่อม

ขนาดสระว่ายน้ำอาคาร B 15 x 4 ม. ใหญ่กว่าอาคาร A หน่อย

ถ่ายมุมตรงให้ดูครับ ปลายสระอีกฝั่งเป็นจากุซซี่

ส่วนของจากุซซี่ครับขนาดเท่าอาคาร A แต่วิวฟินกว่าครับมองไปยังถนนสุขุมวิทหรือแนวรถไฟฟ้า

มองย้อนกลับไปจะเห็นแบบนี้

มองไปยังอาคาร A จะเห็นว่า แนวอาคารไม่ได้ขนาดกันครับ

เดินเข้าไปดูสวนหย่อมกันต่อ มีต้นไม้ใหญ่พื้นปูหญ้า พร้อมที่นั่งพักผ่อน

อีกฝั่งทำเป็นซุ้มสี่เหลี่ยมลักษณะเหมือนทางเข้าที่จอดรถเลย

มีโซฟามาให้ด้วย Daybed วางบนสนามหญ้าไว้อาบแดด มีแนวพุ่มไม้บังสายตารอบๆ

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ ดูแล้วพื้นที่ส่วนกลางจะกว้างกว่าอาคาร A ครับ

วิวทิศเหนือจะเหมือนอาคาร A เลยแต่พื้นที่จะติดกับบ้านพัก 2 ชั้น ขวามือเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

วิวทิศตะวันออกจะเห็นอาคาร A ส่วนใหญ่ครับ

วิวทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอาศัยเป็นส่วนไหญ่ ไกลออกไปมองเห็นหอพักและตึกแถวครับ

วิวทิศใต้เหมือนกันทั้งอาคาร A, B วิวมองไปยังถนนสุขุมวิทหรือแนวรถไฟฟ้า ยังมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ ค่อนข้างโล่งยังไม่มีตึกสูงบัง

มองไปยังถนนแบริ่ง จะเห็น Knightsbridge แบ่ริ่ง และ The Gallery

พื้นที่โครงการส่วนใหญ่จะล้อมรอบไปด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบครับ โดยอาคาร A, B จะตั้งเยื้องๆกันหน่อยไม่ได้ขนาดกัน ห้องที่มองเห็นกันเป็นห้องบางส่วนครับ โดยทิศเหนือ และทิศใต้ติดกับบ้าน 2 ชั้น และพื้นที่ว่างเปล่า ระยะประชิดไม่มีตึกสูง ทิศตะวันออกอาคาร A ติดกับพื้นที่ว่างเปล่าตอนนี้ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ส่วนอาคาร B จะมองเห็นอาคาร A เป็นส่วนใหญ่วิวมองไปทางสำโรง และทิศตะวันตกอาคาร A จะมองเห็นอาคาร B เป็นส่วนใหญ่ ส่วนอาคาร B ติดกับบ้านพักอาศัยวิวมองไปทางถนนบางนา-ตราด

ห้องตัวอย่าง

แบบห้องโครงการนี้มีตั้งแต่ Studio , 1Bedroom , 2 Bedroom แต่ละขนาดก็มีแยกย่อยออกไปตามรูปแบบของอาคาร ห้องขายแบบ Fully Furnished คือหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยครับ ห้องที่จะพามาชมวันนี้เป็น แบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ครับ

Type 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ติดกันมีพื้นที่วางโต๊ะกินข้าว ถัดไปเป็นห้องครัวได้เป็นครัวปิดมีประตูกระจกบานเลื่อนให้ 2 บาน ส่วนครัวในแปลนจะเห็นว่าประตูเปิดได้แต่ของจริงเป็นบาน Fixed ครับ ห้องนอนอยู่ถัดเข้ามาอีกมีประตูกระจกบานเลื่อนอีก 2 บาน ตู้เสื้อผ้าวางมุมขวาด้านใน ด้านซ้ายเป็นระเบียงห้อง ตรงข้ามกับห้องนอนเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียกมาให้

เริ่มจากประตูหน้าห้องเป็น HDF ปิดผิวเมลามีน

มือจับเป็นแบบคันโยก ได้ Digital Door Lock ของ Samsung

เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ด้านในเป็นห้องครัว และห้องนอน พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.4 ม. ผนังได้เป็นฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง ไฟในห้องจะเป็นดาวน์ไลท์ทั้งหมด เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้แถมให้นะครับ

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้

ได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง

ติดกันวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง

ระยะดูทีวีประมาณ 2.65 ม. ได้ชั้นวางทีวีตามนี้เลย แอร์ Daikin 1 ตัวติดผนังด้านบน

ชั้นวางทีวีมีตู้บานเปิด 2 บาน

ตู้เก็บของอยู่ติดกับประตูทางเข้า

เป็นบานเปิด 3 บานแบ่งช่องมาให้ เก็บของได้พอประมาณ

ถัดไปจะเป็นห้องครัวซ้ายมือได้เป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนให้ ขวามือเป็นห้องนอนมีประตูบานเลื่อนให้เช่นกัน ประตูบานเลื่อนทั้งหมดกรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำ

ภายในห้องครัวได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว มีพื้นที่วางตู้เย็น และเครื่องซักผ้า

ชุดตู้ด้นบนเป็นบานเปิดทั้งหมด

ตู้ใต้ Sink ล้างจานเป็นบานเปิดเช่นกัน

ได้ลิ้นชัก 2 อัน ใต้เตาไฟฟ้า ขวามือเป็นบานเปิด 1 บาน

Sink ล้างจานแบบหลุมเดียว พร้อมที่พักจานของ Teka

เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Teka

ด้านในสุดมีช่องแสงเป็นกระจกบาน Fixed

มองออกไปเห็นระเบียงห้อง

มองกลับเข้าไปด้านในจะเห็นที่วางตู้เย็นขวามือ

ออกจากห้องครัวมา จะเห็นพื้นที่วางโต๊ะทำงานมาให้ทั้งด้านบน และด้านล่าง ซ้ายมือคือห้องนอน ขวามือเป็นห้องน้ำ

ประตูห้องน้ำเป็น HDF ทาสีขาว

มือจับประตูเป็นลูกบิด

เปิดเข้ามาเจออ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกเงา

ชุดอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ของ Cotto ผนังทำ Low Wall มาให้วางของได้

ตู้ใต้อ่างล้างหน้าเป็นลิ้นชักแบบนี้

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน 3 ตอน

ได้ชุดฝักบัว และที่วางสบู่

หน้าตาฝักบัวของ Cotto ที่ได้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.1 x 0.75 ม.

ธรณีประตูสูงประมาณ 5 ซม.

ออกจากห้องน้ำ ก็จะเห็นห้องนอน ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต วางชิดประตู

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 70 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 50 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.65 ม. แอร์ Daikin ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว

มีประตูกระจกบานเลื่อนตรงระเบียง ขวามือวางตู้เสื้อผ้ามาให้

ตู้เป็นบานเปิด 2 บาน แบ่งช่องแขวน และช่องเก็บเสื้อผ้ามาให้

พื้นที่ระเบียงขนาด 1.45 x 0.69 ม. มีก๊อกน้ำมาให้ด้วย

คอมเพลสเซอร์แอร์แขวน 2 ตัว เป่าลมเข้าด้านใน แนะนำให้ติดกริลเป่าออกด้านนอกครับ ไฟตรงระเบียงได้เป็นแบบโคมซาลาเปา

ชุดปลั๊กไฟ และสวิตซ์ไฟของ Schneider ทั้งหมด

Type 2 Bedroom ขนาด 43.50 ตร.ม. เดินเข้ามาเจอส่วนครัวก่อนห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด เชื่อมกับห้องนั่งเล่น ในสุดจะเป็นระเบียงห้องครับ ถัดมาเป็นห้องน้ำรวมอยู่ฝั่งเดียวกับห้องนอนเล็ก ส่วน Master Bedroom อยู่ฝั่งด้านในมีห้องน้ำในตัว พิเศษกว่าคือจะได้อ่างอาบน้ำมาด้วยครับ ทั้งสองห้องนอนมีหน้าต่างในห้องเลยช่วยให้แสงส่องเข้ามาได้

เปิดประตูเข้าห้องมาเจอส่วนครัว และส่วนรับประทานอาหารก่อน ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ขวามือเป็นทางเข้าห้องนอน และห้องน้ำ

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้องจะเห็นแบบนี้

ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 3 ที่นั่ง ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ

ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวหน้าตาเหมือนห้อง 1 Bedroom

ชุดตู้ด้านบนเป็นบานเปิดทั้งหมด

ชุดตู้ด้านล่าง พร้อม Sink ล้างจานและเตาไฟฟ้าของ Teka

ติดกันเป็นตู้ที่เปิดออกมาเป็นพื้นที่วางของหรือโต๊ะทำงานได้

ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ในสุดเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน ขวามือเป็นทางเดินเข้าห้องนอน

ได้โซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาาง

ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 ม. แอร์ Daikin ติดผนังด้านบน 1 ตัว

ชั้นวางทีวีเป็นตู้บานเปิด 1 บาน

ออกไปตรงระเบียงต่อ ระเบียงขนาด 2.2 x 0.87 ม.

มีก๊อกน้ำมาให้

ด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์มา 2 ตัว

คอมเพลสเซอร์แอร์อีกตัวแขวนไว้ด้านบนเป่าลมออกด้านนอก

กลับเข้ามาด้านในถัดจากห้องนั่งเล่นมีทางเดินไปห้องนอน Master Bedroom ซ้ายมือ ตรงหน้าเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำครับ

บานประตูห้องน้ำเป็นสีขาว

เข้ามาในห้องจะเจอชุดอ่างล้างหน้า และพื้นที่ส่วนเปียกด้านใน

ชุดอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์เหมือนห้องแรกของ Cotto

ได้ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อน 3 ตอน

ชุดฝักบัวของ Cotto พร้อมที่วางสบู่

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.2 x 0.72 ม.

ธรณีประตูสูงประมาณ 5 ซม.

เดินเข้ามาด้านในซ้ายมือเป็น Master Bedroom ส่วนห้องที่ปิดประตูอยู่คือห้องนอนเล็ก

ภายในห้อง Master Bedroom มีหน้าต่างและห้องน้ำในตัว

ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 65 ซม. พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 15 ซม. ไว้ให้ผ้าม่านลงไปได้ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 65 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.9 ม. ได้ชั้นวางทีวี และแอร์ Daikin 1 ตัว

ตู้ชั้นวางทีวีเป็นบานเปิด 2 บาน

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน และที่เหลือเป็นบาน Fixed

หน้าต่างบานกระทุ้งเปิดได้ประมาณ 45 องศา

ตู้เสื้อผ้าวางริมเตียงด้านใน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งข้างตู้

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 2 บาน

ฝั่งด้านในมีห้องน้ำมาให้ด้วย

เปิดเข้ามาเจอชุดอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ของ Cotto

พื้นที่ด้านในเป็นอ่างอาบน้ำ พร้อมฉากกั้นส่วนซ้าย

หน้าตาฝักบัว พร้อมก๊อกน้ำแบบน้ำร้อน น้ำเย็น

มาดูห้องนอนเล็กกันต่อ เปิดเข้ามาจะเห็นแบบนี้ มีหน้าต่างให้เช่นกัน

ห้องนี้ได้เตียงเดี่ยว

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.1 ม.

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 40 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.1 ม. แอร์ Daikin 1 ตัวติดปลายเตียง

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้าด้านใน และมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานได้

ตู้เป็นบานเปิด 2 บาน มีลิ้นชักด้านใน

ราคา

• Type Bs ขนาด 26.51 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท
• Type B ขนาด 26.96 ตร.ม. ราคา 2.19 ล้านบาท
• Type 2B Corner ขนาด 44.3 ตร.ม. ราคา 3.39 ล้านบาท

จอง 5,000 ทำสัญญา 35,000

ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 380 บาท/ตร.ม

***จองและทำสัญญา รับ Iphone 6s

***รายละเอียดโปรโมชั่นอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Pause สุขุมวิท 107 อยู่บในทำเลย่านที่อยู่อาศัย และใยช่วงไม่มีปีที่ผ่านมาก็มีโครงการต่างๆเกิดขึ้นมาให้เห็นเรื่อยๆรวมถึง Pause เอง โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยของซอยอีกทีแต่ก็ไม่ได้เข้าไปลึกมากไม่ถึง 200 ม. พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม และพื้นที่ว่างเปล่า ในซอยโครงการไม่ค่อยพลุกพล่านเพราะเป็ฯซอยตัน ถ้าไม่ได้อยู่ในซอยนั้นก็ไม่มีใครผ่านเข้าไปครับ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะเดินได้ปากซอยแบริ่ง 1 มี 7-11 ห่างจากโครงการประมาณ 170 ม. ฝั่งตรงข้ามก็มีร้านค้า ร้านขายยา ร้านนวดตรงหน้าหมู่บ้าน Fantasia Villa 2 หรือเดินไปปากซอยแบริ่งก็จะมีร้านค้ามากมาย มีทั้งของกินของใช้ ตรงข้างๆ BTS แบริ่ง ก็มีตลาดให้เดินได้ หรือจะไปฝั่งซอยลาซาลก็ได้ครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมี อิมพิเรียลสำโรง, Big C สำโรง หรือตรงเส้นบางนาตราดมี เซ็นทรัลบางนา Big C เลยไปอีกมีอิเกีย และเมกา บางนา ส่วนอนาคตตรงสี่แยกบางนาจะมี The Bangkok Mall อีกที่ครับแต่ต้องรออีกหน่อย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ในซอย แต่ก็เป็นซอยที่เข้าออกได้หลายทาง โดยซอยแบริ่ง 1 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างแบริ่งกับลาซาล ถ้าไปออกลาซาลจะตรงกับปากซอยลาซาล 12 นอกจากนี้ถนนแบริ่ง และลาซาลเองก็เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท และศรีนครินทร์ครับ การเดินทางเข้า และออกเมืองก็ทำได้สะดวกดีมีเส้นทางในการเดินทางให้เลือกหลายทางพอสมควร ส่วนทางด่วนใกล้ๆจะอยู่ตรงสี่แยกบางนาครับ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –ในซอยมีวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไปมาตลอด เรียกได้ในซอยเลยครับ ถ้าออกมาปากซอยแบริ่ง 1 ก็มีรถสองแถววิ่งตั้งแต่ต้นซอยยันปลายซอย ถึงถนนศรีนครินทร์เลยครับ ส่วนถ้าจะใช้บริการรถเมล์คงต้องออกมาที่ถนนสุขุมวิทมีรถเมล์และสองแถววิ่งผ่านหลายสาย ป้ายรถเมล์อยู่ช่วงใต้สถานี BTS แบริ่ง ส่วน BTS แบริ่งห่างจากโครงการประมาณ 900 ม. ถ้าเดินก็เหนื่ยหน่อยครับเหมาะจะเดินกลับจากที่ทำงานช่วงเย็นๆครับจะได้ไม่ร้อน

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวอาคารออกแบบมาเป็นทรงตัว I ทั้งสองอาคาร หน้าตาภายนอกเหลี่ยมๆ ใช้โทนสีขาวและตัดด้วยสีเทา โดยด้านหน้าทั้งสองอาคารจะติดกับซอยแบริ่ง 1 แยก 1 จอดรถได้ที่ชั้น 1 ส่วนกลางจะแยกอาคารกันจัดเอาไว้อยู่ชั้นบนสุด รูปแบบห้องพักมีให้เลือกแบบ Studio , 1 Bedroom , 2 Bedroom และมีขนาดแต่งต่างกันออกไป ภายในห้องมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ พื้นห้องได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. พื้นห้องครัวของ 1 Bedroom เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ประตูห้องได้ Digital Boorlock ของ Samsung ฝ้าสูง 2.4 ม. ผนังได้เป็นฉาบเรียบทาสีทั้งหมด ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดตั้งแต่ชุดโซฟารับแขก ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า เตียงนอนและโต๊ะเครื่องแป้ง ชุดเคาน์เตอร์ครัว Hob & Hood และ Sink ล้างจานแบบหลุมเดียวมีที่พักจานให้ของ Teka  สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Cotto ได้ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อน 3 ตอน แอร์ในห้องนั่งเล่น และทุกห้องนอนของ Daikin

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility จะแยกกันและอยู่ที่ชั้น 8 และดาดฟ้าครับ ข้อดีเลยจะได้ความเป็นส่วนตัว และได้วิวที่ดีกว่าไว้ชั้นล่างครับ ที่ชั้น 1 ทั้งสองอาคารมี Lobby ให้ ส่วนที่ชั้น 8 ทั้งสองอาคาร มีห้องฟิตเนส เดินขึ้นไปที่ดาดฟ้ามีสระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมจากุซซี่ โดยที่อาคาร A ขนาด 3.5 x 14 ม. ส่วนที่อาคาร B ขนาด 4 x 15 ม. และมีสวนหย่อมลอยฟ้ามีที่นั่งพักผ่อน พร้อมลานบาร์บีคิวมาให้ด้วย ที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคาร A และ B จอดได้ 41 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) ลิฟท์มีให้อาคารละ 1 ตัว มีรปภ. 24 ชั่วโมง เข้าออกอาคารด้วยระบบ Key Card

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Call Center : 02-399-4466

Website : http://www.origin.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

คอนโด เลสโต้ สุขุมวิท 113 Lesto Sukhumvit 113 คอนโดใหม่แต่งครบ ติดรถไฟฟ้า จาก บิลท์ แลนด์

Lesto Condo ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตคนเมือง ให้ทุกวินาทีของคุณเป็นวันพักผ่อน ภายใต้แนวคิดการออกแบบอาคาร และพื้นที่ใช้สอยให้สอดคล้องกับธรรมชาติ และการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสำโรงซึ่งเป็น Hub Station 3 สาย ในอนาคต ราคาเริ่มต้น 1.229 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 113 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1783 กด 3

WEBSITE : http://www.builtland.co.th/

EP.259 รีวิว คอนโด เดอะ สกาย สุขุมวิท THE SKY SUKHUMVIT

สวัสดีผู้อ่านชาวโฮมน่าอยู่ทุกท่านครับ วันนี้ผมมีรีวิวมาฝากกันอีกเช่นเคย โดนในฉบับนี้เป็นคิวของโครงการ The Sky สุขุมวิท ของ Property Perfect คอนโด High-Rise 5 อาคาร บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้แยกบางนาบนถนนสุขุมวิท ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข 350 เมตร ติดกับ Bangkok Mall โปรเจคห้างใหญ่ครบวงจรในอนาคตของเครือเดอะมอลล์ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งอาคารจอดรถแยกต่างหาก สระว่ายน้ำ จากุซซี่ ฟิตเนสและสวนหย่อม ในราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท 103/4 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง

The Sky สุขุมวิท ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทช่วงใกล้แยกบางนาและถนนอุดมสุข ห่างจาก BTS อุดมสุข 350 เมตร ซึ่งผมมีภาพประกอบการเดินทางในกรณีที่มาจากทางสุขุมวิทครับ

เริ่มต้นบนถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกที่มุ่งหน้าไปยังบางนา ที่สถานี BTS พระโขนง

ผ่านแยกสุขุมวิท-พระราม 4 ให้ตรงไป

การเดินทางนั้นจริงๆแล้วไม่ยุ่งยางเลยครับ ให้เราวิ่งตามรางรถไฟฟ้า BTS ที่อยู่ด้านบนไปนั่นเอง

ขึ้นสะพานข้ามคลองพระโขนง

ผ่านแยกอ่อนนุชให้ตรงไป

BTS อ่อนนุช

BTS บางจาก

BTS ปุณณวิถี

และสถานีสุดท้ายที่เราใช้เป็นจุดสังเกตคือสถานีอุดมสุข

แยกอุดมสุขอยู่บริเวณใต้สถานีอุดมสุข

เลยจากแยกอุดมสุขมาประมาณ 300 เมตรก็จะถึงตัวโครงการ THE SKY ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือครับ

แต่ก่อนที่จะเข้าไปด้านในเดี๋ยวผมจะพาไปเดินรอบๆโครงการเพื่อดูบรรยากาศแถวๆนั้นกันก่อน

บริเวณโครงการ

คลิก เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

สถานที่สำคัญ
– BTS อุดมสุข ระยะทาง 350 ม.
– โรงเรียนนานาชาติ แองโกลสิงคโปร์ ระยะทาง 1.2 กม.
– โรงเรียนนานาชาติ เบิร์คลีย์ บางนา ระยะทาง 1 กม.
– โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ระยะทาง 6.7 กม.
– โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 ระยะทาง 1.2 กม.
– โรงพยาบาลสุขุมวิท ระยะทาง 7 กม.
– โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ระยะทาง 3.8 กม.
– เทสโก้โลตัส สุขุมวิท 50 ระยะทาง 4.3 กม.
– Big C Extra อ่อนนุช ระยะทาง 5.4 กม.
– Gateway Ekamai (ดิจิตอล เกตเวย์) ระยะทาง 6.6 กม.
– ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ระยะทาง 8 กม.
– พาราไดซ์พาร์ค ศรีนครินทร์ ระยะทาง 7.2 กม.
– เซ็นทรัลบางนา ระยะทาง 3.3 กม.
– ไบเทคบางนา ระยะทาง 1.8 กม.

คลิก เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

คอนโดบริเวณใกล้เคียง
– คอนโด ดิ ยูนิค สุขุมวิท 62/1
– คอนโด ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64
– คอนโด ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64 สกายมูน
– คอนโด เซ็นทริค ซีน สุขุมวิท 64
– คอนโด เอลลิโอ เดล เรย์ สุขุมวิท 64-66
– คอนโด วิสซ์ดอม สุขุมวิท 64 – BTS ปุณณวิถี
– คอนโด เดอะรูม สุขุมวิท 64
– คอนโด ซาริ บาย แสนสิริ
– คอนโด แอท ซิตี้ สุขุมวิท 101/1
– คอนโด เอส แอนด์ เอส สุขุมวิท 101/1
– คอนโด ฮิว สุขุมวิท
– คอนโด เดอะรูม สุขุมวิท 62
– คอนโด เดอะ ไลท์ นิวยอร์ค
– คอนโด ไอดีโอ มิกซ์ สุขุมวิท 103
– คอนโด ซิตี้ โฮม สุขุมวิท
– คอนโด เดอะ สกาย สุขุมวิท
– คอนโด ไอดีโอ บลูโคฟ สุขุมวิท
– คอนโด เซ็นทริค ซีน สุขุมวิท 64

บริเวณทางเข้าโครงการ สำหรับที่จอดรถผู้มาติดต่อสำนักงานขายให้ใช้ประตูที่อยู่อีกด้านของอาคารสำนักงานขายครับ

ถนนสุขุมวิทหน้าโครงการ

ทางเข้าออกโครงการ

ฝั่งตรงข้ามโครงการมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น

เดี๋ยวผมจะลองเดินไปทางฝั่งสถานีรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข

ซอยสุขุมวิท 103/2 มี Family Mart หน้าปากซอย

สำหรับมอไซค์รับจ้างเราต้องมาใช้บริการที่วินนี้ครับ อยู่ห่างจากทางเข้าโครงการประมาณ 100 เมตร

อัตราค่าบริการมอไซค์รับจ้าง

บรรยากาศถนนสุขุมวิทช่วงปลายก่อนถึงบางนา

ฝั่งตรงข้ามมองเห็น ไอดีโอ บลูโคฟ สุขุมวิท

สุขุมวิท 103/1

เดินมาตามทางเจอ 7-11 สาขานี้ห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตร

ถึงแยกอุดมสุข

สำหรับรถไฟฟ้า BTS อุดมสุขเราต้องข้ามถนนเพื่อไปยังบันไดทางขึ้น ซึ่งผมขอมาส่งขึ้น BTS แค่จุดนี้นะครับ

กลับมาที่หน้าสำนักงานขายเพื่อเดินไปดูอีกด้านกัน

เดินผ่านสำนักงานขายไปทางฝั่งแยกบางนา

ทางเข้าที่จอดรถสำนักงานขาย

ขึ้นมาดูภาพมุมสูงจากสะพานลอย อาคารกระจกที่เราเห็นคืออาคารที่รอการรื้อถอนสำหรับโปรเจค Bangkok Mall

พื้นที่นี้ในอนาคตจะเปลี่ยนเป็น Bangkok Mall

จากจุดนี้สามารถมองเห็นตัวอาคาร The Sky

โมเดลอาคาร

ภาพมุมสูง แสดงให้เห็นพื้นที่บริเวณโครงการได้ชัดเจนขึ้น ทางทิศใต้ปัจจุบันเป็นที่โล่ง แต่ในอนาคตจะเป็นพื้นที่ของ Bangkok Mall โดยกำหนดการน่าจะเปิดใช้บริการประมาณปีพ.ศ. 2560-2561 รอบโครงการๆไม่มีอาคารสูงส่วนมากยังเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ ตัวอาคารอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ 300 เมตร และสถานี BTS ห่างจากทางเข้าโครงการอีกประมาณ 350 เมตร

Master Plan : พื้นที่อาคารทั้งหมด 9 – 3 – 66 ไร่ แบ่งออกเป็นอาคารพักอาศัย 5 อาคาร ได้แก่อาคาร A, B, C, D และ E มีอาคารจอดรถแยก 2 อาคารซึ่งด้านบนของอาคารจอดรถนั้นจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางคือมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสทั้ง 2 อาคาร

เรามาดูโมเดลอาคารกันครับ

Bangkok Mall ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมแยกบางนา

แยกบางนา

ด้านบนของ Bangkok Mall เป็นพื้นที่สวนสนุกและมีสวนน้ำอยู่ด้านหลังอาคาร

ภาพรวมๆด้านหลังอาคาร

ตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 300 เมตรโดยถนนดังกล่าวนั้นเป็นถนนส่วนบุคคลของโครงการเอง

ขยับเข้าดูในส่วนของตัวอาคาร

อาคาร A : 26 ชั้น
อาคาร B : 22 ชั้น
อาคาร C : 22 ชั้น
อาคาร D : 22 ชั้น
อาคาร E : 22 ชั้น

สำหรับอาคาร B C D E นั้นสูงเท่ากันที่ 22 ชั้น แตะจtเห็นว่าความสูงไม่เท่ากันเนื่องจากว่าอาคาร D และ E เป็นส่วนของยูนิตเพดานสูง Moff ครับจึงทำให้ตัวอาคารสูงกว่าเยอะพอสมควร

ด้านหลังอาคาร A ติดกับสวนน้ำของ Bangkok Mall

ระยะห่างระหว่าง The Sky และ Bangkok Mall โดยมีสวนน้ำกั้นไว้

อาคารจอดรถ 2 อาคาร อยู่ด้านในถูกโอบล้อมไว้ด้วยอาคารพักอาศัย ทั้ง 5 อาคาร สระว่ายน้ำและฟิตเนสแยกให้เป็น 2 ส่วนเพื่อกระจายความหนาแน่นครับ

อาคารจอดรถสูง 9 และ 11 ชั้น

สิ่งอำนวยความสะดวก

Lobby ของอาคาร D

สำหรับล็อบบี้ของแต่ละอาคารนั้นจะไม่เหมือนกันครับ

เพดานสูงโปร่งและดูหรูหรา

ถนนระหว่างอาคารจอดรถ 1 และ 2

เราจะขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางที่ด้านบนของอาคารจอดรถ 2 กันก่อน

ตอนนี้เรามาอยู่ชั้นบนของอาคารจอดรถ 2

สระว่ายน้ำมีแยกส่วนที่เป็นสระจากุซซี่ให้

สระว่ายน้ำขนาด 16 x 20 เมตร ด้านบนของสระว่ายน้ำมองเห็นฟิตเนส

อาคารจอดรถอยู่ระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 5 อาคาร

ปลูกต้นไม้รอบสระเพื่อช่วยสร้างความร่มรื่น

จุดอาบน้ำก่อนใช้บริการสระว่ายน้ำ

ขึ้นมาดูฟิตเนสกันต่อครับ ซึ่งเป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่มากทีเดียว

พื้นปูพรมและมีโทรทัศน์ พร้อมแอร์เย็นๆ

มีอุปกรณ์ให้ครบครัน

เดินสำรวจอุปกรณ์ในแต่ละจุด จุดนี้มีจักรยานปั่นนั่งและนอนอย่างละตัว เทรนเนอร์ 1 ตัว

ลู่วิ่ง 4 เครื่อง

อุปกรณ์เล่นกล้ามเนื้อ

จักรยานอีก 3 ตัวที่จุดนี้

เตียงซิทอัพและเตียงยกดรัมเบลล์หลากหลายรูปแบบ

ดรัมเบลล์หลายขนาด

คานและเตียงยกบาร์เบลล์

ลงมาด้านล่างเพื่อไปดูส่วนกลางอีกอาคารหนึ่ง

อาคารจอดรถอาคาร 1

สระว่ายน้ำด้านบนอาคารจอดรถ 1

มีพื้นที่เล่นระดับและเตียงนั่งเล่น

สระว่ายน้ำขนาด 12 x 20 เมตร

จุดอาบน้ำล้างตัว

ลานวางเตียงนอนปรับระดับได้บนพื้นหญ้าเทียม สำหรับฟิตเนสของอาคารนี้ยังอยู่ในช่วงของการเก็บงานอยู่แต่ภาพโดยรวมน่าจะคล้ายกับห้องฟิตเนสอาคารที่แล้ว

ต่อไปผมจะเดินดูบริเวณรอบๆอาคารครับ

อาคารจอดรถ 2

อาคารจอดรถ 1

สวนหย่อม

สวนหย่อม

บรรยากาศภายในโครงการ

บรรยากาศภายในโครงการ

บรรยากาศภายในโครงการ

ถนนทางเข้าออกโครงการกว้าง 12 เมตร

ด้านนอกกำแพงมีบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น

ฟุตบาททางเดิน

มองไปทางฝั่งอาคาร

ภาพมุมไกลจากทางเข้าออกโครงการ

ซุ้มประตูทางเข้าออกโครงการ

ป้อมเจ้าหน้าที่รปภ. กั้นรถเข้าออกด้วยไม้กระดก ต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิด

ห้องตัวอย่าง

ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 แบบคือแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. และแบบ Moff ขนาด 56 ตร.ม. ขายแบบ Partly Fitted มีอุปกรณ์ให้บางส่วนได้แก่ ประตูแบบ Digital Door Lock, Video Door Phone, เคาน์เตอร์ครัวครบชุด เตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน ซิงค์ล้างจาน และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ

เริ่มจากห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกเป็นโซนทานข้าวและนั่งเล่น ทางขวาเป็นห้องครัวแบบปิดและระเบียง อีกส่วนเป็นห้องนอนและมีห้องน้ำอยู่ด้านในห้องนอน

ที่ล็อบบี้ด้านล่างมี Video Door Phone สำหรับติดต่อผู้พักอาศัยได้ก่อนขึ้นไปด้านบน

Video Door Phone ในห้องพักอาศัย

Digital Door Lock

เข้ามาดูด้านในห้องกันครับ

มุมมองแรกจากหน้าประตูเข้าไปด้านใน พื้นที่ส่วนแรกคือห้องนั่งเล่นทางซ้ายวางโต๊ะกินข้าว

พื้นห้องปูด้วยแกรนิตโต้ เพดานสูง 2.6 เมตร ระบบไฟใช้โคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด

เข้าไปดูห้องครัวที่อยู่หลังประตูกันก่อนครับ

ห้องครัวเป็นแบบครัวปิดด้วยบานเลื่อนอลูมิเนียมอบขาว

อีกด้านของบานเลื่อน

ช่องวางตู้เย็น

มองไปอีกด้านของห้องครัว สุดทางเดินเป็นระเบียง

สำหรับเคาน์เตอร์ครัวมีอุปกรณ์ให้ครบชุดยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า

ท๊อปครัวหินสังเคราะห์

ซิงค์ของ MEX

เตาเซรามิค 2 หัว MEX

ที่ดูดควันของ MEX

เคาน์เตอร์เก็บของด้านบน

ประตูระเบียงบานเลื่อนอลูมิเนียม

พื้นที่ระเบียง 1.50 x 1.80 ม.

แขวนคอมแอร์ 2 ตัว มีกริลล์บังสายตาให้เป็นระเบียบ

โต๊ะทานข้าววางเข้ามุม 2 ที่นั่ง

โฟกัสที่ห้องนั่งเล่น

ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร อุปกรณ์ต่างๆ นอกเหนือจากที่ผมได้แจ้งตอนแรกนั้นเป็นเพียงของตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ ไม่ได้แถมให้

หน้าต่างห้องแบบบานเลื่อน อลูมิเนียมอบขาว

เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อ พื้นห้องนอนนั้นจะเปลี่ยนเป็นปูพื้นไม้ลามิเนตให้

ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตเป็นตัวอย่าง

หน้าต่างห้องนอนขนาดใหญ่

มองย้อนไปยังฝั่งทางเข้า

บิลท์ตู้เสื้อผ้าเข้าที่มุมห้องเป็นตัวอย่าง

ห้องน้ำนั้นอยู่ภายในห้องนอน

เปิดประตูห้องน้ำไปเจอกับอ่างล้างหน้า ซึ่งเป็นแบบที่มีช่องเก็บของด้านล่างส่วนนึงและราวแขวนผ้าอีกส่วนนึง

อ่างล้างหน้า Cotto

สุขภัณฑ์ Cotto

ฉากอาบน้ำกระจกนิรภัย

พื้นที่ห้องอาบน้ำ ในส่วนของฝักบัวยังไม่เรียบร้อยดี แต่สามารถดูได้ในห้องตัวอย่างห้องถัดไปเพราะใช้รูปแบบเดียวกันครับ

ไฟห้องน้ำดาวน์ไลท์

ไฟในห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องนอนก็โคมดาวน์ไลท์เช่นกัน

ห้องต่อไปที่เราจะไปชมกันเป็นห้องแบบ Moff Design ขนาด 56 ตร.ม. สำหรับห้องแบบ Moff นั้นเป็นห้องแบบเพดานสูง 4.55 เมตร ซึ่งมีความพิเศษด้วยการเพิ่มพื้นที่การใช้งานชั้นลอยเข้ามาคล้ายๆห้องแบบ Duplex นั่นเอง

เปิดประตูห้องเข้าไปชมด้านในห้องกันครับ

พื้นที่ส่วนแรกเป็นของส่วนนั่งเล่น บันไดขึ้นชั้นลอยอยู่ทางฝั่งซ้าย พื้นห้องปูด้วยลามิเนต

เพดานสูง 4.55 เมตร

มองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้า

วางโซฟานั่งเล่นและโต๊ะทานข้าวชิดผนังด้านนึง

โฟกัสไปที่ห้องนั่งเล่น ด้านหลังชั้นวางทีวีเป็นห้องนอน

พื้นที่นั่งเล่นโปร่งสบาย ด้านในสุดเป็นพื้นที่ระเบียง หน้าต่างและประตูระเบียงสูงเท่ากับความสูงของเพดานห้อง

ระเบียงแขวนคอมแอร์ 3 ตัว

พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวเกือบ 3 เมตร

แวะดูวิวด้านนอกห้องซักหน่อย อาคารจอดรถ 2 อาคารที่ด้านบนเป็นสระว่ายน้ำและฟิตเนส

ถนนทางออกโครงการไปยังถนนใหญ่

อาคาร D ที่เห็นรูปแบบจะเหมือนอาคาร E ที่เรายืนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นอาคารที่มียูนิตแบบ Moff Design

เข้าไปดูห้องนอนกันครับ

ภาพรวมๆห้องนอน

หน้าต่างห้องนอนบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำขนาดเกือบเต็มผนังเพดานสูง

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง ประตูที่อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าคือทางเข้าห้องน้ำที่เป็นห้องน้ำฟังก์ชั่นเข้าออกได้สองทาง

กลับมาที่โถงห้องนั่งเล่นเพื่อไปชมส่วนของห้องครัวใต้ชั้นลอย

ห้องครัวเป็นครัวแบบเปิด มีเสากลมที่ใช้เป็นฐานของชั้นลอย ด้านในสุดเป็นทางเข้าห้องน้ำจากทางฝั่งครัว

เคาน์เตอร์ครัวมีให้ครบชุด ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า

เคาน์เตอร์ด้านบน

ท็อปครัวหินสังเคราะห์ สำหรับกระจกกันเปื้อนด้านหลังไม่มีให้ครับ

ซิงค์ล้างจาน Mex

เตาเซรามิคสองหัว MEX ด้านล่างเว้นช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

อีกด้านของครัวเป็นช่องวางของใต้บันได ซึ่งจริงๆแล้วจะโล่งนะครับ ไม่ได้บิลท์ชั้นวางให้แบบนี้

เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น

พื้นที่ห้องน้ำรวมๆ

สุขภัณฑ์ต่างๆใช้ของ Cotto

อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของด้านล่าง

สุขภัณฑ์แบบประหยัดน้ำ

ฉากอาบน้ำกระจกนิรภัย รูปแบบ Frameless

ฝักบัวมีทั้งแบบหัวธรรมดาและ Rain Shower ด้านหลังปูกระเบื้องโมเสคเล่นลาย

ขึ้นไปดูชั้นลอยด้านบนครับ พื้นบันไดไม้ลามิเนต

พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตเช่นกัน ด้านนึงของห้องตกแต่งเป็นโต๊ะทำงาน

พื้นที่อีกด้านวางเตียงนอน 3 ฟุตครึ่ง

มองย้อนกลับไปฝั่งโถงห้อง

ราวกันตกให้เป็นกระจกใส

มุมมองจากด้านบนลงไปยังด้านล่าง

ราคา (พ.ย. 2558)

เงินจอง :
– 1 ห้องนอน 10,000 บาท
– 2 ห้องนอน 20,000 บาท

ทำสัญญา : 20,000 บาท

1 Bedroom / 21.91 sq.m. (อาคาร B ชั้น 1) : ราคา 2,603,598 บาท

1 Bedroom / 30.56 sq.m. (อาคาร A ชั้น 8) : ราคา 3,575,720 บาท

1 Bedroom / 34.51 sq.m. (อาคาร A ชั้น 12) : ราคา 4,505,323 บาท

1 Bedroom MOFF / 42.21 sq.m. (อาคาร E ชั้น 9) : ราคา 4,977,570 บาท

2 Bedroom MOFF / 42.21 sq.m. (อาคาร E ชั้น 18) : ราคา 6,566,805 บาท

ค่าส่วนกลาง 35 บาท/เดือน/ตร.ม.
ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.

Metro Package
– เครื่องปรับอากาศ 1-3 เครื่องตามขนาดห้อง
– Wallpaper
– Pantry ครัวครบชุด
– Digital Door Lock
– Video Door Phone
– กระจกห้องน้ำ Temper Glass
– Rain Shower

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Sky สุขุมวิท ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทช่วงปลายใกล้แยกบางนา ย่านอุดมสุข ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าBTS อุดมสุข 350 เมตร ทำเลของย่านนี้หลังจากที่มีรถไฟฟ้าผ่านทำให้ความเจริญจากสุขุมวิทช่วงใจกลางเมืองได้แผ่ขยายออกมาเรื่อยๆตามแนวของรถไฟฟ้าไปจนถึงแบริ่งที่กำลังจะต่อขยายเข้าไปยังสมุทรปราการ โดยโปรเจคต์ที่น่าจะเป็นตัวช่วยผลักดันให้พื้นที่นี้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ Bangkok Mall โครงการห้างใหญ่แบบครบวงจรที่ติดกับโครงการโดยมีครบทั้งห้างสรรพสินค้า สวนน้ำและสวนสนุก สำหรับทางเข้าโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ก็จริงแต่ตัวอาคารพักอาศัยนั้นต้องเข้าไปตามถนนของโครงการอีกประมาณ 300 เมตรครับ

ความอุดมสมบูรณ์ – ในปัจจุบันต้องเดินไปทางฝั่งอุดมสุขหรือสุขุมวิท 103 ที่บริเวณแยกอุดมสุขนั้นจะค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีตลาดอุดมสุข ระยะทางก็เท่ากับการเดินไปยังรถไฟฟ้าคือประมาณ 350 เมตร หรือหากมองหาห้างใหญ่ก็มีบิ๊กซี โลตัสอยู่ที่ BTS อ่อนนุช ห่างจากโครงการ 4-5 กม. หรือนับเป็นรถไฟฟ้าก็ 3 สถานี หรือไปทางบางนา-ตราดใช้งานเซ็นทรัล, บิ๊กซี บางนา ระยะทางประมาณ 3 กม. แต่ในอนาคตเมื่อโปรเจคต์ Bangkok Mall แล้วเสร็จก็น่าจะเป็นตัวเลือกหลักสำหรับลูกบ้านครับ (ประมาณปีพ.ศ. 2560-2561)

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ถนนสุขุมวิทเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้ในการเข้าไปยังตัวเมืองชั้นในโดยผมขอไม่พูดถึงเรื่องการจราจรนะครับ เพราะถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนทุกท่านน่าจะนึกภาพออก แต่ถ้าเป็นช่วงระหว่างวันนั้นถือว่าเดินทางได้สะดวกทีเดียว จุดกลับรถสำหรับเข้าเมืองก็อยู่บริเวณแยกบางนาห่างจากโครงการไป 300 เมตร ส่วนถนนอีกเส้นที่น่าสนใจก็คือบางนา-ตราด ใช้เดินทางเส้นศรีนครินทร์ – กาญจนาภิเษก – สุวรรณภูมิได้อย่างสะดวก หรือหากวิ่งไปตามสุขุมวิทขาออกอีกเพียง 2 สถานีรถไฟฟ้าบริเวณแบริ่งก็เข้าสู่สมุทรปราการแล้ว ส่วนจุดขึ้นลงทางด่วนก็อยู่บริเวณถนนสรรพาวุธใกล้ๆแยกบางนานั่นแหล่ะครับ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – มีรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข อยู่ในระยะเดินเท้าได้ ระยะทางรวม 650 เมตรคือจากตัวอาคารพักอาศัยมายังหน้าโครงการ 300 เมตร จากหน้าโครงการไปยังสถานีอีก 350 เมตร ถ้าเป็นช่วงเช้าหรือเย็นค่ำก็โอเคเดินสบาย แต่ถ้าเป็นช่วงแดดร้อนก็ต้องมีติดร่มออกมากันบ้าง ทางเลือกอื่นที่ถนนใหญ่หน้าโครงการมีให้เลือกใช้ครบครันทั้ง แท๊กซี่ รถประจำทางหรือมอไซค์รับจ้าง

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ลักษณะโครงการเป็นคอนโด High-Rise ทั้งหมด 7 อาคารแบ่งเป็น อาคารพักอาศัย 5 อาคารและอาคารจอดรถ 2 อาคาร โดยอาคารพักอาศัยแบ่งออกเป็นอาคาร A สูง 26 ชั้น, อาคาร B – E สูง 22 ชั้น ส่วนอาคารจอดรถสูง 9 และ 11 ชั้นด้านบนอาคารจอดรถเป็นพื้นที่ส่วนกลาง

– แปลนห้องนั้นผมขอพูดถึงแบบที่ได้เข้าไปชมห้องตัวอย่างนะครับ
♦ แบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. แบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างชัดเจนโดยแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือห้องนั่งเล่นและห้องทานข้าว ส่วนที่สองเป็นห้องครัวแบบปิดและระเบียง ส่วนที่สามเป็นห้องนอนและห้องน้ำโดยแบบแปลนนี้หากมีเพื่อนบ้านมาเยี่ยมเยียนเวลาเข้าห้องน้ำจะต้องเข้าผ่านห้องนอนทำให้เสียความส่วนตัวไปบ้าง

♦ 1 Bedroom MOFF Design ขนาด 56 ตร.ม. สำหรับคำว่า MOFF นั้นมีที่มาจากคำว่า Maximum of Flexible Function แปลได้ประมาณว่าเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้มากขึ้นด้วยการนำพื้นที่ในแนวดิ่งมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยออกแบบให้เพดานห้องสูง 4.6 เมตรมีชั้นลอยให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นแต่ไม่ได้ใช้เต็มพื้นที่นะครับโดยจะเป็นพื้นที่ชั้นลอยแค่บางส่วน และปล่อยให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นห้องเพดานสูง Double Volume ทำให้การอยู่อาศัยนั้นดูหรูหรามีระดับ โล่ง โปร่งสบายขึ้นอย่างมาก ห้องน้ำสามารถเข้าออกได้สองทางทั้งจากห้องนอนและห้องครัว

– ทางโครงการขายแบบ Partly Fitted ให้อุปกรณ์มาบางส่วนได้แก่ ประตู Digital Door Lock, Video Door Phone, Wallpaper, เคาน์เตอร์ครัวครบชุด เตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน ซิงค์ล้างจาน , สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ Cotto ฝักบัว Rain Shower และฉากอาบน้ำกระจก Temper

สิ่งอำนวยความสะดวก – สาธารณูปโภคหลักจะไปอยู่ที่ด้านบนสุดของแต่ละอาคารจอดรถที่มีให้ 2 อาคาร สูง 9 และ 11 ชั้น มีสระว่ายน้ำ 2 สระ และฟิตเนส 2 ห้องซึ่งเป็นสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสที่มีขนาดใหญ่พร้อมด้วยสระจากุซซี่ ขนาดสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือขนาด 16 x 20 เมตรและ 12 x 20 เมตร โดยเรื่องการใช้งานนั้นไม่ได้มีการแบ่งตามอาคารแต่อย่างใดสามารถใช้ร่วมกันได้หมด สวนหย่อมของโครงการอยู่ที่ช่องว่างระหว่างอาคาร สำหรับเรื่องของที่จอดรถ 2 อาคารรวมกันแล้วอยู่ 40% ยังไม่รวมซ้อนคัน ลิฟต์ 2 ตัวต่ออาคาร แยกลิฟต์ขนของต่างหาก ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามาตรฐาน เข้าออกหน้าโครงการและล็อบบี้ใช้คีย์การ์ด ลิฟต์ล็อคชั้น มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจตราและ CCTV 24 ชม.

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1375

Website : http://www.pf.co.th/condominium/the-sky/sukhumvit/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

คอนโด Pause ID สุขุมวิท 107 คอนโดใหม่ ใกล้ BTS แบริ่ง เริ่มต้น 1.49 ล้านบาท

Pause ID สุขุมวิท 107 คอนโดฯ แนวคิดใหม่เพื่อ Lifestyle คนรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดมาจากเทรนการใช้ชีวิตแบบ “Slow Life” ที่มีการปรับสมดุลการใช้ชีวิตให้ช้าและเรียบง‹ายขึ้น จากวิถีชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน เน้นการตกแต่งที่เรียบง‹ายแต่ดูดีมีสไตล์ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากด้วยประโยชน์ใช้สอย ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยแบริ่ง 16 สุขุมวิท 107 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

FLOOR PLAN

3rd – 7th Floor

8th Floor

UNIT TYPE

1 BEDROOM Bs 20.4-23.8 Sq.m

1 BEDROOM B 24.8-25.3 Sq.m

1 BEDROOM B1 28.8 Sq.m

2 BEDROOM Bplus 34.5 Sq.m.

2 BEDROOM Bplus1 36.6 Sq.m.

2 BEDROOM Bplus2 33.1 Sq.m.

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-399-4466
WEBSITE : http://pause.origin.co.th/

EP.261 รีวิว คอนโด ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ ใกล้รถไฟฟ้า BTS โพธิ์นิมิตร

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ทีมงานพาไปชมโครงการ Ideo สาทร-ท่าพระ   ของ Ananda Development เป็นโครงการ High-Rise สูง 31 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บริเวณ รถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร (S9) ที่ระยะ 320 เมตร ราคาเริ่มต้น 2.1 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานขายนั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ของโครงการเลยครับ

ที่ตั้งโครงการ

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง

เส้นทางที่ใช้เดินทางมายังตัวโครงการ ผมจะขออธิบายในกรณีมาจากฝั่งกรุงเทพให้ใช้สะพานตากสินหรืออีกชื่อคือสะพานสาทร

ภาพจาก Google แสดงให้เห็นว่าหากมาจากทางสะพานตากสิน ให้วิ่งตรงอย่างเดียวตามถนนราชพฤกษ์ แต่สำหรับทางเข้าโครงการจะมีจุดน่าสังเกตคือเราจะต้องวิ่งอยู่ที่ถนนคู่ขนาน โดยรายละเอียดมีให้ชมตามภาพต่อจากนี้ครับ

การเดินทาง เริ่มจากถนนสาทร > สะพานตากสิน > ถนนกรุงธนบุรี > สี่แยกสมเด็จพระเจ้าตากสิน > ถนนราชพฤกษ์ > Ideo สาทร-ท่าพระ

เริ่มต้นผมอยู่บนถนนสาทรกำลังมุ่งหน้าขึ้นสะพานตากสิน

ผ่าน BTS สะพานตากสิน

ผ่าน BTS กรุงธนบุรี

ณ ใต้สถานี BTS วงเวียนใหญ่ วิ่งออกซ้ายเพื่อที่เราจะไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกถนนตากสิน เนื่องจากต้องวิ่งบนทางคู่ขนานด้านนอกจึงจะสามารถเข้าโครงการได้

พอไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกดังกล่าว เราก็จะวิ่งเลียบด้านล่างไปครับโดยที่สี่แยกตากสินนี้ให้เราตรงไปครับ

สักพักก็จะถึง BTS สถานีโพธิ์นิมิตร เราจะอยู่ทางคู่ขนานเพื่อเตรียมเข้าโครงการ

ผ่านโครงการ The Room สาทร-ตากสิน แสดงว่าใกล้ถึงแล้วครับ

ถัดมาอีกไม่กี่เมตรก็จะถึงทางเข้าโครงการ Ideo สาทร-ท่าพระ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า

แผนที่รถไฟฟ้า BTS โซนใต้ (S)

โพธิ์นิมิตร (S9) – สะพานตากสิน (S6)
ระยะห่าง 3 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที
สะพานตากสิน : อีกหนึ่งสถานีสำคัญที่มีท่าเรือสาทร ท่าเรือใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งจุดเชื่อมต่อการคมนาคมที่สำคัญ

โพธิ์นิมิตร (S9) – ศาลาแดง (S2)
ระยะห่าง 6 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที
ศาลาแดง : อีกชื่อที่คนรู้จักกันดีคือสีลม เป็นสถานีที่ใช้เปลี่ยนจากรถไฟฟ้า BTS เป็นรถไฟฟ้า MRT

โพธิ์นิมิตร (S9) – สยาม (Cen)
ระยะห่าง 8 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 24 นาที
สยาม : สถานี Interchange ที่ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของรถไฟฟ้า BTS ใช้เปลี่ยนเส้นทางไปยังสายหมอชิต-สุขุมวิท พร้อมทั้งแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอย่าง Siam Paragon, Siam Center หรือ Siam Discovery

บริเวณรอบโครงการ

คอนโดที่อยู่ใกล้เคียงตามแนวเส้นรถไฟฟ้ามีดังนี้

BTS โพธิ์นิมิตร (S9)
1. The Room สาทร-ตากสิน จาก Land & Houses
2. Parkland Grand ตากสิน จาก Narai Property
3. Parkland ตากสิน-ท่าพระ จาก Narai Property

BTS ตลาดพลู (S10)
1. Casa Condo รัชดา-ท่าพระ จาก Q.House
2. Casa Condo รัชดา-ราชพฤกษ์ จาก Q.House

BTS วุฒากาศ (S11)
1. PE:LA เพ-ลา จาก ชนันธร
2. The Tempo Grand สาทร-วุฒากาศ จาก Built Land
3. The Key วุฒากาศ จาก Land & Houses
4. The Key สาทร-ราชพฤกษ์ จาก Land & Houses
5. Aspire สาทร-ตากสิน จาก AP
6. Ideo วุฒากาศ จาก Ananda Development

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

– The Mall ท่าพระ : 700 เมตร
– BRT ราชพฤกษ์ : 400 เมตร
– วงเวียนใหญ่ : 1.6 กม.
– โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า : 2.6 กม.
– โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี : 2.8 กม.
– โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา : 4.0 กม.

ภาพมุมสูง ตลอดแนวเส้นราชพฤกษ์ฝั่งเดียวกันกับโครงการ มีคอนโดสูงขึ้นอยู่หลายอาคารได้แก่
The Room ของแลนด์แอนด์เฮ้าส์สูง 23 ชั้น
Parkland ตากสิน-ท่าพระของนารายณ์ สูง 29 ชั้น
Parkland Grand ตากสินของนารายณ์ สูง 34 ชั้น
Aspire สาทร-ท่าพระ ของ AP สูง 30 ชั้น

เรื่องของการบังวิวแน่นอนว่าทางทิศตะวันตกที่หันหน้าเข้าหาโครงการ Parkland มีการบล็อควิวอยู่หลายยูนิตครับเพราะตัวอาคารทั้งสองนั้นมีสเปซช่องว่างที่น้อยจนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนทางฝั่งตะวันออกด้านของ The Room นั้นไม่น่ากังวลเพราะอยู่ค่อนข้างห่างออกไปและความสูงน้อยกว่าไอดีโออยู่หลายชั้น สำหรับระยะห่างของรถไฟฟ้าจะเห็นได้ว่าสถานีโพธิ์นิมิตรที่มีระยะห่างอยู่ 350 เมตรนั้นใกล้กว่าสถานีตลาดพลูที่ห่างออกไป 600 เมตรครับ

ผมขอพาเดินชมบรรบากาศบริเวโครงการกันก่อนครับ

ลองเดินย้อนกลับไปทางสถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตร เพื่อให้เห็นสภาพทางเดินเท้า

ฟุตบาทสภาพดูดีน่าเดินทีเดียว มีแนวพุ่มไม้สีเขียว

เดินผ่านโครงการเพื่อนบ้าน The Room สาทร-ตากสิน

ด้านหน้าโครงการ The Room มีสะพานลอย

โรงเรียนมณีวิทยา เปิดสอนในระดับประถมศึกษา

ฟุตบาทบริเวณหน้าโรงเรียน ถ้าเป็นตอนดึกน่าจะเปลี่ยวมากทีเดียวเพราะมีต้นไม้ขึ้นหนาบังแสงไฟจากถนน

ถึงแล้วครับสถานีโพธิ์นิมิตร ระยะเดินก็ราวๆ 300 เมตร

อย่างที่บอกครับว่าถ้าเป็นช่วงดึกทางเท้าที่เราเดินมาค่อนข้างเปลี่ยวอยู่พอสมควร ใช้บริการพี่วินน่าจะปลอดภัยกว่า

จากสถานีไปโครงการค่าบริการไม่เกิน 10 บาทแน่นอนครับ เพราะระยะแค่ 300 เมตรเอง ถ้าเกินจากนี้เรียก สคบ.ได้เลย

ฝั่งตรงข้ามมีโรงเรียนสอนภาษาจีน โรงเรียนกงลี้จงซัน

จากนั้นผมเดินกลับมาที่หน้าโครงการ เพื่อเดินไปเลยไปทางฝั่ง BTS ตลาดพลูบ้าง

ที่ติดกันกับโครงการมี Pub & Restaurant ให้แฮงค์เอ้าท์ยามค่ำคืน

ถัดมาเป็น 7-11 และมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวหมูแดง

เลยมาอีกหน่อยก็เจอร้านนั่งดื่มอีกร้านนึง

จากนั้นก็จะเป็นที่ตั้งโครงการเพื่อนบ้านอีกสองโครงการ โครงการแรกคือ Parkland TT ตากสิน-ท่าพระ

และอีกโครงการคือ Parkland Grand ตากสิน

เดินเลยจากโครงการ Parkland มาหน่อยก็จะเริ่มเห็นสี่แยก รัชดา-ท่าพระ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

มีสถานี BRT ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการให้บริการ เส้นทางเดินรถผ่านพระราม 3 – นราธิวาสฯ – BTS ช่องนนทรี และวนกลับทางเดิมครับ

ถึงสี่แยกรัชดา-ท่าพระแล้วครับ มีสะพานลอยที่สามารถใช้ข้ามถนนหรือขึ้นรถไฟฟ้าสถานีตลาดพลู(S10) ได้

บรรยากาศบริเวณสี่แยกรัชดา-ท่าพระ

จากสี่แยกเราจะเดินเลี้ยวซ้ายเพื่อไป The Mall

ถนนรัชดาภิเษก

ฟุตบาทช่วงก่อนถึงห้าง

ถึงแล้วครับ The Mall ท่าพระ ห้างที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งศูนย์รวมความบันเทิงของคนย่านนี้

ระยะทางจากหน้าโครงการมาถึงห้างวัดได้ประมาณ 700 เมตร ถ้าร่างกายแข็งแรงหน่อยก็เดินได้สบายครับ เพราะฟุตบาทกว้างเดินง่าย

ฝั่งตรงข้ามมีตลาดไทยช่วยไทยพลาซ่า ลานด้านหน้าเป็นตลาดนัดมีของกินของใช้ในราคาและคุณภาพท้องถิ่น ปกติคนค่อนข้างเยอะตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่พอช่วงหัวค่ำคนบริเวณนี้จะครึกครื้น พลุกพล่านมากขึ้นไปอีก

วนกลับมาที่หน้าโครงการครับ ทางด้านซ้ายของทางเข้ามีอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น และมองเห็นคอนโด The Room

ภาพรวมๆอีกมุมหนึ่ง ทางขวามองเห็นคอนโด Parkland ทั้งสองตึก

ที่ตั้งโครงกาารนั้นอยู่ด้านนอกทางขนานโดยมีเกาะกลางกั้นอยู่

จากภาพนี้จะเห็นว่าเลยหน้าโครงการไปนิดเดียวก็จะเป็นทางร่วมแล้ว

สำหรับคนที่ยังไม่เคยแวะเข้ามาชมตัวโครงการอาจสงสัยว่า สิ่งก่อสร้างหน้าตาแปลกๆนี้คืออะไร

สิ่งนี้ก็คือชิงช้านั่นเองครับ เอาไว้นั่งเล่นพักผ่อนก็โอเคครับ ดูแนวดี

ทางเข้าโครงการ

อีกด้านของลานชิงช้าคือทางเท้าเข้าคอนโด

ใต้อาคารมีร้านสะดวกซื้อคู่บุญ Max Valu ทันใจ

ติดกับ Max Valu ก็มีร้านกาแฟ True Coffee

เข้าไปแวะจิบกาแฟกันครับ

เคาน์เตอร์ Order เครื่องดื่ม

โต๊ะนั่งทานกาแฟมีหลายรูปแบบทั้งแบบเป็นส่วนตัวและแบบโต๊ะยาว

บรรยากาศน่านั่ง

มีส่วนที่เป็นห้องกระจก เหมาะสำหรับประชุม

ทางเข้าอาคารสำหรับรถยนต์

แตะคีย์การ์ดเพื่อเปิด

มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.

ทางเดินเท้าเข้าโครงการ

ทางเดินบริเวณหน้าล็อบบี้

มีรถ Shuttle Van เดินทางรับส่ง รถไฟฟ้า BTS ตลาดพลู – BTS โพธิ์นิมิตร ซึ่งจะออกถี่ทุกๆ 15 นาทีในช่วงเช้าและเย็นครับ ช่วงระหว่างวันก็จะลดความถี่ลงเป็น 30 นาทีต่อรอบ

ล็อบบี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนหลักจะอยู่ทางขวา

ล็อบบี้รองอยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งอาคารทางฝั่งนี้จะมีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป ต่างจากฝั่งของล็อบบี้หลักที่ชั้น 2 – 6 เป็นลานจอดรถ หากยังไม่เข้าใจนักในหัวข้อของ Master Plan น่าจะอธิบายได้เห็นภาพกว่าครับ

ทางเข้าล็อบบี้รอง

รอบๆโครงการเป็นลานจอดรถ

มีต้นไม้สีเขียวขึ้นรอบโครงการทำให้บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว

ซุ้มนั่งเล่นบริเวณสวนหย่อม

ทางเดินรอบโครงการเหมาะจะวิ่งจ๊อกกิ้งมากๆ

ทางเดินด้านหลัง

วนกลับมาบริเวณทางเข้าล็อบบี้

เข้าไปภายในอาคารเพื่อชมส่วนต่อไปกันครับ

ทางเดินข้ามใต้อาคารระหว่างล็อบบี้ทั้งสองจุด

สิ่งอำนวยความสะดวก

Lobby ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นสำนักงานขายด้วยครับ

มีมุมนั่งอยู่กระจายห่างๆกันและมีผนังที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เยอะเลยครับ

ทางเข้าออกโถงลิฟต์เพื่อไปยังส่วนของห้องพักอาศัย มีระบบ Key Card Access

ลิฟต์มี 3 ตัว แยกลิฟต์ขนของอีก 1 ตัว มีลิฟต์อีก 2 ตัวอยู่ที่ล็อบบี้อีกฝั่งครับ

การเข้าออกส่วนพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ก็ต้องใช้ Key card แตะเพื่อเปิดประตูเช่นกันครับ

ตอนนี้เราอยู่ในพื้นที่ของ Social Club และห้องฟิตเนส

มุมนั่งเล่นใน Social Club

โต๊ะพูล

ห้องฟิตเนส

ภาพรวมฟิตเนส มีอุปกรณ์หลากหลาย

เทรนเนอร์ 3 ตัว

ม้านอนยักดรัมเบลล์และเตียงซิทอัพแบบปรับระดับได้

จักรยานปั่น 3 ตัว

ลู่วิ่งอีก 3 เครื่อง

ส่วนต่อไปเป็นสระว่ายน้ำครับ

สวนในพื้นที่ของสระว่ายน้ำ

ภาพรวมสวรว่ายน้ำ

มองย้อนไปยังทางเข้าอาคาร

รูปแบบสระเป็นแบบน้ำล้น

ทางเดินรอบสระ

มีพื้นที่ตื้นสำหรับให้เด็กเล่น

ส่วนยาวที่สุดยาว 25 เมตร

บันไดขึ้นลงสระ

อีกมุมหนึ่ง

สวนหย่อม

สวนนี้มีลักษณะเป็นลานกว้างเหมาะใช้ทำกิจกรรมครับ

สนามหญ้าที่เห็นนี้เป็นสนามหญ้าจริงครับ

มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าอาคาร

แปลนอาคาร

Ground Floor

แปลนชั้นล่างรูปแบบอาคารมีลักษณะเป็นตัว T ทางเข้าโครงการจะหันหน้าไปทางด้านเหนือซึ่งอยู่ทางด้านล่างของภาพ ที่ชั้นล่างนี้เป็นส่วนของร้านค้าและล๊อบบี้ รวมถึงที่จอดรถที่แทรกอยู่รอบๆตัวอาคาร ทางขึ้นลงลานจอดรถจะอยู่ที่ปีกด้านขวาของอาคาร

2nd – 6th Floor

ที่ชั้น 2 – 6 เป็นลานจอดรถแต่ไม่ทั้งหมด เพราะปีกด้านซ้ายของอาคารมียูนิตพักอาศัยอยู่ ความหนาแน่นเท่ากันทุกชั้นที่ 14 ยูนิตต่อชั้น

7th Floor (Facilities Floor)

ที่ชั้น 7 เป็นชั้นของสิ่งอำนวยความสะดวก มีสระว่ายน้ำยาว 25 เมตร สวนหย่อม โดยจะมี Social Club เหมือนเป็นพื้นที่ส่วนกลางจุดนัดพบในการรองรับการมาใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากสระว่ายน้ำแล้วยังมี ฟิตเนส และห้องสมุดด้วย มียูนิตพักอาศัยอยู่ที่ด้านบนของตัว T ความหนาแน่น 39 ยูนิตสำหรับชั้นนี้

8th – 18th Floor

ตั้งแต่ชั้น 8 เป็นต้นไปจะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยที่ชั้น 8 ถึงชั้น 18 จะมียูนิตพักอาศัยที่หนาแน่นจำนวน 53 ยูนิต มีลิฟต์ทั้งหมด 5 ตัวโดยจะแยกไปอยู่ที่ปีกซ้าย 2 ตัวและบริเวณมุมของตัว T มีอยู่ 3 ตัว

19th – 28th Floor

ที่ชั้น 19 – 28 หน้าตาจะเหมือนกับชั้น 8 – 18 เกือบจะทุกประการยกเว้นขนาดของห้องที่จะต่างกันนิดหน่อย

29th Floor

ชั้น 29 ยูนิตจะลดลงมาเพราะเนื่องจากด้านปลายของตัว T จะไม่มียูนิตพักอาศัย ทำให้ที่ชั้นนี้เหลือความหนาแน่นอยู่ที่ 39 ยูนิตต่อชั้น

30th Floor

ชั้น 30 เหมือนชั้น 29 ครับแค่จะไม่มีด้านปลายของตัว T ยืนออกมาจากตัวอาคารแล้ว

31st Floor

ชั้นดาดฟ้าเป็นสวนหย่อมให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนรับลมได้

โมเดลอาคาร

เรไาปดูโมเดลอาคารกันครับ

ภาพรวมโมเดล

ทางเข้าอาคารอยู่ทางทิศเหนือ

สระว่ายน้ำอยู่บนโพเดียมชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้น Facilities

อีกด้านของอาคาร

สวนหย่อมบริเวณชั้น 7

สวนหย่อมชั้นล่าง

ชั้นดาดฟ้าสามารถมาใช้งานได้ครับ ทั้งรับลมชมวิว

ด้านหลังอาคาร

ทางเข้าลานจอดรถ

ทางเข้าล็อบบี้ ที่แยกเป็นสองส่วน

ห้องตัวอย่าง

ทางโครงการจัดแสดงห้องตัวอย่างทั้งหมด 3 ห้อง 3 แบบคือ ห้อง Studio, 1 Bed และ 2 Bed

เริ่มต้นจากห้อง Studio ขนาด 21 ตารางเมตร เป็นห้องแรก

ห้อง Studio ที่เรากำลังจะได้ชมต่อจากนี้เป็นห้องที่ได้รับรางวัล Best Interior Design จาก Asia Pacific Property Awards ในปี 2013-2014 นี้เอง

แปลนห้อง Type A1 – Studio

มองจากด้านนอกเข้าไปในห้อง

มองไปทางขวาเจอโซฟา โต๊ะทำงานและเตียงนอน ไล่เรียงไป

มองไปทางซ้าย มีโทรทัศน์ติดผนัง ทางเข้าห้องครัว และตู้เสื้อผ้าปลายเตียง

โซฟานั่งเล่น ด้านหลังติดกระจกเงาบานใหญ่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นเยอะ

โฟกัสไปที่ห้องนอนและโต๊ะทำงาน

เตียงนอนขนาด 5 ฟุต

วางชิดหน้าต่าง

ทางด้านปลายเตียง มีพื้นที่ทางเดินเหลือ 60 cm. เดินสบายๆ

ผนังด้านปลายเตียง มีตู้เสื้อผ้า ขนาด 1.4 ม. และลิ้นชัก

ลิ้นชัก 3 ชั้น

มุมมองย้อนกลับไปทางเข้าห้อง

ต่อไปเราจะเดินเข้าไปดูห้องครัวกัน

ตรงบริเวณทางเข้าห้องครัวมีตู้บานพับกระจกเงาทรงสูง

ทางเดินบริเวณห้องครัว

Pantry ครัวขนาด 1.3 เมตร ท๊อปเป็นคอมแพคลามิเนตสีขาว ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนสูงกว่าผิวลามิเนตธรรมดาแต่ก็คงไม่เท่าพวกหินสังเคราะห์

เตาและซิงค์ ยี่ห้อ MËX

ช่องวางไมโครเวฟอยู่ด้านบน

เครื่องซักผ้าอยู่ที่ใต้ Pantry ครัวนี้ด้วย ประตูระเบียงบานเลื่อนอลูมิเนียม

ขนาดระเบียง 140 x 70 cm.

คอมแอร์เป็นแบบแขวนด้านบนมีกริลช่วยบังสายตาจากด้านนอก

จากห้องครัวแล้วไปดูห้องน้ำกันต่อ

ธรณีหินสังเคราะห์ขนาดไม่สูง

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto แบบประหยัดน้ำ Eco

อ่างล้างหน้า Cotto ติดลอยๆไม่มีตีตู้ครอบให้

ฉากกระจกกั้นส่วนเปียก ฝักบัวและหัวก๊อกยี่ห้อ Prema

ห้องต่อมาเป็นแบบ One Bed ขนาด 30.00 sq.m.

One Bedroom – 30 SQ.M.

ดูแปลนห้องกันก่อนเป็นแบบ 1 Bed – Type B1

มองจากด้านนอกเข้าไปในห้อง

Pantry ครัว มีพื้นที่เยอะขึ้นกว่าเดิมจากห้องสตู ยาว 1.5 เมตร

ภาพ Pantry มุมสูง

เตาไฟฟ้าสองหัว MËX

ซิงค์ล้างจาน MËX

มุมมองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง

ด้านตรงข้าม Pantry เป็นตู้เย็นและตู้เก็บรองเท้าทรงสูงบิลท์ติดเพดาน

ลองเปิดให้ดูบางส่วน

ขยับเลยจากครัวมาจะเป็นโซนนั่งเล่นและที่นั่งรับประทานอาหาร

ด้านบนบิลท์ชั้นวางของแบบจัดเต็มให้ดูเลย เว้นช่องเพื่อติดตั้งแอร์เท่านั้น

ด้านในสุดเป็นระเบียง

ขนาด 235 x 100 ซม.

มีประตูบานเลื่อนด้านนอกอีกชั้นนึงด้วย เพื่อทำเป็นระเบียงแบบ Semi-Outdoor

คอมแอร์จะมีช่องเก็บแยกส่วนออกมาเพื่อไม่ให้ไปกินพื้นที่ระเบียง พร้อมทั้งยังช่วยเก็บเสียงกันลมได้ดี

ไปยังส่วนของห้องนอน

ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุต

ด้านปลายเตียงมีที่ว่างเหลือ 40 ซม. หากอยากดูทีวีในห้องนอนก็ใช้แบบติดผนังได้

มุมนั่งทำงานด้านในของห้องนอน พื้นที่ใช้งานดูจะเล็กไปหน่อย

ตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน แบบบานเลื่อนกระจกเงา ซึ่งเราต้องใช้พื้นที่บริเวณนี้เป็น Walk-in closet ไปในตัว

มุมมองย้อนกลับ ซึ่งเดี๋ยวเราจะเข้าไปดูห้องน้ำกัน

มองเข้าไปเจออ่างล้างหน้าตรงกับทางเข้า

ด้านในเป็นโซนเปียก มีฉากกระจกกั้น

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปชมคือห้อง Two Bedroom ขนาด 45.00 ตร.ม.

Two Bedroom – 45 sq.m.

แปลนห้องแบบ 2 ห้องนอน แต่แปลนตัวนี้จะสลับด้านกันกับห้องตัวอย่างของจริง

มองจากด้านนอกเข้าไปในห้อง

ด้านซ้ายของห้องเป็นโต๊ะทานข้าว สังเกตให้ดีนะครับว่าเป็นโต๊ะแค่ 4 ที่นั่ง ที่มันดูยาวนั้นเป็นกระจกเหงาหลอกตาครับ ดูที่ขอบกระจกเป็นหลัก

ในภาพเป็นทางเข้าห้องนอนทั้งสองห้อง

มุมมองย้อนกลับจากด้านในไปยังหน้าห้อง

Pantry ครัวอยู่ติดกับห้องน้ำ

โฟกัสไปที่มุมนั่งเล่นที่อยู่ตรงกลางห้อง

ทีวีติดผนัง ขนาด 32 นิ้วจะติดหรือจะวางก็แล้วแต่จะความชอบ

ระเบียงที่อยู่ติดกับโซนนั่งเล่น

เป็นระเบียงขนาด 100 x 260 cm. แบบมีบานเลื่อนอีกชั้นเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานระเบียงเป็น Semi-Outdoor ได้

เดินไปดู Pantry ครัวอีกรอบนึง

Pantry ด้านบน

เดินไปดูในห้องน้ำกันครับ

อ่างล้างหน้า และกระจกเงาแบบมีชั้นวาง

ฝักบัว Prema

ส่วนเปียกแบบมีฉากกระจก เป็นกระจกของ BSG

ตัวยึดฉากกระจกของ Hafele ธรณีหินสังเคราะห์

จากนั้นเราจะไปดูที่ห้องนอนกันบ้างครับ

เข้าฝั่งห้องนอนหลักประตูซ้ายมือก่อน

เตียงขนาด 5 ฟุต วางชิดกำแพงด้านหน้าต่าง

หน้าต่างใช้เป็นกระจกบานเลื่อนขนาด 2.5 เมตร

ปลายเตียงมีที่วางอยู่ประมาณ 1 เมตร สามารถวางไซด์บอร์ดหรือจะติดชั้นวางแบบห้องตัวอย่างก็ได้

มุมมองย้อนกลับไปที่ทางเข้าห้อง

ตู้เสื้อผ้าทรงสูง ด้านบนทำเป็นช่องเก็บของ

โต๊ะเครื่องแป้ง บิลท์อินติดกับตู้เสื้อผ้า

ไปดูห้องนอนเล็กกันต่อ

เดินเข้าไปเจอ เตียง 3.5 ฟุต บิลท์อินเข้ามุมติดหน้าต่าง

โต๊ะเขียนหนังสือ

ภาพรวมๆด้านหัวเตียง

หน้าต่างบานเลื่อน ขนาด 2 เมตร

ตู้เสื้อผ้าขนาด 140 ซม. พร้อมชั้นวางของด้านข้าง สังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีกระจกเงาอยู่ ระวังมันหลอกตานะครับ

ราคา (พ.ย. 2558)

Studio – 21 sq.m. : 2.17 – 2.4 ล้านบาท

1 Bed – 30 sq.m. : 3.0 – 3.5 ล้านบาท

2 Bed – 45 sq.m. : Sold out

เงินจอง 20,000 บาท
ทำสัญญา 30,000 บาท

ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. (จ่ายครั้งเดียว ณ วันโอน)
ค่าส่วนกลาง : 45 บาท/ตร.ม./เดือน (จ่ายล่วงหน้า 12 เดือน)

สรุป

– ทำเลโครงการ ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ริมถนนใหญ่ตามแนวรถไฟฟ้า BTS ที่ต่อขยายมาจากสาทร-สะพานตากสิน โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีโพธิ์นิมิตร โครงการแจ้งไว้ว่าระยะ 320 เมตร ตัวโครงการตั้งอยู่ระหว่างกลางของสองโครงการ High Rise ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปก่อนหน้านี้แล้วคือ The Room สาทร-ตากสิน และ Parkland ตากสิน-ท่าพระ และด้วยความที่เป็นโครงการสูง 23และ29 ชั้นตามลำดับ ทำให้มีหลายยูนิตที่จะโดนโครงการดังกล่าวบังวิวทั้งแบบที่บังสนิทและบังสายตาแค่บางส่วน เรื่องการหาของกินของใช้ในตัวโครงการเองมี Max Valu เปิดให้บริการแน่นอนแล้ว แต่หากมองหาแหล่งของกินของใช้ในสเกลที่ใหญ่กว่านี้ก็ต้องเป็น The Mall ท่าพระ ที่อยู่ห่างจากตัวโครงการไปประมาณ 700 เมตรซึ่งเรื่องของการเดินเท้าไปห้างก็ย้อนกลับไปดูที่หัวข้อบริเวณโครงการด้านบนได้เลยครับ

– การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถ้าพูดถึงเรื่องเส้นทางนั้นสะดวกมากทีเดียวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ใกล้สะพานตากสินที่เป็นสะพานหลักในการเข้าเมืองไปยังโซนสาทร-สีลม สี่แยกรัชดา-ท่าพระที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการก็ใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางได้ดี ยกตัวอย่างเช่นหากวิ่งตามเส้นรัชดาภิเษกไปด้านเหนือก็เป็นถนนจรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้า หรือหากวิ่งไปตามเส้นราชพฤกษ์ก็ออกไปเส้นกัลปพฤกษ์ ถนนบรมราชชนนี พระราม 2 เพชรเกษมได้ ส่วนทิศใต้วิ่งขึ้นสะพานกรุงเทพ 2 หรืออีกชื่อคือสะพานพระราม 3 ใช้เดินทางตามเส้นพระราม 3 ไปยังคลองเตย อโศก ศูนย์ประชุมได้เลย จะมีปัญหาก็แค่อย่างเดียวและถือเป็นปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องของรถติดนี้แหล่ะครับ อย่างที่เราๆทราบกันดีว่าแหล่งที่อยู่อาศัยตอนนี้ไปผุดขึ้นอยู่ตามเส้นรถไฟฟ้าใหม่และถนนราชพฤกษ์เยอะทำให้จำนวนรถที่มาใช้บริการถนนเส้นนี้ก็เยอะเป็นเงาตามตัวกันไป อีกเรื่องนึงก็คือเรื่องที่จอดรถที่มีให้ 454 คันจาก 1,339 ยูนิต คิดเป็นประมาณ 34% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ตัวเลขดูแล้วก็ลุ้นกันอึดอัดทีเดียว

– การเดินทางโดยใช้รถสาธารณะตัวเลือกหลักเลยเป็น BTS แน่นอนด้วยตัวสถานีที่อยู่ห่างออกไปแค่ 320 เมตร เดิน 5 นาทีก็ถึงจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด จะติดก็ตรงที่ช่วงดึกถนนฟุตบาทแถวนั้นจะค่อนข้างเปลี่ยว อาจจะไม่เหมาะกับการเดินเท้าสักเท่าไรโดยเฉพาะสุภาพสตรีทำให้ต้องเพิ่มต้นทุนการเดินทางโดยพี่วินมอไซค์อีกเล็กน้อย ตัวเลือกรองลงมาอย่าง Taxi ก็มีให้เรียกได้ตลอดอยู่แล้ว หรืออีกช่องทางที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ BRT รถเมล์ด่วนพิเศษที่สถานีอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 400 เมตร เส้นทางวิ่งคือพระราม 3-นราธิวาสฯ ไปจนถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรีเลย ค่าบริการก็ถูกมากแค่ 10 บาทตลอดสาย ถือว่ามีความยืดหยุ่นมากให้ลูกบ้านเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม

– ห้องและวัสดุ ขอพูดถึงแบบห้องสตูดิโอก่อน ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับไอดีโอ โมบิ ที่ได้รับรางวัล Best Interior Design มาจาก Asia Pacific Property แต่รายละเอียดค่อนข้างต่างกันโดยเฉพาะเรื่องของวัสดุที่โดนลดเกรดอยู่หลายจุดด้วยกัน ส่วนห้องขนาด 1 และ 2 ห้องนอนมีเพิ่มออฟชั่นระเบียงแบบ Semi-Outdoor ให้โดยการทำกระจกบานเลื่อนอีกชั้นนึงที่รั้วระเบียงด้านนอกซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์มากขึ้น และแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะมีห้องน้ำให้แค่ห้องเดียวซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสียคือได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นแต่หากมีความต้องการใช้ห้องน้ำพร้อมกันก็ต้องต่อคิวล่ะครับ

– สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานตั้งอยู่ที่ชั้น 7 สระว่ายน้ำขนาด 25 เมตรพร้อมฟิตเนส, โซเชี่ยลคลับ และห้องสมุด แต่ประเด็นที่มองข้ามไม่ได้เลยคือเรื่องของจำนวนยูนิตที่มากถึง 1,339 ยูนิต ทำให้อัตราส่วนของของผู้พักอาศัยกับสิ่งอำนวยความสะดวกดูหนาแน่นตามไปด้วย อย่างเรื่องลานจอดรถที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว ลิฟท์โดยสารมี 5 ตัวคิดเป็น 1:268 อาคารสูง 31 ชั้น เวลาเร่งด่วนคงรอนานมีเมื่อยกันบ้างล่ะ

คะแนน

* การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ *
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทรศัพท์: 0-2316-2222
Website: http://www.ideocondo.com/sathorn-thaphra/index.php

EP.264 รีวิว คอนโด มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 และ ศูนย์วัฒนธรรม

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 คอนโดแบบ Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 320 ยูนิต ซึ่งโครงการนี้เป็น Maestro โครงการแรกที่ขึ้นเป็นอาคารหมู่นะคะ ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 29 ตร.ม. พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นอิตาเลียนแต่งมาให้แบบ Fully Furnished ในราคาเริ่มต้นประมาณ 3.5 ล้านบาท โดยมีที่ตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่รัชดาภิเษกประมาณ 200 เมตร, MRT พระราม 9 ประมาณ 800 ม. และ MRT ศูนย์วัฒนธรรม ประมาณ 600 เมตร

ด้วยความที่เป็นโซนที่อยู่ในย่าน New CBD พระราม 9 จึงเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูงมาก เพราะใกล้ห้างใหญ่อย่างฟอร์จูนกับเซ็นทรัลพระราม 9 ในระยะที่เดินถึงได้สบายๆ ใกล้ MRT และแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน แถมอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนด่านพระราม 9 อีกด้วย วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปเดินสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูห้องตัวอย่างกันค่ะ ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร : )

ที่ตั้งโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 ตั้งอยู่ในรัชดาภิเษกซอย 3 หรืออีกชื่อคือซอยข้างสถานฑูตจีน เนื่องจากจะมีสถานฑูตจีนตั้งอยู่ที่หัวมุมทางเข้าซอยค่ะ ซอยนี้เชื่อมอยู่ระหว่าง ถนนใหญ่รัชดาภิเษก (200 เมตรถึงโครงการ) และถนนประชาสงเคราะห์ (2.3 กิโลเมตรถึงโครงการ) ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมและสถานีพระราม 9 ค่ะ ระยะทาง 600 เมตรและ 800 เมตร ถ้าไม่อยากเดินนั่งมอเตอร์ไซค์จากวินหน้าโครงการไป MRT พระราม 9 หน้าฟอร์จูนก็คิดค่าโดยสาร 10 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ในอนาคตเมื่อโครงการเสร็จจะมี Shuttle Bus ไปส่งที่ MRT พระราม 9 และ MRT ศูนย์วัฒนธรรมให้อีกด้วยค่ะ

จากที่ตั้งโครงการในซอยรัชดาภิเษก 3 สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก, ถนนประชาสงเคราะห์หรือออกถนนดินแดงก็สามารถขับออกไปได้หมด ข้อดีอีกอย่างคือห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรีชประมาณ 1.3 กม.เท่านั้นค่ะ จะไปพญาไท หรือไปต่อมอเตอร์เวย์ไปสุวรรณภูมิก็ง่าย

จากถนนรัชดาภิเษกจะออกมาโครงการมาเอสโตรจะอยู่ฝั่งถนนมุ่งหน้าไปลาดพร้าวนะคะ หรือจะเข้าเมืองไปอโศก สุขุมวิท จุดกลับรถก็อยู่ไม่ไกล แต่เพราะเป็นทำเลในเมืองที่มีปริมาณรถมาก เวลาเข้าออกมีรถติดบ้างเป็นธรรมดานะคะ ก็ต้องหาทางลัดเลาะกันไปดีๆ สมมติใครอยากเลี่ยงรถติดที่แยกพระราม 9 เราก็สามารถเลี้ยวเข้าถนนถนนวัฒนธรรมไปออกแยกอสมท. ที่ถนนพระราม 9 แต่เลยเส้นแยกพระราม 9 ไปหน่อยได้ค่ะ เรื่องทางลัดเลาะนี่ต้องดูไว้เยอะๆค่ะ ประหยัดเวลาเดินทางให้เราได้มากจริงๆ

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนเพชรบุรี → แยกเพชรบุรี → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอโศก – ดินแดง → ตรงมาแยกพระราม 9 → ตรงไปถนนรัชดาภิเษก → เลี้ยวซ้ายเข้ารัชดาซอย 3 → ตรงไปประมาณ 200 เมตร เจอโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 อยู่ทางขวามือ

เราเริ่มเดินทางกันจากถนนเพชรบุรีมุ่งหน้าไปที่แยกเพชรบุรีค่ะ เวลามาเราไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกแต่ขับตรงมาที่แยกแบบนี้ จะเห็นป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟฟ้ามักกะสันอยู่นะคะ ถ้าเห็นคือมาถูกทางละ

เลยมาหน่อยจะเจอแยกเพชรบุรี เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอโศก – ดินแดง

จากถนนอโศก-ดินแดง เราจะขับผ่าน MRT สถานีเพชรบุรี ที่ตั้งอยู่สองข้างทาง ด้านหน้าจะเห็นรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ทลิงก์และทางเดิน Sky Walk ที่เชื่อมระหว่างแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน และ MRT เพชรบุรี เราก็ตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ

จาก Sky walk มองไปที่แอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสัน: ข้างๆแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสันก็คือที่ดินมักกะสันที่มีแผนปรับปรุงเป็นมักกะสัน Complex นั่นเอง

และในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่สีเขียวแปลงใหญ่บริเวณมักกะสัน 497 ไร่ ซึ่งห่างจากโครงการ Maestro 03 ประมาณ 1.5 กม. กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรียกว่าโครงการยักษ์ระดับประเทศที่เคยพับเอาไว้ได้ถูกรื้อกลับมาอีกครั้งกับโครงการ “มักกะสันคอมเพล็กซ์” ที่คราวนี้มาในเวอร์ชั่นของ คสช. ซึ่งถ้าคนที่ตามข่าวจะพอทราบนะคะ ว่ากลุ่มนายทุนมาริน่าเบย์แซนด์ที่ทำคาสิโนยักษ์ที่สิงคโปร์ก็อยากได้ที่ดินตรงนี้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่ม คลิก

เรื่องกลุ่มนายทุนที่จะเข้ามาลงทุนกับพื้นที่ส่วนนี้ จนวันนี้ก็ยังไม่สรุปนะคะ ว่าเป็นเจ้าไหนกันแน่ ใครวงในมาแชร์กันดูนะคะ แต่ที่แน่ๆคือสวนสาธารณะขนาดใหญ่และพิพิธภัณฑ์กว่า 180 ไร่ ตามแผนนี้คือคอนเฟิร์มแล้วว่ามีแน่นอน ก็ถือเป็นโครงการสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ในระยะใกล้โครงการแบบนั่ง MRT มาสถานีเดียวถึงนะคะ (นั่ง MRT สถานีพระราม 9 มาลง สถานีเพชรบุรี)

ตรงมาอีกหน่อยจะเห็นทางด่วนศรีรัช ซึ่งนี่เป็นจุดขึ้นลงทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ คือห่างจากโครงการ Maestro 03 เพียง 1.3 กม. ด้านหน้าตอนนี้เราจะเห็นโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่หลายโครงการเลยค่ะ ทั้ง Rhythm Asoke, Rhythm Asoke II, The grand Rama9 และตึกที่สร้างเสร็จก็มีคือ Aspire Rama9 เราตรงลอดใต้ทางด่วนศรีรัชไปค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอแยกพระราม 9 จุดสังเกตคือข้างหน้าเราจะเจอสะพานข้ามแยกพระราม 9 ฟอร์จูนทาวน์ โรงแรม Grand Mercure และที่กำลังก่อสร้างอยู่เด่นๆเลยคือตึก The Grand Rama 9

The Grand Rama 9 นี่เป็นโปรเจคใหญ่มาก ที่พูดได้ว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยโครงการเลยก็ว่าได้ เป็นโปรเจคทำจะทำให้ย่านนี้กลายเป็น New CBD ของกทม. อีกแห่ง ก็จะมีตึกที่สูงที่สุดในประเทศหรือซุปเปอร์ ทาวเวอร์ อยู่ที่นี่ด้วยนะคะ อธิบายแบบคร่าวๆคือ จะเป็นหมู่อาคารที่มีทั้งอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม และคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัย ซึ่งตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างอยู่นะคะ

โครงการที่ก่อสร้างเสร็จไปแล้วจะมีโครงการ Belle Grand Rama9 ที่ด้านล่างตรงส่วน Podium นี่ร้านอาหารเยอะมาก ส่วนตัวเราเองก็ไปกินที่โซนนี้ค่อนข้างบ่อยค่ะ เพราะมีร้านที่ชอบให้เลือกหลายร้าน อย่างใครชอบกินซูชิฮิโระ จากโครงการ Maestro 03 นี่สามารถเดินข้ามถนนผ่านเซ็นทรัล พระราม 9 เข้าไปกินกันได้แค่ประมาณ 800 เมตรเท่านั้นนะคะ สาขานี้เป็นสาขาแรกและเปิดต่อเนื่องทั้งวันไม่มีรอบแบบซูชิฮิโระสาขาอื่นๆด้วย

เราตรงต่อไปนะคะ ถนนใหญ่รัชดาภิเษกเป็นถนน 8 เลน มีเกาะกั้นกลาง ซ้ายมือก็มีห้างใหญ่อย่าง ฟอร์จูน ทาวน์ ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 700 – 800 เมตร (แล้วแต่ว่าเดินเข้าประตูไหนนะคะ) ส่วนขวามือก็มีห้างเซ็นทรัลพระราม 9 และ The Grand Rama 9 ที่กำลังก่อสร้างอยู่

ตรงมาอีกหน่อยจะเห็นป้าย Maestro03 สีส้มๆอยู่ แสดงว่าใกล้ถึงรัชดาซอย 3 แล้วค่ะ ที่เด่นๆถือเป็นอีก Landmark ของโซนนี้คงจะเป็นอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ AIA Capital Center ด้านหน้า

ตรงมาอีกหน่อย จะเจอรัชดาซอย 3 แล้วค่ะ ตรงหัวมุมทางเข้าซอยคือกำแพงของสถานฑูตจีนค่ะ

เลี้ยวซ้ายเข้ารัชดาซอย 3

รัชดาซอย 3 เป็นถนน 2 เลนรถสวนกันได้ มีอีกชื่อนึงว่าซอยข้างสถานฑูตจีน เนื่องจากมีสถานฑูตจีนอยู่ที่หัวมุมซอยแบบนี้

ภายในซอยนอกจากจะมีร้านอาหารราคาไม่แพงอยู่หลายร้านมากๆ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย โดยเฉพาะโซนที่ดินโครงการ Maestro 03 นี่มี 7-11 ขนาบสองข้างเลย คือเข้ามาในซอยนี้พอเห็น 7-11 ปุ๊บถัดไปก็จะเป็นโครงการ Maestro 03 แล้วค่ะ

ถัดไปก็จะเจอโครงการ Maestro 03 อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ ก่อนจะพาไปดูรอบๆโครงการเราขอพาไปดูทางมาโครงการจาก MRT พระราม 9 กันนะคะ คิดว่าส่วนใหญ่คนน่าจะใช้ MRT พระราม 9 มากกว่า ศูนย์วัฒนธรรมนะคะ ถึงจะไกลกว่าหน่อยก็เถอะ เพราะอย่างแรกคืออยู่ใกล้ย่านอโศกอย่างสถานีสุขุมวิทมากกว่า และใกล้ฟอร์จูนกับเซ็นทรัลพระราม 9 ที่เป็นห้างที่ใกล้โครงการ

การเดินทางสำหรับคนไม่ใช้รถวันนี้เราเริ่มจาก MRT พระราม 9 เดินตรงมาทางลัดที่พี่วินชอบใช้ คือผ่านไปทางโลตัสฟอร์จูน (รัชดาซอย 1) แล้วเลี้ยวขวาเข้ารัชดาซอย 3 แล้วเลี้ยวซ้ายนิดนึงก็จะถึงโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 แล้วค่ะ

เราเริ่มกันจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 ประตู 1 หน้าฟอร์จูนนะคะ เราออกมาก็เลี้ยวซ้ายไปทางรัชดาซอย 3

มองไปถนนฝั่งตรงข้ามจะเห็นเซ็นทรัลพระราม 9 และ The Grand rama 9 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ข้างๆกัน สังเกตว่าจะมีทาง MRT อยู่ฝั่งนั้นด้วยนะคะ ถ้าเราจะไปเดินเซ็นทรัล ก็ข้ามไปถนนอีกฝั่งโดยผ่านทาง MRT ลอดใต้ถนนไปได้ค่ะ

เดินไปเรื่อยๆจะเห็นวินรถตุ๊กๆจอดอยู่เยอะเลย แถวนี้คนต่างชาติเยอะค่ะ น่าจะชอบนั่งกัน แต่ถ้าย่านนี้เราว่าแท้กซี่ดีกว่าค่ะ ราคาไม่ได้ต่างกันมาก(เผลอๆถูกกว่าตุ๊กๆด้วย)และไม่ต้องสูดควันท่อไอเสียจากถนนด้วย

ตรงไปอีกนิดจะเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์หน้า MRT พระราม 9 อยู่ วินแถวนี้ไม่มีติดป้ายราคาเหมือนวินอื่นๆนะคะ อย่างจะนั่งไปโครงการนี่ปกติคิด 10 บาท แต่จะนั่งไปไหนถามราคาก่อนก็ดีค่ะ

เราจะพาลัดเข้าไปทางรัชดาซอย 1 นะคะ ทางลัดนี้เราเดินเข้าไปทางเทสโก้ โลตัสของฟอร์จูน ไปทะลุหน้าโครงการได้ อยู่ช่องขวามือของทางขึ้นลานจอดรถตามลูกศรค่ะ

เดินเข้าไปดูกันเลยค่ะ

คือเป็นทางที่เหมาะกับตอนกลางวันนะคะ เพราะเป็นทางเชื่อมระหว่างห้างกับถนนรัชดาซอย 1 ไปออกรัชดาซอย 3 ส่วนใหญ่พวกวินมอเตอร์ไซค์จะชอบลัดมาออกทางนี้กัน ถ้าเดินปกติจะเข้าทางนี้หรือทางรัชดาซอย 3 ตรงๆเหมือนทางที่เราขับรถเข้ามาก็มีระยะไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ค่ะ

เดินมาอีกหน่อยก็จะออกไปเจอรัชดาซอย 1 แล้วค่ะ

รัชดาซอย 1 จะเชื่อมกับรัชดาซอย 3 ค่ะ ระหว่างทางเดินมาเราจะเห็นอาคารพาณิชย์แบบห้องแถวสูงประมาณ 4 ชั้น พร้อมร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านทำผม แนวๆนี้ไปตลอดทาง ก็ถือว่าเป็นชุมชนที่มีความสะดวกสบายสูงและมีคนอยู่มาก

เดินตรงมาตามทางจนถึงแยกดวงพร วินมอเตอร์ไซค์เค้าเรียกกันนะคะ เป็นแยกที่อยู่ใกล้โครงการ Maestro 03 ที่สุดแล้ว พอถึงแยกดวงพรเลี้ยวซ้ายเดินไปไม่ถึงสิบก้าวก็ถึงโครงการ Maestro 03

จุดสังเกตุคือซ้ายมือมีพี่วินมอเตอร์ไซค์หน้าคลินิกรัชดา ฟันสวย ก็เป็นวินที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ จากตรงนี้ไป MRT คิด 10 บาท แต่ป้ายราคาหน้าวินที่นี่ก็จางไปหมดแล้วค่ะ ไปไหนถามราคาไว้ก่อนก็ดีค่ะ แต่ในซอยนี่คิดถูกกว่าหน้าฟอร์จูนนะ

ที่แยกดวงพรจะมี 7-11 ที่ค่อนข้างใหญ่อยู่ค่ะ 7-11 นี้แทบจะอยู่ติดกับที่ดินโครงการเลย คั่นด้วยห้องแถวหน้ากว้างประมาณ 5 เมตรเท่านั้น ก็ถือว่าสะดวกทีเดียว

ฝั่งตรงข้าม 7-11 มีร้านอาหารอยู่หลายร้านค่ะ ร้านก๋วยจั๊บญวณนี่ก็ดูน่าลองดี

เดินจาก 7-11 มาหน่อยจะเห็นโครงการ Maestro 03 อยู่ขวามือแล้วค่ะ

จาก map จะเห็นว่าบรรดาห้างใหญ่ ตลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆจะมาเกาะตัวกันอยู่บนเส้นถนนรัชดาภิเษกเป็นหลักนะคะ ในรัศมี 1 กิโลเมตร นี่จะมีทั้งห้างฟอร์จูน, เซ็นทรัลพระราม 9, Belle Rama 9, เอสพลานาด, ตลาดนัดรถไฟรัชดา และตลาดละลายทรัพย์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายสูง

รวมถึงในรัชดาซอย 3 ที่มี 7-11 อยู่ใกล้แทบจะขนาบสองฝั่งของโครงการ Maestro 03 ก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้อาคารพาณิชย์รอบๆโครงการก็มีร้านอาหาร ร้านขายยา คลินิก ร้านเสริมสวย และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากเนื่องจากเป็นโซนที่พักอาศัยอยู่แล้ว

สถานที่สำคัญใกล้โครงการ

• ฟอร์จูน ทาวน์ ประมาณ 500 m.
• เซ็นทรัลพระราม 9 ประมาณ 700 m.
• Belle Rama 9 ประมาณ 850 m.
• เอสพลานาด รัชดา ประมาณ 800 m.
• โรงแรม Grand Mercure ประมาณ 800 m.
• โรงพยาบาลพระราม 9 ประมาณ 1.8 km.
• โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ประมาณ 3.2 km.
• โรงพยาบาลกรุงเทพ ประมาณ 4.3 km.
• โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ประมาณ 2.1 km.
• โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ประมาณ 2.8 km.
• มศว ประสานมิตร ประมาณ 2.2 km.

ตัวโครงการ

เราไปดูภาพรอบๆโครงการกันต่อะคะ โครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น รอบๆโครงการฝั่งทิศเหนือและตะวันตก(ซ้ายมือและด้านบนของที่ดินโครงการใน map)และทิศใต้(ฝั่งติดถนนรัชดาซอย 3) จะเป็นอาคารแนวห้องแถว ทาวน์เฮ้าส์สูงไม่เกิน 4 ชั้น ซึ่งถ้าเลือกชั้น 5 – 8 ขึ้นไปก็ไม่ถูกตึกรอบๆบังมากนัก ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือ(มุมขวาบนของที่ดินโครงการ) มีอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้นอยู่ ถ้าใครเลือกยูนิตฝั่งด้านนอกด้านนั้นก็จะถูกบังวิวอยู่เหมือนกันค่ะ แนะนำให้เลือกยูนิตฝั่งด้านในแทนดีกว่า

เอา Master Plan ของโครงการ Maestro 03 รัชดา มาให้ดูค่ะ วางพวกความสูงอาคารรอบๆมาให้เห็นภาพง่ายขึ้นด้วย เดี๋ยวเรามีภาพอาคารรอบๆโครงการมาให้ดูค่ะ จากผังจะเห็นว่าเป็นอาคารหมู่ 3 อาคาร โดยอาคาร A อยู่ติดถนนซอย ด้านหน้าทางเข้านะคะ ชั้นล่างของอาคาร A จะไม่มียูนิตที่พักอาศัยแต่จะเป็น Lobby และนิติบุคคล มีลานจอด Superbike อยู่ข้างๆทางเข้าอาคารด้วยค่ะ

อาคาร B เข้ามาจะเป็นโถงลิฟต์ และจะมีประตูแบบสแกนการ์ดเปิดเข้าไปส่วนยูนิตที่พักอาศัยที่จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลยนะคะ ฝั่งด้านนอกหันไปทางทิศตะวันตกหรือฝั่งถนนประชาสงเคราะห์ ส่วนห้องฝั่งด้านในโครงการอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางอย่างพวกสระว่ายน้ำกับห้องฟิตเนส

อาคาร C ด้านนอกโครงการหันไปทางทิศตะวันออกหรือฝั่งถนนรัชดาภิเษก ด้านในโครงการอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 1 เช่นกันค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง ถูกจัดอยู่ใน Courtyard ที่ถูกล้อมด้วยอาคาร A, B และ C พื้นที่หลักๆประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8 x 16 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร ห้องฟิตเนสขนาด 5 x 15 m. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง ลานสวนหมากรุกแบบอังกฤษ และทางวิ่งรอบโครงการ

แผนผังห้องชั้น 2 – 8 จริงๆแทบไม่ต่างกันเลยนะคะ แต่จะต่างกันที่ความหนาแน่นของยูนิต อย่างอาคาร B ชั้น 2 – 4 มี ความหนาแน่นยูนิต 15 ยูนิตต่อชั้น ชั้น 5 – 8 จะเหลือ 14 ยูนิตต่อชั้นเพราะรวมยูนิตมุมสองยูนิตเป็นห้องเดียวกันแบบนี้ค่ะ แต่ความหนาแน่นก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่อยู่ดี ทิศทางและวิวด้านนอกด้านในก็ต้องพิจารณาโดยชั่งน้ำหนักความต้องการของเราและราคากันตามความพอใจอีกทีค่ะ

ส่วนตัวเราแนะนำวิวยูนิตฝั่งด้านในมากกว่าด้านนอกนะคะ เพราะเห็นวิวสระกับสวนสวยๆ ถ้าให้ดูเรื่องลมและแดดเพิ่มมาเราว่าวิวฝั่งด้านในของอาคาร C นี่ได้ลมดีแน่นอน แดดก็ไม่ร้อนด้วยค่ะ หรือจะอาคาร B กับ C ฝั่งด้านนอก ถ้าเป็นเราเราได้ทั้งคู่ค่ะ แต่เอียงมาทาง C มากกว่า แต่อาคาร B อาจเจอแดดบ่ายที่แรงกว่าเพราะหันหน้าเข้าหาทิศตะวันตกนะคะ

อาคาร C ด้านนอกมุมตะวันออกเฉียงเหนือนี่ลมดีแน่นอน แต่เจออพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้นบังวิว อันนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูนะคะ แต่เราก็คิดว่ามันดีตรงที่ห้องจะไม่ร้อน คือมันประหยัดแอร์ดี ส่วนอาคาร A ถึงฝั่งด้านนอกหันไปทางด้านทิศใต้ฟังดูร้อนหน่อย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ร้อนเพราะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นในซอยบังแดดให้อยู่ แต่ชั้นบนๆอาจเจอแดดร้อนกว่าฝั่งอื่นอยู่ซักหน่อยค่ะ ส่วนฝั่งยูนิตด้านในของอาคาร A นี่ลมดีแสงเบาๆกำลังสบายเลยเพราะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งสำหรับในไทยนี่เป็นทิศที่ดีที่สุดอยู่แล้ว แถมความหนาแน่นต่ำกว่าอาคารอื่นด้วย ก็เป็นอีกโซนนึงที่น่าซื้อค่ะ

ไปดูรอบๆโครงการกันต่อค่ะ จากด้านหน้าโครงการหันมาทางฝั่งรัชดาซอย 3 ฝั่งตรงข้าม (ทิศใต้)จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นเป็นแนวยาวแบบนี้ค่ะ ด้านหน้านี่ก็มีร้านขายแว่น ร้านขายยา ร้านทำผมและร้านขายอาหารตามสั่ง อาจไม่ใช่โซนที่ดูหรูหราอะไร แต่ก็มีประโยชน์และสะดวกและอุดมสมบูรณ์ดี แถมยังมี 7-11 ขนาบ 2 ฝั่งด้านข้างที่ดินโครงการด้วย

ฝั่งรัชดาซอย 3 ฝั่งตรงข้าม (ทิศใต้) จากด้านในรั้วโครงการค่ะ จะได้เห็นภาพรวมมากขึ้น

จากที่ดินโครงการมองไปทางทิศเหนือ วิวจะยังโล่งๆอยู่ค่ะ แต่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือมุมขวาของภาพจะมีตึกสูง 8 ชั้นอยู่

หน้าตาตึกเป็นแบบนี้ค่ะ โซนนี้อยู่ติดอาคาร C ด้านนอกนะคะ

มองไปทางฝั่งทิศตะวันตกเป็นทาวน์เฮ้าส์สูง 2-3 ชั้น แบบนี้ค่ะ ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือหรือมุมขวาของภาพจะติดกับอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้นสีฟ้าขวามือของภาพ ฝั่งนี้จะอยู่ติดกับอาคาร B ค่ะ

สำนักงานขาย

เข้าไปดูสำนักงานขายโครงการ Maestro 03 กันต่อค่ะ

ภายในสำนักงานขายโครงการตกแต่งมาในสไตล์คล้ายๆกับ Lobby โครงการจริงนะคะ คือใช้กระเบื้องลายก้างปลา หน้าต่างทรงสูง และเส้นแนวตั้งเป็นระแนวตกแต่งผนังช่วยนำสายตาขึ้นไปที่เพดาน

เอาภาพจำลองล็อบบี้โครงการมาเทียบให้ดูค่ะ

ในสำนักงานขายจะมีโมเดลโครงการอยู่นะคะ

รั้วโครงการสูง 3 เมตร มาในลุคคลาสสิคแบบยุโรปเข้ากับตัวอาคาร มีติดไฟกำแพงรั้วสำหรับตอนกลางคืนสลับกับรั้วพุ่มไม้ ส่วนเปลือกอาคารหรือ Facade ทำมาแบบเป็นผนังกรุมีคิ้วและเล่นเชิงให้ลุคแบบคลาสสิคหรูหรา โทนสีเทาเข้ากับอาคารที่ทำพื้นผิวเป็นแนวกำแพงหินแบบนี้

ซุ้มทางเข้าของจริงจะมีรั้วกระดกและเข้าออกโดยแตะ Access Card ผ่านเข้าไปนะคะ สังเกตว่าทำทางสำหรับคนเดินเข้าโครงการมาให้ด้านข้างด้วย แต่ละอาคารจะมีทางเข้าสู่ลานจอดรถชั้นใต้ดินที่บริเวณชั้น B1 และ B2 แยกจากกันทั้ง 3 อาคารทำให้เราสามารถกดลิฟท์จากชั้นลานจอดรถขึ้นไปยังห้องพักของเราเองได้เลยโดยไม่ต้องผ่านอาคารอื่นนะคะ

มีลู่วิ่งรอบอาคารแบบนี้

ห้องชั้น 1 นี่เท่ดี คือเป็นยูนิตที่มีลานนั่งเล่นที่เหมือนเป็นสวนเล็กๆของตัวเองด้วย โดยจะมีรั้วไม้พุ่มกันความเป็นส่วนตัวให้จากลู่วิ่งรอบๆอาคารนะคะ

ภาพจำลองลู่วิ่งรอบโครงการค่ะ รั้วพุ่มไม้เป็นแนวยาวแบบนี้ให้ลุคแบบพวกเขาวงกตในสวนอังกฤษดี

มาดูส่วนคอร์ทยาร์ดกันต่อ อาคารทั้งสามจะล้อมส่วนพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและส่วนห้องฟิตเนสเอาไว้นะคะ ระยะห่างระหว่างตึก B กับ C บริเวณส่วนคอร์ทกลางโครงการนี่อยู่ที่ 19 เมตร ซึ่งห่างกันพอสมควรเลยนะคะ

ภาพจำลองรูปด้านของพื้นที่ส่วนกลางและอาคาร C ค่ะ จะเห็นว่าไม่ได้ทำส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้าเหมือนกับ Maestro โครงการอื่นๆนะคะ จากรูปด้านนี้จะเห็นบันไดทางขึ้นไปส่วนห้องฟิตเนสเหนือสระว่ายน้ำอยู่

ห้องฟิตเนสอยู่ชั้นลอยด้านบนสระว่ายน้ำนะคะ ห้องฟิตเนสมีขนาด 5 x 15 m. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง ผนังโดยรอบเป็นกระจกใสมองออกไปเห็นวิวคอร์ตยาร์ดของอาคาร

ภาพจำลองส่วนสระว่ายนำ้ค่ะ สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 16 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร รอบๆสระจัดที่นั่งข้างสระมาให้โดยรอบแบบนี้

สระว่ายน้ำจะมีส่วนที่เป็นสระในร่มหรือส่วนสระที่อยู่ใต้ห้องฟิตเนสชั้นบนให้ว่ายเล่นหรือนอนแช่น้ำเล่นในวันที่อากาศร้อนๆด้วยค่ะ

มองไปที่อีกฝั่งของสระว่ายน้ำจะมีสวนหมากรุกและซุ้มต้นไม้พร้อมเก้าอี้นั่งเล่นมาให้แบบนี้

สิ่งอำนวยความสะดวกจะอยู่ชั้นล่างหมดเลยนะคะ รายละเอียดดังนี้

• จุดจอดรับส่งหน้าล็อบบี้ (Drop off)
• ป้อมรักษาความปลอดภัย (Guardhouse)
• ล็อบบี้ใหญ่ที่อาคาร A (Elegant Lobby)
• กล่องจดหมายส่วนตัว (Secure Postbox)
• ห้องซักรีด (Laundry Room)
• จุดจอดจักรยาน (Bike Rack)
• ลานจอดซูเปอร์ไบค์ (Superbike Parking)
• ฟิตเนสบนชั้นลอยเหนือสระว่ายน้ำ (Mezzanine Fitness Arena)
• ห้องสตีม (Steam Room)
• ห้องซาวน่า (Sauna Room)
• สระว่ายน้ำกึ่งในร่ม (Semi Indoor Pool)
• สระว่ายน้ำสไตล์ยุโรป (Reflecting Pool)
• ผนังตกแต่ง (Feature Wall)
• ที่นั่งพักผ่อนริมสระ (Pool Deck)
• เก้าอี้พักผ่อนริมสระ (Pool Seat)
• ซุ้มอ่านหนังสือ (Reading Cabin)
• ซุ้มทำอาหาร (Gourmet Cabin)
• ลานบาร์บีคิว (BBQ Patio)
• ซุ้มคนรักสัตว์เลี้ยงเพราะที่นี่เลี้ยงสัตว์ได้บางชนิดนะคะ (Pet-Lover’s Cabin)
• สวนหิน (Reflexology garden)
• ทางวิ่งจ๊อกกิ้ง (Jogging Trail)
• ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น (Basement Parking)
• อินเตอร์เน็ตไร้สาย 24 ชม. (24/7 Wireless Internet)
• ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. (24/7 Security Service)
• บริการรถรับส่งไป MRT พระราม 9 และ MRT ศูนย์วัฒนธรรม (SHUTTLE SERVICE)

เปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วนครัวมองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นที่เปิดออกไประเบียงได้ พื้นส่วนของครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 6o cm.และส่วนของห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะใช้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. เพดานห้องสูง 2.45 เมตร ส่วนที่ดรอปฝ้าลงมาสูง 2.2 เมตร ไฟติดเพดานได้ตามที่เห็นค่ะ

มองกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องจะเห็นภาพรวมส่วนครัวและส่วนทางเข้าห้องแบบนี้

ชุดครัวที่ได้เป็นของ Starmark พร้อมโต๊ะกินข้าวสองที่นั่งแบบพับเก็บได้ เราสามารถใช้เป็นที่ประกอบอาหารเพิ่มได้นะคะ หรือถ้าไม่ค่อยได้ใช้(เพราะเป็นคนไม่ค่อยกินข้าวบ้าน) ก็สามารถพับเก็บเข้าไปได้ ทางเดินก็จะโล่งขึ้น หน้าบานตู้เป็นไฮกรอสสีขาวดูเรียบหรู

เปิดที่เก็บของในชุดครัวให้ดูค่ะ มีชั้นลอยมาให้เก็บจานชามหรือสิ่งของด้านบนเพิ่มได้ ชั้นล่างใต้อ่างล้างจานเปิดมาจะมีถังขยะพร้อมฝาปิดอยู่ด้วย

บานเปิดชุดครัวจะมี Soft closed ปิดแล้วไม่มีเสียงดังหรือเสียงกระแทก

มีโต๊ะกินข้าวพับได้ที่ติดมาจากชุดครัว เอาไว้ใช้งานกินข้าว วางของเพิ่มหรือเวลาไม่ใช้จะพับเก็บเข้าไปเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้เกะกะทางเดินก็ได้

ท้อปครัวเป็นหินควอตซ์สีขาว ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux ส่วนอ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลส หลุมสี่เหลี่ยมไม่มีที่พักจานของของ Mex

ใต้เตาไฟฟ้ามีช่องสำหรับวางไมโครเวฟและลิ้นชักมาให้ด้านล่าง

ฝั่งตรงข้ามชุดครัวติดกับประตูทางเข้าห้องจะมีตู้เก็บของมาให้ หน้าบานเป็นไฮกรอสสีขาวเข้าชุดกัน สังเกตที่พื้นมี Door Stopper กันประตูห้องกระแทกหน้าบานตู้เก็บของมาให้

เปิดตู้ให้ดูนะคะ ส่วนที่อยู่ติดประตูจะมีช่องที่เหมาะวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาให้ ฝั่งขวามือทำเป็นตู้รองเท้าและมีช่องที่จะใช้วางอุปกรณ์ทำความสะอาดหรืออุปกรณ์กีฬามาให้

ซูมพื้นลามิเนตส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นแกรนิตโต้ส่วนครัวให้ดูใกล้ จะเห็นจบพื้นเป็นไม้ลามิเนตแบบนี้

มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 1.5 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 นิ้วนะคะ

ชั้นวางทีวีปิดผิวลายไม้สีอ่อนของจริงจะได้ตามนี้ แต่ได้เฉพาะส่วนชั้นด้านล่างนะคะ เราเปิดหน้าบานสองฝั่งและลิ้นชักมาให้ดู ชั้นลอยด้านบนนี่ของจริงไม่ได้นะคะ ทำมาให้ดูเป็นไอเดียกัน

โซฟาให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะข้างและโต๊ะกาแฟ สังเกตว่าเหลือที่ด้านข้างโซฟาพอทำชั้นวางของเพิ่มได้อีกชั้น

โต๊ะกาแฟมาและโต๊ะข้างเป็นโต๊ะไม้สีเข้มขนาดกะทัดรัดแบบพอวางหนังสือ แก้วกาแฟ หรือมือถือได้ ชอบโต๊ะข้างที่ให้มานะคะ สังเกตดีไซน์ขาโต๊ะเป็นรูปตัว C ทำให้เราสามารถสอดขาโต๊ะข้างไปใต้โซฟาแล้วใช้วางโน้ตบุ๊ค ไอแพดนั่งเล่นบนโซฟาได้สบายๆ หรือจะใช้เป็นโต๊ะวางจานสำหรับกินข้าวเล็กๆหน้าทีวีสบายๆก็ได้เหมือนกัน

จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ที่เปิดออกมาระเบียงได้ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นห้องปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.

ข้อดีของการใช้ประตูบานเลื่อนแบบสามตอนคือทำให้เราได้ช่องเปิดที่กว้างขึ้นมากกว่าบานเลื่อนแบบ 2 ตอนนะคะ ที่ระเบียงจะมีส่วนราวกันตกสีเทามีเล่นดีเทลตกแต่งนิดหน่อยเป็นลุคแบบคลาสสิคตามคอนเซ็ปอาคาร ขวามือเป็นกริลช่องเปิดเข้าไปส่วนที่วางแอร์คอมเพรสเซอร์

ตัวกริลแอร์จะเป็นซี่เฉียงรูปตัว Z เพื่อดันลมออกไปนอกระเบียงแบบนี้

แอร์ได้ของ Trane หรือแบรนด์เทียบเท่านะคะ 1 Bedroom ได้ 2 เครื่องคือที่ห้องนั่งเล่นกับห้องห้องนอน

เข้าไปดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ ห้องของจริงประตูจะมีบานปิดมาให้นะคะ ส่วนสวิตช์ไฟเป็นสีทองอมบรอนซ์ดูหรูหราจากแบรนด์ SIEMENS

ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ฐานเตียงเราได้ตามที่เห็นนะคะ แต่เราเลือกสีอ่อนสีเข้มได้อย่างที่แจ้งไปข้างต้นค่ะ ส่วนห้องนอนมีหน้าต่างบานสูงมาให้ด้านข้าง 1 ชุด คือด้านล่างจะเป็นบานฟิกซ์เปิดปิดไม่ได้ เป็นช่องแสงเฉยๆ ส่วนด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ค่ะ ปลายเตียง มีระยะเหลือประมาณ 30 ซม. คือพอเดินไปเดินมาได้ แต่ไม่เหมาะวางชั้นวางทีวีนะคะ ถ้าอยากติดทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนผนังแบบในห้องตัวอย่างมากกว่าค่ะ

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างกว้างประมาณ 40 ซม. วางโต๊ะข้างมาให้

มองไปที่อีกฝั่งของห้องนอนจะมีโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และทางไปห้องน้ำอยู่

โต๊ะทำงานนี่ถ้าเปิดกระจกตั้งขึ้นมาก็ใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ ถ้าปิดลงมาก็ใช้เป็นโต๊ะทำงาน ชั้นลอยด้านบนทำมาให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆนะคะ ของจริงได้เฉพาะโต๊ะกับเก้าอี้ค่ะ

ถัดมาเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ เป็นตู้ที่เหมาะสำหรับใช้ 1 คน ด้านหน้าตู้ติดกระจกเงามาให้ฝั่งนึง

เปิดออกมาจะมีที่เก็บของด้านบน ที่แขวนเสื้อผ้าบนล่างและลิ้นชักแบบนี้

เข้าไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อค่ะ

ธรณีประตูเป็นกระเบื้องผิวด้านแบบเดียวกันกับพื้นห้องน้ำค่ะ ส่วนพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนนิดหน่อย