คอนโด น็อตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา Notting Hill Sukhumvit -Praksa คอนโดใหม่ วิวทะเล-แม่น้ำ เริ่ม 1.09 ล้านบาท

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการ “น็อตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา” คอนโดใหม่ล่าสุด วิวทะเล และ แม่น้ำ ที่นี่ เร็วๆ นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิกที่นี่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-399-4466

WEBSITE : http://nottinghill.origin.co.th/

เอส คอนโด สมุทรสาคร S Condo โครงการใหม่จาก CP Land คอนโดใจกลางเมือง…แห่งแรกในสมุทรสาคร เริ่ม 899,000 บาท

เอส คอนโด สมุทรสาคร S Condo โครงการใหม่จาก CP Land คอนโดใจกลางเมือง…แห่งแรกในสมุทรสาคร เริ่ม 899,000 บาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนเศรษฐกิจ 1 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

UNIT TYPE

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 095-367-0912, 034-425-3534

WEBSITE : http://www.cpland.co.th/

คอนโด ฟินน์ อารีย์ Fynn Aree คอนโดใหม่ ใจกลางเมือง ใกล้ BTS อารีย์ 650 ม. เริ่ม 3.4 ล้านบาท

คอนโด ฟินน์ อารีย์ Fynn Aree คอนโดใหม่ ใจกลางเมืองย่านอารีย์ โครงการจาก บริษัท เยลโล่ฟินน์ ดิเวลลอปเม้นท์ ใกล้ BTS อารีย์ 650 ม. เริ่ม 3.4 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยอารีย์ 2 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 095-367-1800

WEBSITE : http://www.fynn.co.th/

คอนโด แอสปาย รัตนาธิเบศร์ Aspire Rattanathibet คอนโดวิวแม่น้ำพร้อมอยู่ ใกล้รถไฟฟ้าสีม่วง สถานีแยกนนทบุรี เริ่ม 1.89 ล้านบาท*

Aspire รัตนาธิเบศร์ คอนโดวิวแม่น้ำพร้อมอยู่ จาก AP เดินทางสะดวก ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ ติดถนนใหญ่ [ถนนรัตนาธิเบศร์] เพียง 400 เมตร จากรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกนนทบุรี “PACK YOUR BAG ” ฟรีเฟอร์ฯ + เครื่องใช้ไฟฟ้า+ฟรีส่วนกลาง 2 ปี+ค่าใช้จ่ายวันโอน 1 ยูนิตสุดท้าย พิเศษก่อนปิดโครงการ เพียง 1.89 ล้าน* [Update 24 dec 15]

ที่ตั้งโครงการ

ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

การเดินทาง

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่ ( Map 1 จากขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช – MRT แยกนนทบุรี1 )

(ต่อจากอันแรก) MRT แยกนนทบุรี1- Aspire รัตนาธิเบศร์

การเดินทาง ( ทางพิเศษศรีรัช (ด่านหัวลำโพง) > แจ้งวัฒนะ > งามวงศ์วาน > ทางพิเศษศรีรัช (ด่านประชาชื่น) > งามวงศ์วาน แคราย-สาธารณสุข > งามวงศ์วาน-แคราย > ถนนงามวงศ์วาน > แยกแคราย > ถนนรัตนาธิเบศร์ > สะพานกลับรถ > Aspire รัตนาธิเบศร์)

เราเริ่มจากทางด่วนศรีรัชที่ด่านหัวลำโพงค่ะ แล้วขับตรงตามป้าย แจ้งวัฒนะ เลยค่ะ

ขับตรงตามป้าย แจ้งวัฒนะ ไปยาวๆเลยค่ะ

จนถึงลงด่านประชาชื่น เสียค่าผ่านทางอีก 10 บาทค่ะ ขับตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร จะต้องเบี่ยงซ้ายไป งามวงศ์วาน แคราย-กระทรวงสาธารณสุข (ทางออก น.2-09)

ชิดซ้ายลง งามวาศ์วาน (แคราย-กระทรวงสาธารณสุข(ทางออก น.2-09)) ถ้าขวามือไปงามวงศ์วาน แยกพงศ์เพชร-ม.เกษตรนะค่ะ

ชิดซ้ายขับตรงประมาณ 500 เมตร แล้วจะเป็นทางให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน ค่ะ

เข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน ให้เบี่ยงขวาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกแครายค่ะ ตามป้ายบางบัวทอง เราจะผ่าน เอสพลานาด กับโลตัส รัตนาธิเบศร์ และศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรีทางขวามือค่ะ ซ้ายมือเป็น บริษัทไทยคม

ผ่าน MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี และ ศรีพรสวรรค์ค่ะ

ผ่านแยกที่เลี้ยวไปถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และ MRT แยกนนทบุรี 1 ขับตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงที่กลับรถใต้สะพานค่ะ

ถ้าตรงไปสะพานพระนั่งเกล้า แต่เราต้องกลับรถค่ะ จากนั้นขับตรงไปประมาณ 450 เมตรถึงโครงการแล้วค่ะ อยู่ซ้ายมือ

ถึงโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์

รอบโครงการ

สถานที่สำคัญ
– MRT แยกนนทบุรี 1 700 ม.
-MRT สะพานพระนั่งเกล้า 700 ม.
– ทางขึ้น-ลง พิเศษศรีรัช (ด่านประชาชื่น) 5 กม.
– Central รัตนาธิเบศร์ 900 ม.
– Robinson รัตนาธิเบศร์ 900 ม.
– Grand Home Mart 600 ม.
– รพ. พระนั่งเกล้านนทบุรี 2 กม.
– ม.ราชมงคลฯ สุวรรณภูมิ 1.5 กม.

คอนโดโดยรอบ
คอนโด เดอะซิตี้ รัตนาธิเบศร์ -แคราย
คอนโด สกายไลน์ รัตนาธิเบศร์
ลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์
คอนโด ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สถานีพระนั่งเกล้า-เจ้าพระยา
คอนโด เดอะทรัสต์ รัตนาธิเบศร์
คอนโด เอ สเปซ มี รัตนาธิเบศร์
คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รัตนาธิเบศร์
คอนโด ซิตี้โฮม รัตนาธิเบศร์
คอนโด เอสเตท รัตนาธิเบศร์
เดอะคอนเนค อัพ3 รัตนาธิเบศร์ 17
คอนโด ลุมพินี ปาร์ค รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน
คอนโด แอสปาย รัตนาธิเบศร์ 2
เดอะโฮเทล เซอร์วิส คอนโด
คอนโด แมเนอร์ สนามบินน้ำ
คอนโด ไนซ์ สูท สนามบินน้ำ 2

แปลนอาคาร

Ground Floor

5th Floor / 6th-24th Floor

แปลนห้อง

1 Bedroom : Type A

Type B (1 Bed)  /  Type C (2 Bed) / Type D (2 Bed)

แกลเลอรี

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1623
Website : http://www.apthai.com/Aspire/Aspire-Rattanatibet/home/

คอนโด แอสปาย งามวงศ์วาน Aspire Ngamwongwan ติดถนนใหญ่ ใกล้เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน พร้อมอยู่ปี 59 เริ่ม 1.59 ล้านบาท*

Aspire งามวงศ์วาน คอนโด High Rise 28 ชั้น 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ แบ่งเป็น North Tower, South Tower และ อาคารจอดรถ 9 ชั้น ห้องพักอาศัย 1,458  ยูนิต พร้อมสวนร่มรื่น และสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน ตัวโครงการติดถนนใหญ่ ถนนงามวงศ์วาน ใกล้เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน 5 นาที จากม.เกษตรฯ พร้อมอยู่ปี 59 จองวันนี้ ฟรี iPhone 6s 64 GB* เริ่ม 1.59 ล้าน* [Update 24 Dec 15]

ที่ตั้งโครงการ

ถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

แปลนอาคาร

ground floor

2nd floor / 3rd – 7th floor / 8th floor / 9th floor / 10th – 28th floor

แปลนห้อง

Type : B

แกลเลอรี่

สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 170/57 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 1 ชั้น18
ถนนรัชดาภิเษกตัดใหม่ คลองเตย กรุงเทพฯ 10110
Tel: 02-261-2518
Website : http://www.apthai.com/Aspire/Aspire-Ngamwongwan/home/

คอนโด แอสปาย รัตนาธิเบศร์ 2 Aspire Rattanathibet 2 คอนโดใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย พร้อมอยู่ปี 59 ราคาเริ่ม 1 ล้านต้นๆ

Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 คอนโด High Rise 25 ชั้น 2 อาคาร ห้องพักอาศัย 1,429 ยูนิต ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย เพียง 200 เมตร จากรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีศรีพรสวรรค์ และ 300 เมตร จากรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี พร้อมพื้นที่ธรรมชาติแนว Chic Of Wood + สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ทั้งภายนนอกและภายใน พร้อมอยู่ต้นปี 2559 ราคาเริ่มเพียง เริ่ม 1 ล้านต้นๆ [Update 24 Dec 15]

การเดินทาง

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง ( ทางพิเศษศรีรัช (ด่านหัวลำโพง) > แจ้งวัฒนะ > งามวงศ์วาน > ทางพิเศษศรีรัช (ด่านประชาชื่น) > งามวงศ์วาน แคราย-สาธารณสุข > งามวงศ์วาน-แคราย > ถนนงามวงศ์วาน > แยกแคราย > ถนนรัตนาธิเบศร์ > Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 )

เราเริ่มจากทางด่วนศรีรัชที่ด่านหัวลำโพงค่ะ แล้วขับตรงตามป้าย แจ้งวัฒนะ เลยค่ะ

ขับตรงตามป้าย แจ้งวัฒนะ ไปยาวๆเลยค่ะ

จนถึงลงด่านประชาชื่น เสียค่าผ่านทางอีก 10 บาทค่ะ ขับตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร จะต้องเบี่ยงซ้ายไป งามวงศ์วาน แคราย-กระทรวงสาธารณสุข (ทางออก น.2-09)

ชิดซ้ายลง งามวาศ์วาน (แคราย-กระทรวงสาธารณสุข(ทางออก น.2-09)) ถ้าขวามือไปงามวงศ์วาน แยกพงศ์เพชร-ม.เกษตรนะค่ะ

ชิดซ้ายขับตรงประมาณ 500 เมตร แล้วจะเป็นทางให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน ค่ะ

เข้า สู่ถนนงามวงศ์วาน ให้เบี่ยงขวาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกแครายค่ะ ตามป้ายบางบัวทอง เราจะผ่าน เอสพลานาด กับโลตัส รัตนาธิเบศร์ พอลงจากสะพานให้เบี่ยงซ้ายไว้นะค่ะตรงไปประมาณ 1 กม. เราจะผ่านMRTศูนย์ราชการนนทบุรี และ ศุภาลัย ปาร์ค และจะถึงโครงการค่ะ

หน้าโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ตรงกับทางลงของสะพานกลับรถค่ะ

บริเวณรอบโครงการ

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

สถานที่

– MRT ศรีพรสวรรค์ 350 ม.
– MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี 200ม.
– ทางขึ้น-ลง พิเศษศรีรัช (ด่านประชาชื่น) 3.5 กม.
– Big C รัตนาธิเบศร์2 350 ม.
– Central รัตนาธิเบศร์ 950 ม.
– Robinson รัตนาธิเบศร์ 950 ม.
– Grand Home Mart 1 กม.
– Lotus รัตนาธิเบศร์ 1 กม.
– Esplanade Cineplex รัตนาธิเบศร์ 1 กม.
– ตลาด อตก.3 2 กม.
– ศาลากลางจังหวัด นนทบุรี (ศูนย์ราชการนนทบุรี) 900 ม.
– สถานีขนส่งนนทบุรี 2 กม.
– วิทยาลัยพยาบาล 2 กม.
– กระทรวงสาธารณสุข 2.5 กม.

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

คอนโดโดยรอบ

คอนโด เอ สเปซ มี รัตนาธิเบศร์
คอนโด ซิตี้โฮม รัตนาธิเบศร์
คอนโด เอสเตท รัตนาธิเบศร์
เดอะคอนเนค อัพ3 รัตนาธิเบศร์ 17
คอนโด ลุมพินี ปาร์ค รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน
คอนโด เอ พลัส2 @รัตนาธิเบศร์11
เดอะโฮเทล เซอร์วิส คอนโด
คอนโด ศุภาลัย ปาร์ค แคราย-งามวงศ์วาน
คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รัตนาธิเบศร์
คอนโด ไวโอ แคราย
คอนโด ยู ดี ไลท์ รัตนาธิเบศร์
เดอะ ทรัสต์ คอนโด งามวงศ์วาน
คอนโด เดอะ พาร์คแลนด์ งามวงศ์วาน-แคราย
คอนโด น๊อตติ้ง ฮิลล์ ติวานนท์
คอนโด เอ พลัส รัตนาธิเบศร์-ติวานนท์

แปลนอาคาร

Ground Floor

2nd Floor / 3rd – 7th Floor / 9th – 25th Floor South Tower / 9th – 25th Floor North Tower

แปลนห้อง

Type A : 1 Bed

Room Type : Type B1 (1 Bed) / Type B2 (1 Bed) / Type C (2 Bed)

แกลเลอรี

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-950-4744
Website : http://www.apthai.com/Aspire/Aspire-Rattanatibet-2/home/

EP.272 รีวิว คอนโด M ทองหล่อ 10 M Thonglor 10

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ M ทองหล่อ 10 คอนโดแบบ High Rise 22 ชั้น มี 173 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 29 ตร.ม. พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นอิตาเลียนแต่งมาให้แบบ Fully Furnished ในราคาเริ่มต้นประมาณ 4.5 ล้านบาท โดยมีที่ตั้งอยู่ต้นซอยเอกมัย 12 ซึ่งเชื่อมต่อกับซอยทองหล่อ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในซอยที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ และสถานที่แฮงก์เอาต์ที่มีชื่อเสียงของทองหล่อค่ะ

ตัวโครงการ M Thonglor 10 ออกแบบมาอย่างล้ำสมัย โดยใช้แนวคิด Futuristic ด้วยการออกแบบโดยเน้นเส้นสายที่ไม่หยุดนิ่งของโลกอนาคต มาผสมผสานกับแสงสี เพื่อสร้างความรู้สึกและบรรยากาศที่สร้างสรรค์ และตั้งอยู่ในทำเลที่มีความสะดวกสบายสูงอย่างเอกมัย ทองหล่อ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย 1.3 กม. และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนศรีรัช โดยวันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปเดินสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูห้องตัวอย่างกันค่ะ ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร : )

ที่ตั้งโครงการ

ซ.เอกมัย 12 ถ.สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

พิกัด google: 13.730755, 100.586745

ที่ตั้งโครงการ M Thonglor 10 ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 12 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างซอยทองหล่อ 10 ซึ่งเป็นโซนที่ดินที่มีราคาสูงและอุดมสมบูรณ์มาก เนื่องจากทองหล่อและเอกมัยเต็มไปด้วยแหล่งอาหารการกินและแหล่งตระเวนราตรีที่ครึกครื้นและเต็มไปด้วยสีสัน โดยตัวโครงการจะอยู่ห่างจาก BTS เอกมัย ประมาณ 1.3 km.ในระยะเดิน รอบๆ ของกินเพียบบบค่ะ ออกมาเจอเอกมัย เชื่อมไปทองหล่อ ร้านอาหารเป็นร้อย เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall นอกจากสาธารณูปโภคเหล่านี้ก็ยังมี ปั๊มน้ำมัน อู่ซ่อมรถอยู่อีกด้วย

สำหรับคนไม่ใช้รถ โซนนี้มีทั้งแท้กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ แทบจะ 24 ชั่วโมงนะคะ นั่งมอไซค์จากโครงการออกมา 20 บาท ถึง BTS เอกมัยปุ๊ปก็สบายละ เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้ง สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ทั้ง เอมโพเรียม เอมควอเทียร์ เทอมินอล 21 ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก

สำหรับคนขับรถ จากที่ตั้งโครงการในซอยเอกมัย 12 สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนเอกมัย, ทองหล่อ และปรีดีพนมยงค์ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โดยความเหมือนกันของซอยเอกมัย ทองหล่อ และซอยปรีดีพนมยงค์คือเป็นซอยที่เชื่อมถนนสุขุมวิท เเละ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่เข้าด้วยกัน คู่ขนานอยู่ทั้งสองฝั่ง ซึ่งถ้าดูจากแผนที่ เราจะมองเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมที่มีซอยเอกมัยวางผ่ากลางอยู่

พอมองให้กว้างออกมาจากสี่เหลี่ยมนี้ จะเห็นว่าถัดจากสุขุมวิทก็จะเจอกับถนนพระราม 4 และถัดจากเพชรบุรีก็จะเป็นถนนพระราม 9 ซึ่งตรงนี้มีทางด่วนเอกมัย-รามอินทราด้วย ถนนที่ล้อมรอบเอกมัยพวกนี้รถติดทั้งนั้นค่ะ แต่ถ้ารู้จักใช้ทางลัดต่างๆที่อยู่รอบๆ เราจะพบว่าตรงนี้เดินทางด้วยรถยนต์ได้สะดวกทีเดียว

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ → ลงด่านเอกมัย → ตรงมาผ่านถนนเพชรบุรี → ตรงเข้าเอกมัย (สุขุมวิท 63) → ตรงไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเอกมัย 12 จะเจอโครงการ Maestro 03 รัชดา-พระราม 9 อยู่ทางซ้ายมือ

วันนี้เราเดินทางมาจากทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ลงด่านพระราม 9 เอมัยนะคะ

พอลงมาแล้วเราตรงตามป้ายเอกมัยไปเรื่อยๆ

ตรงผ่านถนนเพชรบุรีไปถนนเอกมัย สุขุมวิท

ถึงเอกมัยก็ตรงไปเรื่อยๆเลยนะคะ ซอยเอกมัยเป็นถนน 4 เลน มีทางเดินเท้าทั้ง 2 ฝั่ง 2 ข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายค่ะ เป็นซอยที่ครึกครื้นทั้งกลางวันกลางคืน เป็นซอยที่รองรับการขยายตัวและความเจริญจากซอยทองหล่อมาอีกที อย่างในภาพซ้ายมือเป็นเหมือนคอมมิวนิตี้มอลชื่อ nord ที่มีร้านอาหารด้านในหลายร้านเลยค่ะ ฝั่งตรงข้ามมีปั๊มบางจากอยู่

ตรงมาเรื่อยๆพอเจอ Park Avenue อยู่ทางฝั่งซ้ายมือก็ใกล้ถึงซอยเอกมัย 12 และทองหล่อ 10 แล้วค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอสี่แยก ที่ซ้ายมือจะเป็นซอยเอกมัย 12 ที่ตั้งโครงการ M ทองหล่อ 10 นะคะ ส่วนขวามือเป็นซอยทองหล่อ 10 ตรงไปจะไปออกถนนสุขุมวิทค่ะ ส่วนเราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเอกมัย 12 ไปโครงการนะคะ

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ต้นซอยใกล้ถนนเอกมัยอยู่แล้วนะคะ เข้ามาในซอยจะเจอสำนักงานขายอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ก่อนจะเข้าไปดูรายละเอียดโครงการ เรามีภาพการเดินทางสำหรับคนไม่ใช้รถจาก BTS เอกมัยที่ถนนสุขุมวิทมาให้ชมกันก่อนค่ะ

โครงการนี้สำหรับคนไม่ใช้รถก็ไปไหนมาไหนได้สะดวกเช่นกันนะคะ เนื่องจากอยู่ห่างจาก BTS เอกมัย ประมาณ 1.3 กม. สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปขึ้น BTS ได้ในราคา 20 บาท รวมถึงโครงการจะมี Shuttle bus หรือรถรับส่งคนในโครงการไปที่ BTS อีกด้วยค่ะ

เริ่มเดินทางกันจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย ติดกับสถานีเลยจะมีศูนย์การค้า เกตเวย์ เอกมัย (Gateway) มีร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นอยู่มากมายค่ะ เดินจากรถไฟฟ้าเข้ามาได้เลย มี MaxValue ด้วย แต่เกตเวย์ เอกมัยอยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยเอกมัยที่เราจะไปกันวันนี้นะ

เราออกทางออก 1

ทางออก 1 นี่พอลงบันไดมาจะเจอกับซอยเอกมัยพอดีค่ะ จะมีเมเจอร์เอกมัยอยู่หัวมุมทางเข้าซอยเอกมัย

จากหัวมุมพอเข้าเอกมัยมาซ้ายมือจะเจอร้านสหกรณ์กรุงเทพ ปิดสองทุ่ม มีซุปเปอร์มาเก็ต เเละร้านอาหารเหมือนกัน อันนี้ร้านอาหารจะเป็นเเนว food court ตึกนี้เชื่อมกับเมเจอร์ด้วยค่ะ เเล้วก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านหน้าด้วย

อัตราค่าโดยสารพี่วินค่ะ นั่งไปโครงการ M Thonlor 10 ในซอยเอกมัย 12 จ่ายเงิน 20 บาท

เข้าซอยมาหน่อยก็จะเจอ Park Lane Community Mall อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

ภายใน Park Lane มีร้านค้า ร้านอาหาร เสริมสวย รวมทั้ง Supermarket ด้วย ร้านอาหารออกแนวญี่ปุ่นๆหน่อย อย่าง ร้านปิ้งย่าง ชาบูชาบู ซูชิ etc. ร้าน Yakiniku Tan ชั้น 2 นี่ใครชอบกินเนื้อย่างร้านนี้อร่อยดีค่ะ มีเนื้อเด็ดๆให้เลือกหลายเลเวลเลย

ขับมาอีกหน่อย ทางฝั่งขวามือจะเจอบิ๊กซีที่มี Starbucks ดูดี มีร้านอาหารหลายเเนว เหมือน Community Mall ย่อมๆ มี Index livingmall อยู่ภายในด้วย

ตรงเข้ามาอีกจะเจอร้านสบายใจไก่ย่างอยู่ซ้ายมือ เป็นร้านส้มตำที่มีไก่ย่างสูตรเด็ดที่คนที่อยู่โซนนี้ชอบมากินกันอยู่ค่ะ ดังไปนอกประเทศกันเลยทีเดียว ตรงข้ามร้านสบายใจไก่ย่าง ขวามือของเราจะเป็นอาคารที่มีชื่อว่า เวิ้งโบราณ ร้านค้าตรงนี้จะเเนวๆหน่อย มีร้านอาหาร ร้านหนังสือ คาเฟ่น่ารักๆ จากโครงการก็สามารถเดินมานั่งชิวแถวนี้ได้สบายๆค่ะ

ถัดจากสบายใจไก่ย่างมาหน่อยจะเจอ 7-11 อยู่ซ้ายมือ 7-11 อยู่หัวมุมของซอยทองหล่อ 10 ซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างถนนทองหล่อและเอกมัยค่ะ ใครขาเที่ยวคงคุ้นกับซอยนี้ดีนะคะ นั่งเล่นเอย ฟังกี้วิลล่าเอย Muse เอย ส่วนเราเลี้ยวขวาเข้าซอยเอกมัย 12 นะคะ

เข้าซอยมานิดเดียวก็จะเจอโครงการ M Thonglor 10 อยู่ทางซ้ายมือแล้วค่ะ เราไปดูรอบๆที่ตั้งโครงการกันต่อเลยค่ะ

รอบโครงการ

เราไปดูภาพรอบๆโครงการกันต่อนะคะ โครงการ M Thonglor 10 เป็นคอนโด High Rise สูง 22 ชั้น รอบๆโครงการฝั่งทิศเหนือและตะวันออก(ด้านบนและด้านขวามือของที่ดินโครงการใน map) ติดกันกับที่ดินโครงการเลยจะเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ทางทิศตะวันออกถัดออกไปหน่อยประมาณ 80 เมตร จะมีโครงการคอนโดซีล เอกมัย ซึ่งจะเป็นคอนโดสามอาคาร ความสูงไล่กันตามที่เห็นใน map ค่ะ คือ 7, 14, 17 ชั้น

ทิศตะวันตกหรือซ้ายมือของที่ดินโครงการติดอู่ซ่อมรถและอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้น ถัดออกไปคั่นด้วยถนนเอกมัยจะมีคอนโดมิเนียม Alcove ทองหล่อ 10 ที่สูง 23 ชั้นอยู่ห่างจากตึกโครงการประมาณ 60 เมตร ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกก็จะมีตึกสูงอยู่รอบๆทั้งคู่นะคะ แต่ก็มีระยะห่างระหว่างตัวตึกมากพอไม่ได้อยู่ติดกัน จึงไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ส่วนทิศใต้อยู่ติดถนนซอยเอกมัย 12 ไปดูภาพรอบๆโครงการกันต่อเลยค่ะ

ด้านหน้าโครงการ และสำนักงานขายของ M Thonglor 10 อยู่ติดถนนซอยเอกมัย 12

ตอนนี้โครงการก็ก่อสร้างมาจนเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ ส่วนเสาเข็ม โครงสร้าง งานระบบต่างๆก็ทำไปได้มากแล้ว

ทิศตะวันตกหรือซ้ายมือของที่ดินโครงการติดอู่ซ่อมรถและอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้นที่อยู่ติดถนนเอกมัยนะคะ ส่วนอู่ซ่อมรถเพื่อนบ้านโครงการนี่ตอนกลางวันน่าจะมีเสียงรบกวนบ้างจากการทดสอบเครื่องยนต์

ทิศตะวันออกติดกันกับที่ดินโครงการเลยจะเป็นอาคารสูง 5 ชั้นแบบนี้

จากโครงการมองไปฝั่งตรงข้าม คั่นด้วยถนนเอกมัยซอย 12 เป็นบริษัทไตตันโคอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นอาคารแนวราบสูงแค่ 2 – 3 ชั้น ไม่บังวิวโครงการ

มองเข้าไปในซอยเอกมัย 12 ถนนซอยเป็นถนนสองเลนไปกลับ มีที่ด้านข้างถนนพอจอดรถข้างทางได้บ้าง

เราพาเข้าไปดูด้านในเอกมัยซอย 12 กันหน่อยนะคะ ด้านในซอยเอกมัย 12 นี่มีร้านอาหารน่านั่งและสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่พอสมควรเลยนะคะ อย่างเดินเข้าไปหน่อยนึงขวามือจะเจออาคารพาณิชย์ที่มีทั้งร้านขายผนังตกแต่งแบบอิตาเลียน และร้านขายอุปกรณ์ตกปลาของคนญี่ปุ่น เป็นต้น

ซ้ายมือมีร้านอาหารที่ดูน่านั่งอยู่หลายร้านค่ะ

ถัดมาหน่อยฝั่งซ้ายมือในซอยมีร้าน Coffee Bean by Dao ซึ่งเป็นร้านเค้กที่มีชื่อเสียงมานานอยู่ด้วย ซึ่งในร้านนอกจากขายขนมเค้กและเครื่องดื่มแล้วก็มีเมนูอาหารอร่อยๆอีกเยอะมากนะคะ ทั้งอาหารไทยและพาสต้า ก็เป็นร้านโปรดของสาวๆหลายๆคน ซึ่งจากโครงการก็เดินมาได้สบายๆนะคะ

อีกร้านที่มีชื่อเสียงในซอยคือร้าน Vanilla Garden ซึ่งเป็นร้านดังอีกร้านที่ขายขนมเค้ก ขนม ชา กาแฟ และอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแบบฟิวชั่น ซึ่งภายในร้านมีบรรยากาศดีเหมาะจะมานั่งทานกับคนรู้ใจนะคะ ร้านอาหารพวกนี้อยู่ในรัศมีที่เดินจากโครงการมานั่งทานได้สบายๆค่ะ

ไปดูทางฝั่งต้นซอยที่ถนนเอกมัยติดกับซอยทองหล่อ 10 กันต่อค่ะ

ต้นซอยเอกมัย 12 จะเชื่อมต่อกับซอยทองหล่อ 10 แบบนี้ค่ะ พูดง่ายๆว่าถ้าขับรถออกมาจากซอยตรงไปก็คือซอยทองหล่อ10 เลย ซึ่งหัวมุมปากซอยจะมี 7-11 อยู่นะคะ ซึ่งก็อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการแค่ 30 เมตรเท่านั้น

ข้าง 7-11 มีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ ซึ่งสำหรับคนไม่ใช้รถจะไปไหนมาไหนก็สะดวกดีเพราะอยู่ใกล้ๆโครงการเลย

อัตราค่าโดยสารค่ะ ไป BTS ทั้งทองหล่อและเอกมัยก็ 20 บาทเท่ากันเลย

จาก map จะเห็นว่าโซนเอกมัยทองหล่อเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงนะคะ มีคอมมิวนิตี้มอลล์ที่รวมร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งน่ารักๆ มีคาเฟ่ ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกคอยอำนวยความสะดวกทั้งกลางวันกลางคืนเยอะมาก อย่างร้านอาหารที่ไม่ได้ใส่มาในแมพโซนทองหล่อเอกมัยนี่ก็มีอยู่นับร้อยร้านแล้วค่ะ ใครชอบทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำอยู่โซนนี้น่าจะถูกใจกัน

สถานที่สำคัญใกล้โครงการ

• 7-11 ปากซอยทองหล่อ 10 ~ 30 m.
• Big C Ekamai ~ 450 m.
• Arena 10 ~ 350 m.
• J Avenue ~ 800 m.
• Foodland@ Eight Thonglor ~ 750 m.
• Tops Market ~ 950 m.
• Major Ekamai ~ 1.4 km.
• Gateway Ekamai ~ 1.4 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ~ 1.3 km.
• โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 1.3 km.
• โรงพยาบาลสุขุมวิท ~1.5 km.

ตัวโครงการ

เข้าไปดูส่วนสำนักงานขายของโครงการกันต่อค่ะ

สำนักงานขายของโครงการ M Thonglor 10 เปิดทุกวันตั้งแต่ 9.30 – 18.30 น.

ภายในสำนักงานขายจะมีห้องตัวอย่างอยู่ชั้นบนนะคะ ส่วนชั้นล่างจะเป็นส่วน Presentation โครงการ ทั้ง วีดีโอ โมเดลอาคาร และที่นั่งรับรองลูกค้า

โมเดลโครงการ M Thonglor 10 ค่ะ เดี๋ยวเราจะพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

ภาพจำลองอาคารตอนกลางคืนค่ะ ตอนกลางวันจากโมเดลจะเห็นว่าโครงการเป็นอาคารพื้นสีขาวแต่งสีเทาดำมาแนวโมเดิร์น ส่วนตอนกลางคืนจะมีการเล่นแสงสีฟ้ากับตัวอาคารทำให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น

ส่วนทางเข้าออกที่อยู่ติดถนนซอยเอกมัย 12 ออกแบบส่วน Landscape ของทางเข้าออกหน้าโครงการมาโดยใช้เส้นสายที่น่าสนใจเกิดเป็นเหลี่ยมมุมแบบนี้

ภาพจำลองบรรยากาศตอนกลางคืนของทางเข้าค่ะ พอเล่นแสงเพิ่มลงไปในงานก็ดูมีมิติขึ้นอีกระดับ

มาดู Master Plan ของโครงการกันต่อค่ะ แปลนชั้นล่างของโครงการจะเป็นที่จอดรถ ซึ่งจอดได้ 50% รวมจอดซ้อนคัน (หรือประมาณ 90 คัน จาก 179 ยูนิต) ตั้งแต่ชั้น G ไปจนถึง 5F หรือชั้น 1 ถึงชั้น 5 ค่ะ ถนนรอบโครงการเป็นถนนสองเลนรถวิ่งสวนกันได้

ก่อนเข้ามาในอาคารชั้นล่างจะเป็นส่วนของ Outdoor Lobby มีที่นั่งมาให้ เข้ามาในอาคารจะเป็นส่วน Lobby, นิติบุคคล ส่วนตู้จดหมายอยู่หน้าโถงลิฟต์ค่ะ โดยจะมีลิฟต์ 2 ตัว

ภาพจำลองหน้าตาส่วนล็อบบี้ของโครงการค่ะ มาในโทนสีครีม เบจ ไม้ แนวเอิร์ธโทน มีการเล่นเส้นแสงที่น่าสนใจที่ส่วนผนัง

มาดูแปลนชั้น 6 กันต่อค่ะ ที่อยู่อาศัยเริ่มต้นที่ชั้นนี้ เนื่องจากแสงแดดจะวิ่งอ้อมใต้นะคะ หมายความว่า ทิศตะวันออกจะได้แดดอ่อนๆตอนเช้าที่ดีกับสุขภาพ ทิศตะวันตกจะเป็นแดดตอนบ่ายที่ร้อนกว่า การจัดห้องจึงจัดโดยฝั่งทิศตะวันตกจะเป็นห้องเล็กทั้งหมด ขนาด 29 – 35 ตารางเมตร ส่วนห้องทิศตะวันออกซึ่งแดดเบาลมดีกว่าก็จะเป็นห้องใหญ่ขนาด 55 – 76 ตารางเมตร ซึ่งในชั้น 6 นี้จะมีห้อง Duplex พร้อมสวนและ หลังคาแบบ sky light อยู่ด้วย

จากโมเดลจะเห็นส่วนห้อง Duplex ของชั้นหกพร้อมสวนและหลังคายื่นแบบ Skylight ออกมาแบบนี้

ภาพจำลองห้องแบบ Duplex ส่วนห้องนั่งเล่นพร้อมหลังคาแบบ Skylight

ที่ชั้น 7 แปลนก็คล้ายๆกันกับชั้น 6 แต่ฝั่งตะวันออกที่เป็นห้อง Duplex หรือยูนิตแบบควบสองชั้นนี่ที่ชั้น 7 ห้อง Duplex ก็จะเป็นส่วนของชั้น 2 ค่ะ

แปลนชั้น 10 กับชั้นถัดๆไปจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก โดยจะมีจำนวนยูนิตมากที่สุดคือ 13 ยูนิตต่อชั้น มีบันไดหนีไฟสองจุด โถงบันไดกว้าง 1.5 เมตร ฝั่งทิศใต้มีช่องแสงที่โถงบันไดอยู่ แต่ทางฝั่งปลายโถงบันไดด้านทิศเหนือไม่มีก็จะมืดกว่า แต่ปกติน่าจะเปิดไฟให้ที่โถงตลอดค่ะ รวมถึงโถงบันไดก็ไม่ได้ยาวมากด้วย ส่วนช่องแสงอีกจุดจะอยู่ในโถงลิฟต์ค่ะ

ชั้น 17 ที่จะมียูนิตแนว Duplex อยู่ 2 ยูนิตที่หันหน้าไปทางฝั่งด้านหน้าอาคารหรือทางทิศใต้ฝั่งถนนซอยเอกมัย 12 นะคะ บางยูนิตก็จะมีสวนบริเวณระเบียงที่สามารถออกไปใช้งานได้

จากโมเดลจะเห็นส่วนห้อง Duplex พร้อมสวนและหลังคากระจกแบบ Skylight ที่อยู่ด้านหน้าของอาคาร ส่วนด้านข้างอาคารจะเห็นว่าบางห้องจะมีสวนหย่อมส่วนตัวด้วย

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 21 – 22 ค่ะ ซึ่งจะเป็นส่วนกลางทั้งชั้นไม่มีส่วนยูนิตที่พักอาศัยและอยู่ส่วนบนสุดของอาคารเลย ซึ่งข้อดีนอกจากจะมีความเป็นส่วนตัวสูงแล้ว ยังสามารถชมวิวไปได้ไกลด้วยโดยชั้น 21 จะมีส่วนกลางหลักๆคือ สระว่ายน้ำ, สระน้ำอุ่นแบบออนเซ็น, ห้องเด็กเล่น, ที่นั่งเล่นข้างสระน้ำ, ลานบาร์บีคิว, ห้องอาบน้ำ, Steam/Sauna

ลิฟต์จะขึ้นมาถึงแค่ชั้น 21 นะคะ ส่วนชั้น 22 จะต้องขึ้นบันไดไปค่ะ โดยส่วนด้านบนจะมี Pool Lounge เอาไว้นั่งชมวิว, ห้องฟิตเนสลอยฟ้า และพื้นที่ส่วนงานระบบต่างๆ

ภาพโมเดลพื้นที่ส่วนกลางชั้นดาดฟ้า

ภาพจำลองบรรยากาศชั้นดาดฟ้าของโครงการค่ะ

สระว่ายน้ำชั้น 21 เป็นสระแบบ Infinity Edge Pool พร้อมที่นั่งข้างสระแบบนี้

สระว่ายน้ำจะมีทั้งส่วนที่เป็นสระสำหรับว่ายและนั่งแช่น้ำ โดยแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน

สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งไม่มีหลังคา มาพร้อมที่นั่งแบบ Sunken หรือแบบหลุม

อีกมุมของชั้น 21 จะมีสระแช่น้ำร้อนแบบออนเซ็นอยู่

ภาพจำลองส่วน Floating Sky Lounge ของชั้น 22 ให้มานั่งเล่นชมวิวกันได้

ภาพจำลองส่วน Pool Lounge ชั้น 22 ค่ะ จะมีโต๊ะพูลมาให้เล่นกันได้แบบนี้

ภาพจำลองห้องฟิตเนสลอยฟ้าชั้น 22 ซึ่งสามารถมาเล่นฟิตเนสไปชมวิวเมืองไปด้วยได้ ห้องฟิตเนสจะมีความพิเศษอยู่ตรงที่มีกระสอบทรายไว้ให้ซ้อมชกมวยด้วยค่ะ

ห้องตัวอย่าง

โครงการ M Thonglor 10 เป็นโครงการที่ขายห้องแบบ Fully Furnished โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้เลือก 2 แบบ หน้าตาไม่ต่างกันมากค่ะ แต่เป็นเรื่องของโทนสีเข้มสีอ่อนตามความชอบของแต่ละคนมากกว่า

แบบ Maverick จะเป็นแบบสีเข้มแบบนี้

ภาพจำลองห้องนอนที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ Maverick หรือแบบโทนสีเข้ม

ภาพจำลองห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ Maverick หรือแบบโทนสีเข้ม

แบบ Magnifique จะเป็นแบบสีอ่อนค่ะ

ภาพจำลองห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ Magnifique หรือแบบโทนสีอ่อน

ภาพจำลองห้องนอนที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ Magnifique หรือแบบโทนสีอ่อน

ห้องตัวอย่างของโครงการเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 32.5 ตารางเมตร ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาชัดเจนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิดนะคะ ส่วนไพรเวทอย่างห้องนอนและห้องน้ำจัดอยู่ฝั่งนึง และส่วนพับลิคหน่อยอย่างห้องนั่งเล่นริมระเบียงและครัวอยู่อีกฝั่งนึง ห้องตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์แบบ Maverick หรือโทนสีเข้มมาให้ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวมองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นที่เปิดออกไประเบียงได้ พื้นส่วนของครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 6o cm.และส่วนของห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะใช้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. เพดานห้องสูง 2.7 เมตร ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์

มือจับประตูทางเข้าห้องเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Yale เปิดเข้าได้ 2 วิธีคือแบบกดรหัสกับสแกนบัตรค่ะ ประตูทางเข้าห้องปิดผิวลามิเนตลายไม้มาให้ ของจริงได้ตามนี้

มองกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องจะเห็นภาพรวมส่วนครัวและส่วนประตูทางเข้าห้องแบบนี้ เพดานส่วนครัวมีดรอปความสูงลงมาประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อเดินงานระบบ

ชุดครัวที่ได้เป็นรูปตัว L หน้าบานตู้เป็นไฮกรอสสีขาวดูเรียบหรู

เปิดที่เก็บของในชุดครัวให้ดูค่ะ มีชั้นลอยมาให้เก็บจานชามหรือสิ่งของด้านบนเพิ่มได้

ชั้นล่างใต้อ่างล้างจานเปิดมาจะมีถังขยะพร้อมฝาปิดอยู่ด้วย เราเปิดลิ้นชักล่างให้ดูจะเห็น

ท้อปครัวเป็นหินควอตซ์สีขาวอมเทา ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ที่ผนังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้ามาให้ ใช้เสียบเครื่องปั่นหรือเครื่องทำกาแฟได้ ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควัน ส่วนอ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลสหลุมสี่เหลี่ยมไม่มีที่พักจาน หลังชุดครัวมีทำขอบกันจานตก และมีช่องที่เหมาะจะวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาให้

เจาะช่องมาให้สำหรับวางตู้เย็น ซึ่งจะเห็นว่าสามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่กว่าในห้องตัวอย่างได้อยู่นะคะ ด้านบนตู้เย็นมีชั้นลอยมาให้วางของเพิ่มได้

ฝั่งตรงข้ามชุดครัวติดกับประตูทางเข้าห้องจะมีตู้เก็บของมาให้ หน้าบานเป็นเฟรมสีขาวกระจกฝ้าเข้าชุดกัน สังเกตที่พื้นมี Door Stopper กันประตูห้องกระแทกหน้าบานตู้เก็บของมาให้

พื้นลามิเนตส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นแกรนิตโต้ส่วนครัว จะมีจบพื้นเป็นไม้ลามิเนต ติดกับชุดครัวจะมีโต๊ะกินข้าวสองที่นั่งแบบพับเก็บได้ เวลากินข้าวกัน 2 คนจะได้นั่งกันสบายๆ ทั้งเก้าอี้และโต๊ะของจริงได้ตามที่เห็นนะคะ (แบบ Maverick)

ในห้องตัวอย่างจะพับโต๊ะเก็บเข้ามุมมาให้ แต่เราจะเห็นท้อปโต๊ะที่เหลือพับอยู่ด้านข้างแบบนี้ พร้อมมีภาพโต๊ะทั้งแบบพับและแบบกางออกมาให้ดูบนโต๊ะ

มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 1.5 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 นิ้ว โซฟาให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ ผนังด้านหลังโซฟาทำบิล์ทอินชั้นวางของมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงไม่มีนะคะ

ชั้นวางทีวีปิดผิวลายไม้สีอ่อน หน้าบานเป็นไฮกรอสสีเทา ด้านบนติดแอร์มาให้ของจริงจะได้ตามนี้

จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำ เปิดออกไประเบียงได้ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน ดรอปฝ้าบังราวแขวนม่านมาให้ของจริงได้ตามนี้นะคะ

พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นห้องปูกระเบื้องผิวด้านสีเทาขนาด 60 x 60 ซม. ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์เฟรอลูมิเนียมสีดำแบบนี้

ที่ระเบียงจะมีตัวกริลแอร์จะเป็นซี่เฉียงเพื่อดันลมออกไปนอกระเบียง และสามารถเปิดออกไปส่วนที่เก็บแอร์คอมเพรสเซอร์ที่พื้นเป็นคอนกรีตฉาบเรียบแบบนี้

เข้าไปดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ ห้องของจริงประตูจะมีบานปิดมาให้นะคะ ส่วนสวิตช์ไฟเป็นสีทองอมบรอนซ์ดูหรูหราจากแบรนด์ SIEMENS

ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ฐานเตียงเราได้ตามที่เห็นนะคะ แต่เราเลือกสีอ่อนสีเข้มได้อย่างที่แจ้งไปข้างต้นค่ะ ส่วนห้องนอนมีหน้าต่างบานสูงมาให้ด้านข้าง 1 ชุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ ห้องนอนขนาดกว้างขวางดีค่ะ มีพื้นที่มากกว่าส่วนห้องนั่งเล่นพอสมควร

ฐานเตียงมีลิ้นชักเก็บของมาให้แบบนี้

ปลายเตียง มีระยะเหลือประมาณ 40 ซม. คือพอเดินไปเดินมาได้ แต่ไม่เหมาะวางชั้นวางทีวีนะคะ ถ้าอยากติดทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนผนังแบบในห้องตัวอย่างมากกว่าค่ะ

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างกว้างประมาณ 40 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างมาให้แบบนี้

มองไปที่อีกฝั่งของห้องนอนจะมีโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และทางไปห้องน้ำอยู่

โต๊ะทำงานเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้สีขาว มีลิ้นชักมาให้แบบนี้

ถัดมาเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ เป็นตู้ที่เหมาะสำหรับใช้ 1 คน บานเปิดเป็นแบบบานเลื่อนกรุกระจกฝ้าแบบนี้

เข้าไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นแบบลามิเนต เข้าได้จากในห้องนอนนะคะ

ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด กระเบื้องพื้นสีเบจแบบผิวด้านขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน ที่เพดานเหนือโถสุขภัณฑ์ของจริงจะมีพัดลมดูดอากาศติดมาให้ช่วยระบายอากาศ

อ่างล้างมือและกระจกเงาพร้อมไฟซ่อนของจริงได้ตามนี้นะคะ ดูดีและมีที่เก็บของทั้งด้านหลังกระจกเงาและใต้อ่างล้างมือ

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างมีที่ให้วางของรอบๆได้เยอะดี

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard หรือแบรนด์เทียบเท่าค่ะ สายฉีดชำระเป็นสีเงินแบบนี้

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง

ชุดฝักบัวเป็นของ American Standard เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ดีค่ะ นอกจากนี้มีที่วางสบู่ขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้กับชุดฝักบัวด้วย

แบบห้องอื่นๆในโครงการ

ห้องแบบ 1 ห้องนอน 32 ตารางเมตร

ห้องแบบ Duplex 2 ชั้น 1 ห้องนอน 55 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 ห้องนอน 50 ตารางเมตร

ห้องแบบ Duplex 2 ชั้น 2 ห้องนอน 76 ตารางเมตร

ห้องแบบ Penthouse 3 ห้องนอน 153 ตารางเมตร

ราคา

ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 29 ตร.ม. พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นอิตาเลียนแบบ Fully Furnished ในราคาเริ่มต้นที่ 4.5 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – M Thonglor 10 เป็นโครงการที่พูดได้ว่าสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถค่ะ เพราะอยู่ในระยะที่ไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ทั้งสถานีเอกมัย และ ทองหล่อ มี Shuttle bus จากโครงการรับส่ง นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ที่ทำให้คนขับรถมีความสะดวกสบายขึ้นเยอะ

ความอุดมสมบูรณ์ – เป็นโซนที่ดินที่มีราคาสูงและอุดมสมบูรณ์มาก เนื่องจากทองหล่อและเอกมัยเต็มไปด้วยแหล่งอาหารการกินและแหล่งตระเวนราตรีที่ครึกครื้นและเต็มไปด้วยสีสัน ในระยะเดิน รอบๆ ของกินเพียบบบค่ะ ออกมาเจอเอกมัย เชื่อมไปทองหล่อ ร้านอาหารเป็นร้อย เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall นอกจากสาธารณูปโภคเหล่านี้ก็ยังมี ปั๊มน้ำมัน อู่ซ่อมรถอยู่อีกด้วย

เรียกได้ว่าใครชอบทานอาหารนอกบ้าน ชอบแฮงก์เอ้าท์ตระเวนราตรี มาอยู่โซนนี้มีร้านดีๆให้เลือกเพียบค่ะ แต่ก็เป็นโซนที่มีค่าครองชีพค่อนข้างสูงนะคะ ถึงจะมีร้านข้างทางอยู่บ้าง ร้านส่วนใหญ่ย่านทองหล่อเอกมัยก็ตกมื้อละ 250 บาทต่อหัวขึ้นไปโดยเฉลี่ย ซึ่งก็เชื่อมโยงกับราคาที่ดินในโซนนี้ซึ่งขึ้นชื่อว่าราคาแพงอยู่แล้วนะคะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ ที่ตั้งนับว่าอยู่ใจกลางเมืองสามารถเข้าสู่จุดต่างๆได้ง่าย อยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ส่วนเส้นทางรอบข้างทั้งสุขุมวิท เพชรบุรีตัดใหม่ พระรามสี่ สามเส้นทางนี้เวลาเร่งด่วนนี่การจราจรหนาแน่นแทบทั้งหมดนะคะ เเต่ว่าทางรถติดเหล่านี้ก็พาไปได้ทุกทิศ เพียงเเค่ว่าช่วงเวลาไหนติดมากติดน้อยเท่านั้นเอง ตอนกลางวันเจออาคารสำนักงานและออฟฟิศจำนวนมาก ตกเย็นผู้คนหอบลูกหอบเต้ามากินข้าว แล้วพอตอนกลางคืนคนก็ออกมาเที่ยวกันต่ออีก

การอยู่เอกมัยจึงต้องพึ่งถนนรอบๆข้างเยอะหน่อย จะทองหล่อ หรือ พระโขนง(ปรีดี พนมยงค์)ก็ตาม แล้วมันจะมีจังหวะที่ต้อง ลัดไปลัดมาหนีรถติดอยู่บ่อยๆ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –แถวนี้คนไม่ขับรถไปไหนมาไหนง่ายมากค่ะ ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ หน้าโครงการห่างไป 30 เมตรก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ เดินไป100เมตรก็มีป้ายรถเมล์ มี BTS อยู่ในรัศมี 1.3 กม.ถึง 2 สถานี ทั้งสถานีทองหล่อ และ สถานีเอกมัย ถ้าไม่อยากนั่งมอเตอร์ไซค์ก็มี Shuttle Bus ไปส่งให้ถึงสถานี

และเพราะอยู่ในตัวเมืองอยู่แล้ว แค่นั่งวินมอเตอร์ไซค์ 20 บาทออกมาถึง BTS เอกมัยได้ปุ๊บความสะดวกก็พุ่งขึ้นสูงทันที อยากไปช็อปปิ้ง สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ทั้ง Rain Hill, Emquartier, Emporium, Terminal 21, Central Embassy, Central ชิดลม, สยามก็ไปได้ง่าย

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ ซึ่งสเป็คมาสวยทั้งคู่และถ้าเทียบกับราคาและทำเลกับคอนโดอื่นๆในโซนเดียวกันก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีและมีความใส่ใจในรายละเอียด ชุดครัวเป็นหน้าบานสีขาวไฮกรอส ท้อปเป็นหินควอตซ์ เฟอร์นิเจอร์มีให้เลือก 2 สไตล์ ซึ่งทำเป็นแนว Multi Function หรือปรับใช้งานได้หลายรูปแบบ

สุขภัณฑ์ American Standard มีฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์แต่ฝักบัวเป็นแบบธรรมดาไม่มี Rain Shower นะคะ และฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ดรอปฝ้างานระบบลงมาบางส่วนสูง 2.55 m. พื้นเป็นลามิเนต 8 มม.กับแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. มี Digital Doorlock ของ Yale มาให้

เรื่องการออกแบบห้อง มีมาให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน 29 ตรม. ซึ่งเมเจอร์ปรับแบบมาให้ลงตัวอยู่แล้วนะคะ ลักษณะคือห้องนอนจะใหญ่กว่าห้องนั่งเล่น และมีห้องน้ำที่มีขนาดสบายๆใช้งานได้ไม่อึดอัด ไปจนถึงห้องแบบเพนท์เฮ้าส์ 3 ห้องนอน 153 ตารางเมตร และมีห้องแบบ Duplex 2 ชั้น ที่มาพร้อมสวนและหลังคาแบบ Skylight ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากคอนโดทั่วไป ซึ่งก็ถือว่ามีตัวเลือกหลากหลาย เจาะลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ที่มองหาคอนโดที่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนบ้านใจกลางเมือง พร้อมการรักษาความปลอดภัยแบบคอนโดมิเนียมที่มีความปลอดภัยสูงนะคะ

สิ่งอำนวยความสะดวก – พื้นที่ส่วนกลางอยู่ชั้นบนสุดคือชั้น 21 -22 ทั้งชั้น เทียบกับจำนวนห้องแล้วถือว่าได้มาเยอะเลยค่ะ แถมมีความเป็นส่วนตัวและได้วิวดีเพราะอยู่ส่วนยอดตึก พื้นที่ส่วนกลางที่ให้มามีความน่าสนใจและช่วยเพิ่มสุนทรียภาพให้การอยู่อาศัยได้มาก มี Sky Lounge ที่ช่วยให้คนที่อาศัยอยู่ในห้องเล็กหน่อยได้มีพื้นที่พักผ่อนชมวิวกว้างๆ มีบ่อ Onsen ให้มาแช่น้ำร้อนเพื่อสุขภาพกันได้นอกจากสระว่ายน้ำทั่วไป, มีห้องเล่นพูล และ Kid’s Room สำหรับเด็ก และห้องฟิตเนสก็จะมีส่วนกระสอบทรายไว้ให้ซ้อมมวย ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อที่ดีค่ะ

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel :02-381-5665

Website : www.mde.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.276 รีวิว คอนโด Maestro 01 เย็นอากาศ คอนโดหรูใจกลางเมือง ตกแต่งครบ ใกล้ MRT ลุมพินี และ MRT คลองเตย เริ่ม 4.5 ล้านบาท*

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน…วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาทุกท่านไปชมโครงการ “Maestro 01 เย็นอากาศ” คอนโดตกแต่งครบจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ อาคารดีไซน์สถาปัตยกรรมยุโรป เรียบหรู คลาสสิก ผสานเข้ากันกับความทันสมัยอย่างลงตัว ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพียง 88 ยูนิต เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ตอบสนองการอยู่อาศัยแบบคนเมือง บนทำเลศักยภาพ ที่สามารถเชื่อมต่อกับใจกลางเมือง ย่านธุรกิจของกรุงเทพ ใกล้ทางด่วน และ รถไฟฟ้า MRT สถานีลุมพินี – สถานีคลองเตย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวได้อย่างแท้จริง ในราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท สำหรับรายละเอียดของโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามกันต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ซอยเย็นอากาศ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.

ที่ตั้งโครงการ Maestro 01 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง โดยตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยเย็นอากาศ ขับเข้าซอยมาประมาณ 1 กม. ถึงโครงการ [ จากถนนนางลิ้นจี่ > ซอยเย็นอากาศ > Maestro 01*] โดยซอยเย็นอากาศ เป็นโซนชุมชนผู้ดีเก่า มีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในซอยนี้เป็นจำนวนมาก โดยส่วนมากเป็นผู้บริหารระดับสูง รวมถึงครอบครัวเก่าที่อยู่อาศัยดั้งเดิม รวมถึงเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสาทร และ ถนนพระราม 4 ได้อย่างสะดวก ทั้งยังมีซอยยิบย่อย ที่สามารถหลีกเลี่ยงการจราจรในตัวเมืองได้เป็นอย่างดี ทำให้ที่ดินในซอยนี้มีราคาสูงพอสมควรค่ะ

การเดินทางจะเน้นการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักค่ะ สำหรับโครงการนี้ มีที่จอดรถรองรับถึง 91% หรือจอดได้ประมาณ 80 คัน [รวมซ้อนคัน] การใช้รถจึงเป็นตัวเลือกหลัก ๆ และไม่น่ามีปัญหาในเรื่องของที่จอดรถ สำหรับโครงการนี้ สามารเข้า-ออก ได้หลากหลายเส้นทางมาก ไม่ว่าจะมาจากทางสาทร, ซอยสวนพลู, ถนนนางลิ้นจี่, หรือจากถนนพระราม 4 เข้าซอยงามดูพลีหรือ จะเข้าจากซอยถนนเชื้อเพลิงก็ได้ ส่วนเส้นพระราม 3 จะเข้าทางถนนนางลิ้นจี่ หรือ ถนนเชื้อเพลิง ก็สะดวกเช่นเดียวกันค่ะ ทั้งยังใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วน พระราม 4 ใช้เส้นทางนี้ตัดออกนอกเมืองได้อย่างรวดเร็ว

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ทางโครงการจัดให้มี Shuttle Service รองรับ โดยเส้นทางการเดินรถ จะจอดให้ตามจุดต่าง ๆ ตามเส้นถนนซอยเย็นอากาศ, ถนนนางลิ้นจี่ รวมถึง MRT ลุมพินี และ MRT คลองเตย ระยะห่างจากโครงการ ประมาณ 1.1-1.2 กม. หากไม่ต้องการใช้ Shuttle Service จะใช้บริการ Taxi ก็สะดวก เรียกได้จากหน้าโครงการ สังเกตดูแล้วมีผ่านตลอดทั้งวัน รวมถึงหากเร่งด่วนมาก ๆ จะใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็สะดวกดีค่ะ รวดเร็ว ทันเวลา

การเดินทาง

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทางของเราในครั้งนี้ ให้สังเกตจากลูกศรสีแดง เราเริ่มจากถนนสาทร > เข้าซอยสวนพลู วิ่งตามทางบังคับ ก็จะเชื่อมสู่ถนนนางลิ้นจี่ ขับตรงไปเรื่อย ๆ สังเกต Tops ให้เลี้ยงเข้าสู่ซอยเย็นอากาศ ขับเข้ามาประมาณ 850 เมตร ถึงที่ตั้งโครงการ Maestro 01 เย็นอากาศ [อยู่ทางซ้ายมือ] *ตรงข้าม ซ.ประสาทสุข

การเดินทาง เราเริ่มจาก ถ.สาทร ที่มาจากทางแยกวิทยุ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือ ปั๊มน้ำมันเชลล์ ให้ชิดซ้ายไว้ เราจะเลี้ยวเข้า ซ.สวนพลู

เลี้ยวซ้ายเข้า ซ.สวนพลู ทางขวามือจะเป็น ร้านอาหารไทยบ้านขนิษฐา

ขับตรงเข้ามาในซอย ผ่านตลาดสวนพลู ผ่าน สน.บางโพงพางและ สน.ทุ่งมหาเมฆ

ผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผ่านไปรษณีย์สวนพลู และวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอี่ยมละออ พอถึงแยกให้เลี้ยวขวา

ผ่านวิทยุการบินแห่งประเทศไทย แล้วเลี้ยวขวา ตรงไปแยกเทคนิคกรุงเทพ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.นางลิ้นจี่

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.นางลิ้นจี่ ตรงไปประมาณ 650 ม. ถึงแยกเย็นอากาศ ให้เลี้ยวซ้าย

สังเกต ปั๊มน้ำมันบางจาก ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.เย็นอากาศ และจะผ่าน Tops Market นางลิ้นจี่ ขวามือ ตรงไปอีก 130 ม.ถึง Sales Gallery ก่อนค่ะ

พอถึง Sales Gallery ตรงข้ามจะเป็นส่วนของที่พักกองทัพเรือ (สัญญาบัตร) ค่ะ ตัวโครงการจริงต้องตรงไปอีก 850 ม. ถึงพื้นที่จริง

ผ่านสถานีตำรวจดับเพลิง ทุ่งมหาเมฆ

ผ่าน ร.ร.นานาชาติการ์เด้น และซ.เย็นอากาศ 2

ผ่าน Bonsai Koen Thailand (ร้านนำเข้า บอนไซโคเอน จากญี่ปุ่น) และคอนโดสาธร พลัส 2 เฟสค่ะ

ผ่านร้าน Inter Bike Studio และซ.เย็นอากาศ 1 ในซอยนี้มี ร้านเย็นอากาศ Bistro ตรงข้ามเยื้องๆ ซ.เย็นอากาศ 1 เป็น Leathero casa ร้านเฟอร์นิเจอร์นำเข้า

พอผ่านร้าน Mama Dolores Old Time Pizza เย็นอากาศ ตรงไปอีก 80 ม. ถึงพื้นที่โครงการจริงของ Maestro 01 เย็นอากาศ แล้วค่ะ

ถึง Maestro 01 เย็นอากาศ

หน้าโครงการ Maestro 01 เย็นอากาศ

บริเวณโดยรอบโครงการ

พาเดินสำรวจดูรอบ ๆ โครงการ บริเวณซอยเย็นอากาศกันหน่อยนะคะ แต่ก่อนจะไป ขออธิบายตัวที่ดินกันก่อนเล็กน้อย ตัวโครงการอยู่ติดถนนซอยเย็นอากาศ ตรงข้ามกับโครงการเป็นซอยประสาทสุข เยื้ัอง ๆ กับโครงการ จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น เรียงยาวลงไป ทางฝั่งทิศเหนือ จะติดกับทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นครึ่ง และ ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ด้านหลังโครงการ ทางฝั่งทิศตะวันตก จะมองเห็น รร.นานาชาติเครซเซนต์ มีการเว้นระยะห่างโครงการ-โรงเรียน มากพอสมควร ในเรื่องของเสียงเด็ก ๆ รบกวน อาจได้ยินแว่ว ๆ มาบ้าง แต่ก็เป็นเวลาทำการปกติ ไม่ได้ดังตลอดทั้งวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว ส่วนทางฝั่งทิศใต้นั้น จะติดกับซอยส่วนบุคคล และ บ้านพักอาศัยสูง 3 ชั้น ค่ะ

พาเดินสำรวจรอบๆ โครงการกันหน่อย โดยเพียวจะเริ่มจากหัวถนนซอยเย็นอากาศ จุดตัดกับถนนนางลิ้นจี่นะคะ บริเวณนี้มีรถผ่านตลอดทั้งวัน คึกคักดี

มาดูบริเวณริมถนนนางลิ้นจี่กันก่อน มีสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ ปั๊มน้ำมันบางจาก ซึ่งด้านหน้าจะมีร้านกาแฟสด ด้านในมีร้าน Car Care ด้านหลังปั๊มน้ำมัน ก็จะมีตลาดนัดในช่วงเย็นด้วยค่ะ

Rahaya Cafe ร้านกาแฟสด มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Out Door รสชาติของกาแฟอร่อยใช้ได้ ช่วงเช้า ๆ ร้านนี้คนแน่นเหมือนกันค่ะ

ติดกับปั๊มน้ำมัน จะเป็นถนนที่เชื่อมสู่แฟลตข้าราชการ กองทัพเรือ ทุ่งมหาเมฆ

ด้านหน้าจะมีร้านขายดอกไม้ และ ร้าน Mama made Roti by Kahava Cafe ซึ่งก็คือเจ้าของเดียวกันกับร้านกาแฟด้านหน้าปั๊มแหละค่ะ แต่ร้านนี้เค้าจะขายอาหารมุสลิมเป็นหลัก มีโรตี ทำสดร้อน ๆ รวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ การตกแต่งร้านก็น่ารัก น่านั่ง ช่วงเย็นๆ จะมีคนทำงาน, นักเรียน นักศึกษาจากเทคนิคกรุงเทพ มานั่งเล่น ทำรายงานกันมากพอสมควร

เดินเข้ามาด้านใน บริเวณนี้จะมีตลาดนัดช่วงเย็น ถัดเข้าไปด้านในสุด ก็เป็นแฟลตข้าราชการกองทัพเรือ

กลับมาที่ภายในปั๊มน้ำมัน มีคลินิค เอส ที รักษาสัตว์

ร้านล้างรถ Meguiar’s สาขานางลิ้นจี่

เดินย้อนกลับมาที่หัวถนนซอยเย็นอากาศ มี Community Mall  ขนาดกลาง ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับครับครัน อาทิ ร้านค้า, ร้านอาหาร, โรงเรียนสอนพิเศษ รวมถึง ท็อป มาร์เก็ตเพลส นางลิ้นจี่

ด้านหน้ามีธนาคารธนชาติ

The Pizza Company สาขานี้ มีบริการที่นั่งทานอาหารด้านในให้ด้วย หรือจะซื้อ Take Home ก็แล้วแต่สะดวก

เดินเข้ามาภายใน มีทั้งหมด 2 ชั้น ส่วนมากชั้นร้านเปิดเป็นร้านค้า, ร้านอาหาร ส่วนชั้นบนจะเป็นโรงเรียนสอนพิเศษ

ขวามือเป็น Tops Market เปิดบริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า – เที่ยงคืน

ตรงข้าม Tops เป็นร้านเสริมสวย

ถัดเข้าไปเป็นร้านไอศครีม Swensens เปิดตั้งแต่ 10.00- 22.00 น.

คลิทิคทันตกรรม QDC

เดินต่อไปซ้ายมือที่ติดกับคลินิคทันตกรรม เป็นร้านซัก อบ รีด ขวามือเป็นร้านอาหารจานเดียว มีเครื่องดื่มพวกกาแฟขายด้วยเหมือนกัน

เดินขึ้นมาชั้นบน ส่วนมากเปิดเป็นโรงเรียนสอนพิเศษ มีทั้งกวดวิชาทั่วไป และ รร.สอนดนตรี

ลงมาด้านล่าง เดี๋ยวจะพาเข้าไปสำรวจในซอยเย็นอากาศกัน

เดินเข้ามาภายในซอยไม่เกิน 100 เมตร จะเจอกับสำนักงานขาย Maestro 01

ติดกับสำนักงานขาย มีร้านสปาน้องหมา รวมถึงมีบริการอาบน้ำ ตัดแต่งขนสุนัข

ถัดเข้ามาเป็น ACU @ เย็นอากาศ

ในซอยเย็นอากาศ มีเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ให้เช่าหลายแห่ง

โรงเรียนนานาชาติการ์เด้น

บริเวณซอยเย็นอากาศ 2 มีโรงเรียนนานาชาติเครซเซนต์ ด้านในซอยจะมีทั้งบ้านพักอาศัย และ อพาร์ทเมนท์ให้สลับ ปะปนกันไป

และก็มีโรงเรียนอนุบาลบ้านทอฝัน

ร้าน Inter Bike ถัดเข้าไปด้านในมีร้านอาหาร Home Made แบบบรรยากาศในสวน น่านั่งมากกก

Yenakat Bistro (เย็นอากาศบิสโทร) ร้านอาหารยุโรป บรรยากาศสไตล์บ้านๆ ซุกตัวอยู่ในมุมสงบๆ

ถัดมาเป็นร้าน MAMA Dolores (มาม่า เดอลอเรส) เป็นร้านพิซซ่าเตาถ่าน ขายพวกอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน มีอาหารหลากหลายชาติให้ลองลิ้มชิมรส

ร้านกาแฟในสวนอีกแล้ว ตลอดเส้นทางจะมีร้านสไตล์ประมาณนี้ มีให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ

จากสำนักงานขาย เดินต่อมา 850 เมตร ถึงที่ตั้งโครงการจริงค่ะ

ตรงข้ามโครงการ เป็นซอยประสาทสุข

ติดกับโครงการ มีซอยส่วนบุคคลคั่นกลาง ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยสูง 3 ชั้น

เยื้องกับโครงการ เป็นทาวน์เฮ้าส์สูง 3 ชั้น

ถัดจากโครงการไปทางนี้ จะเชื่อมสู่ถนนพระราม 4 ได้

ในส่วนของที่ดินโครงการ มีการถมหน้าดินไว้เรียบร้อย เริ่มก่อสร้างไปบางส่วนตั้งแต่ มิ.ย. 2558 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ ธ.ค. 2559 ค่ะ

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

เส้นทางโดยรอบ

สถานที่สำคัญ
– BTS ช่องนนทรี 3.5 กม.
– BRT ถนนจันทน์ 2 กม.
– MRT ลุมพินี 1.2 กม.
– MRT คลองเตย 1.1 กม.
– ท็อป มาร์เก็ตเพลส นางลิ้นจี่ 1 กม.
– T.T.N. Avenue 1.6 กม.
– แม็คโคร สาทร 2 กม.
– เซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 3  4 กม.
– ดิ อัพ พระราม 3  2.5 กม.
– เทสโก้ โลตัส พระราม 3  2.8 กม.

สถานที่พยาบาล
– โรงพยาบาล BNH. 2.3 กม.
– โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ 3.3 กม.

สถานศึกษา
– โรงเรียนนานาชาติการ์เด้น 350 ม.
– โรงเรียนนานาชาติเครซเซนต์ 600 ม.
– โรงเรียนพระแม่มารี สาทร 3 กม.
– โรงเรียนยานนาเวศน์ วิทยาคม 2.9 กม.
– โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ยานนาวา 3.3 กม.
– โรงเรียนสารสาสน์ เอกตรา 3.5 กม.
– โรงเรียนสารสาสน์ พิทยา 3.9 กม.
– โรงเรียนสารสาสน์ พัฒนา 4 กม.
– โรงเรียนพระแม่มารี สาธุประดิษฐ์ 3.7 กม.
– โรงเรียนเซนต์หลุยส์ 3.5 กม.
– โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย 3.7 กม.
– โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม 3.9 กม.
– โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ 2.4 กม.
– โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ 3.6 กม.
– มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ 1.5 กม.

อาคารสูง
– TPI Tower 1.6 กม.
– Empire Tower 3.3 กม.
– Bangkok City Tower 2.6 กม.
– Sathorn Square 3.5 กม.
– อาคารสาธร ธานี 3.5 กม.
– Q House ลุมพินี 1.2 กม.
– Q House สาทร 1.5 กม.
– Hotel Sofitel So Bangkok 1.5 กม.

ทางพิเศษ
– ทางพิเศษเฉลิมมหานคร 2 กม.
– ทางพิเศษศรีรัช 6 กม.

:: Floor Plan ::

แนวคิดโครงการ : ชีวิตโดดเด่นมีระดับกำลังรอคุณอยู่ที่นี่…Maestro 01 ที่ที่สถาปัตยกรรมยุโรปหรูสไตล์คลาสสิก ผสานเข้ากันกับความทันสมัยอย่างลงตัว พร้อมสรรพกับความสะดวกสบายสูงสุดในทุกรายละเอียด ภายใต้แนวคิดที่เน้นตอบสนองความต้องการอีกระดับของคนเมือง บนทำเลสมบูรณ์แบบ ที่เชื่อมต่อพื้นที่สงบส่วนตัวกับใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพ ให้คุณใช้ชีวิตเหนือระดับได้อย่างแท้จริง…Maestro 01 ที่สุดแห่งชีวิตเหนือระดับ

Ground Floor Plan : ทางเข้า-ออกโครงการติดซอยเย็นอากาศ หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันออก ลักษณะอาคารสี่เหลี่ยมจตุรัส ก่อสร้างอาคารพักอาศัย เกือบเต็มพื้นที่ดิน [ 1 ไร่เศษ] พื้นที่ชั้นล่างแบ่งเป็นที่จอดรถในช่องจอด และ Secure Bike Rack (แร็คจอดจักรยาน) มีที่จอดรถชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น คิดเป็น 91% รวมจอดซ้อนคัน ส่วนด้านในอาคารชั้นล่าง มี The Grande Lobby, Private Mail Box, ห้องนิติบุคคล, สำนักงานขาย, Life Lobby เข้า-ออกส่วนนี้ต้องใช้ Key Card เพื่อความปลอดภัย ด้านในมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว

• ห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 : อัตราห้องพักชั้น 1 มีทั้งหมด 5 ยูนิต ฝั่งทิศตะวันออก มีทั้งหมด 2 ห้อง เป็นห้องพักแบบ 2 Bedrooms ขนาด 68.00 ตร.ม. เปิดระเบียงได้วิวสวนสีเขียว และ วิวถนนซอยเย็นอากาศ

• ห้องพักอีก 3 ยูนิต จะต้องเดินเข้า-ออก ผ่านห้องนิติบุคคล เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.5 ตร.ม. ทั้งหมด 3 ห้อง [ 1 ห้อง ตำแหน่งติดกับห้องนิติบุคคล หันออกฝั่งทิศตะวันออก เปิดระเบียงเจอวิวสวนสีเขียว] และอีก 2 ห้อง [หันระเบียงออกทางทิศตะวันตก ได้วิวสวนสีเขียวเช่นเดียวกันค่ะ]

2nd Floor Plan : โถงทางเดินเป็นแบบ U-Shape แบ่งเป็นห้องพักอาศัย และ Facilities ขอพูดในส่วนห้องพักอาศัยกันก่อน อัตราห้องพักชั้น 2 มีทั้งหมด 12 ยูนิต ส่วนมากเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms โดยทางฝั่งทิศตะวันออกมีทั้งหมด 2 ยูนิต เป็นห้องพักแบบ 2 Bedrooms ขนาด 68.00 ตร.ม. , ฝั่งทิศใต้ มีทั้งหมด 4 ยูนิต แบ่งเป็นห้องพักแบบ 2 Bedrooms ขนาด 68.00 ตร.ม. 2 ยูนิต, ห้องพักแบบ 2 Bedrooms ขนาด 70.05 ตร.ม. 1 ยูนิต และ มีห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. แทรกอยู่ 1 ยูนิต, ส่วนทิศตะวันตก เป็นห้องพักแบบ 2 Bedrooms ขนาด 68.00 ตร.ม. 2 ยูนิต, และที่เหลืออีก 4 ยูนิต เป็นห้องพักแบบ 1 Bedrooms ตำแหน่งห้องพัก ระเบียงหันออกทิศตะวันตก และ ทิศตะวันออก ได้เป็นวิวสระว่ายน้ำค่ะ

• ในส่วนของ Facilities แบ่งเป็นสระว่ายน้ำ อารมณ์แบบอาคาร ล้อมสระว่ายน้ำ โดยตัวสระจะตั้งอยู่ตรงกลาง ได้เป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 4.5 x 12.5 เมตร มีห้องซาวน่า และ สตรีม รวมถึงมี Pocket Garden ริมสระว่ายน้ำ เน้นเป็นต้นไม่พุ่มแนวสูง กั้นปิดแนวห้องพัก เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับส่วนกลางได้เล็กน้อย

3rd – 4th Floor Plan : มีห้องพักทั้งหมด 13 ยูนิต ส่วนมากเป็นห้องพักแบบ 2 Bedrooms แบ่งเป็นห้องพักแบบ 2 Bedrooms ขนาด 68.00 ตร.ม. 7 ยูนิต, ห้องพักขนาด 69 ตร.ม. 1 ยูนิต, ห้องพักขนาด 70.5 ตร.ม. 1 ยูนิต ส่วนห้องพักแบบ 1 Bedrooms แบ่งเป็นขนาด 33.5 ตร.ม. 1 ยูนิต, ขนาด 34 ตร.ม. 2 ยูนิต และ ขนาด 50 ตร.ม. 1 ยูนิตค่ะ บันไดหนีไฟ มีให้ทุกชั้น รวม 2 จุด  ฝั่งทิศตะวันตก และ ทิศเหนือ มีช่องแสงที่โถงทางเดินให้ค่ะ

5-6th Floor Plan : รูปแบบแปลน และตำแหน่งห้องพัก จะคล้าย ๆ กันค่ะ ส่วนมากเป็นแบบ 2 Bedrooms มีห้องแบบ 1 Bedroom แทรกอยู่บ้าง ไม่เยอะมาก โดยอัตราห้องพักชั้น 5 อยู่ที่ 13 ยูนิต ค่ะ

7 th Floor Plan : จะเริ่มมีห้องพักขนาดใหญ่ขึ้น มีทั้งแบบ 1 Bed, 2Bed และ Duplex อัตราห้องพักอยู่ที่ 12 ยูนิต โดยทางฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นห้องพักแบบ Duplex มีทั้งหมด 3 ยูนิต แบ่งเป็นขนาด 100, 138 และ 165 ตร.ม. อีก 8 ห้อง ตำแหน่ง และ ขนาดห้องพัก จะเหมือนกันกับชั้น 5-6 เลยค่ะ

8 th Floor Plan : อัตราห้องพักจะลดลงเหลือ 11 ยูนิต ส่วนที่หายไป 1 ยูนิต นั้น เคยเป็นตำแหน่งของห้อง 1 Bedroom โดยจะถูกห้อง Duplex ขนาด 138 ตร.ม. กินพื้นที่กว้างเข้าไป ส่วนที่เหลือตำแหน่งเหมือนกับชั้น 7 ทั้งหมดค่ะ

Roof Floor Plan : ชั้นดาดฟ้า จัดเต็มด้วยพื้นที่ส่วนกลางค่ะ ประกอบไปด้วยสวนพักผ่อน, สนามเด็กเล่น, ฟิตเนส และพื้นที่กิจกรรม [Lounge, Peaceful Yoga Lawn, BBQ Area] รวมถึงมีพื้นที่ Pet Zone สำหรับน้องหมาให้ออกมาเดินเล่นด้วยนะคะ

:: โมเดลโครงการ ::

โมเดลโครงการ : ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปสไตล์คลาสสิค ผสมผสานกับความเป็นโมเดิร์น ตัวอาคารเลือกใช้โทนสีน้ำเงินเข้ม สลับกับสีขาวมุก ตัดกับวัสดุโทนสีทองแดง โดยรวมแล้วดูเรียบ หรู คลาสสิค มีระดับ

ด้านหน้าทางเข้า-ออก แบ่งเป็นทางของรถยนต์ [Drop Off] มี Guard House ด้านหน้า ติดกันเป็นพื้นที่จอดรถ Shuttle Service ขวามือเป็นซุ้มสำหรับให้คนเดินเข้าอาคาร ซึ่งส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับ The Grande Lobby ด้านในได้เลยค่ะ

ห้องพักชั้นล่าง ได้ระเบียงสวนแบบนี้ มีการตกแต่งด้วยต้นไม้พุ่มแนวสูง เพื่อความเป็นส่วนตัว

ห้องพักแบบ Duplex จะอยู่ที่ชั้น 7-8 [ฝั่งทิศตะวันออก] ฝั่งถนนซอยเย็นอากาศค่ะ

โมเดลอาคารทางฝั่งทิศใต้ ฝั่งนี้จะติดกับซอยส่วนบุคคล และ บ้านพักอาศัย มีการเว้นระยะห่างไว้พอสมควร

โมเดลอาคาร ทางฝั่งทิศตะวันเหนือ เว้นช่องอาคารกว้างประมาณ 6 เมตร โดยตรงกลางเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.5 x 12.5 เมตร มีการปลูกต้นไม้พุ่ม เพิ่มพื้นที่สีเขียว รอบสระว่ายน้ำให้

โมเดลอาคาร ฝั่งทิศตะวันตก หรือฝั่งด้านหลังโครงการ ฝั่งนี้จะติดกับพื้นที่เปล่า และ บ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น

โมเดลชั้นดาดฟ้า : เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ชั้นนี้จะมีพื้นที่สวนพักผ่อน, สนามเด็กเล่น, ฟิตเนส, BBQ Zone รวมถึง Pet Zone สำหรับพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น นั่งเล่นกันได้ สังเกตได้ว่า โครงการมีการลงต้นไม้ใหญ่ เพิ่มร่มเงา ให้อารมณ์แบบ สวนกลางเมือง นอกจากนั้นยังลงต้นไม้พุ่ม ประดับสไตล์ยุโรปตามตำแหน่งต่าง ๆ ไว้มากพอสมควรค่ะ

:: ห้องตัวอย่าง ::

โครงการ Maestro 01 เย็นอากาศ เป็นโครงการที่ขายห้องพักแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ให้เลือก 1 แบบ เป็นแบบ Madeline ใช้โทนสีขาว-น้ำเงิน ผสมผสานกับสีทองแดง เน้นการออกแบบที่หรูหรา คลาสสิค โดยลูกค้าจะได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน, เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว, เคาน์เตอร์ครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องปรับอากาศครบทุกห้องค่ะ

เฟอร์นิเจอร์แบบ Madeline

แปลนห้องตัวอย่าง : TYPE B1-5 : 2 Bedrooms ขนาด 68.5 ตร.ม. | แยกฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นสัดส่วน เข้ามาส่วนแรกเป็นห้องครัว-มุมเตรียมอาหาร แบบเปิดโล่ง ถัดเข้าไปเป็น Living Area สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน เชื่อมต่อกันกับมุมทานอาหาร มีระเบียงพักผ่อนแบบ 2 ชั้น ขนาดใหญ่ กั้นห้อง Service เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ มีประตูปิดแยกไว้อีกฝั่ง ส่วนห้องนอน แยกไว้สองฝั่ง กั้นผนังปูน มีประตูบานเปิดปิดมิดชิด เป็นส่วนตัว โดยทางฝั่งขวามือเป็น Master Bedroom ภายในห้องมีส่วนพักผ่อน, Walk in Closet และ ห้องน้ำที่แยกส่วนแห้ง และ ส่วนอาบน้ำ ให้เรียบร้อย ส่วนห้องนอน 2 อยู่ทางฝั่งซ้ายของห้องชุดติดกับห้องนอน และ ห้องครัว มีห้องน้ำ ที่ใช้ร่วมกัน มีการแบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำให้เช่นกัน ฟังก์ชั่นโดยรวมของห้องนี้ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวในเมืองได้เป็นอย่างดีค่ะ

ประตูห้องบานลูกฟัก บานประตูสีเขียวอมน้ำเงิน ลูกบิดประตูฝังล็อก มือจับประตูก้านโยก ทั้งหมดใช้โทนสีทองแดง

เปิดประตูห้องเข้ามา เจอกับมุมครัวเป็นส่วนแรก มองต่อเนื่องไป เป็น Living Area และมุมทานอาหาร ที่สามารถเชื่อมกับส่วนระเบียงห้องพักได้ พื้นห้องครัว และ Living Area เป็นกระเบื้องลายไม้ เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่าย ความสูงเพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร มีดรอปฝ้าบริเวณครัว เพื่อเดินงานระบบ ส่วนผนังห้องพักฉาบเรียบทาสีพื้นมาตรฐาน

ด้านหลังประตูห้อง [ซ้ายมือ] แบ่งเป็นห้องน้ำ ที่ใช่ร่วมกันระหว่าง Living Area และ ห้องนอน 2

ขวามือ มองเข้าไปเป็น Master Bedroom ฟังก์ชั่นของห้องพักแบบ 2 ห้องนอน ถูกแยกส่วนกันอย่างชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด

มาดูที่มุมครัวกันก่อน จะได้เป็นครัวยุโรป แบบเปิดโล่ง บิวท์อินเคาน์เตอร์ครัว U-Shape เข้ามุมพอดี เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นของ Electrolux

ภาพรวมมุมครัว Top ครัวหิน Quartz สี Sand Brown แข็งแรง ทนต่อน้ำ-ทนความร้อนได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนหน้าบานตู้เก็บของเป็น Piano Hi gloss เลือกใช้สีเทา และ สีขาว ตัดกันได้อย่างลงตัว

ส่วนเตรียมอาหาร ฝังซิงค์ล้างจานสเตนเลสสี่เหลี่ยมหลุมเดี่ยว ก้นลึก ก็อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง หมุนซ้าย-ขวาได้ ช่วยให้การล้างจาน ล้างผักผลไม้ ทำได้สะดวก

ด้านล่างมุมเตรียมอาหาร แบ่งเป็นลิ้นชักเก็บช้อน-ส้อม ตู้เก็บของใช้ ส่วนใต้ซิงค์มีตู้เก็บของบานเปิด ฝังถังขยะแบบมีฝาปิดให้เรียบร้อย โดยตู้เก็บของทั้งหมด จะเป็นแบบ Soft Close เพื่อการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

ส่วนตรงกลางครัว และ ใต้มุมทำอาหาร เว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก. พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟ โดยทั้งสองส่วน มีการเดินระบบท่อน้ำดี-ท่อน้ำทิ้ง รวมถึงต่อเต้าเสียบปลั๊กไฟไว้พร้อมใช้งานได้เลย

ใต้ไมโครเวฟ มีลิ้นชักเก็บของให้อีก 1 จุด

มุมทำอาหาร ฝังเตาเซรามิค 4 หัว ของ Electrolux ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

เครื่องดูดควัน ติดไว้ด้านบน ใช้เป็นของ Electrolux เช่นเดียวกันค่ะ

ตู้เก็บของด้านบน เป็นแบบบานเปิดทั้งหมด มีทั้งหมด 3 ตู้ แบ่งชั้นให้วางของครบทุกตู้ สามารถเก็บของใช้ พวกจาน-ชาม-ถ้วย หรือเครื่องปรุง ได้เยอะพอสมควร

ติดกับมุมทำอาหาร เว้นช่องให้วางตู้เย็น ความกว้างประมาณ 80 ซม. [วางตู้เย็นขนาด 10 คิว ได้พอดี]

ภาพรวมห้องครัว สังเกตว่า มีพื้นที่ให้วางของได้เยอะ จะวางพวกเครื่องปิ้งขนมปัง, เครื่องชงกาแฟ, หม้อหุงข้าว แถมยังมีพื้นที่ให้เตรียมอาหารเยอะพอสมควร โดยรวมแล้วถือว่าออกแบบมาได้ดีทีเดียวค่ะ

ถัดจากมุมครัวเข้าไป เป็นส่วนของ Living Area และมุมทานอาหาร เฟอร์นิเจอร์-แอร์ ทั้งหมดได้ตามนี้ [ไม่รวมของตกแต่ง และ ผ้าม่าน] เพดานส่วนนี้สูง 2.5 เมตร ตกแต่งบัว-คิ้วสีน้ำเงินเข้ม สวยหรูดูดีทีเดียว

มาดูที่มุมนั่งเล่น พักผ่อนกันก่อน วางโซฟา Love Seat ขนาด 2 ที่นั่ง + Stool 1 ตัว ตรงกลางวางโต๊ะรับแขกทรงกลม 1 ตัว

Sideboard วัสดุ Hi Gloss สีเทา กว้าง 1.8 เมตร เกือบพอดีผนัง วางทีวีขนาดใหญ่ได้ถึง 50 นิ้ว สามารถเก็บของด้านล่างได้ด้วยค่ะ ผนังด้านหลัง ตกแต่งบัวให้สวยคลาสสิคดี

ระยะห่างจากโซฟา – Sideboard ประมาณ 1 เมตร

มุมทานอาหารอยู่ด้านหลัง ต่อเนื่อง เชื่อมต่อกับมุมนั่งเล่นเลย วางโต๊ะทานอาหาร ขนาด 4 นั่ง ให้พร้อมเก้าอี้ลอยตัว 2 ตัว ด้านในบริเวณผนัง บิวท์อินเป็นโซฟา สำหรับนั่งทานอาหาร ด้านล่างมีฟังก์ชั่นพิเศษ สามารถเปิดเก็บของไว้ด้านในได้ด้วย

เหนือมุมทานอาหาร ติดเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi ขนาด 12,000 BTU

ระเบียงห้องพักออกแบบให้เป็นระเบียงแบบ 2 ชั้น ปิดกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยตัวประตูเป็นแบบกระจกเขียวตัดแสง บานเลื่อน ฝังล็อก กว้าง 3.5 เมตร กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีขาวทั้งหมดค่ะ

เปิดออกให้ดู สังเกตว่ามีประตูด้านนอก ปิดกั้นไว้อีกชั้น ข้อดีของระเบียง 2 ชั้น คือ จะได้พื้นที่ของส่วนนั่งเล่นที่เพิ่มขึ้น ให้อารมณ์แบบมี Semi-Outdoor ส่วนตัวแบบนี้เลย

พื้นที่ส่วนระเบียง ขนาด 3.5 x 1.0 เมตร กว้างพอสมควรเลย วางเก้าอี้สนามให้ 1 ตัว พื้นระเบียงปูกระเบื้องลายไม้ ชนิดเดียวกันกับพื้นห้องด้านใน

พื้นที่ระเบียงกว้างพอสมควร จะหาโต๊ะ+เก้าอี้สนาม มาวาง ไว้นั่งเล่น รับวิว-จิบกาแฟตอนเช้า ,จัดเป็นมุม อ่านหนังสือ หรือจะจัดเป็น Pocket Garden เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องพักก็สามารถทำได้

ด้านมุมขวาของระเบียงห้อง แยกห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านนอก มีประตูปิดกั้นแยกเป็นสัดส่วน โดยระบบเครื่องปรับอากาศของโครงการนี้ ใช้เป็นระบบ VRVเป็นการรวมคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้งหมด ไว้ที่บริเวณนี้เพียงจุดเดียว ระบบนี้จะทันสมัยและมีประสิทธิภาพดีกว่าระบบเครื่องปรับอากาศทั่วไปๆค่ะ

ภาพรวมระเบียงห้องพัก

ประตูระเบียงอีกชั้น เป็นแบบกระจกบานเลื่อน เช่นเดียวกัน

เปิดรับลมธรรมชาติได้ด้วยค่ะ ด้านนอกยังมีการกั้นราวกันตกโทนสีทองแดง ให้อารมณ์แบบคลาสสิต เรียบหรู ตามคอนเซ็ปต์ของโครงการเลย

มองย้อนกลับเข้ามาให้เห็นภาพรวม ก่อนที่จะพาไปดูห้องนอน และ ห้องน้ำในแต่ละฝั่งกันค่ะ

พาดู Master Bedroom กันก่อน

เดินเข้ามาใน Master Bedroom จะเจอกับตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน ซ้ายมือแยกไปเป็นส่วนของเตียงนอน ขวามือเป็นมุม Walk in Closet และ ห้องน้ำแบบส่วนตัว

ในส่วนของห้องนอน จะปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 12 มม. หนากว่าพื้นห้องโครงการทั่ว ๆ ไป

เดินมาซ้ายมือ เป็นมุมพักผ่อน พื้นที่ให้มากว้างพอสมควรค่ะ วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต สามารถอัพเป็น 6 ฟุต ได้สบาย ๆ

พื้นที่ปลายเตียง กว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวาง Sideboard ขนาดไม่ใหญ่มากเพิ่มเข้าไปได้ หรือจะเลือกแขวนทีวีที่ผนังแบบนี้ เลือกทีวีขนาดใหญ่ได้เต็มที่เลย ในส่วนนี้ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย มีทางเดินเหลือให้เดินเข้า-ออกได้สะดวก

ข้างเตียงฝั่งในสุด มีพื้นที่กว้างประมาณ 1.3 เมตร ได้ Day Bed หนังสีดำแบบนี้ เอาไว้นอนเล่น ดูทีวี สบาย ๆ ส่วนข้างเตียงก็จะมีโต๊ะหัวเตียงให้อีก 1 ตัว พร้อมโคมไฟสำหรับเปิดตอนกลางคืน

ด้านหลัง Day Bed มีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง และ บานถาวร ให้อย่างละ 2 บานค่ะ

ข้างเตียงฝั่งนี้ เหลือพื้นที่ประมาณ 60 ซม. พอให้เดินเข้า-ออก ลุกขึ้น-ลงเตียงได้อยู่ค่ะ หัวเตียงมีโต๊ะหัวเตียง พร้อมโคมไฟให้เช่นเดียวกัน

ภาพรวมบริเวณส่วนพักผ่อนใน Master Bedroom ผนังห้องด้านซ้ายมือ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi ขนาด 12,000 BTU ไว้ 1 เครื่อง

เดินมาต่อที่ฝั่งขวาของ Master Bedroom บริเวณนี้จัดไว้เป็นมุม Walk in Closet บิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ อาทิ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ครบชุด

หน้าห้องน้ำ บิวท์อินตู้เสื้อผ้าบานเปิด มือจับลูกฟักไว้ 1 ตู้ เปิดออกให้ดูด้านใน ติดตั้งไฟ Led ให้แสงสว่าง เปิดหยิบเลือกเสื้อผ้าได้สะดวก มีราวแขวนเสื้อผ้า [บน-ล่าง] แบ่งชั้นวางของไว้ด้านบน รวมถึงมีลิ้นชักเก็บของครบ

มีตู้เสื้อผ้าด้านในอีก 2 ตู้ ลักษณะเป็นตู้ L-Shape บิวท์อินเข้ามุมห้องพอดี ด้านในติดไฟ LED แบ่งชั้นวางของ ลิ้นชักเก็บของให้ไว้เหมือนกัน

ติดกับตู้เสื้อผ้า บิวท์อินโต๊ะเครื่องแป้ง ขนาดกะทัดรัด มีลิ้นชักเก็บของให้ด้านล่าง พร้อมติดกระจกส่องหน้าทรงสูงไว้ให้ ได้พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว

Master Bedroom มีห้องน้ำให้ในตัว : ตกแต่งห้องน้ำโทนสีดำ-ขาว ดูเรียบหรู ฟังก์ชั่นห้องน้ำ แยกส่วนแห้ง และ กั้นส่วนอาบน้ำให้ครบ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดของ American Standard ค่ะ

พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องสีดำ ผิวหยาบกันลื่นแผ่นใหญ่ ส่วนผนังห้องน้ำปูกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว

เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า : ฝังตัวอ่างทรงสี่เหลี่ยมไว้ด้านบน หน้าอ่างวางของใช้ได้เล็กน้อย ก็อกน้ำโครเมียมก้านโยก ใช้งานง่าย

ด้านล้างเป็นตู้เก็บของ บานเปิด ด้านในเก็บของได้เยอะพอสมควร จะเอาไว้เก็บผ้าขนหนูสำหรับเช็ดมือ, กระดาษชำระ หรือ อุปกรณ์อาบน้ำ เพื่อการหยิบใช้ที่ง่าย สะดวก

ถัดจากเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ เลือกใช้โถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ติดตั้งสายชำระ ที่ใส่กระดาษชำระติดผนังครบเซ็ท

ภาพรวมส่วนแห้ง ได้พื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ ผนังตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ ติดราวแขวนผ้าขนหนูไว้ให้ด้วย เพดานด้านบนติดตั้งเครื่องระบายอากาศฝังฝ้าไว้ให้ครบ

ส่วนอาบน้ำกั้นกระจก Tempered บานตรง เว้นพื้นที่ด้านบน ไว้ระบายอากาศให้ เวลายืนอาบน้ำจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด

ก่อธรณีสูง 5 ซม. แยกส่วนอาบน้ำ เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนอาบน้ำ และส่วนแห้ง

พื้นที่ส่วนอาบน้ำ ขนาด 0.9 x 1.4 เมตร ได้พื้นที่มาเยอะเลยทีเดียว ยืนอาบน้ำ ทำธุระได้สบาย ๆ

ติดตั้งฝักบัว Hand Shower สายอ่อน พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก็อกน้ำผสมแบบก้านโยก ปรับน้ำร้อน-น้ำเย็นได้

ออกจาก Master Bedroom ดูภาพรวม เดี๋ยวเพียวจะพาไปดูอีกฝั่งของห้องพักกันค่ะ

ฝั่งนี้แบ่งเป็นห้องน้ำ และ ห้องนอน 2 อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

หน้าห้องน้ำ โครงการบิวท์อินตู้เก็บรองเท้าสูงจรดฝ้าไว้ให้ บานตู้เป็น Piano Hi Gloss สีเทา ภายในแบ่งชั้นไว้เยอะเลยทีเดียว เก็บรองเท้าได้เต็มพื้นที่เลยค่ะ

ห้องน้ำด้านนอก เป็นห้องน้ำที่ใช่ร่วมกันระหว่างส่วนโถงกลาง และ ห้องนอน 2 การตกแต่งห้องน้ำ, ฟังก์ชั่น และสุขภัณฑ์ ใช้เหมือนกันกับห้องน้ำของ Master Bedroom จะแตกต่างกันที่ตำแหน่ง และ ขนาดที่เล็กลงเล็กน้อย

มาดูส่วนของสุขภัณฑ์ เริ่มจากเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า

ถัดมาเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบชุดเช่นเดียวกัน

ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ ผนังที่ติดกับโถสุขภัณฑ์ เว้นช่องให้วางอุปกรณ์ในห้องน้ำได้เล็กน้อย ส่วนพื้นที่อาบน้ำ กั้นกรจก Tempered ประตูบานสวิง ยกพื้นธรณีแยกส่วน สูง 5 ซม. เหมือนกัน

พื้นที่อาบน้ำ ขนาดเล็กกว่าห้องน้ำ Master Bedroom โดยห้องน้ำด้านนอกมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 0.85 x 1.0 เมตร แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับมาตรฐานทั่วไป ยืนอาบน้ำได้สบาย ไม่อึดอัด

ฝักบัวหน้าตาเหมือนกัน เป็น Hand Shower สายอ่อน ก็อกน้ำผสม มีราวปรับระดับสูงต่ำได้

มาถึงห้องนอน 2 วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต แม้จะชึ้นชื่อว่าเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ได้มาในขนาดที่กว้างเทียบเท่า Master Bedroom เลยค่ะ

ซ้ายมือของห้องนอน 2 บิวท์อินเฟอร์นิเจอร์เต็มพื้นที่ แบ่งเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิด และ ตู้เก็บของ เหนือตู้เก็บของขึ้นไป ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi ขนาด 12,000 BTU ไว้ 1 เครื่องค่ะ

ตู้เสื้อผ้าหน้าบานลูกฟัก สีเทา สวยหรู เปิดออกด้านใน แบ่งเป็นสองตู้ขนาดกลาง ๆ มีช่องสำหรับเก็บของ ด้านล่างแบ่งช่องให้วางของครบ พร้อมติดตั้งไฟ LED ให้แสงสว่างด้านในไว้ด้วย

ตู้เก็บของด้านข้าง หน้าบานลูกฟักเช่นเดียวกัน เหนือตู้วางของได้พอสมควร ส่วนด้านล่างแบ่งลิ้นชักให้ 3 ชั้น 6 ช่อง แยกเก็บของใช้ได้เป็นระเบียบ

ข้างเตียงฝั่งนี้ เหลือพื้นที้ให้เดินเข้า-ออก กว้างถึง 1.5 เมตร

ข้างเตียงนอน มีโต๊ะเขียนหนังสือ ขนาดกลาง ๆ ให้พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว ครบชุด

อีกฝั่งของห้องนอน 2 ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 60 ซม. ไม่สามารถวางตู้หรือชั้นวางทีวีได้ แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนัง แบบห้องตัวอย่างได้เลย

แม้พื้นที่ปลายเตียง เราจะไม่สามารถวางชั้น หรือ ตู้วางทีวีแบบลอยตัวได้ แต่สามารถบิวท์อิน Sideboard ติดผนังเพิ่มเติมเองได้ หรือ จะแขวนทีวีติดผนังอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เราอัพไซส์ทีวีได้ใหญ่ถึง 50 นิ้วเลยค่ะ ใครที่ชอบดูหนัง พักผ่อนในห้องนอน สามารถจัดเต็มได้เลยนะ

ด้านในสุดของห้องนอน 2 ก็เหลือพื้นที่กว้างค่ะ วาง Day Bed ไว้ให้ 1 ตัว มีหน้าต่างกระจกบานปิด และ บานกระทุ้ง ไว้ให้เช่นเดียวกัน ในส่วนนี้จะช่วยให้ห้องไม่ดูอึดอัด เปิดม่านรับวิว รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และยังมีบานกระทุ้ง ที่ช่วยเปิดระบายอากาศได้อีกเล็กน้อย

ภาพรวมภายในห้องนอน 2 ค่ะ

:: ราคา ::

ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท

ราคาต่อเฉลี่ยเริ่มต้น 135,000 บาท/ ตร.ม.

เงินจอง : 50,000 บาท
เงินทำสัญญา : 5% ผ่อนดาวน์ 10% [คิดจากราคาห้อง]

• ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ ตร.ม. (เก็บล่วงหน้า 1 ปี)
• ค่ากองทุน : 500 บาท/ ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

โปรโมชั่นและรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่สำนักงานขาย **

:: บทสรุปโครงการ ::

– ทำเลที่ตั้งโครงการ : Maestro 01 เย็นอากาศ โครงการบนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ตั้งอยู่ภายในซอยเย็นอากาศ ตรงข้ามกับซอยประสาทสุข เป็นทำเลที่เดินทางได้สะดวก เชื่อมต่อถนนสายสำคัญใจกลางเมืองได้หลากหลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วน และ รถไฟฟ้า MRT ในส่วนของพื้นที่โครงการ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ขนาดกลาง ประมาณ 1 ไร่เศษ มีทั้งหมด 1 อาคาร หน้าโครงการติดซอยเย็นอากาศ ฝั่งทิศตะวันออก ใกล้กับโครงการเป็นโซนพักอาศัย มีทั้งแบบแนวราบ [บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น], อาคารพาณิชย์ รวมถึงอพาร์ทเม้นท์ สลับกันตลอดเส้นถนนซอยเย็นอากาศ บรรยากาศโดยรอบโครงการ แม้เป็นซอยขนาดเล็ก แต่มีผู้คนสัญจรเข้าออกตลอดทั้งวัน แต่ช่วงเวลาหลัง 3-4 ทุ่มไปแล้ว ก็เริ่มเงียบสงบ พักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่

– ความอุดมสมบูรณ์ : อยู่ในระดับที่ดีมากค่ะ ในระยะเดินมีร้านค้า, สาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่เอื้อต่อความสะดวกสบายของคนในโครงการ อาทิ Community Mall ด้านหน้าซอยเย็นอากาศ จุดตัดกับถนนนางลิ้นจี่ ภายในมีร้านอาหารชื่อดัง, ร้านเบเกอรี่, ร้านขายยา, ร้านเสริมสวย, คลีนิคทันตกรรม รวมถึงร้านสะดวกซื้ออย่าง Tops Market เปิดบริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า – เที่ยงคืน มีตลาดนัดช่วงเย็นบริเวณหลังปั๊มน้ำมันบางจาก บนที่ดินของแฟลตทหารเรือ ส่วนภายในปั๊มน้ำมัน ก็จะมีทั้งร้านกาแฟสด, Car Care เปิดให้บริการ ทั้งหมดนี้ ในระยะเดิน เดินกันได้ชิว ๆไม่เปลี่ยว *แต่ต้องเดินระมัดระวังนิดนึงค่ะ เพราะซอยเค้าเล็กเหลือเกิน แต่โดยรวมแล้วสะดวกมากค่ะ

ในส่วนของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ก็ใกล้ทั้งแม็คโคร, เทสโก้ โลตัส, เซ็นทรัล พระราม 3, T.T.N. Avenue, ดิ อัพ พระราม 3 รวมถึงใกล้กับโรงเรียนและโรงพยาบาล อย่าง โรงเรียนนานาชาติการ์เด้น, โรงเรียนนานาชาติเครซเซนต์ สองโรงเรียนนี้เดินไปได้สบาย ๆ ระยะทาง 350-700 เมตร มีโรงพยาบาล BNH และ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ตอบโจทย์คนทุก Generation ที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยแบบครอบครัวอย่างแท้จริงค่ะ

– การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เดินทางได้สะดวก เชื่อมต่อถนนสายสำคัญใจกลางเมืองได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นถนนนางลิ้นจี่, ถนนสาทร, ถนนพระราม 3, ถนนพระราม 4 ใกล้กับโครงการยังมีทางด่วนจุดขึ้น-ลง พระราม 4 ช่วยให้การเดินทางออกนอกเมืองได้สะดวกรวดเร็ว การจราจรอาจมีติดขัดบ้าง ในช่วงเวลาเร่งด่วน อย่างช่วงเช้า คนไปทำงาน ไปโรงเรียน และช่วงเลิกงาน ที่คนกลับบ้าน แต่ภายในซอยเย็นอากาศ ก็จะมีซอยลัดเลาะเยอะแยะมากมาย สามารถใช้ซอยลัด หลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด เลือกเส้นทางกันได้ตามสะดวกค่ะ

– การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ส่วนมากจะเน้นการใช้รถส่วนตัว แต่การเดินทางโดยรถสาธารณะก็ไม่ใช่ปัญหา ทางโครงการมีบริการ Shuttle Service รับ-ส่ง ตามจุดสำคัญ ๆ ตามเส้นถนนเย็นอากาศ, นางลิ้นจี่ รวมถึงไปส่งถึงรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี และ MRT คลองเตย แต่หากใครตอ้งการความสะดวก รวดเร็ว จะใช้บริการพี่วินก็ได้นะ เรียกได้จากหน้าโครงการ คือส่วนมากคนในซอยนี้ก็ใช้บริการพี่วินซะส่วนใหญ่ อัตราค่าโดยสารไป MRT 30-40 บาท หากไปเป็นครอบครัวหน่อย ก็ใช้ Taxi ซึ่งจะเรียกจากโครงการ หรือใช้บริการ Application ต่างๆ ก็แล้วแต่สะดวกเราเลยค่ะ

– การออกแบบโครงการและวัสดุ : สำหรับโครงการแบรนด์ Maestro จะเป็นคอนโด Low-Rise ระดับไฮเอนด์ ส่วนมากจะมียูนิตน้อย เน้นความเป็นส่วนตัว ห้องพักส่วนมากก็จะเน้นแบบ 2 ห้องนอน เน้นการอยู่อาศัยแบบครอบครัวคนเมือง ไปไหนมาไหน สะดวก รวดเร็วฉับไว ในส่วนของตัวอาคาร ดีไซน์แบบสถาปัตยกรรมยุโรป เรียบหรู คลาสสิค แต่แอบมีความเป็นโมเดิร์นเล็ก ๆ โครงการนี้จะใช้สีอาคารโทนน้ำเงินเข้า, สีขาว ตัดขอบราวระเบียงสีทองแดง ถือว่าลงตัว เรียบหรูดีทีเดียว

ในส่วนของห้องพัก มีให้เลือกหลากหลาย เริ่มตั้งแต่ 1 Bed ขนาด 33.5-50.5 ตร.ม., 2 Bed : 68-71 ตร.ม., 2 Bed Duplex : 100 ตร.ม. และ 3 Bed : 135-165 ตร.ม. โครงการขายห้องให้แบบ Fully Furnished ตกแต่งครบ ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Madeline เรียบหรู ดูมีระดับ โดยจะได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน, ลอยตัว, เคาน์เตอร์ครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และ เครื่องปรับอากาศครบทุกห้อง ส่วนพื้นห้องส่วนโถงด้านนอก [ครัว-ส่วนนั่งเล่น] ปูกระเบื้องลายไม้ ภายในห้องนอนปูลามิเนตลายไม้ หนา 12 มม. ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร มีดรอปฝ้าตกแต่งบัวให้บางส่วน ภายในห้องน้ำฟังก์ชั่นครบ แยกส่วนแห้ง กั้นส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ American Standard ค่ะ

– สิ่งอำนวยความสะดวก : มีมาให้ครบ เริ่มจากชั้นล่าง แบ่งเป็นที่จอดรถในร่ม แร็คจอดจักรยาน และ ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น คิดเป็น 91% หรือ 80 คัน รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาเยอะรองรับรถยนต์ได้เพียงพอ ไม่ต้องแย่งกันแน่นอน เข้ามาด้านใน มี Lobby, Mail Box, นิติบุคคล, สำนักงาน MJD ลิฟท์โดยสารให้มา 2 ตัว ขึ้นมาที่ชั้นสอง มีสระว่ายน้ำ ระบบน้ำเกลือ ขนาด 4.5 x 12.5 เมตร มีห้องซาวน่า และ สตรีม มี Pocket Garden ริมสระว่ายน้ำ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางหลัก ๆ ยกขึ้นไปชั้นดาดฟ้า แบ่งเป็นห้องฟิตเนส กั้นกระจกใส เปิดรับวิวสวนกลางเมือง, มีสวนพักผ่อน, สนามเด็กเล่น, Pet Zone โครงการนี้อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ค่ะ แต่ต้องเป็นสัตว์พันธุ์เล็ก น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกโครงการ และ อาคารพักอาศัย ระบบ Access Card Control ยูนิตน้อย แต่ก็ต้องปลอดภัย ติดตั้ง CCTV ตามชั้น ในลิฟท์ และรอบๆโครงการตามจุดสำคัญต่าง ๆ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

:: คะแนน ::

**การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้**

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สำนักงานขาย Tel : 02-287-2299

Website : http://www.mde.co.th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คอนโด ไอย์เมญ่า เขาใหญ่ Aimaya Khaoyai สัมผัสวิวทิวเขา 360 องศา ใกล้ที่สุดตลอด 365 วัน

High Light Of Project

1. Super balcony ระเบียงขนาดใหญ่พิเศษพร้อมให้คุณสัมผัส ไอเย็นอันรื่นรมย์ของเขาใหญ่อย่างคุ้มค่า

2. Super Garden Roof สวนบรรยากาศธรรมชาติ บนชั้นสูงสุดของอาคาร ทุกอาคาร พร้อมมุมพักผ่อนที่มีเอกลักษณ โดดเด่นด้วยมุมมอง 360 องศา บนยอดเขาสูงเทียบฟ้า

3. Super Land scape เนรมิตรทุกพื้นที่ทุกมุมมอง ในโครงการด้วยบรรยากาศ เมืองแห่งกามเทพ ที่อบอุ่นด้วยไอรัก จากผลงานของนักออกแบบ land scape ระดับโลก

4. Super Luxury Room ออกแบบภายในห้องสุดหรู ด้วยระดับฝ้าที่ยกสูงเพิ่มความโอ่อา แหนือมาตรฐาน ด้วยความสูง 3.5 เมตร เพิ่มมุมมองระดับ Premium luxury

5. Super Club House จัดพื้นที่บริการระดับ vip พรั่งพร้อมด้วย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย และสันทนาการเหนือจินตนาการ บนพื้นที่กว่า 3000 ตารางเมตร

ที่ตั้งโครงการ

ถนนกุดคล้า ผ่านศึก กม.12 ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 084-144-7147, 081-492-4075

Website : http://www.khaoyai-aimaya.com/

คอนโด วีธารา สุขุมวิท 36 VTARA 36 Oasis แห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิท เริ่ม 111,000 บาท/ตร.ม.

VTARA 36 [สุขุมวิท 36] โครงการใหม่จาก V Property เตรียมสัมผัส Oasis แห่งใหม่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ เริ่มต้นเพียง 111,000 บาท/ตร.ม.

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 36 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 092-802-8888, 092-802-9999

Website : http://www.vtara36.com/

คอนโด น็อตติ้ง ฮิลล์ แหลมฉบัง-ศรีราชา Notting Hill คอนโดใหม่ ส่วนกลางลอยฟ้า ตรงข้าม ม.เกษตร ศรีราชา เริ่ม 1.79 ลบ.

Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา คอนโดใหม่ ส่วนกลางลอยฟ้า ตรงข้าม ม.เกษร ศรีราชา เริ่ม 1.79 ลบ.

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท (ตรงข้าม ม. เกษตร) ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

:: Floor Plan ::

Ground Floor Plan

6th Floor Plan

7th – 35th Floor Plan

Roof Floor Plan

:: UNIT TYPE ::

** ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 061-398-3000

Website : http://nottinghill.origin.co.th/laemchabang/

ใหม่! คอนโด ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ เชื่อมต่อชีวิตคนเมือง 100 ม. จากรถไฟฟ้าท่าพระ เริ่ม 2.xx ล้านบาท

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ [Ideo Thaphra Interchange] เชื่อมต่อชีวิตคนเมือง 100 เมตร จากรถไฟฟ้า สถานีท่าพระ ราคาเริ่มต้น 2.xx ล้านบาท เร็วๆ นี้

แผนที่โครงการ

ที่ตั้งโครงการ : แยกท่าพระ [ถนนเพชรเกษม ตัดเข้าถนนรัชดา-ท่าพระ] แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษที่นี่ คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th/

ใหม่! แอชตัน สีลม Ashton Silom คอนโดใหม่ใจกลางเมือง ติดถนนสีลม 

เตรียมพบกับโครงการ “แอชตัน สีลม Asthon Silom“ คอนโดใหม่ใจกลางเมืองจาก Ananda Development ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนสีลม เยื้องกับสีลมซอย 9 ติดโรงแรม Pullman Silom คล่องตัวทุกการเดินทาง ใกล้รถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี และ ทางด่วน

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้แล้วที่นี่ คลิก

แผนที่โครงการ

ติดถนนสีลม [ใกล้โรงแรม Pullman Silom] แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. 10500

SYNCHRONICITY OF PAST AND FUTURE สีลม เป็นศูนย์รวมทางธุรกิจและการเงินของประเทศหรือ ‘Wall Street of Thailand’ จุดเริ่มต้นของทุกความก้าวหน้า เชื่อมต่อคุณค่าจากอดีต ตกทอดมาถึงปัจจุบันและอนาคต รายล้อมด้วยแหล่ง Lifestyle ตอบสนองการใช้ชีวิตเหนือระดับ และวัฒนธรรมอันหลากหลาย สีลมเป็นหนึ่งในสุดยอดของทำเลซึ่งมีมูลค่าสูงสุดตลอดกาล

AWE-INSPIRING ICON เต็มอิ่มกับเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯกับผลงานศิลปะระดับ Masterpiece แห่งยุค สไตล์ Neo-Industrial , Futuristic ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่เหนือสิ่งอื่นใด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-316-2222

Website : http://www.ananda.co.th/

EP.282 รีวิว คอนโด IDEO MOBI บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ คอนโดใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 3 ล้านบาท*

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ IDEO Mobi บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ คอนโดแบบ High Rise 32 ชั้น 661 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 22 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ที่หัวมุมของสี่แยกประชาชื่น ใกล้กับตลาดเตาปูน ห่างจากสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีเปลี่ยนเส้นทาง (Interchange Station) ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ และสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ ประมาณ 200 เมตร และรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) 1 สถานี จากMRT สถานีเตาปูนไปสถานีบางซ่อน และจาก MRT สถานีเตาปูน ห่างไปเพียง 1 สถานีก็จะเป็น MRT บางซื่อสายสีน้ำเงินปัจจุบัน ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ SCG นั่นเองค่ะ โดยวันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปเดินสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูห้องตัวอย่างกันค่ะ ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร : )

ที่ตั้งโครงการ

ใกล้ตลาดเตาปูน แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. 10800

พิกัด google map: 13.806387, 100.533278

คอนโด Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange เป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน ซึ่งเป็น Interchange station ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ และสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ

โดยความพิเศษของสถานีเตาปูนคือเป็นสถานีเชื่อมต่อหรือสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ดำเนินการก่อสร้างพร้อมกันมา โดยจากสถานีเตาปูนนี้จะเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดิน ห่างจาก MRT สถานีใต้ดินบางซื่อในปัจจุบัน(แถวหน้าบริษัทปูนซีเมนต์ไทยหรือ SCG นั่นเอง) เพียงสถานีเดียวเท่านั้น

ที่บริเวณสถานีกลาง MRT สถานีใต้ดินบางซื่อ หรือ Bangsue Grand Station ( The Linkage and Business Hub of Asean) ซึ่งสถานีบางซื่อนี้จะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงและฮับธุรกิจของอาเซียน บนเนื้อที่รวม 2,325 ไร่ ทั้งนี้จะมีการจัดสรรพื้นที่เพื่อมาใช้พัฒนาเชิงธุรกิจประมาณ 305 ไร่ โดยโปรเจคดังกล่าวคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2562 นี้ค่ะ เป็นการพัฒนาพื้นที่โดยมีระบบขนส่งสาธารณะเป็นศูนย์กลาง เพื่อดึงดูดให้คนเข้าสู่พื้นที่โครงการนั่นเอง

ซึ่งจากตรงนี้เราสามารถนั่งต่อไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชรไปเดินเล่นจตุจักรหรือจะไปขึ้นรถไฟฟ้าบนดินที่สถานีหมอชิตเข้าเมืองไปสยามกันต่อได้เลย ทำให้มันกลายเป็นเครือข่ายรถไฟฟ้าวงแหวนวงเดียวของประเทศไทย ซึ่งเชื่อมหัวกับบางซื่อ ท้ายกับหัวลำโพง วิ่งวนเป็นวงกลม สีน้ำเงินสายใหม่วิ่งบนฟ้า(ช่วงระยะ 5 กม จากเจริญกรุง-ถนนอิสรภาพเป็นใต้ดิน) สีน้ำเงินเก่ามุดลงใต้ดิน

นอกจากนี้เพียง 1 สถานี จาก MRT สถานีเตาปูนไปสถานีบางซ่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นทำเลเด่นอีกจุดนึงของสายสีม่วงเช่นกัน เนื่องจากตัวสถานีจะมี Sky Way เชื่อมกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งจะวิ่งไปมาระหว่างบางซื่อ – ตลิ่งชัน และในอนาคตจะเชื่อมต่อไปถึงนครปฐม – ฉะเชิงเทรานู่นเลยค่ะ

ตัวที่ดินตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกประชาชื่นค่ะ ที่ดินของโครงการจะมีทั้งด้านที่ติดกับถนนประชนชื่น และถนนประชาราษฎร์สาย 2 แต่ทางเข้ามีอยู่ทางเดียวคือฝั่งที่อยู่ติดกับถนนประชาชื่น

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนเตชะวณิช → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2→ มุ่งหน้าไปสีแยกประชาชื่น ที่สี่แยกนี้ก็จะเจอสำนักงานขายโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ → เราเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาชื่น → ตรงไปประมาณ 80 เมตร จะเจอทางเข้าที่จอดรถโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange อยู่ทางซ้ายมือแล้วค่ะ

การเดินทางเริ่มต้นที่ถนนเตชะวณิช ตรงไปขึ้นสะพานสูง ด้านขวามือจะเห็นอาคารสำนักงานใหญ่ของ SCG อยู่

จากบนสะพานสูง ขวามือจะเห็นกลุ่มอาคารของ SCG ชัดเจน

ถัดมาก็จะเป็น Tesco Lotus ประชาชื่น ซึ่งเป็นแหล่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ตรงข้ามโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange เลยค่ะ

ลงจากสะพานสูงตรงมาก็จะเป็นแยกประชาชื่นแล้วค่ะ ขวามือเราจะเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนและสถานีบางซื่อ

ที่แยกประชาชื่นนี้เราจะเจอสำนักงานขายและโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange อยู่ทางหัวมุมฝั่งขวามือแล้วค่ะ เราเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาชื่น

สำนักงานขายโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange จะตั้งอยู่ตรงหัวมุมแยกประชาชื่น ระหว่างถนนประชาราษฎร์สาย 2 และถนนประชาชื่น โดยทางเข้าที่จอดรถจะอยู่ที่ถนนประชาชื่นนะคะ

จากแยกประชาชื่นหน้าสำนักงานขายตรงนี้ไปหน้าทางเข้าโครงการและที่จอดรถมีระยะประมาณ 80 เมตร เราจะพาเดินไปกันค่ะ ถนนประชาชื่นหน้าโครงการเป็นถนน 6 เลน มีเกาะตรงกลางแบ่งฝั่งละ 3 เลน

ตัวถนนประชาชื่นวิ่งขนานกับคลองประปา เราอยู่ในฝั่งมุ่งหน้าไปประชานุกูลค่ะ แต่ถ้าจะกลับรถไปแยกประชาชื่น จุดกลับรถก็อยู่ค่อนข้างใกล้นะคะ ห่างจากทางเข้าออกโครงการแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น

เราเดินตรงไปข้างทางจะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์สูง 4 – 5 ชั้น มีร้านอาหารอย่างบุฟเฟ่ต์ชาบู, ก๋วนเตี๋ยวเย็นตาโฟ เปิดอยู่ด้านล่าง

ตรงไปหน่อยก็จะเจอร้านขายผ้าศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นร้านขายผ้าร้านใหญ่ของย่านนี้นะคะ ตัวร้านจะอยู่ติดกับที่ดินโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange เลย

ถัดมาก็จะเป็นทางเลี้ยวซ้ายเข้าที่จอดรถของโครงการแล้วค่ะ

ภาพทางเข้าที่จอดรถโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange

ฝั่งตรงข้ามทางเข้าโครงการเป็นห้าง Tesco Lotus ประชาชื่น

หน้าทางเข้าโครงการพสร้างเสร็จจะอยู่ตรงนี้ค่ะ

มองไปทางซ้ายจะเห็นว่าอยู่ข้างทางเข้าที่จอดรถและร้านขายผ้าศรีสุวรรณ

มองไปทางขวาจะเป็นกิจการของร้านศรีสุวรรณเช่นกันค่ะ เป็นร้านขายเครื่องเขียนชื่อ ศรีสุวรรณเครื่องเขียน

ติดกับที่ดินโครงการเลยทางซ้ายมือจะเป็นร้านขายกาแฟ ร้านตัดเสื้อ (ก็อยู่ใกล้ร้านขายผ้านี่นา) และทางเข้าไปร้านเครื่องเขียน

ร้านเครื่องเขียนมีขนาดใหญ่พอสมควรและมีสองชั้นนะคะ ใครชอบงานประดิษฐ์ประดอยหรือชอบทำงานสร้างสรรค์น่าจะชอบค่ะ มีทั้งร้านขายผ้าและร้านขายเครื่องเขียนอยู่ใกล้ๆแบบนี้

ต่อไปเราจะพาเดินจากสถานีเตาปูนมาที่ตั้งโครงการกันต่อค่ะ

เริ่มกันจากสถานีเตาปูนบนถนนประชาราษฎร์สาย 2

มองไปฝั่งตรงข้ามถนน ติดสถานีเตาปูนเลยมีพื้นที่โครงการตลาดนัดที่ตอนนี้หน้าที่ดินติดป้ายเปิดให้จองร้านค้า อาหารเครื่องดื่ม ผลไม้ สินค้าแฟชั่น กิ๊ฟช็อปกันแล้ว

จากสถานีเตาปูน ประมาณ 200 เมตรจะถึงที่ดินโครงการค่ะ เราเดินตรงไปบนทางเท้าเลียบถนนประชาราษฎร์สาย 2 ไปเรื่อยๆนะคะ ริมถนนก็จะเป็นตึกแถวสูง 4 -5 ชั้น ส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านค้าด้านล่าง บางร้านก็ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า

บางร้านก็ขายแว่น ร้านแว่นนี่มีป้ายรถเมล์อยู่หน้าร้านด้วยค่ะ มีรถเมล์สาย 5 , 50 , 65 , 66 , 97 ผ่าน

บางร้านก็ขายหมูหยองหมูแผ่น สังเกตบรรยากาศร้านรวงแถวนี้จะค่อนข้างเก่าๆหน่อย มีคนเฒ่าคนแก่เดินไปเดินมาเต็มไปหมด เนื่องจากย่านเตาปูนนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อยู่กันมานานแล้ว

เราเดินตรงมาเรื่อยๆจะเจอร้านทอง ซึ่งแถวหน้าร้านทองจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่

อัตราค่าโดยสารค่ะ ไป MRT บางซื่อ 20 บาท

ถัดไปจะเป็นธนาคารกรุงเทพ ซึ่งธนาคารนี้จะอยู่ติดกับที่ดินโครงการเลย

ถัดไปก็จะเป็นที่ดินโครงการแล้วค่ะ ซึ่งตอนนี้ด้านหน้าฝั่งติดถนนประชาราษฎร์สาย 2 ก็จะเป็นสำนักงานขายโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange นั่นเอง

สำนักงานขายจะอยู่ที่หัวมุมของแยกประชาชื่นพอดี

มองไปที่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ฝั่งตรงข้ามสำนักงานขายจะเป็นตึกแถวสูง 3 – 4 ชั้นแบบนี้

ตรงหัวมุมฝั่งตรงข้ามจะเป็นโชว์รูมของอีซูซุค่ะ

เนื่องจากสถานีเตาปูนตรงนี้เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ คล้ายๆสถานีสยาม เป็นสถานีใหญ่ เพราะจะเป็นตัวเชื่อมกับรถไฟฟ้าที่วิ่งมาจากบางใหญ่เข้าสู่ตัวเมือง ทำให้ตอนนี้รอบๆสถานีมีโครงการคอนโดมิเนียมผุดขึ้นมาเยอะทีเดียวค่ะ นอกจากโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange ที่เรามาสำรวจกันวันนี้ เอาที่ก่อสร้างไปเป็นรูปเป็นร่างไปแล้วใกล้ๆสถานีจะมีโครงการเช่น ชีวาทัย, The Tree Interchange หรือที่เพิ่งเปิดตัวมาในช่วงปี 57 – 58 นี้ก็จะมี Rich Park 2 @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์, The Stage ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่โครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ High Rise แทบทั้งนั้น

บรรยากาศรอบฌครงการคือเป็นทำเล มีความเป็นชุมชนที่อยู่กันมานาน มีตลาด มีร้านทำผม ร้านขายของชำ ร้านขายทอง มีของกินขายให้เห็นตามข้างทางอยู่เรื่อยๆ พูดถึงเรื่องรถติด แถวนี้ยังไม่ค่อยติดเท่าไหร่ค่ะ ยังห่างชั้นจากแยกแครายเยอะ จะมีนานๆทีที่ติดบ้างเป็นผลกระทบมาจากรถที่ติดตรงแยกวงศ์สว่างเป็นประจำนั่นเอง

สถานที่สำคัญใกล้โครงการ

• 7-11 ประมาณ 60 m.
• ธนาคารกรุงเทพ ประมาณ 100 m.
• เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น ประมาณ 200 m.
• MRT บางซื่อ ประมาณ 850 m.
• สำนักงานใหญ่ SCG ประมาณ 750 m.
• บิ๊กซี วงศ์สว่าง ประมาณ 3.2 km.
• รร.โยธินบูรณะ 2 ประมาณ 4.1 m.
• รร.สตรีนนทบุรี ประมาณ 4.5 km.
• รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น ประมาณ 2.9 km.
• รพ.บางโพ ประมาณ 1.2 km.

ตัวโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ๆระยะเดินไม่เกิน 600 เมตรรอบๆโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange จะมี 7-11 ตลาดสามแยกเตาปูนและ Lotus ประชาชื่น ค่ะ อาคารที่พักอาศัยดั้งเดิมรอบๆจะเป็นอาคารแนวราบอย่างห้องแถว อาคารพาณิชย์สูง 4 – 5 ชั้นแทบทั้งหมด ทิศตะวันออกทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนประชาชื่น ทิศใต้ติดถนนประชาราษฎร์สาย 2 ทิศตะวันตกติดธนาคารกรุงเทพ และตึกแถว 4 – 5 ชั้น ล้อมไปทางทิศเหนือของโครงการ เดี๋ยวพาเข้าไปดูที่ดินโครงการกันต่อเลยค่ะ

ภาพทางเข้าที่จอดรถสำนักงานขายโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange

เข้าไปจะเป็นส่วนของที่ดินโครงการที่กำลังเคลียร์พื้นที่เตรียมฐานรากกันอยู่

จากที่ดินโครงการมองไปทางทิศตะวันตก ซ้ายสุดของภาพจะเป็นธนาคารกรุงเทพที่ด้านหน้าอยู่ติดถนนประชาราษฎร์สาย 2 ความสูงอาคารสีขาวประมาณ 5 ชั้น ถัดไปเป็นตึกแถวสูง 3 – 5 ชั้น

มองไปทางทิศเหนือจะเป็นตึกแถวสูง 3 – 5 ชั้น ขวาสุดจะมีอาคารสูง 8 ชั้นกำลังก่อสร้างอยู่

มองไปทางทิศตะวันตกจะเห็นอาคารสูง 8 ชั้นที่กำลังก่อสร้างอยู่ และสร้างเสร็จแล้วอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งนี้จะหันหน้าออกไปทางถนนประชาชื่นค่ะ

ทิศใต้จะหันอยู่ติดกับถนนประชาราษฎร์ เราจะเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งผ่านแบบนี้

สำนักงานขาย

เข้าไปดูสำนักงานขายกันต่อค่ะ สำนักงานขายโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange จะเปิดทุกวันตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม

ภายในสำนักงานตกแต่งมาในแนวฟิวเจอริสติกสีขาวดำ มีที่นั่งรับรองลูกค้า โมเดล และห้องตัวอย่าง

ในสำนักงานขายจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการให้ข้อมูลอยู่นะคะ พร้อมจอ Presentation โครงการแบบทัชสกรีน

ไปดูโมเดลโครงการกันต่อค่ะ จะเห็นว่าโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange ทางเข้าออกจะอยู่บนถนนประชาชื่น

โครงการจัดสวนชั้นล่างเอาไว้ติดถนนฝั่งประชาราษฎร์นะคะ โดยที่ชั้นล่างใกล้สวนจะมีทางเข้าร้านค้าอยู่ (ยูนิตร้านค้า 5 ยูนิต)

ที่จอดรถโครงการอยู่ที่ชั้น 1 – 7 ค่ะ จอดได้ 260 คัน คิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ส่วนยูนิตี่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไปจนถึงชั้น 31

พื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้น 8 และชั้น 32 ค่ะ โดยชั้น 8 จะมีมุมพักผ่อน สวนขั้นบันได น้ำตก ห้องสมุด

ชั้น 32 จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 7 x 30 m. ห้องฟิตเนส 2 ห้อง มีทั้งห้องออกกำลังกายและห้องเปล่าสำหรับโยคะ และมีห้อง Social Club และมีมุมดูดาวพร้อมกล้องส่องดาวด้วย ก็เรียกว่าให้ส่วนกลางมาแบบจัดเต็มตามสไตล์คอนโดไอดีโอค่ะ เราไปดูผังอาคารกันต่อเลยจะได้เห็นภาพ ว่าส่วนไหนเป็นอย่างไรบ้าง

FLOOR PLAN

มาดูผังโครงการกันต่อค่ะ เริ่มกันจากชั้นล่างสุด จากถนนประชาชื่น ผ่านซุ้มประตูทางเข้าโครงการมา จะมีกำแพงน้ำตกอยู่ทางขวามือ เข้ามาจะมี Drop off หน้า Lobby ตรงฝั่งติดสวนทางซ้ายเป็น Retails 5 ยูนิต เท่าที่ถามมามีแผนจะทำเป็นร้านกาแฟและร้านอาหารค่ะ ยังไงต้องรอดูสรุปกันอีกทีค่ะ

โครงการมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 4 ตัว แยกฝั่งละ 2 ตัว และที่ชั้นล่างนี่มีห้องคุยงานและห้องดูหนังมาให้ด้วย ก็ต้องรอดูกันนะคะว่าเสร็จออกมาจะเป็นยังไง

เอาภาพจำลองทางเข้าโครงการมาให้ดูค่ะ จะเห็นว่าด้านหน้าโครงการจะมีกำแพงน้ำตกนำสายตาเข้าสู่ภายในโครงการ จะเห็นจากภาพว่าเน้นความเขียวชอุ่ม ร่มรื่นของต้นไม้ที่สวนชั้นล่าง

ภาพจำลองสวนด้านหน้าโครงการ มีต้นไม่ใหญ่หลายต้นและไม้พุ่ม พร้อมทั้งปูสนามหญ้าแบบขั้นบันได และมีที่นั่งเอาไว้ให้นั่งเป็นจุดๆ เหมาะเป็นที่เดินเล่นหรือนั่งเล่นของคนในโครงการ

ภาพจำลองล็อบบี้ที่ตกแต่งมาแบบ Futuristic Art Deco

ภาพจำลองล็อบบี้ที่ตกแต่งมาแบบ Futuristic Art Deco โทนสีดำ ทอง เบจ

ภาพจำลองล็อบบี้ที่ตกแต่งมาแบบ Futuristic Art Deco

ภาพจำลอง Cinema Lounge & Co Working Space พื้นที่สำหรับดูหนังหรือคุยงานที่ชั้น 1

ภาพจำลอง Cinema Lounge & Co Working Space อีกมุมค่ะ

ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 8 ค่ะ ความหนาแน่นค่อนข้างต่ำเพราะมียูนิตเพียง 21 ยูนิต และเป็นชั้นที่มีทางเดินออกมาสวนและห้องสมุดด้วยค่ะ ห้องฝั่งที่อยู่ติดสวนมีข้อดีคือได้วิวสวน ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากสวนค่ะ เวลามีคนมาใช้งานเยอะๆ แต่โครงการปลูกต้นไม้ทำ Buffer ไว้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและช่วยกันเสียงรบกวนไปได้ส่วนนึง

ภาพจำลองสวนแบบขั้นบันได้ที่ชั้น 8 ค่ะ จะเห็นว่าปลูกต้นไม้ไว้ร่มร่นและออกแบบ Landscape มาได้น่าสนใจทีเดียว

ภาพจำลองบ่อน้ำตกหน้าห้องสมุด และที่นั่งแบบ Sunken Seat

9th – 29th Floor Plan การจัดผังส่วนยูนิตพักอาศัยจะไม่ต่างกับชั้น 8 ค่ะ โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 28 ยูนิต

30th Floor Plan ชั้น 30 นี่ความแตกต่างคือจะมี Unit แบบ F ซึ่งเป็นยูนิตแบบ Duplex 2 ชั้นอยู่ ซึ่งชั้นล่างจะอยู่ที่ชั้น 30 ส่วนชั้น 2 จะอยู่ที่ชั้น 31 ค่ะ

31 Floor Plan การจัดผังส่วนยูนิตพักอาศัยจะไม่ต่างกับชั้นอื่นๆค่ะ แต่จะมีชั้น 2 ของยูนิตแบบ F อยู่ เรื่องการเลือกห้องโครงการวางอาคารแนวยาวหันหน้าทิศตะวันออก ตะวันตก และเนื่องจากอาคารเป็นรูปตัว U จึงจะมีห้องมุมนอกมุมใน ซึ่งอันนี้ก็ต้องเลือกตาม Lifestyle ของตัวเองค่ะ

อย่างเรื่องแสง ห้องที่หันไปทางทิศเหนือจะได้รับแสงธรรมชาติที่ไม่แรงเหมาะกับการอยู่อาศัยตลอดวัน ส่วนห้องทางทิศใต้จะได้รับแสงแดดแทบทั้งวันเพราะดวงอาทิตย์ในไทยวิ่งอ้อมใต้นะคะ ส่วนห้องทางตะวันออกก็จะได้แดดเช้าที่อ่อนกและเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลาง แต่ก็เป็นยูนิตขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยนะคะ ส่วนห้องทางตะวันตกซึ่งได้แสงช่วงบ่ายที่ร้อนกว่า แต่หันออกมุมนอกที่มีความเป็นส่วนตัวกว่าเพราะยังไม่มีตึกสูงรอบๆขึ้นมาบัง ซึ่งอันนี้ต้องดูความต้องการของผู้ซื้อเป็นหลักค่ะ ว่าเน้นทิศแดดลม หรือเน้นความเป็นส่วนตัว หรือเน้นวิว

ชั้น 32 เป็นพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนสุด โดยออกจากลิฟต์มาจะสามารถเดินออกมา จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 7 x 30 m. ห้องฟิตเนส 2 ห้อง มีทั้งห้องออกกำลังกายและห้องเปล่าสำหรับโยคะ และมีห้อง Social Club และมีมุมดูดาวพร้อมกล้องส่องดาวด้วย นอกจากนี้ที่ชั้น 32 จะมีห้องงานระบบซึ่งแยกทางขึ้นลงต่างหากนะคะ เวลาช่างขึ้นมาซ่อมบำรุงก็จะไม่ผ่านทางตัวสระเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานสระค่ะ

ภาพจำลองพื้นที่ส่วนกลางชั้น 32 ส่วนมุมที่นั่งชมวิวเมืองในสวน

ภาพจำลองพื้นที่ส่วนกลางชั้น 32 ค่ะ จะเห็นว่าสระให้มาขนาดใหญ่ทีเดียว

ภาพจำลองพื้นที่ส่วนกลางชั้น 32 สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ทางเดินและที่นั่งข้างสระสำหรับชมวิวเมือง

ภาพจำลองพื้นที่ส่วนกลางชั้น 32 ที่นั่งแบบ Sunken Seat

ภาพจำลองส่วน Art Deco Sky Lounge ชั้น 32 ที่มีเก้าอี้ที่นั่งทำงานไปชมวิวเมืองไปได้ และโต๊ะพูล

ภาพจำลองส่วน Sky Fitness ชั้น 32 ที่วิ่งออกกำลังกายไปชมวิวเมืองไปด้วยได้

ห้องตัวอย่าง

ที่สำนักงานขายจะมีห้องตัวอย่างมาให้ดูกัน 2 ห้องค่ะ เป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 26 ตารางเมตร และแบบ 31 ตารางเมตร

เริ่มจากห้องแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร กันก่อน เข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นส่วนห้องนอน จะมีฉากกั้นห้องมาให้ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ครัวกับห้องน้ำจะจัดไว้อีกฝั่งของห้อง โดยส่วนครัวจะอยู่ติดระเบียงทำให้ระบายอากาศได้ง่ายเวลาทำอาหาร ระเบียงขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้วางแอร์คอมเพรสเซอร์และตากผ้าได้ ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

ประตูทางเข้าห้องตัวอย่างจะเจาะช่องเท่าขนาดจริงมาให้ดูนะคะ ส่วนของจริงที่ได้จะเป็นบานสำเร็จรูปขนาด 0.9 x 2.0 m.

ที่ประตูทางเข้าห้องมี Digital Doorlock มาให้ เปิดด้วยวิธีใช้การ์ดแตะ หรือกดรหัส หรือไขกุญแจ จาก Yale

เปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นมองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนอนที่มีฉากกั้นห้องอยู่ พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เพดานห้องสูง 2.5 เมตร ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ได้ตามที่เห็น ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 – 50 นิ้ว กำลังดีค่ะ

ห้องตัวอย่างจัดโซฟาแบบ 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งาน สังเกตว่าเหลือที่ด้านข้างโซฟาพอวางโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 คนได้

จากโซฟามองไปที่ชั้นวางทีวี สังเกตว่ามุมผนังหลังชั้นวางทีวีจะถูกปาดมุมออกทำให้ภาพรวมดูกว้างขึ้น ส่วนผนังของจริงที่ได้จะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ทางเดินไปส่วนครัว ระเบียง และส่วนห้องน้ำ สามารถกั้นห้องเพิ่มได้ในกรณีคนทีทำอาหารบ่อยๆต้องการกันกลิ่นเข้ามาให้ส่วนห้องนั่งเล่น

เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อค่ะ จะมีฉากกั้นห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 บาน เฟรมอลูมิเนียมสีเทา กระจกเขียวตัดแสง

รางเลื่อนประตูด้านล่างฝังพื้นมาให้ ทำให้เวลาเดินไม่สะดุด มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

ข้อดีของบานเลื่อนแบบสามบานคือจะทำให้มีช่องเปิดที่กว้างกว่าแบบ 2 บานแบบนี้ ห้องตัวอย่างวางเตียงแบบ 5 ฟุตมาให้ดูระยะใช้งานว่าเดินรอบๆได้

ปลายเตียงหลังจากวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งไปแล้วเหลือระยะใช้งานประมาณ 40 ซม.

ห้องตัวอย่างทำ Built in โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนมาให้ดูเป็นไอเดีย

ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีความกว้างประมาณ 40 ซม. สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้

ส่วนห้องนอนมีหน้าต่างบานสูงมาให้ด้านข้าง 1 ชุด คือด้านล่างจะเป็นบานฟิกซ์เปิดปิดไม่ได้ เป็นช่องแสงเฉยๆ ส่วนด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่และมีบานฟิกซ์ด้านข้างทั้งสองฝั่ง

เราไปดูส่วนครัวกันต่อค่ะ

ครัวมาเป็นเคาเตอร์ชุดกะทัดรัดพร้อมหน้าบานปิดผิวลายไม้ทั้งบนและล่าง ด้านข้างวางตู้เย็นมาให้ดูระยะใช้งาน

เปิดที่เก็บของในชุดครัวให้ดูค่ะ ชั้นล่างใต้อ่างล้างจานเปิดมาจะมีที่เก็บของและถังขยะแบบมีฝาปิดมาให้ ซ้ายสุดจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า และตรงกลางเป็นลิ้นชักที่เหมาะเอาไว้วางช้อนส้อมด้านบน และขวดเครื่องปรุงรสด้านล่าง

ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวจะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้าและ BackSplash มาให้โดยกรุผนังด้วยกระเบื้องทำให้เวลาเปื้อนก็เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายของจริงได้ลายตามนี้ เคาน์เตอร์ครัวมีอ่างล้างจานสแตนเลส 1 หลุมพร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันจาก Franke มาให้

ด้านบนเป็นเครื่องดูดควัน มีชั้นลอยมาให้เก็บจานชามหรือสิ่งของด้านบนเพิ่มได้พร้อมบานปิด และเป็นที่ซ่อนแผงงานระบบไฟให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

พอวางชุดครัวไปแล้วจะเหลือระยะเดินไประเบียง กว้างประมาณ 80 ซม. มองไปที่ระเบียงจะเห็นว่าโล่ง ด้านบนแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้แบบนี้ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยที่ระเบียงมากขึ้น

มีธรณีประตูยกขึ้นมาระหว่างระเบียงและห้องครัวประมาณ 5 เซนติเมตร ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีเทา ราวกันตกเป็นเหล็กทาสีเทาอ่อน

บ้านตัวอย่างวางกระถางต้นไม้มาให้ดูเป็นไอเดีย

ไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อค่ะ

หน้าทางเข้าห้องน้ำมีที่พอวางตู้เก็บของเพิ่มได้ตู้นึง ที่เก็บของเป็นเรื่องสำคัญในการอยู่คอนโดซึ่งต้องจัดสรรกันให้ดีนะคะ มีชั้นเก็บของพร้อมบานปิดซักตู้แบบนี้ก็ช่วยให้เก็บของง่ายขึ้น

สวิตช์ไฟของ Schneider

ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นธรณีเป็นหินควอตซ์ ข้อดีคือจะไม่บวมเวลาโดนน้ำไปนานๆเหมือนธรณีที่เป็นลามิเนต

ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด พื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกสีครีมขนาด 60 x 60 เซนติเมตร สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto หรือแบรนด์เทียบเท่า

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานห้องน้ำติดไฟดาวน์ไลท์ เพดานเหนือโถสุขภัณฑ์มีพัดลมดูดอากาศมาให้

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง

ส่วนอาบน้ำจะมีทั้ง Rain Shower และ ฝักบัว เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ดีค่ะ นอกจากนี้มีที่วางสบู่เข้ามุมติดมาให้กับชุดฝักบัวด้วย ห้องตัวอย่างวางขอมาให้ดูระยะใช้งานว่าวางได้หลายอย่าง

อ่างล้างมือมีเคาน์เตอร์พร้อมบานปิดผิวลายไม้มาให้เก็บของ และกระจกเงาได้ตามที่เห็นค่ะ

เทียบขนาดฝ่ามือให้เห็นระยะใช้งาน อ่างล้างมือไม่มีที่วางของรอบๆมาให้มากนัก แต่พอวางสบู่ล้างมือ แปรงสีฟัน ยาสีฟันได้

เราพาไปดูห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตร กันต่อนะคะ เข้ามาจะเป็นส่วนครัวต่อด้วยส่วนห้องนั่งเล่น เปิดไประเบียงได้ ระเบียงมีขนาดกว้างพอวางชุดโต๊ะกินข้าวสำหรับ 2 คนได้ และมีกระจกกั้น 2 ชั้นในส่วนระเบียง ทำให้เวลาเปิดแอร์ก็สามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้ และมีห้องวางแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนห้องนอนกับห้องน้ำจัดอยู่ฝั่งเดียวกัน โดยห้องนี้จะมีผนังกั้นห้องชัดเจนเป็นสัดส่วน โดยทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน

เข้ามาจะเป็นส่วนครัว มองไปเห็นห้องนั่งเล่นแบบนี้ ในห้องตัวอย่างทำฉากกั้นห้องระหว่างส่วนห้องนั่งเล่นกับส่วนครัวมาให้ดูเป็นไอเดีย

ชุดครัว Built-in นี่จะได้มากับห้องด้วยนะคะ เป็นชุดครัวขนาดเล็ก มีชั้นลอยให้เก็บของ มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน พร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า และลิ้นชักเก็บของให้มาเหมือนกันกับห้องตัวอย่างห้องแรก

อีกฝั่งวางตู้เย็นและตู้เก็บของมาให้ดูระยะใช้งาน

เปิดตู้เก็บของให้ดูค่ะ ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้ตัวห้องได้ดี

ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร เหมาะจะวางทีวีขนาดประมาณ 40 – 50 นิ้ว กำลังดี

ส่วนห้องนั่งเล่นจัดเป็นโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวีมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ จะเห็นว่าเหลือระยะเดินรอบๆได้ ถัดจากโซฟายังมีพื้นที่พอให้วางอาร์มแชร์กับโต๊ะข้างได้อีกชุด

วางชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย

ติดกับส่วนห้องนั่งเล่นจะมีประตูเลื่อนแบบสามตอนเปิดออกไประเบียง ประตูเลื่อนแบบสามตอนทำให้ห้องได้ช่องเปิดที่กว้างขึ้นไม่อึดอัด รางของบานเลื่อนวางอยู่บนธรณีประตู ยกพื้นขึ้นมาประมาณ 3 ซม. ห้องตัวอย่างวางโต๊ะกินข้าวสำหรับ 2 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน พื้นที่ระเบียงนี้ ที่ราวกันตกจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนกั้นให้อีกชั้น ทำให้เวลาเปิดแอร์สามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงเป็นส่วนนึงของห้องนั่งเล่นได้

ที่ระเบียงจะมีช่องเปิดไปพื้นที่วางแอร์คอมเพรสเซอร์ข้างระเบียงได้นะคะ อันนี้ห้องตัวอย่างเจาะช่องมาให้เห็นภาพ แต่ของจริงจะเปิดออกไปได้

เข้าไปดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ ห้องจริงจะมีประตูมาให้นะคะ

ในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตมาให้ พร้อมโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะใช้งาน

ปลายเตียงมีระยะประมาณ 40 เซนติเมตร ถ้าจะติดทีวีแนะนำให้แขวนกับผนังแบบห้องตัวอย่างดีกว่าวางบนชั้นปลายเตียงค่ะ เพราะถ้าวางชั้นไปจะไม่เหลือที่เดินปลายเตียง

ข้างเตียงมีระยะเดินประมาณ 50 ซม.

และมีมุมยุบเข้าไปวางโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ได้แบบนี้

มองไปอีกฝั่งของห้องนอน เป็นทางเข้าไปส่วนห้องน้ำ และผนังที่เหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้า

พอวางตู้เสื้อผ้าไปแล้วจะเหลือระยะข้างเตียงประมาณ 40 ซม. แนะนำให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนนะคะ เวลาเปิดปิดจะได้ไม่ชนเตียง

ไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อค่ะ

วัสดุและสุขภัณฑ์จะเป็นแบบเดียวกันกับห้องน้ำในห้องตัวอย่างห้องแรกนะคะ ต่างกันที่ขนาดพื้นที่และการจัดวาง ห้องนี้จะใหญ่กว่าและมีมุมสำหรับชั้นเก็บของในส่วนอาบน้ำได้

จะมีชั้นกระจกมาให้ 2 ชั้นที่มุมแบบนี้

วางแชมพู สบู่ ครีมนวดและอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆมาให้เห็นระยะใช้งาน

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานห้องน้ำติดไฟดาวน์ไลท์ มีพัดลมดูดอากาศติดมาให้เรียบร้อย

แบบห้องอื่นๆ

สตูดิโอ 22 ตารางเมตร (Type A : STUDIO)

สตูดิโอ 24.5 ตารางเมตร (Type B : STUDIO)

2 ห้องนอน 47.5 ตารางเมตร (Type E : 2 Bedrooms)

ราคา (เริ่มต้นที่ประมาณ 136,000 บาท/ ตร.ม)

Studio ขนาด 22 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 136,000 บาท/ ตร.ม

Studio ขนาด 24.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3.1 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 126,530 บาท/ ตร.ม

1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3.16 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 121,540 บาท/ ตร.ม

1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3.73 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 120,322 บาท/ ตร.ม

2 Bedrooms ขนาด 47.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 5.7 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 120,000 บาท/ ตร.ม

ขายแบบ Fully Fitted: ชุดครัว Hob&Hood, เครื่องปรับอากาศ, ชุดสุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นห้อง

ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน : 550 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

*ราคานี้เป็นราคาล่าสุด ณ วันที่ 9 มกราคม 2559 สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ –โครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange เป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน ซึ่งเป็น Interchange station ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ และสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ

เนื่องจากสถานีเตาปูนตรงนี้เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ คล้ายๆสถานีสยาม โดยเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ดำเนินการก่อสร้างพร้อมกันมา โดยจากสถานีเตาปูนนี้จะเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดิน ห่างจาก MRT สถานีใต้ดินบางซื่อในปัจจุบัน(แถวหน้าบริษัทปูนซีเมนต์ไทยหรือ SCG นั่นเอง) เพียงสถานีเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้เพียง 1 สถานี จาก MRT สถานีเตาปูนไปสถานีบางซ่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นทำเลเด่นอีกจุดนึงของสายสีม่วงเช่นกัน เนื่องจากตัวสถานีจะมี Sky Way เชื่อมกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งจะวิ่งไปมาระหว่างบางซื่อ – ตลิ่งชัน และในอนาคตจะเชื่อมต่อไปถึงนครปฐม – ฉะเชิงเทรานู่นเลยค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ – บรรยากาศรอบโครงการคือเป็นทำเล มีความเป็นชุมชนที่อยู่กันมานาน มีตลาด มีร้านทำผม ร้านขายของชำ ร้านขายทอง มีของกินขายให้เห็นตามข้างทางอยู่เรื่อยๆ

นอกจากยูนิตร้านค้า 5 ร้านในโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ๆระยะเดินไม่เกิน 600 เมตรรอบๆโครงการ Ideo Mobi Bangsue Grand Interchange หน้าโครงการเลยจะมีร้านขายผ้าและร้านขายเครื่องเขียนศรีสุวรรณอยู่ ถัดไปหน่อยจะมี 7-11, ตลาดสามแยกเตาปูนและ Lotus ประชาชื่น ค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ ถือว่ามีทางเข้า- ออกได้หลายทาง ทั้งจากประชาชื่นและประชาราษฎร์สาย 2 ที่แยกเตาปูน หรือจะไปย่านธุรกิจอย่างรัชดาภิเษกได้ใช้เวลาไม่นานนอกจากนี้ยังมีทางขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ตรงแยกโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ด้วย

พูดถึงเรื่องรถติด แถวนี้ยังไม่ค่อยติดเท่าไหร่ค่ะ ยังห่างชั้นจากแยกแครายเยอะ จะมีนานๆทีที่ติดบ้างเป็นผลกระทบมาจากรถที่ติดตรงแยกวงศ์สว่างเป็นประจำนั่นเอง

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – คนไม่ใช้รถไปไหนมาไหนง่ายมากค่ะ เพราะโครงการอยู่ห่างจากสถานีเตาปูนประมาณ 200 เมตร ซึ่งจากตรงนี้เราสามารถนั่งต่อไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ไปสถานีกำแพงเพชรเพื่อเดินเล่นจตุจักรหรือจะไปขึ้นรถไฟฟ้าบนดินที่สถานีหมอชิตเข้าเมืองไปสยามกันต่อได้เลย ทำให้มันกลายเป็นเครือข่ายรถไฟฟ้าวงแหวนวงเดียวของประเทศไทย ซึ่งเชื่อมหัวกับบางซื่อ ท้ายกับหัวลำโพง วิ่งวนเป็นวงกลม สีน้ำเงินสายใหม่วิ่งบนฟ้า(ช่วงระยะ 5 กม จากเจริญกรุง-ถนนอิสรภาพเป็นใต้ดิน) สีน้ำเงินเก่ามุดลงใต้ดิน

นอกจากนี้โครงการยังอยู่ติดถนนใหญ่ ทั้งประชาชื่นและประชาราษฎร์ 2 ซึ่งเรียกรถง่ายค่ะ มีทั้งแท้กซี่และรถเมล์ ถ้ารถติดก็มีพี่วิน ซึ่งวินมอเตอร์ไซค์จะอยู่บริเวณใกล้กับหน้าโครงการและฝั่งตรงข้ามโครงการบริเวณ Tesco Lotus นอกจากนี้ ยังเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินได้สะดวกทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีบางซื่อ และถ้ารถไฟฟ้าอีก 2 สายคือ สายสีม่วงและสายสีน้ำเงินเสร็จ ก็จะทำให้ช่องทางการเดินทางสะดวกขึ้น

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted โดยให้ ชุดครัว , ชุดสุขภัณฑ์ และ เครื่องปรับอากาศ ชุดครัว มี Hob&Hood , Sink และ Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ Cotto ในห้องน้ำมีกระจกกั้นอาบน้ำมาให้ พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม. พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 m.

การออกแบบทำมาดีค่ะ มีการออกแบบตัวอาคารภายนอกและภายในตามคอนเซ็ป Futuristic Art Decor ซึ่งดูทันสมัยและออกแบบ Landscape มาได้เข้ากันได้ดี และเข้ากับบริบทของพื้นที่ เนื่องจากทั้งสองฝั่งของทางเข้าถูกขนาบด้วยอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 5 ชั้น ทางโครงการจึงออกแบบให้ทางเข้าเป็นอุโมงค์ต้นไม้เพื่อเพิ่มความร่มรื่น ทางฝั่งซ้ายเป็นต้นไทรเกาหลีสูง 4 เมตร มีการออกแบบ Stack Garden เป็นทางวนขึ้นไปใช้สวนที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นการออกแบบที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ

วัสดุให้มาโอเคสำหรับราคาระดับนี้ค่ะ คือไม่ได้ให้เยอะ ตู้เสื้อผ้าไม่ได้ ชั้นเก็บของไม่มี แต่มีความใส่ใจและใช้ของดีในส่วนที่ให้ แต่จริงๆแล้วคอนโดราคาแบบนี้ ความคุ้มค่าหรือสเป็คของวัสดุไม่ได้เป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายมากนัก เพราะจริงๆราคานั้นถูกกำหนดด้วยราคาทำเลที่ตั้งและปริมาณพื้นที่รวมของตึกที่สามารถขายได้เป็นหลักมากกว่า หรือพูดง่ายๆว่าแพงเพราะทำเลที่เป็นที่ดินผืนหายากแล้วนั่นเอง ราคาไม่ได้แพงเพราะสเป็ควัสดุ

สิ่งอำนวยความสะดวก – โครงการนี้ให้พื้นที่ส่วนกลางมาเยอะทีเดียวค่ะ ทั้งสวนชั้นล่างและสวนขั้นบันไดชั้น 8 มี Lobby ที่กว้างขวางและตกแต่งมาหรูหราพร้อม Cinema Lounge & Co-Working Space ชั้น 8 มีห้องสมุดพร้อมวิวน้ำตกในสวน, ที่พิเศษคือสระเป็นระบบปรับอุณหภูมิ ขนาด 7 x 30 m.ซึ่งถือว่าให้มาค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ ห้องฟิตเนส 2 ห้อง มีทั้งห้องออกกำลังกายและห้องเปล่าสำหรับโยคะ และมีห้อง Social Club และมีมุมดูดาวพร้อมกล้องส่องดาวด้วย

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02 316 2222

Website : http://www.ananda.co.th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คอนโด เดอะ โพลิแทน รีฟ The Politan Rive (สนามบินน้ำ) คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดรถไฟฟ้า เริ่ม 1.29 ล้านบาท เปิดจอง 30-31 ม.ค. นี้เท่านั้น

The Politan Rive (สนามบินน้ำ) คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดรถไฟฟ้า เริ่ม 1.29 ล้านบาท เปิดจอง 30-31 ม.ค. นี้เท่านั้น*

ที่ตั้งโครงการ

28 ซ.นนทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

:: FLOOR PLAN ::

* คลิกที่รูปเพื่อดูแปลนอาคารขนาดใหญ่

แปลนอาคารชั้น 1

แปลนอาคารชั้น 9

แปลนอาคารชั้น 10

แปลนอาคารชั้น 11-47

แปลนอาคารชั้น 48

แปลนอาคารชั้น 49-55

แปลนอาคารชั้น 56

แปลนอาคารชั้น 57

:: UNIT TYPE ::

* คลิกที่รูปเพื่อดูแปลนห้องชุดขนาดใหญ่

1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 30.50 ตร.ม.

2 Bedrooms ขนาด 50 ตร.ม.

2 Bedrooms ขนาด 60 ตร.ม.

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-002-2222

Email us: sales@thepolitancondo.com

Website : http://www.thepolitancondo.com/

ใหม่ คอนโด เดอะคิวบ์ นวมินทร์-รามอินทรา The Cube Nawamin-Ramintra

เตรียมพบกับโครงการใหม่ “เดอะคิวบ์ นวมินทร์ – รามอินทรา”

“ชีวิตพร้อมสรรพ … กับคอนโด พร้อมเฟอร์ฯ”
เพียง 500 เมตร จากรถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีคู้บอน)

สนใจลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ : http://thecube-condo.com/nawamin-ramintra-register-form/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

Tel : 082-333-3240-1

Website : http://thecube-condo.com

เตรียมพบกับโครงการใหม่ “ลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก” คอนโดใหม่ต้นปี 59 จาก LPN

บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ต้นปี 2559 “ลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก“ เปิดให้ลงทะเบียนแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

พิเศษ!! 100 ท่านแรก ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ รอรับบัตรส่วนลดสุดๆ ที่สำนักงายขาย ต้นเดือน ม.ค. นี้

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครที่นี่

คลิก เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-689-6888

Website :  http://www.lpn.co.th/th/index.php

EP.284 รีวิว คอนโด เดอะ ไพรเวซี่ ลาดพร้าว-เสนา THE PRIVACY LADPRAO-SENA

สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้กระผมมีโครงการใหม่จากพฤกษา เรียลเอสเตท มาให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกันในชื่อ THE PRIVACY ลาดพร้าว-เสนา คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ให้ความเป็นส่วนตัว เพราะมีจำนวนยูนิตที่น้อย โดยตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนลาดพร้าววังหิน บริเวณปากซอย 43 ที่มาพร้อมกับแนวคิด “ร่างกายต้องการอากาศ ใจต้องการ…อิสระ” พร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด ห้องซาวน่าและสวนสาธารณะในราคาเรื่มต้น 1.29 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนลาดพร้าว-วังหิน ซอย 43 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง

The Privacy ลาดพร้าว-เสนา ตั้งอยู่ริมถนนลาดพร้าววังหินบริเวณปากซอยลาดพร้าววังหิน 43 สามารถเข้าได้จาก 4 ทางหลักๆได้แก่ถนนลาดพร้าว ถนนเกษตร-นวมินทร์ ถนนประดิษฐมนูธรรม(เลียบด่วนรามอินทรา)และถนนรัชดาภิเษก โดยการเดินทางไปยังโครงการในวันนี้ผมมาจากทางด่วนศรีรัชลงที่ถนนรัชดาภิเษกและเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 เพื่อไปยังลาดพร้าววังหิน โดยมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้

การเดินทาง : ทางด่วนศรีรัช > ทางออกน.2 – 08 รัชดาภิเษก > ถนนรัชดาภิเษก > ซอยรัชดาภิเษก 32 > ถนนลาดพร้าววังหิน > ซอยลาดพร้าววังหิน 43 > The Privacy ลาดพร้าว-เสนา

เริ่มต้นอธิบายจากด้านบนทางด่วนศรีรัชฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังงามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ

ลงจากทางด่วนที่ทางออก น.2-08 ถนนรัชดาภิเษก

ลงทางด่วนที่จุดนี้ครับ

พอลงจากทางด่วนมาเราจะโดนบังคับเลี้ยวซ้าย จากนั้นให้ไปยังจุดกลับรถ มุ่งหน้าสู่ถนนรัชดาภิเษก

กลับรถใต้สะพานก่อนถึงแยกประชานุกูล

หลังจากกลับรถมาให้มุ่งหน้าตรงไปยังรัชดา-ลาดพร้าว

ไปรัชดา-ลาดพร้าวให้อยู่เลนขวาสุด

รัชดา-ลาดพร้าวให้ขึ้นสะพานลอย

สะพานลอยดังกล่าวใช้สำหรับข้ามแยกรัชโยธินครับ ไม่ต้องไปติดสี่แยกไปแดงด้านล่าง

หลังจากลงสะพานลอยมาให้สังเกตทางซ้ายไว้ ถ้าเห็นปั๊ม Susco ให้เราเตรียมชิดซ้ายได้เลย

กราฟิกเพิ่มเติมกรณีที่เรามาจากถนนรัชดาภิเษกและเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 เพื่อยังถนนลาดพร้าววังหิน ระยะทางจากหน้าปากซอยรัชดา 32 ถึงตัวโครงการอยู่ที่ 2.7 กม. ส่วนถ้าหากเข้าจากทางโชคชัย 4 ระยะทางจะอยู่ที่ 2.4 กม. ผมขอเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าโดยในขณะนี้เราสามารถใช้ งาน MRT ลาดพร้าวได้โดยจะอยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 3.0 กม. สำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเหลือง สถานีภาวนานั้นเป็นโครงการในอนาคตที่จะไปใช้งานได้สะดวกขึ้นประมาณ 1.8 กม. คาดว่าแล้วเสร็จประมาณปี 2563

กลับมาที่การเดินทางกันต่อ เลยปั๊ม Susco มาประมาณ 300-400 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 32

ขับเข้าไปตามซอยรัชดาภิเษกซึ่งภายในจะมีทางแยกย่อยอยู่หลายทาง แต่ให้เราตรงอย่างเดียว

ขับมาจนถึงสะพานข้ามคลองลาดพร้าวให้เราขึ้นสะพานดังกล่าวไป

พอลงจากสะพานแล้วจะถึงกับทางแยกบริเวณถนนลาดพร้าววังหิน

ที่แยกนี้หากเราเลี้ยวขวาจะเป็นทางสำหรับไปยังที่ตั้งโครงการ ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายจะใช้ไปยังสำนักงานขายโครงการ The Privacy ซึ่งตั้งอยู่ภายในคอมมูนิตี้มอลล์ Green Plaza ซึ่งผมขอเลือกเลี้ยวขวาเพื่อพาไปชมพื้นที่และบรรยากาศบริเวณโครงการก่อนครับ

บนถนนลาดพร้าววังหินตัวโครงการจะตั้งอยู่ทางด้านขวา ซึ่งอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับซอยลาดพร้าววังหิน 30

ถึงแล้วครับโครงการ The Privacy ลาดพร้าว-เสนา ตั้งอยู่บริเวณปากซอยลาดพร้าววังหิน 43

สำหรับสำนักงายขายจะตั้งอยู่ที่ Green Plaza

ตัวห้างคอมมูนิตี้มอลล์ Green Plaza ตั้งอยู่ที่บริเวณปากซอยลาดพร้าววังหิน 77

บริเวณโครงการ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

– เทสโก้โลตัส วังหิน : 1.6 กม.
– บิ๊กซี ลาดพร้าว : 3.6 กม.
– โฮมโปร ลาดพร้าว : 3.8 กม.
– ยูเนี่ยนมอลล์ : 4.5 กม.
– เซ็นทรัล ลาดพร้าว : 5.5 กม.
– เทสโกโลตัส ลาดพร้าว : 5.7 กม.
– เมเจอร์รัชโยธิน : 5.5 กม.
– มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม : 3.0 กม.
– โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 : 1.5 กม.

ภาพมุมสูง โครงการเดอะไพรเวซี่ ลาดพร้าว-เสนา ติดกับซอยลาดพร้าววังหิน 43 โครงสร้างบริเวณดังกล่าวเป็นบ้านพักอาศัยทั้งแบบบ้านเดี่ยวและอาคารพาณย์ 2-4 ชั้น อีกด้านของโครงการติดกับตลาดนัดที่เปิดในช่วงเย็น ด้านหลังโครงการเป็นสวนมีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น

เราไปเดินชมบริเวณโครงการกันครับ บริเวณพื้นที่ของโครงการมีป้ายล้อมรอมพื้นที่เอาไว้ ส่วนราคาเริ่มต้น ณ ปัจจุบันนี้ขยับไปอยู่ที่ 1.29 ล้านบาท (ม.ค. 59)

ฟุตบาทหน้าโครงการ

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2-4 ชั้น เปิดเป็นร้านซ่อมแอร์ หม้อน้ำรถยนต์

ซอยลาดพร้าววังหิน 43

โครงการตั้งอยู่ที่หัวมุมของซอย 43

อีกด้านของซอย 43 มีร้านอาหาร ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้าวมันไก่

ตรงข้ามเป็นร้านข้าวแกงและก๋วยเตี๋ยว ตั้วราชบุรี

บรรยากาศถนนลาดพร้าววังหิน กว้าง 4 เลนวิ่งสวนกันไม่มีเกาะกลาง โดยปกติแล้วจะมีรถจอดอยู่สองข้างทางบ้างประปราย

ร้านอาหารนิวบะโภชนา หัวปลาหม้อไฟ

ลาดพร้าววังหิน 45

วินรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่อยู่ใกล้ที่สุดคือปากซอย 45 อัตราค่าบริการที่น่าสนใจคือไปรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว 40 บาท, ตลาดโชคชัย 4 30 บาท, โลตัส วังหิน 20 บาท

ที่หัวมุมของซอย 45 มีร้าน Car Care

ด้านในมีร้านกาแฟ

ตรงข้ามมี Shop ของเบทาโกร

เดินเลยมาอีกนิดมีร้านก๋วยเตี๋ยวกับข้าวมันไก่ และไก่ทอดห้าดาว

Family Mart อยู่ที่ปากซอย ลาดพร้าววังหิน 47

ตรงข้ามแฟมิลี่มาร์ท มีห้างขายสีและอุปกรณ์ก่อสร้าง Home Plus Express

ผมเดินกลับมาที่หน้าโครงการเพื่อเดินไปดูอีกฝั่งบ้างครับ

ฟุตบาทหน้าโครงการ

มองไปฝั่งตรงข้ามโครงการ

ติดกับโครงการมีร้านขายของชำและร้านกาแฟ

ด้านข้างเป็นซอยเล็กๆ ซึ่งเป็นซอยตันและไม่มีหมายเลขซอยครับ

ตลาดนัดนี้อยู่ข้างๆโครงการ เปิดในช่วงบ่าย 3 เป็นต้นไปจนถึง 2-3 ทุ่ม

ตรงข้ามตลาดมี 7-11

ถัดจาก 7-11 มาเล็กน้อยมี CP Freshmart, ร้านขายยา และคลินิกทำฟัน

ร้านเบเกอรี่ Sweety 39 อยู่ที่ปากซอย 39

ผมข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามบริเวณซอย 24 (หากสับสนหมายเลขซอยลาดพร้าววังหิน ขอแนะนำให้ดูภาพมุมสูงควบคู่ไปด้วยจะเข้าใจในตำแหน่งต่างๆได้ง่ายขึ้น)

ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น เนื้อตุ๋น ปากซอยลาดพร้าววังหิน 24 เจ้านี้ค่อนข้างมีชื่อในย่านนี้พอสมควรครับ

7-11 อยู่เกือบจะตรงข้ามกับโครงการ

จากฝั่งตรงข้ามมองย้อนไปยังพื้นที่โครงการ ด้านนี้เป็นฝั่งที่ติดกับตลาดนัด

บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ซึ่งทางเข้าออกโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่นี้เลยครับ

พื้นที่โครงการฝั่งที่ติดกับซอย 43

เข้ามาดูบรรยากาศในซอย 43

ด้านในเป็นซอยตัน มีบ้านพักอาศัยในแบบของบ้านเดี่ยวมีพื้นที่บ้าน ทำให้เป็นซอยที่มีคุณภาพและเงียบสงบดีครับ

พื้นที่โครงการ

จากพื้นที่โครงการมองไปทางฝั่งถนนลาดพร้าววังหินซึ่งหันไปทางทิศตะวันออก

มองไปทางทิศใต้

มองไปทางทิศตะวันตกหรือทางด้านหลังโครงการ

มองไปทางทิศเหนือ ซึ่งก็คือฝั่งที่ติดกับซอยลาดพร้าว 43

แปลนอาคาร

Master Plan : ทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศตะวันออกฝั่งถนนลาดพร้าว-วังหิน ทิศเหนือติดกับซอยลาดพร้าว-วังหิน 43 ทิศใต้เป็นซอยตัน และทิศตะวันตกเป็นป่าเป็นสวน อาคารพักอาศัยแบ่งออกเป็น 2 อาคาร โดยที่ชั้นล่างของอาคาร A ยังไม่มียูนิตพักอาศัยแต่จะเป็นพื้นที่ลานจอดรถ ส่วนอาคาร B จะเริ่มมียูนิตพักอาศัยตั้งแต่ชั้นแรกอยู่ที่บริเวณท้ายอาคาร พื้นที่ส่วนกลางอยู่มุมด้านในตัวแอล ของอาคาร B

2nd Floor

3rd Floor

4th-5th Floor

6th-8th Floor

Roof Floor

แปลนห้อง

แบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 22.50 ตร.ม.

แบบ 1 ห้องนอน Type B ขนาด 26.00 ตร.ม.

แบบ 2 ห้องนอน Type C ขนาด 45.00 ตร.ม.

โมเดลอาคาร

ทางเข้าโครงการติดกับถนนลาดพร้าววังหิน ทางขวาของทางเข้าคืออาคาร A ส่วนอาคาร B จะอยู่ด้านใน

ด้านใต้อาคาร A ไม่มียูนิตพักอาศัยแต่จะเป็นลานจอดรถ โดยทั้งโครงการสามารถจอดได้ทั้งหมด 40% รวมซ้อนคันแล้ว

ด้านนอกโครงการใกล้ๆกับทางเข้าเป็นร้านกาแฟและร้านขายของชำ

ด้านที่ติดกับลาดพร้าววังหิน 43 คือทิศเหนือ

ภาพมุมสูงด้านหน้าโครงการ

ภาพมุมสูง พื้นที่ทั้งหมดของโครงการ

พื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านในมุมของอาคาร B

พื้นที่ส่วนกลางเป็นรูปแบบของอาคาร Multi Function มีครบทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ ซาวน่า ห้องสมุด ด้านบนมีสวนพักผ่อนนั่งเล่น

อาคารส่วนกลาง สระว่ายน้ำรูปแบบน้ำล้นระบบเกลือ ขนาด 6×19 เมตร

ล้อมรอบด้วยสวนสีเขียวร่มรื่น พร้อมที่นั่งพักผ่อนกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ

ฟิตเนส

ห้องสมุด

ด้านหลังอาคาร B

ด้านหลังโครงการติดกับสวน บรรยากาศเงียบสงบครับ

ห้องตัวอย่าง

สำหรับห้องตัวอย่างนั้นอยู่ที่สำนักงานขายบริเวณห้าง Green Plaza โดยห้องตัวอย่างนั้นมีให้ชมเพียงแบบเดียวคือห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A

แปลนห้อง 1 ห้องนอน Type A ขนาด 22.50 ตร.ม.

Layout พิมพ์นิยมสำหรับขนาดห้องที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก เปิดประตูเข้ามาเจอกับพื้นที่นั่งเล่น แบ่งส่วนกับห้องด้วยประตูบานเลื่อน อีกด้านของห้องเป็น Pantry และวางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งเข้ามุม มีระเบียงสำหรับแขวนคอมแอร์และเครื่องซักผ้า ห้องน้ำเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง

เข้าไปชมห้องตัวอย่างกันครับ โดยขอแจ้งก่อนว่าทางโครงการขายแบบ Partly Fitted มีเคาน์เตอร์ครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆทางโครงการบิลท์ให้ดูเป็นแนวทางการตกแต่งครับ ส่วนเครื่องปรับอากาศนั้นขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ โปรดตรวจสอบกับทางโครงการอีกครั้งครับ

พื้นที่ส่วนแรกห้องนั่งเล่น วางโซฟาด้านนึงตรงข้ามกับชั้นวางทีวี พื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม. เพดานห้องสูง 2.5 เมตร

ห้องนั่งเล่นเหมาะสำหรับวางโซฟา 2 ที่นั่ง เพื่อจะแบ่งพื้นที่ให้ทำเป็นโต๊ะทำงานโต๊ะเขียนหนังสือด้านข้าง

โต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดบิลท์ชั้นวางของด้านบนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

โซฟา 2 ที่นั่งไม่มีให้นะครับ บิลท์ให้ดูเป็นตัวอย่าง

สำหรับโทรทัศน์ควรติดตั้งในรูปแบบของการติดผนัง เพื่อที่จะได้ประหยัดพื้นที่และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยไปในตัว

ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนแบ่งส่วนกันด้วยฉากบานเลื่อน

อีกด้านเป็นทางเดินไปยังส่วนครัวและห้องน้ำ

เข้ามาดูด้านในห้องนอนกันครับ

ผนังทั้งหมดเป็นผนังฉาบเรียบสีขาว ไม่มีวอลล์เปเปอร์

วางเตียงขนาด 5 ฟุตชิดขอบหน้าต่างแล้วเหลือพื้นที่เดินรอบเตียงได้ประมาณนี้

หน้าต่างบานสวิงกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

มือจับเปิดปิดแบบล็อคในตัว

มองไปทางหัวเตียง

ด้านบนเหนือฉากบานเลื่อนขึ้นไปมีแนวกำแพงประมาณฟุตกว่า ไม่ได้เป็นฉากทรงสูงติดเพดาน

ฉากบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

ด้านปลายเตียงเว้นช่องว่างไว้สำหรับวางหรือบิลท์ตู้เสื้อผ้า

ออกมาที่ห้องนั่งเล่นเพื่อไปชมส่วน Pantry กันต่อ เกือบลืมแจ้งไปว่าไฟภายในห้องให้เป็นโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมดครับ

ทางขวาของ Pantry เป็นทางเข้าห้องน้ำ

พื้นที่ใช้สอยบริเวณ Pantry

เคาน์เตอร์ครัวชุดนี้มีให้ตามแบบนี้เลยครับ รวมชั้นวางของด้านบนด้วย

ด้านหลังไม่ได้กรุกระเบื้องกันเปื้อนให้ ซิงค์ของ Hafele

โต๊ะทานข้าววางเข้ามุมสำหรับ 2 ที่นั่ง

ด้านข้างเคาน์เตอร์เว้นช่องไว้สำหรับวางตู้เย็น

ระเบียงห้องขนาด 150 x 90 ซม. พื้นปูกระเบื้องเซรามิค

ราวกันตกและระแนงเหล็กบังสายตาทาสีดำ

คอมแอร์แขวนด้านบน

ด้านล่างวางเครื่องซักผ้า ต่อท่อน้ำดีพร้อมปลั๊กไฟแบบมีฝาปิดให้เรียบร้อย

เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ

พื้นที่รวมๆภายในห้องน้ำ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค โดยแบ่งสีตามพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียก

ก่อธรณีสูงเกือบ 10 ซม. กันน้ำสาด

สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard

ด้านหลังสุขภัณ์มีแนวกำแพงให้สามารถวางของได้เยอะพอสมควร

ส่วนเปียกขนาดประมาณ 90 x 90 ซม. ไม่มีฉากให้ครับ ต้องหามาติดเองก่อนใช้งานจริง

ฝักบัวของ American Standard ขนาดกลางปรับน้ำไหลได้หลายรูปแบบ มีที่วางสบู่ให้

มองย้อนกลับไปอีกด้านของห้อง มีราวแขวนผ้าให้พร้อม

ราคา (24 ธ.ค. 58)

Studio Type A – 22.50 sq.m. : ราคา 1.29 ล้านบาท
– จอง 5,000 บาท
– ทำสัญญา 15,000 บาท
– เงินดาวน์ 31,000 บาท
แบ่งเป็น 3,100 x 10 งวด และงวดพิเศษ 40,000 บาท

Studio Type B – 26.00 sq.m. : ราคา 1.67 ล้านบาท
– จอง 5,000 บาท
– ทำสัญญา 15,000 บาท
– เงินดาวน์ 48,000 บาท
แบ่งเป็น 4,200 x 10 งวด และงวดพิเศษ 50,000 บาท

Studio Type C – 45.00 sq.m. : ราคา 2.94 ล้านบาท
– จอง 1,000 บาท
– ทำสัญญา 20,000 บาท
– เงินดาวน์ 102,000 บาท
แบ่งเป็น 10,200 x 10 งวด และงวดพิเศษ 75,000 บาท

ค่าส่วนกลาง 39 บาท/เดือน/ตร.ม.
ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Privacy ลาดพร้าว-เสนา ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว-วังหิน บริเวณปากซอยลาดพร้าววังหิน 43 สามารถเข้าออกได้หลายทางและเป็นถนนที่สามารถทะลุไปออกถนนหลักสายสำคัญๆได้หลายเส้นจึงทำให้บริเวณถนนใหญ่หน้าโครงการมีรถสัญจรผ่านอยู่ตลอดเวลา แต่ด้านในตัวโครงการเองด้านข้างที่ติดกับซอย 43 เป็นซอยตันมีบ้านพักอาศัยอยู่ไม่หนาแน่นจึงทำให้บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบสงบเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การพักผ่อน

ความอุดมสมบูรณ์ ซอยลาดพร้าววังหินเป็นย่านที่สามารถหาของกินได้ง่ายมาก มีร้านข้าวร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ตลอดทั้งเส้นโดยแค่ในบริเวณโครงการที่สามารถเดินด้วยเท้าได้ก็ร่วมๆ 10 ร้านแล้ว แถมข้างๆโครงการยังมีตลาดนัดที่เปิดในช่วงเย็นด้วยทำให้สะดวกทั้งการหาอาหารปรุงสำเร็จพร้อมทานก็ดีหรือจะเป็นวัตถุดิบมาประกอบอาหารเองก็ดี ร้านสะดวกซื้อ 7-11 แค่ข้ามถนนไปก็เจอแล้ว ส่วนห้างใหญ่ที่ใกล้ที่สุดเป็น Tesco Lotus วังหิน ห่างโครงการแค่ 1.6 กม. นั่งสองแถว 5 นาทีก็ถึงแล้ว ทำให้ในเรื่องของปากท้องลูกบ้านโครงการนี้สอบผ่านฉลุยครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ถนนลาดพร้าววังหินเป็นถนนเส้นรองที่สามารถใช้เชื่อมต่อเข้าสู่ถนนเส้นหลักได้อย่างหลากหลายได้แก่ถนนลาดพร้าว, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนพหลโยธิน, เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา และเกษตร-นวมินทร์ เรื่องของทางด่วนอาจจะไม่ใช่จุดแข็งของโครงการเนื่องจากว่าอยู่ห่างจากขึ้นลงทางด่วนพอสมควรแต่มีให้เลือกหลากหลายตามจุดหมายการเดินทางโดยโครงการจะตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางได้แก่ทางด่วนรามอินทรา, ทางด่วนโทลล์เวย์และทางด่วนศรัรัช ระยะทางห่างจากจุดขึ้นลงประมาณ 5-8 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ข้อดีสำหรับคนที่นิยมเดินทางด้วยรถสาธารณะคือโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ นั่นหมายถึงสามารถเรียกใช้งานรถสาธารณะได้ง่าย สำหรับถนนลาดพร้าววังหินมีรถกระป๊อรถสองแถวเป็นตัวเลือกหลักๆของคนในย่านนี้ เดินทางได้คลอบคลุมเส้นวังหิน-เสนา-โชคชัย 4 ส่วนแท๊กซี่หาเรียกได้ง่ายมีผ่านให้เรียกอย่างต่อเนื่อง ตัวรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT ลาดพร้าว ที่อยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าวห่างจากโครงการร่วมๆ 3 กม. ไม่มีสองแถวไปถึงสถานีดังกล่าวต้องใช้บริการวินมอไซค์ค่าบริการอยู่ที่ 30-40 บาท ส่วนในอนาคตมีแผนงานรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ลาดพร้าว-สำโรง มีสถานีภาวนาที่จะอยู่ใกล้โครงการให้ใช้งานสะดวกมากขึ้นด้วยระยะทางประมาณ 2 กม. คาดว่าแล้วเสร็จปี 2563

การออกแบบโครงการและวัสดุ – ลักษณะโครงการ The Privacy ลาดพร้าว-เสนา เป็นคอนโด Low-Rise 2 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 376 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 12.9 ตร.ว. ออกแบบโครงการด้วยคอนเซปต์ ร่างกายต้องการอากาศ ใจต้องการอิสระ โดยเน้นพื้นที่สีเขียวภายในโครงการและจำนวนยูนิตที่ไม่มากจนเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่โครงการ

– รูปแบบของห้องพักอาศัยทำออกมาตามแบบ Layout ที่นิยมกันในปัจจุบันเนื่องจากว่าเหมาะสมกับห้องที่มีขนาดไม่กว้างนัก เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางเมตร โดยขนาดห้องเริ่มต้นที่ขนาด 22.50 ตร.ม. แบ่งส่วนครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งานได้แก่ ห้องนั่งเล่นที่สามารถวางโต๊ะทำงานได้ ห้องนอนเว้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ห้องครัวแบบมี่พื้นที่สำหรับทานอาหารและห้องน้ำที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ส่วนห้องขนาด 26.00 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอนนั้นผมขออนุญาตข้ามส่วนนี้ไปเนื่องจากว่าไม่มีห้องตัวอย่างให้ชมครับ

– โครงการขายแบบ Partly Fitted อุปกรณ์ที่มีให้ได้แก่เคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิงค์ล้างจาน และชุดสุขภัณฑ์ American Standard ในห้องน้ำ วัสดุที่ทางโครงการเลือกใช้อยุ่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปได้แก่ พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร วัสดุกรอบประตูหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ โคมไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด

สิ่งอำนวยความสะดวก – พื้นที่ส่วนกลางทางโครงการจัดมาให้เต็มสูบเลยทีเดียว ตามคอนเซปต์โครงการที่กล่าวว่า “ช่วยเติมเต็มให้กับทุกไลฟ์สไตล์” มีอาคารส่วนกลางในรูปแบบ Multi Function เริ่มจากสระว่ายน้ำขนาด 6×19 เมตร แบบน้ำล้นระบบเกลือ, Roof & Ground garden สวนส่วนกลางทั้งมุมสูงด้านบนและรอบๆอาคาร, ห้องฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำ, ห้องซาวน่าแยกชายหญิง, ห้องสมุดและล็อบบี้ขนาดใหญ่สำหรับใช้ Meeting กับเพื่อนๆ ที่จอดรถมีให้ 40% รวมจอดซ้อนคันแล้ว ลิฟต์อาคารละ 2 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

คะแนน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 089-017-3866 หรือ Call Center 1739

Website : http://theprivacy.pruksa.com/10347

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

คอนโด แอชตัน เรสซิเดนท์ 41 Ashton Resident 41 คอนโด Low-Rise ระดับ Luxury ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ [600 เมตร] เริ่ม 17 ล้านบาท*

“Ashton Resident 41 คอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งบนทำเลศักยภาพใจกลางสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ เพียง 600 เมตร พบกับความเป็นส่วนตัวกับสังคมคุณภาพเพียง 79 ยูนิต ในบรรยากาศความสงบร่มรื่นด้วย  Vertical Green Wall และพื้นที่สวนบนชั้นดาดฟ้าขนาดเต็มพื้นที่ทั้ง 2 อาคาร  เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยแนวเนินต้นไม้ที่เป็น Sculptural กั้นระหว่างพื้นที่การใช้งานแบบพิเศษเฉพาะห้อง Duplex เท่านั้น  ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ตอบสนองความต้องการของคนรักสัตว์ ด้วยพื้นที่พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงหรือในห้องพัก ราคาเริ่มต้นเพียง 17 ล้านบาท”

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 41 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

คลิกที่ภาพ เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

:: FLOOR PLAN ::

Ground Floor Plan

2nd Floor Plan

3rd Floor Plan

4th – 6th Floor Plan

7th Floor Plan

8th Floor Plan

Roof Floor 1

Roof Floor 2

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 02-316-2222

WEBSITE : http://www.ananda.co.th

EP.286 รีวิว คอนโด THE TREE INTERCHANGE  มองเห็นวิวแม่น้ำ พร้อมใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมมีโครงการคอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่มาฝาก กับโครงการ The Tree Interchange จากค่าย พฤกษา เป็นคอนโด High Rise จำนวน 2 อาคาร บนเนื้อที่ 11 ไร่กว่าสูง 40 และ 39 ชั้น พร้อมส่วนกลางแบบจัดเต็ม ชั้นดาดฟ้ามี Lounge วิวมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายสถานีบางโพประมาณ 350 ม. และจุดอินเตอร์เช้นจ์สถานีเตาปูนระหว่างสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ประมาณ 600 ม. ในราคาเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

พิกัด : 13.806327, 100.525193

ตัวโครงการ The Tree Interchange ตั้งอยู่ในทำเลย่านบางโพ ติดถนนประชาราษฎร์สาย 2 ทำเลย่านนี้ออกแนวชุมชน ที่อยู่อาศัยกันมาพอสมควร การเดินทางหลักที่ต้องใช้คือเส้นประชาราษฎร์สาย 2 ถ้าจะเข้าเมืองก็ออกมาใช้เส้นประชาราษฎร์สาย 1 เชื่อมออกสามเสน แล้วก็จะเข้าเชื่อมกับเส้นราชเทวีแล้ว จากนั้นก็จะไปอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือสยามก็ไม่ยากแล้ว หรือจะทางถนนเตชะวณิช มาเชื่อมถนนพระรามที่ 5 ก็มาเชื่อมเส้นราชเทวีเช่นกันครับ ส่วนทางด่วนใกล้ๆก็มาขึ้นแถวถนนพระราม 6 มีจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช อนาคตจะมีทางด่วนศรีรัช 2 ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ ถ้าจะไปฝั่งพหลโยธินก็วิ่งมาออกถนนกำแพงเพชรได้ครับจะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน จะไปจตุจักร เลยไปลาดพร้าว หรือย้อนเข้าเมืองไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯได้ครับ

ส่วนถ้าจะเดินทางออกนอกเมืองฝั่งวงศ์สว่างก็ใช้เส้นประชาราษฎร์สาย 1 ครับ จะไปตัดกับถนนวงศ์สว่างพอดี หรือจะข้ามสะพานพระราม 7 ไปฝั่งจรัญสนิทวงศ์ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยีงสามารถใช้เส้นกรุงเทพ-นนทบุรี ไปออกวงศ์สว่างได้เช่นกัน ส่วนถนนประชาชื่นจะไปตัดกับถนนรัชดาภิเษก วิ่งไปออกวิภาวดีรังสิต หรือยาวไปพระรามเก้าได้เลย การจราจรอาจจะติดขัดบ้างในบางช่วงเวลาครับ

การเดินทาง วันนี้ผมขอเริ่มจากทางด่วนศรีรัชมุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ จากนั้นลงทางด่วนตามป้ายถนนพระราม 6 ลงทางด่วนมาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 6 ขับตรงไปจนถึงแยกประดิพัทธ์ ให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปจนถึงทางรถไฟ (แยกเทอดดำริห์) ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนเทอดดำริห์วิ่งเรียบทางรถไฟไปจนสุดทาง สังเกต MRT สถานีบางซื่อซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยปูนซีเมนต์ไทย และขึ้นสะพานเพื่อเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ครับ ขับตรงผ่านแยกประชาชื่น และแยกเตาปูน ประมาณ 600 ม. ตัวโครงการจะอยู่ซ้ายมือครับ

สรุป ถนนพระราม 6 > ถนนประดิพัทธ์ > ถนนเทอดดำริห์ > ซอยปูนซีเมนต์ไทย > ถนนประชาราษฎร์สาย 2 > โครงการอยู่ซ้ายมือ

ก่อนจะไปดูการเดินทาง เรามาพูดถึงการเดินทางโดยรถสาธารณะกันก่อนครับ จุดเด่นของโครงการนี้คืออยู่ห่างจาก MRT บางโพประมาณ 350 ม. และ MRT เตาปูนประมาณ 600 ม. ซึ่งสถานีเตาปูนเป็นสถานีอินเตอร์เช้นจ์ระหว่างสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง และถ้าจะใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน ก็ห่างเพียงอีกหนึ่งสถานีเท่านั้นครับ คือบางซ่อนกับบางซื่อ หรือถ้าอยากจะใช้บริการ BTS ก็นั่ง MRT ไปลงที่หมอชิตห่างประมาณ 3 หรือ 4 สถานีเท่านั้นครับ เรียกได้ว่าค่อนข้างสะดวกถ้าจะใช้รถไฟฟ้า แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดให้ใช้บริการ ถ้าอยากใช้คงต้องนั่งรถมาลงที่ MRT บางซื่อครับ ห่างจากโครงการประมาณ 1.6 กม. หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านหลายสายเลย Taxi และวินมอเตอร์ไซค์ ก็เรียกขึ้นหน้าโครงการได้เลยสะดวกดี นอกจากนี้ด้วยตัวทำเลโครงการที่อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้สามารถใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาได้ โดยท่าเรือที่ใกล้โครงการมี 2 ท่า คือท่าเรือวัดสร้อยทอง และท่าเรือเกียกกาย ห่างจากโครงการประมาณ 1.9 กม. ถือว่ามีตัวเลือกในการเดินทางเยอะดีครับ ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถอยู่โครงการนี้ได้สบายๆเลย

เริ่มจากบนทางด่วนศรีรัช มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน

ขับมาสักพักจะเจอป้ายถนนพระราม 6 ให้ลงทางด่วนที่ถนนพระราม 6 ครับ

ลงทางด่วนมาให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 6

เลี้ยวมาตอนนี้จะอยู่บนถนนพระราม 6

ขับตรงไปอีกจนถึงแยกประดิพัทธ์

พอเจอแยกประดิพัทธ์ให้เลี้ยวซ้าย เพื่อเข้าถนนประดิพัทธ์

เลี้ยวมาจะอยู่บนถนนประดิพัทธ์ ขับตรงไปจนเจอทางรถไฟครับ

จากนั้นจะเจอป้ายประชาชื่น เลี้ยวขวาตรงแยกหน้า

พอเจอทางรถไฟ ข้ามทางรถไฟแล้วให้เลี้ยวขวา เพื่อเข้าถนนเทอดดำริ

ข้ามทางรถไฟมาแล้วเลี้ยวขวาได้เลยครับ

เลี้ยวมาจะอยู่บนถนนเทอดดำริ ขวามือจะเป็นทางรถไฟ ขับเรียบทางรถไฟไปเรื่อยๆ

จากนั้นขึ้นสะพานข้ามคลองบางซื่อต่อ

เลยมาหน่อยจะเจอปั๊มน้ำมันบางจากซ้ายมือ

เลยมาอีกหน่อยจะเจอ MRT สถานีบางซื่อ ให้เลี้ยวซ้ายข้างหน้าครับ

เลี้ยวซ้ายมาจะเข้าซอยปูนซีเมนต์ไทย ตรงไปอีกครับ

จากนั้นฝั่งซ้ายจะเห็นรั้วสำนักงานของ SCG ขวามือครับ

เลยมาหน่อยจะเจอสะพาน ให้ขึ้นสะพานครับ

ขับตามทางไปอีกจนเจอแยก

จากนั้นจะเจอแยกให้ตรงไปเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ซ้ายมือเป็นถนนเตชะวณิช

ข้ามแยกมา ขวามือจะเห็นโลตัส

ลงสะพานมาขวามือจะเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่ยกระดับขึ้นมาจากสถานีบางซื่อ โดยเส้นนี้จะผ่านหน้าโครงการข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปอีก

ลงสะพานมาจะเจอแยกประชาชื่น ให้ตรงข้ามแยกไปอีกตามป้ายบางโพไป ตอนนี้เราอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 นะครับ

ข้ามแยกมาก็ขับตรงไปอีกครับ

จากนั้นจะเจอ สถานีอินเตอร์เช้นจ์ คือรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน จะตัดกันที่สถานีเตาปูนบริเวณแยกเตาปูนนี้ครับ จุดนี้ห่างจากโครงการประมาณ 600 ม.

ข้ามแยกเตาปูนมาซ้ายมือจะเจอโครงการ Chewathai Interchange

เลยมาหน่อยจะเจอโครงการ Rich Park ตรงนี้มองเร่ิมมองเห็นโครงการแล้ว

เลยมาอีกหน่อยซ้ายมือคือโครงการ The Stage พื้นที่อยู่ติดกับโครงการบางส่วนครับ

จากนั้นจะเจอตึกแถวซ้ายมือ มีร้านอาหารอยู่ 2-3 ร้าน และมีร้านค้าต่างๆ เดินมาจากโครงการได้ เลนซ้ายสุดจะมีรถจอดเป็นระยะๆ

เลยมาอีกนิดขวามือจะเห็นธนาคารไทยพาณิชย์

เลยมาอีกนิดจะเจอ 7-11 ซ้ายมือครับ อยู่ห่างจากหน้าโครงการประมาณ 50 ม.

ติดกับ 7-11 เป็นร้านดอกไม้ มีป้ายรถเมล์อยู่หน้าร้าน เลี้ยวซ้ายข้างหน้าก็ถึงโครงการแล้วครับ

เลี้ยวซ้ายข้างหน้านี้นะครับ ขวามือจะเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินผ่านหน้าโครงการไปอีก

ถึงแล้วครับด้านหน้าทางเข้าโครงการ ขนาบข้างไปด้วยตึกแถว ตัวอาคารจะอยู่ด้านในครับ

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 และแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ฝั่งตรงข้ามเป็นหอพัก

เดี๋ยวผมพาไปตรงแยกบางโพต่อ ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายไปแยกบางโพครับ

ขับมาจะเจอ The Market แต่ตอนนี้ปิดให้บริการแล้ว ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอะไรครับ

เลยมาหน่อยซ้ายมือเป็นปั๊ม Esso ส่วนทางขวามือคือ รพ.บางโพ ห่างจากโครงการประมาณ 200 ม.

เลยมาอีกจะเจอ 7-11 ขวามือครับ

จากนั้นซ้ายมือสีแดงๆคือที่ทำการไปรษณีย์ ถัดไปติดกันเป็นพื้นที่โครงการ ชีวาทัย บางโพ สูง 26 ชั้น และก็จะถึง MRT สถานีบางโพครับ ห่างจากโครงการประมาณ 350 ม.

ใต้สถานีบางโพ จะตรงกับแยกบางโพพอดีครับ เลี้ยวซ้ายไปเกียกกาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาใหม่ หรือยาวไปสามเสนได้ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาจะไปออกวงศ์สว่าง และสะพานพระราม 7 ได้ครับ ถ้าตรงไปจะเป็นทางตันนะครับ

ตัวโครงการโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ซึ่งเป็นชุมชนแต่เดิม โดยทิศเหนือหน้าโครงการติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 และแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทิศใต้ติดกับพื้นที่ว่างเปล่า และบ้านพักอาศัย ทิศตะวันออกติดกับ บ้านพักอาศัย และมีโครงการ The Stage ที่กำลังก่อสร้างอยู่ความสูงประมาณ 36 ชั้น อาคาร B จะโดนบังบางส่วน ส่วนทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอาศัย

ด้วยทำเลย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในตัวอยู่บ้าง เนื่องจากมีชุมชนที่อยู่กันมานาน รวมหอพัก และอพาร์ทเม้นท์ต่างๆ จึงทำให้มีตลาดและร้านค้าต่างๆทั้งสองฝั่งทางถนนประชาราษฎร์สาย 2 ครับ ระยะเดินหน้าโครงการเลยประมาณ 50 ม. มี 7-11 ตั้งอยู่ ถัดไปมีร้านอาหารอยู่ 2-3 ร้าน ตลาดใกล้มีตลาดบางโพห่างจากโครงการประมาณ 400 ม. หรือจะไปตลาดบางซ่อน และตลาดอตก. ก็ไม่ห่างจากโครงการครับ ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมีโลตัสตรงแยกประชาชื่น และ Big C วงศ์สว่าง หรือไม่ก็ต้องไปแถวลาดพร้าว หรือเข้าเมืองไปเลยครับ ส่วนเสาร์ อาทิตย์ ก็มีตลาดนัดยอดฮิตคือจตุจักร ห่างจากโครงการประมาณ 4.4 กม. นอกจากนี้ยังใกล้ รพ.บางโพ รพ.กรมชลประทาน รพ.การไฟฟ้านครหลวง และยังอยู่ใกล้กับรัฐสภาใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่อีกด้วยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• 7-11 : 50 ม.
• โรงพยาบาลบางโพ : 200 ม.
• ตลาดบางโพ : 400 เมตร
• Tesco Lotus ประชาชื่น : 1.2 กม.
• SCG สำนักงานใหญ่ : 1.6 กม.
• รัฐสภาใหม่ : 1.7 กม.
• โรงเรียนโยธินบูรณะ : 1.5 กม.
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ : 3.2 กม.
• ตลาด อตก. : 3.4 กม.
• BigC วงศ์สว่าง : 3.3 กม.
• ตลาดนัดสวนจตุจักร, สวนจตุจักร : 4 กม.
• สถานีขนส่งหมอชิต 2 : 5 กม.
• ตลาดบางซ่อน : 3.2 กม.

โครงการ

ทางเข้าออกโครงการจะติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 ครับ เข้ามาจะเจอแยกซ้าย และขวา ถ้าไปตามลูกศรสีส้มจะไปอาคาร A และลูกศรสีม่วงจะไปอาคาร B ครับ ถนนจะแยกส่วนแต่ละอาคาร ส่วนกลางทั้ง 2 อาคาร ลูกบ้านทั้ง 2 อาคารสามารถใช้งานได้ทุกพื้นที่เลย ตรงกลางจะเป็นร้านค้าครับ

ก่อนอื่นผมขอพาไปชมอาคาร A ก่อนเลยเดินตามลูกศรสีส้มเข้ามานะครับ ตัวอาคาร A จะอยู่ด้านในเลยเข้ามาจะเจอ ป้อมยามก่อนถ้าไปทางซ้ายจะเข้าที่จอดรถในอาคาร แต่ถ้าไปทางขวาคือเป็นที่จอดรถของ Visitor หรือจอดแบบชั่วคราว ติดกันเป็นสวนหย่อม Drop Off จะอยู่ตรงกับทางเข้าเลย ติดกันก็จะเป็นทางเข้า Lobby ส่วนอื่นๆเดี๋ยวตามผมไปชมกันได้เลยครับ

เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าโครงากร ซ้ายและขวาเป็นตึกแถว 3-4 ชั้น

ผ่านเข้ามาจะเจอถนนขนาดรถวิ่งสวนกันได้ มีทางเท้าทั้งฝั่ง

มองไปทางซ้าย มีแนวรั้วต้นไม้ นอกรั้วตอนนี้กำลังก่อสร้างอาคาร (ไม่ใช่พื้นที่โครงการ)

มองไปทางขวา ที่ดินติดกับบุคคลอื่นเช่นกัน ความสูงไม่เกิน 2 ชั้น

กลับมาทางเดิมต่อมองไปจะเห็นทั้ง 2 อาคาร แบบนี้ครับ

เดินเข้ามาจะเจอป้ายโครงการ และจะเจอทางแยกซ้ายไปอาคาร B เลี้ยวขวาไปอาคาร A

มองกลับไปที่ด้านหน้าทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ

เดี๋ยวผมจะพาไปดูอาคาร A ก่อนนะครับ เข้ามาเลี้ยวขวาตรงป้ายโครงการ

เดินเข้ามาจะเจอถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกัน

มองไปทางซ้ายจะเห็นร้านค้า แต่ตอนนี้ยังไม่มีร้านมาเปิดคงรอให้ลูกบ้านเข้าอยู่เยอะกว่านี้หน่อยครับ ร้านค้าในโครงการนี้จะขายขาดเลยครับ

เงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นอาคาร B

กลับมาทางเดิมต่อครับ เดินตามถนนเข้ามาอีก ขวามือจะเห็นว่าตีช่องจอดรถไว้ให้

จากนั้นจะเจอทางโค้ง ตรงหน้าที่เห็นเป็นห้องกระจกก็เป็นร้านค้าเช่นกันครับ

เงยหน้ามองหน่อยก็จะเห็นอาคาร A แบบนี้ครับ

เลี้ยวมาก็ตรงเข้าไปอีก ซ้ายมือจะเห็นว่ามีก่อผนังเล็กน้อย เพื่อแยกส่วนของอาคาร A และ B ครับ

จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามถนน จะเจอทางเข้าอาหาร A ครับ

ถ่ายช่วงมุมให้ดูครับ ซ้ายมืออาคาร B ขวามืออาคาร A

เงยหน้ามองด้านบนอีกครั้ง จะเห็นระยะห่างระหว่าง 2 อาคาร

เดินเข้ามาต่อจะเจอป้อมยามตรงกลาง ทางเข้าซ้ายมือ ทางออกขวามือ

ป้อมยามจะมี รปภ. ตลอด 24 ชม.

ติดกับป้อมยามซ้ายมือมีทางคนเดินเข้าไปยังร้านค้าฝั่งอาคาร A ได้

มองเข้าไปจะเห็นแบบนี้ครับ สามารถเดินไปร้านค้าที่เราผ่านเข้ามาได้

มองไปจะเห็นอาคาร B แบบนี้ครับ

ผ่านป้อมยามมาจะเจอสะพานข้ามคลอง

มองไปทางซ้ายมีแนวพุ่มไม้กั้นบังสายตา

อีกฝั่งก็เช่นกัน

ข้ามสะพานมาจะเจอทางแยก ตรงหน้าจะเป็น Drop Off

ถ้าเลี้ยวซ้ายไปในสุดจะเป็นสวนหย่อม และที่จอดรถสำหรับ Visitor หรือลูกบ้านที่จอดรถแบบชั่วคราว

ถ้าเลี้ยวขวาไปจะเข้าที่จอดรถในอาคารครับ

ตรงเข้ามาจะเจอ Drop Off ตรงขวามือเป็นน้ำพุ

มีเคาน์เตอร์อยู่ซ้ายมือ ตรงหน้าจะเป็น Lobby อาคาร A

ด้านหน้าทางเข้า Lobby

เลี้ยวขวาเพื่อออกไปยังถนนรอบอาหาร หรือวนขวาออกได้เลย

เลี้ยวซ้ายมาไปดูที่จอดรถกันต่อครับ

เดินเลยมาหน่อย ซ้ายมือมีทางเข้าไปยัง Service Lift

เดินเข้ามาจะเจอทางเดินเชื่อมไปยังอีกฝั่งได้ ซ้ายมือเป็นทางเข้า Service Lift

เดินเข้าไปด้านในจะเจอลิฟท์

Service Lift มีให้อาคารละ 1 ตัวครับ ซ้ายมือมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้

กลับออกมาถนนด้านนอกกันต่อ เลยมาจะเจอที่จอดรถซ้ายมือใต้อาคาร

ตรงเข้ามาอีกจะเจอไม้กระดกแยกทางเข้า-ออก ตัวอาคาร

ลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะครับ มี CCTV บริเวณนี้ด้วย

ผ่านไม้กระดกเข้ามาบังคับเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าที่จอดรถในอาคาร ตรงไปไม่ได้ครับ

เลี้ยวมาจะเจอแบบนี้ ระวังรถที่สวนมาด้วนนะครับ

จากนั้นก็วนขึ้นไปตามทาง

วนขึ้นมาจะเจอทางแยกซ้ายมือเพื่อเข้าที่จอดรถ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 1A ถึง P8

ชั้น 1 A จะจอดได้บางส่วน เนื่องจากอีกฝั่งเป็นส่วนของ Facility

เดี๋ยวำาวนขึ้นไปอีกครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 2

เลี้ยวเข้ามาก็แยกจอดซ้าย-ขวา ตรงกลางรถวิ่งสวนกันได้

ตรงเข้ามาอีกจะเจอส่วนของลิฟท์ขวามือ ซ้ายมือเป็นบันไดหนีไฟ

ลิฟท์โดยสารมี 6 ตัว เวลาซื้อของมาเยอะๆคงจะขนของขึ้นลิฟท์ได้สะดวกดีครับ

เลยส่วนลิฟท์เข้ามาอีกก็เป็นที่จอดรถปกติครับ

ลงมาที่ชั้นล่างต่อเดี๋ยวพาไปชมสวนหย่อม

เดินเข้ามา จะเจอที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ และที่จอดรถ Visitor

ตรงเข้ามาสุดจะเจอสวนตรงหน้าเราครับ มีที่จอดรถอยู่บ้าง

เลี้ยวขวามาตามทาง ซ้ายมือเดินเข้าสวนหย่อม ขวามือเดินไปยัง Lobby

มองไปทางขวาจะเห็นทางเดินยาวเข้าไปด้านใน ซ้ายขวาเป็นที่จอดรถชั่วคราว ตรงนี้จะเป็นบริเวณใต้สระว่ายน้ำครับ

เลยเข้ามาหน่อยจะมีรั้วโครงการกั้นไว้ ขวามือด้านบนจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ

มองขึ้นไปจะเห็นแบบนี้ครับ

ออกไปดุสวนหย่อมกันต่อ ขวามือมีที่จอดรถกลางแจ้ง

ติดกันมีซุ้มระแนง พร้อมโต๊ะนั่งพักผ่อน วิวมองออกไปยังสวนหย่อม

เดินเข้ามาก็จะเจอทางเข้าสวน

มองไปทางซ้ายมีทาง Jogging รอบสวน

เดินเข้ามาหน่อยมีซุ้มอยู่ด้านใน

ซุ้มเป็นรูปทรงเหลี่ยมเหมือนเพชร มีที่นั่งพักผ่อนด้านในมาให้

ไปดูทาง Jogging กันต่อครับ ทางจะเป็นแบบลาดสูง-ต่ำ เพื่อให้สามารถวิ่งใช้แรงในการออกกำลังกายได้เยอะกว่าพื้นเรียบๆ

มองไปด้านในจะเห็นพื้นหญ้าสีเขียว พร้อมต้นไม้นานาพันธุ์ สวนนี้มีชื่อว่า All season garden ทางโครงการแจ้งว่าจะมีดอกไม้ในทุกฤดูกาลครับ ขนาดสวนประมาณ 3 ไร่

เดินเข้ามาอีกหน่อย จะเจอที่นั่งใต้ต้นไม้แบบนี้

ภายในสวนมีทั้งไม้พุ่ม ไม้ใหญ่ และไม้ดอกครับ

เดินเข้ามาในสุดจะเจอสนามบาสแบบแป้นเดียว

ทาง Jogging จะเรียบตามรั้วโครงการไปจนถึงทางเข้าสวนครับ มีพุ่มไม้ริมรั้วเป็นระยะๆ

มองกลับไปจัเห็นแบบนี้ครับ

ในสวนจะมีไฟส่งเป็นจุดๆ

เดี๋ยวพาเดินตามทาง Jogging ต่อครับ

เลยมาหน่อย จะเห็นไม้ใหญ่แตกกิ่งก้านสาขาดูร่มรื่นดี

เลยมาก็จะเจอส่วนนั่งเล่นที่รูปทรงเหมือนเพชร ตรงไปก็จะเป็นทางเข้าที่เราเดินเข้ามาครับ

กลับออกมาเริ่มตรงทางแยกใหม่

ตรงเข้ามาดูส่วนกลางชั้นล่างกันก่อน ด้านหน้ามีที่นั่ง ด้านที่เห็นเป็นเคาน์เตอร์คือส่วนของนิติบุคคลครับ ซ้ายมือเป็นห้องประชุม

เข้ามาถ่ายมุมด้านในให้ดู ขวามือคือนิติบุคคล ซ้ายมือคือห้องประชุม ตรงกลางมีทางเดินไปยังห้องเด็กเล่น และเชื่อมออกไปยังสวนหย่อมได้

ภายในห้องประชุม จัดโต๊ะและเก้าอี้มาให้ 12 ตัว มี TV 1 ตัว

มองออกไปด้านนอก ผนังเป็นกระจกครับ ใครจะชวนเพื่อนมานั่งทำงาน อ่านหนังสือก็ได้ครับ ติดต่อได้ที่นิติ

เดินเข้ามาตรงทางเดินไปยังห้องเด็กเล่น มีรถเข็นของให้ลูกบ้านหยิบใช้ได้ครับ

เลยเข้ามามีห้องเปล่าอยู่ยังไม่สรุปว่าจะเป็นอะไรครับอาจจะเป็นห้องอเนกประสงค์

เลยมาอีกขวามือมีอีกห้องครับ

เปิดเข้ามามีโต๊ะและเก้าอี้จัดไว้

เลยมาอีกจะเป็นทางเข้าห้องนั่งเล่น และห้องเด็กเล่น ถ้าเดินตรงออกไปจะทะลุออกเจอสวนหย่อมที่พาไปชมมาแล้ว

เดินเข้ามาในห้องจะเจอส่วนห้องนั่งเล่น วางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางไว้ให้พอสมควร

เดินตรงเข้ามาจะเจอทางเดินเข้าไปยังห้องเด็กเล่นครับ

ภายในห้องเด็กเล่น มีเครื่องเล่นมาให้ รอบๆมีโซฟาให้ผู้ใหญ่นั่งดูเด็กๆได้

กลับออกมาด้านนอก มองไปอีกฝั่งจะเจอประตู เพื่อขึ้นไปยังชั้นฟิตเนส และสระว่ายน้ำครับ

เดินออกมาจะเจอบันไดแบบนี้ครับ เดินขึ้นไปก็จะเจอห้องฟิตเนสก่อน แต่เดี๋ยวผมพาไปจากฝั่ง Lobby นะครับ

ออกมาตรงด้านหน้า Lobby อาคาร A ผนังตรงประตูเป็นกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย

เปิดเข้ามาก็จะเจอโถง Lobby ดูแกรนด์ดีครับ

เดินเข้ามาจะเจอส่วนเคาน์เตอร์ก่อน มี Chandelier มาให้

อีกฝั่งวางชุดโซฟาไว้

เดินเข้ามาอีกซ้ายมือจะเป็นทางเข้าโถงลิฟท์ต้องใช้ Key Card ขวามือเป็นบันไดเดินขึ้นไปยังชั้น 1A ซึ่งเป็นชั้น Facility ครับ ตรงกลางมีชุดโซฟาจัดเรียงมาอีกพอประมาณ

ทางเข้าโถงลิฟท์ต้องใช้ Key Card แตะก่อนเข้าครับ

เปิดเข้ามาก็จะเจอโถงลิฟท์ยาวๆแบบนี้ มีลิฟท์โดยสาร 6 ตัวครับ

หน้าตาด้านหน้าของตัวลิฟท์ดูสวยดีครับ

เดี๋ยวผมพาเดินขึ้นบันไดตรง Lobby ไปชั้น 1A มีป้ายติดไว้ขวามือเป็นชั้น จอดรถ, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ

เดินขึ้นมาเจอโถงบันได มีประตูกั้นอีกชั้น ต้องใช้ Key Card เช่นกันครับ

มองลงไปด้านล่างจะเห็นแบบนี้ครับ

เปิดประตูออกมาจะเจอโถงลิฟท์ก่อน ขวามือจะมีทางเดินไปยังที่จอดรถได้

มองไปอีกฝั่งจะเห็นผนังกระจกยาวไปจนถึงประตูทางออก มองลงไปเห็น Lobby

เดินมาจนสุดจะเจอประตูอีกชั้นครับ

เปิดออกมาจะเจอทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ ซ้าย-ขวามีราวกันตกเป็นกระจกมองไปชั้นล่างได้

เลยมาหน่อยจะมีส่วนให้นั่งพักผ่อน รับลมได้

มองลงมาด้านล่างตรงส่วน Drop Off ครับ

เดินเลยมาอีก จะเจอฟิตเนสก่อนครับ ตรงไปจะเป็นสระว่ายน้ำ ขวามือจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง

ด้านหน้าห้องฟิตเนสมีที่นั่งพักผ่อน

ภายในห้องฟิตเนส ผนังเป็นกระจกรอบด้าน

มีเครื่องออกกำลังกายกล้ามเนื้อขาอย่างละ 1 ชุด

ฝั่งนี้วางเครื่องออกกำลังกายกล้ามเนื้อแขน 1 ชุด

อีกฝั่งวางเครื่องปั่นจักรยานมา 3 ตัว

อีกฝั่งวางเครื่องออกกำลังกายกล้ามเนื้อแขนมา 3 แบบ ม้านอนยกดัมเบลและเตียงซิทอัพแบบปรับระดับได้ 1 ตัว

ดัมเบลวางไว้ริมสุด

ด้านในสุดเครื่องปั่นจักรยาน 2 ตัว

อีกฝั่งวางตู้ Locker มาให้เก็บของได้

มองกลับออกไปยังประตูทางเข้า

ออกมาหน้าฟิตเนส มีป้ายบอกห้องน้ำชายแต่ตอนนี้ทำความสะอาดอยู่ เดี๋ยวพาไปชมห้องน้ำหญิงแทนนะครับ

เลยมาหน่อยมีที่นั่งพักผ่อน

เดินเลยมาอีกครับ ขวามือเป็นประตูหนีไฟ

เลยออกมาอีกจะเจอโถงโล่งๆ ขวามือเป็นห้องน้ำหญิง ตรงหน้าเป็นสระว่ายน้ำ ซ้ายมือมีทางเดินขึ้นไปยังห้องฟิตเนสอีกห้อง

มองกลับไปตรงโถงมีโซฟายาววางเรียงกันอยู่

ไปดูในห้องน้ำหญิงกันก่อน

ภายในห้องน้ำเข้ามาเจออ่างล้างหน้าก่อนเลย 2 ชุด มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ ขวามือมีทางเดินเข้าไปยังห้องอาบน้ำ

ตรงข้ามอ่างล้างหน้าเป็นห้องน้ำ 3 ห้อง

ภายในห้องน้ำมีโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ

เดินเข้ามาตรงห้องอาบน้ำมีทั้งหมด 4 ห้อง

ภายในห้องอาบน้ำมีฝักบัว และ Rain Shower

ตรงข้ามห้องอาบน้ำ มีกระจกเงาและบาร์ไว้วางของแต่งตัว ขวามือมีตู้ Locker

กลับออกมาด้านนอก เดินตรงออกไปดูสระว่ายน้ำกันต่อครับ

เดินออกมาจะเจอสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 10 x 25 ม. ลึก 1.2 ม. มี Deck ริมสระ

ขวามือมีที่ล้างตัวมาให้ ห่วงยางชูชีพแขวนติดผนังไว้

มีชุดโต๊ะเก้าอี้วางริมสระ

มองออกไปอีกฝั่ง รอบๆจะมีราวกันตกเป็นกระจกใสไม่บดบังวิว

สระเด็กอยู่ซ้ายมือครับ มีส่วนที่กั้นแยกจากสระผู้ใหญ่ในน้ำ

มองออกไปอีกมุมจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินมาริมสระจะมีเตียงนอนริมสระวางมา 6 ตัว มีต้นไม้ให้ด้วย

เดินมาปลายสุด มองออกไปจะเห็นสวนหย่อมด้านล่าง

มองกลับไปที่ตัวอาคารจะเห็นแบบนี้ครับ ที่เห็นผนังกระจกคือห้องฟิตเนสชั้นบนเดี๋ยวพาไปชม

กลับมาตรงส่วนโถงก่อนเข้าไปสระว่ายน้ำ ซ้ายมือมีประตูขึ้นไปห้องฟิตเนส และลงไปชั้นล่างส่วนห้องนั่งเล่นและห้องเด็กเล่น

เดินเข้ามาเจอบันไดขึ้นและลง ขึ้นไปเจอห้องฟิตเนส ลงไปเจอส่วนห้องนั่งเล่นและห้องเด็กเล่นชั้นล่าง

เดินขึ้นมาจะเจอโถงบันไดก่อนเข้าห้องฟิตเนส

ตรงนี้จะมีห้องฟิตเนสห้องเดียวครับ เดินเข้าไปได้เลย

ภายในห้องเป็นกระจกรอบด้าน ชมวิวด้านนอก

มีลู่วิ่งมา 3 ตัว

Elliptical trainer 2 ตัว

มองกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง

วิวห้องฟิตเนสมองออกไปยังสระว่ายน้ำแบบนี้ครับ

ขึ้นมาชั้น 40 กันต่อ เดี๋ยวพาไปชมชั้นดาดฟ้า ลิฟท์จะขึ้นมาสุดแค่ชั้นนี้ครับ ตรงหน้าที่เป็นประตูปิดอยู่คือส่วนพักอาศัยต้องใช้ Key Card ครับ

มองไปอีกฝั่งก็มีประตูแยกส่วนพักอาศัยให้เช่นกัน ซ้ายมือจะเห็นบันไดเดินขึ้นดาดฟ้า

ริมบันไดมีผนังกระจกสูงจากพื้นไปถึงชั้นบน มองวิวได้

เดินขึ้นบันไดต่อครับ

ขึ้นมาเจอโถงก่อน มีประตูอีกชั้นก่อนออกด้านนอก

เดินออกประตูมาเจอแบบนี้

จากนั้นก็จะเป็นส่วนกลางแจ้ง เสียดายที่กั้น 2 ฝั่งเป็นแบบทึบบังระดับสายตาพอดี ถ้าเป็นกระจก หรือต่ำกว่านี้หน่อยจะได้เห็นวิวรอบๆ แต่ก็ช่วยคนที่กลัวความสูงได้บ้าง

เดินเลยมาอีกจะเจอบันไดขึ้นไปยัง Rooftop Lounge

เดินเลยมาขวามือเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง

หน้าห้องน้ำ

เลยมามีที่นั่งไว้ให้

เดินตรงมาสุดจะเจอชุดโซฟาวางล้อมไว้กลางแจ้ง

อีกฝั่งก็มีโต๊ะวางไว้เช่นกัน

มองกลับไปฝั่งทางเดินเข้ามา จะเห็นบันไดขึ้นไปยัง Rooftop Lounge

บัดไดระดับขั้นปกติอยู่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายเหมาะไว้สำหรับนั่งชมวิวมากกว่าครับ แต่ถ้าจะเดินก็ต้องก้าวยาวหน่อย

เดินขึ้นมาจะเจอลานโล่งๆแบบนี้ มีราวกันตกเป็นกระจกสองฝั่ง

มองกลับออกไปจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้เลย

มองไปทางซ้ายด้านล่างจะเห็นโซนโซฟาที่เดินผ่านเข้ามา

วิวทิศเหนือมองไปยังในเมืองกรุงเทพฯ บริเวณใกล้เคียงพื้นที่โครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย และหอพัก ไม่มีอาคารสูงในระยะประชิด ขวามือริมแม่น้ำที่เห็นก่อสร้างอยู่คือรัฐสภาแห่งใหม่ เกียกกายครับ

มองไปทางซ้ายจะเห็นแนวอาคารสูงๆอยู่ไกลๆนู่น….

วิวทิศตะวันออกเฉียงใต้ มองเห็นรถไฟฟ้าสถานีบางโพที่กำลังก่อสร้างอยู่ ติดกันที่เป็นตึกสูงกำลังก่อสร้างคือ 333 Riverside ขวามือตึกสีเทาขาวคือ The Tree บางโพครับ

วิวทิศใต้มองไปยังฝั่งนนทบุรี ขวามือคืออาคาร B ครับ

เข้ามาดูด้านใน Rooftop Lounge ผนังทั้งหมดเป็นกระจกครับทั้ง 4 ด้าน เข้ามาเจอเคาน์เตอร์บาร์พร้อมโต๊ะบาร์

ตรงเคาน์เตอร์อีกฝั่งมีตู้เก็บของใต้บาร์

มีอ่างล้างจานมาให้ 1 ชุด จัดปาร์ตี้เล็กๆในนี้ได้ครับ

มองออกไปด้านนอกจะเห็นวิวแบบนี้เลยครับ

วิวอีกฝั่งครับ

ถัดจากเคาน์เตอร์มีชุดโซฟาจัดเรียงไว้นั่งชมวิว จิบเบียร์เย็นๆ

ตรงมาสุดจะเจอประตูทางเข้าออกอีกฝั่ง

มองย้อนกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ

ต่อกันที่อาคาร B ที่อยู่โซนด้านหน้าทางเข้าเดินตามลูกศรสีม่วงนะครับ เข้ามาจะเจอป้อมยามก่อน ผ่านเข้ามาเจอ Drop Off จากนั้นก็ตรงผ่านร้านค้าไป ถนนฝั่งอาคาร B จะเป็น One Way ไปชมของจริงกันดีกว่าครับ

กลับลงมาหน้าโครงการ เดี๋ยวผมพาไปอาคาร B ต่อครับ จากป้ายโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าอาคาร B

เลี้ยวซ้ายมาเจอป้อมยามก่อนเลย แยกทางเข้า-ออก

ป้อมยามจะอยู่ตรงกลางมี รปภ. ตลอด 24 ชม.

ผ่านป้อมยามเข้ามาเจอ Drop Off ข้างหน้า บังคับรถเลี้ยวขวา

เลี้ยวมาซ้ายมือมีส่วน Drop Off ติดกับทางเข้า Lobby ขวามือคือร้านค้า

ส่วนของร้านค้าจะอยู่ด้านหลังป้ายโครงการ

ด้านหน้าร้านค้าฝั่งอาคาร B จะเดินมาได้สะดวกกว่า

ตรงเข้ามาอีกซ้ายมือมีแนวพุ่มไม้

ตรงเข้ามาอีกขวามือจะเจอศาลพระพรหม ซ้ายมือเป็นทางเข้าที่จอดรถในอาคาร

มองไปจะเห็นทางเข้า-ออกจากตัวอาหาร

เลยมาจะเจอร้านค้าอีกครับ ตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่บางส่วน

เลยมาอีกขวามือสามารถจอดรถได้สำหรับ Visitor หรือจอดชั่วคราว

มองไปยังด้านหน้าโครงการจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินต่อไปอีกครับ

ปลายสุดมีสวนหย่อมเล็กๆ มีที่นั่งเล่นให้ด้วย

ตรงมาสุดเลี้ยวซ้ายตามทางไปอีกครับ ขวามือจะเห็นแนวพุ่มไม้ปลูกเรียงกั้นไว้ระหว่างส่วนอาคาร A และ B

เงยหน้ามองไปเห็นอาคาร A

ขวามือจะเห็นทางเดินเข้าออกจากฝั่งอาคาร A

มองออกไปจะเห็นป้อมยามอาคาร A ครับ

กลับมาทางเดิมต่อ เลี้ยวซ้ายมาด้านหลังกันบ้าง พื้นส่วนนี้จะเป็นแบบบล็อกปูหญ้าครับ

ริมขวาสุดสามารถจอดรถได้ตลอดแนว ซ้ายมือเป็นด้านหลังของร้านค้า

เลยมาซ้ายมือจะมีสวนหย่อมเล็กๆ

สุดทางจะเห็นสวนหย่อมอีกจุด

เดินเข้ามาจะเป็นพื้นสนามหญ้า มีต้นหูกระจงปลูกไว้

ด้านในมีโต๊ะไว้นั่งเล่นได้

กลับออกมาข้างนอกต่อ ขวามือมีช่องจอดรถติดกับสวน

เลยมาอีกจะมีสวนเป็นจุดๆ

วนมาถึงด้านข้าง ตรงไปก็เป็นป้อมยามทางเข้า-ออก

วนมาถึงด้านหน้าแลัวครับ

มาตรงทางเข้า-ออกที่จอดรถในอาคาร

ทางเข้า-ออกที่จอดรถมีไม้กระดก และต้องใช้ Key Card

ขึ้นมาเลี้ยวซ้าย

เลี้ยวมาจะเจอทางลาดแบบนี้

ขึ้นมาก็เลี้ยวซ้าย เลนขวาเป็นทางลงครับ

เลี้ยวมาจะเจอแบบนี้ครับ

เลยมาซ้ายมือจะเป็นทางเข้าโถงลิฟท์

เลยมาก็จะเป็นที่จอดรถ จอดได้ตั้งแต่ชั้น P2 – P7

กลับลงมาที่ Drop Off ซ้ายมือเป็นห้องประชุม ขวามือเป็นทางเข้า Lobby ตรงกลางมีโถงโล่งๆ

ภายในห้องประชุมจัดโต๊ะและเก้าอี้มาให้เหมือนอาคาร A

ถัดมามีเคาน์เตอร์หน้าทางเข้า Lobby ขวามือคือประตูทางเข้าส่วน Lobby

เดินเข้ามาใน Lobby อาคาร B ขวามือจะเป็นผนังกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า

เลยเข้ามาอีกจะเป็นโซฟาวางไว้ตามจุดต่างๆของ Lobby

ติด Chandelier มาเหมือนอาคาร A

ขวามือมองออกไปจะเห็นร้านค้า

เดินเข้ามาด้านใน ทำเป็นโครงสแตนเลสโปร่งๆ ใส่ไฟเข้าไปดูสวยดี รอบๆเป็นที่นั่ง ซ้ายมือเป็นประตูเข้าสู่โถงลิฟท์ ต้องใช้ Key Card

ถัดเข้ามามีโต๊ะเคาน์เตอร์พร้อมเก้าอี้ ขวามือเป็นเคาน์เตอร์ส่วนของนิติ ห้องนิติจะอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์

มองไปทางขวามีโซฟาอีกชุด

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าโถงลิฟท์

เดินเข้ามาจะเจอโถงลิฟท์ ลิฟท์ฝั่งซ้าย 2 ตัว ขวา 3 ตัว

หน้าตาลิฟท์เหมือนอาคาร A

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 8 เป็นชั้น Facility

ก่อนออกด้านนอกจะมีประตู 2 บาน

เปิดออกมาเลี้ยวขวาเพื่อไปยังฟิตเนส

เลี้ยวมาจะเจอทางเดินไปยังห้องฟิตเนส

ด้านหน้าทางเข้าห้องฟิตเนส มี 2 ชั้น

เปิดเข้ามาจะเจอโถงก่อน ขวามือคือบันไดขึ้นไปอีกชั้น

มาดูชั้นล่างกันก่อนขึ้นบันไดไป 1 ขั้น

ขึ้นมาจะเจอเครื่องออกกำลังกายกล้ามแขน 2 เครื่อง

ถัดมาเรียงจากซ้ายมือเครื่งออกกำลังกายกล้ามขา 1 ตัว กล้ามเนื้อท้อง 1 ตัว และกล้ามเนื้อแขนไหล่พร้อมเบาะนอน 1 ตัว

ด้านในสุดมีดัมเบล และเตียงซิทอัพปรับระดับได้ 1 ตัว

เดินขึ้นมาชั้นบนต่อ

ชั้นบนผนังด้านหน้าก็เป้นกระจกเหมือนชั้นล่าง มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำ

มีเครื่องเดินวงรีแบบล้อหน้า 3 ตัว

ถัดมาเป็นจักรยานแบบเอนปั่น 3 ตัว

ด้านในสุดว่างลู่วิ่งมา 3 ตัว

มองออกไปด้านนอกจะเห็นวิวสระว่ายน้ำแบบนี้

กลับออกมาตรงประตูจากโถงลิฟท์ ไปดูส่วนกลางอีกฝั่ง

เดินออกมาจะเจอลานโล่งๆ มองไปทางซ้ายจะมีห้องอเนกประสงค์ ติดกันเป็นห้องน้ำ

เดินเข้ามาจะเจอห้องน้ำแยกชาย-หญิง

เดินเข้ามาดูห้องน้ำชาย

มีอ่างล้างหน้ามา 3 ชุดพร้อมกระจกเงาบานใหญ่

อีกฝั่งวางตู้ Locker มาให้

ถัดมาด้านในมีโถปัสสาวะ 4 ตัว

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 2 ห้อง

ภายในห้องน้ำ

ภายในห้องอาบน้ำ

ออกมาด้านนอกมองไปอีกฝั่งจะเห็นบันไดขึ้นไปยังสระว่ายน้ำ ส่วนขวามือที่เป็นสนามหญ้า เดินเข้าไปจะมีที่ล้างตัวอยู่

เดินเข้ามาจะเจอที่ล้างตัวแบบนี้

เดินขึ้นบันไดต่อ มองขึ้นไปจะเห็นซุ้มระแนง

ในซุ้มระแนงจะวางชุดโต๊ะและเก้าอี้ไว้ให้นั่งพักผ่อน

มองไปอีกฝั่งจะเห็นสระว่ายน้ำ มีเตียงนอนสองฝั่ง พร้อมต้นไม้

เตียงนอนฝั่งนี้มีที่บังแดดมาให้ด้วย

เดินเลยมาจะเจอสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 15 x 20 ม. ลึก 1.25 ม.

มองไปทางขวาจะเห็นห้องฟิตเนส

วิวมองจากสระว่ายน้ำจะเห็นเป็นบ้านพักอาศัย มองไปทิศใต้ ขวามือจะเห็นส่วนฝั่งอาคาร A

มองออกไปทางถนนประชาราษฎร์สาย 2 ที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่คือ The State สูง 36 ชั้น

มองกลับไปทางที่เดินเข้ามา

จากนั้นขึ้นมาที่ชั้น 39 ต่อครับ จะพาไปชั้นดาดฟ้า

ออกจากลิฟท์มาจะเจอบันไดขึ้นไปดาดฟ้า ส่วนซ้ายและขวาจะเป็นส่วนพักอาศัย

บริเวณส่วนพักอาศัยจะมีประตูปิดไว้ต้องใช้ Key Card

เดินขึ้นบันไดมาจะเจอโถงก่อน มีประตูบานเลื่อนซ้ายมือ

เดินออกมาจะเจอลานกลางแจ้ง วางชุดโซฟามาให้นั่ง ขวามือมีบันไดขึ้นไปยัง Rooftop Lounge

ลานกลางแจ้งวางโซฟามาไว้ให้นั่งพักผ่อน หรือจัดปาร์ตี้

มองไปยัง Lounge

เดินขึ้นบันไดต่อครับ

ขึ้นมาจะเจอโถงบันไดก่อน ขวามือมีระเบียงนั่งชมวิว

ตรงระเบียงมีราวกันตกเป็นกระจกมองวิวด้านนอกได้ และวางโซฟาไว้นั่งชมวิว

วิวทิศใต้ของอาคาร B มองไปทางบางซื่อ

มองลงไปด้านล่าง จะเห็นว่าเป็นวิวเดียวกับชั้นสระว่ายน้ำเลย

ออกมาตรงโถงบันไดมองไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาจะเห็นแบบนี้ครับ

กลับเข้ามาด้านไปดู Louneg กันต่อ

เปิดประตูเข้ามาเจอเคาน์เตอร์พร้อมเก้าอี้บาร์

ภายในผนังเป็นกระจกทั้ง 4 ทิศ ชมวิวได้รอบด้านเลย

ถัดเข้ามาเจอที่นั่งแบบเบาะนวมหนัง

ฝั่งนี้ตกแต่งไฟมาให้ด้วย

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ บรรยากาศตอนกลางคืนคงจะสวย เหมาะกับการจัดปาร์ตี้มากๆ

วิวฝั่งทิศตะวันออกมองไปทางวงศ์สว่าง ตอนนี้ยังไม่มีตึกสูงเลย

มองไปทางรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน

มองไปฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะเห็นส่วนโค้งแม่น้ำบ้าง

ห้องตัวอย่าง